ความคิดเห็นที่ 1 อ่านแล้วเครียดค่ะ ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ จากคุณ : ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 05:25:44

ความคิดเห็นที่ 2 อุบัติเหตุรถยนต์ต้องใช้พรบ.รถยนต์ครับ ใช้บัตรทองไม่ได้ คุณจ่ายไปก่อนแล้วเบิกคืนทีหลังได้ครับ ต่อให้ไปแพทย์ปัญญาคุณก็ต้องจ่ายเองเหมือนกัน จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 05:41:43

ความคิดเห็นที่ 3 ดีใจที่เกิดเป็นคนไทยขอบคุณค่ะ paramedian เท่าที่เราทราบนะคะ ถ้ามีบัตรสามสิบบาท ในกรณีที่เป็นอุบัติเหตุสามารถรับการรักษาที่ไหนก็ได้นี่คะ ส่วนแพทย์ปัญญา เราสามารถใช้สิทธ์สามสิบบาทในการรักษาได้ไม่ใช่หรือคะ ถ้าดิฉันเข้าใจผิดต้องขออภัยค่ะ. ตอนนี้ดิฉันตัดใจกับสามสิบบาทไปแล้วค่ะ เหตุการณ์ที่เกิด ร้ายแรงกว่าที่พิมพ์หลายเท่านัก แม้แต่ตอนนี้ ก็ยังไม่สามารถจะนอนลงได้ พี่สาวม้ามแตก ซี่โครงหักหลายซี่ ขาหัก สมองบวม สะโพกแตก ลูกชายพี่สาวโคม่า (อายุน้อยกว่าขวบ) อีกคนสามขวบเลือดไหลที่จมูกตลอดทั้งวัน ผู้เสียชีวิตอีกสองคน มันเกินที่เราจะรับไหวแล้ว     รู้สึกแย่ที่ทำอะไรไม่ได้เลย. รู้สึกแย่ที่โรงพยาบาลบริการแย่ (กรณีพี่สาวยังย้ายไม่ได้) ชีวิตคนเราช่างสั้นนักจริงๆ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 05:57:03

ความคิดเห็นที่ 4 สู้ๆนะคะ ขอให้มีปาฎิหาริย์นะคะ ขอให้ปลอดภัยทุกคนค่ะ จากคุณ : กิ่ง&อ๊อด เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 06:30:27

ความคิดเห็นที่ 5 เอาใจช่วยนะคะ เข้าใจความรู้สึก เพราะฟังดูอุบัติเหตุร้ายแรงมาก เรื่องสิทธิการรักษา เป็นอย่างที่คุณ paramedian บอกค่ะ คืออุบัติเหตุต้องใช้พรบ.ก่อนค่ะ แต่ถ้าไม่มีญาติคอยเดินเรื่องประสานงานตรงนั้น คงยุ่งยากมากเพราะต้องใช้เอกสารเยอะ จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 07:04:56

ความคิดเห็นที่ 6 ช่วยๆกัน ประท้วง ล้มบัตรทองเลยครับ กลับมาใช้ระบบเดิม จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 07:20:26

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านแล้วไม่เกี่ยวกับ บัตร 30 บาทเลย ปัญหาคุณอยู่ที่ 1. รพ.ที่เลือกเฮงซวยมาก   กรณีนี้ คนไข้หนักต้องประสานให้จนได้เตียง ไม่งั้นคุณนั่งรถไปกระทรวง บุกไปหน้าห้อง รมต.เลย รับรองไม่เกิน 24ชม. ได้รพ.แน่ 2. รพ. ตจว. จนท.ปากเสีย ไม่มีจิตวิทยา  เป็นแค่บางคนครับ ผมเห็น รพ.รัฐเดี๋ยวนี้ ดีขึ้นตามลำดับนะ 3.เรื่อง พรบ.  คุณไม่ตามเรื่องเพื่อใช้สิทธิ์ ก็ต้องเสียเงินเองครับ ผมเข้าใจว่ามันยาก และลำบาก แต่มันเป็นงานเอกสาร เราต้องทำตามครับ แต่ยังไง ก็ดีใจที่คุณแม่ปลอดภัย และอวยพรให้พี่สาว และคุณแม่หายไวๆ ครับ จากคุณ : SuperCrazyBoy เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 07:55:01

ความคิดเห็นที่ 8 เคสอุบัติเหตุ ใช้บัตรทองไม่ได้ครับ ต้องเบิกจาก พรบ.รถเท่านั้นครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 08:11:27

ความคิดเห็นที่ 9 กรณีอุบัติเหตุต้องใช้พรบ.ก่อนครับส่วนเกินจึงจะใช้สิทธิบัตรทองได้ หากไม่เริ่มจากใช้สิทธิพรบ.ก่อนจะติดระเบียบทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิได้ เรื่องตามเรื่องพรบ.ต่อให้ตายหมดทั้งคันก็ยังตามได้ครับ มันมีช่องทางอยู่ โดยปกติจะไม่มีการแจ้งอาการผ่านทางโทรศัพท์ครับเนื่องจากติดเรื่องความลับคนไข้ ยกเว้นในบางกรณีจริงๆ แต่ก็จะต้องเป็นเบอร์ที่ได้จากญาติที่เคยเห็นตัวตนจริงๆมาก่อนครับ เรื่องเตียงเต็มนั้นปกติรพ.ต้นสิทธิมีหน้าที่หาเตียงให้ครับ(จนกว่าจะได้)หากเขาไม่หาเตียงให้ต้องให้เขารับรองการออกค่าใช้จ่ายให้ครับ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 08:13:22

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าพอเหลือเวลา ลองแจ้ง feedback ไปที่รพ.นะคะ เรื่องจนท.พูดกันเองอย่างไม่ระมัดระวัง ทำให้เสียงลอดเข้าไปในโทรศัพท์ จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 08:15:48

ความคิดเห็นที่ 11 จขกท ไม่เข้าใจระบบ อีกทั้งยังอยู่ต่างประเทศ ทำให้ช่วยเหลือประสานงานได้ไม่เต็มที่ จึงมีอาการเครียด ทุกสิทธิ์ ทุกการเจ็บป่วย มันมีระบบระเบียบของมันอยู่ ต้องอาศัยการติดต่อประสานงาน ยื่นเอกสาร แน่นอนจะให้มันสะดวกสบายเหมือนเอกชนคงไม่ได้ 30 บาทไม่ได้มีไว้สำหรับคนจน หลายครั้งก้อเห็นคนรวยมีเงินมาใช้สิทธิ์ตามระบบถูกต้อง และโดยปกติโรงพยาบาลจะรักษาทุกคนเท่าเทียมกัน ตามแต่ศักยภาพของแต่ละโรงพยาบาลจะอำนวย แต่ยังไงก้แดีใจด้วยที่คุณแม่ปลอดภัย จากคุณ : hinghoi เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 08:30:51

ความคิดเห็นที่ 12 ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเปิดมาอ่านเจอก็เอาไปพิจารณาด้วยนะครับ รพ.จำนวนบุคลากรต่อคนไข้ สถานที่ต่อคนไข้ ยังไม่พอ หรือพอแต่บริหารจัดการระบบไม่เป็น จึงทำให้คนไข้ล้น รพ ทุกวันนี้ ปล.เข้ามาบ่นเฉยๆ จากคุณ : ผ่านมา (pasad) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 09:17:59

ความคิดเห็นที่ 13 น้องชายผมประสพอุบัติเหตุ นอนโรงพยาบาลอยู่หลายที่ จนกระทั่งเสียชีวิต ก็ได้บัตรทองนี่แหละช่วย เพียงแต่ต้องมีคนมาคอยวิ่งประสานงาน เพราะเอกสารมันต้องเดินและมากพอควร ... เห็นใจนะครับที่ไม่ได้อยู่เมืองไทย ค่าใช้จ่ายที่ออกไป สามารถเรียกคืนได้บางส่วนกับ พรบ.รถยนต์ ผมเคยทำมาแล้ว บริษัทประกันดีๆ ทำแป๊บเดียว 3 เดือนก็ได้เงินคืนครับ ส่วนบริการของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เห็นว่าควรเสนอแนะให้ผู้บริหารเขาไปปรับปรุงด้วย เพราะ ตจว.อีกหลายแห่ง ก็ปฎิบัติงานกันไม่สวยงามเท่าไหรนัก จากคุณ : จิรศักดิ์ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 09:22:32 A:202.32.86.31 X: TicketID:124785

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องบัตรทอง บัตร 30 บาท ไม่เกี่ยวกับบริการเลยนะครับ เป็นทางเลือกช่วยฯ   ส่วนการบริการของ รพ.นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง  ถามว่ามีบัตรดีกว่าไม่มีแน่นอน หากเป็นแต่ก่อน ต้องไปเข้าคิวรพ. ไม่ก็ขอทำเรื่อง คนไข้อนาถา มันยุ่งกว่านี้มากมาย ต้องแบ่งแยกเรื่องนะครับ จากคุณ : TheRed2008 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 09:26:10

ความคิดเห็นที่ 15 ติดต่อเบอร์ hotline ของ สปสช เลยครับ ให้เขาประสานหาเตียงให้ได้  เบอร์ 1330 ครับ จากคุณ : Mr.Peach เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 09:34:16

ความคิดเห็นที่ 16 เคยบอกไว้ในนี้หลายครั้งแล้วครับว่า  สมัยรัฐบาลนั้น(ไม่บอกนะ เดี๋ยวเข้าการเมือง) มีโครงการจะรวมศูนย์การจ่ายเงินในระบบทั้งหมดเข้ามาที่เดียว คือ ใครก็ตามที่เข้า โรงพยาบาล ทางระบบจะจัดการให้เองคือจ่ายตามสิทธิที่คนไข้มี ตามลำดับขั้น เช่น จ่ายตาม พรบ.รถยนต์ เต็มแล้ว จ่ายต่อตามบัตรทอง  หรือมีประกันอุบัติเหตุ ก็จะเก็บกับประกันอุบัติเหตุก่อนเต็มแล้วค่อยเก็บตามสิทธิอื่นๆต่อไป  ข้าราชการ ก็จ่ายให้ตามที่กรมบัญชีกลางให้ไว้  รวมทั้งประกันสังคมด้วยครับ ฯลฯ   แต่ก็มีกลุ่มคนที่ประท้วง หาว่าจะเอาเงินของประกันสังคมเข้าไปช่วยบัตรทอง (ใครที่ประท้วงก็ไปดูกันเอง) จนระบบนี้ล้มไป ครับ  ถ้าระบบนี้ตั้งขึ้นได้ คนไข้ จะเข้าโรงพยาบาลไหนก็ได้  ระบบนี้จะไปเคลียร์หนี้ให้เองโดยไม่ต้องจ่ายเลยครับ จากคุณ : กินลม ชมทะเล เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 10:21:28

ความคิดเห็นที่ 17 เอาใจช่วย จขกท. นะคะ ปล.เราจะไม่มีทางได้รู้เลยว่า ระบบหรือบุคลากรแย่แค่ไหน จนกว่าเราจะได้ประสบพบเจอด้วยตัวเอง... จากคุณ : 6876 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 10:27:01 A:103.1.165.11 X: TicketID:333795

ความคิดเห็นที่ 18 อุบัติเหตุต้องใช้ พรบ. ก่อนเสมอ มันเป็นกฏหมาย กฏหมายจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้(ถ้าเห็นว่ากฏหมายไม่เหมาะสม เรียกร้องให้แก้กฏหมายได้) อีกประการ รพ. รัฐ ไม่ใช่ไม่ดูแล แต่เค้ามีคนไข้เยอะ จะให้มาดูคนปัสสาวะหรืออุจจาระทุกคนทำไม่ได้ บุคลากรไม่พอ โดยทั่วไปก็จะให้ใส่ pamperse คุณจะว่าปัสสาวะ อุจจาระ รดตัวเองก็ไม่ผิด มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่มีแต่ญาติคุณ ประชาชนนับแสนก็ตกอยู่ในสภาพนี้ ประชาชนหลายคนคิดว่าหลายเรื่องทำได้เหมือนใช้เวทมนต์ จริงๆไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทุกอย่างมีต้นทุน บุคลากรก็ต้องกินต้องใช้ เครื่องไม้เครื่องมือ เวชภัณฑ์ ก็ต้องใช้เงินทั้งนั้น อย่างที่หลายท่านทราบ รัฐบาล สปสช. ปล่อยปละละเลยให้ รพ. รัฐ ขาดทุนตัวแดงจำนวนมาก ไม่สนใจใยดีสภาพปัญหาหนี้รพ. รัฐ สุดท้ายผลก็ตกกับประชาชน บุคลากรไม่พอ เวชภัณฑ์ไม่พอ เครื่องมือไม่พอ ก็ประชาชนทั้งนั้นแหละครับที่รับผล ถ้าอยากให้อะไรมันดีขึ้นก็ช่วยกันไปเรียกร้องกระทรวงสาธารณสุข สปสช. สปส. ให้ช่วยจ่ายเงินตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงให้กับ รพ. รัฐ เถอะครับ ประชาชนที่ต้องพึ่ง รพ. รัฐ จะได้ไม่ต้องอดสูเป็นพลเมืองชั้นสองอีกต่อไป มันเป็นปัญหาของระบบ เคยบอกหลายครั้งคนทั่วไปไม่ยอมเชื่อ ไม่มีใครมาผลักดันให้แก้ไข ทั้งระบบการประสานงานในการเช็คสิทธิ ระบบในการประสานงานในการจัดการค่าใช้จ่าย ที่จริงควรจะทำแบบสิทธิวิ่งหาคนอัตโนมัติ นี่ให้คนวิ่งหาสิทธิ ตลกมาก สงสารประเทศไทย จากคุณ : megacure (SET50.com) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 10:39:46

ความคิดเห็นที่ 19 ยืนยันครับว่าต้องใช้ พรบ.ก่อนครับ แต่ก็เท็จจริงก็คือ โคตรยุ่งยากครับ (ขึ้นกับ บ.ด้วย) และต้องเดินเรื่องเองพอสมควร ... ไม่ได้เป็นตัดจ่ายเองอัตโนมัติ แต่ตอนนี้พ้นช่วงวิกฤตแล้ว ก็ลองไปตามพรบ.ดูล่ะกันนะครับ การบอกอาการทางโทรศัพท์ หลายรพ.ส่วนใหญ่ห้ามครับ (แต่การตะโกนไม่สุภาพก็ไม่เหมาะสม) เพราะ ป้องกันความลับคนไข้ ... เมื่อก่อนรพ.ผมเคยมีคดีอาญา มีนักข่าวโทรเข้ามาทำเป็นญาติถามอาการ ถามเหตุการณ์ก็มี ... รพ.เลยมักสั่งห้ามไว้ก่อน จากคุณ : ผมอยากที่จะเชื่อ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 11:02:39

ความคิดเห็นที่ 20 เอาจริง ๆ ผมว่ามันไม่กี่ยวกับบัตรทองนะ จากคุณ : GamaBunta เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 11:15:08

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ จากคุณ : 1977 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 12:27:42 A:58.11.139.153 X: TicketID:347742

ความคิดเห็นที่ 22 อยากถามแค่ว่า คนไข้ปัสสาวะ อุจจาระราดตามตัว หน้าที่พยาบาลต้องเก็บให้เหรอครับ??? อึ ฉี่ ญาติพี่น้องคุณ ทำไมไม่มีญาติพี่น้องไปดูแลล่ะครับ??? ภายในเมื่อการเก็บอึเก็บฉี่ ไม่ต้องเรียนพยาบาลก็สามารถทำได้เหมือนกันครับ พยาบาลดูแลคนไข้ แค่ฉีดยา แทงน้ำเกลือ รับคนไข้ใหม่ ทำเอกสาร ประสานงานกับหมอ ก็ทำงานแทบไม่ทันแล้ว ทำไม ไม่มีญาติพี่น้องที่คิดจะมาช่วยดูแลตรงนี้บ้างครับ ภายในเมื่อ การเก็บอึ เก็บฉี่ ไม่ใช่งานที่ยากเกินกว่าญาติจะทำด้วยซ้ำ ภายในเมื่อญาติตัวเอง ยังไม่มีคนไปดูแล จะไปคาดหวังให้ใครที่ใหนก็ไม่รู้ มาดูแลให้ไำด้คุณภาพเลิศเลอได้ล่ะครับ ลองถามทางฝั่งของตัวเองก่อนดีกว่ามั้ยครับว่า "ทำเต็มที่ให้กับญาติตัวเองแล้วหรือยัง" แล้วค่อยไปเรียกร้องเอาจากคนอื่น ปล.case อุบัติเหตุให้ใช้ พรบ.ก่อนครับ หากเกินวงเงินค่อยใช้บัตรทอง ปล2.ที่ว่าบัตรทองฉุำกเฉินนั้น ใช้กับกรณี "เจ็บป่วย" ครับ ไม่ใช่ อุบัติเหตุ จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 12:49:44

ความคิดเห็นที่ 23 อย่าท้อนะ เอาใจช่วย ขอให้ปลอดภัยครับ จากคุณ : gto14982 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 13:45:49

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบทุกคนนะคะ เราเข้าใจว่าบัตรทองกับกรณีอุบัติเหตุใช้กันไม่ได้แล้ว. แต่ที่เราไม่เข้าใจคือทางโรงพยาบาลแพทย์ปัญญาซึึ่งคุณแม่เราขึ้นชื่ออยู่ไม่รับ แล้วเราไม่สามารถส่งแม่ไปที่ไหนได้   เราจึงส่งแม่เราเข้าเอกชน กรณีนี้ เราหมายถึงว่ามีบัตรสามสิบบาท แต่ไม่มีโรงพยาบาลรับบริการตะหาก เราเข้าใจว่า ทางโรงพยาบาลที่แม่เราสังกัดอยู่ น่าจะทำเรื่องส่งตัวต่อให้แม่เรา เพราะแม่เรามีชื่ออยู่ที่นั่น ส่วนเรื่องที่คาดหวังให้พยาบาลมาเช็ดอะไรต่อมิอะไรให้นั้น เราไม่คาดหวังค่ะ เราเข้าใจดีว่าญาติต้องทำเอง แต่เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน. และทางเราพอทราบเรื่องก็หาคนไปทันที ไม่ได้นิ่งนอนใจค่ะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีญาติเยอะ เสมอไป เรื่องเงิน 15000 จากพรบ ไม่ติดใจอะไรค่ะ ถึงไม่ได้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะค่ารักษามันเกินกว่านั้นไปมากอยู่แล้ว แต่เรากังวลว่าแม่เรา.  อาจจะต้องอยู่โรงพยาบาลอีกหลายวัน แล้วถ้าแม่เราเป็นแบบตาสีตาสาจริงๆ คือไม่มีเงินย้ายไปเอกชนได้ และต้นสังกัด30บาท ไม่รับ อย่างนี้คนไข้จะทำอย่างไรคะ จะไปรักษาตัวที่ไหน เราแค่ฝากคำถามไว้ค่ะ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 14:09:24

ความคิดเห็นที่ 25 โรงพยาบาลไม่รับเพราะคนไข้เต็ม ไม่ได้หมายถึงว่าโรงพยาบาลไม่อยากรักษานะคะ ยกตัวอย่างเช่นเช่น ถ้าแม่คุณต้องการใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่โรงพยาบาลนั้นมีแค่ 10 เครื่อง แล้วทั้งสิบเครื่องมีคนไข้หนักใช้หมดทุกเครื่อง ถึงแม้เค้าอยากรับคนไข้มากแค่ไหน ก็รับเพิ่มเข้าไปไม่ได้อีกไงคะ เราถึงพยายามบอกทุกคนว่าถ้ามีเงินบริจาคช่วยโรงพยาบาลรัฐเถอะ จะได้ช่วยเหลือคนป่วยได้อีกมากจริงๆ จากคุณ : mayny the kop เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 14:38:18

ความคิดเห็นที่ 26 "แล้วถ้าแม่เราเป็นแบบตาสีตาสาจริงๆ คือไม่มีเงินย้ายไปเอกชนได้ และต้นสังกัด30บาท ไม่รับ อย่างนี้คนไข้จะทำอย่างไรคะ จะไปรักษาตัวที่ไหน" ก็รักษาต่อที่ระยองนั่นแหละค่ะ คือเราเข้าใจว่าที่นั่นมีหมอกระดูกอยู่แล้ว และอาการที่คุณแม่จขกท.เป็น ก็สามารถรักษาที่นั่นได้ จึงไม่มีการส่งต่อไปไหน และถ้าอาการมากเกินกว่าที่นั่นจะรักษาได้ เค้าก็จะส่งต่อตามระบบและหารพ.ให้เอง อาจจะเป็นรามา ศิริราช อะไรก็ว่ากันไป แต่ปัญหาตอนนี้คือทางผป.(คุณแม่และจขกท.)ต้องการย้ายเข้ากทม. ซึ่งพูดกันตรงๆ มันไม่ใช่ปัญหาของทางรพ.น่ะค่ะ ก็เลยต้องหารพ.กันเอง จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 14:45:01

ความคิดเห็นที่ 27 จขกท ใจเย็น ๆ ครับ มีเงิน ใช่ว่าจะช่วยอะไรได้ ถ้าเราไม่ได้ อยู่สั่งการเองครับ ถ้ารักแม่ ก็ ควรรีบกลับมาจัดการให้เรียบร้อยครับ ขนาด ใช้คนติดต่อ เองยังยากมากเลยครับ อย่าว่าแต่โทรศัพท์เลยครับ จากคุณ : ton_21 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 16:00:35

ความคิดเห็นที่ 28 จขกท...รีบกลับเมืองไทยด่วนจ้า... จากคุณ : bitter sugar เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 16:11:18

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบคุณฟ้าหมาดฝน คือที่รพ ที่ระยองไมได้ทำการรักษาที่หลังค่ะ ปล่อยไว้อย่างนั้น ส่วนออกซิเจนคือให้เฉพาะตอนแรก. ดามเหล็กเพิ่งมาทำที่กรุงเทพนะคะ และลักษณะรพ ก็เป็นห้องอนาถา คือคนไข้นอนกันเป็นสิบๆ (ห้องเดี่ยวเต็ม) อยู่ดูได้ถึงสองทุ่ม ที่ยืนแทบจะไม่มี(แล้วหลังจากนั้นใครจะดูแล?) ในเมื่อคห บนๆ บอกเราเองว่าญาติควรจะทำเองทุกอย่าง ดังนั้นคำตอบที่คุณฟ้าให้เรามา กระจ่างมากค่ะ คือคนจนๆก็คงต้องรับสภาพแบบนั้นไปนั่นเอง ส่วนคห ที่ว่าให้เราบินกลับกรุงเทพ ตอนนี้คุณแม่เราอาการหายห่วงแล้วค่ะ เราจึงเลือกที่จะส่งเงินไปมากกว่า ทางนั้นมีพี่สาวอีกคนดูแลแล้วค่ะ เพราะตอนนี้ถึงมือรพ เอกชนแล้ว คุณแม่ยิ้มแย้มได้ เงินน่าจะสำคัญที่สุด อะไรประหยัดได้ก็จะประหยัดค่ะ ขอบคุณทุกท่านนะคะ ตอนนี้เราวุ่นมากจริงๆ ที่ตั้งกระทู้เพราะเครียดค่ะ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 16:18:16

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้ามีเงินเยอะก็บินกลับมาเมืองไทยเถอะค่ะ ถึงเวลาทำหน้าที่ของลูกแล้ว จากคุณ : Pikless เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 16:26:13

ความคิดเห็นที่ 31 สามีเราสิทธิเบิกได้ ต้องเข้าผ่าตัดด่วน รพ.รัฐก็ไม่มีเตียงค่ะ สรุปก็ไปรพ.เอกชน เพื่อการรักษาที่รวดเร็ว ถ้ารอreferไปรพ.รัฐ ไม่รู้อีกนานเท่าไหน คนไข้จะแย่ก่อน เราเคยอยู่รพ.รัฐที่รับเคสหนักๆมาผ่าตัดจะบอกว่า สิทธิ30บาท ครอบคลุมมากน่ะค่ะ ไม่ได้แย่ หลายๆอย่างฟรีในขณะที่สิทธิเบิกได้ต้องจ่ายเพิ่ม แต่รพ.ต้นสังกัด30บาทที่เป็นเอกชน ไม่แนะนำ ย้ายได้ไหมค่ะ จากคุณ : NattyTuk022 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 16:35:07

ความคิดเห็นที่ 32 เค้าไม่ได้เรียกห้องอนาถา แต่เรียกว่า หอผู้ป่วยสามัญ จะมีเตียงคนไข้เรียงกันประมาณ 30 เตียงซ้ายขวา ไม่นับเตียงแทรกเตียงเสริม กลางคืนผู้ป่วยส่วนใหญ่จะพักผ่อนนอนหลับ แต่ก้อจะมีพยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล ดูแล คอยวัดความดันวัดปรอทอยู่เป็นระยะ มีปัญหาอะไรก้อสามารถบอกได้ สำหรับผู้ป่วยหรือญาติที่มีความคาดหวังสูง และพอมีกำลังทรัพย์ โรงพยาบาลเอกชนคงเป็นคำตอบสุดท้าย ส่วนผู้ป่วยอื่นๆ โรงพยาาลรัฐยังยินดีให้การดูแลรักษาเต็มที่ แต่อย่าเอาไปเปรียบเทียบกันเลยกับเอกชน เพราะมันบั่นทอนกำลังใจของคนที่งานหนัก เงินน้อย แต่ยังทุ่มเททำงานอยู่เพื่อคนไข้ทุกคน จากคุณ : hinghoi เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:37:16

ความคิดเห็นที่ 33 ในร.พ.ไม่มีห้องอนาถานะครับ มีห้องธรรมดากับพิเศษ คนไข้อุบัติเหตุที่ต้องได้รับการดูแลใกล้ชิดเข้าห้องพิเศษไม่ได้ครับ ต้องรอให้อาการคงที่ก่อน จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:59:17

ความคิดเห็นที่ 34 ขออภัยที่ทำให้ทุกคนไม่สบายใจนะคะ สำหรับคำว่าอนาถา จขกท ไม่ทราบค่ะว่าจริงๆเรียกอย่างไร เนื่องจากคนที่บ้านที่ไปเยี่ยมคุณแม่บอกมา หลังจากเห็นสภาพที่อยู่ ถึงกับร้องไห้ ส่วนตัวจขกทเอง ไม่เคยเข้ารพรัฐบาลนะคะ ต้องขออภัยจริงๆค่ะ แต่ไม่คิดจะเปรียบเทียบกับเอกชน เพราะแน่นอนว่า. แพงกว่าย่อมได้รับการดูแลที่น่าจะดีกว่าในกรณีนี้ เนื่องจากทางบ้านเราเป็นคนกรุงเทพ. เราจึงตัดสินใจย้ายเข้ากรุงเทพ คุณแม่อาการไม่หนัก หมอบอกว่าย้ายได้ แต่ทางรพที่คุณแม่มีชื่อไม่รับ  ซึ่งไม่มีทางออกให้เราเลย เพราะถ้าให้คนไปดูแลเรื่องเช็ดตัว อึ ฉี่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของญาติเราเข้าใจ และมีคนทำ แต่ไม่มีที่แม้แต่ญาติจะนั่งเฝ้าได้ ต้องนอนกันใต้เตียงคนไข้บ้าง และสองทุ่มห้ามเข้า แล้วเราจะดูแลแม่เราได้อย่างไร และคนเฝ้าจะไปนอนที่ไหน ปัญหาจึงเกิด เมื่อเราเครียด และไม่เข้าใจว่าทำไมย้ายมาไม่ได้ ตอนนี้ทุกคนทำให้เราเข้าใจในระดับหนึ่ง ขอบคุณค่ะ คุณแม่เราอยู่รพแล้ว ปลอดภัยแล่วค่ะ ส่วนเราก็จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายต่อไป  เอกชนเป็นทางออกที่รวดเร็วที่สุด ทำให้เราคิดได้ว่า ชีวิตคนเราไม่แน่นอน ทำงานให้หนัก ออมให้มาก เมื่อเจ็บป่วยจะได้ไม่เดือดร้อน ประกันชีวิตก็เป็นทางออกที่ดี คุณแม่เราเคยมี แต่ก็หมดอายุไป โชคดี ที่มีลูกหลานดูแล ทุกอย่างจึงไม่ลำบากอย่างที่เป็น เป็นกำลังใจให้รัฐบาล มีรายได้จากภาษีมากขึ้น นำมาพัฒนาด้านสถาณที่ โรงพยาบาล ก็คงจะเป็นทางออกให้กับครอบครัวที่มีรายได้น้อยได้บ้าง ขอบคุณค่ะ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 18:41:48

ความคิดเห็นที่ 35 โลกนี้มีสองด้านเสมอ จะว่า30บาทในแง่ลบอย่างเดียวก็ไม่ถูก  จริงๆ30บาทเป็นนโยบายที่ดีมาก แต่ยังไม่ได้รับการพัฒนาและไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างที่สมควรจะเป็น ใจเย็นๆ รีบส่งคนไปดูแลคุณแม่ที่รพ.ระยองด่วนเลยค่ะ ใครจะดูแลท่านได้ดีกว่าลูกหลาน เรื่องอื่นค่อยๆแก้กันไป ขอให้คุณแม่หายเร็วๆ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : แป้งสีฝุ่น เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 18:54:13

ความคิดเห็นที่ 36 กระทู้ของคุณถูกใจผมมากครับ เหตุการณ์ที่เกิดกับคุณแม่ของ จขกท  เป็นเหตุการณ์ที่พบเห็นจนชินตากับร.พ. ศูนย์ขนาดเล็กที่ศักยภาพไม่ได้เป็นไปตามระดับของร.พ. ขาดแพทย์เฉพาะทาง ขาดอุปกรณ์ ขาดคน รักษาไม่ได้ แต่ก็ refer แทบไม่ได้เลย  ขึ้นอยู่กับญาติ ถ้ามีเงิน มีเส้นสาย มีสื่อมาทำข่าว ก็สามารถย้ายไปรักษาที่ดีกว่าได้ อาจารย์แพทย์ผมคนนึงครอบครัวประสบอุบัติเหตุต่างจังหวัด  สามารถย้ายมารักษา ร.ร.แพทย์ ได้ในวันนั้น ผ่าตัดเรียบร้อยหมดทุกคน 3-4 คน ได้ ICU สำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ มีอาจารย์แพทย์มาช่วยผ่าตัดหลายท่าน chief resident ทำหน้าที่ตัดไหมเป็นผู้ช่วยคนสุดท้าย ผ่าท้อง ผ่ากระดูกได้พร้อมกันเลบทีเดียว จขกท เองก็สามารถย้ายคุณแม่มารักษาที่ร.พ. เอกชนได้ เพราะว่ามีเงินจ่าย แต่ผู้ป่วยที่เขาไม่มีอะไรเลยต้องรอความหวังจากบัตรทอง เขาจะทำอย่างไร  รอ...รอ...และก็รอ  ว่าเมื่อไรจะ refer ได้ หรือ แพทย์ต้องเสี่ยงผ่าตัดทั้งที่ไม่มีความชำนาญ วัดดวงกันไป ดวงดีก็รอด ดวงซวยก็ตาย  บางคนเข็ดขยาดกับการถูกร้องเรียนก็ไม่ผ่าตัด ปล่อยคนไข้ตาย พิการตามยถากรรม จขกท มาร้องเรียนเรื่องร.พ.ต้นสิทธิไม่รับส่งตัว  มองในอีกแง่นะครับ ถ้าเขารับส่งตัวแล้วบอกว่า ไม่มีแพทย์เฉพาะทาง รักษาไม่ได้  refer ต่อก็ไม่มีที่ไหนรับ  ส่งไปเอกชนเขาไม่ตามไปรับผิดชอบค่าใช้จ่าย  แล้วปล่อยคุณแม่นอนรอเรื่องส่งตัวไปเรื่อยๆ จขกท จะทนได้หรือครับ สำหรับ คห 15 แนะนำมาเรื่องสายด่วน สปสช นั้น ขอประทานโทษนะครับ   เสียเวลาเปล่า ผมใช้สำหรับเป็นข้ออ้างเวลาญาติต้องการมากๆ เท่านั้น  ไม่ได้หวังให้ช่วยติดต่อให้เลย แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 55 21:42:04 จากคุณ : ละเหี่ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 21:31:44

ความคิดเห็นที่ 37 ดีแล้วค่ะทีjไปเอกชน รพ รัฐห่วยค่ะ อยู่ไปอาจตายไว พยาบาลต้องเช็ดสิ อึ ฉี่ อย่าปากร้ายนักสิหมอ ก็ไม่ได้ใหญาติอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ   รัฐไม่ใช่ไม่มีเงิน ภาษีก็จ้องแต่ตรวจสอบ แต่เงินมันไปอยู่กระเป๋าพวกนักการเมืองหมด แดรกแหลก จขกม คิดถูกแล้วค่ะ หาเงินไว้เยอะๆ จะได้เข้าเอกชน ไม่ต้องบริจาคให้รพ รัฐหรอกค่ะ รัฐมีตัง แต่ตังไปอยูที่อื่นหมด ่ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 55 21:47:11 จากคุณ : ก็มันจริงอ่ะ (angelzpuu) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 21:32:37

ความคิดเห็นที่ 38 อ้อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ จขกท ไม่เกี่ยวกับบัตรทองหรอกครับ  สิทธิอะไรก็เหมือนกัน คือได้รับการบริการลักษณะนี้เหมือนกัน  มันเป็นเช่นนี้มานานแล้ว  และจะเป็นต่อไป.....ผู้หลักผู้ใหญ่ตั้งแต่ ผ.อ , ปลัดกระทรวง , ร.ม.ต ทราบปัญหาดี แต่ไม่มีปัญญาแก้ครับ เสียเวลาร้องเรียน จากคุณ : ละเหี่ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 21:35:04

ความคิดเห็นที่ 39 บัตรทองใช้กรณีอุบัติเหตุได้ค่ะ แต่ต้องให้หมอในโรงพยาบาลที่เข้ารักษาบอกเป็นกรณีฉุกเฉิน   อย่างพี่ชายไปล้มที่ศิริราช ทางโรงพยาบาลก็ทำเรื่องให้นะค่ะ  เลยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จากคุณ : L (leekaka) เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 00:21:30

ความคิดเห็นที่ 40 อยากให้ยกเลิกไอ้ระบบ 30 บาทนี้เหมือนกันค่ะ สงสารโรงพยาบาล มันดี แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า คนถือบัตร 30บาทนี่รายได้น้อยจริง เพิ่งคุยกับน้องที่สนิทเป็นพยาบาลอยู่ ตปท คิดดูละกันว่ามีเงินไหม แต่น้องบอกว่า พ่อเขาใช้บัตร 30บาทรักษา และหายได้จริง ไม่มีปัญหาไรเลย เราไม่ว่าน้องเรานะ ได้สิทธิ์มาก็ใช้ แต่แบบเฮ้ย ใครคนคิด คนทำนโยบายแบบนี้ เราไม่มีบัตร30ค่ะ ไป รพ ทีไรมีแต่คนถาม ทำไหมๆ กรุไม่ทำว้อย กรุยอมจ่ายเต็ม ไม่รวยค่ะ แต่รับไม่ได้ อย่างน้อยก็ให้มีเงินสักนิดนึงเข้า รพ บ้าง จากคุณ : ม่องเท่ง เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 01:18:21

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ L ครับ ขอแก้นิดนึงครับ สิทธิ์ 30 บาท ใช้ในกรณีอุบัติเหตุได้จริงครับ แต่ยกเว้นกรณีอุบัติเหตุรถยนต์ครับ เพราะถ้าเป็นอุบัติเหตุรถยนต์มี พรบ จะให้ใช้ พรบ ก่อนครับ จากนั้นจึงไปที่ 30บาทต่อไป แปลว่าถ้าค่ารักษาเกิน 15000 บาท ถึงใช้ 30บาทได้ครับผม แต่ถ้าล้มขาหัก โดนเตะแขนหัก ใช้ 30 บาทได้เลยครับ^^ รพ ที่ ญาติ จขกท ไปรักษาเข้าใจว่าเป็น รพศ ระยองครับ ขอบอกว่าเป็นภาพชินตาของห้องสามัญ รพศ อยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นชลบุรี ระยอง หรือแม้แต่สรรพสิทธิประสงค์ที่ อุบล เพราะ รพ เหล่านี้เป็น รพ ใหญ่ที่รับเคส refer มาจาก รพ ชุมชนและ รพ ทั่วไป(รพ จังหวัดอื่นๆที่ไม่ใช่โรงพยาบาลศูนย์ครับ) ฉะนั้น คนไข้จะมหาศาลมากครับ ส่วนบุคลากรก้ออย่างที่รู้ๆกันอยู่ครับ ส่วนสิทธิ 30 บาท ถ้าทาง รพ ต้นสังกัดไม่รับหรือรับไม่ได้ต้องหาที่ลงให้คนไข้ตัวเองครับ เช่น  อาจจะให้รักษาที่ รพ เดิม แล้วมาเรียกเก็บที่ รพ ต้นสังกัดครับ พอดีพอมีความรู้บ้างเพราะอยู่ห้องฉุกเฉินตลอด ยังไงถ้าผิดรบกวนแก้ให้ด้วยนะครับ อิิอิ ส่วนเรื่องคำพูดเจ้าหน้าที่ no comment ละกันครับ เพราะขึ้นกับหลายอย่าง(จริงๆ) จำนวนคนไข้ จำนวนงาน รวมถึงสานที่ตั้ง รพ. เช่น ถ้า รพ ชุมชน อาจจะพูดคุยดีกว่า รพ จังหวัด หรอื รพ ทางอีสาน อาจคุยดีกว่าทางแถบ ตอ เป็นต้นครับ(จากประสบการณ์การทำงานนะครับ) ^^ จากคุณ : Holy light เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 11:40:42

ความคิดเห็นที่ 42 อยากให้ทุกคนลงทะเบียนบัตรทอง เพื่อให้รพ.ได้รับเงินเต็มตามจำนวนผู้ลงทะเบียนไว้ ส่วนจะไปใช้สิทธิใช้บริการหรือไม่ ตามความสะดวกและพึงพอใจของแต่ละคนค่ะ จากคุณ : ป้าหนูดา เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 12:34:35

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้า 30 บาท ให้เฉพาะคนรายได้น้อย จะยุตืธรรมเหรอ คนมีตังก็คนไทย และภาษีก็มาจากคนมีตังมากกว่า และคนมีตังก็ไม่ค่อยจะเลือกใช้ 30 บาทอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากจะใช้ ผิดตรงไหน? จากคุณ : angelzpuu เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 14:07:37

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่เคยใช้สิทธิเลย  เข้าแต่โรงพยาบาลเอกชน  ขี้เกียจเข้าคิวรอ ไปโรงพยาบาลของรัฐต้องใช้เวลาทั้งวันเลย  ไม่ค้องทำมาหากินกันพอดี   ต้นเหตุคือโรงพยาบาลรัฐขาดแคลนหมอ  เพราะกพ.บอกว่างบประมาณไม่พอที่จะบรรจุหมอ   แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 55 11:35:29 จากคุณ : เสื้อเชิ้ต เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:31:59

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาด่ากราดคนอื่นมั่วเลย ตอนนี้เราอยู่ประเทศนี้ 30 บาท ก็ยังใช้ได้ดีอยู่ ส่วนคุณอยู่ต่างประเทศ + อคติ 30 บาท + ไม่ีรู้เรื่อง พรบ + คนมีตังเอกชน เลยคิดว่า 30 ไม่จำเป็น ถึงกับบอกให้ยกเลิก พูดอะไรคิดถึงคนอื่นบ้าง แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 55 12:11:11 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 55 12:06:41 จากคุณ : itssmallworld เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 12:06:13

ความคิดเห็นที่ 46 เจ้าของกระทู้คุณแม่หายแล้ว อย่าลืมไปบริจาคเงินทองส่งของให้โรงพยาบาลรัฐด้วยนะคะ ได้อานิสงค์แรง และผู้ป่วยคนอื่นๆที่ไม่มีเงินย้ายไปโรงพยาบาลเอกชนแบบคุณจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยค่ะ สิ่งไหนเราเห็นแล้วไม่สบอารมณ์ เราต้องช่วยกันเพื่อให้มันดีขึ้นค่ะ จากคุณ : mayny the kop เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 13:21:19

ความคิดเห็นที่ 47 จำไว้ว่าไม่มีอาหารภัตตาคารฮ่องเต้ในราคายาจก ในราคาชาวบ้าน เรามีข้าวราดแกงที่มีคุณค่ามีประโยชน์ต่อร่างกายไว้บริการ แต่มันอาจจะหน้าตาไม่สวยงาม จานชามไม่หรูหรา ห้องไม่ติดแอร์ ไม่มีดนตรีบรรเลง และที่สำคัญที่สุด เราไม่มีบริการตักอาหารเข้าปาก ดังนั้นโปรดอย่าได้ประนามเราเลยหากไม่มีสิ่งเหล่านี้ให้คุณ ร้านหรูอื่นๆยังมี เชิญไปใช้บริการ จากคุณ : meddy hao เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 16:53:20

ความคิดเห็นที่ 48 ...แพทย์ปัญญาตอบว่า รับไม่ได้ เพราะไม่มีหมอเฉพาะทาง yes,  เพราะแพทย์ปัญญาเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ small มากจริงๆ  ..ขาดแพทย์เฉพาะทาง ขาดอุปกรณ์ รักษาเคสหนักๆไม่ได้ ถ้าเคสหนักๆ ต้องอย่างศิริราช รามา เหล่านี้ก็ ok เลย ขอให้คุณแม่และญาติๆหายเร็วๆ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : NATTI นัทตี้ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 06:06:06

ความคิดเห็นที่ 49 สิทธิ์ 30 บาทนี่มีข้อดีนะคะ อย่าเพิ่งมองข้าม และอย่าคิดว่าร.พ.เอกชนช่วยคุณได้ทุกอย่าง โรคบางอย่าง ร.พ.เอกชนขนาดใหญ่ยังรักษาไม่ได้ ต้องส่งต่อมารักษาตาม โรงเรียนแพทย์ค่ะ ยกตัวอย่างเคสนึงนะคะ  ตอนนี้ที่เราไปดูคนไข้ ( คิดว่ามีฐานะ ) แต่กว่าเราจะได้ลงมาดูก็ช้าเพราะยุ่ง แต่ทั้งญาติและคนไข้ก็ไม่บ่นว่า พูดกับเราดีมาก ทั้งที่อาการก็แย่พอควร เราดูแล้วให้ admit และเตรียมเซ็ทผ่าตัด และเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์+ฉีดสี ( +/- หัตถการอื่นที่ค่าใช้จ่ายสูงมาก ) เราถามญาติว่าใช้สิทธิ์อะไร ญาติตอบเงินสด ค่ะ เราคิดในใจว่า ค่าใช้จ่ายในการดูโรคนี้สูงมาก จะช่วยยังไงดี เพราะญาติดีเหลือเกิน เลยลองถามเรื่องสิทธิ์ ญาติไม่เคยใช้สิทธิ์อีกค่ะ เพราะไปแต่เอกชน เลยให้ไปเช็คสิทธิ์บัตรทอง และเซ็นฉุกเฉินให้ หลังคนไข้ admit และตรวจเพิ่มเติมเสร็จ ก็นำตัวเข้าผ่าตัด อาการหายดีค่ะ discharge ได้ในเวลาไม่นาน และไม่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่ะ ยกเว้นค่าห้องพิเศษ ที่คนไข้ย้ายได้หลังอาการดีขึ้น ^^ ป.ล. ไม่ได้ลำเอียงอะไรนะคะ แต่ถ้าคนไข้หรือญาติให้เกียรติเรา อาชีพบริการอย่างเราก็ยินดีช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ จากคุณ : kiki_kaka เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 55 17:34:21

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้าหาคู่กรณีที่มาชนเราไม่ได้ สามารถใช้สิทธิบัตร 30 บาทในกรณีฉุกเฉิน ได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้งครับ ถ้าจะร้องเรียน ก็ร้องเรียนกับผู้อำนวยการ(รัฐ) นั้น ๆ ได้เลย ผมว่าเค้าต้องให้ จากคุณ : auikung เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 00:18:06

ความคิดเห็นที่ 51 ตัวเราเองก็ไม่รู้อะไรหรอกครับ  เพียงแต่อยากจะบอกว่าบ้านเรามีการดูแลเรื่องสวัสดิการการรักษาพยาบาลที่ห่วยแตกมากสำหรับคนจนๆ   คุณต้องไปรอ รพ.รัฐบาล  ตั้งแต่ตี 5 หรือ 6 โมงเช้า  แต่กว่าจะได้หาก็ปาเข้าไปบ่าย  ถ้าเป็นหมอเฉพาะทางโดยเฉพาะจุฬานัดคิวเป็นเดือน  แถมมิหนำซ้ำพอถึงเวลานัดพยาบาลก็โทรมาเลื่อนอีกเป็นเดือน   ชีวิตคนไม่มีเงินมีค่าเท่านี้เองหรอครับ บัตรทอง 30 บาท  มันช่วยอะไรเราได้จริงๆหรอครับ  ผมมีบัตรทอง 30 บาทไปแต่เช้ามืด รอไปถึงบ่าย  หมอออกเวรไปเฉยเลย  รอมาแบบนี้ทั้งสัปดาห์   นับวันคนจนต้องรอๆ  อย่างน้อยก็เป็นคนไทย  เราไปรพ.รัฐทีไรแล้วเรารู้สึกหดหู่เหลือเกิน  บางทีเรารอไปรอมา  เราก็เครียดครับ  เห็นคนเค้าลำบากกันเยอะแยะขนาดนี้เลยหรอ  เราไม่ใช่พระอิฐพระปูน  ไม่มีความรู้สึกอะไร   บางครั้งเราคิดว่ามีเงินเท่านั้นครับถึงมีค่า  ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับบุคลากรที่เจอด้วยนะครับ   แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 18:29:09 จากคุณ : green natural เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 18:23:57