ความคิดเห็นที่ 1 การมอง x-ray เป็นการดูเงาเท่านั้นครับ ถ้าหมอเห็นเงาแปลกๆเล็กน้อย แต่คนไข้ไม่มีอาการเลย แล้วหมอบอกว่าคุณเป็นมะเร็งปอด คุณจะเชื่อมั๊ยหล่ะครับ กรณีนี้ตรวจเจอต่อมน้ำเหลืองก่อน แล้วไปดูฟิลม์มันก็ง่ายครับ ขอถามว่าเค้าเอาชิ้นเนื้อจากปอดไปตรวจหรือยัง เพราะบางครั้งอาจเป็นรอยอักเสบที่ไม่ใช่มะเร็งก็ได้ อีกจุดที่แนะนำให้ดู คือ น้องสาวตรวจ x-ray ทุกปีหรือไม่ ถ้าทำทุกปี รอยโรคที่เห็นมันใหญ่ขึ้นหรือไม่ ถ้ามันใหญ่ขึ้นทุกปีๆ แพทย์ก็คงพลาดจริงๆครับ แต่อยากให้ระลึกว่า ไม่มีใครตั้งใจพลาดครับ ขอให้รักษาหายครับ จากคุณ : mk096 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 15:58:37

ความคิดเห็นที่ 2 ตามที่ คห. 1 บอกค่ะ เนื้องอกที่พบในฟิล์มเอ็กซเรย์ อาจจะไม่ใช่มะเร็ง และต้องดูการพัฒนาของก้อนที่ว่านั้นด้วยค่ะ หากเอ็กซเรย์ทุกปีและมีพัฒนาการเกิดขึ้น ต้องลองเอาก้อนที่ว่าออกมาตรวจค่ะ หากพบว่าเป็น น่าจะดำเนินการได้ค่ะ จากคุณ : นิ่นของจี๊ด เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 16:04:36

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าเป็นผม เก็บเงินค่าฟ้อง ไว้รักษาตัวเองดีกว่า เพราะฟ้องกว่าจะจบ เห้อ ไหนจะเครียดจากมะเร็ง ยังมาเครียดเรื่องฟ้อง ไหนจะเสียเวลา ไหนศาลจะนัด ไหนหมอจะนัด ไหนจะค่าใช้จ่าย  ไหนจะ คชจ ไปศาล สารพัด สู้ปล่อยวาง ทำใจสบายๆ แล้วรักษาตัวเองจะดีกว่า จากคุณ : เด็กชายอนามัย เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 16:21:46

ความคิดเห็นที่ 4 ระยะเวลา 4 ปีกับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ไม่ได้รักษาอะไรเลย.........อาจจะไม่ใช่เรื่องเดียวกันก็ได้ครับ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 17:14:37

ความคิดเห็นที่ 5 มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ถ้าลามไปที่ปอดตั้งแต่ปี51 ควรจะแสดงอาการตั้งแต่ช่วงนั้นแล้ว จากคุณ : ลัดหลวง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 18:35:50

ความคิดเห็นที่ 6 จะฟ้องทำไม มะเร็งปอด ถ้าเป็นจริงๆ จะไม่อยู่มานานถึง 4 ปีหรอก มะเร็งปอดที่เราเคยเห็น อยู่ได้ประมาณ 6 ด-1 ปีเท่านั้นแหละ เราเดาว่า ก้อนที่ปอด ไม่ใช่มะเร็ง จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 18:53:10

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าพบความผิดปกติในปอดตั้งแต่ปี 2551 แล้วไม่ได้รักษา ตอนนี้ปี 2555 ยากที่จะเชื่อว่าที่เห็นในฟิล์มเอ็กซเรย์เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองครับ จากคุณ : zenario เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 20:05:25

ความคิดเห็นที่ 8 เชื่อว่าหมอตั้งใจทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วแต่ทำไงได้ ของมันผิดพลาดกันได้  บางทีก็เป็นที่ดวงเหมือนกันนะคะ จากคุณ : DeusExMachina เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 20:48:27

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเองหมอรพ.ทรวงอกนนท์ฯ ทั้งเอ็กซเรย์ TC.Scan ส่องกล้องลงไปในปอดตัดเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ และเจาะปอดตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ แต่หมอก็ยืนยัน กับน้องสาวว่าผมเป็นมะเร็งปอดระยะสี่ ไม่ให้กลับไปทำงานตปท. ทั้งที่ทางรพ.ตปท.ระบุให้กินยาแก้วัณโรค เพราะเขาตรวจเจอวัณโรค แต่ทางหมอกัลยา รพ.ทรวงอก บอกเป็นมากกว่านั้นบอกกับผม สรุปจะขอผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ ผมว่าไหนๆเราย้ายไปรพ.เอกชน ได้พบว่าผมเป็นแค่ทีบี.กินยารักษาเข้าเดือนที่ 9แล้วครับ เสียเวลากับรพ.ทรวงอกไม่ได้รักษาตรงจุดเกือบๆสองเดือน เพื่อนๆหลายคนบอกฟ้องเลย แต่ผมว่าเรามีกรรมเวรต่อกันจึงเป็นเช่นนี้ อโหสิกรรมครับ ป่านนี้ หมอกัลยา คงคิดว่าผมตายไปแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 55 20:56:36 จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 20:50:11

ความคิดเห็นที่ 10 โหเก็บฟิมล์ไว้ทุกปีเลยเหรอคะ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองแล้วลามไปที่ปอดมากกว่ามั้งคะ ไม่ใช่หมอ แต่แม่เป็นมะเร็งปอดคะ รักษาที่รามาคลีนิคพรีเมี่ยม เบิกได้คะ ให้คีโมเข็มละ 6 หมื่นกว่า เบิกได้ จ่ายแค่ 660 บาท เจ้านายเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 4 รักษาที่รามาเหมือนกัน รักษาครบคอร์ท ตอนนี้ เห็นว่าไม่พบเชื้อแล้ว แต่ต้องฉีดยาเข็มละ1แสน ทุก 3 เดือน เป็นเวลา 2 ปี เบิกได้ 4 เข็มแรก นอกนั้นจ่ายเองคะ มะเร็งระยะที่4 หมอบอกว่ามันคือการที่เกิดจากจุดหนึ่งแล้วลามไปอีกจุดหนึ่ง ไม่ใช่ระยะที่4 คือระยะที่ใกล้จะตาย ( จริงไม่จริงไม่รู้แต่หมอบอกเราเชื่อหมอ ) รีบรักษานะคะ ยิ่งเป็นราชการเปิดได้ โอกาสรักษายิ่งมีมาก อย่างที่ข้างบนบอกเอาเวลาที่คิดจะฟ้อง มารักษา คิดดี แล้วผลบุญจะทำให้น้องสาวคุณอาจจะหายได้ จากคุณ : เต็มล้าน เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 20:50:55

ความคิดเห็นที่ 11 ขอเอาใจช่วยนะคะ เราเองตอนนี้ก็เป็นมะเร็งปอด เจอจากการไปตรวจสุขภาพ xray แล้วเจอก้อนในปอด ผ่าตัดแล้วกระจายไปต่อมน้ำเหลือง ก็ให้คีโมไป 8 ครั้ง ตั้งแต่วันแรกที่ตรวจเจอ จนวันนี้ จริงๆเราไม่ได้มีอาการอะไรเลย ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตตามปรกติ แต่ต้องคอยไป follow up กับคุณหมอทุก 3 เดือน ขอเอาใจช่วยให้น้องสาวกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมไวๆนะคะ ( จากคุณ : ยัยม่ำ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 22:07:51

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบตามคำถามที่จขกท ถามนะครับ ควรทำอย่างไรกับความผิดพลาดของหมอ? ควรกลับไปรพ.ที่ตรวจร่างกายประจำปีและเช็คผลตรวจ โดยเฉพาะfilm x-ray ตั้งแต่ปี 51 เปรียบเทียบมาเรื่อยๆว่า มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร หมอที่ตรวจและประเมิน ในแต่ละปี ลงความเห็นอย่างไร จะได้หาข้อมูลก่อนว่า หมอผิดพลาดอย่างที่คุณกล่าวหาหรือเปล่า ปล* นอกเรื่องนิดหน่อย ถ้าเป็นมะเร็งปอดจริงๆ และมีอาการตั้งแต่ปี 51 ปัจจุบันปี 55 น้องคุณไม่เคยได้รับการรักษา คาดว่าน่าจะเสียชีวิตไปก่อนที่จะมาเจอก้อนที่คอครับ ดังนั้น จากข้อมูลเบื้องต้นของคุณ สันนิษฐานว่าก้่อนในปอดจากปี 51 อาจไม่ใช่เรื่องเดียวกัน จากคุณ : nightdoc เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 00:41:01

ความคิดเห็นที่ 13 ฟ้องแล้วได้อะไร เงินหรือ เงินๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เท่านั้น ได้เงินแล้วมะเร็งหายหรือไม่ ถ้าได้เงินแล้วมะเร็งหาย เชิญ จากคุณ : valdez (tornnagin) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 08:25:21

ความคิดเห็นที่ 14 บางเรื่องสมควรฟ้อง เรื่องไม่สมควรฟ้อง ก็ออกรายการสอระยุแหย่ คนก็เอาอย่าง เอกชนต้องเก็บแพงเผื่อถูกฟ้อง เดือดร้อนถ้วนหน้า ฟ้องคดีรกศาล พูดความจริงไกล่เกลี่ย ช่วยเหลือกันตามควร ก็น่าอยู่แล้ว ดูยาย ปรียานันท์ ผมเห็นใจแกนะ แต่วิธีการของแกรับไม่ได้ ส่วนไอ้เสริมความงามนั่นก็ฟ้องจนถูกยิงตาย ใครจะจับหมอแบบนั้นให้ดูหน่อยเถอะ เลวขนาดนั้น จากคุณ : เบื่อ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 15:49:57 A:125.27.89.202 X: TicketID:224344

ความคิดเห็นที่ 15 คห 6 คะ เราเป็นมะเร็งที่ปอดค่ะ เราอยู่มาเกิน ปี นึงแล้วค่ะ จากคุณ : ตังโอ๋ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 22:02:36

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกกระทู้ครับ ผมลืมบอกว่าน้องสาวผมทำงานที่รพ.แห่งหนึ่ง ครบตรวจร่างกายปีนี้ ผอ.รพ.เป็นผู้อ่านฟิล์มเอง เห็นปอดผิดปกติ จึงนำฟิล์มเก่าที่ รพ.เก็บรักษาไว้มาอ่าน ปรากฏว่าพบตั้งแต่ปี 51 แล้วโตขึ้นทุกปี ที่ผมตั้งกระทู้ก็ไม่คิดจะฟ้อง เพียงแต่อยากทราบว่า มีเคสแบบน้องสาวไหม และแก้ไขอย่างไร ขอบคุณครับ จากคุณ : chai_chin เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 22:51:45

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าคนอ่านฟิล์มเป็นหมอทั่วไปก็อาจพลาดได้ ควรให้หมอเอกซเรย์โดยเฉพาะเป็นคนอ่านครับ ส่วนมากถ้ามีเงาจางๆไม่รู้ว่าเป็นอะไรก็อาจจะอ่านผลว่า "อาจจะเป็นมะเร็งได้ ควรตรวจอย่างอื่นต่อไป ฯลฯ"   แค่นี้หมอเอกซเรย์ก็รอดตัวแล้ว จากคุณ : meezaa เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 23:36:07