ขออนุญาตตั้งกระทู้เตือนสตินะคะ เนื่องจากเห็นมาหลายกระทู้แล้วเลยอดที่จะเขียนไม่ได้
ช่วงนี้เจอหลายกระทู้เหลือเกินที่มีคนมาตั้งขอคำแนะนำในการลดน้ำหนัก ปัญหาที่เห็นคือหลายๆคนที่มาตั้งกระทู้นั้น มีน้ำหนักและส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ปกติดีอยู่แล้วหรือบางคนอยู่ในเกณฑ์ผอมเกินไปด้วยซ้ำ!
สังคมไทยเป็นสังคมที่นิยมความผอมกันอย่างบ้าคลั่ง สังเกตุดูง่ายๆ หนังสือหรือข้อมูลที่เขียนให้เห็นถึงโทษของการอ้วนเกินไปมีให้เห็นอยู่มากมาย ในขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับโทษของการผอมเกินไปนั้นหาแทบไม่มี ทำให้หลายๆคนไม่รู้ถึงอันตรายต่อสุขภาพเมื่อผอมเกินไป ทั้งๆที่การผอมเกินไปมันเสี่ยงมากพอๆกับอ้วนเกินไปเลยทีเดียว
แล้วแบบไหนที่เรียกว่าผอมเกินไป? เราสามารถคำนวนหาค่า BMI หรือ ดัชนีมวลกายจากสัดส่วนน้ำหนักและส่วนสูงของเรา
BMI = น้ำหนักตัว เป็นกิโลกรัม / ความสูง เป็นเมตรยกกำลัง 2
หากผลลัพธ์ที่ได้ต่ำกว่า 18.5 แปลว่าคุณผอมเกินไป
เกณฑ์นี้ใช้ได้กับทั้งคนเอเซียและฝรั่ง (ข้อมูลมาจากใบปลิวของโรงพยาบาลไทย)
หมายเหตุ: เกณฑ์นี้ใช้ไม่ได้กับคนป่วยและนักกีฬามืออาชีพหรือนักยกน้ำหนักที่มักมีน้ำหนักสูงมากเนื่องจากหนักกล้ามเนื้อ
เข้าใจว่าหลายๆคนอยากมีรูปร่างผอมบางตามค่านิยมและเอาหุ่นของดารานางแบบมาเป็นต้นแบบ แต่คุณรู้หรือไม่ว่ารูปร่างที่ดูสวยๆแบบดารานั่นน่ะ ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ดีนะคะ แต่อยู่ในเกณฑ์ผอมเกินไปทั้งนั้นเลย อาทิ:
เจนนี่ เทียน - BMI 16.5
น้ำชา - BMI 16.9
กิ๊บซี่ - BMI 17
ชมพู่ อารยา - BMI 16.3
ขวัญ อุษามณี - BMI 17.2
ดังนั้น จะให้รูปร่างดูผอมบางเหมือนดาราก็ต้องมีน้ำหนักที่อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงต่อสุขภาพ บางคนอาจคิดว่า ไม่สน ขอดูดีตามกระแสสังคมไว้ก่อน คนผอมมากๆแบบดารายังไม่เห็นเค้าจะเป็นอันตรายอะไรเลย
แต่คิดดูดีๆนะคะ มันคุ้มหรือเปล่าที่คุณจะเสี่ยงต่อ ระบบสมองและประสาท ผมร่วง ความดันต่ำ หัวใจวาย โลหิตจาง กระดูกพรุน ท้องอืด ท้องผูก นิ่ว ไตวาย แท้งง่าย ผิวแห้ง ขี้หนาว
พวกดารานางแบบเค้ามีรายได้สูง พอป่วยเป็นอะไรก็มีเงินเหลือเฟือมารักษาตัวเอง แต่คนหาเช้ากินค่ำแบบเราๆปกตินี่สิ เอาตัวไปเสี่ยงแบบเค้าแล้วมีเงินไปรักษาตัวเองแบบเค้ามั๊ยคะ ยังไม่นับว่าพอป่วยก็สร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวต้องมาดูแลมาเป็นห่วงอีก
บางคนอาจจะบอกว่าน้ำหนักตัวและ BMI อยู่ในขั้นผอมเกินก็จริง แต่รู้สึกว่ามีพุง ขาใหญ่ แขนใหญ่ จึงจำเป็นต้องลดน้ำหนัก
ขอบอกว่าคุณอยู่ในข่ายพวก Skinny Fat ค่ะ วิธีแก้ Skinny Fat ไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่ต้องเป็นการ เพิ่มน้ำหนักโดยให้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเป็นน้ำหนักของมวลกล้ามเนื้อล้วนๆ ดังนั้นคุณไม่ควรอดอาหาร แต่ควรกินอาหารที่มีประโยชน์เยอะๆ เน้นโปรตีน อย่าออกกำลังกายแนวเบิร์น แต่ให้ออกกำลังกายแนวสร้างกล้ามเนื้อเช่น ยกน้ำหนัก และ squat แทนค่ะ เมื่อคุณมีกล้ามเนื้อมากขึ้น ร่างกายคุณก็จะเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น Skinny Fat ก็จะหายไปเองค่ะ
และไม่ว่าคุณกำลังลดน้ำหนักด้วยวิธีใดก็ตาม ขอเตือนว่า ห้ามอดอาหารมื้อหลักๆ เช้า กลางวัน และเย็น หลายคนลดน้ำหนักด้วยการอดมื้อเย็น ช่วงแรกๆน้ำหนักคุณอาจจะลงเร็ว แต่สักพักนึงมันจะนิ่ง เมื่อร่างกายได้รับอาหารน้อยเกิน ระบบเผาผลาญก็จะรวน ทำให้ร่างกายไม่เผาผลาญอาหารเลย ต่อให้คุณอดอาหารเย็นไปเรื่อยๆมันก็จะไม่ลงอีก และเมื่อคุณเริ่มกินอาหารเย็นใหม่ น้ำหนักก็จะพุ่งขึ้นไปเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม
ดังนั้นขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพอย่างมีสตินะคะ ก่อนจะทำอะไรกับร่างกาย เช็คค่า BMI ก่อน อย่าคิดว่า ฉันยังไม่ผอมเท่าคนโน้นแปลว่าฉันอ้วนเกินไป แต่หารู้ไม่ว่าคุณน่ะปกติดีแล้ว แต่คนโน้นที่คุณดูเป็นตัวอย่างน่ะผอมเกินไปต่างหาก
เช็คค่า BMI ดูก่อน
25 ขึ้นไป: คุณต้องลดน้ำหนัก แต่ขอให้ใจเย็นๆ อย่าหักโหม อย่าอดอาหาร ออกกำลังกายให้พอเหมาะ กินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบหมู่แต่ลดปริมาณลงนิดนึง วิธีนี้อาจจะช้ืา แต่โอกาสกลับมาอ้วนใหม่มีน้อย และัปลอดภัยต่อร่างกาย ช้าๆได้พร้าเล่มงามนะคะ
18.5 - 24.9: ยินดีด้วย คุณอยู่ในเกณฑ์น้ำหนักปกติและสุขภาพดี ไม่เสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บ คุณควรกินอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย คอยดูอย่าให้น้ำหนักสูงเกินหรือต่ำเกินจากเกณฑ์นี้
น้อยกว่า 18.5: คุณต้องเพิ่มน้ำหนัก แต่ที่บอกนี้ไม่ได้หมายความว่าให้คุณไปนั่งกินอาหารขยะ เค้ก คุกกี้ ขนมตามสบายนะคะ แต่ให้เพิ่มด้วยวิธีกินเยอะๆ แต่ต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังสร้างกล้ามเนื้อ
ต่ำกว่าเกณฑ์หรือปกติ แต่ลงพุง แขนขาใหญ่: ใช้วิธีจัดการกับ Skinny Fat ตามที่แนะนำไว้ข้างบนเลยค่ะ