Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ความจริงที่น่าเจ็บปวดของระบบสาธารณสุขไทย : มุมมืดที่คนนอกต้องทราบ [ย้ายจาก : ] ติดต่อทีมงาน

ขออภัยถ้ากระทู้ซ้ำนะคะ เห็นว่าน่ารู้ค่ะ เลยนำมาฝากให้อ่านค่ะ
credit  http://healthtoday.net/thailand/viewpoint/viewpoint_93.html


ทุกข์ของแพทย์ ..... ทุกข์ของผู้ป่วย เมื่อแพทย์จำใจปฏิเสธการรักษา
Article :  นพ. เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ (พ.บ., ประสาทศัลยศาสตร์, น.บ.)์

    “ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องกรณีศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกแพทย์
แพทย์บริสุทธิ์ ศาลกลับคำตัดสิน ให้ปล่อยตัวแพทย์”

     ผมพยายามมองหาพาดหัวข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หรือหัวข้อรายการของสื่อโทรทัศน์ ในลักษณะข้างบนมาตลอดหนึ่งเดือน แต่ไม่เคยได้ยิน ได้อ่าน ข้อความในทำนองดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งตรงกันข้ามกับเหตุการณ์เมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมาที่มีการเล่นข่าวว่า “ศาลตัดสิน แพทย์ชุ่ย ให้จำคุก ไม่รอลงอาญา” อะไรคือมาตรฐานของสื่อสารมวลชนไทยที่ควรจะมี ดังเช่นมาตรฐานของสำนักข่าว BBC ได้ให้มาตรฐานการรายงานข่าวไว้ว่า “Truth and Accuracy”


    เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว มีพาดหัวข่าวศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกแพทย์ท่านหนึ่งให้มีความผิดฐานกระทำการโดยประมาท จากการบล็อกหลังเพื่อการผ่าตัดไส้ติ่งแล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ข่าวนี้เป็น Hot topic สำหรับวงการแพทย์ถึงขนาดมีการวิวาทะระบายอารมณ์ถึงเหตุผลของคำตัดสิน โดยศาลชั้นต้นให้เหตุผลว่าแพทย์มีความผิดฐานประมาทเพราะทำการบล็อกหลังโดยให้ยาชาเกินขนาด และแพทย์ท่านนั้นมิใช่วิสัญญีแพทย์จึงไม่ควรทำหัตถการดังกล่าว แต่ควรทำการส่งต่อผู้ป่วยไปรับการผ่าตัดที่อื่น ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้หนึ่งปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลชุมชนในต่างจังหวัดเกือบทั้งหมดหยุดการผ่าตัดให้กับผู้ป่วย และทำการส่งต่อผู้ป่วยที่จำเป็นต้องผ่าตัดไปยังโรงพยาบาลอื่นที่มีแพทย์เฉพาะทางซึ่งหาได้ยากมากในต่างจังหวัด ทั้งๆ ที่หัตถการหลายอย่างนั้น แพทย์ทุกคนที่จบจากโรงเรียนแพทย์ตามมาตรฐานของแพทยสภาถือว่ามีคุณสมบัติที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดคลอดเด็ก ผ่าตัดไส้ติ่ง รวมทั้งการดมยาสลบหรือการบล็อกหลัง ไม่มีตำราแพทย์เล่มใดที่บอกห้ามการทำหัตถการดังกล่าวสำหรับแพทย์ทั่วไป กระนั้นครูแพทย์ก็ยังพร่ำสอนลูกศิษย์ให้รักษาผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถตามที่ร่ำเรียนมาต่อไป อีกทั้งยังยืนยันว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้การให้ยาดังกล่าวมิได้เกินขนาด

     แต่แพทย์ที่อยู่ในต่างจังหวัดไม่มีใครอยากเสี่ยงต่อการต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้นดังกล่าว หากเกิดกรณีฟ้องร้องขึ้นอีก ด้วยตระหนักว่าคนที่จะมาตัดสินพวกเขา ว่าผิดหรือถูกนั้นมิใช่แพทยสภา ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจในวิชาการแพทย์อย่างแท้จริง แต่เป็นศาลที่มีอำนาจตัดสินผิดถูกเรื่องการรักษาพยาบาลและสามารถลงโทษทางอาญาได้ หากไม่เห็นด้วยกับการรักษาพยาบาล

     จากกรณีข้างต้นเวลาผ่านไปหนึ่งปี ในที่สุดคำตัดสินที่วงการแพทย์รอคอยมาอย่างยาวนานคือ คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ที่กลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยให้เหตุผลว่าเหตุการณ์ที่ผู้ป่วยเสียชีวิตนั้นมิได้เกิดจากการให้ยาเกินขนาด (โดยศาลเชื่อถือคำให้การของประธานราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์ประกอบกับตำราการแพทย์ มากกว่าคำให้การพยานโจทก์ที่เป็นแพทย์เสริมสวย อีกทั้งในคำพิพากษายังกล่าวด้วยว่าความตายของผู้ป่วยเป็นเหตุสุดวิสัย ที่มิอาจคาดหมายล่วงหน้าได้ จึงมิใช่ความผิดของแพทย์ผู้ให้การรักษา ซึ่งได้ให้การรักษาที่เหมาะสมภายใต้มาตรฐานทางการแพทย์ ประกอบกับภาวะวิสัยและภาวะแวดล้อมแล้ว แต่ผลของคำตัดสินโดยศาลชั้นต้นก็เปรียบเสมือนคลื่นลูกใหญ่ที่แม้จะพัดเข้าหาฝั่งและสลายตัวไปแล้ว ก็ยังคงทิ้งร่องรอยและยังก่อความเสียหายและความเปลี่ยนแปลงต่อระบบสาธารณสุขของไทยในอนาคตตามมา

จากคุณ : kiki_kaka
เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:51:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com