Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จงทำอาหารให้เป็นยา และทำยาให้เป็นอาหาร ติดต่อทีมงาน

Let food be your medicines and medicines be your food”
หรือ “จงทำอาหารให้เป็นยา และทำยาให้เป็นอาหาร”
เป็นคำที่ ฮิปโปรเครตีส บิดาแห่งการแพทย์ของชาวกรีกได้กล่าวไว้
เมื่อ 400 ปีก่อนคริสตกาล แม้ว่าทุกวันนี้โลกจะมีความเจริญก้าวหน้า
อย่างมากในหลายด้าน รวมถึงความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์
แต่คำกล่าวนี้ไม่ได้ล้าสมัยไปตามกาลเวลา
กลับเป็นศาสตร์ที่ผู้คนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง

   ในอดีตมีหลายวัฒนธรรมที่นำพืชผักสมุนไพร เครื่องเทศ
และสัตว์ชนิดต่างๆ มาใช้ในการประกอบอาหารเพื่อช่วยบำรุงสุขภาพ
และรักษาอาการโรคบางชนิด หรือที่ทุกวันนี้มีการจัดศาสตร์เหล่านี้ว่า
เป็นแพทย์แผนโบราณหรือภูมิปัญญาชาวบ้าน จนกระทั่งถึงปัจจุบัน
ก็ยังคงมีการค้นคว้าเชิงลึก ถึงสารในอาหารที่มีสรรพคุณช่วย
ในการป้องกันหรือรักษาโรค ซึ่งสารเหล่านั้นแบ่งได้หลายประเภท
และมีชื่อเรียกมากมาย เช่น สารพฤกษเคมี สารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
และมีการสกัดสารทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปของเม็ดยาราคาแพง
หลากหลายชนิดอีกด้วย
   อย่างไรก็ดีสารทุกชนิดที่อยู่ในอาหารมีการทำงานร่วมกันอย่างสมดุล
การกินอาหารเป็นยาย่อมให้ผลดีต่อสุขภาพโดยรวมมากกว่ามีรสชาติอร่อย
และราคาถูกกว่าการกินในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดสาร
เพียงชนิดเดียวออกมา ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการได้รับสารบางชนิด
มากเกินไปด้วย ลองมาดูกันว่าอาหารที่คุณชอบมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
อย่างไร และมีเหตุผลดีๆ อะไรบ้างที่จะทำให้คุณเปลี่ยนใจมา
รับประทานอาหารที่ไม่ค่อยชอบให้บ่อยมากขึ้น

ที่มา
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=286012

จากคุณ : ไก่แดง
เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 21:42:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com