Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
: : : แชร์ประสบการณ์ : : : ทำเลสิก (Lasik) แบบรีเล็กซ์ (ReLEx) ติดต่อทีมงาน

จขกท.เป็นคนสายตาสั้นมาตั้งแต่เด็กค่ะ เริ่มใส่แว่นตั้งแต่ป.3 แว่นอันแรกก็สั้น 300 แล้วค่ะ คาดว่าคงสั้นมานานแล้ว แต่เพราะเป็นเด็ก เลยไม่รู้เรื่อง คุณครูเป็นคนที่สังเกตเห็นค่ะ เพราะจดการบ้านจากกระดานผิดบ่อย เลยบอกให้คุณแม่พาไปตรวจ

โตขึ้นก็สั้นขึ้นเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ 650 จขกท.เป็นคนโชคดี ใส่คอนแทคเลนส์มานาน 10 กว่าปี ไม่เคยมีปัญหา บางวันใส่นอนก็ยังได้ (แต่ไม่บ่อยนะคะ เพราะรู้ว่าไม่ดี) มาตอนหลังเริ่มรู้สึกว่าไม่ดีเหมือนก่อน ใส่นอนทีไรเคืองตาทุกที เลยเลิกใส่นอนถาวร แต่ก็ยังสามารถใส่ได้ทั้งวันได้โดยไม่มีปัญหา คือใส่ได้ตั้งแต่เช้าจนจะนอนถึงถอด ใส่ทุกวันไม่เคยใส่แว่นเลย แว่นมีไว้เผื่อฉุกเฉินเฉยๆ ก็เลยไม่เคยมีความคิดว่าจะต้องทำเลสิก

จนกระทั่งแต่งงานมีลูกค่ะ ตอนกลางคืนต้องลุกมาดูลูก คว้าแว่นมาใส่ไม่ทันใจคุณลูก ร้องไห้นาน กว่าจะกล่อมให้หลับต่อเลยยาก เลยแก้ปัญหาด้วยการใส่แว่นนอนซะเลย 555 ก็นอนไม่สบายอ่ะเนอะ ก็เลยชักอยากทำเลสิก แต่ติดที่ว่ายังให้นมลูกอยู่ สอบถามมาได้ความว่าต้องเลิกให้นมไปแล้วอย่างน้อย 3 เดือน (แต่บางที่ก็บอกปีนึง -*-)

พอลูกโตก็เลยตัดสินใจทำเลสิกดีกว่า หรืออย่างน้อยก็ไปตรวจก่อนว่าทำได้รึเปล่า หลังจากหาข้อมูลมาซักพัก ก็ตัดสินใจว่าจะทำที่ trsc กับคุณหมอเอกเทศ โทรไปนัดตรวจตา คิวยาวพอสมควรเลยเชียว

ก่อนไปตรวจต้องถอดคอนแทคเลนส์ก่อน 3 วัน (แบบแข็ง 7 วัน) และห้ามขับรถไปเอง เพราะต้องหยอดยาขยายม่านตา แล้วจะมองเห็นไม่ค่อยชัดไปอีก 4-6 ชั่วโมง ใช้เวลาตรวจประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ

ก็มีวัดสายตา (ใส่แว่นให้อ่านตัวเลขแล้วถามว่าแบบไหนชัดกว่า) วัดความโค้งความหนาของกระจกตา (มองนิ่งๆผ่านเครื่องเฉยๆค่ะ) วัดความดันลูกตาเพื่อตรวจว่าเป็นต้อรึเปล่า (จะเป็นเครื่องพ่นลมเบาๆมาใส่ตาเราข้างละ 3 ทีค่ะ)

หลังจากนั้นก็ไปหยอดยาขยายม่านตา นอนเก้าอี้นวดรอไป 20 นาทีให้ยาออกฤทธิ์ แล้วก็ไปวัดสายตาด้วยการอ่านตัวเลขอีกรอบค่ะ เพื่อจะได้ค่าสายตาที่แม่นยำขึ้น เนื่องจากบางคนเพ่งเยอะ ค่าสายตาเลยดีเกิน เวลาหยอดยาแล้วจะเพ่งไม่ได้ค่ะ

เสร็จแล้วก็ให้คุณหมอส่องตาดูสภาพตาเราว่ามีปัญหาอะไรมั้ย ของจขกท.มีปัญหาว่ากระจกตาเป็นรอยนิดนึง คาดว่าน่าจะมาจากตาแห้ง หรือต้องถอดคอนแทคเลนส์นานกว่านี้ คุณหมอก็เลยให้ใส่แว่นต่ออีก 1 สัปดาห์แล้วมาตรวจดูอีกที ไปอีกทีก็ผ่านฉลุยค่ะ นัดทำเลสิกได้เลย

จขกท.เลือกทำแบบรีเล็กซ์ (ReLEx) ค่ะ เพราะต้องการเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ ยอมจ่ายแพงค่ะ ReLEx เป็นเทคโนโลยีใหม่ รู้สึกจะเพิ่งเข้ามาได้ปีครึ่ง จขกท.ชอบตรงที่ไม่ต้องเปิด flap (ชั้นกระจกตา) ใช้เลเซอร์ปรับแต่งความโค้งกระจกตา แล้วคีบออกมาทางรูเล็กๆได้เลยค่ะ โอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยลง

ก่อนวันผ่าก็ต้องถอดคอนแทคเลนส์อย่างน้อย 3 วันค่ะ (แต่กรณีจขกท.ต้อง 10 วันค่ะ) แล้วก็ไปตรวจ Anti-HIV นำผลไปด้วย ถึงวันนัดผ่า ก็เตรียมตัวอาบน้ำสระผมให้สะอาดๆเลยค่ะ เพราะหลังผ่าจะห้ามโดนน้ำไปอีก 7 วัน ห้ามฉีดสเปรย์ ห้ามทาครีมใดๆ ห้ามแต่งหน้า ใส่เสื้อมีกระดุมจะได้เปลี่ยนเสื้อได้ง่าย

ไปถึงก็ต้องอ่านทำความเข้าใจสัญญา เซ็นต์ชื่อ และจ่ายเงินก่อนเลยค่ะ แล้วก็จะให้ไปวัดอะไรซักอย่าง ลืมถาม เป็นวงกลมมีเส้นข้างในที่เอียงไปทางซ้ายหรือขวา ให้เราบอก แล้วระยะห่างระหว่างเส้นของแต่ละวงกลมจะเล็กลงไปเรื่อยๆ จางลงไปเรื่อยๆ ให้บอกจนกว่าจะดูไม่ออก

หลังจากนั้นก็มาทานยาคลายความกังวล (รู้สึกจะชื่อแวเลียม) แล้วก็เข้าเขตห้องผ่าตัด ต้องเปลี่ยนรองเท้า ใส่เสื้อคลุม ใส่หมวกคลุมผม ถอดแว่น มองไรไม่ค่อยเห็นแล้วค่ะ เพราะสายตาสั้นมาก ต้องให้คุณพยาบาลจูงไปจูงมา ไปนอนบนเก้าอี้ (น่าจะเลซี่บอย :D) หยอดยาชาที่ตา หยอดหลายทีค่ะ ตรงนี้น่าจะซัก 30 นาที (สามารถขอกินน้ำ หรือไปเข้าห้องน้ำได้ค่ะ)

คุณหมอก็จะมาอธิบายว่าจะทำอะไรบ้าง ให้เราถามข้อสงสัยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเข้าห้องผ่าตัด แล้วคุณพยาบาลก็มาจูงพาไปนอนบนเตียงของเครื่อง ห่มผ้าให้ ทำความสะอาดหน้า ติดพลาสติกใส(เป็นสติ๊กเกอร์)บนหน้า พลาสติกนี้มีช่องแค่ตรงตานิดเดียว (ตอนพยาบาลแกะออกให้แอบเจ็บ T_T)

แล้วเตียงก็จะหมุนไปอยู่ใต้เครื่องค่ะ คุณหมอก็เข้ามาเริ่มทำ ก็ใส่เครื่องถ่างตา แล้วก็ให้เรามองไฟสีเขียวไว้นิ่งๆ ตอนนี้ไม่ควรขยับหรือพูดค่ะ มองให้นิ่งที่สุด ถ้าไฟขยับก็ไม่ต้องไปขยับตาตามค่ะ ตอนนี้ตาจะเริ่มขุ่นมัวจากรอบนอกเป็นวงแคบลงมาเรื่อยๆจนขุ่นหมด แล้วก็ย้ายไปทำแบบเดิมข้างที่เหลือ

หลังจากนั้นก็ย้ายเครื่องค่ะ ไปนอนให้คีบออกอีกเครื่องนึงค่ะ อันนี้ให้มองขอบด้านล่างของไฟค่ะ อันนี้ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร น่าจะเพราะคุณหมอดันๆอะไรซักอย่างในตารึเปล่า ตาเรามันคอยจะเลื่อนขึ้นเรื่อยเลยค่ะ คุณหมอก็จะคอยบอกให้มองลงๆๆ พอคีบออกมาเสร็จ ก็มองเห็นชัดเลยค่ะ amazing มาก แล้วคุณหมอก็เอาอะไรซักอย่างมาทับตานวดๆนิดนึงบอกว่าจะได้เรียบๆ แล้วก็ย้ายไปทำแบบเดิมข้างที่เหลือ

หลังจากนั้นก็เสร็จแล้วค่ะ ออกมานอนเก้าอี้ตัวเดิม หยอดยาฆ่าเชื้อ และปิดฝาครอบตา (มีรูเล็กให้มองเห็นได้ค่ะ) กินยาแก้ปวด กลับบ้านได้

กลับมาก็พยายามนอนให้มากค่ะ ห้ามแกะฝาครอบตาออกเด็ดขาด ห้ามล้างหน้า อาบน้ำแปรงฟันได้ แต่ระวังน้ำเข้าตา จขกท.มีเคืองตาน้ำตาไหล แต่ไม่ได้เจ็บอะไรค่ะ แสบๆซะมากกว่า ก่อนนอนถ้านอนไม่หลับมียานอนหลับมาให้กินค่ะ

วันรุ่งขึ้นก็ไปเปิดตาค่ะ จขกท.ขี้ตาเยอะเชียว ก็มีให้อ่านวัดสายตา ก็อ่านได้ถึงเส้น 20/20 เลยค่ะ คุณหมอตรวจตาดูบอกว่าแผลสมานแล้ว (เร็วเพราะเปิดแค่รูเล็กๆ) แต่ก็ยังให้ระวังกันต่อไป

สัปดาห์แรก ก็ยังห้ามน้ำเข้าตาค่ะ ห้ามล้างหน้า (เช็ดหน้าด้วยน้ำสะอาดได้ จขกท.หมดกระดาษซับมันไปเป็นกล่องเลย) สระผมที่ร้านได้ อาบน้ำแปรงฟันได้ หยอดยาฆ่าเชื้อวันละ 4 ครั้ง (ห้ามเกิน และห้ามสลับตากันระหว่างยา 2 ขวด) ห้ามขยี้ตา หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ ถ้ามีอะไรเข้าตาให้หยอดน้ำตาเทียมเยอะๆจนกว่าจะหลุดออกมา ใส่ฝาครอบตาตอนนอน (กันขยี้ตาไม่ตั้งใจ) ห้ามว่ายน้ำดำน้ำ ห้ามแต่งหน้าทาครีม ออกไปข้างนอกให้ใส่แว่นกันแดดกันลมกันฝุ่น

ผ่านไปสัปดาห์นึง ก็ไปตรวจอีกรอบ วัดสายตาคราวนี้อ่านได้ใต้เส้น 20/20 บรรทัดนึง ดีใจมาก คราวนี้คุณหมอบอกว่าแผลสมานกันดีแล้ว ให้หยุดหยอดยาฆ่าเชื้อได้ แต่ก็ยังห้ามขยี้ตาอยู่ ล้างหน้าได้แล้ว แต่ยังห้ามว่ายน้ำดำน้ำและห้ามแต่งหน้าต่อไปอีก 1 สัปดาห์ ไม่ต้องครอบตาตอนนอนแล้ว

ทีนี้ตั้งแต่ผ่ามาเสร็จ จขกท.มองเห็นตอนกลางวันชัดมากค่ะ ขับรถได้ตั้งแต่วันที่ 3 แต่พอตอนกลางคืน (หรือในที่มืดเช่นที่จอดรถ) มีปัญหาว่ามองเห็นแย่ลง (โชคดีไม่มีปัญหาแสงกระจาย) มันรู้สึกว่ารอบข้างมืดมาก ทำไมถนนไม่เปิดไฟ 555 ก็ปรึกษาคุณหมอ คุณหมอบอกว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ใช้เวลา 3-6 เดือน

ตอนนี้ผ่านมา 2 สัปดาห์กว่าแล้ว ก็ดีขึ้นจริงๆค่ะ แต่มันยังไม่คงที่ คือ บางวันก็ดีเชียว บางวันก็อ้าว แย่ลงอีกแล้ว แต่สรุปโดยรวม พอใจมากค่ะ เพราะเรื่องมองเห็นแย่ตอนกลางคืน จขกท.เป็นมาตั้งแต่ก่อนผ่าแล้วค่ะ แต่มันไม่แย่ขนาดนี้เท่านั้น คือตอนนี้ประมาณเหมือนแต่ก่อนใส่แว่นแล้วขับรถตอนกลางคืนน่ะค่ะ มันไม่ชัดเท่าใส่คอนแทคเลนส์แล้วขับรถตอนกลางคืน แค่นั้น คือจำได้ว่าเคยชัดกว่านี้ได้ ก็รอกันต่อไปค่ะว่าจะดีขึ้นอีกมั้ย

นัดอีกที 1 เดือน 3 เดือน แล้วก็ 1 ปีค่ะ

จบแล้วค่ะ ยาวเนอะ :)

จากคุณ : อ้อมแม่น้องวิน
เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 23:45:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com