Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คนไข้มะเร็งคนแรกของผม ติดต่อทีมงาน

ผมเล่นห้องสวนลุมมาก็ประมาณ 2 ปีแล้วมีคนไข้ที่ปรึกษาผ่านหลังไมค์ก็หลายคนทั้งมะเร็งและไม่ใช่มะเร็งแต่คนๆนี้คือคนแรกจริงๆทั้งสำหรับ Oncodog และตัวจริงของผมในฐานะหมอมะเร็งเคมีบำบัด ถึงแม้ว่าจะเคยได้ดูแลคนไข้มะเร็งมาเป็นร้อยแต่คนไข้คนนี้คือคนแรกจริงๆที่ผมเป็นคนตัดสินใจเองในการรักษาทั้งหมด

วัตถุประสงค์ของการเล่าเรื่องราวนี้ผมอยากให้คนอื่นๆได้รับรู้ว่าคนไข้มะเร็งที่รับการรักษาแผนปัจจุบันเป็นอย่างไร(ผ่านสายตาของหมอ) กระบวนการรักษาเป็นอย่างไร(แม้ว่ามันจะเป็นอุดมคติไปหน่อย) และเป็นการย้ำเตือนความทรงจำของผมเอง

28 กุมภาพันธ์ 2555 มีข้อความมาทางหลังไมค์เพื่อขอคำปรึกษาเรื่องราวในนั้นเล่าให้ฟังว่าคนไข้ชายอายุ 65 ปีแล้วเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้ายไปรู้ตอนผ่าตัดจึงไม่ได้ตัดกระเพาะแต่วางสายยางให้อาหารไว้ หมอเคมีบำบัดในรพ.แห่งนั้นบอกว่าคนไข้อยู่ได้ไม่นานการให้เคมีบำบัดจะทำให้ยิ่งทรุด แล้วก็ถามคำถามว่าในกรณีนี้ไม่มีทางจะรักษาเลยหรือ เขาไม่ได้หวังให้หายขาดแต่เขาอยากขอรับโอกาสในการรักษาให้คนไข้ดีขึ้นบ้าง

16 มีนาคม 2555 แม้ว่าผมจะตอบตกลงที่รับปรึกษาเคสให้โดยไม่ได้รับปากว่าจะให้เคมีแน่ๆเพราะต้องประเมินก่อน แต่กว่าคนไข้จะมาพบผมครั้งแรกก็ผ่านมา 17 วันเพราะคนไข้เริ่มมีปัญหากินไม่ได้อ่อนเพลียมากจนกระทั่งวันนัดแรกต้องเลื่อนไปเพราะอ่อนเพลียมาก ประมาณ 8.20น. พยาบาลก็เข้ามาถามผมว่ามีญาติคนไข้บอกว่ารู้จักผมขอเข้ามาพบ ผมอนุญาตให้พบเลยเพื่อที่จะไม่ได้กวนเวลาคนไข้นัดมากนักกะเอาว่าครึ่งชั่วโมงก็น่าจะเพียงพอกับการพูดคุย ระหว่างที่กำลังดูแฟ้มประวัติและฟิล์มประตูห้องตรวจพร้อมกับชายสูงอายุที่ผอมมากๆนั่งเอนหลังมาบนรถเข็นผู้ป่วย ผมถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้เพราะนี่หมายถึงคนไข้ไม่ได้แข็งแรงมากอย่างที่ผมอยากจะให้เป็นหากจะให้ยา ผมดูข้อมูลต่างๆพบว่ามะเร็งแพร่กระจายในช่องท้องแล้ว มีก้อนหนึ่งกดไตอยู่ด้วย ผมคำนวนผลเลือด.....อืม.....ยังสามารถให้ยาได้อยู่ 50นาทีผ่านไปกับการให้ความรู้เกี่ยวกับโรค ทางรักษาที่มี และ ทางที่พอจะเป็นไปได้โชคดีที่คนไข้นัดวันนั้นผลเลือดยังไม่ออก

ผมบอกตามตรงว่าผมเห็นด้วยกับหมอคนเดิมว่ามันอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีและอาจจะไม่ได้ประโยชน์กับตัวคนไข้ แต่ หากจะทดลองผมก็พร้อมและตกลงกันที่วางระยะเวลาเริ่มต้นไว้แค่หนึ่งเดือนก่อน แต่ผมต้องขอดูก่อนว่าคนไข้มีความตั้งใจจริงแม้ว่าผมจะให้ข้อมูลในเชิงไม่สนับสนุนนแบบเต็มที่แล้วและคนไข้ไหวจริงๆโดยเฉพาะกับการเดินทางที่สุดแสนทรมาณ(บ้านไม่ไกลกันมากเลยรู้ว่ามันเหนื่อยแค่ไหนครับ) ผมจึงนัดมาเริ่มยาในสัปดาห์ถัดไป

23 มีนาคม 2555 ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมคิดอยู่ตลอดว่าผมกำลังตัดสินใจผิดหรือไม่ที่จะเอาคนไข้ที่ไม่แข็งแรงมากนักมาให้เคมีบำบัด ผม...จะกล้าให้ยาในคนไข้ที่มีอาจารย์หมอประเมินแล้วว่าไม่เหมาะกับการรักษาหรือไม่

แม้ผมจะเตรียมใจมาเต็มที่แล้วว่าผมมั่นใจว่าการรักษาจะบังเกิดประโยชน์แก่คนไข้ แต่พอเอาเข้าจริงผลเลือดวันที่จะเริ่มยากลับเลวร้ายกว่าผลเลือดเดิมที่เคยเจาะมาซึ่งเข้าได้กับประวัติที่คนไข้กำลังทรุดลงเรื่อยๆ ไตวายจนกระทั่วยาตัวหนึ่งในสูตรที่เลือกไว้ใช้ไม่ได้ โดยปกติเมื่อคุยวางแผนแล้วการพบกันของคนไข้ของผมจะสั้นลงอย่างเหลือเชื่อเพื่อให้ทันกับการตรวจคนไข้ทั้งหมด แต่ ตอนนี้ผมต้องเริ่มต้นคุยอีกครั้งว่าไตมันเริ่มมีปัญหา ผมต้องลดยาลงซึ่งอาจจะลดประสิทธิภาพลงไปด้วย ผมวางเป้าหมายเลยว่า "ผมไม่คิดว่ามันอาจจะตอบสนองจนยุบลงจนเห็นได้ชัด แต่ ผมหวังไว้ให้คุณลุงแข็งแรงขึ้น เป้าหมายสูงสุดคือให้กลับมากินทางปากได้" ซึ่งคุณลุงและครอบครัวตกลงตามนั้น การจะเข้ารับการรักษานั้นผมได้พยายามชี้ให้เห็นแล้วว่าชีวิตคุณลุงจากนี้จะต้องวนเวียนอยู่กับรพ.คุณลุงมีอีกทางเลือกคือเอาเวลาที่เหลือไปเที่ยวไปทำอะไรที่อยากทำ แต่คุณลุงและครอบครัวตกลงที่จะลองรักษาดู

ผมกลับมาคิด Check List หรือสิ่งจำเป็นก่อนการให้เคมีบำบัด
1 คนไข้เป็นมะเร็งจริงๆ - ข้อนี้ไม่สงสัยผลตรวจที่เดิมยืนยันผลชิ้นเนื้อมาแล้ว
2 มะเร็งมีการตอบสนองต่อยาที่ให้โดยข้อมูลการวิจัย - ข้อนี้มีข้อมูลชัด
3 คนไข้แข็งแรงพอเหมาะสมกับการรักษา - อืม....ก็พอไหว
4 สูตรที่ใช้มีการศึกษาแน่ชัด - อันนี้มีปัญหาเล็กน้อยเพราะแม้ยาที่ใช้จะใช่แต่วิธีการให้เนื่องจากตัดยาออกตัวหนึ่งวิธีให้จึงไม่ตรงกับสูตรใดๆในโณคมะเร็งกระเพาะ แต่ อย่างน้อยก็มีข้อมูลที่ดีในมะเร็งลำไส้ ผมแจ้งครอบครัวตามจริงตามนี้ครับ
5 มีจุดหรืออะไรที่ใช้บ่งชี้หรือติดตามการตอบสนอง - ผมอยากทำ CT เพราะการแพร่กระจายในช่องท้องนั้นมันตรวจทางร่างกายลำบากแต่ไตคนไข้กำลังวายผมคงไม่เอาคนไข้ไปเสี่ยง สุดท้ายจึงต้องพึ่งอะไรที่ไม่ได้แน่ชัดอย่างค่าบ่งชี้มะเร็งในที่นี้ผมเลือก CEA CA199 ซึ่งผลที่กลับมาผมเลือก CEA เพราะมันสูงมากทีเดียวราวๆ 1600 สำหรับปอดก็มีเอกซเรย์แต่มันไม่แน่ชัดอาจจะเป็นการติดเชื้อจากการที่กินแล้วอาเจียนก็ได้

เงาแห่งความผิดพลาดก่อตัวขึ้นในเย็นวันนั้นเมื่อพยาบาลจากรพ.โทรมาแจ้งผมว่ายาที่ผมให้เพื่อลดเกลือแร่ Potassium ซึ่งสูงจากไตที่วายนั้นมันอุดตันสายยางให้อาหารจนไม่สามารถให้อาหารไต ผมเอามือก่ายหน้าผากใจจริงอยากเอาเท้าก่ายหน้าผากแต่กำลังอยู่นอกบ้าน ผมกำลังคิดผิดหรือไม่แค่เริ่มยาอ่อนๆก่อนคนไข้ยังเจอปัญหาแบบนี้ โชคดีที่รพ.ที่เป็นโรงดรียนแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียงสามารถเปลี่ยนสายใหม่ให้ผมได้ ผมเปลี่ยนการให้เป็นการสวนก้นแทนซึ่งได้ผลเหมือนกันและให้รอเคมีบำบัดไปเริ่มวันรุ่งขึ้นแทน

24 มีนาคม 2555 เค้าของความยุ่งยากอย่างที่สองมาเยือนอีกทีตอนกำลังจะขับรถพาลูกและภรรยาไปเดินเล่นที่ห้างเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผลเลือดหลังให้ยาลด Potassium คนไข้กลับมีค่าสูงขึ้นในระดับวิกฤติเสี่ยงต่อหัวใจวาย แต่ผมแปลกใจเพราะคนไข้ปัสสาวะก็ออกดี ที่สวนยาก็ถ่ายออกดีไม่น่ามีเหตุผลให้มันสูงขนาดนี้ ผมสั่งผ่านโทรศัพท์เบื้องต้นและให้แจ้งหมอเวรทราบทันทีด้วยความติดใจของผมจึงสั่งให้เจาะซ้ำอีกทีด้วย

ในที่สุดมันก็รบกวนใจผมจนต้องเลี้ยวรถเดินทางชั่วโมงกว่าๆไปที่รพ.แห่งนั้นเพื่อดูแลด้วยตัวเองจนได้ และก็เป็นไปตามคาดว่าผลเลือดเมื่อตรวจซ้ำมันต่ำกว่าวันแรกเสียอีกซึ่งเข้าได้กับการรักษา บ่ายวันนั้นภรรยาและลูกผมนอนหลับด้วยความเพลียจากการเดินทาง ข้าวก็ไม่ได้กินตามเวลาอาศัยร้านสะดวกซื้อตามปั๊มประทังไปก่อน แต่อย่างน้อยผมสบายใจขึ้น

26 มีนาคม 2555 ผมแปลกใจกับโทรศัพท์จากรพ.แห่งนั้น มีคนหวังดีกลัวคนไข้จะมี Potassium สูงไปเลยสั่งตรวจซ้ำให้ในเช้าก่อนวันกลับบ้าน ซึ่ง อีกครั้งที่สูงมากคราวนี้ผมบอกเลยว่าขอตรวจซ้ำก่อนแล้วผลก็เป็นดังเดิมคือไม่สูงและลดกว่าสองวันก่อนด้วยซ้ำไป สาเหตุที่สงสัยก็คือเลือดถูกเจาะแต่เช้ามืดก่อนจะทิ้งไว้เพื่อตรวจตอนสายๆอาจจะมีการแตกของเม็ดเลือดไปบ้าง แต่เอาเถอะคนไข้ได้กลับบ้านในที่สุด

4 เมษายน 2555 กลับมาให้รอบที่สองผลเลือดต่างๆโดยเฉพาะความสมบูรณ์เม็ดเลือดปกติ เรื่องไตก็กลับมาแข็งแรงขึ้นซึ่งคไม่ได้เป็นผลจากมะเร็งแต่น่าจะเป็นจากการที่คนไข้กินได้น้อยเพราะแม้จะมีสายยางแต่คนไข้กลับรับได้น้อยมากทั้งวันขาดทั้งพลังงานและน้ำ อาการโดยรวมเท่าๆเดิมแต่คนไข้กำลังใจดีขึ้นที่ผ่านเคมีบำบัดรอบแรกไปได้ เราตัดสินใจเดินหน้ารอบที่สองกันต่อ ครั้งนี้การให้ผ่านไปด้วยดี

11 - 12 เมษายน 2555 ญาติคนไข้โทรมาหาเพื่อปรึกษาว่าคนไข้มีไข้ 38 ทำอย่างไรดีเพราะปกติคนไข้ที่ได้ยาเคมีบำบัดทุกรายจะได้รับคำแนะนำว่าหากมีไข้ควรพบแพทย์ทันที เนื่องจากคนไข้มีอาการโดยรวมค่อนข้างปกติจากคำบอกเล่านอกจากอาการไอ และเคมีที่ได้มีโอกาสเกิดภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำน้อย ที่สำคัญญาติที่ดูแลก็เคยเป็นพยาบาลมาก่อน ผมตัดสินใจแนะนำว่าหากไม่มีไข้อีกรอบก็ไม่ต้องทำอะไรแต่หากมีไข้อีกควรจะไปเจาะเลือดแล้วโทรบอกผม สายๆวันรุ่งขึ้นญาติคนเดิมก็โทรมาแจ้งผลเลือดเพราะตอนกลางคืนที่ผ่านมามีไข้ขึ้นมาอีก ผลเลือดก็เป็นไปตามคาดคือยังอยู๋ในเกณฑ์ปกติ ผมให้ทางเลือกคือพาไปตรวจที่รพ.ให้หมอช่วยประเมินหรือถ้าคิดว่าอยากจะสังเกตอาการต่อผมจะสั่งยาฆ่าเชื้อให้กิน ซึ่งครอบครัวคนไข้เลือกที่จะทานยาฆ่าเชื้อมากกว่า อาการไข้และไอก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ

18 เมษายน 2555 วันนี้เป็นครั้งที่สามที่คนไข้มารับยาเคมีบำบัด ผลเลือดความสมบูรณ์เม็ดเลือด ค่าไต ปกติดี อาการต่างๆดีขึ้นโดยรวมคนไข้บอกว่ารู้สึกแข็งแรงขึ้นเริ่มทานทางปากได้ ค่า CEA ลดลงจาก 1600 เหลือ 1100 ผมนั่งคุยกับญาตินานๆอีกครั้งเพราะครั้งนี้ผมกำลังจะตัดสินใจเดินหน้าการรักษาให้เต็มที่ด้วยยาที่ยังขาดไป การพูดคุยค่อนข้างนานเพราะครอบครัวดูเหมือนจะพอใจกับยาที่ได้อยู่แล้วแต่ผมอยากจะให้ได้เต็มที่เพราะรู้ดีว่าลำพังยาที่ให้อยู่มันอาจจะตอบสนองได้ไม่นานนักแต่การให้นั้นผมก็บอกเช่นกันว่าคนไข้ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงพออย่างที่ผมอยากให้เป็น ในที่สุดข้อสรุปก็ออกมาที่จะเริ่มยาตัวนี้ในรอบนี้

4 พฤษภาคม 2555 สองสัปดาห์ที่ผ่านมาญาติเงียบหายไปเลยผมกังวลไม่ใช่น้อยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไข้หรือไม่ ผมนั่งตรวจด้วยใจที่กังวลเพราะคนแล้วคนเล่าก็ยังไม่เห็นคนไข้รายนี้จนเกือบเที่ยงพี่พยาบาลก็ส่งแฟ้มคนไข้รายนี้มาให้ ประตูเปิดออกกว้างพร้อมกับคนไข้ที่ค่อยๆเดินเข้ามาด้วยขาของตนเองไม่ต้องพึ่งรถเข็นอีกแล้ว ที่สำคัญคือตอนนี้คนไข้ดูแข็งแรงขึ้นเพราะสามารถกินทางปากได้มากพอจนแทบจะไม่ได้ใช้สายยางให้อาหารอีกแล้ว

ในที่สุดเป้าหมายแรกของผมกับคนไข้ก็บรรลุในที่สุดผมเดินหน้าต่อกับการรักษา ผมเองไม่รู้ว่าที่สุดแล้วการรักษาจะไปสิ้นสุดที่ใด ไม่รู้ว่าจะทำให้คนไข้อยู่ได้นานไปกว่าที่หมอคนก่อนประเมินหรือไม่(ซึ่งผมเองเห็นด้วยว่าไม่น่าจะแตกต่าง) แต่อย่างไรก็ตามการทำให้คนไข้กลับมากินทางปากได้อีกครั้งผมคิดว่าแม้อาจจะไม่ได้ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้นแต่คนไข้ก็คงจะมีความสุขอย่างน้อยก็ระยะหนึ่ง

ปล.นี่เป็นเพียงแค่ประสบการณ์หนึ่งเท่านั้นเอง แน่นอนในการรักษาคนไข้ที่ไม่ได้ผลดีก็มี ผลของการรักษาเป็นจากความรู้ของการรักษาด้วยแผนปัจจุบันไม่ใช่ความพิเศษของผมแต่อย่างใด ผมเป็นแค่คนที่ถ่ายทอดมันออกมาเท่านั้นเองครับ ความจริงมีประสบการณ์น่าประทับใจอีกมากของหมอทุกท่านๆแต่บังเอิญผมว่างพอจะเล่าสู่กันฟังครับ

จากคุณ : oncodog
เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 55 10:05:09




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com