ความคิดเห็นที่ 1 ความเป็นมาเป็นไปของกรณีนี้คือ     คุณย่าของเพื่อนสมาชิกเราคือคุณ deerja ได้เสียชีวิตที่ จ.จันทบุรี คุณย่าได้แจ้งเจตุจำนงบริจาคร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ไว้ที่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ศิริราชฯ   ทางคุณอาจึงแจ้งทางภาควิชาไป โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า เนื่องจากอยู่นอกเขต จึงต้องมีค่าใช้จ่าย ทางญาติก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการจ่ายเงิน เพราะต้องการให้คุณย่าได้เป็นอาจารย์ใหญ่สมตามเจตจำนง เมื่อเจ้าหน้าที่รับร่างอาจารย์ใหญ่จากภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เดินทางด้วยรถของภาควิชาฯ มารับร่างอาจารย์ใหญ่ คือคุณย่าของคุณ dearja จากคุณอาซึ่งเป็นผู้แจ้ง  ได้เรียกเงินดังนี้ ค่าน้ำมันรถ 4000 บาท ค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ 2500 บาท และบังอาจหลอกขายโลงศพ ราคา 7500 บาท ทั้งที่ในความเป็นจริง ไม่มีความจำเป็นใดๆ ต้องใช้โลง รวมเป็นเงินที่ทางเจ้าหน้าที่เรียกไป 14000 บาท ปัญหาเกิดขึ้น เพราะเมื่อทางญาติจ่ายเงินไป โดยเข้าใจว่าเป็นการจ่ายให้กับทางภาควิชา ซึ่งทางญาติคงไม่มีปัญหา   แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เป็นการเรียกรับเงินเองโดยพลการของเจ้าหน้าที่  จึงได้ตั้งกระทู้สอบถาม และมีอาจารย์จากภาควิชาฯ ออกมายอมรับว่าเจ้าหน้าที่กระทำการโดยพลการ เรียกรับเงินจริง หลอกขายโลงศพที่ไม่จำเป็นต้องใช้จริง ได้ลงโทษโดยการพักงานเจ้าหน้าที่ 6 เดือน  แต่ยังไม่มีการคืนเงิน หรือแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมใดๆ มากไปกว่านี้   link กระทู้ต้นเรื่องและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องครับ กระทู้ต้นเรื่อง http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2011/11/L11392286/L11392286.html http://topicstock.pantip.com/social/topicstock/2011/11/U11391340/U11391340.html http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2011/12/L11496328/L11496328.html ส่วนนี้เป็นเพจของเรื่องนี้ครับ http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%881mUser%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88/341099479264845 แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 55 19:34:01 จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 19:17:32

ความคิดเห็นที่ 2 บริจาคร่างกายไว้เหมือนกัน มารอดูความคืบหน้า จากคุณ : น้ำย่อย เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 19:18:45

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อมีการพูดถึงกรณีนี้มากขึ้นในอินเตอร์เน็ต ทางภาควิชากลับมองว่าทางญาติของคุณย่า โดยเฉพาะคุณ deerja ต้องการดิสเครดิตภาควิชา   และหัวหน้าภาควิชาได้ทำหนังสือราชการ แจ้งว่าจะคืนศพคุณย่าพร้อมเงิน  ซึ่งเป็นการประชดประชัน และทำร้ายเจตนารมณ์ทั้งของคุณย่าเอง และญาติๆ ที่ต้องการให้คุณย่าได้เป็นอาจารย์ใหญ่ เพียงแต่อยากให้ทางภาควิชาดำเนินการต่างๆ อย่างเป็นมาตรฐาน ไม่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ใช้ทรัพยากรของภาควิชา ไปทุจริตหลอกเรียกรับเงินจากญาติอาจารย์ใหญ่เท่านั้น หนังสือราชการจากภาควิชาฯ ส่งถึงญาติครับ จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 19:21:33

ความคิดเห็นที่ 4 จนถึงวันนี้ กรณีนี้ยังคงคาราคาซังอยู่ ทางญาติเองยังไม่แน่ใจว่าคุณย่าจะได้เป็นอาจารย์ใหญ่สมเจตนาหรือไม่   ผู้บริหารทุกระดับของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชรับทราบเรื่องนี้ แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ทางภาควิชา ไม่ออกมาแจ้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ มีการแก้ไขกฏเกณฑ์ปิดช่องทางในการทุจริตของเจ้าหน้าที่มากไปกว่าแค่ออกมาบอกว่า ต่อไปไม่มีการออกไปรับร่างนอกเขตเด็ดขาด ผมเอง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ มากไปกว่าการเป็นผู้หนึ่งที่แจ้งเจตจำนงบริจาคร่างตัวเองไว้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อได้เห็นภาควิชาที่เราเชื่อมั่น ศรัทธา กลับล้มเหลวในการบริหารจัดการ บุคลากรไม่มีคุณธรรมจริยธรรม ไม่มีใครเป็นเดือดเป็นร้อนต่อการที่บุคลากรในสังกัดเดียวกันฉวยโอกาสหลอกเรียกรับเงินจากญาติผู้บริจาคร่าง จึงออกหน้ามาเป็นผู้เปิดกระทู้นี้   การที่เจ้าหน้าที่เรียกเงินค่าน้ำมัน ค่าเบี้ยเลี้ยง ผมยังพอรับได้ แม้จำนวนเงินที่เรียกออกจะมากเกินกว่าความเหมาะสม แต่กรณีที่เจ้าหน้าที่หลอกบังคับขายโลงศพ เป็นสิ่งที่ผมไม่อาจยอมรับได้   น่าเศร้าที่ทางภาควิชาฯ มองว่านี่เป็นเรื่องปกติ และไม่ได้แสดงออกมาว่าได้มีการแก้ไขเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมแล้วหรือไม่อย่างไร จึงขอตั้งกระทู้ต่อ  จนกว่าทางภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ศิริราชฯ จะออกมาบอกกับสังคมว่า ปัจจุบัน ภาควิชาฯ ได้ดำเนินการกับร่างของคุณย่าอย่างไร คุณย่า จะได้เป็นอาจารย์ใหญ่สมเจตนาหรือไม่ ทางภาควิชาจะจัดการเรื่องเงินที่เจ้าหน้าที่เรียกรับอย่างไร โดยเฉพาะกรณีโลงศพที่ผมติดใจมากๆ จะคืนให้ทางญาติหรือไม่ และปัจจุบัน ระเบียบปฏิบัติเป็นอย่างไร มีการแก้ไขช่องโหว่ของระบบอย่างเป็นรูปธรรมหรือยัง สำหรับประเด็นอื่นๆ ความเป็นมาเป็นไปอย่างละเอียด เรื่องเลวร้ายต่างๆ ที่ทางญาติได้พบเจอ ผู้ที่สนใจ สามารถตามอ่านในกระทู้ต้นเรื่องต่างๆ ที่ให้ไว้ได้เลยนะครับ และอย่างเดิม รบกวนทุกท่านโหวตกระทู้ต่อไป จนกว่าการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมจะบังเกิดนะครับ แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 55 19:29:21 จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 19:28:48

ความคิดเห็นที่ 5 ตามไปโหวตกระทู้เก่าอยู่เป็นสิบครั้งแต่โหวตเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นแนะนำ เข้าใจว่าทางเวบคงมีกฎในการโหวต (หาอ่านแล้ว แต่ยังหาไม่เจอ ใครทราบกติการใครการโหวต รบกวนเฉลยด้วยค่ะจะขอบพระคุณ) รอดูกันต่อไปว่าสถาบันการแพทย์ชั้นนำของประเทศมีความรับผิดชอบแค่ไหน จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 22:08:36

ความคิดเห็นที่ 6 โหวตแล้วค่ะ ติดตามมาตลอดและจะติดตามต่อไปค่ะ ถ้าผู้บริหารรักศิริราชจริงๆ ออกมาแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจเถอะค่ะ จากคุณ : pukkies เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 22:46:18

ความคิดเห็นที่ 7 เก็บเข้าคลังกระทู้ค่ะ ถ้าออกสื่อมากกว่านี้คนคงเสื่อมศรัทธากันหมด จากคุณ : สาวเจ้าสำราญค่ะ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 23:11:12

ความคิดเห็นที่ 8 โหวตครับ   ติดตามอยู่ จากคุณ : ปูนปู๊นปู๊น (Dreamspoon) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 00:32:13

ความคิดเห็นที่ 9 ตามโวตทุกวัน ให้รู้กันไปว่าศิริราชไม่แคร์ที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง จากคุณ : ปราณ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 00:38:06

ความคิดเห็นที่ 10 เทวดาพวกนี้ อัตตามันสูง ผมบอกได้แค่นี้ จากคุณ : เดินดงพงไพร เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 08:39:12

ความคิดเห็นที่ 11 ตามมาโหวต จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 09:44:38

ความคิดเห็นที่ 12 จัดไปครับ โหวจพร้อมกีบ จากคุณ : ตะโกครับ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 13:16:30

ความคิดเห็นที่ 13 โหวตจ้าา ตอนงานกาชาด แม่ชวนให้บริจาคร่างกาย(คือบริจาคตาและอวัยวะอยู่แล้ว) เราก็รีบดูก่อนเลยของที่ไหน พอไม่ใช่ที่นี่ก็เลยตกลง แม่ละญาติก็ถามว่าทำไม  เราก็เล่าเคสนี้ไป ทุกคนก็ตกใจพอควร ศิริราชไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกลัวงานเยอะแล้วนะคะ อย่างน้อยเราก็ลดให้แล้วเกือบสิบคนค่ะ จากคุณ : ukaito เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 13:31:15

ความคิดเห็นที่ 14 ก็ว่ากระทู้เก่าหายไปไหน หาไม่เจอตกใจมากเลยค่ะ เฮ้อ! จากคุณ : มันเผาตัวน้อย เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 13:42:46

ความคิดเห็นที่ 15 ตามมาโหวตครับ   อยากให้ จขกท. รู้ว่า มีคนตามเป็นกำลังใจให้อยู่ครับ อ่านไฟล์ประกอบ คห 3 แล้วรู้สึกอึ้ง ทึ้ง แย่ มากครับ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 55 13:55:57 จากคุณ : Little_Slam เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 13:52:24

ความคิดเห็นที่ 16 ตามมาโหวตครับสงสัยจะครบปี จากคุณ : aniinc เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 13:52:30

ความคิดเห็นที่ 17 โหวตต่อ จากคุณ : อิฐมอญ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 13:55:33

ความคิดเห็นที่ 18 โหวตกันต่อไป จนกว่าจะได้ความชัดเจน จากคุณ : Michka เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 13:59:29

ความคิดเห็นที่ 19 โหวตโลด จากคุณ : ใส่พริกเม็ดเดียว เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 16:24:45

ความคิดเห็นที่ 20 ผมอ่านจดหมสยชี้แจง ก็ชัดเจน นะ ค่าโลง 7500 ค่าเดินทาง 4000  ค่า พนง.2500 กรณีนี้ ค่าโลง แพงไป ใช่ไหม เพราะคุณย่าก็ไม่ได้ใช้ ญาติที่ จะส่งร่าง น่าจะบอกให้ ใส่เปลหาม เอาผ้าคลุมไป ก็ได้ แต่ค่า พนง. และ ค่าเดินทาง ผมว่า เขากำหนดไว้ก่อนหน้า เราคงต้องจ่าย บางคนบอกว่า ค่าเคิมน้ำมัน ไม่ถึงหรอก แต่ ค่าโสวหุ้ย ซ่อมบำรุง ด้วย ค่า พนง. ผมไม่รู้ว่าไปกี่คน หากไป 2คน ก็คนละพันกว่าบาท ครับ  ออกทำงานนอกพื้นที่ ช่างที่ออฟฟิสผมก็ได้ 2แรง เดินเข้าไปพบอาจารย์หมอ แล้วนั่งคุยกันเหอะ ทำแบบนี้ พวกสิงห์ตีย์บอร์ด ด่าเอามันส์ ก็มีความสุข แต่คุณย่า ก็คงไม่มีความสุข ตามเจตนารมย์ หรอก พวกหลานๆ เอาเคสมาแห่ จากคุณ : SuperCrazyBoy เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 17:14:57

ความคิดเห็นที่ 21 ติดตามมาตั้งแต่ต้นครับ ใครที่บอกว่า ด่าเอามันส์ อยากให้กลับไปอ่านก่อน ว่ากว่าจะมาถึงตรงนี้ ที่ศิริราชเลือกที่จะเงียบและเก็บปัญหาไว้ใต้พรม ทางผู้เสียหายได้ติดต่อสอบถาม รวมทั้งเข้าไปคุยแล้วหลายครั้ง แต่ทางผู้บริหารไม่เข้าใจปัญหาที่แท้จริงและฝังใจว่าทางผู้เสียหายต้องการเงินและดิสเครดิต ซึ่งเป็นการคิดที่อุดมไปด้วยอคติ ดังนั้นปัญหามันจึงไม่จบ ถ้าทางผู้บริหารจะได้ใช้สติ วิจารณญานที่คิดว่าคงมีเหลืออยู่บ้าง มานั่งอ่านและทำความเข้าใจว่าผู้ที่มาโพสและผู้เสียหายต้องการอะไร ก็คงจบปัญหาไปได้นานแล้ว สิงห์คีย์บอร์ดตัวจริงคือคนที่เอาแต่พิมพ์เข้าไปโดยไม่พยายามอ่านและทำความเข้าใจครับ จากคุณ : AJ_da_NR เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 17:33:04

ความคิดเห็นที่ 22 จะชี้แจงสำหรับท่านที่ไม่ได้รับทราบเรื่องราวมาตั้งแต่ต้น เช่นคุณ SuperCrazyBoy และท่านอื่นๆ ที่อาจจะสงสัยอย่างเดียวกัน และอาจไม่มีเวลาได้ตามอ่านจากกระทู้ต้นเรื่องซึ่งยาวไม่น้อย เรื่องแรก ค่าโลงศพก่อน ในกระบวนการมารับร่าง  นำร่างใส่รถ จนถึงการเตรียมร่างเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่และการดอง ไม่มีขั้นตอนใดที่ต้องใช้โลงศพครับ ทางอาจารย์ของภาควิชาฯ  ที่ออกมาชี้แจงในกระทู้ต้นเรื่องต่างๆ ก็ยอมรับว่าไม่มีขั้นตอนใดที่ต้องใช้โลง ดังนั้น ที่เจ้าหน้าที่อ้างเรื่องโลงศพมา ก็เพียงเพื่อหลอกเรียกรับเงินให้มากขึ้นเท่านั้น การไปรับร่าง ไม่มีการเตรียมโลงใดๆ ไปทั้งสิ้น  แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับเสนอค่าโลงศพมาหลายราคา แบบอื่นๆ ราคาถึงหลักหมื่น ทางญาติๆ คุณย่า ต่อรองขอจ่ายค่าโลงในราคา 7500 บาท ซึ่งเป็นราคาแบบถูกที่สุดที่เจ้าหน้าที่เสนอมา จ่ายไปโดยไม่ทราบแม้แต่น้อย ว่าจะต้องใช้โลงตอนไหนอย่างไร แต่ต้องจ่ายเพื่อรักษาเจตนารมณ์ของคุณย่าที่ตั้งใจไว้เท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้น เจ้าหน้าที่จะโยกโย้ เราไม่มีหลักฐานว่าการไปรับร่างผู้บริจาค ทั้งในและนอกเขตของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ศิริราชฯ มีการหลอกขายโลงศพเช่นนี้มากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่านี่ไม่ใช่กรณีแรกครับ จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 19:34:03

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องที่สอง ค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าน้ำมัน การมารับร่างนอกเขต ต้องมีค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันและค่าเบี้ยเลี้ยง ยังพอยอมรับได้ แต่ควรจะเป็นการจ่ายที่เงินที่จ่าย จ่ายให้ภาควิชา มีใบเสร็จรับเงินเรียบร้อยครับ จากนั้นทางภาควิชาจะเอาเงินส่วนนี้ไปจ่ายให้เป็นเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่  ค่าซ่อมบำรุงรถ ค่าน้ำมันอย่างไร ก็คงไม่มีใครมีปัญหา แต่กรณีนี้ ไม่มีใบเสร็จครับ เจ้าหน้าที่ใช้รถหลวง น้ำมันหลวง มารับร่าง เรียกค่าน้ำมันค่าเบี้ยเลี้ยง  แต่เงินเข้ากระเป๋าเจ้าหน้าที่หมด เจ้าหน้าที่อาจจะเติมน้ำมันคืนหลวงก็ได้  แต่อันนี้เราไม่ทราบ แต่ค่าซ่อมบำรุงรถต่างๆ หลวงจ่ายครับ เพราะเงินก้อนนี้ ไม่ได้เข้าภาควิชาแม้แต่บาทเดียว ถ้านี่เป็นบริษัทของคุณ SuperCrazyBoy พนักงานใช้ทรัพยากรของบริษัทไปหลอกชาวบ้านหาเงินเข้ากระเป๋าคุณจะเฉยๆ ไม่จัดการอะไรหรือ เรื่องถัดมา ทำไมไม่ไปนัดคุย มานั่งเก่งหน้าคีย์บอร์ดแบบนี้จะได้อะไร การพูดคุยมีครับ มีอาจารย์ของภาควิชาโทรมาคุยกับหลานคุณย่าครับ แต่ตอบไม่เคลียร์ และไม่ได้พูดถึงเรื่องการคืนเงิน หลังจากนั้น มีเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นหัวหน้าพวกที่ไปรับร่าง โทรมาหาหลานคุณย่า พูดแบบประชดประชันว่าจะคืนเงิน แต่จะเอาเงินช่วยน้ำท่วมที่ตัวเค้าได้มามาจ่ายคืน  แบบนี้สมควรรับไหมหละครับ ถ้าตามอ่านมาตั้งแต่ต้น จะได้รับข้อมูลจากอาจารย์เอง ว่าภาควิชานี้เป็นเหมือนกิจการในครอบครัว เจ้าหน้าที่ก็เป็นญาติๆ กัน ใครเกษียณก็เอาญาติกันมาทำงานต่อ อาจจะเพราะแบบนี้ ปัญหาเลยฝังรากลึก ไม่มีใครกล้าแก้ไข แต่เมื่อปล่อยปละละเลยจนมันเน่าเฟะขนาดนี้แล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาสะสางทำความสะอาดแล้ว แต่ทำไมจนป่านนี้ ผู้บริหารทุกระดับ ยังไม่คิดทำ ไม่กล้าทำ ทางญาติทำหนังสือไปถึงคณบดีแพทย์ศาสตร์ คณบดีโยนไปภาควิชา ภาควิชาซุกปัญหาต่อ คณบดีเฉย คิดว่าทำยังไงต่อดีหละครับ นักเล่าข่าวคนดังทั้งหลายก็ไปยุ่งกับข่าวสำคัญประเภทดาราต้องย้ายโรงแรมแต่งงาน ฯลฯ  ไม่มีใครในสังคมให้พึ่งได้ นอกจากพวกเราชาวเน็ตเท่านั้น ผมก็ทำได้แค่ออกมาตั้งกระทู้กดดันต่อไปเท่านั้นแหละครับ จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 19:58:16

ความคิดเห็นที่ 24 อย่าลืมกด "เก็บเข้าคลังกระทู้" ด้วยนะครับ จากคุณ : ps000000 เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 22:22:25

ความคิดเห็นที่ 25 เสื่อมเสียอย่างนี้ไม่คิดแก้ไข แย่มาก จากคุณ : LikitChamaiporn เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 01:44:25

ความคิดเห็นที่ 26 แปลกใจจริง ไม่รู้ว่าจขกท.ต้องการถึงขั้นไหน ให้คณบดี หัวหน้าภาควิชา กราบขอขมาท่านหรือครับ คนทำผิดก็สั่งลงโทษไปแล้ว จะให้ทำอะไรอีก คิดแบบคุณ สตช.ต้องปลดผบ.ตร.ทุกวัน เพราะตำรวจมันทำแย่กว่าเยอะ ต้องการประจานเพื่ออะไร จดหมายตอบของทางศิริราชก็ชัดเจนอยู่แล้ว จากคุณ : คุณน่าเบื่อนะ คุณรู้มั้ย เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 02:04:55 A:14.207.215.77 X: TicketID:346541

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ ข้างบนได้อ่านเนื้อหาบ้างรึยังครับ ผมก็จบมหิดล ผมยังรู้สึกว่าโคตรเสื่อมเลย จากคุณ : KhunGong เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 03:28:12

ความคิดเห็นที่ 28 ตามมาโหวตครับ และกดเก็บเข้าคลังกระทู้ให้ด้วย และต่อไปจะพยายามช่ยเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ ให้มากขึ้นครับ จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 03:58:44

ความคิดเห็นที่ 29 จริงๆ แล้ว คณะกายวิภาค ศิริราช ไม่น่าปล่อยเรื่องนี้ให้แย่ขนาดนี้ ต้องรอให้คนมาทำข่าวแล้วค่อย มาแก้หรือ ออกมาเคลียร์กับญาติให้จบ เงินแค่หมื่นกว่าบาท เรื่องเงินเป็นเรื่องรอง แต่ผู้ตายตั้งใจมอบตัวเองให้เป็นอาจารย์ ใหญ่ แล้วไม่รับส่งคืน ทำงี้ไงก็ไม่ถูกต้อง วุฒิภาวะท่านอาจารย์ทั้งหลายก็มากอยู่ ส่วนเรื่องการลงโทษ นั้นผมเห็นว่าเป็นสิทธิของทางคณะเอง ไม่ควรไปตัดสินแทน แต่เห็นด้วยว่าควรมีการลงโทษ ไว้ ชื่อเสียงศิริราชมีมากมาย อย่าให้มาเสื่อม กับเหตุการณ์อย่างนี้ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 55 12:25:01 จากคุณ : ble_swu เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 12:24:33

ความคิดเห็นที่ 30 พวกที่หากินในวิธีที่ไม่เหมาะสมกับอาจารย์ใหญ่รับรองว่ากรรมหนักแน่ แต่ท่านที่บริจาคร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่รับรองว่าได้บุญเยอะแน่ จากคุณ : rabbit neo เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 13:35:29

ความคิดเห็นที่ 31 เฮ้อ เกรียนบัตรผ่าน มาอีกแล้ว ตั้งแต่กระทู้แรก ถ้าอ่านหนังสือออก จับใจความได้ก็คงจะรู้ว่าที่คนกดโหวตกับข้ามเดือนนี่เค้าต้องการอะไร พวกเราต้องการความชัดเจนในการแก้ไขปัญหา แทนที่จะไปทำความเข้าใจซะ เที่ยวออกมาทำประชดประชัน แล้วก็ตีบทดราม่าดีดดิ้นอยู่ได้ จากคุณ : เบื่อพวกดัดจริตเหมือนกัน (The Starry Night) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 14:56:12

ความคิดเห็นที่ 32 พวกมาเข้าข้างกันเองอีกรึเปล่า ถึงต้องใช้บัตรผ่านไง จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 16:19:06

ความคิดเห็นที่ 33 แอบร้อนตัวได้ไหม แถวนี้ไม่มีใครเป็นสิงห์คีย์บอร์ดนะคะ เราก็ตามมาตั้งแต่ต้น  จนศิริราชเฉยนี่แหละเลยเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง เข้ามาก็เข้ามาโหวต จบ ต้องการอะไรอีก ไหนๆก็ลงโทษแล้ว ถ้าไปตามอ่านแต่แรกจะเห็นว่าลงโทษของเขาเป็นเพียงแค่คำพูด แต่การกระทำต่างๆ  ไม่ได้ลงโทษเลยแต่ช่วยกันปกปิดด้วยซ้ำ ที่เป็นปัญหามายาวนานและบานปลาย เพราะทางศิริราชไม่คิดจะแก้ไข ไม่คิดจะอธิบาย เคลียร์ทุกอย่างให้โปร่งใส กลับโยนไปโน่นนี่ แถไปเรื่อย แถไม่ได้ก็หายเข้ากลีบเมฆ นี่ต่างหากที่ทำให้คนเข้ามาโหวตกระทู้นี้จนครึ่งปี จากคุณ : ukaito เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 17:58:01

ความคิดเห็นที่ 34 ยังตามด้วยคน จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 19:43:51

ความคิดเห็นที่ 35 Voteต่อไป ตั้งอีกเห็นอีกก็ vote อีก จากคุณ : Anchan42 (anchan42) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 21:03:10

ความคิดเห็นที่ 36 โหวตคะ นานเป็นเดือนๆเลย จากคุณ : Minnii เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 21:25:48

ความคิดเห็นที่ 37 โหวตค่ะ ทนได้ก็ให้มันรู้ไป จากคุณ : atiporn เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 12:40:51

ความคิดเห็นที่ 38 แล้วโทษทางกฏหมายละคะ? อย่าเนียนนะ จากคุณ : มันเผาตัวน้อย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 12:54:34

ความคิดเห็นที่ 39 ยังติดตามอยู่เช่นกันค่ะ จากคุณ : pheangjung เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 16:31:16

ความคิดเห็นที่ 40 ตาม ตาม ตาม จากคุณ : คนธรรมดาคนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 21:01:29

ความคิดเห็นที่ 41 ลงชื่ออีก 1 โหวต จากคุณ : saengchot เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 23:48:36

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ31 คุณอ่านข้อความผมบ้างไหม ลองตอบมาก่อน แล้วค่อยเฉไฉมาว่าพวกบัตรผ่าน คำตอบจากศิริราชในคห.3 คุณได้อ่านรึไม่ ประเด็นของผมคือ พนักงานทำผิด ผู้บริหารระดับสูงต้องรับผิดชอบขนาดไหน ถ้าไม่พอใจคำตอบ จะร้องเรียนถึงไหน ใครไม่เห็นด้วย มันแย่หมด สื่อไม่เห็นด้วยก็ด่ามัน เอาแบบนี้จริงหรือ จากคุณ : บัตรผ่านแต่มีปัญญากว่าคุณแน่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 02:29:28 A:27.130.9.178 X: TicketID:346541

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ ^ คุณ บัตรผ่านแต่มีปัญญากว่าคุณแน่ เรา คือ จขกท ต้นเรื่อง สิ่งที่เราต้องการ คือ (ขอบคุณคุณรักแท้ไม่แพ้อะไร) 1. ควรจะขอโทษทางญาติของผู้บริจาคร่างกายด้วยความจริงใจ 2. คืนเงินที่เรียกเก็บมาเต็มจำนวนให้กับญาติของผู้บริจาค (ไม่ต้องคืนก็ได้  ขอเป็นใบสุทธิบัตร บริจาคเงินเข้ามุลนิธิอะไรสักอย่างของ ศิริราชก็ได้) 3. รับร่างผู้บริจาคไว้สำหรับเป็นอาจารย์ใหญ่ต่อไป 4. ลงโทษ/คาดโทษ กับผู้ที่ทำการทุจริต แล้วแจกแจงให้ทางญาติผู้บริจาครับรู้ 5. ปรับปรุงระบบการรับบริจาคให้รัดกุมยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่ให้เกิดการทำทุจริตได้อีก 6. ควรจะขอบคุณญาติของผู้บริจาคที่ได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ เพราะเป็นประโยชน์กับทางโรงพยาบาล คุณบอกว่า คำตอบ ในจดหมายของ หัวหน้าภาค โดนใจคุณ ?  ถูกต้อง ตามความเป็นธรรม ของมนุษย์ที่พึงกระทำต่อกัน เราก็ไม่สามารถ ไม่ห้ามความคิดของคุณได้หรอกค่ะ แต่ ร่างนี้ เป็นคุณย่าของดิฉัน เหตุการณ์ทั้งหมด ดิฉันต้องพะเชิญ ทุกอย่างคนเดียว  มีเพียงเพื่อนในพันทิปแห่งนี้คอยให้คำปรึกษา คอยให้กำลังใจ คุณไม่ได้่คิดว่าเราเป็นเพื่อน  ไม่ได้มาให้กำลังใจ   มาซ้ำเติม เพื่ออะไร  คุณมีความสุข ว่างั้น หลังๆ มีแต่บัตรผ่านแนวๆนี้ มาไล่   มาบ่น  มาบันทอน  มาสั่งให้เราหยุด  มาว่าเราทำทำไม ทำเพื่ออะไร แตกประเด็นทำไม เห็นไม๊ละ นักข่าวยังไม่สน  แนวร่วมก็น้อย  บลาๆ  ก็ใช่สิ ไม่ใช่ญาติคุณ ไม่ใช่คุณย่าคุณนิ ถ้าเราอยากทำร้าย ทำลายจริงๆ เราเอาคลิปเสียงที่เราคุยกับ จนท ทุกท่าน มาลงให้ฟังกันทั่วหน้า ไปแล้ว  ไม่สะใจกว่าหรอ  นี่เราเอาเรื่องนี้มาถามเพื่อนในพันทิป ก็มาว่าเราดิสเครดิต ปากปราศัย น้ำใจเชือดคอกันขนาดไหน  น้ำเสียงมันปาดใจกว่าตัวหนังสือนัก รู้ไม๊ ล่าสุด มีเพียงจดหมายตอบกลับมาจากมหิดล  ว่าได้รับเรื่องไว้แล้ว กำลังดำเนินการ  แต่สามารถนำมาเผยแพร่ได้ เพราะจดหมายประทับตรา ว่า "ลับ"  ขอมูลในจดหมายมีเพียงเท่านี้ ลงทุนเสียงเวลา เข้ามาล็อคอินบัตรผ่าน  เข้ามาอ่าน  เข้าตอบ  เข้ามาพิม เข้ามาบ่น เข้ามาบอกว่าเบืื่อไง เบื่องี้  ไม่เข้ามาล็อคอิน ไม่เข้ามาอ่าน ไม่เข้ามาตอบโต้ ก็ไม่มีใครเค้าขอร้อง อ้อนวอนให้คุณมา  ไม่มีใครไปว่าคุณนิ ?????? ไม่เข้าใจ  ไม่สร้่างสรรค์ ก็ได้โปรดกรุณา เมตตาอย่ามาทำร้ายจิตใจกันแบบนี้อีกเลย ถือว่าทำบุญกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเราสักคนละกัน   เราร้องไห้มาพอแล้ว จากคุณ : deerja เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 09:03:26

ความคิดเห็นที่ 44 ระวังถอดล๊อคอินพลาดนะเพ่  หุๆ   พลาดกันมารอบหนึ่งแล้ว จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 10:29:05

ความคิดเห็นที่ 45 โหวตค่ะ จากคุณ : แม่ลูกสอง (bestmdt1) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 10:44:01

ความคิดเห็นที่ 46 โหวตค่ะ ศิริราชเป็นรพ.ที่แย่มาก ห่วยๆๆ จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 11:48:12

ความคิดเห็นที่ 47 เรื่องนี้มันส่อถึงวัฒนธรรมภายในองค์กร อาจจะเป็นกันตั้งแต่ลูกน้องยันผู้บริหาร ประชาชนอย่างเราๆก็มีแต่ต้องทำใจ จากคุณ : OMG เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 13:26:26

ความคิดเห็นที่ 48 เวลาเจอบัตรผ่านเข้ามาสวนกระแสในกระทู้ศิริราชนี่ จริงๆ แล้วผมเองก็ไม่อยากจะตอบโต้ เพราะใครที่ติดตามเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน น่าจะเคยชินกับพฤติกรรมบัตรผ่านในกระทู้ศิริราชดี พฤติกรรมจะมาแบบเดิมๆ คือบอกว่า ทางศิริราชก็ชี้แจงเคลียร์แล้ว เหมาะสมแล้ว ต่อให้อ่านเอกสารชี้แจงของหัวหน้าภาค ก็ยังคิดแบบนี้ แล้วก็ถามต่อว่ามาตั้งกระทู้ ต้องการอะไร การแก้ปัญหาแบบไหน ก็อยากจะบอกว่า  กลับไปอ่านหัวกระทู้ใหม่ อะไรที่พวกบัตรผ่านถามมาหนะ บอกไว้หมดแล้ว แต่บัตรผ่านแนวนี้ ก็จะยังไม่เข้าใจอยู่ดี แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 55 15:49:22 จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 14:57:12

ความคิดเห็นที่ 49 บัตรผ่านในกระทู้นี้มักจะพราวด์ว่าตัวเองฉลาด แต่ไม่ยอมเข้าใจ   เหอ  เหอ จากคุณ : KHIMM เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 16:32:35

ความคิดเห็นที่ 50 คห. 48  บัตรผ่านอาจจะเป็นบอทก็ได้นะ ไม่ได้ไม่เข้าใจ  แต่โปรแกรมมาแค่นี้อ่ะ 5555 (ล้อเล่นนะ ไม่อยากให้เครียดกันมากเกิน^ ^) จากคุณ : ukaito เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 20:29:09

ความคิดเห็นที่ 51 ตามโหวตค่ะ ขอความกรุณาคุณบัตรผ่านค่ะ  ที่คุณจขกท.และคุณเดียร์เจ้าของเรื่อง ตั้งกระทู้ขึ้นมาก็เพื่อต้องการให้ องค์กรปรับปรุงเพื่อเป็นที่ศรัทธาของประชาชน ไม่เสื่อม จดหมายราชการที่ว่าตอบชัดเจนแล้วนั้น  ทุกท่านที่ทำงานหรือเคยติดต่อกับราชการ  จะทราบดีว่า จดหมายฉบับนี้ไม่เป็นไปตามแบบแผนจดหมายราชการค่ะ  ทั้งภาษา ข้อความ  แสดงถึงความอ่อนด้อยด้วยซ้ำ จากข้อ 2. ในเนื้อหาจดหมาย จะเห็นว่า  มีข้อความว่า "เรื่องค่าใช้จ่ายตามที่ถูกกล่าวอ้างภาคฯวิชาได้พิจารณาแล้วจะนำร่างส่งคืนพร้อมโลงศพที่ญาตแจ้งความประสงค์ให้จัดหา และให้จนท.ของภาคฯ คืนค่าน้ำมันรถ ค่าเบี้ยเลี้ยง รวมเงินทั้งสิ้น 6,500 บาท พร้อมทั้งใบเสร็จรับเงินค่าโลงศพ จำนวน 7,500 บาท" ถ้าจดหมายฉบับนี้ขึ้นศาล จะถูกพิจาณาว่า ข้อมูลขัดแย้งกันเอง ในข้อ1. แนบระเบียบปฎิบัติตามประกาศชัดเจน แต่ญาติขอร้องให้ไปรับโดยจะออกคชจ.เอง เจ้าหน้าจึงออกไปรับศพโดยพลการ  มันชัดเจนแล้วว่ามีระเบียบปฎิบัติอยู่  จนท.ไปนอกเขตโดยพลการ คือผิดระเบียบ   แต่ถามหน่อยเถอะ(ในฐานะคนทำงานราชการ) ไปในเขตไม่ต้องเบิกรถหรือคะราชการจะใช้รถไปไหนต้องเบิกต้องอนุมัตินะคะ เป็นระเบียบฯ ราชการไม่ใช่หรือคะ ข้อความข้อ1. มันแสดงความยอมรับว่า จนท.รับเงิน (แต่ญาติของร้องให้ไปรับโดยจะออกคชจ.เอง)  แต่ทำไมข้อ 2. "คชจ.ตามที่ถูกกล่าวอ้าง" มันหมายถึงยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงประการใดค่ะ แต่ดันมาสรุปว่า ภาคฯ ให้คืนค่าน้ำมัน ค่าเบี้ยเลี้ยงรวม 6,500 บาท พร้อมใบเสร็จรับเงินค่าโลงศพ 7,500 บาท  เอาสมองส่วนไหนคิดกัน  ใบเสร็จรับเงินค่าโลงศพ 7,500 บาท มันก็คือหลักฐานว่า จนท. ทุจริตชัดเจน (ไม่ใช่คชจ.ตามที่ถูกกล่าวอ้าง) ก็ระเบียบฯ ภาคมันมีไม๊คะว่าต้องใช้โลงศพ มีใบเสร็จก็ทุจริตชัดๆ ค่ะ ส่วนค่าน้ำมัน ค่าเบี้ยเลี้ยง รวม 6,500 บาท  ก็ถ้าคิดว่ากล่าวอ้างคืนเค้าทำไมคะ (แล้วระเบียบฯ ราชการ มันมีอัตราเบี้ยเลี้ยง น้ำมัน) เงินจำนวนนี้ก็สูงกว่าอัตราจริงที่จนท.ควรได้  หนำซ้ำรับเงินไม่ออกใบเสร็จ แต่ใช้ของหลวง เวลาหลวง  ผิดเบียดบังเวลาราชการ เอาของราชการไปใช้(น้ำมันหลวง)เชิงพาณิชย์   กี่กระทงกันเนี่ย แล้วเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ  ความผิดแบบนี้จริงๆ ราชการไล่ออกสถานเดียว แล้วต้องถูกฟ้องเรียกเงินคืนหลวงด้วย พิจารณาแล้ว จดหมายราชการแบบนี้ออกมาได้อย่างไร  ยังมีข้อความให้ขอโทษที่เข้าใจผิด และเผยแพร่ให้ภาคฯ เสียหาย    เฮ้อ...ไม่ไหวจะเคลียร์ ไม่ทราบว่า เคสอย่างนี้ฟ้องศาลปกครองดีไม๊คะ ไม่ทราบว่าเป็นหน่วยงานราชการโดยตรงหรือไม่ สื่อก็ไม่สนใจแปลกแต่จริง  สงสัยต้องให้คุณเจ้าของเรื่องไปเกาะเสาโลตัสทำท่าจะกระโดดลงมา เพื่อให้สื่อทำข่าว จึงค่อยขอคุยกับเฮียสรยุทธ์คนเดียว  จะได้เอาเรื่องออกสื่อได้   คิดขำขำนะคะ จะติดตามเรื่องต่อไปค่ะ ขอให้ความจริงสถิตย์คู่โลก แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 55 00:40:26 จากคุณ : nisa_j เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 00:38:21

ความคิดเห็นที่ 52 พวกบัตรผ่านที่เข้ามาแสดงความเห็น โง่ ๆ ในนี้ พวกคุณทราบหรือไม่ครับว่า พวกคุณกำลังทำให้บัตรผ่านดี ๆ เขาต้องพลอยเสียชื่อเสียงไปด้วย ก็เพราะพฤติกรรมที่บรรดาบัตรผ่านทั้งหลายได้กระทำในกระทู้นี้และกระทู้ที่เกี่ยวเนื่องนั่นแหละครับ ที่ทำให้ ชื่อเสีย ของบัตรผ่านยิ่วงเหม็นคลุ้ง จนทำให้บัตรผ่านอื่น ๆ พลอยติดกลิ่นเหม็นนั้นไปด้วย อย่าทำนิสัยแย่ ๆ จนทำให้บัตรผ่านดี ๆ เขาต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยเลยครับ ๏ ปลาร้าพันห่อด้วย           ใบคา ใบก็เหม็นคาวปลา         คละคลุ้ง ที่มา โคลงโลกนิติ จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 00:39:25

ความคิดเห็นที่ 53 ผมเจ้าของบัตรTicketID:346541 ขอแบ่งตอบเป็น2เรื่องนะครับ 1 ผมเห็นใจคุณdeerjaมากๆครับ ที่เรื่องนี้ทำให้คุณเป็นทุกข์มาครึ่งปีแล้ว ทำไมไม่ให้มันจบไปละครับ คุณอาจจะเริ่มต้นผิดก็ได้ (หาเรื่องผิดคน) คนที่ทุจริต คือเจ้าหน้าที่รับศพ คุณเอาเรื่องเขาได้เต็มที่เลยทางอาญา แต่พอคุณ เอามาโพสต์ในนี้ เรื่องเลยกลายศิริราชเป็นจำเลยที่1แทน คุณลองคิดดูนะครับ 2 ส่วนคนที่เข้ามาว่าความเห็นพวกบัตรผ่าน พวกคุณก็ไม่มีตัวตนเหมือนกับผมนะครับ เพราะพวกคุณก็ไม่ได้ใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง พอเล่นไปนานๆ ก็มักจะนึกว่า ที่นี่เป็นบ้านเรา ใครเห็นต่างคนนั้นมันเกรียน บัตรผ่านมันพวกก่อกวน คุณอ่านเนื้อหาของบัตรผ่าน(อื่นๆ)บ้างรึเปล่า ปล.คุณประกอบ ถ้าไม่ยอมรับความเห็นแย้ง เวลาขึ้นกระทู้ใหม่ ช่วยลงไว้ในหัวข้อ ว่า เฉพาะคนเห็นด้วย คนที่ไม่เห็นด้วยจะได้ไม่เข้ามาตอบครับ จากคุณ : TicketID:346541 เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 03:12:10 A:27.130.173.205 X: TicketID:346541

ความคิดเห็นที่ 54 ติดใจความเห็น52 ใครไม่เห็นด้วยกับคุณ มันโง่หมด ไม่ว่ามันจะบอกว่ายังไง อุตส่าห์มีความรู้เรื่องโคลง เรื่องกลอนนึกว่าจะมีอารมณ์สุนทรี แต่ด่าเก่งจริงๆ แต่ไม่เป็นไร ผมอโหสิให้คุณ คุณพวกโลกแบน จากคุณ : เห็นใจคุณdeerja เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 03:20:21 A:27.130.173.205 X: TicketID:346541

ความคิดเห็นที่ 55 ด้วยความเคารพคุณคห.53 จนท.ทุจริต เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา และต้นสังกัด ต้องตั้งกรรมการสอบสวน ว่าผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่  บทลงโทษมีระเบียบราชการอยู่แล้ว  แต่ส่วนใหญ่ทุจริตเรื่องเงิน โดนไล่ออกสถานเดียว  และจะเอาผิดทางอาญาด้วยหรือไม่ เพราะก่อความเสียหายแก่ทรัพย์สินราชการด้วยก็เป็นหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของหน่วยงาน คุณจขกท. ร้องเรียนต้นสังกัด ก็ถูกต้องแล้วนี่คะ  ผู้บังคับบัญชาไม่ปฎิบัติตามระเบียบราชการ  ต้นสังกัดเพิกเฉย  นั่นแหละค่ะต้นเหตุของปัญหาที่ลุกลาม องค์กรเสื่อมเสียชื่อเสียง   แค่ความถูกต้อง มันยากนักหรือที่จะทำ จากคุณ : nisa_j เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 05:27:15

ความคิดเห็นที่ 56 ถึงคุณ TicketID:346541 ดิฉันบอกไปหมดทุกอย่างแล้ว อธิบายทุกอย่าง หลายรอบแล้ว และมีท่านที่เข้าใจ  ก็ช่วยตอบ ช่วยบอกไปมากมายแลวค่ะ จากคุณ : deerja เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 08:10:44

ความคิดเห็นที่ 57 นี่ถ้าไม่ได้อ่านเอกสารในคคห.3จะไม่เชื่อจริงๆนะเนี่ยว่านี่เป็นวิธีแก้ปัญหาของระดับหัวหน้าภาครพ.ศิริราช จากคุณ : ~แซลมอนมากิ~ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 11:00:01

ความคิดเห็นที่ 58 เข้ามาบอกหน่อยนึง คนที่ใช้บัตรผ่าน ผมเล่นห้องราชดำเนินมาก่อน ห้องนั้นต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนยืนยันครับ แต่ผมว่าคุณเลิกใช้บัตรผ่านแล้ว login มาแบบแมนๆ ดีกว่าไหม จากคุณ : เด็กโคราชเด้อ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 00:01:48

ความคิดเห็นที่ 59 ผมขอโทษคุณdeerjaอีกครั้งครับ ถ้าคุณลองไตร่ตรองดีๆ คุณเป็นผู้เสียหาย ผมเชื่อ1000% แต่วิธีจัดการมันมีหลายแบบ แบบนี้มันไม่เวอค และทำให้คุณเป็นทุกข์ คุณน่าจะเปลี่ยนวิธีนะครับ คุณnisa_j ผมเห็นด้วยกับที่คุณว่ามา แต่ถ้าเราเป็นผู้เสียหายจากการโดนทุจริต เราจะรอหน่วยงานจัดการฝ่ายเดียวไม่ได้ เราสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษ เจ้าหน้าที่นั้นต่อตำรวจได้ครับ เอาเรื่องให้ถึงที่สุด คุณเด็กโคราช อย่าเอาเรื่องบัตรผ่านมาเป็นประเด็นเลยครับ ดูเนื้อหากันดีกว่า คนมีอมยิ้มที่แย่ๆ ก็แจ้งหมื่นประมาทไปหลายคู่แล้วนะ ผมรับรองว่าผมไม่ได้มาป่วน แต่ความเห็นต่อการจัดการไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ขอบคุณทุกคนครับ จากคุณ : TicketID:346541 เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 00:45:39 A:14.207.239.16 X: TicketID:346541

ความคิดเห็นที่ 60 เรียนคุณบัตรผ่าน 346541 เนื่องจากกระทู้ที่ผ่านๆ มาจะมีบัตรผ่านเข้ามาป่วนประจำครับ แต่สุดท้ายก็จะแพ้ภัยตัวเองไป ดังนั้นพอมีบัตรผ่านมาตอบ ผู้ที่ติดตามกระทู้จึงเกิดการสงสัยในเจตนาครับ เมื่อรับรองว่าไม่ได้มาป่วน ผมเชื่อครับ และจะขอชี้แจงให้กระจ่างนะครับ ในกรณีศิริราชนี้ ทางญาติๆ ไม่ได้มีเจตนาจะให้เจ้าหน้าที่ที่เรียกรับเงินต้องถูกลงโทษอย่างหนัก เช่นการให้ออกจากงาน หรือถูกดำเนินคดีอาญา เพราะถึงทำอย่างนั้น  ในขณะที่ระบบยังหละหลวมเหมือนเดิม ปัญหาแบบนี้ก็จะเกิดต่อไป ไล่เจ้าหน้าที่ออกไปกี่คนๆ ก็คงไม่พอ ที่สำคัญ  เจ้าหน้าที่ที่รู้เห็น ไม่ได้มีแค่เฉพาะคนที่มารับร่างคุณย่า แต่มันกว้างกว่านั้น ดูได้จากคนที่อ้างว่าเป็นหัวหน้า ที่โทรมาหาคุณเดียร์แล้วบอกว่าจะเอาเงินช่วยน้ำท่วมจ่ายให้   ดังนั้นไล่คนออกไป ก็ยังแก้ไม่ได้ถึงต้นตอของปัญหา เพราะปัญหาอยู่ที่ระบบทั้งระบบ และการรู้เห็นเป็นใจกันของบุคลากรทุกระดับในหน่วยงาน ดังนั้นการแก้ปัญหาขั้นต้น ถ้าทางภาควิชาออกมาแก้ปัญหาหรือชี้แจงว่า 1. ได้รับร่างคุณย่าแล้ว รับรองว่าคุณย่าจะได้เป็นอาจารย์ใหญ่สมเจตนารมณ์ 2. เงินที่เรียกไปค่าน้ำมันค่าเบี้ยเลี้ยง ถ้าจะไม่คืน ภาควิชาไปเรียกคืนจากเจ้าหน้าที่ เอาเงินเข้าหลวงซะ ออกใบเสร็จให้ญาติๆ ถ้าทำไม่ได้ ก็แก้ระเบียบการให้สามารถเรียกค่าใช้จ่ายได้จากญาติ แต่เงินต้องเข้าภาควิชา มีใบเสร็จถูกต้อง 3. คืนเงินที่หลอกเรียกค่าโลงศพให้ทางญาติซะ 4. แก้ไขระเบียบการให้รัดกุม ปรับสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ให้ดีขึ้น จะได้ไม่ต้องทำอะไรทุเรศแบบนี้อีก แค่นี้ปัญหาก็จบ  ไม่มีใครอยากเอาเป็นเอาตายเจ้าหน้าที่ระดับล่างๆ หรอกครับ แต่นี่มันอะไรกัน  ถ้าคุณอ่านจดหมายจากหัวหน้าภาคจะเห็นระดับการให้ท้ายและรู้เห็นเป็นใจกับเจ้าหน้าที่ได้เลย แถมแก้ปัญหาโดยการประชดประชัน ทำเหมือนไม่เห็นหัวคุณย่าที่มีเจตนาบริสุทธิ์เลยด้วยซ้ำ ไม่พอใจก็ขอคืน ทำยังกับนี่คือสิ่งของ ไม่พอใจก็เอาคืนไป ทั้งที่ภาควิชานี้อยู่ได้เพราะผู้บริจาคร่าง แต่บุคลากรข้างในมองผู้บริจาคเป็นอะไรกัน มีความเคารพแค่ไหน เอกสารจากหัวหน้าภาคสะท้อนมาให้เห็นหมดครับ เรื่องนี้มีการทำหนังสือสอบถามไปถึงระดับคณบดีคณะแพทยศาสตร์ครับ ผู้บริหารทุกระดับรับทราบ แต่ไม่มีใครมองว่านี่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข มันน่าเศร้าไหมหละ จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 01:49:53

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ TicketID:346541 คะ ช่วยยกตัวอย่างวิธีอื่นให้หน่อยได้ไหมคะ คือเราเข้าใจว่าคุณบอกให้ตั้งประเด็นที่เอาเรื่องพนง.ที่ทำผิด แต่เราก็เข้าใจอีกว่าหน่วยงานเขาปกป้องพนง.แบบนี้น่ะค่ะ ก็เลยสงสัยว่า แล้วจะเล่นงานแค่คนๆนั้นแบบไหนได้คะ จากคุณ : ukaito เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 08:21:30

ความคิดเห็นที่ 62 ผมว่าคุณจขกท.รวบรวมผู้สนับสนุนไป ยกป้ายหน้าศิริราช เลย หรือกรณีหลอกเรียกรับเงิน คุณ(ญาติ) สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ กรณีนี้ หมอ ถ้าผิด ก็เด้ง อยู่แล้ว ทำให้มันสะเด็ดน้ำไปเลย ผมตามอ่านมาตั้งแต่ โพสแรกแล้ว  ผมเห็นด้วยว่าศิริราชทำไม่เหมาะสม จำไม่ได้ว่าแสดงความเห็นด้วยหรือไม่ แต่ผมไม่ชอบ ที่เอาเคสมาแห่ทางเน็ต  ก็เท่านั้น หากเป็นผม ผมแจ้งความดำเนินคดี ครับ จากคุณ : SuperCrazyBoy เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 14:21:06

ความคิดเห็นที่ 63 เฮ้ยยย นี่ยังอยู่อีกเหรอครับเนี่ย ผมนานๆทีเข้าห้องสวนลุมที แต่ก็เข้ามาทันตั้งแต่กระทู้แรก กระทู้สอง เข้ามาทีไรก็กดโหวตให้ทุกที แต่ว่าไม่ได้เข้ามาน่าจะสามสี่เดือนได้แล้ว ไม่คิดจริงๆครับว่ายังไม่เกิดผลอะไรอีก ศิริราชทำอะไรอยู่ครับ ตกลงไม่คิดจะแก้ไข้เหรอเนี่ย จากคุณ : 99องศา เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 15:37:36

ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อคุณ SuperCrazyBoy ไม่ชอบวิธีการที่ใช้การกระจายเรื่องทาง net ทางเลือกที่ทำได้คือไม่ต้องโหวตครับ เมื่อไม่ชอบ ไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ ก็ยินดีรับฟัง  ถ้ามีคนไม่เห็นด้วยมากๆ ไม่มีคนโหวต กระทู้นี้ก็จะตกไปเอง และถ้าจะถกกันถึงวิธีแก้ปัญหา ผมก็ยินดีครับ  อยากให้มีคนที่ใช้มุมมองของภาควิชาฯออกมาถกหรือตอบกันตรงๆ มากๆ ด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าอ่านที่ผมตอบๆ มาน่าจะพอเข้าใจแนวทาง ความต้องการของทางผมหรือญาติๆ คุณย่า และแม้จะต้องบอกซ้ำไปซ้ำมา ผมก็ยังยินดีจะบอก เพื่อให้กระจ่างมากที่สุด ทางฝั่งเรา สามารถชี้แจงอะไรได้ง่ายครับ เพราะเราไม่ได้โกหก เราไม่ได้กำลังปกปิดอะไร และเราไม่ได้จะเอาเป็นเอาตายกับใคร เราแค่อยากเห็นความถูกต้อง แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ เกิดขึ้นในสังคมครับ เพียงแต่คู่กรณีของพวกเราเลือกที่จะเพิกเฉย ไม่ใส่ใจ และไม่แก้ไขทำเรื่องผิดให้มันถูก ต้องอธิบายเรื่องการแก้ปัญหาเรื่องนี้ก่อน เมื่อมีปัญหา  ต่างคนก็ต่างมีแนวทางวิธีการในการดำเนินการของตนเองไป มีมุมมองต่อเรื่องนี้ต่างกันไป ขนาดมุมมองต่อเอกสารที่ภาควิชาส่งออกมา ผมมองว่านี่คือการกระทำที่ไร้วุฒิภาวะที่สุดที่คนระดับหัวหน้าภาควิชาคิดและทำ คุณ SuperCrazyBoy บอกว่าเค้าชี้แจงได้ชัดเจนดีแล้ว ดังนั้น การแลกเปลี่ยนมุมมองในเรื่องนี้จึงสำคัญ ผมตามชี้แจง ตามอธิบาย ก็เพราะอยากให้คนที่เห็นเรื่องนี้ได้รับทราบเหตุผลของฝ่ายพวกเรา ว่าทำไมเราดำเนินการแบบนี้ ทำไมเราไม่ทำแบบที่คุณบอก ไม่ไปแจ้งความ ไม่ไปยกป้ายประท้วง ต้องบอกว่านี่เรากำลังประท้วงอยู่  การประกาศถามทางเน็ตแบบนี้ เป็นที่รับรู้ในวงกว้างกว่าไปยกป้ายประท้วงหน้าศิริราชมากครับ และที่ไม่แจ้งความ ก็เพราะอย่างที่บอก เรื่องนี้ทำกันเป็นขบวนการ การเอาเจ้าหน้าที่เล็กๆ ออกจากงาน 3-4 คน แต่ระบบก็ยังเหมือนเดิม คนใหม่มาก็ทำต่ออีก  เพราะปัญหานี้มีอย่างน้อยปีละครั้ง มีมานานแล้ว อาจารย์ที่ภาคบอกเอง เราต้องการให้ศิริราชตระหนักถึงปัญหาที่ฝังราก และแก้ไขอย่างมีวุฒิภาวะ ซึ่งศิริราชไม่คิดจะทำ เราจึงเรียกร้องต่อไปในแบบที่คนธรรมดาๆ พอจะทำได้เท่านั้น จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 18:05:20

ความคิดเห็นที่ 65 มีแจ้งความ หรือ ลงประทึกประจำวัน ที่ สน. บ้างหรือเปล่าครับ ?? ขอคำชี้แนะจาก ทนาย น่าจะดีนะครับ : ) ... บุญรักษาครับ : ) ปล. สถาบันดีดี คนไม่กี่คนมาทำเสียหมดเลย  เฮ้อร์ !!! จากคุณ : Bother Boy ! เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 20:35:34

ความคิดเห็นที่ 66 ตอบคุณเดียร์ครับ ตั้งแต่นี้ไปผมจะไม่คัดค้านกระทู้นี้แล้วครับ แต่อยากให้คุณฟังความเห็นผม (ในกรณีถ้าเป็นผมนะ ไม่จำเป็นต้องทำตาม) 1 ในกรณีนี้ จนท.เป็นคนทำผิดแน่ๆ ผมเห็นด้วย แต่พอเอาเรื่องมาในนี้ มันก็ไปกันใหญ่ กลายเป็นเรื่องของภาควิชา ลามไปถึงหัวหน้า คณบดี ซึ่งมันทำให้เป็น2ประเด็นขึ้นมา 2 มันก็เลยกลายเป็นว่า คุณเอาเรื่องผิดคน ซึ่งสื่อที่คุณไปแจ้ง เขาก็เลยไม่เอาด้วยนะ 3 ต้องเริ่มใหม่ เอาจากตัวเล็กๆไปก่อน ถ้าตัวใหญ่มีส่วนรู้เห็น ถึงตอนนั้นสื่อมาเอง ปล.อยากให้คุณเดียร์สมหวังครับ จากคุณ : 34651 เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:44:12 A:27.130.205.146 X: TicketID:346541

ความคิดเห็นที่ 67 เก็บเข้าคลังกระทู้ครับ  ^^ จากคุณ : Zenmaster_T เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 04:32:10

ความคิดเห็นที่ 68 มาเสนอความคิดเห็น ในเมื่อไม่ชอบที่นี่  มีปัญหาผิดใจกัน  ลองติดต่อหัวหน้าภาคกายวิภาคที่รร.แพทย์อื่น เพื่อขอเอาร่างคุณย่าไปบริจาค  เพื่อให้สมความตั้งใจของคุณย่าก่อนดีไหมคะ ลองไปรพ.จุฬาก็ได้ค่ะ  เข้าไปคุยด้วยตัวเองเลย  เราว่าท่านอาจารย์คงเห็นใจ  เพราะทางญาติก็ได้ทำตามความตั้งใจของคุณย่า  และรพ.ก็ได้อาจารย์ใหญ่เพิ่มขึ้น ส่วนเงินที่เป็นปัญหา  ถ้าได้คืนก็ดี  ไม่ได้คืนก็ช่างมัน  คิดเสียว่าทำทาน ด้วยความเคารพค่ะ จากคุณ : MinnieTheCat เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:46:37

ความคิดเห็นที่ 69 คุณ 34651 คุณว่าเราเอาเรื่องผิดคนหรือคะ คุณอ่าน ความคิดเห็นที่ 64  ของคุณประกอบ เข้าใจไหมคะ ถ้าอ่านยังไง นั่งอ่าน นอนอ่าน เดินอ่านก็ยังไม่เข้าใจ  ก็ นะ ... เยอะ อะ ขอนำความเห็นที่ 207 ของคุณเขียว กระทู้ ภาค 2 ช่วยอธิบาย ส่วนเรื่องความผิดพลาด ผมสงสัยว่าศิริราช บริหารจัดการเรื่องการรับบริจาคอย่างไร ใครเป็นคนรับโทรศัพท์ รับแล้วต้องขออนุญาตใคร รถจอดที่ไหน ใครถือกุญแจ ผ่านป้อมยามออกไปได้อย่างไร ตามปรกติ หลังจากรับเรื่องแล้ว เขาต้องขอใคร ในการนำรถออก ถ้าในเขตที่รับบริจาค เวลาเบิกค่าน้ำมัน เบี้ยเลี้ยง คงจะมีคำสั่งให้ไปปฎิบัติราชการคู่กัน งานรับศพเป็นการด่วน คงไม่รอหนังสือคำสั่ง แต่ผู้รับผิดชอบน่าจะต้องรู้ และอนุญาต หนังสือค่อยตามมาทีหลัง ก็สมเหตุสมผลดี จากกรณีนี้ โทรเข้า 02 ปลายสายแจ้งให้โทรเข้ามือถือ แล้วถ้ารถออกนอกบริเวณ มีระเบียบอย่างไร สมมติว่ามีใบอนุญาตให้ใช้รถ ยื่นให้ยาม ใครเป็นคนลงลายมืออนุญาต หรือไม่มี ยามให้ผ่านออกไปได้อย่างไร จากข้อ ๒ และข้อ ๓ ของ ๑๘ ในกรณีอื่นที่ไม่มีเรื่องราวร้องทุกข์สอบถาม สมมติว่าเป็นการตกลงกันระหว่างญาติกับเจ้าหน้าที่ แล้วยังไงต่อ เขาสามารถไตร่ตรอง อนุมัติตัวเองได้เลย หรือต้องขออนุญาต ถ้าไม่ต้องขอใคร หลังจากนี้ใครที่เคยมีชื่อเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ให้ไปปฎิบัติหน้าที่อื่นเสียเถิดครับ เจ้าหน้าที่เขาพิจารณาความเหมาะสมเองได้ หรือถ้าต้องขอ ขอใคร ขอว่าอะไร กรณีนี้ เจ้าหน้าที่นำรถออกโดยไม่ได้รับอนุญาต วิ่งผ่านป้อมยามออกไปได้อย่างไร หรือว่ารถคันนี้ เจ้าหน้าที่คนนี้นำรถเข้าออกได้โดยอิสระ ไม่อยากจะคิดว่าที่ผ่านมา ทำไปแล้วกี่มากน้อย สร้างความช้ำใจให้ญาติไปแล้วกี่ร่าง ก็ถือว่าโชคดี ที่เจ้าหน้าที่ไม่ขนทรัพย์สินภายในออกไปขาย หรือไม่เอารถไปขนยา อย่าได้มองว่าหยุมหยิม เพราะมันเป็นช่องทางให้คนในหน่วยงานของท่าน ต่อรองเจรจา แล้วสุดท้ายก็บึ้ม จากคุณ : เขียว เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 54 00:34:14 A:59.164.109.150 X: TicketID:287847 คำตอบของเรา  ของคุณประกอบ และ่ท่านอื่นๆที่เข้าใจเรื่อง  ชัดเจนหมดแลว ละเอียดแลว นะ คุณ ความคิดเห็นที่ 68  ถ้าเราทำแบบนั้นแล้ว  ปัญหาแบบนี้จะไม่เกิด  ไม่มี อีกต่อไปใช่ไหมคะ คุณรับประกัน คุณรับรอง คุณสาบาน ได้ว่า ปัญหาแบบนี้จะไม่มีในสังคมบ้านเราอีกต่อไปใช่ไหมค่ะ   คุณพูดเหมือนไม่พอใจ ซื้อของร้านนี้พนักงานบริการไม่ดี ก็เปลี่ยนร้านซื้อไปสิ ที่เคยซื้อมาแลวมันใช้ไม่ได้ ก็ช่างมันไป ปล่อยมันไป ???? ซื้อของ   บริการไม่ดี สินค้าไม่มีคุณภาพ  เค้ายังมีหน่อยรับเรื่องร้องเรียน มี สคบ.  คนขับรถไม่ดี ยังมีหน่วยแจ้ง   หน่อยงานไหนๆก็ต้องมี ถ้าเป็นเอกชน ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง นี่คนทั้งคน ร่างกายทั้งร่างกาย นะคะ ความคำสัญ คุณค่า มันต่างกันนะ  คุณ จากคุณ : deerja เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 08:38:32

ความคิดเห็นที่ 70 เข้ามาเชียร์คุณเดียร์ค่ะ จากคุณ : pukkies เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:15:16

ความคิดเห็นที่ 71 สนับสนุนกระทู้นี้ครับ จากคุณ : โจ้ (chaop) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 17:01:55

ความคิดเห็นที่ 72 เราก็บริจาคร่างกายไว้ที่ศิริราชเช่นกันนะคะ อยากทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องเงิน เพราะเอกสารที่ได้มาตอนที่ทำเรื่องบริจาค บอกว่าไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และญาติผู้บริจาค สามารถเข้าร่วมพิธีฌาปนกิจได้ไม่เกิน3ท่าน จากคุณ : พอวอลอ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 00:11:49

ความคิดเห็นที่ 73 เราต้องขอโทษคุณ deerja ด้วยนะคะ  ที่เราเสนอความเห็นแล้วไม่ถูกใจ คือเราผ่านมาอ่าน และไม่ได้อยู่ฝ่ายใด แต่เราเขียนความเห็นของเราเพราะเรารู้สึกเห็นใจคุณย่าเป็นที่สุดค่ะ  อยากให้ความประสงค์ของคุณย่าเป็นจริงโดยเร็วหน่ะค่ะ ส่วนการจะแก้ไขปัญหาอื่น  เราว่าเป็นเรื่องรอง   เรื่องที่ทางญาติประสบอยู่นี้  ก็เป็นเรื่องใหญ่และน่าเห็นใจ  ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย และไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก เห็นใจทางญาตินะคะ  ขอให้ปัญหาถูกแก้ไขลุล่วงโดยเร็วนะคะ จากคุณ : MinnieTheCat เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 09:25:41

ความคิดเห็นที่ 74 เค้าไม่ตระหนักจนกว่ายอดบริจาคร่างกายจะลดลงอย่างน่าใจหายครับ ผมว่าเราตั้งเพจไม่บริจาคร่างกายกับศิริราช เอาให้มันเป็นประเด็นใหญ่ๆเลยครับ จากคุณ : nonsaint เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 11:37:12

ความคิดเห็นที่ 75 โอ้!กระทู้เรื่องนี้นานจริงๆ แต่ผมโหวตให้(อีกแล้ว) แปลกใจจริงๆว่าเฮียสอแกไม่สนใจบ้างเลยเหรอ นี่มันเป็นเรื่องเสื่อมเสียขององค์กรขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากด้วยนะครับ แปลกใจกับการนิ่งเงียบของผู้บริหารศิริราชจริงๆ แล้วเราจะคาดหวังอะไรได้ เฮ้อ! สู้ๆนะครับคุณจขกท. เป็นกำลังใจให้ จากคุณ : ร้าวราน..ใน..ร้าวฉาน เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 17:58:26

ความคิดเห็นที่ 76 ขอแสดงความคิดเห็นบ้าง  อ่านจดหมายหัวหน้าภาควิชาฯ  แล้วก็เห็นใจเจ้าของเรื่องนี้ แทนที่จะเป็นจดหมายขอโทษอย่างจริงใจอย่างสุดซึ้ง  กลับเป็นจดหมายขู่และคืนร่างคุณย่า  แบบนี้เรื่องก็ไม่จบ ถ้าแบบนี้  คนอื่นที่จะบริจาครายต่อไปจะรู้สึกอย่างไร  เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ sensitive มากกก  บุพการีของใคร เขาก็ยกย่องไว้สูงสุด  อาจต้องใช้นักจิตวิทยามาคุยเรื่องนี้ดีกว่าไหม กรณีนี้ที่พลาดมากกกก็คือเรื่องจะคืนร่าง จากคุณ : MAOK เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 23:32:45

ความคิดเห็นที่ 77 นี่แหละหนา บัตรผ่านดี ๆ ถึงยังคงไม่ได้รับความน่าเชื่อถืออยู่ดี ตกลงได้ตามอ่านมาจนครบบ้างไหมนี่ ฟังไม่ได้ "ศัพย์แต่จับไปกระเดียด" แบบนี้ ถึงได้ทำให้บัตรผ่านดี ๆ ถึงต้องพลอยถูกลดความน่าเชื่อถือไปด้วยเลย อ้อ..... งงครับ พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ทำผิด การแจ้งหน่วยงานต้นสังกัดก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วนี่นา แต่เผอิญว่า งานนี้ ต้นสังกัด กลับไม่ได้นำพา ซ้ำยังออกจดหมายขู่ว่าจะคืนร่างและทวงบุญคุณค่าน้ำยาฉีดศพอีกต่างหาก อ่านดี ๆ อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ จะได้ไม่แสดงอะไร ออกมา ฟ้องรายบุคคลไป แต่ถ้าองค์กรข้างในไม่แก้ไข ก็จะยังมีเรื่องแบบนี้อีกต่อไปไม่จบสิ้น ถ้าจะแก้ปัญหาแบบปัดสวะไปซุกใต้พรม  ไม่นานก็คงหมักหมม จนดันพรมโป่งออกมาให้เห็นเข้าสักวัน จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 02:41:14

ความคิดเห็นที่ 78 ถึง คุณ MinnieTheCat คอมเมนท์ ของคุณ ไม่ใช่ ไม่ถูกใจค่ะ แต่ดิฉัน แค่อยากได้แนว ทางที่ถูกต้อง น่ะค่ะ ไม่มีอะไร ไม่ต้องขอโทษ คุณไม่ผิดหรอกค่ะ^^ จากคุณ : deerja เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 09:25:28

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านมาตั้งแต่กระทู้แรกแล้วค่ะ แต่ที่ไม่เข้ามาแสดงความเห็นเพราะไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว แต่ดูเหมือนมันคงจะไม่จบง่ายๆ เราเป็นคนหนึ่งที่เรียนศาลายารู่นแรกๆ สมัยนั้นสถานที่ดองอาจารย์ใหญ่อยู่ที่นี่และนักศึกษายังเข้าไปดูได้ เราก็ได้มีโอกาสเข้าไปดูและได้รับคำอธิบายถึงขั้นตอนต่างๆ ไม่ใช่ทุกศพที่บริจาคจะได้เป็นอาจารย์ใหญ่ โดยเฉพาะศพที่มาช้าเกินไปมันจึงเป็นกฏของทุกที่ที่ระบุไว้ก่อนตัดสินใจบริจาคก็คือ จะรับบริจาคเฉพาะศพที่อยู่ในเขตกทมและปริมณฑลเท่านั้น อันนี้เหมือนกันทั้งศิริราชและจุฬา การดองศพต้องใช้เวลาถึงหนึ่งปี ในระหว่างนี้ก็จะมีศพที่ไม่สมบูรณ์ในหลายๆลักษณะที่จะไม่สามารถนำไปเป็นอาจารย์ใหญ่ได้ และก็เห็นหลายๆศพที่มาถึงในสภาพที่ดองไม่ได้เพราะช้าเกินไป และนี่ก็คือเหตุที่เราเลือกเป็นบริจาคดวงตาและอวัยวะแทนการบริจาคร่างกาย เพราะเราไม่แน่ใจว่าเราจะเสียชีวิตในกทม ปัญหาก็อยู่ที่ความตั้งใจที่จะบริจาค บางทีตอนบริจาคก็อยู่กทม แต่กว่าจะเสียชีวิตก็เป็นสิบยี่สิบปีที่เปลี่ยนแปลงที่อยู่ไปแล้ว บางทีท่านผู้บริจาคก็ไม่ได้แจ้งกับลูกหลานไว้ถึงเงื่อนไขต่างๆ ลูกหลานก็อยากจะทำความประสงค์ของญาติผู้ใหญ่ให้บรรลุความประสงค์ ปัญหาลักษณะแบบนี้ทำให้มีความพยายามนอกเหนือจากกฏที่กำหนดไว้ เช่นญาติขอให้ช่วยไปรับโดยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย พอมีบ่อยๆเข้าก็กลายเป็นเรื่องปกติ เหมือนว่าช่วยเหลือกันไป เราแน่ใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้รู้ถึงระดับอาจารย์ หรือหัวหน้าภาคหรอกค่ะ ทำกันเองระดับล่างๆนั่นแหละ มารู้ก็ตอนเกิดเรื่องนี่แหละ จากจดหมายที่โพสนั้น เราในฐานะคนที่บริจาคเหมือนกันแม้วาสุดท้ายจะไม่ได้บริจาคร่างกายแต่จากการศึกษารายละเอียดมาอย่างดี เราเข้าใจทั้งภาควิชาและญาติผู้เสียชีวิตนะ ตรงนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะ ในส่วนของภาควิชา อาจารย์คงรู้สึกว่ากฏเรื่องนี้ได้มีการแจ้งบอกกันไว้แล้วก่อนจะดัดสินใจบริจาคร่างกาย การติดต่อกันในส่วนนี้เหมือนเป็นการว่าจ้างกันเป็นการส่วนตัวเอง แต่พอมีปัญหากลายเป็นภาควิชาเดือดร้อนเสียหาย เรื่องการลงโทษผู้กระทำผิดคิดว่าได้ทำไปแล้วจากจดหมายข้างบนไม่ทราบว่าญาติผู้เสียหายได้ติดต่อกลับไปที่ภาควิชาหรือไม่ ถ้าไม่ทางภาควิชาก็คงรอญาติผู้เสียหายติดต่อกลับไปว่าจะเอาอย่างไรมากกว่า เรื่องขอใบเสร็จหรือเอาเงินไปบริจาคแล้วออกเป็นใบเสร็จ เราคิดว่าทางภาควิชาคงไม่ทำเพราะมันอยู่นอกเหนือหน้าที่ เพราะเงินส่วนนี้มันเหมือนเป็นการจ้างกันแบบส่วนตัว ส่วนเรื่องที่ว่าเอารถภาควิชาออกไปได้อย่างไรนั้นไม่ทราบต้องไปดูในรายละเอียด ที่บอกว่าเป็นการจ้างกันส่วนตัวก็เพราะบางทีเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลเช่นเวรเปลก็มีอาชีพเสริมคือรับฉีดศพ พอมีคนไข้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ก็รับฉีดศพให้โดยติดต่อกับญาติ ก็ถือว่าเป็นการจ้างกันแบบส่วนตัวโรงพยาบาลไม่ได้เกี่ยวข้อง จากเหตุการณ์นี้ก็อยากให้ผู้ที่บริจาคร่างกายไว้ทุกท่านได้สั่งเสียลูกหลานในรายละเอียดไว้ให้ชัดแจ้งเพื่อว่าเมื่อท่านเสียชีวิตไปแล้วจะไม่เกิดปัญหาแบบนี้ต่อไปอีก ส่วนที่บอกว่าศิริราชไม่โปร่งใส หมกเม็ด เราอยากให้รู้เรื่องให้ละเอียดก่อนไปตัดสินองค์กรทั้งองค์กร เราว่ามันไม่ยุติธรรมนะ เราก็ไม่ได้อยู่ในร่มเงาของศิริราชแล้วแต่เราว่าจะตัดสินอะไร หรือกล่าวหาอะไรมันควรจะมีข้อมูลมากกว่านี้ แต่มีเรื่องแบบนี้ก็ดีนะ ต่อไปคงไม่มีเจ้าหน้าที่กล้ารับทำแบบนี้ส่วนตัวอีกต่อไป ส่วนเรื่องการขอคืนศพ ถ้าไม่คิดว่าในมุมว่าเขาประชด กรณีนี้ผู้มีสิทธิ์ในร่างกายผู้เสียชีวิตคือญาติของผู้เสียชีวิตซึ่งก็ได้แสดงความไม่พอใจต่อภาควิชา แม้ว่าเจ้าของร่างจะได้แสดงเจตนาขอบริจาคไว้เมื่อยังมีชีวิต แต่ผู้ที่มีสิทธิ์ในร่างเมื่อเสียชีวิตแล้วก็คือญาติ เราเชื่อว่าในความไม่พอใจต่อกันนั้น ทั้งสองฝ่ายก็คงจะสาดอารมณ์ใส่กันแน่นอนมากน้อยแค่ไหนไม่รู้ ส่วนผู้หญิงที่ติดต่อมาก็คงไม่ใช่มาในนามภาควิชาแน่นอน ถ้าญาติผู้เสียชีวิตจะรวมเอาทุกส่ิงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรือ่งนี้มาเป็นความรับผิดชอบความผิดของภาควิชาท้้งหมดเราก็ว่ามันไม่ถูกต้องเท่าไหร่นะคะ ถ้าคุณจะทำใจให้เป็นกลางแล้วคิดว่าถ้าคุณเป็นหัวหน้าภาควิชา กฏต่างๆมีไว้ชัดเจนตั้งแต่ก่อนบริจาคแล้ว และการติดต่อตกลงจ่ายเงินกันทั้งหมดมันเป็นเรื่องที่ทำกันเป็นส่วนตัวไม่ได้ทำกันในนามภาควิชา แต่พอเกิดปัญหาก็โยนทุกอย่างให้ภาควิชาเพียงเพราะว่า คนรับทำเป็นคนของภาควิชา รถของภาควิชา(หรือเปล่า) หัวหน้าภาควิชาต้องออกมาชี้แจงมารับผิดชอบ เราว่าความรับผิดชอบของหัวหน้าภาคที่มีก็คือคนในภาคทำผิด ต้องลงโทษ และจัดการปัญหาอย่างที่จดหมายฉบับนั้นแจ้งมานั่นแหละค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 55 14:54:49 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 14:26:29

ความคิดเห็นที่ 80 คุณพี่ Aloneฯ มาเยี่ยมเยียนร่วมออกความเห็นด้วย ต้องขอบคุณมากครับ ผมเองเป็นแฟนติดตามมานานแล้ว แต่ต้องรบกวนถามคุณพี่ Alone ตรงๆ ว่าได้อ่านทั้งหมดตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่อง อ่านการตอบของอาจารย์ของภาควิชา รวมทั้งข้อสังเกตุอื่นๆ ที่เพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ บอกไว้หรือไม่ เพราะถ้าอ่านทั้งหมดอย่างละเอียด ทำความเข้าใจทั้งหมด ผมไม่คิดว่าพี่ Alone จะยังคิดแบบที่บอกมา เรื่องศพจะใช้เป็นอาจารย์ใหญ่ได้หรือไม่ได้ ผมเข้าใจครับ ถ้ากรณีนี้ภาควิชาจะคืนร่าง เพราะร่างคุณย่าไม่เหมาะที่จะเป็นอาจารย์ใหญ่ก็คงไม่มีปัญหา แต่กรณีนี้ไม่ใช่  ก่อนหน้าหนังสือนี้จะออกมา เจ้าหน้าที่แจ้งมาแล้วว่าร่างคุณย่าอยู่ในกระบวนการดองแล้ว แปลว่าร่างใช้ได้ การจะคืนร่าง เป็นเรื่องที่หัวหน้าภาคตัดสินใจภายหลังเมื่อมีปัญหา เป็นเพียงการประชดครับ เค้าถามเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่ได้ขอร่างคืน มันคนละเรื่อง เจตนาในการคืนร่าง ใช้ตรรกะและสามัญสำนึกง่ายๆ ก็จะมองเห็นแล้วว่าอะไรอยู่เบื้องหลัง ญาติเค้าไม่ได้ไม่พอใจ เค้าแค่มาตั้งกระทู้ถาม ภาคก็ตอบไป เงินส่วนที่หลอกไปเช่นค่าโลงก็คืนเค้าไป เรื่องก็จบ คนไม่พอใจคือคนนอกแบบพวกผมและอีกหลายท่าน ที่อ่านแล้วพบว่าเรืื่องนี้มันไม่ถูกต้อง และแย้งไปซึ่งไม่เคยได้คำตอบที่ดีกลับมา ผมมาตั้งกระทู้ เพราะไม่ต้องการให้ภาควิชามองว่านี่เป็นปัญหาระหว่างญาติๆ กับภาค ผมมาตั้งกระทู้เพื่อให้ภาควิชารู้ว่านี่เป็นปัญหาระหว่างภาควิชากับสังคม  กับผู้ยื่นเจตจำนงค์บริจาคไว้ เช่นผม ผมบริจาคหมดทุกอย่างครับ เลือดก็บริจาคจนไปรับเหรียญกับพระเทพฯ มาแล้ว ตา เครื่องใน ไขสันหลัง ร่างกาย แจ้งเจตจำนงค์ไว้หมด อะไรที่เค้าบริจาคกันได้ ผมบริจาคหมดทุกอย่างแล้ว ตายเมื่อไหร่ ร่างเหมาะกับการบริจาคแบบไหน ใช้แบบนั้น ขอให้เป็นประโยชน์เถอะ ผมทำด้วยเจตนาบริสุทธิ์  ดังนั้นเมื่อไหร่เห็นคนที่ฉวยโอกาสกับเจตนาดีคนอื่นแบบนี้ เรื่องนี้จึงกระทบกระเทือนใจผมมากเป็นพิเศษ เรื่องการขอค่าใช้จ่ายในการมารับนอกเขตก็เข้าใจได้ครับว่าต้องมี เจ้าหน้าที่จะขอจากญาติก็ได้ ขึ้นกับการตกลงระหว่างเจ้าหน้าที่กับญาติ แต่ในกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้บอกตรงๆ กับญาติก่อนมารับว่าค่าใช้จ่ายนี้เจ้าหน้าที่่ขอกันเอง ไม่ได้ขอในนามภาควิชา สำหรับญาติผู้บริจาคที่ไม่ได้รู้ระเบียบการ ไม่ได้บริจาคกันบ่อยๆ ไม่รู้หรอกครับว่าเงินที่จ่ายนั้นจ่ายไปไหน เข้ากระเป๋าใคร ดังนั้นเมื่อคุณอาจ่ายไป คุณหลานสงสัยเพราะไม่มีใบเสร็จ จึงเป็นที่มาของการมาตั้งกระทู้ถามเรื่องค่าใช้จ่าย จุดเริ่มต้นของมหากาพย์นี้ เพราะคุณเดียร์ในตอนแรกก็ไม่รู้เรื่องนี้ ว่าเจ้าหน้าที่เรียกเอง นึกว่าจ่ายให้ภาควิชา แต่สงสัยแค่ว่าทำไมไม่มีใบเสร็จ และทำไมแพงนัก จะมองว่านี่เป็นเรื่องความเข้าใจที่ไม่ตรงกันก็ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่หรืออาจารย์บอกไปแต่แรก ว่าค่าน้ำมันค่าเบี้ยเลี้ยงเป็นค่าสินน้ำใจของเจ้าหน้าที่ที่ต้องออกไปรับนอกเขต ผมเชื่อว่าญาติคุณย่าคงไม่คิดอะไรมากหรอกครับ ยินดีจ่ายเพื่อให้คุณย่าสมเจตนารมณ์อยู่แล้ว  แม้มันจะแพงเกินสมควร แต่ในกรณีนี้ อย่าลืมว่าเจ้าหน้าที่ยังโลภมากไปกว่านั้น เรียกค่ารถค่าน้ำมันแพงพอสมควรแล้ว ยังบังอาจหลอกขายโลงศพด้วยอีก   ผมรู้ว่าระดับหัวหน้าภาค อาจารย์ไม่ได้ไปรับเงินกับเค้าหรอก แต่การรู้เห็นเป็นใจ ก็คือการส่งเสริมการทุจริตของบุคลากรในหน่วยงานของตนอยู่ดีนั่นแหละ หนังสือที่หัวหน้าภาคออกมาบอกหมดครับ แค่ดูเรื่องโลงศพอย่างเดียวก็เห็น เรารักหน่วยงาน เรารักชื่อศิริราช เราจะรักโดยการปกปิด แกล้งลืมสิ่งไม่ดี หรือจะรักโดยการแก้ไขข้อบกพร่องหละครับ เมื่อภาควิชารู้เห็นเป็นใจ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่หารายได้แบบนี้ได้ก็ไม่เป็นไร เราไม่ว่า เข้าใจ เจ้าหน้าที่เงินเดือนน้อย เราขอแค่คุณวางมาตรฐานมาด้วยสิว่ามันควรจะเท่าไหร่ ไม่ใช่ให้เจ้าหน้าที่เรียกตามอำเภอใจแบบนี้ ทีนี้กลับมาดูที่หน่วยงานต้นสังกัด ถ้าคุณ Alone เป็นหัวหน้าภาควิชา คณบดีหรือระดับอื่นๆ เป็นเจ้านายโดยตรงของเจ้าหน้าที่พวกนี้ จะแก้ปัญหาอย่างไรครับ และถ้าไม่ถามไปยังผู้บริหาร ไม่ถามไปในนามหน่วยงาน จะให้ถามไปที่ใคร เจ้าหน้าที่เล็กๆ ยังงั้นหรือ และเมื่อทางผู้บริหารทุกระดับรับทราบ ทำไมไม่แก้ปัญหาให้ถึงที่สุด ทำไมเลือกเงียบ การไล่จี้หน่วยงานให้ทำทุกอย่างถูกต้อง โปร่งใส โดยเฉพาะหน่วยงานองค์กรที่สั่งสมชื่อเสียงมาอย่างยาวนานที่สื่อหรือแม้แต่ใครก็ไม่กล้าแตะ ถ้าคุณพี่ Alone ยังข้องใจตรงไหน หรือเห็นแย้งตรงไหนรบกวนเลยนะครับ ผมอยากได้มุมมองที่ต่างกันไปแบบมีเหตุผล เราแย้งกันด้วยเหตุผล ตรงไหนไม่ตรงกันก็เอาเหตุผลมุมมองแต่ละคนว่าว่ากัน ทางศิริราชก็คงมีคนตามอ่านกระทู้นี้อยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 55 19:19:26 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 55 19:18:42 จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 19:11:37

ความคิดเห็นที่ 81 ดิฉันอ่านทุกความเห็นตั้งแต่กระทู้แรกเลยค่ะ มาถึงตอนนี้อาจจำรายละเอียดไม่หมดแต่จำประเด็นได้แน่นอนค่ะ เรื่องโลงศพก่อนนะคะ เป็นความจริงค่ะว่าในกระบวนการดองศพไม่จำเป็นต้องใช้โลงศพเพราะศพจะดองรวมกันเป็นสิบเป็นร้อยในบ่อซีเมนต์ใหญ่ๆแบ่งตามระยะเวลาและขั้นตอนต่างๆ แต่จากประสบการณ์ที่เห็นมากับตา ศพที่ส่งไปที่อาคารดองศพใส่โลงมาค่ะ ตอนปีหนึ่งที่อยู่ที่นั่นเพื่อนๆชอบไปด้อมๆมองๆที่นั่นบ่อยๆ มีโลงศพสองโลงตั้งอยู่นอกอาคารเราก็ไปเปิดดูก็เป็นเป็นศพแต่แห้งมาก สภาพยังมัดตราสังข์มีดอกไม้ในมือเลยค่ะ สอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเขาบอกว่ามาช้าไปศพแห้งใช้ไม่ได้ ลักษณะแบบนี้จะนำไปต้มแล้วเลาะขัดเนื้อออกหมดแล้วนำไปร้อยเป็นโครงกระดูกทั้งร่างเพื่อไปศึกษาเรื่องกระดูกค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าระยะเวลาจากที่ร่างผู้เสียชีวิตถึงวันที่ญาติได้รับข้อมูลว่าร่างได้รับการดองไปแล้วและใช้ได้นั่นนานแค่ไหนนะคะ แต่กระบวนการที่ได้เข้าไปดูนั้น ยังต้องมีกรระบวนการหลายอย่างกว่าจะถึงขั้นดองในบ่อซีเมนต์ แม้แต่ดองไปแล้วไม่ก็ใช่ว่าทั้งหมดที่ดองจะใช้ได้ บางร่างจะมีปัญหาผิวปริแตกหรือมีสภาพเปลี่ยนรูปไปก็ใช่ไม่ได้เช่นกัน เราจึงค่อนข้างงงว่าทำไมมีเจ้าหน้าที่มายืนยันกับญาติได้ว่าใช้ได้ ตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับภาควิชาและไม่ได้มาแก้แทนใครนะคะ เพียงแต่มีประสบการณ์ตรงในส่วนตรงนี้ที่อยากจะให้ข้อมูลเท่านั้นเองค่ะ มาต่อเรื่องโลงศพ เราก็ไม่รู้ว่าตอนที่ไปรับร่างผู้เสียชีวิตนั้น ได้เสียชีวิตมากี่วันแล้วเพราะเคยไปงานศพที่มีพิธีสวดพระอภิธรรมแล้วไม่มีการเผา เจ้าภาพแจ้งว่าผู้ตายบริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล  ถ้าไม่ใส่โลงศพเราก็นึกไม่ออกว่าจะเอาร่างผู้เสียชีวิตมาแบบไหน และมีกฏหมายมีขั้นตอนอย่างไรบ้างในการเคลื่อนย้ายศพข้ามเขตหรือข้ามจังหวัดแบบนี้ ตรงนี้เราไม่มีความรู้ค่ะ ว่ากันด้วยประเด็นหลักๆของปัญหา เราแน่ใจว่าญาติไม่ทราบเงื่อนไขการรับร่างบริจาคค่ะ เพราะถ้าทราบปัญหาจะไม่เกิดขึ้นแบบนี้ และปัญหาแบบนี้ไม่ได้เกิดครั้งแรก มีบ่อยๆด้วย ประเด็นหลักอยู่ที่เงี่อนไขระบุว่า ไม่รับร่างที่อยู่นอกเขตกทมและปริมณฑล ไม่ใช่มีค่าบริการถ้ารับนอกเขตกทมและปริมณฑล กรณีที่ว่า เจ้าหน้าที่บอกญาติว่าอย่างไรและใครเป็นคนเสนอบริการนั้น ไม่มีใครรู้จริงเท่ากับญาติและเจ้าหน้าที่ค่ะ และแน่นอนเมื่อมีการสอบสวนความผิด เจ้าหน้าที่ก็ต้องบอกว่าญาติเสนออยู่แล้วเพื่อลดความผิดของตัวเอง ในสว่นตรงนี้ภาควิชาเกี่ยวข้องก็คือ คนของภาควิชาทำผิดระเบียบวินัยซึ่งก็ดูเหมือนจะได้รับการสอบสวนลงโทษไปแล้ว ในส่วนที่ญาติผู้เสียชีวิตร้องเรียนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่มีใบเสร็จทางภาควิชาก็ได้ดำเนินการให้แล้วตามจดหมายที่แจ้งมา การที่จะเหมาว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นความผิดความรับผิดชอบของภาควิชาเหมือนว่าภาควิชาเป็นผูักระทำนั้นก็ไม่ถูกต้องนักเพราะมันเป็นการตกลงในแง่ส่วนตัวไม่ใช่ภาควิชาด้วยเงื่อนไขที่ระบุไว้ตั้งแต่ก่อนจะบริจาคมันชัดเจนแล้ว ส่วนเรื่องร่างผู้เสียชีวิตที่แจ้งขอส่งคืนนั้น มันคิดได้หลายมุมนะ แต่เรามองให้แง่ของกฏหมายว่า การนำร่างมามันไม่ชอบและยังเป็นปัญหาร้องเรียนจากญาติผู้เสียชีวิตแบบนี้ ทางภาควิชาก็ไม่มีสิทธิ์จะนำร่างไปใช้ประโยชน์ได้นะจนกว่าปัญหาจะจบหรือได้รับการยืนยันการบริจาคร่างจากญาติซึ่งเป็นเจ้าของตามกฏหมายตอนนี้ การจะบอกว่ามีเจ้าหน้าที่บอกว่าร่างได้ดองแล้วและใช้ได้เป็นการแสดงว่าการคืนร่างเป็นการประชดก็จะมองแคบไปหน่อย เพราะกระบวนการรับร่างและดูแลร่างตามขั้นตอนคงทำไปโดยไม่ทราบว่าร่างไหนมีปัญหาอะไร เราจำไม่ได้ว่ากระทู้มันตั้งก่อนหรือหลังจดหมายตอบจากภาควิชานะ จะว่าไปแล้วในตอนต้นก็แรงกันทุกฝ่าย แถมพวกตามน้ำบ้าง ชอบพลอยบ้างก็ด่ากันเสียๆหายๆเกินไปเยอะกว่าเจ้าของเรื่องก็มี และก็มุ่งเป้าไปด่าที่ภาควิชาด้วย มันก็ไม่แปลกนะที่จะมีอารมณ์เข้ามาร่วมด้วย เราว่ามีอารมณ์กันทั้งสองฝ่ายค่ะ เราก็ไม่เข้าใจว่าญาติผู้เสียชีวิตต้องการให้ภาควิชาออกมาทำอะไร เราถามตัวเองว่าถ้าเป็นเรา เรารู้สึกว่าเราโดนเจ้าหน้าที่ภาควิชาโกง หรือปฏิบัติมิชอบกับเรา เราคงไปร้องเรียนกับต้นสังกัดเขาและไปคุยกับหัวหน้าให้รู้เรื่องว่าอะไรเป็นอะไรนะ เราถึงได้ถามไงว่าหลังจากได้รับจดหมายจากภาควิชาแล้วทางญาติได้ติดต่อกลับไปอีกหรือเปล่า ในส่วนของกระทู้ในเวปบอร์ดสาธารณะทางอินเตอร์เนทเช่นกระทู้นี้ เราก็คงบอกเหมือนกระทู้ดังห้องบลูแหละว่า ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็มีสิทธิที่จะโต้แย้ง ตอบคำถาม หรือจะไม่ตอบโต้ใดๆก็ได้ เพราะตรงนี้ไม่ใช่ศาล ไม่ใช่องค์กรทางกฏหมายที่จะมีอำนาจสั่งการให้ใครมาตอบคำถามใคร หรือชี้แจงอะไรได้ และเราก็คิดว่าภาควิชาคงไม่เข้าขี้แจงใดๆ ด้วย ที่ออกมาแสดงความเห็นนี้เพราะเห็นว่ามีบางความเห็นเริ่มก้าวล่วงไปถึงองค์กร สถาบันอื่นๆโดยที่ไม่ได้มีข้อมูลใดๆ เพียงแค่ไม่มีการชี้แจงออกมาเท่านั้น ก็อยากให้ไปฟ้องศาลปกครองอย่างที่มีผู้แนะนำเหมือนกัน เราก็อยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร แล้วถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ศาลจะโดนด่าด้วยอีกหรือเปล่า เรายังยืนยันเหมือนเดิมค่ะ เราเห็นว่าส่วนที่ภาควิชาเกี่ยวข้องคือคนของภาคทำผิดระเบียบวินัยนั้น เขาได้จัดการสอบสวนลงโทษไปแล้ว และคงได้ชี้แจงกับองค์กรที่กำกับดูแลไปแล้ว ส่วนความเสียหายของญาติผู้เสียชีวิตที่ได้ร้องเรียนไปนั้นเราก็เห็นทางภาควิชาได้จัดการให้แล้วแต่ไม่รู้ว่าญาติผู้เสียชีวิตไปรับเงินคืนหรือยัง ต้องขออภัยล่วงหน้าถ้าความเห็นดิฉันไม่เป็นที่ถูกใจใครนะคะ เพิ่มเติมข้อความ สำหรับกรณีนี้ส่ิงหนึ่งที่คิดว่าจะเกิดขึ้นและเป็นผลดีในอนาคตก็คือ คงจะไม่มีเจ้าหน้าที่กล้ารับทำแบบนี้อีก และเราก็อยากให้ผู้บริจาคร่างกายทุกท่านได้ให้ข้อมูลรายละเอียดกับญาติไว้ให้เรียบร้อย และถ้าบริจาคแล้วต้องไปอยู่ไกลๆ ก็อย่าดิ้นรนจนเป็นช่องทางให้คนทำผิดเพื่อผลประโยชน์แบบนี้อีกเลย เราเห็นด้วยกับคำที่ว่า การอุทิศร่างกายผลมันบังเกิดตั้งแต่การมีเจตนาแล้ว ไม่ใช่ว่าสุดท้ายไม่บรรลุความประสงค์แล้วจะไม่มีผลอะไร   แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 55 20:51:19 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 20:47:32

ความคิดเห็นที่ 82 ผมจะสรุบคร่าว ๆ แบบ Time Line ให้ละกัน เป็นการสรุปตามความทรงจำนะครับ ซึ่งหากผิดพลาดตรงไหนก็ทักท้วงได้ 1. คุณย่าเสียชีวิต ญาติแจ้ง จนท.ให้มารับร่างกายของคุณย่า 2. จนท.ที่มาขอรับเงินเพิ่มเป็นค่าใช้จายพร้อมค่าโลง เป็นเงินรวม 14,000 โดยคุณอาได้จ่ายไป 3. คุณหลาน deerja เกิดความสงสัยในค่าใช้จ่ายที่แพงเกินจริง ทั้งยังไม่จำเป็นต้องใช้โลง และไม่มีการออกใบเสร็จให้ จึงได้มาตั้งกระทู้ถาม 4. มีบัตรผ่านเข้ามาตอบโดยอ้างว่าเป็นอาจารย์ในภาควิชาที่ดูแลการรับร่างอาจารย์ใหญ่ และชี้แจงว่าอยู่นอกเขต เป็นจนท.และญาติตกลงกันเอง ภาควิชาไม่เกี่ยว และกำลังสอบสวนรายละเอียด 5. จขกท. โทรคุยกับ อ. คนดังกล่าว 6. มีบัตรผ่านแบ่งร่างมาบอกว่าจขกท.เล่าไม่หมด 7. มีจนท.หญิงโทรมาต่อว่า คุณหลาน และเสนอเงินช่วยน้ำท่วม 5,000 บาทเพื่อหยุดเรื่อง 8. มีการอ้างด้วยวาจาว่ามีการลงโทษจนท.คนนั้นแล้ว 9. เรื่องเงียบไปนานจนนึกว่าจบ 10. มีหนังสือตอบกลับจากภาควิชาไปหาคุณอา ทั้งที่คนร้องเรียนคือคุณหลาน ใจความในหนังสือยืนยันว่าเป็นการตกลงกันเองระหว่างญาติและจนท. แต่จะคืนเงินให้ก็ได้ และออกใบเสร็จให้ด้วย (ซึ่งขัดกัน ถ้าตกลงกันเองภาควิชาไม่เกี่ยว แล้วจะคืนเงินกับออกใบเสร็จให้ได้ยังไง) ในหนังสือราชการบอกด้วยว่าจะคืนร่างคุณย่า เพราะคุณหลานโพสกระทู้ทำให้ทางภาควิชาเสียหาย (ย้ำว่า ในหนังสือระบุว่าเพราะคุณหลานโพสกระทู้ทำให้ภาควิชาเสียหาย จึงจำเป็นต้องคืนร่างคุณย่า แบบนี้ไม่เรียกว่าประชดจะเรียกว่าอะไรดี) แถมยังใจดีไม่คิดค่าน้ำยาฉีดอีกตั้ง 5,000 บาทด้วยนะ นอกจากนั้นยังบอกว่า ถ้าคุณหลานยอมรับข้อเสนอนี้ ก็จงหยุดเผยแพร่และจงขอโทษภาควิชาเสียดี ๆ ก่อนจะย้ำว่าการคืนร่าง ภาควิชาใจดีจะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ อีกต่างหาก 11. ผู้ได้อ่านหนังสือราชการลงลายมือชื่อโดยหัวหน้าภาควิชาฉบับนี้ จำนวนมากต่างไม่พอใจ เพราะกลายเป็นว่าการที่คุณหลาน นำเรื่องการหากินจากการบริจาคร่างกายมาสอบถาม กลับกลายเป็นคนผิด แถมหนังสือราชการก็ยังใช้สำนวนแบบภาษาพูด ไม่ใช่ภาษาราชการ และดูเป็นการขู่ด้วยว่าถ้าอยากได้เงินคืนก็จงขอโทษภาควิชาซะ 12. มีบัตรผ่านแบ่งร่างมาเกรียน 13. อ. คนก่อนหน้า แสดงความสามารถโดยการอ่านกระทู้จากล่างขึ้นบน(แถมอ่านไม่จบกระทู้อีกต่างหาก) ยิ่งไปกว่านั้น อ. ท่านนั้นเสนอแนวทางการปฏิบัติว่าเป็นเรื่อง Win-Win ซึ่งหยวน ๆ ไปซะเถิด เพราะจนท.ก็โดนลงโทษไปแล้ว พร้อมกับ บอกว่าจนท.คนนั้นชีวิตลำบากบ้านโดนน้ำท่วม ต้องหาเลี้ยงลูกเมีย(โดยวิธีหากินกับศพนี่นะ) โปรดสงสารเขาบ้างเถิด 14. เรื่องก็เงียบไปอีกครั้งเป็นเวลานาน 15. จนบัดนี้ ยังไม่มีการคืนเงิน คืนร่างคุณย่า และมีการสรุปผลการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมใด ๆ จากทางภาควิชาและศิริราชเลย ตกหล่น หรือข้อมูลไม่ถูกต้องตรงไหนทักท้วงได้นะครับ จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 00:16:22

ความคิดเห็นที่ 83 ประเด็นที่ยังไม่เคลียร์ 1. มีการลงโทษ จนท. คนนั้นจริงหรือไม่ และลงโทษอย่างไร เพราะมีแต่การอ้างปากเปล่า ไม่มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการ 2. ตกลงจะคืนเงินและคืนร่างคุณย่าหรือไม่ หรือจะยืนยันตามหนังสือราชการฉบับนั้นว่า ต้องขอโทษก่อนถึงจะคืน 3. เหตุผลที่จะคืนร่างคุณย่าคืออะไรกันแน่ อย่าลืมว่าในหนังสือระบุว่า ต้องคืนเพราะคุณหลานทำให้ภาควิชาเสื่อมเสียชื่อเสียง การบอกว่าเพราะกลัวปัญหาด้านกฏหมายเป็นการกล่าวอ้างของผู้ไม่เกี่ยวข้องในภายหลัง 4. หลังจากนี้ ทางภาควิชา และศิริราช มีแนวทางป้องกันปัญหาในลักษณะนี้อย่างเป็นรูปธรรมอย่างไร หรือจะปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปโดยไม่มีการชี้แจงอะไรทั้งสิ้น 5. ที่คนยังตามโหวตตามอ่านกันอยู่นี้ก็มีประเด็นหลัก ๆ ตามที่ว่ามา โดยเฉพาะข้อ 2 และ 4 ที่ทางภาควิชาควรให้ความกระจ่าง ไม่ใช่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนแบบนี้ เพราะหลายท่าน อย่างคุณประกอบก็เป็ผู้หนึ่งที่มีความประสงค์ที่จะบริจาคร่างกายให้กับศิริราชอยู่ จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 00:24:37

ความคิดเห็นที่ 84 คุณเหนื่อยนักก็พักก่อนครับ (ไม่เกี่ยวกับคุณเดียยร์และคุณประกอบ) คุณท่าทางจะอินมากนะ ขอถามหน่อยคุณอยู่ในเหตุการ์ณนั้นรึไม่ ตอนส่งมอบร่างนะ ผมตอบคุณอีกที ไม่เห็นด้วยกับวิธีการจัดการแบบนี้ คุณอ่านแล้วรู้เรื่องไหม แต่ไม่ได้บอกว่า ศิริราชจัดการแบบนี้ถูกต้อง อ่านข้อความของคุณaloneและคุณประกอบโต้กัน มันมีประโยชน์มากกว่าที่คุณมาต่อว่า ไม่โกรธคุณนะ แต่ขำคุณจริงๆ บอกแล้วไงว่า คห.ในนี้ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน จากคุณ : TicketID:346541 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 02:00:33 A:27.130.134.81 X: TicketID:346541

ความคิดเห็นที่ 85 3. เหตุผลที่จะคืนร่างคุณย่าคืออะไรกันแน่ อย่าลืมว่าในหนังสือระบุว่า ต้องคืนเพราะคุณหลานทำให้ภาควิชาเสื่อมเสียชื่อเสียง การบอกว่าเพราะกลัวปัญหาด้านกฏหมายเป็นการกล่าวอ้างของผู้ไม่เกี่ยวข้องในภายหลัง จากข้อความนี้ถ้าหมายถึงการแสดงความเห็นของดิฉันข้างบนแล้วล่ะก็ ขอให้ย้อนกลับไปอ่านไหม่นะคะว่า นั่นเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในนามคู่กรณีของกระทู้นี้ และไม่ได้มากล่าวอ้างใดๆ แค่แสดงความเห็นส่วนตัวก็โดนซะแล้ว จะต้องเห็นด้วยและต้องด่าตามน้ำจนบางทีเลยเถิดหรือย่างไรมันถึงจะถูกต้อง ต้องขออภัยนะคะที่บังอาจเข้ามาแสดงความเห็นในกระทู้นี้  และต้องขออภัยอีกครั้งที่มาทำความขุ่นข้องหมองใจให้ กรุณาข้ามความเห็นของดิฉันไปได้เลยค่ะ หรือลำบากใจจะให้ลบความเห็นทั้งหมดออกก็ยินดีนะคะ ทั้งหมดนี้ไม่ได้ตอบด้วยความรู้สึกประชดประชันใดๆนะคะ  ตั้งใจแบบนี้จริงๆค่ะ ไม่น่าเข้ามาเลยตรู อุตสาห์ไม่เข้ามาตั้งแต่แรกแล้ว แล้วก็หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 06:48:50

ความคิดเห็นที่ 86 เอาใจเค้า มาใส่ใจเรา ถ้าคุณเป็น  คุณย่า ทราบก่อนว่าเสียชีวิตแล้ว  ลูกหลาน  ต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ คุณจะ ถ้าคุณเป็น  จนท.รับศพ บ้านน้ำท่วม รายได้ ไม่พอ  มีศพนอกพื้นที่  คุณจะ.... ถ้าคุณเป็น  อา  คุณแม่เสียชีวิต อยากทำตามความประสงค์ของแม่ คุณจะ.... ถ้าคุณเป็น  พ่อ คุณแม่เสียชีวิต บริจาคร่าง ไหนละ ใบเสร็จ ไม่มี แจ้งหลานที่อยู่ กทม. ถ้าคุณเป็น  หลาน  ที่คุณย่าของตนเองบริจาคร่างให้กับ ร.พ.นี้แต่มีเรื่องไม่เข้าใจ  ติดต่อยังไงก็ไม่ได้  และเมือมีความไม่รู้ไม่เข้าใจอะไรๆ ก็มักนึกถึงเพื่อนในพันทิป  ??? ถ้าคุณเป็น  อาจารย์ ภาควิชา  ที่ผู้ใต้บังคับ กระทำความผิด รู้ หรือไม่รู้  คุณจะ...   ถ้าคุณเป็น  หัวหน้าของ จนท.ที่ไปรับศพ  ลูกน้องทำผิด  คุณจะ.... ถ้าคุณเป็น  หัวหน้าระดับภาควิชารับเรื่อง ทราบเรื่องแลว  ต้องมีจดหมายตอบกลับ ตอบกลับ....? ถ้าคุณเป็น   หน่วยงานที่ดูแล หน่อยงานนนี้  คุณจะ... ถ้าคุณเป็น  หน่วยงานอื่น  ที่ทราบเรื่องนี้ ???? ถ้าคุณเป็น  สื่อ หน่อยงานระดับประเทศ  มีเหตุการณ์แบบนี้ เจอเหตุการณ์ แบบนี้ คุณจะ... ถ้าคุณเป็น  คนไทยท่านนึง ที่ทีความประสงค์จะบริจาคร่างกายนี้ให้เป็นประโยชน์เมื่อเสียชีวิตไปแล้ว  ทราบว่า  มีเรื่องแบบนี้   เกิดขึ้นในสังคมเรา   คุณจะ..... คุณจะทำอย่างไรคะ ถ้าคุณจะขอโทษ ที่คำตอบคุณไม่ถูกใจเรา  คำตอบของคุณเป็นแนวทางที่ถูกต้อง  ที่พึ่งจะกระทำ ???? ได้โปรดอย่าถามว่าเราต้องการอะไรอีกเลย เหตุการณ์ ทั้งหมดเกิดขึ้นไปแล้ว   รอเพียงคำตอบจากมหิลที่กรุณารับเรื่องเรียบร้อยแล้ว ท่านจะกรุณาตอบกลับมาหาประชาชนคนไทยตัวน้อยๆ  คนนี้ อย่าไงรต่อไป ก็เท่านั้นค่ะ จากคุณ : deerja เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 11:07:17

ความคิดเห็นที่ 87 ความคิดเห็นที่ 86 ถามดิฉันหรือเปล่าคะ ใช่หรือไม่ไม่ทราบแต่จากคหก่อนๆก็ขอตอบไว้ตรงนี้ก้แล้วกันค่ะ ถ้าร่างผู้เสียชีวิตเป็นญาติพี่น้องของดิฉันแล้วเกิดกรณีแบบนี้ดิฉันเข้าไปคุยกับผู้บังคับบัญชาค่ะ สอบถามกันให้รู้เรื่องไปว่าอะไรเป็นอย่างไรว่ากันด้วยเหตุผลข้อมูล ในขณะเดียวกันก็จะยอมรับในข้อเท็จจริงที่เกิดที่ไม่รู้มาก่อน เพราะการไม่รู้ไม่ใช่เหตุที่จะอ้างได้ กรณีนี้ว่ากันตรงๆก็คือมีคนหนึ่งคนเอาหน้าที่การงานมาหาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง ผู้ทีเสียหายก็คือญาติผู้เสียชีวิตและภาควิชาที่เจ้าหน้าที่สังกัดอยู่ แต่สุดท้ายกลายเป็นภาควิชาเป็นคู่กรณีกับญาติผู้เสียชีวิตไป การที่คุณบอกว่ามีปัญหาก็นึกถึงเพื่อนในพันทิปมันไม่ผิดหรอกค่ะ มันเป็นสิทธิของคุณที่จะทำอะไรก็ได้ตราบเท่าที่ไม่ไปละเมิดผู้อื่น และการที่จะเรียกว่าละเมิดผู้อื่นก็ต้องมีผู้ถูกละเมิดออกมาเรียกร้องสิทธิ์ตรงนี้ก็ตัวเองด้วย ในกระทู้ที่เกิดขึ้นมาจนถึงปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่ามันควบคุมการแสดงความเห็นของแตละคนไม่ได้ มีการเลยเถิดกันเกิดขึ้น ภาควิชาเสียหายแน่นอน แต่จะเสียเพราะข้อเท็จจริงว่าได้กระทำไม่ถูกต้อง หรือเพราะเป็นการกล่าวหาเป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากันตามกฏหมายถ้าภาควิชาอยากเรียกร้อง แล้วถ้าดิฉันเป็นญาติของผู้เสียชีวิตดิฉันจะเคลียร์ทุกอย่างให้มันจบ ไม่ไช่เพื่อคนทำผิด ไม่ใช่เพื่อภาควิชา แต่เพื่อให้ความตั้งใจของเจ้าของร่างบรรลุวัตถุประสงค์ และไปสู่สุขคติไม่มีอะไรให้ค้างคาต่อไปอีก ไม่ใช่ยังมีคนเล่าขานเรื่องของท่านไม่จบไม่สิ้นจนถึงบัดนี้ ส่วนที่ดิฉันถามว่าต้องการอะไรก็เพราะเห็นว่ากระทู้มันยังอยู่แบบนี้มานานแล้ว ก็ไม่รู้ว่าที่กระทู้มันอยู่แบบนี้ และยังเรียกร้องว่าไม่จบนั้น ต้องการอะไร ส่วนที่ว่า ถ้าคุณจะขอโทษ ที่คำตอบคุณไม่ถูกใจเรา  คำตอบของคุณเป็นแนวทางที่ถูกต้อง  ที่พึ่งจะกระทำ ???? เราแสดงความเห็นส่วนตัวว่าคิดอย่างไร มีข้อสงสัยตรงไหน มีประสบการณ์ที่เจอมาจริงอย่างไร เราไม่ได้ให้ข้อเสนอแนะใดๆว่าต้องทำอย่างไร ที่สำคัญเราก็ไม่ทราบว่ากระทู้สาธารณะแบบนี้ ต้องแสดงความเห็นได้เฉพาะที่เห็นไปในทางเดียวกับเจ้าของเรื่องเท่านั้น เราว่าความเห็นเรานั้นพูดกันด้วยข้อเท็จจริง เหตุผลทั้งสิ้นในฐานะคนนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆทั้งสองฝ่าย และไม่ได้ใช้อารมณ์ร่วมใดๆเลย ได้โปรดอย่าถามว่าเราต้องการอะไรอีกเลย รับทราบค่ะ ถ้ามีประโยคนี้ตั้งแต่แรกคงไม่ถามและคงไม่แสดงความเห็นค่ะ การตั้งกระทู้โพสกระทู้เป็นสิทธิของสมาชิกเวปบอร์ดค่ะ เชิญตามสบายค่ะ ขอลาถาวรตรงนี้เลยละกันค่ะ จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 12:43:33

ความคิดเห็นที่ 88 ผมกำลังสงสัยว่าคุณ Alone บอกว่าเข้ามาแสดงความเห็นในกระทู้นี้ก็โดนซะแล้วว่าคุณโดนอะไร? เมื่อแสดงความเห็นแย้ง ก็มีผู้มาชี้แจงมุมมองอีกด้านที่คิดต่างกัน คุณก็หาว่าตัวคุณโดนซะแล้วอีก ทำไมอคติกับคนที่เห็นแตกต่างขนาดนั้นหละครับ คุณแย้งมุมมองคุณมา  เราบอกมุมมองกลับไป ไม่ได้ต่อว่าอะไรคุณเลย คุณกำลังสร้างภาพให้กลายเป็นว่า ใครเห็นต่างในกระทู้นี้ต้องเจ็บตัวแบบนั้น ซึ่งไม่ใช่เลย อย่าดิสเครดิตพวกเราแบบนี้ครับ คุณเป็น login ที่มีคนรู้จักชื่นชมมากแม้จะไม่ตั้งใจ  ดังนั้นคำพูดของคุณมีน้ำหนักต่อผู้คน เมื่อมีคุณแย้งมา พวกเราก็ตอบกลับไป  แม้จะตอบซ้ำก็ตาม ก็ยังตอบให้หายข้องใจ ทำไมคำตอบที่ตอบกลับโดนตีความว่าเล่นงานคุณ? และก็อย่างที่ผมบอกอีกแหละครับ ว่าต้องอ่านกระทู้ต้นเรื่องก่อน คุณบอกว่าติดตามเรื่องนี้มา แต่สิ่งที่คุณแนะนำ แปลว่าคุณไม่ได้ติดตามเรื่องนี้มาแต่ต้น หรือถ้าติดตามก็ไม่ได้ติดตามอย่างละเอียด หรือไม่เข้าใจ คุณบอกว่าถ้าเป็นคุณจะเข้าไปคุยกับผู้บังคับบัญชา การพูดคุยกับผู้บังคับบัญชามีมาก่อนแล้วครับ  คนแรกคือ อ. หัวหน้าส่วนงานที่มาตอบกระทู้นั่นแหละ เป็นหัวหน้าพวกนี้โดยตรง อ. ร่ายระเบียบการต่างๆ ออกมายืดยาว สรุปว่าเจ้าหน้าที่ผิดที่ออกไปรับ แต่ไม่พูดเรื่องจะคืนเงินที่หลอกไป และไม่พูดเรื่องโลงศพ ดังนั้นเจตนาก็เห็นแล้วว่าปกป้องลูกน้อง และไม่ได้คิดจะแก้ปัญหาแบบถาวร และตอบเฉพาะสิ่งที่ตอบได้เท่านั้นด้วย ละสิ่งที่ตอบไม่ได้ไว้ จนตอนหลังโดนจี้ให้ตอบจากพวกเรา เช่นเรื่องโลง แกถึงยอมรับว่า จนท หลอกจริง แถมตอนหลัง อ. ท่านนี้โดนพิษการเมืองในหน่วยงาน ถูกกันไม่ให้รับรู้เรื่องนี้ต่ออีก คนที่สองที่คุย เป็นเจ้าหน้าที่หญิงที่บอกว่าจะเอาเงินช่วยน้ำท่วมมาให้  คุณเจอแบบนี้จะอยากเข้าไปคุยไหม เมื่อคุยแล้วไม่ได้คำตอบ สิ่งที่ทางญาติทำ ก็คือการทำหนังสือถามไปที่คณบดี หัวหน้าโดยตรงกว่า คณบดีไม่ตอบ โยนหนังสือไปให้ภาคตอบ หัวหน้าภาคตอบแต่ไม่ตอบคนถาม ไปตอบคุณอาโน่น แถมหาว่าคนที่ถามต้องการทำให้ภาคเสียหายให้มาขอโทษอย่างที่เห็นนั่นแหละ ผมเองส่ง email ไปถามคณบดีโดยตรง ก็ไม่มีการตอบกลับใดๆ มีเพื่อนสมาชิกโทรไปถามเรื่องนี้ที่ศิริราช เจ้าหน้าที่ก็ไม่ตอบอีก และถ้าจะเข้าไปคุย ถามว่าจะขอคุยกับใคร จะมีใครให้คุยได้  และถ้าไม่ได้นัดหมายเค้าจะยอมคุยด้วยหรือไม่ ขนาดส่งหนังสือไป ตอบง่ายกว่าเยอะ ยังเป็นแบบนี้เลย ปล 1 มีการส่งหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปหลายหน่วยงานครับ ครึ่งปีแล้วเงียบหมด กระทู้นี้ก็เหมือนการกดดันกลายๆ ว่าให้เร่งมือกันหน่อย แก้ปัญหาให้เถูกต้องเป็นรูปธรรม เรื่องนี้มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย นอกจากคุณจะแกล้งดึงให้คนลืมไปเอง แต่อย่างน้อยหลายคนยังไม่ลืมนะ ถึงออกมาทวง ปล 2  มาตั้งกระทู้ต้องการอะไร  ต้องการให้ศิริราชหรือภาควิชาทำหนังสือตอบกลับญาติมาครับว่า 1. คุณย่าจะได้เป็นอาจารย์ใหญ่หรือไม่ เอาให้แน่ 2. จะคืนเงินค่าโลงศพที่เจ้าหน้าที่หลอกเรียกไปหรือไม่ ส่วนค่าเบี้ยเลี้ยงค่าน้ำมันก็จะเอาอย่างไร จะไม่คืนส่วนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่บอกมาให้ตรง ชัด 3. มีการแก้ไขระเบียบการหรือดำเนินการอย่างไรเพื่อป้องกันปัญหาลักษณะนี้ในอนาคต แค่นี้ก็คงจบครับ ไม่ได้ขออะไรมากมายเลย แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 55 13:44:07 แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 55 13:43:11 แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 55 13:35:20 จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 13:29:18

ความคิดเห็นที่ 89 แนะนำให้คุณ Alone with out lonely กลับไปอ่านและศึกษาเรื่องนี้อีกครั้ง คำตอบที่เป็นมุมมองของคนอื่น ๆ คุณกลับเข้าใจว่าคุณ " โดน " นั้น ไม่ทราบว่าโดนอะไรเหรอครับ ทั้ง ๆ ที่คำตอบของคนอื่น ๆ เหล่านั้น มีเหตุผลในการตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว และไม่ได้ต่อว่าความเห็นของคุณเลย มีแต่จะอธิบายให้เข้าใจ และสิ่งที่คุณแนะนำมาว่า ถ้าเป็นคุณ แล้ว คุณจะทำแบบนั้นแบบนี้ จะบอกว่าสิ่งที่คุณบอกมานั้นคุณ deerja ก็ทำไปแล้วครับ ซึ่งนั่นก็แสดงว่าคุณไม่ได้ศึกษารายละเอียดของเรื่องนี้มาก่อนเลย คุณมาแบบ "ทะลุกลางปล้อง" จากคุณ : PP เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 14:37:51 A:123.242.133.195 X: TicketID:347817

ความคิดเห็นที่ 90 คุณย่า เสียชีวิต วันที่ 16 พ.ย. 54  เวลา 16.04  น. รถ ร.พ. มารับศพ วันเดียวกันนั้น  เวลา 4 ทุ่มครึ่ง พนักงานมาด้วยกันท้งหมด 5 คน ร่างไม่ได้นำไปทำพิธีอะไรทั้งสิ้น จนท.ตัดเล็บ ตัดเส้นผมให้ไว้ไปทำพิธี มารถตู้ ที่มีหวอ มีสกีนชื่อโรงพยาบาล  มีโลงมาด้วย  โลงก็มีลวดลาย พอประมาณมีลายเทพพนม  ไม่ถึงกับเป็นโลงไม้เปล่าๆค่ะ จากคุณ : deerja เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 14:44:10

ความคิดเห็นที่ 91 สงสัยอยู่ครับว่า ประโยคไหน คำไหนที่ทำให้คิดไปได้ว่า โดนซะเล้ว ถ้าประโยคที่ยกมาเรื่องคืนร่างแล้วทำให้ไม่สบายใจ ผมก็ขอโทษครับ แต่อย่าลืมว่าประโยคที่ผมพิมพ์ไปนั้นคือข้อเท็จจริง เป็นข้อเท็จจริงโดยมีเอกสารอ้างอิงเป็นหนังสือราชการลงนามโดยหัวหน้าภาควิชา ส่วนที่ยกมาอ้างกันว่าจะคืนร่างเพราะกลัวมีปัญหาทางกฏหมายนั้นเป็นคุณผู้อ่านคิดไปกันเอง ไม่มีข้อพิสูจน์ใด ๆ ณ เวลาปัจจุบัน ว่าที่จะคืนร่างเพราะเกรงจะมีปัญหาในทางกฏหมาย ไม่มีเลยนะครับ เพราะงั้นถ้าข้อเท็จริงที่ผมได้แสดงออกไป แล้วไม่ตรงใจ แล้วจึงพยายามยัดเยียดให้ว่าผมห้ามเห็นต่างนั้นทำให้ไม่สบายใจก็ขออภัยอีกครั้งครับ เพียงแต่ใครกันแน่ที่ห้ามเห็นต่าง ใครกันในกระทู้นี้ที่เมื่อจขกท. และผู้ที่ติดตามเรื่องราวไม่เห็นคล้อยตาม ก็เอาแต่ยัดเยีดข้อหาว่าห้ามเห็นต่าง ต้องตามน้ำเท่านั้นให้       ใครกันครับ ใครกันแน่ที่ถ้าไม่เห็นด้วยกับฉันนั้นต้องเป็นพวกตามน้ำ พวกห้ามเห็นต่าง. ใครกัน??? จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 14:59:18

ความคิดเห็นที่ 92 อ้อ นี่ผมเพิ่งทราบเหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่เตรียมโลงศพมาด้วย ถามไป อ. บอกแต่โลงไม่จำเป็นต้องใช้ เลยเข้าใจว่าไม่มีโลงศพมา ตรงนี้ต้องขอยอมรับผิด แสดงว่าคุณย่านอนในโลงไปในรถ แต่ก็ยังติดใจอีกว่าพอถึงศิริราชแล้ว โลงศพก็ไม่ต้องใช้อีก แล้วหลังจากนั้นโลงไปไหน  มีการวนเวียนใช้หรือไม่ และทำไมมีการเสนอราคาหลายราคา และในเมื่อสามารถนอนในเปลมีผ้าคลุมก็ได้ จะให้ซื้อโลงทำไมเพราะใช้แค่ในช่วงที่ส่งร่างเท่านั้น ถ้าต้องนอนในโลงในการขนร่างทุกครั้ง ไม่ว่าจะในหรือนอกรัศมีทำการ ก็ควรจะมีโลงชั่วคราวเตรียมไว้อยู่แล้ว ทำไมต้องมาเรียกค่าโลงจากญาติ สุดท้ายก็คือการหลอกบังคับขายโลงอีกนั่นแหละ ท่าทางการหลอกบังคับขายโลงน่าจะมีเป็นจำนวนมากและโดนกันเยอะ ไม่ว่าจะในหรือนอกเขต ถ้าภาควิชาอยากได้โลงเย็นบอกได้ ผมยินดีบริจาค 1 โลงเพื่อใช้ในการขนร่างครับ ถ้าไม่พอเดี๋ยวจะหาผู้บริจาคอื่นเพิ่มให้ เจ้าหน้าที่จะได้ไม่ต้องมาหลอกขายกับชาวบ้าน จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 15:10:51

ความคิดเห็นที่ 93 การแสดงความเห็นแย้ง หรือเห็นต่าง เป็นเรื่องที่ดีครับ และโปรดเข้าใจด้วยว่า ผู้อ่านในที่นี้ มีวิจารณญาณมากพอที่จะพิจารณาตัดสินใจเองได้ อย่าเข้าใจว่าทุกคนจะตามน้ำไปกันหมด หากเหตุผลของคุณดีจริง หลายคนก็จะเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนครับหากความเห็นต่างนั้นประกอบไปด้วยเหตุผลที่ชัดเจน ไม่ซ้ำซากหรือหลงประเด็น จากคุณ : PP เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 15:12:19 A:123.242.133.195 X: TicketID:347817

ความคิดเห็นที่ 94 อ้อ สรุปกระบวนการให้อีกที เผื่อคนที่อ้างว่าอ่านหมดแล้วจะลืมหรือเผลออ่านข้ามไป 1. ตั้งแต่เกิดเรื่อง คุณเดียรที่เป็นหลานได้ทำไปแล้วคือการโทรไปคุยกับอ.บุญส่ง รวมถึงผู้ติดตามท่านอื่น ๆ ด้วย แต่ในระหว่างคุยมีจนท.หญิงคนหนึ่งโทรกลับมาต่อว่าคุณเดียร์ รวมทั้งคุณเขียว(ถ้าติดต่มอ่านจริงคงรู้จัก)ก็ถูก อ. ท่านหนึ่งตำหนิด้วยเช่นกัน 2. มีการเปลี่ยนท่าทีของผู้เจรจา คุณเดียร์จึงไม่เสี่ยงที่จะไปพบถึงสถานที่ แต่ได้ใช้วิธีทำหนังสือสอบถามอย่างเป็นทางการไปยังหน่วยงานต้นสังกัดแทน 3. หน่วยงานต้นสังกัดกลับตอบหนังสือสอบถามไปที่คุณอา(ที่ไม่ใช่ผู้ที่สอบถาม) เนื้อความตามเอกสารราชการที่แสดงไปแล่ว 4. ผู้ที่ติดตามเรื่องราว และคุณเดียร์ ช่วยกันร้องเรียนตามหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปอีก 5. แต่จนถึงขณะนี้ไม่มีการตอบกลับใด ๆ กลับมาเลย ดังนั้นสิ่งที่พอจะทำได้และเป็นช่องทางที่เหลืออยู่คือร้องเรียนผ่านพันทิป และเกิดเป็นกระทู้ลากยาวข้ามปีมาจนถึงขณะนี้ ดังนั้นจึงอยากจะบอกว่าที่บางท่านเสนอแนวทางมานั้นได้ทำไปเกือบหมดแล้ว แต่ทางจนท. และภาควิชาที่รับผิดชอบโดยตรง ก็ยังนิ่งเฉยและไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมใด ๆ เลย เอาแค่ประเด็นง่าย ๆ อย่างตกลงคุณย่าจะได้เป็นอาจารย์ใหญ่หรือไม่ หรือตกลงเงินจะคืนหรือไม่ ก็ยังไม่ได้คำตอบ แล้วขอถามย้ำอีกครั้ง มีเจ้าหน้าที่ทำผิด จึงได้ร้องเรียนไปยังต้นสังกัด แต่ทางต้นสังกัดเพิกเฉย ก็ต้องทำใจรับสภาพใช่หรือไม่ ในเมื่อทั้งโทรศัพท์ ทั้งทำหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ต้นสังกัดยังเพิกเฉย ก็จงรับสภาพอย่าได้มาติดตามทวงถามอีกใช่หรือไม่ แล้วในเมื่อถูกเพิกเฉย จึงได้ร้องเรียนไปยังคณบดี อธิการบดี สื่อมวลชน และหน่วยงานต่าง ๆแล้ว ก็ยังถูเพิกเฉยอีก ก็จงทำใจรับสภาพ และไม่ควรร้องเรียน ติดตามทวงถามผ่านสื่ออินเตอร์เนตอีก อย่างนั้นใช่หรือเปล่า จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 15:23:11

ความคิดเห็นที่ 95 บางคนไม่ได้อ่านแล้วพยายามมาออกความเห็น แล้วแถว่าอ่านแล้ว ขอเถอะครับ เสียเวลาเสียความรู้สึก ต้องมาตอบคำถามซ้ำๆ ทั้งๆ ที่ถ้าคุณอ่านจริงอย่างที่พูด จะไม่ถามอะไรที่ผมมองว่า โง่ๆ ออกมาครับ (คงไม่ต้องย้ำว่าเป็นความเห็นส่วนบุคคลครับ) จากคุณ : AJ_da_NR เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 15:43:31

ความคิดเห็นที่ 96 สรุปแบบ โคตร ย่อ  ตามที่ข้าเข้าใจ 1.เจ้าหน้าที่รับศพ ไถเงิน ญาติๆ ภาษาชาวบ้านคือ หลอกแด- ก (ทำมากี่ศพแล้ว??  ทำมากี่ปีแล้ว??) (อาจารย์ภาคศพ ได้เงินส่วนแบ่งนี้ ด้วยหรือไม่??) 2.พอมีการท้วงติง จากคนที่เสียศรัทธา รพ.ศิริราช ก็ แถ เบี่ยง โบ้ย ตัดรำคาญไปวันๆ   พอโดนคนรุมด่ามากเข้า ก็เงียบเป็นเป่าสาก   มาจนทุกวันนี้ 3. กรณีนี้คือ "หากินกับศพ" แถมไม่ใช่ศพธรรมดา  แต่เป็นศพ "คนที่เจตนาเป็นกุศล" จะบริจาคร่างให้ศึกษา 4.ขอด่าที  ไอ้เลว จากคุณ : tanakeme เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 15:49:18

ความคิดเห็นที่ 97 โหวตแล้วค่ะ หากินกับศพไม่กลัวปาบกรรมกันหรืองัย จากคุณ : cyric amp เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 00:05:58

ความคิดเห็นที่ 98 โหวตให้ครับ จากคุณ : << joi_little >> เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 12:12:34

ความคิดเห็นที่ 99 มาร่วมติดตามด้วยคนครับ จากคุณ : สายลมปุยเมฆกับฟ้าสีคราม เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:38:49

ความคิดเห็นที่ 100 โหวตให้อีกคะ จะโหวตไปเรื่อยๆ จากคุณ : penza เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 00:49:39

ความคิดเห็นที่ 101 สรุปแล้วเป็นสถาบันทางการแพทย์ หรือซ่องโจร หรืออะไร งง บาปจริงๆ... จากคุณ : No Nothing เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 15:04:37

ความคิดเห็นที่ 102 เป็นกำลังใจให้ครับ ติดตามอยู่เนืองๆ จากคุณ : thaiMBA เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 17:38:51

ความคิดเห็นที่ 103 ยังอยู่เป็นกำลังใจให้คุณ deerja ครับ  และยังรอดูคำตอบของอีกฝ่ายว่าจะเป็นอย่างไร ฝากถึงฝ่ายที่เบื่อ หรือ เห็นการเรียกร้องครั้งนี้ว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ  หรือน่าเบื่อ  กรุณาปรับใจของท่านซะใหม่เถอะ  ไม่งั้นก็มองผ่านๆ ไปบ้างก็ดีครับ  จะได้สบายใจขึ้น ท่านที่หวังจะเอา "ฝีปาก" "ลูกไม้ลายมือ" ที่มี มาประชันในเรื่องนี้ ขอให้หยุดเถอะครับ เรื่องนี้ไม่มีคำว่าใครชนะ ใครแพ้  มีแต่ "ความจริง" เท่านั้นที่เราต้องการ จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 23:53:40

ความคิดเห็นที่ 104 อยากตำหนิ ความเห็น "เผือกๆ" ที่ความคิดเห็น ตรรกะ และ การกระทำสวนทางกันอย่างไม่น่าให้อภัย --------------------------------------------------------------------------- เห็นด้วย กับ คห.95 ครับ ส่วนตัว ต้อง ขอบคุณ คุณประกอบ และทุกคน มากๆ ครับ ที่ช่วยติดตามเรื่องนี้กัน ผมเอง มีคุณแม่ และก็บริจาคให้ ศิริราช เหมือนกัน พอถึงวันนั้นจริงๆ เจออย่างนี้ก็คงแย่ เข้าใจความรู้สึกได้ดีครับ เมื่อ 1-2 ปีที่แล้ว คุ้นๆ ว่า มี จนท.รพ ให้ User ชื่อดังห้องหนึ่ง ย้ายจาก รพ.เอกชน ไป รพ.รัฐ โดย "ได้รับพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ" ส่วนคนไข้รายอื่นที่รอความหวังจำนวนมาก เพื่อรักษาโรคมะเร็ง ก็ต้องรอต่อไป ลอง serach ข้อมูลดู จะได้เห็นความชัดเจนเรื่องความยุติธรรม เป็นกำลังใจให้ ผู้ได้รับผลกระทบทุกคนครับ ตั้งกระทู้ โหวตกระทู้ กัน ช่วยเรียกความยุติธรรมให้บังเกิด จากคุณ : be เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 00:59:26 A:101.109.185.97 X: TicketID:360169

ความคิดเห็นที่ 105 ติดตามมาโดยตลอดแต่ไม่เคยแสดงความคิดเห็น ครั้งนี้อยากเข้ามาให้กำลังใจค่ะ แค่เป็นคนนอกติดตามเรื่องราวยังรู้สึกแย่ คุณ deerja และครอบครัวคุณย่าทุกคนความรู้สึกคงยากเกินบรรยาย เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : ใจหม่นหม่น เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 08:31:28

ความคิดเห็นที่ 106 แค่ตั้งกระทู้ ไม่เท่าไหร่หรอก อ่ะจัดให้  ถ้าคณบดียังไม่คืบ ต่อไปก็อธิการบดีครับ ถ้ายังไม่คืบอีก ต่อไปก็ปลัดกระทรวง และองค์กรอื่นๆ ข้อเท็จจริงอันไหนไม่ตรง ก็ปรับแก้เอานะครับ  หนังสือผมอ้างอิงตามหนังสือปัจจุบัน แค่ที่ใครออกมากล่าวอะไร ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรจากคณะ ผมไม่สน การส่งหนังสือ ให้ทำสำเนา แล้วไปส่งที่สำนักงานคณบดี ให้เจ้าหน้าที่ลงเลขรับ+ลายมือชื่อในสำเนาเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย ที่อยู่ วันที่ ... เรื่อง ร้องเรียนความไม่โปร่งใสกรณีการรับศพบริจาคเพื่อการศึกษา เรียน คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. จดหมายลงวันที่ 14 ธันวาคม 2554 เรื่องเรียนสอบถามถึงค่าธรรมเนียมการรับศพบริจาคเพื่อการศึกษา      2. หนังสือภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ที่ ศธ ........... ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2554 ด้วย ข้าพเจ้านางสาว......  ได้แจ้งให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มารับศพของนาง..... ซึ่งเป็น....ของข้าพเจ้าและเป็นผู้ลงนามบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษาให้แก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ .... แต่เนื่องจากศพของย่าข้าพเจ้าอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่องได้แจ้งว่า เป็นกรณีที่อยู่นอกเขตจึงต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งข้าพเจ้ายินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย  แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ซึ่งเดินทางด้วยรถของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฯ มาถึง ได้เรียกเงินจากค่าข้าพเจ้าดังนี้ 1. ค่าน้ำมันรถ 4,000 บาท 2. ค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ 2,500 บาท และ 3. ค่าโลงศพ 7,500 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 14,000 บาท ข้าพเจ้าเข้าใจว่าเป็นเงินค่าใช้จ่ายที่ต้องให้แก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฯ จึงได้จ่ายไป แต่เมื่อข้าพเจ้าได้ทวงถามถึงใบเสร็จรับเงิน เจ้าหน้าที่กลับไม่สามารถออกให้ได้ การดำเนินการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความไม่โปร่งใส อีกทั้งในการรับศพ ยังไม่พบว่ามีความจำเป็นต้องใช้โลงศพแต่อย่างใด ข้าพเจ้าจึงได้มีหนังสือสอบถามรายละเอียดไปยังภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฯ เพื่อขอความชัดเจนในการดำเนินการดังกล่าว ปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1.  และได้มีการตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ www.pantip.com เพื่อขอข้อมูลและความเห็นจากบุคคลทั่วไป  ต่อมาภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฯ ได้มีหนังสือตอบข้อสอบถามของข้าพเจ้า ปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2. โดยภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฯ แจ้งว่าจะคืนศพพร้อมเงินค่าใช้จ่ายให้แก่ข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้ารู้สึกว่า แนวทางของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฯเป็นการประชดประชันและทำร้ายเจตนารมณ์ของคุณย่าผู้บริจาคร่างกายและญาติๆ ที่ต้องการให้คุณย่าได้เป็นอาจารย์ใหญ่  และยังไม่ได้ชี้แจงว่าการดำเนินการรับศพและการเรียกเงินของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบที่ถูกต้องของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฯ หรือไม่แต่อย่างใด ซึ่งเป็นการแสดงถึงความไม่โปร่งใสอย่างมาก อีกทั้งยังเรียกร้องให้ข้าพเจ้ากล่าวขอโทษ เนื่องจากว่าข้าพเจ้าเข้าใจผิดและนำข้อมูลเผยแพร่ทำให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฯ เสียหาย  ข้าพเจ้าจึงขอร้องเรียนมายังท่านเพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวและชี้แจงการดำเนินการที่ถูกต้องตามระเบียบให้แก่ข้าพเจ้าได้รับทราบต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำเนินการ ขอแสดงความนับถือ (นางสาว......) แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 12:16:35 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 12:10:36 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 12:06:52 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 12:04:09 จากคุณ : มัตสึชิตาน่า (มัตสึชิตาน่า) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 12:01:18

ความคิดเห็นที่ 107 อ่านแล้วรู้สึกเสียใจและเห็นใจเจ้าของกระทู้มากค่ะ.. (เพียงแค่นึกว่าถ้ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นกับเรา  เราคงมีความทุกข์ไม่น้อยเลย)   ขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป   เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง  แต่เป็นการทำเพื่อส่วนรวม   หากเราเพิกเฉย  มุมมืดในสังคมก็ไม่มีวันสว่างเสียที .. และสิ่งหนึ่งที่ดิฉันเสียความรูสึกอย่างมาก คือ ทางภาควิชามีข้อความตอบกลับมาในหนังสือว่าจะส่งร่างคืน  ด้วยเหตุผล.... ใดๆก็ตามแต่   มันเป็นเรื่องเศร้าและสะเทือนใจอย่างมาก   เรื่องของเหตุและผล  หลายๆคนได้ให้ไว้ครบถ้วนพอสมควรแล้ว  ดิฉันคงมีแต่ความรู้สึกในมุมของตัวเองว่า ..  เนื้อหาในจดหมายได้ทำร้ายจิตใจคนในสังคมอีกหลายคน นอกเหนือจากญาติมิตรของผู้เดือดร้อน จากคุณ : briohny_bird19 เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 13:21:23

ความคิดเห็นที่ 108 ขอกุศลผลบุญต่างๆที่ดิฉันมีและพึงกระทำไว้ทั้งหมดในชีวิต  ช่วยแผ่ไปถึงครอบครัวของเจ้าของเรื่อง  ให้ประสพพบแต่เรื่องที่ดีต่อไปค่ะ.. หากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  อ่านมาผ่านเจอข้อความของดิฉัน  ขอความเมตตา  ดำเนินเรื่องให้สว่าง  กระจ่าง  ไม่มัวหมองกันทั้งสองฝ่ายด้วยเถิดนะคะ ..   ความผิดพลาดและอารมณ์ย่อมเกิดขึ้นได้กับมนุษย์โลกทั่วไป  แต่เมื่อลองตกตะกอนดูเรื่องนี้อีกครั้ง ..  เราจะเห็นได้ว่า  มันเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างมาก และเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างร้ายแรง   ฝากท่านพิจารณาอีกสักครั้งเถิดค่ะ .. จากคุณ : briohny_bird19 เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 13:34:20

ความคิดเห็นที่ 109 อ่านๆตามเรื่องดูเเล้วก็ไม่ไหวเลย ทำไมไม่ทำให้ถูกต้องเสียที สู้ๆต่อไปครับ จากคุณ : karinkr เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 15:04:03