 |
จริงๆ ใช้ยา Primolute n ก็น่าจะได้นะคะ เวลาทานก็ทานก่อนช่วงที่ประจำเดือนจะมาซัก 3-4 วัน แล้วก็หยุดทานก่อนกลับจากเที่ยวซัก 2 วัน ก็น่าจะพอดีๆ
++++++++++
ยา PRIMOLUT N เป็นชื่อการค้าของยาฮอร์โมน Norethisterone ซึ่งมีข้อบ่งใช้หลายประการ เช่น ใช้รักษาอาการผิดปกติที่เกิดก่อนมีประจำเดือน , อาการเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก , เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ , ภาวะขาดประจำเดือน , การกำหนดเวลามีประจำเดือน เป็นต้น ในแต่ละข้อบ่งใช้จะมีวิธีให้ยาและจำนวนวันที่ให้ยาแตกต่างกันบ้างค่ะ
สำหรับกรณีใช้เลื่อนประจำเดือน หากต้องการเลื่อนให้มาเร็วขึ้นนิยมใช้ฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนและเอสโตรเจนร่วมกัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น เนื่องจากมีการยับยั้งการตกไข่ แต่ถ้าต้องการเลื่อนให้มาช้ากว่าปกติ ซึ่งมักเป็นรายที่แน่ใจว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น เช่น จะเดินทางไกล หรือ มีธุระจำเป็น ที่ต้องเลื่อนช่วงเวลามีประจำเดือนออกไป การใช้ Primolut N จะให้รับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง โดยเริ่มรับประทานอย่างน้อย 3 วัน ก่อนกำหนดวันมีประจำเดือน ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกิน 10 - 14 วัน หลังจากหยุดยาแล้ว 2 - 3 วัน จะมีเลือดคล้ายประจำเดือนไหลออกมาค่ะ
หากผู้ใช้ยามีประจำเดือนมาในแต่ละรอบค่อนข้างตรง การให้ยาก่อนกำหนดวันมีประจำเดือนอย่างน้อย 3 วัน จะได้ผลค่อนข้างดี แต่หากประจำเดือนไม่ค่อยตรงรอบ อาจจะได้ผลไม่ดีนัก http://bangkokhealth.com/consult_htdoc/Question.asp?GID=1492
ยา Primolut N ประกอบด้วย norethisterone 5 มิลลิกรัม มีข้อบ่งใช้ในการรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกได้ในกรณีที่ตรวจภายในไม่พบความผิดปกติ ในการรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก ให้รับประทานยานี้ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ต่อเนื่องประมาณ 10 วัน ถึงแม้เลือดจะหยุดไหลก่อนก็ควรให้ยาต่อจนถึง 10 วัน หลังหยุดยาประมาณ 2-4 วันอาจเกิดอาการเลือดออกคล้ายการมีประจำเดือนตามปกติได้ ทั้งนี้หากได้รับยาอย่างสม่ำเสมอแล้วเลือดยังไม่หยุดไหล ให้พิจารณาถึงสาเหตุภายในอื่นๆ ด้วย เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำให้รับประทานยานี้ป้องกันเป็นเวลา 20 วันต่อเดือน นาน 3 เดือน ในกรณีผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หากให้การรักษาด้วยฮอร์โมนเป็นระยะ 3-4 เดือนแล้วกลับมีอาการเลือดออกอีก แพทย์อาจพิจารณาตัดมดลูก ยานี้ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคตับอย่างรุนแรง มีประวัติว่าเป็นหรือกำลังเป็นเนื้องอกที่ตับ มีประวัติเป็นดีซ่าน หรือมีอาการคันอย่างรุนแรงในช่วงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีลิ่มเลือดอุดตัน ข้อควรระวัง - กรณีผู้ป่วยโรคเบาหวานควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน เนื่องจากยานี้อาจทำให้อาการของโรคแย่ลงได้ จาก - ยานี้อาจทำให้ความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรระวังการใช้ในผู้ที่มีประวัติลิ่มเลือดอุดตัน - ยานี้อาจทำให้เกิดเนื้องอกที่ตับ การมีเลือดออกในช่องท้องได้ (พบได้น้อยรายมากๆ) ดังนั้นหากใช้ยาแล้วเกิดอาการปวดท้องส่วนบนอย่างรุนแรง ตับโต หรือมีอาการแสดงของการมีเลือดออกในช่องท้องควรหยุดใช้ยานี้ - หากใช้แล้วเกิดอาการปวดศีรษะไมเกรน หรือมีอาการปวดรุนแรงขึ้น บ่อยขึ้นในผู้ที่เป็นไมเกรนอยู่แล้ว มีการมองเห็น/การได้ยินผิดปกติ มีอาการแสดงของภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เช่น ขาบวมและปวดผิดปกติ รู้สึกปวดหรือแน่นบริเวณหน้าอกโดยไม่ทรายสาเหตุ เกิดอาการดีซ่าน ตับอักเสบ คันทั่วตัว ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นผิดปกติต้องหยุดใช้ยานี้ อาการข้างเคียงจากการใช้ยานี้ คือ อาเจียน แต่พบได้ไม่บ่อยนัก ก่อนเริ่มให้ยานี้ควรตรวจร่างกายโดยละเอียดก่อน โดยในหญิง 40 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจภายในด้วยและการใช้ยานี้ในระยะยาวผู้ป่วยควรตรวจร่างกายเป็นประจำทุก 6 เดือน และหากเกิดอาการผิดปกติตามที่กล่าวมาข้างต้นควรรีบแจ้งแพทย์ทันทีค่ะ เอกสารอ้างอิง 1. Primolut-N. Available at: http://www.schering.com.tr/english/files/PrimolutN-yb.doc. Accessed March 31, 2005. 2.สุขิต เผ่าสวัสดิ์, ศุภวัฒน์ ชุติวงศ์, ดำรง เหรียญประยูร, สุทัศน์ กลกิจโกวินท์. นรีเวชวิทยา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2538.
จากคุณ |
:
กอดลม ห่มดาว
|
เขียนเมื่อ |
:
วันปีใหม่ 55 10:50:34
|
|
|
|
 |