ความคิดเห็นที่ 1 รออ่านค่ะ^^ จากคุณ : สวยเพราะไสยศาสตร์ เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 19:39:21

ความคิดเห็นที่ 2 รออ่านค่ะ หรือลงภาษาอังกฤษก็ได้ จากคุณ : namkati เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 19:53:05

ความคิดเห็นที่ 3 จัดมาครับ จากคุณ : ตบ แปะ ชาร์จ เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:07:07

ความคิดเห็นที่ 4 เอาลงมาเป็น pdf เลยครับจะโหลดไปอ่าน จากคุณ : Menergizer เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:07:40

ความคิดเห็นที่ 5 ป.ล. เกรงว่าจะมาแนวศาสนา จากคุณ : คนเดียวกับ คห. 4 (Menergizer) เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:08:13

ความคิดเห็นที่ 6 . จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:30:10

ความคิดเห็นที่ 7 5 คำถาม 1.โรคเอดส์เกิดจากเชื้อไวรัส จริงหรือไม่ 2.ถ้าไม่ แล้วเชื้อ HIV ทำอะไรได้บ้าง 3.สารเคมีเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ได้หรือไม่ 4.HIV สามารถรักษาตัวเอง และสามารถเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ได้หรือไม่ หรือแค่เป็น Normal flora 5.ทำไมคนแอฟริกันที่เป็นเอดส์จึงแตกต่างจาก ยุโรปหรืออเมริกาที่เป็นเอดส์ ทำไมทำไมทำไม ต้องแยกกันนะครับ ผู้ติดเชื้อ HIV กับโรคเอดส์ เป็นคนละคำและคนละความหมาย ผู้ติดเชื้อ คือมีเชื้อและมีantibody ขึ้นมา ส่วนโรคเอดส์คือ แสดงอาการของโรคเอดส์เต็มขั้น จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:35:58

ความคิดเห็นที่ 8 .. แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 55 20:48:28 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 55 20:46:11 จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:43:10

ความคิดเห็นที่ 10 .. แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 55 20:48:14 จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:47:16

ความคิดเห็นที่ 12 หน้าตาคนคิดทฤษฎีนี้ครับ คนนี้เป็น Professor ตั้งแต่ 20 ต้นๆ(จำไม่ได้แน่นอน) ได้รับ Nobel prize เรื่องที่คิดค้น PCR (polymerase chain reaction) โด่งดังมีลูกศิษย์มากมาย หลังตีพิมพ์เรื่อง HIV ไม่ใช่สาเหตุของโรคเอดส์ สำนักพิมพ์ก็โดนข่มขู่ เรียกเก็บหนังสือคืน ส่วนprofessor ก้โดนปลด โดนตัดทุนวิจัย ลูกศิษย์ลูกหาก้หนีหายหมด โดยข้อหาที่ว่า คุณอาจทำให้ ประชากรทั่วโลกหลายล้านคนต้องตายเพราะเชื้อ HIV ... ...และ PCR เองก็เป็น Gold standard ในการวินิฉัย HIV/AIDS แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 55 21:20:24 จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:48:03

ความคิดเห็นที่ 13 เจ้าของทฤษฎี จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:48:56

ความคิดเห็นที่ 14 มั่วๆหน่อยนะครับ แปลไม่ค่อยออก จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:50:35

ความคิดเห็นที่ 15 เรามาดูข้อเหมือน/แตกต่าง ระหว่าง virus HIV และ VIRUS ทั่วไป จาก 5 คำถามข้างต้น เชื้อ virus มักจะ specific ต่อโรค 1 เชื้อไวรัส ต่อ 1 โรค เช่น ติดเชื้อ virus dengue ก็เป็นไข้เลือดออก ติดเชื้อ virus herpes ก็เป็นเริมหรืองูสวัดแแล้วแต่type ติดเชื้อ rabies ก็เป็นโรคพิษสุนัขบ้า ติดเชื้อไวรัสหวัดก็เป็นหวัด แล้วทำไม ติดเชื้อ HIV ถึงเป็นได้ตั้ง 26 โรค จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:56:26

ความคิดเห็นที่ 16 เดี๋ยวมาต่อไปดูคนไข้ก่อน ปล. มีคนสนใจไหมเนี่ย จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:57:29

ความคิดเห็นที่ 17 อ่า... ไวรัส HIV  มันไม่ได้ทำให้เกิดโรคเฉพาะนี่นา มันทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเรียกว่าเอดส์ จริงป่ะ ภูมิคุ้มกันบกพร่องมันก็เกิดโรคแทรกซ้อนได้มากมายดิ ไม่เห็นน่าแปลกตรงไหน ที่ไวรัส HIV ทำให้เกิดโรคได้ 26 โรค แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 55 21:09:50 จากคุณ : safetymind เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:08:17

ความคิดเห็นที่ 18 #17 แล้วแน่ใจได้อย่างไรว่า HIV เป็นตัวทำลายภูมิคุ้มกัน ไม่ใช่ สารเคมี คำถามที่ว่า 'จริงป่ะ' ผมจะไม่ตอบและไม่เถียง เพราะผมก็ไม่ทราบ ผมเพียงแต่ทำหน้าที่ reveiew paper นะครับ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:19:12

ความคิดเห็นที่ 19 โหวตให้นะครับ จากคุณ : jomnalists เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:19:14

ความคิดเห็นที่ 20 ชักเริ่มอ่าน slide ต่อๆไปไม่ออกแล้วครับ เพราะว่าไม่ได้กิฟ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:21:17

ความคิดเห็นที่ 21 รออ่านนะ ว่าสารเคมีอะไรน๊อ ทำให้เป็นเอดส์ได้ แล้วการที่หมอคนนั้นบอกว่า HIV ไม่ใช่สาเหตุของโรคเอดส์ แล้วมันจะทำให้คนตายเพราะเชื้อ HIV หลายล้านคนได้ยังไง ? จากคุณ : safetymind เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:27:03

ความคิดเห็นที่ 22 สมัยก่อนมีการค้นพบไวรัส และมีการตั้งชื่อไวรัสกันอย่างกว้างขวาง จนเกิดความสับคน นายคนนี้จึง ตั้งนิยามของเชื้อไวรัสไหม่ที่ค้นพบว่า ต้องมี 4 ขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1 ไวรัสกับโรค เกี่ยวข้องกัน(specific) 2.แยกเชื้อออกมาจาก Host ได้ 3.เชื้อที่แยกออกมา สามารถติดต่อกับ Host อีกตัวได้ 4.และแยกเชื้อได้อีก และแน่นอน HIV ยังไม่สามารถแยกเชื้อออกมาจากร่างกายคนได้ หรือเอาไปเลี้ยงนอกคนไม่ได้นั่นเอง จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:29:37

ความคิดเห็นที่ 23 #21 ก็ถ้ามีคนเชื่อบทความนี้ คนเราก็จะไม่ระวังไม่ป้องกันยังไงละครับ โดยเฉพาะแดนที่ free sex เมื่อไม่ป้องกันก็จะทำให้มีคนติดเชื้อแบบมหาศาล ควบคุมไม่ได้ และคนที่จะตายก็ไม่ต้องพูดถึงเลย รัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการระบาดของโรคจึงต้องใช้วิชามาร ปลด professor ออกจากทุกตำแหน่งเลย ผมคิดแล้วคิดอีกว่าจะเอามาลงพันทิปดีหรือไม่ เพราะถ้ามีคนเชื่อบทความนี้(ซึ่งผมก็ไม่ปักใจเชื่อ) แล้วเค้าไปมี sex แบบไม่ระวัง บาปกรรมคงตกมาอยู่กับผม แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 55 21:35:16 จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:33:36

ความคิดเห็นที่ 24 อืม.... น่าสนใจนะ  โหวตให้จะได้มีกำลังใจแปลต่อ จากคุณ : safetymind เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:34:18

ความคิดเห็นที่ 25 slide นี้กล่าวถึง Intubation period หรือระยะเวลาฟักตัวของเชื้อครับ ไวรัสส่วนใหญ่ เช่น หวัด เริม ไข้เลือดออก หวัดนก พิษสุนัขบ้า หัด อิสุกอิใส จะมีระยะเวลาฟักเชื้อ ประมาณ 7-14 วัน แล้วทำไม ระยะฟักตัวของ AIDS ถึงได้นานถึง 10-15 ปี มันนานไปไหม สำหรับธรรมชาติของไวรัส และหลังติดเชื้อ HIV ประมาณ 2 สัปดาห์ ผู้ติดเชื้ออาจจะมีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว ต่อมน้ำเหลืองโต ที่เรียกว่า prodrome symptomp นั่นหล่ะ คืออาการของผู้ติดเชื้อไวรัส HIV และหลังจากนั้นร่างกายก็เริ่มสร้างภูมิคุ้มกันหรือ Antibody จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:43:25

ความคิดเห็นที่ 26 มาลงชื่อรออ่าน จากคุณ : สายลมปุยเมฆกับฟ้าสีคราม เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:51:32

ความคิดเห็นที่ 27 น่าสนุกดีนะ จากคุณ : safetymind เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:51:58

ความคิดเห็นที่ 29 แล้วถ้าเป็นสารเคมีล่ะ จะเป็นสาเหตุของ AIDS ได้หรือไม่ ถ้าได้สารเคมีอะไรล่ะ คือผู้ต้องสงสัย 1 ยาเสพติด 2 ยาต้านไวรัสHIV(น่าตกใจไม๊ เค้าบอกว่าตัวยาต้านนั่นล่ะสาเหตุของโรคเอดส์) 3 ภาวะขาดสารอาหาร จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:52:52

ความคิดเห็นที่ 30 เท่าที่ทราบ เรื่องนี้ถูกโต้จนตกไปแล้วนี่ครับ คำอ้างว่า 1. เชื้อHIV ไม่เคยถูกIsolateได้มาก่อน มีแต่ตรวจเจอantibody ความจริง 1. เชื้อHIV ถูกIsolateได้นะครับ อ่านในหลายๆpaperมี ส่องกล้องจุลทรรศน์อิเลคตรอนก็เจอ คำอ้างว่า 2. HIV ไม่ fulfill Koch's postulate ความจริง 2. นอกจาก Isolate เชื้อได้ เรายังติดเชื้อได้จากการได้เลือดจากคนที่เป็น และเมื่อเป็นแล้วสามารถ Reisolate เชื้อ ตรวจย้อนกลับไปได้ว่าเชื้อที่ติดมาเราติดมาจากใคร คำอ้างว่า 3. เชื้อที่แอฟริกาต่างจากเชื้อที่อเมริกา ความจริง 3. เชื้อHIV มีการเปลี่ยนแปลงวิวัฒน์เร็วมาก กระบวนการที่เอาตัวรอดในร่างกายคนก็เพราะมันปรับตัวเร็วมากนี่เอง ถ้าหากเราบอกว่าเชื้อมันต่างกันมาจึงไม่ใช่HIV เราก็ต้องบอกว่าไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่เชื้อไวรัสที่มีจริงเพราะสายพันธ์มันต่างกันเหลือเกิน และก็ต้องบอกว่า Strep pneumo ไม่ใช่เชื้อจริงเพราะมันมี30-40สายพันธุ์เช่นกัน และก็ต้องบอกว่ามนุษย์ไม่ใช่มนุษย์และไม่มีจริง เพราะคนที่แอฟริกาตัวดำ คนยุโรปตัวขาว บทความกลุ่มนี้ถ้าลองอ่านก็ดีครับ เป็นแนวทางในการรู้จักการอ่านpaperที่เขียนโดยคนที่มีชื่อเสียงแต่ขาดน้ำหนักในการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และมุ่งใช้ทฤษฎีสมคบคิดในการทำให้คนเชื่อ ... ประมาณว่าถ้ามีข้อมูลใดค้าน แปลว่ารัฐบาลปิดบัง ดังนั้นมันเลยถูกเสมอไงครับ ถ้ามีหลักฐานอะไรค้านแปลว่าเป็นพวกเสียผลประโยชน์ จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:58:36

ความคิดเห็นที่ 31 ตามสไลด์ที่ คห. 29 ถ้าผมไม่เล่นยา ไม่กินยาต้าน HIV กินอาหารครบ 5 หมู่ ผมก็จะไม่เป็นเอดส์ ? จากคุณ : safetymind เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:58:43

ความคิดเห็นที่ 32 7 ข้อ ความเหมือนระหว่าง AIDS กับสารเคมี 1.ทำให้เกิดโรคต่างๆหลากหลายที่ไม่เกี่ยวข้องกันได้เหมือนกัน 2.ไม่ติดต่อกันทางการสัมผัส 3.สามารถทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ เรียกว่า Kaposi sarcoma (เห็นไม๊ไวรัสทำให้เกิดมะเร็งได้อีก มันจะหลากหลายไปไม๊) ......................................................................................... ยังไม่ขึ้นกระทู้แนะนำ เริ่มเหนื่อยแล้วนะ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:01:10

ความคิดเห็นที่ 33 โห เยอะมาก ขอบคุณนะคะ อ่านแล้วได้ความคิดใหม่ๆดี (mark ไว้ก่อน อ่านยังไม่จบ^^) จากคุณ : รถเต่าสีฟ้า เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:08:11

ความคิดเห็นที่ 34 แรกติดเชื้อเรียก HIV พอ CD4 ต่ำได้ทีจึงเรียก AIDS ไม่ใช่เหรอ? จากคุณ : เขียนบน iPhone (น้องเหมียวสีสวาด) เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:10:00

ความคิดเห็นที่ 35 รออ่านต่อค่ะ เป็นคนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลย (ยังบริสุทธิ์) แต่เราชอบอ่านเกี่ยวกับโรคเอดส์มากๆ (เราว่ามันเหมือน Zombie อ่ะ มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่า ติดทาง เลือด) เหมือนผีดิบ Zombie อ่ะ โดนกัดก็จะกลายเป็นซอมบี้ เมื่อก่อนสนใจเรื่องมะเร็งมากๆ แต่อ่านมาเยอะแล้ว เดี๋ยวนี้สนใจเรื่องเอดส์แทน อิอิ ^^ รออ่านต่ออยู่นะคะ ^_^ จากคุณ : Gretchen เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:10:27

ความคิดเห็นที่ 36 4.Intubation period ขึ้นอยู่กับปริมาณการสะสม ซึ่งก็คือต้องสะสมสารพิษมานาน อย่างน้อยๆก็ 10-15 ปี ก็จะเหมือน AIDS พอดี 5.การกระจายของผู้ติดเชื้อเอดส์ก็จะกระจายไปตามผู้ผิดยาเสพติด นั่นคือ พบมากในผู้เสพยานั่นเอง 6.เอดส์ไม่ได้กระจายแบบทั่วไป แต่มันไป specific ในผู้เสพ 7.ไม่มีวัคซีเหมือนกัน ................................................................................................................. เชื่อไม๊ว่า 1798 Edward Genner ผลิตวัคคซีนป้องกันไข้ทรพิษได้ ด้วยงบประมาณ ไม่ถึง 100 เหรียญ ผ่านมาเกือบ 200 ปีพร้อมกับงบประมาณที่ไม่จำกัด แต่ก็ไม่สามารถผลิตวัคคซีน AIDS ได้ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:13:40

ความคิดเห็นที่ 37 หมอคานูจะ fishing give and vote ไปหน่อยมั้ย 555+ จากคุณ : เขียนบน iPhone (น้องเหมียวสีสวาด) เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:15:01

ความคิดเห็นที่ 38 มาดูกันว่าสารเคมีตัวไหนที่เป็นผู้ต้องสงสัย 1 amyl nitrite ยานี้ใช้กันมากในหมู่โฮโมเซกช่วน เชื่อว่าทำให้กล้ามเนื้อหูรูดผ่อนคลายจะได้ใส่ได้คล่องๆ 2.3.4.5.6. ก็ตามในภาพเลยครับ ทั้งโคเคน ยาบ้า เฮโรอิน กัญชา มาหมด จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:22:07

ความคิดเห็นที่ 39 กราฟปริมาณการใช้สารเสพติด จะเห็นว่า ลดลงเรื่อยๆ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:26:43

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่ได้กิฟถึงกะอ่านไม่ออก!?!?! โหวตให้ด้วยละกัน จากคุณ : สายน้ำเซาะหินผา เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:28:11

ความคิดเห็นที่ 41 ก็พอดีมาพ้องกับ ปริมาณผู้ติดเชื้อ HIV เพิ่มสูงขึ้นๆ ปริมาณผู้ป่วยเอดส์ก็ควรจะเพิ่มขึ้นตามกราฟผู้ติดเชื้อ HIV แต่ทำไม กราฟบอกปริมาณผู้ป่วยเอดส์ถึงได้ ลงลงๆ ไปฟ้องกับกราฟการใช้สารเสพติด จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:28:44

ความคิดเห็นที่ 42 ไปดูคนไข้ก่อนครับ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:29:30

ความคิดเห็นที่ 43 เป็นไปได้ป่ะว่า คนติดเชื้อ HIV ในยุคแรกๆ การแพทย์ไม่ค่อยเจริญ ผู้ติดเชื้อ HIV ออกอาการเอดส์เร็ว และตายเร็ว คนติดเชื้อ HIV กะคนออกอาการเอดส์ถึงเยอะพอกัน   มาช่วงหลังๆการแพทย์เจริญ คนติดเชื้อ HIV มากขึ้นเหมือนเดิม แต่เรามียาต้าน มีการรักษาตัวที่ดีขึ้น ถึงคนได้รับเชื้อ HIV เพิ่ม แต่การรักษาที่ดีทำให้ผู้ติดเชื้อออกอาการเอดส์ช้าลง.... กราฟมันเลยเป็นแบบนั้น คือผู้ติดเชื้อเยอะ แต่คนเป็นเอดส์น้อย จากคุณ : safetymind เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:44:16

ความคิดเห็นที่ 44 #43 ก็มีสิทธิ คิดได้ เป็นไปได้ครับ แต่ รพ ศรีนครินทร์ จว ขอนแก่น มีการเก็บตัวเลข เพื่อดู compliance ของผู้รับยา ในคลินิค นภา พบว่า ผู้ป่วยนภา loss follow up ถึง 50% เลยทีเดียว แล้วแบบนี้ แปลว่าผู้ป่วยกินยาต่อเนื่องหรือ ยาดีทำให้ AIDS น้อยลง จริงหรือ  แต่อันนี้แค่ตัวเลข รพ เดียว ไม่ได้เป็นตัวเลขของ รพ ทั้งประเทศ ดังนั้น จะเป็นตัวแทนของตัวเลขได้หรือเปล่า ก็ต้องคิดต่อเองครับ ส่วนผม ตอบว่า ไม่ทราบครับ มิสิทธิเป็นไปได้เช่นกัน แต่ข้อมูลตรงนี้ไม่เพียงพอครับ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:51:35

ความคิดเห็นที่ 45 โห บอกมาก่อนว่าไม่ได้โพสเอาฮาใช่ไหมคะ ? - -".... ยังไงดีล่ะ คือจะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เก่ามากแล้ว อ่านมานานจนลืมไปหมด  ตอนที่ Peter Duesberg ตั้งสมมุติฐานนี้ขึ้นมาแรก ๆก็ราว ๆยุค1990s มั้ง ตอนนั้นก็เป็นที่ฮือฮา แต่หลัง ๆความรู้ทางวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าไปเรื่อย ๆทฤษฎีทั้งหลายแหล่ก็ถูกหักล้างไปหมดตามที่หมอแมวว่า ในคห.30 อย่างที่ว่า  "HIV ไม่ fulfill Koch's postulate" paper มันก็ออกมาตั้งแต่ปี 1996 แล้วค่ะ ว่าทำได้ ลองค้นดูมีเยอะแยะ HIV causes AIDS: Koch's postulates fulfilled. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/8902385?dopt=Abstract http://www.sciencemag.org/site/feature/data/cohen/266-5191-1647a.pdf เอาเป็นว่าล่าสุดตาคนนี้กับกลุ่ม AIDS denialism ทั้งหลายก็ถูกจัดอยู่ในทฤษฎีสมคบคิดอันหนึ่งและจัดเป็น  pseudoscience ไปแล้วค่ะ รายละเอียดลองหาอ่านดูได้ http://en.wikipedia.org/wiki/AIDS_denialism http://www.physics.smu.edu/pseudo/AIDS/ ข่าวล่าสุดต้นเดือนนี้ FDA ได้อนุมัติให้ยา  Truvada ให้เป็นยาสำหรับป้องกันเชื้อ HIV  โดยมีงานวิจัยยืนยันพบว่าการใช้ยาต้านไวรัส Truvada สามารถลดอัตราการติดเชื้อ HIV ลงได้ถึง 44% และเมื่อให้อาสาสมัครกินยาอย่างสม่ำเสมอในขนาดปกติ พบว่าอัตราการติดเชื้อลดลง 73% เมื่อเทียบกับยาหลอก แล้วจะยังไม่เชื่ออีกหรือว่ามันเกิดจากเชื้อ HIV http://news.yahoo.com/fda-panel-backs-first-pill-block-hiv-infection-225920976--finance.html จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 23:06:47

ความคิดเห็นที่ 46 การระบุเชื้อไวรัส พฤษภาคม 1983: LAV พฤษภาคม 1957: HTLV-III มกราคม 1985: ทั้งสองคืออย่างเดียวกัน พฤษภาคม 1986: HIV -------------------------------------------- สรุปเชื้อไวรัส HIV ถูกค้นพบอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1986 แต่ยา AZT ยาหลักที่ใช้ต้าน HIV กลับถูกผลิตขึ้นเมื่อปี 1964 ผลิตก่อนค้นพบเชื้อ HIV เสียอีก แล้วมันกลายเป็นพระเอกในการรักษาผู้ติดเชื้อได้อย่างไร จริงๆแล้วยาตัวนี้ผลิตขึ้นมาเพื่อรักษามะเร็งเม็ดเลือด ตัวยามันจะไปกด Bone marrow หรือไขกระดูกไม่ให้สร้างเม็ดเลือดขึ้นมาได้ AZT จึงเป็นสารเคมีอีกตัว ว่าจะเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 23:10:21

ความคิดเห็นที่ 47 ลืมภาพ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 23:10:49

ความคิดเห็นที่ 48 ยังติดใจอยู่เลย .... ถ้าชายหญิงมีเพศสัมพันธ์กันปกติ ตามทฤษฎีนี้ จะไม่เป็นเอดส์ แต่เอ... แล้วจะกลัวคนเป็นเอดส์ตายหลายล้านคนเพราะ free sex ทำไมเนี่ย ? จากคุณ : safetymind เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 23:16:19

ความคิดเห็นที่ 49 #45 ครับ ก็เอามาให้อ่าน ว่ายังมีอีกทฤษฏีนึงซ่อนอยู่ และยังเผยแพร่อยู่ ผมก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ ผมออกตัวแล้ว คล้ายกับความสำพันธ์กับ บุหรี่และ มะเร็งตับ ว่า คนที่สูบบุหรี่มักจะเป็นมะเร็งตับ แล้ว บุหรี่เป็นสาเหตุของมะเร็งตับใช่หรือไม่  ซึ่งจริงๆแล้ว คนที่สูบบุหรี่ก็มักจะดื่มเหล้าด้วยนั่นเอง จะอ่าต่อดีไม๊น๊อ ยังอีกยาวนะ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 23:18:53

ความคิดเห็นที่ 50 #48 ความหมายคือ รัฐบาลและทั้งโรคเชื่อแน่ๆใช่แน่ๆว่า virus hiv คือสาเหตุ แต่ถ้ามี paper นี้หลุดออกไป อาจจะทำให้คนบางกลุ่มเชื่อเนื้อหาใน paper นี้เป็นจริง และจะมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน อันจะนำมาซึ่งการระบาดของ HIV ไงครับ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 23:21:29

ความคิดเห็นที่ 51 มาอ่านไว้เป็นความรู้ค่ะ อ่านถึงตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิด แต่ก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าเค้าคิดอะไรกัน เราไม่เก่งภาษาอังกฤษอ่ะค่ะ รบกวนด้วยนะคะ ^^ จากคุณ : tiennokkeaw เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 23:27:07

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่มีคนสนใจล่ะ งั้นจบดีกว่า จริงยังมี เรื่อง มาลีฮวนน่า รักษามะเร็ง และ วัคซีนต่างๆเป็นสาเหตุของมะเร็งอีกนะครับ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 23:28:49

ความคิดเห็นที่ 53 เข้ามาขำ โฮ๊ะ ๆ ๆ ๆ ๆ จากคุณ : iamfine_thanks เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 23:50:25

ความคิดเห็นที่ 54 เชื่อว่าบริษัทยาใหญ่ๆมีนอกมีในกับการรักษาค่ะ บางอย่างที่เค้ากรอกหูพวกเราอาจจะไมจริงก็ได้ จากคุณ : superkoy เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 00:03:53

ความคิดเห็นที่ 55 ขึ้นกระทู้แนะนำแล้ว กิฟหมดติดไว้ก่อนะคะ ขอบคุณที่ แปลให้อ่านค่ะ จากคุณ : enduresexy เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 02:29:45

ความคิดเห็นที่ 56 ผมว่าเหตุผลที่ยกมามีแปลกๆหลายข้อ HIV ทำให้เป็นได้หลายโรค จะเห็นว่าโรคส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อฉวยโอกาส ไม่ได้เกิดจาก HIV แล้วบางข้อก็ไม่ใช่โรคแต่เป็นอาการ เช่น weight loss HIV มี Incubation period นาน การก่อโรคของ HIV คือารทำลายเม็ดเลือดขาวซึ่งกว่าจะทำลายได้มากพอที่ผู้ป่วยจะติดเชื้อฉวยโอกาสต้องใช้เวลานาน ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะเรียกช่วงที่ยังไม่มีอาการว่า Incubation Period ได้หรือเปล่า อีกอย่าง เชื้อ Rabies หรือ พิษสุนัขบ้า ก็มี Incubation Period ได้นานเป็นปีเหมือนกัน ผู้ติดเชื้อ HIV มีมาก แต่คนเป็น AIDS ลดลง อธิบายได้ว่าคนที่ติดเชื้อมีความรู้มากขึ้น ดูแลตัวเองดีขึ้น บางคนมาขอเจาะCD4 เองก็มี แล้วตอนนี้หลายๆประเทศเริ่มให้ยาต้านไวรัสตั้งแต่ CD4 ยังไม่ต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้เป็นโรค AIDS จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 05:55:02

ความคิดเห็นที่ 57 รออ่านนะคะ จากคุณ : กวางดาวน้อย เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 10:43:44

ความคิดเห็นที่ 58 เอา PAPER ที่ยังไม่มีการรับรองมาถกในเว็บบอร์ด (เข้าข่ายเผยแพร่) ในที่สาธารณะ สมควรแล้วหรือครับ ?   เพราะความรู้ทางการแพทย์เหล่านี้เป็นเรื่องเฉพาะทางที่ต้องการการพิสูจน์และรับรองอย่างมาก   เนื่องจากเนื้อหาโดยตัวของมัน  หากเผยแพร่ออกไปแล้ว ไม่ได้รับการรับรองหรือคัดกรองใดๆ แล้วประชาชนมีการรับสารอย่างเข้าใจผิด  อาจก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้างได้มาก   เค้าจึงได้ทำการยุติทั้งหมด หากคุณสงสัย อยากค้นคว้าจริง ทำไมไม่เอากลับไปถกในวงสนทนาของหมู่แพทย์   ไปถามผู้เชี่ยวชาญ หรือ อาจารย์เฉพาะทาง หรือ แม้แต่ค้นคว้าจริงๆ ซะก่อนล่ะครับ   ....ผมเห็นมีหลายเหตุผลที่ชี้แจงจน  Paper นี้  ตกไปแล้วด้วยซ้ำ จากคุณ : หัวใจข้างซ้าย พวงมาลัยข้างขวา เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 12:06:09

ความคิดเห็นที่ 59 มาลีฮวนน่า รักษามะเร็ง แหม เพิ่งอ่านจาก drama เลย อิอิ จากคุณ : อยากเป็นหมอ (น้องเหมียวสีสวาด) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 12:13:09

ความคิดเห็นที่ 60 "ไม่มีคนสนใจล่ะ งั้นจบดีกว่า จริงยังมี เรื่อง มาลีฮวนน่า รักษามะเร็ง และ วัคซีนต่างๆเป็นสาเหตุของมะเร็งอีกนะครับ" สนับสนุนให้จบๆไป เพราะไร้สาระมาก จากคุณ : fruitfly เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 12:29:47 A:202.8.25.137 X: TicketID:165051

ความคิดเห็นที่ 61 กระทู้นี้เป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้อ่าน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 13:33:04

ความคิดเห็นที่ 62 จบไปเถอะครับ อ่านแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไร อ้อ เรื่องกัญชากับการรักษามะเร็ง กำลังเป็นดราม่ากันอยู่ในหว้ากอ คุณช้าไปแล้วล่ะ จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 13:56:21

ความคิดเห็นที่ 63 กระทู้นี้toxicมาก  เป็นอันตรายต่อคนอื่นๆ ลบๆไปเหอะค่ะ ไม่อยากให้เข้าใจกันผิดๆ จากคุณ : carrot (littlebaby_rabbit) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 15:18:30

ความคิดเห็นที่ 64 ต้องบอกคนที่อ่านก่อนว่าต้องกรองสิ่งที่ จขกท นำเสนอให้มาก ก็อย่างที่คุณหมอแมวและคุณหมูเหมียวบอก มันเก่ามากแล้ว และไม่น่าเชื่อถือเพราะมีการหักล้างไปแล้ว อย่างที่สอง ตัว จขกท แม้จะใช้ชื่อหมอคานู บอกว่าต้องไปตรวจคนไข้ แต่ จขกท อาจจะไม่ใช่หมอจริง! ! ! เพราะ จขกท เพิ่งไปก่อดราม่ามาไม่กี่วันก่อน ใครสนใจไปหาอ่านในเว็บดราม่า เรื่อง ถ้าทำได้ให้ล้านนึง การที่ จขกท ใช้ชื่อ login ว่าหมอ  มีการอ้างว่าต้องไปตรวจคนไข้ นำเสนอเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์  มันเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสิ่งที่นำเสนอได้มาก แต่เจ้าตัวอาจจะไม่ใช่หมอ   และถ้าคนอ่านไม่รู้ อาจจะหลงเชื่อและรับข้อมูลที่ไม่ถูกได้เพราะคำว่าหมอนี่แหละ เรื่องนี้ต้องใช้วิจารณญาณอย่างมากในการรับข้อมูล ที่ทักท้วงไม่ได้มีเจตนาจะมาดิสเครดิตครับ  แต่รู้สึกว่าการนำเสนอ การวางบทบาทตัวเองของ จขกท แบบนี้ เป็นสิ่งที่ควรระวังสำหรับคนรับสาร จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 15:23:23

ความคิดเห็นที่ 65 ู^ ^ จ่าดราม่าเค้าก็เป็นหมอเหมือนกัน ขอบอก งั้นก็จบ ผมออกตัวแล้ว ผมเพียงแต่ทำหน้าที่อ่าน paper เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีผลประโยชน์ใดๆกับเนื้อหาทั้งสิ้น แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 55 15:26:24 จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 15:24:23

ความคิดเห็นที่ 66 อยากรู้แค่ว่าจะจัดการกับโรคที่ว่านี้ยังไงให้หายไปได้ครับ จากคุณ : bunkul เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 16:31:30

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านแล้วชักงงและสงสัยว่า ล็อกอิน หมอคานู เป็นหมอจริงๆเหรอ? เพราะดูๆแล้ว คุณไม่มีความรับผิดชอบเลยนะ ถ้าพิจารณาจากตัวหนังสือในกระทู้นี้ของคุณ เห็นได้จากการเอาสไลด์ที่ไม่มีที่มา ตัดๆเอามาจากไหนไม่รู้ ไม่มีการอ้างอิงผลการศึกษาวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ใดๆทั้งสิ้น แล้วมาก่อให้เกิดดราม่า ให้คนที่อาจจะไม่ได้มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์หรือการแพทย์มากนัก หลายๆคน เข้ามาเพื่อปรึกษาอาการ ความกลุ้มใจ กังวลใจต่างๆในห้องนี้ บางทีใครบอกอะไรก็เชื่อไปหมด คุณหมอคานู เอาเรื่องที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างจริงจัง มาเล่าในเชิงตั้งคำถาม ใช้คำพูดให้คนที่ไม่รู้เอนเอียงคิดไปในทางว่า AIDS เป็นทฤษฎีสมคบคิด สมาชิกท่านอื่นโต้แย้งว่า ทฤษฎีดังกล่าวถูกตีจนตกไปด้วยงานวิจัยชิ้นอื่นๆหลายข้อ ก็ไม่ออกมาตอบอะไร การโต้เถียงกันด้วยเหตุและผล หรือกระทั่งความเชื่อส่วนบุคคลมันไม่ใช้เรื่องไม่ดีอะไร แต่เราควรอธิบายสนับสนุนด้วยว่า ทำไมเราจึงเชื่อหรือคิดเช่นนั้น แต่นี่คุณหมอกลับเอาข้อมูลอะไรไม่รู้มาโพสต์ๆ แล้วออกตัวว่า แล้วแต่ใครจะเชื่อ ส่วนตัวเชื่อหรือเปล่าคะ? ถ้าไม่เชื่อ ตามจรรยาบรรณก็ไม่ควรจะเอามาโพสต์ ถ้าเชื่อก็ควรบอกเหตุผลรองรับนะคะ ไม่ใช่สร้างดราม่าในหมู่ชน แล้วชิ่งหนีง่ายๆ ยังไม่รวมพฤติกรรม fishing ตกกิฟต์ ตกโหวตนะคะ น่าสงสัยจริงๆ จากคุณ : other places เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 16:36:22

ความคิดเห็นที่ 68 เรียกจ่ามาทำดราม่าเรื่องนี้มั่งดีกว่า 555+ จากคุณ : Kho-D เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 17:41:02

ความคิดเห็นที่ 69 อย่าเรียกเลยครับ รกเวบจ่า ^^ จากคุณ : ซุนคยูForever เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 19:30:24

ความคิดเห็นที่ 70 คนคิดทฤษฎีนี้ ทำไปเพื่อบอกอะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้บอกเราว่า เชิญติดเอดส์กันเถอะ สิ่งที่บอก เช่น วงการยากำลังเล่นอะไรกัน มีโรคเกิดขึ้น แต่พยายามทำให้โรคดังกล่าวเป็นโรคเรื้อรัง แทนที่จะรักษาให้หายสนิท ผมไม่เชื่อว่าเราเอาชนะมะเร็ง เอดส์ ไม่ได้ แต่มีคนที่มีความรู้สูงกลุ่มหนึ่งแกล้งไม่รู้วิธีเอาชนะมัน เพื่อฉกฉวยผลประโยขน๋มหาศาลจาก Revenue streaming (สายธารเงินตรา) ที่ไหลต่อเนื่องมาจากผู้ป่วย ตั้งแต่ป่วย จนกระทั่งหมดเนื้อหมดตัว หรือจนร่างกายทนสารเคมีและโรคไม่ไหว ตายไปนั่นแหละ จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 19:40:22

ความคิดเห็นที่ 71 ข้อมูลจากสถิติ คุณจะเห็นว่ามันเล่นอะไรได้มากมาย แม้แต่การทำโรคเอดส์ให้กลายเป็นโรคที่ "ประดิษฐ์ขึ้น" ทั้งที่มันไม่เป็นจริง แล้ววงการยา ใช้วิธีทางสถิติมาเป็นเครื่องมือที่นำผลประโยชน์เข้าองค์กรอย่างมิชอบบ้างหรือไม่ การสั่งห้ามโฆษณาอาหารธรรมชาติไม่แปรรูปโดยไม่ให้โฆษณาอ้างข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับผลทางการรักษา หรือป้องกันโรคของพืชนั้นๆ โดยบริษัทยาที่ไปบีบไข่ อย. สหรัฐ อีกที อ้างว่าทำให้คนไข้เสียโอกาสการรักษา(เหรอ?) ปกปิดข้อมูลประโยชน์ของพืช ผัก อาหารธรรมชาติ ต่างๆ นั้น ถูกต้องหรือไม่ การรักษามะเร็ง มีสมุนไพรจำนวนมากที่มีผลการรักษาสูง โดบที่ไม่สามารถสกัดมาเป็นยาได้ เพราะมันไม่ได้มีสารทำงานตัวเดียว  แต่เป็น symphony of chemical หลายๆ ตัวร่วมกัน และราคาก็ถูกมากๆ  ทำไมโดนปิดปากไม่ให้พูด ? มีอีกหลายโรค เช่น สมาธิสั้นในเด็ก รักษาได้ง่ายด้วยอาหาร แต่กลับถูกปิดบัง โดยหลักฐานจริงทางสถิติแต่ใช้วิธีแบบเดียวกับโรคเอดส์ข้างบน คุณคิดว่าไง เอดส์ มะเร็ง รักษาไม่ได้จริงเหรอ หรือแกล้งโง่กันแน่ !!! โง่แล้วรวย ใครก็อยากเป็นคนโง่ทั้งนั้นละมั้ง 555555 จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 19:53:53

ความคิดเห็นที่ 72 เห็นชื่อ จขกท.แล้ว นึกถึงเวป มาม่า จับได้ให้ล้านนึง "คห.16 เดี๋ยวมาต่อไปดูคนไข้ก่อน ปล. มีคนสนใจไหมเนี่ย" ไปเจอขาใหญ่ห้องโน้นยังไม่เข็ด ยังจะมาแอบอ้างในห้องนี้อีกนะครับ คนเค้ารู้หมดแล้วว่าคุณเป็นไง............. จากคุณ : yutakasung เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 20:30:41

ความคิดเห็นที่ 73 เจ้าของกระทู้มีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อเพื่อนสมาชิกครับ จากคุณ : organic hydroponics เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 20:38:36

ความคิดเห็นที่ 74 ไปเกี่ยวกับกระทู้โน้นจนได้ :'D จากคุณ : ปรายภพ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 20:53:41

ความคิดเห็นที่ 75 กระทู้ในห้องหว้ากอ ก็ไปเยี่ยมชมมาแล้ว สาระและใจความสำคัญมีแค่บรรทัดเดียว ถกกันตั้งเป็นวา 555 ปล.หมอ Intern แค่เวลาจะ Present Paper ยังต้องมีการคัดกรองหัวเรื่องมาก่อนเลย มิใช่หรือ ?  ฝากไว้ให้คิดนะครับ จากคุณ : หัวใจข้างซ้าย พวงมาลัยข้างขวา เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 21:34:13

ความคิดเห็นที่ 76 ผมว่าคนอ่านมีวิจารณญาณพอนะครับ ไม่ต้องมาคิดแทนหรอก ทำตัวเป็นกบว.ไปได้ จากคุณ : paulneopunk เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 22:56:11

ความคิดเห็นที่ 77 กระทู้นี้สมควรถูกลบค่ะ จากคุณ : กระจุกน้อย เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 23:08:02

ความคิดเห็นที่ 78 ที่ผมนำเสนอเป็นเพียงข้อเท็จจริง มิใช่ความจริงครับ ผมเชื่อว่าสมาชิกมีวุฒิภาวะมากพอที่จะพิจารณาข้อเท็จจริง ผมจึงลองเอาข้อมูลอีกด้านมาให้พิจารณา  ผมก็โยนหินถามทางแล้วว่าอยากรู้ไหม นี่ผมเพิ่งลงได้แค่ครึ่งเดียวเองนะ ยังไม่ได้สรุปเลยด้วยซ้ำ อย่างน้อยๆเราจะได้มีความรู้ทั้งสองด้าน ไม่ใช่รู้เพราะเค้ายัดเยียดให้เรารู้ คนเราควรเปิดหูตาให้กว้างใกล เมื่อยุคนึงยา steroid ถูกค้นพบถึงกับขนานนามให้เป็นยาเทวดาเลย รักษาสารพัดโลก และต่อมาพบว่ามีข้อเสียมากมายจนถึงขั้นประกาศเป็นยาอันตรายห้ามใช้ และยุคต่อมาอีกจนถึงปัจจุบัน ก็นำ steroid กลับมาใช้อีก แล้วแบบนี้อะไรคือความจริง ในเมื่อความจริงในช่วงเวลาหนึ่งอาจไม่จริงในช่วงเวลาหนึ่ง และความไม่จริงในช่วงเวลาหนึ่งอาจ้ป็นจริงในอีกช่วงเวลา ดังนั้นการที่รับรู้ ว่ามีข้อมูลอีกด้านก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร หากรู้จักคิด วิเคราะห์ พิจาราณา จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 00:28:47

ความคิดเห็นที่ 79 ปัจจุบันในสังคมตะวันตก เช่น อเมริกา มีกลุ่มคนที่เป็น AIDS denialist คือเป็น HIV Positive หากแต่คนเหล่านี้ยังมีร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ทุกประการ และคนกลุ่มนี้ คิดว่าการที่ตัดสินพวกเข้าว่าเป็น AIDS นั้นไม่ยุติธรรมกับชีวิตเขา เพราะมันหมายถึงการโดนพิพากษาในแง่กฎหมาย นั่นหมายถึงเรื่องของ อนาคต ชีวิต งาน อาชีพ  และสังคม ฯลฯ ถึงตรงนี้ ความเห็นก็แตกออกเป็น 2 ฝ่าย *ฝ่ายแรก : คือฝ่าย AIDS denialist ที่กล่าวหาว่า รัฐบาลสหรัฐและวงการแพทย์  ต่างรวมหัวกันสร้าง conspiracy theories หรือ ทฤษฎีสมคบคิด เกี่ยวกับ โรคนี้  http://en.wikipedia.org/wiki/Conspiracy_theory  ขึ้นมาหลอกพวกเข้าและคนทั้งโลก **ฝ่ายที่ 2 : คือวงการแพทย์ทั่วไปและคนส่วนใหญ่ในโลก  ก็คิดเหมือนกันในมุมกลับกันว่า คนฝ่ายแรก เป็นพวก "ไม่ยอมรับความจริง"  และพยามสร้าง conspiracy theories หรือ ทฤษฎีสมคบคิด มาหลอกตัวเองไปวันๆ    สำหรับเราคิดว่า ความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ    คุณ และ เรา และทุกคน ปฏิเสธความจริงไม่ได้  สมัยยุคปลาย 70 ที่โรคเอดส์เริ่มปรากฎครั้งแรกในอเมริกา มันยังเป็น  โรคของชายรักร่วมเพศอยู่เลย คนเค้าเรียกว่า Grid  ไม่มีการกำหนระยะขั้นตอน ว่าต้องเป็น HIV Positive แล้วระยะต่อมาคือ AIDS  Grid ก็คือ Grid  ในสมัยนั้น คือโรคของคนรักร่วมเพศ ไม่มีการแบ่ง  แต่เราไม่เห็นด้วยที่ว่า วงการแพทย์ไม่พยามคิดค้นยารักษาเอดส์ ทั้งที่คิดได้  เพียงเพราะบริษัทยาต้องการสูบเงินคนไข้แบบทำนาบนหลังคนไข้  เพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ เพราะความเป็นจริงหากทำได้คงมีคนทำไปนานแล้ว  โดยเฉพาะ เภสัชกรหญฺงไทยท่านนึง ที่จบด๊อกเตอร์ด้านยามา ที่เธฮไปช่วยรักษา  ชาวแอฟริกันที่ติดเชื้อเอดส์ มากมายโดยไม่หวังผลตอบแทน  ถ้าเธอทำได้เธอคงทำไปนานแล้ว  การผลิตยารักษาผู้ป่วยเอดส์ยังไงในแง่มวลรวม ไม่คุ้มทุนทั้งเิงิน  และทรัพยากรที่สังคมโลกต้องเสียไป แม้จะสร้างกำไรให้บริษัทยา  หากแต่มีวิธีรักษาได้ขึ้นมา บริษัทเหล่านี้ก็ยังสามารถทำกำไรกับ  เรื่องนี้ได้พอๆ กับการขายยา ยื้อชีวิต แม้แต่ บิลเกตตส์ ก็ยังควักกระเป๋า  ตัวเองเพื่อส่งเสริมและวิจัยวิธีการรักษา  AIDS ยังคงเป็นปริศนาลึกลับทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ต่อไป  ตราบใดที่มนุษย์ยังใช้เรื่องเพศ เป็นของเล่น เพื่อความสนุกสนาน  ลุ่มหลงและขาดสติ  คำถามคือ ทำไมเชื้อ HIV จึงไม่แพร่กระจาย  และเจริญเติบโตในสัตว์สายพันธ์อื่นๆ  หรือ โรคนี้ อาจจะเป็น สาร ที่พระเจ้า ส่งมาเตือน มนุษย์เพียงเผ่าพันธ์เดียว   แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 02:38:31 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 02:28:42 จากคุณ : DashSanFranCisco เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 02:27:08

ความคิดเห็นที่ 80 สิ่งที่คุณคานูนำเสนอ ไม่ใช่ข้อเท็จจริง(fact) ครับ ลองไปหานิยามคำว่าข้อเท็จจริงใหม่ เพราะที่คุณนำเสนอมาเป็นแค่ข้อมูลหนึ่งเท่านั้น แถมเป็นข้อมูลที่เก่าแล้ว และถูกหักล้างไปแล้ว ตามที่หมอจริงๆ หลายท่านในกระทู้นี้บอกมา การนำทฤษฎีสมคบคิดออกมากล่าวอ้าง ทั้งที่มันไม่ใช่ข้อเท็จจริง เอามากล่าวอ้างด้านเดียว   ทั้งที่เป็นเรื่องที่ถูกหักล้างด้วยเหตุและผล และข้อเท็จจริง(fact)ที่เป็นข้อเท็จจริงจริงๆ ไปแล้วด้วย แบบนี้ไม่ได้ช่วยให้คนรับสารหูตากว้างไกลขึ้นแต่อย่างใด แถมคนเล่ายังนำเสนอภาพของความเป็นหมอ เช่นอ้างว่าต้องไปตรวจคนไข้แล้ว ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องบอก ถ้าคนเล่าเป็นหมอจริงๆ   การทำเช่นนี้แค่เป็นการสร้างภาพความเป็นหมอ เอามาย้ำเน้นเพิ่มน้ำหนักให้กับความน่าเชื่อถือของข้อมูลของตัวเท่านั้น เพราะคนที่เป็นหมอจะมีความน่าเชื่อถือกว่าเป็นคนทั่วไปที่เป็นชาวบ้าน ค้าขาย เป็นนักเล่นหุ้น ฯลฯ ยิ่งคุณยกตัวอย่าง steroid มา  รวมทั้งกระบวนวิธีที่คุณนำเสนอ ทำให้ผมยิ่งเชื่อว่า คุณน่าจะไม่ได้มีความรู้ด้านการแพทย์จริงๆ เลย คุณแค่รู้อะไรงูๆ ปลาๆ มากกว่า ซึ่งมันอันตรายมากสำหรับใครก็ตามที่มาอ่านอะไรต่างๆ ที่คุณนำเสนอและเชื่อเพราะคิดว่าคุณเป็นหมอจริง ทั้งจากชื่อ login และภาพที่คุณสร้าง และอาจได้รับคำแนะนำหรือความรู้ผิดๆ ไป ผมเห็นด้วยกับหลานท่านที่บอกว่ากระทู้นี้อันตราย เพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลที่ถูกหักล้างไปแล้วว่าไม่จริง เป็นความรู้ผิดๆ เกี่ยวกับโรคเอดส์ โดยคนที่ไม่น่าจะใช่หมอ แต่อ้างว่าเป็นหมอ และแม้กระทู้นี้จะอันตราย แต่ผมคิดว่าไม่สมควรถูกลบครับ เพราะเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนที่เข้ามาอ่านในห้องสวนลุม รู้ว่าอย่าไว้ใจหรือเชื่ออะไรจากใครง่ายๆ แม้ว่าคนนั้นจะบอกว่าเป็น "หมอ" เพราะมีโอกาสที่จะได้รับคำแนะนำจากทั้งหมอจริงๆ และหมอที่ไม่จริง แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 02:53:51 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 02:44:28 จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 02:42:11

ความคิดเห็นที่ 81 ทำไมบางคนชอบอ้างว่าตัวเป็นหมอนะ หมอจริงๆบางคนยังบอกว่าตัวเองเป็นยามเลย - -" จากคุณ : safetymind เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 07:08:29

ความคิดเห็นที่ 82 แล้วนิยาม คำว่าข้อเท็จจริง มันคืออะไร ทราบก็บอกผมเลยจะได้ไม่ต้องไปหา ถ้าผมใช้ผิด ก็ขออภัย ขอใช้คำว่า ข้อมูล แทนล่ะกัน แล้วยกตัวอย่างเรื่อง steroid มันเป็นยังไงเหรอครับ ถึงน่าจะไม่มีความรู้ทางการแพทย์จริง ถ้าคุณรู้ว่าความรู้ทางการแพทย์ คือ อะไร ขนาดไหน แล้ว บอกว่า ผมรู้แค่ งูๆปลาๆ นั่นขอบอกว่า คุณพูดถูกแล้ว เพราะ ความรู้ทางการแพทย์ ก็คือ ความรู้ทางวิทยาศาสต์ หากเทียบความรู้เท่ากับผืนทราย สิ่งที่ผมรู้อาจมีเพียงแค่ หยิบทรายในกำมือ ดังนั้น งูๆปลาๆ จึงไม่ผิดครับ ที่สำคัญก่อนผมลงเนื้อหา ผมได้บอกไปแล้ว ว่ามันคล้ายทฤษฎีสมคบคิด และผมเองก็ไม่ได้เชื่อ  ผมถามว่าอยากอ่านหรือไม่ เพราะถ้าอ่านแล้วเชื่อมันมันเป็นอันตราย นี่ก็เตือนแล้ว ดังนั้นพอมีคนเอาหลักฐานมาหักล้าง ผมจึงไม่เถียงเค้า เพราะเค้าพูดถูกแล้ว ผมลงเพราะถามว่ามีคนอยากอ่านก็เลยลง พอลงได้ครึ่งเดียว ก็มีคนมาบอกว่า ไม่อยากอ่านบ้าง อันตรายบ้าง ผมก็จบ ไม่รู้จะด่ากันไปถึงไหน เพราะผมก็จบไม่ลงต่อแล้ว  อยากด่าอะไรผมก็ด่าเถอะครับ ถ้าท่านพอใจ และผมเชื่อว่าคนเรามีวิจารณญานอยู่แล้ว อย่าทำเหมือนฉาย dragonball แล้วเซนเซอร์หน้าอกโกฮัง แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 07:33:56 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 07:32:04 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 07:22:08 จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 07:14:05

ความคิดเห็นที่ 83 หมอคานูต้องการจะ test อะไรบางอย่างใช่มะคะ หมอคานู ไปเล่น chat กันมั้ยคะ..เราโดนระงับpost ประจำทั้งๆที่ไม่มีความผิด เราอยากคุยกับหมอคานูค่ะ.. จากคุณ : ยูเอสรักษ์ค่ะ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 08:20:15 A:27.130.55.178 X: TicketID:360638

ความคิดเห็นที่ 84 ^ ^ ...มาแล้ว... หวังว่าคงไม่มีดราม่าซ้อนดราม่านะครับ ^_^ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 11:13:28 จากคุณ : tudtudent เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 09:16:25

ความคิดเห็นที่ 85 แวะมาโหวตก่อนค่ะ ดึกๆจะเข้ามาอ่าน จากคุณ : น้องสาวพ่อมด เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 11:01:59

ความคิดเห็นที่ 86 เขาผิดอะไร จากคุณ : vision เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 12:57:48

ความคิดเห็นที่ 87 สรุปเปนหมอจริงหรือหลอก จากคุณ : Mr.Feynman เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 13:26:28

ความคิดเห็นที่ 88 เรื่องแรกที่ผมสงสัยเลยคือ ทำไมตกมาตกกิ๊ฟท์ด้วยอ่ะ คนอื่นเขาก็มาโพสต์กันปกติ คนชอบก็ให้กิ๊ฟท์ แต่นี่คุณเล่นมาแบบว่าไม่มีกิ๊ฟท์มา ก็จะเมื่อยละไม่อยากโพสต์ละ ทำอะไรอยู่ครับ^^ จากคุณ : หมาเม่น เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 16:55:39

ความคิดเห็นที่ 89 ^ ความจริงเรื่องตกกิ๊ฟไม่อยากให้เอามาประเด็นเลยครับ ผมชอบแวะไปหลายๆห้อง ก็พบว่ากระทู้แนะนำห้องอื่นก็เคยมีการขอกิ๊ฟในลักษณะนี้เหมือนกันครับ เช่น "โอ้ย พิมพ์เยอะเมื่อยจริงๆ กิีฟก็ไม่มีแสดงว่าไม่มีใครสนใจ ไม่อยากบ่นๆอยู่คนเดียว เดี๋ยวหาทางตัดจบดีกว่า" "โอ้โห กิ๊ฟเยอะอย่างนี้ แสดงว่าคนสนใจ อะๆ เดี๋ยวจะเล่าอย่างละเอียดเลยละกัน" อะไรประมาณนี้ครับ ดังนั้น ผมว่าอย่าหยิบยกประเด็นนี้มาพูดเลยดีกว่า อยากให้เน้นพูดถึงตัวข้อมูลจะตรงประเด็นที่สุด จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 19:08:49

ความคิดเห็นที่ 90 555+ บทความนี้โดนตีแตกไปด้วยการพบ P24 และ กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนพัฒนารวมทั้ง เทคนิค PCR เองก็ทำให้มีการตัดบทความนี้ไปโดยปริยาย และไม่คิดว่ายังมีคนสนใจว่ามันจะจริงได้เลย โดยเฉพาะคนที่เรียกตัวเองว่าหมอด้วย หากพิจารณาตามความรุ้ที่เรรียนสักนิดจะรู้ว่าบทความนี้ไม่มีทางเป้นจริง มีหลักฐานหักล้างเยอะมาก และอย่างที่ จขกท. บอกอาจมีคนเชื่อและกลายเป็นไม่ระวังตัวเองจะทำให้เกิดปัญหาได้นะครับ ยังไงลองคิดอีกนิดก่อนนำเสนออะไรด้วยนะครับ ด้วยความเคารพ ^^ จากคุณ : wan_medtech เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 21:50:03

ความคิดเห็นที่ 91 แต่นี่ถ้าเขาเป็นหมอ แต่กิ๊บเก๋ชอบตกกิ๊ฟไปด้วย ตกโหวตไปนิด????? จากคุณ : แดงตะวันตก เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 22:07:40

ความคิดเห็นที่ 92 จขกท.ไม่ได้ผิดไรเลยนะรู้สึก คนในพันทิปส่วนใหญ่ก็โตๆกันแล้วคงคิดได้แหละครับและนี่ก็เป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆให้เราขบคิดเปรียบเทียบทำไมจะแชร์ไม่ได้ ทำไมต้องทำกร่างกล่าวหากันแบบนี้พูดกันดีเป็นม่ะทุกอย่างมันมี2ด้านเสมอนะ จากคุณ : ปาม ดี๊ดี เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 23:28:13

ความคิดเห็นที่ 93 อานมาตรง#65 จ่าดราม่าก็เป็นหมอเหมือนกัน ขอบอก คือใครหรือคะ อ่านแล้วไม่เข้าใจ ตรงนี้คุณหมอต้องการ ที่จะสื่ออะไรกับประโยคนี้หรือเปล่าคะ เรื่องกิ๊ฟมองเหมือนคห.ข้างบนค่ะ ผู้เขียน คงเขียนเล่นๆ ไม่น่าเอามาเป็นประเด็น จขกท.ก็แค่เป็นคนนำเสนอบทความหนึ่ง และระบุไว้แล้วว่าอย่าปักใจเชื่อ เนื้อหาในบทความอาจดูล่อแหลมยิ่งขี้น ตรงคนสื่อที่ใช้login เป็นหมอ ก็เท่านั้น เนื่องจากเป็นห้องสุขภาพ ไม่ว่าจะคำนำหน้าอะไรก็สามารถเสนอบทความได้ อยู่ที่คนอ่าน ผุ้เสพย์ข่าวสาร ต้องรู้จัก วินิจ พิเคราะห์ข้อมูลที่รับด้วย แม้คำถามด้านสุขภาพ ผู้ตอบคำถามเป็นหมอจริงๆ ก็เช่นกัน ก็แค่ตอบวินิจฉัยอาการไปตามตัวหนังสือ คนถามก็ต้องกลั่นกรองข้อมูลอาการตนเองอีกครั้ง อ่านดูเห็นมี บางคคห. บอกว่า จขกท.มีพฤติกรรมร้ายแรง เป็นอันตรายต่อสังคมเว็บบอร์ด แค่คนสื่อบทความคนหนึ่ง มีความผิดรุนแรงขนาดนั้นเลยหรือคะ ส่วนเรื่องเป็นหมอจริงหรือไม่ อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ จากคุณ : คนอ่าน เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 00:29:44 A:141.0.8.192 X: TicketID:343939

ความคิดเห็นที่ 94 #93 จ่าดราม่า คือ หมอคนนึงที่เรียกตัวเองว่าจ่าค่ะ อยู่เว็บดราม่า ลองเสิร์ชดูเผื่อจะชอบเสพค่ะ คหสต.คิดว่าหมอคานูเป็นหมอจริงๆค่ะ ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็น GP แต่เคยเห็นโพสว่าได้ปรับเงินเดือนเป็นแพทย์เฉพาะทางแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นโพสอะไรที่เฉพาะเจาะจงไปในโรคด้านไหนเลยไม่อาจจะเดาได้ ที่คิดว่าเป็นหมอเพราะยังไม่เคยเห็นโพสอะไรที่ผิดหูผิดตาค่ะ แต่บางโพสออกจะล่อแหลม หรือไม่ก็เหมือนไม่ได้คิดก่อนโพส ไม่ค่อยระมัดระวังในการนำเสนอ ความเห็นเชิงวิชาการบางเรื่องจะโพสแบบหยาบๆ คือว่าอาจจะไม่ได้รู้ละเอียดเลยโพสเท่าที่ทราบ ซึ่งจริงๆก็ไม่แปลกอะไรเพราะแพทย์แต่ละคนไม่ได้จะรอบรู้ไปหมดทุกโรค แต่หมอส่วนใหญ่ในห้องนี้มักจะตอบในโรคที่ตัวเองรู้จริงๆเท่านั้นและตอบแบบค่อนข้างละเอียด บางคำตอบของหมอคานูก็เลยจะดูบ้านๆไปนิด แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 02:00:43 จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 02:00:01

ความคิดเห็นที่ 95 กลับมาอีกทีเห็นว่าดราม่าไปแล้ว เข้าใจว่าคุณหมอคานูต้องการสื่อลงบทความที่มันมีอยู่ น่าเสียดายเหมือนกันที่ลงไม่หมด เพราะว่าเรื่องทั้งหมดมันสนุกดี ไว้วันหลังถ้าว่างแล้วคุณหมอคานูไม่ได้ลงต่อ คงจะมาสานต่อให้จนจบครับ จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 17:50:45

ความคิดเห็นที่ 96 เห็นด้วยกับหมอแมวจ้า การนำเสนอแบบนี้ต้องระวัง เชน AZT. อาจทำให้เกิด HIV+ve      หากจะนำเสนอ ควรมีหลักฐานการวิจัย   อื่นๆที่สนับสนุนเพิ่มเติม. อีกทั้งน่าจะนำเสนอในเวที นักวิชาการที่ทำให้การโต้แย้ง อย่างมีเหตุผล จากคุณ : หิวบ่อยบ่อย เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 20:08:08

ความคิดเห็นที่ 97 อ่านไปเรื่อยๆแล้วก็เริ่มสงสัยขึ้นเรื่อยๆว่า คุณคานูกลัวไม่มีคนอ่าน ... หรือกลัวไม่มีคนโหวต+ให้กิฟกันแน่ ... ประเด็นที่ว่าจะหมอจะหมูจะหมาจะแมวอะไรนี่ก็เจ้าตัวคงรู้ตัวเองดีล่ะ ระวังๆหน่อยแล้วกัน จากคุณ : GunJ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 23:54:39 A:183.89.57.65 X: TicketID:308671

ความคิดเห็นที่ 98 เท่าที่อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ เรายังไม่รู้สึกว่าหมอคานูเค้าจะอะไรกับ paperนี้เลยนะ อย่าเพิ่งดราม่าเลยคะ เค้าแค่เป็นคนอ่าน ให้ฟังเท่านั้นเอง จากคุณ : ที่คาดผม เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 01:36:11

ความคิดเห็นที่ 99 เราว่าหมอคานูแค่สงสัยในpaper แล้วมาตั้งคำถามว่าจริงไหม เชื่อไหม ให้คนถกกันคงไม่ได้ตั้งใจถึงขนาดเป็นภัยแก่สมาชิกในห้องหรอกค่ะ จากคุณ : total99total เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 10:34:15

ความคิดเห็นที่ 100 อาการหนัก จากคุณ : ta_sri เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 12:31:59

ความคิดเห็นที่ 101 ยังไม่จบ มีต่อ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12148330/P12148330.html http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12147165/P12147165.html จากคุณ : kenjiwinness เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 17:28:50

ความคิดเห็นที่ 103 Gohan โดื sensor ขอบคุณพี่หมอแมวที่ให้กำลังใจ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 17:20:56