 |
อาชีพนี้ทำแล้วรวย คงไม่ใช่ค่ะ เรากล้าพูดได้เต็มปากว่ามีอีกหลายอาชีพมาก "รวย" กว่านี้ โดยไม่ต้องลงแรงและแบกรับความเสี่ยงมากเท่าแพทย์ เอาง่าย สมัยเรียนเราเคยสอนกวดวิชา ได้ ชม.ละ 400-500 รายได้ต่อชั่วโมงมากกว่าตอนเป็นแพทย์ใช้ทุน 8-10 เท่า ถ้าขยันสอนก็รวยได้ค่ะ (แต่ต้องสอนรู้เรื่องและต้องมีวิธีสอนให้เด็กติดนะคะ แล้วก็ต้องตั้งใจด้วย ไม่ใช่สัแต่สอน) สอนภาษาญี่ปุ่นตัวต่อตัว ได้ชั่วโมงละ 550-750 สอนเปียโนตามบ้าน ได้ ชม. ละ 750-1,000 นี่แค่งานสอน ไม่นับพวกลงทุน เล่นหุ้นเก็งกำไร value investor ทั้งหลาย
ก่อนเข้ามา เราก็มีสตอรี่ค่ะ แม่เราป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย เราก็อยากช่วยแม่ ช่วยคนอื่น ช่วยคนไข้ที่สิ้นหวังหมดทางรักษา (ออกแนว palliative) เราอยากเป็นที่พึ่งให้เขา คิดฝันไปสารพัด
สารภาพตามตรงนะคะ เราสอบเข้าได้เพราะคะแนนภาษาอังกฤษ, สังคม, ภาษาไทย (ชีวะกับเคมีด้วย) เราคิดว่าเราชอบวิทย์ เราชอบอะไรที่เป็นเหตุเป็นผล แต่จริงๆเรารู้ตัวมาตลอดว่าเราชอบเรียนภาษาที่สุด เราเรียนภาษาสเปนตอน ม.1, ภาษาอิตาเลียนตอน ม.3, ภาษาญี่ปุ่นตอน ม.4 ขึ้น ม.5 แต่ตอนนั้นเราปฏิเสธที่จะเรียนสายภาษาหรือสอบเข้าคณะทางภาษา เพนราะเราคิดแบบเด็กๆว่า ภาษาน่ะ มาเรียนเอง ฝึกอ่าน ฟังสำเนียงเองได้ แต่ฝึกเป็นหมอมันทำไม่ได้
เราอยากช่วยคน อยากเห็นสีหน้ายิ้มแย้มเวลาเขาหายจากโรค หรือสีหน้าผ่อนคลายเวลาเราอธิบายเรื่องที่เขากังวลใจให้ฟัง เวลาเห็นเขาสุขภาพดีขึ้นๆ ครอบครัวมความสุข เรื่องเงินไม่ได้อยู่ในความคิดด้วยซ้ำ เราไม่เคยหาข้อมูลเลยว่าแพทย์รัฐ แพทย์เอกชนได้เงินเดือนเท่าไหร่
แต่พอเรียนจบ พบความเป็นจริง มันไม่ได้สวยงามเหมือนที่เราเคยฝันหรอกค่ะ
เราตรวจคนไข้ล้นมือ เฉลี่ยคนละ 2 นาที ไม่มีเวลาอธิบาย คนไข้ก็เซ้งมารอหมอตั้งนานหมอตรวจแป๊บเดียว เราก็เซ็งตรวจได้ไม่ละเอียด ไม่เต็มที่ แต่ตรวจช้าก็โดนเจ้าหน้าที่เร่ง (แกมด่า) คนไข้ (โดยเฉพาะบัตรทอง) ส่วนใหญ่ ไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง ตัวอย่างเช่น
- คนไข้ชาย 35 ปี กินเหล้าจนอ้วกเป็นเลือด ต้องใส่สายจมูกก็แล้ว จนตับแข็งท้องโตต้องเจาะท้องก็แล้ว ก็ยังไม่เลิกกินเหล้า เคยนัดนิตเวชให้ไปบำบัดก็ไม่ไป ก็มาเจาะท้อง นอน ร.พ.บ่อยๆ
- คนไข้ชาย 56 ปี มาด้วยเมาแล้วโดนใครไม่รู้ตีหัว ขากลับขอเงินหมอ 500 สิไปซื้อเหล้าเพิ่ม
- คนไข้ชาย 42 ปี มาด้วยอ่อนเพลีย ไม่มีแรง อุจจาระดำเป็นเมเลนา ไม่กินข้าวมาเกือบ 1 สัปดาห์ ถามว่าทำไมไม่กินข้าว เพราะมัวแต่เอาเงินไปซื้อเหล้า ไม่มีเงินเหลือกินข้าว - คนไข้หญิง 65 ปี มาด้วยเจ็บหน้าอกบ่อยๆ ตรวจร่างกายทุกอย่างปกติ ขอนอนโรง'บาล 3 วันนะหมอ ป้าจะได้เงินประกัน 3,000 บาท - ลูกหลานไม่อยากเลี้ยงดูพ่อแม่ บอกว่าไม่มีใครเฝ้า อยากให้นอนโรง'บาล จะได้อุ่นใจ ทั้งที่ไม่เป็นอะไรเลย (และลูกหลานพวกนี้ก็มักไม่เคยโผล่หัวมาเยี่ยมบุพการีตน) - วัยรุ่น ญ อายุ 12 ปี ท้อง 3 เดือน หมอไม่ทำแท้งให้ ตะโกนใส่หมอว่า "ถ้าหนูโดนไล่ออกจากบ้านเป็นความผิดหมอ!" อ้าว ซะงั้น แล้วที่หนูโดดเรียนไปทำอะไรๆกันจนท้องล่ะคะ? - วัยรุ่น ช 17 ปี ไม่เรียนหนังสือ ซิ่งมอ'ไซค์แว้น ไม่สลบ มีแผลถลอก พ่อแม่กังวลว่าลูกจะมีเลือดออกในสมอง เราไม่ส่ง CT เพราะตรวจทุกอย่างปกติ แต่ก็แนะนำ ก่อนกลับพ่อแม่ก็พูดกับเราด้วยประโยคเด็ด ถ้าลูกผมเป็นไรไป ผมฟ้องหมอได้ใช่ไหมครับ? ขอจดชื่อหมอไว้เอนนะครับ" ---"ค่ะ เชิญจดตามสบายค่ะ"
ฯลฯ
เวลาเราไปทำงานจริง เราไม่ได้เป็นที่พึ่ง เป็นผู้มีพระคุณ (ไม่ต้องถึงขนาดนั้น) อะไรขนาดนั้นค่ะ เราก็เหมือนพนักงานเซเว่น คนไข้มาได้ตลอดเวลา มาแล้วก็ต้องยิ้มแย้มแจ่มใสตอนรับ แม้จะอดหลับอดนอนมาแค่ไหน (ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบางรายมาด้วยเรื่องไม่สมเหตุสมผลสุดๆ เช่น มาขอยาความดันตอนตี2 เพราะดูบอลจบพอดี ขี้เกียจมาต่อคิวเช้า) เราเป็นแค่ "ผู้ให้บริการ" ที่เขาไม่พอใจ ก็ฟ้องเราได้ทุกเมื่อ แต่อย่างว่านะคะ บ่นไปก็เท่านั้นค่ะ ยังไงคุณ จยกท. ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าเรามีลูก เราไม่ให้ลูกเรียนหมอแน่นอนค่ะ ส่วนถ้าคนที่เราเกลียดมีลูก ป้าหใงมอคนนี้จะไปยุให้น้องหนูคนนั้นทุกวันให้เลือกเรียนหมอค่ะ ฮาๆๆ
จากคุณ |
:
เด็กหญิงแมวสามสี_BabyCalicoCat
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ม.ค. 55 16:21:26
|
|
|
|
 |