ความคิดเห็นที่ 1 ยังไม่เลิกนอยด์ เลิกเครียด เลิกจิตตกกับนน.ตัวเองอีกเหรอเนี่ย รูปจากที่โพสตอนนั้นไม่ได้อ้วนอะไรเลย แทนที่จะห่วงสุขภาพตัวเองมากกว่าความสวยความงามภายนอก รอบที่ผ่านมาป่วยเกือบ 2 เดือนเพิ่งจะหาย แทนที่จะดูแลสุขภาพภายในตัวเองดีๆ นี่กลับจะมาหาวิธีทรมานสุขภาพตัวเอง กระทู้แรกๆมาตั้ง กินมื้อเดียว ทำไมไม่ลดอะไรแนวนี้ กระทู้ต่อๆมาก็ยังไม่พ้นแนวๆนั้นอีก พอกระทู้หลังๆเริ่มมาบอกมีปัญหาสุขภาพ เดี๋ยวเวียนหัว เดี๋ยวเลือดจาง หน้ามืด วูบเป็นลม ขอถามนิดเดียวว่ารักตัวเองจริงหรือเปล่า?? ขออภัยที่แรงแต่ด้วยความเป็นห่วง ใครมาตอบหลังจากนี้ลองค้นกระทู้เก่าๆดูนะคะ แล้วจะเข้าใจ จากคุณ : KhuenChayOA เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 17:56:29

ความคิดเห็นที่ 2 กะแล้ว โดนคุณโอ๋แน่ๆ เค้าเปลี่ยนไปแล้วนะ กินครบทุกมื้อ แต่ลดแป้ง ไม่งดแล้วหลังจากที่หมอแนะนำ South beach diet แล้วที่คลับลดความอ้วนบอกไม่ได้ผล เราลองไปแค่ 2 วัน คือตอนเนี้่ย มันไม่ใช่แบบที่โพสแล้วสิ มันอ้วนขึ้น ! 4 กก. แบบออกขา แขน พุงหมดเลย ส่วนเลือดจางไม่ใช่สาเหตุของการลดอาหาร มันเป็นที่ตัวเราเอง แต่ว่าการลดอาหารทำให้อาการแสดง เป็นมาหลายปีแล้วหมอบอก แต่ว่าพอมาลดอาหารและออกกำลังหนัก มันก็เลยแสดงอาการออกมา ตอนนี้ก็ไม่ลดแล้วอ่ะอาหาร พอกินปกติช่วงไม่สบายขึ้นมา 4 โลเราไม่เอาแล้วอ่ะ กินปกติ ออกกำลังดีกว่า ตอนนี้ไม่อยาก หนัก 55 แล้ว ขอแค่หนัก 60 เท่าเดิมตอนก่อนป่วยพอ คุณโอ๋มากกระแทกที เราเริ่มหายนอยด์เลย 555 เรารักตัวเองจริงๆหรือปล่าว หรือเราแคร์สายตาคนอื่นมากกว่า เราก็สงสัยตัวเองนะ จากคุณ : เคะโรโระ กบต่างดาว เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:07:15

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนแรกก็จะไม่ตอบ เพราะเห็นชื่อนี้ไม่เข้ามาตอบเลยช่วงหลังๆก่อนที่จะหายไป แต่เห็นเพิ่งหาย และจะมานอยด์มาเยอะอะไรอีกเลยทนไม่ไหว ก่อนหน้านั้นกินมื้อเดียว โหมออกกำลัง จนมาถึงตอนนี้ขึ้นมาแค่ 4 กิโลนี่ดีเท่าไรแล้วนะ ทำร้ายร่างกายตัวเอง ทำลายกล้ามเนื้อไปตั้งเท่าไร ก็ยังดีที่มีความคิดว่ากลับมากินปกติ ออกกำลัง เพิ่มเวท ค่อยทำไป อย่าหักโหมอีกล่ะ ป่วยขึ้นมาอีกพักยาวกว่าเดิมแล้วจะมาเสียใจที่หลัง รักตัวเองให้มากๆๆ อย่าแคร์สายตาคนอื่นให้มันมากนัก คนที่ควรแคร์เยอะๆน่ะคือคนในบ้าน ถ้าเราเป็นอะไรขึ้นมาคิดสิว่าจะเสียใจแค่ไหน จากคุณ : KhuenChayOA เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:25:47

ความคิดเห็นที่ 4 พักผ่อนน้อยไปหรือเปล่า ร่างกายเลยไม่สด ล้าเร็ว ผมก็ออกกำลังกายทุกวัน รู้สึกว่าเหงื่อออกไม่พอ เลยอาศัยการเปลี่ยนกิจกรรมออกกำลังกายไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อชิน ก็ได้ผล อาบเหงื่อทุกครั้งที่ออกกำลังกาย รู้สึกคุ้มที่ได้ออกแรง ไม่ได้เน้นเรื่องน้ำหนัก แต่อยากให้ได้ซิกแพคซักครั้งในชีวิต ยิ่งช่วงนี้บอลยูโร ยิ่งนอนน้อยแค่ 2-3 ชม. แต่ก็ฝืนตื่นมาออกกำลังกายอยู่ และเพิ่มตอนช่วงระหว่างคู่ด้วย กลัวจะหลับแล้วไม่ได้ดู ส่วนที่รู้สึกล้าก็มีบ้าง โดยเฉพาะตอนเล่นเวท ก็อาศัยไปทำอย่างอื่นแทน เช่น กระโดดเชือก สัก 5 นาที แล้วค่อยกลับมาเล่นเวทต่อ ทุกวันนี้ก็ยังปกติสุขดี จากคุณ : mynameism เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:39:24

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไม ถึงยึดติดกับตัวเลข กับตาช่าง กันจัง ผมล่ะงง จริงๆ ตั้งแต่ผมออกกำลังกาย ผมไม่เคยช่างน้ำหนัก เลยจริงๆ ตาช่างที่ดีที่สุด ของผม คือ กระจก   ถอดมันออกให้หมด ส่องกระจกดู แล้วคุณจะรู้ว่าต้องทำยังไงกับมัน ไม่ใช่มานั่งดูตัวเลข บ้าบอ บนตาช่าง วู้ว !!! ไม่เข้าท่า ช่วงนี้ผมเอง Sixpack หาย  เพราะเริ่มจะ Bulk ตัวให้ใหญ่ขึ้น ก็ดูหนาๆ ขึ้นมาแล้ว แต่ก่อน มัวบ้า Sixpack ไร้สาระมากเลย ถ้าอยากหุ่นสวย มันต้องเฟิร์มทั้งตัว ไม่ใช่แค่หน้าท้อง หรือต้นขา ออ อีกอย่าง ที่สำคัญอย่าเครียดนะครับ เวลาเราเครียด ร่างกายจะหลั่งสาร Cortisol ออกมาทำลายกล้ามเนื้อ ทำลายระบบเผาผลาญ สาร Endorphine ที่คุณได้รับมาตอนออกกำลังกาย ก็แทบเปล่าประโยชน์ ปล. 2 ปี กับการออกำลังกาย กินอาหารดีๆ ดูแลตัวเอง ผมล่ะโคตร ภูมิใจ แบบไม่ต้องไปอวดใคร จริงๆ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 55 19:00:37 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 55 18:57:34 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 55 18:56:50 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 55 18:56:31 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 55 18:54:13 จากคุณ : MysticRiver เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:53:46

ความคิดเห็นที่ 6 มาเต็มเลย จัดหนักจริงๆ 555 ช่วงนี้เพื่อนๆยิ่งกำลังอารมณ์เสียกับคนที่ลดความอ้วนแบบผิดๆอยู่ด้วย ยิ่งมาเจอแบบผิดๆซ้ำๆเลยยิ่งมีอารมณ์น่ะ แต่เค้าเป็นห่วงคุณนะคะเค้าถึงกล้าว่ากันน่ะ สำหรับเราถ้าป่วยนะคะหยุดทุกสิ่งอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะคุมอาหาร ออกกำลังกาย อะไรต่างๆ งดหมด เพราะร่างกายเรากำลังอ่อนแอต้องการพักผ่อนและต้องการอาหารที่มีประโยชน์ หายแล้วค่อยว่ากันใหม่ ดูแลตัวเองให้ครบทุกด้านค่ะ ้อ้วนมากก็ลดความอ้วน ป่วยก็ต้องรักษา เหนื่อยล้าก็ต้องพักผ่อน หิวก็ต้องกิน จากคุณ : muggle_th เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:18:27

ความคิดเห็นที่ 7 -ออกกำลังกาย วัน เว้น วัน ก็ได้ครับ ..... แต่อยากให้ลองแบบ ออกกำลังกาย หนัก กับ เบา สล้บวันเว้นวัน ดูก่อน บอดี้เวท ก็เล่นสลับเอาครับ ไม่จำเป็นต้องเล่นทุกวัน. แต่ถ้าวันไหนเล่น ก็จัดหนักไปเลย -ร่างกายมันล้ากว่าแต่ก่อน ก็ต้องบำรุงเพิ่มเข้าไปครับ อกไก่ต้มเนื้อล้วน.  ไข่ขาวต้มสุก. ปลานึ่ง. อาหารที่ให้โปรตีนสูงทั้งหลายจะช่วยซ่อมแซมร่างกายได้ครับ สุดท้ายพี่อยากแนะนำน้องจริงๆ เรื่องเรียนสำคัญที่สุดน่ะครับ ออกกำลังกายเอาให้เหมาะสม วันล่ะ ชั่วโมงก็จัดว่าเยี่ยมมากแล้วครับ จากคุณ : zerza เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 20:47:31

ความคิดเห็นที่ 8 ^^ การออกกำลังกาย ไม่ใช่การลดน้ำหนัก หรือ การวางตัวเลข แล้วเดินไปยังเป้าหมายได้ มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณหนัก 50 Kg. แต่คุณ วิ่งได้ไม่เกิน 500 เมตร คุณหนัก 80 Kg. แต่คุณสามารถวิ่งติดต่อกันได้ 30 นาที หรือ 1 ชม. โดยการหายใจคุณเป็นปกติ ^^ การออกกำลังกาย คือ การทำให้ร่างกายคุณสมบูรณ์แข็งแรง โรคภัยไม่มี ^^ อย่ายึดติดกับตัวเลข เลยครับ เพราะบางที คุณอาจหนักเท่าเดิม แต่ที่เปลี่ยนไป คือ ไขมัน เป็น กล้ามเนื้อแทน จากคุณ : nuacool เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 20:47:32

ความคิดเห็นที่ 9 การออกกำลังกายที่สร้างกล้ามเนื้อทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นฟรีเวทหรือบอดี้เวทต้องการการพักผ่อนเป็นเวลา 48 ชม.เพื่อซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อครับ เพราะงั้นการที่คุณบอดี้เวททุกวันจึงผิดครับ แต่การออกกำลังกายด้วยการทำคาร์ดิโอ้ ที่ไม่ทำให้ปวดกล้ามเนื้อหรือล้า เช่น ฮูล่าฮูป วิ่ง สามารถทำได้ทุกวันครับ ผมเองก็ออกฯทุกวัน(เดินเร็ว) แต่ผมเล่นเวทวันเว้นวันเพื่อให้กล้ามเนื้อได้พัก ส่วนเรื่องที่คุณหยุดไม่ได้ออกฯเป็นเวลาร่วม 2 เดือนมันก็แน่นอนอยู่แล้วที่คุณจะฟิตไม่เท่าเดิม กล้ามเนื้อลดขนาดลง ความจุปอดน้อยลง กล้ามเนื้อใช้ออกซิเจนมากขึ้น ส่วนเรื่องร่างกายอ่อนแอเด็กๆผมก็เป็นครับ หาหมอบ่อย ต่อมน้ำเหลืองไม่ดี แต่ตอนไปเรียนอยู่หอพัก ได้ออกฯได้เล่นกีฬา เป็นนักบาส รร. ตั้งแต่นั้นก็ไม่เห็นเคยเป็นอะไรอีก จะเป็นก็ช่วงนี้ที่น้ำหนักขึ้นมาเป็น 140 กก. เริ่มปวดข้อเท้าเพราะน้ำหนักเยอะเกินและไม่ได้ออกกำลังกายเหมือนก่อน ถ้าบอกว่าร่างกายคุณอ่อนแอก็เริ่มที่ละน้อยๆแต่ต่อเนื่อง เพิ่มครั้งละนิด ฟังร่างกายตัวเอง ถ้าไม่ไหวก็หยุด ถ้าไหวก็ทำเพิ่มขึ้นเท่านั้นเองครับ แม้อาจเพิ่มได้ช้ากว่าคนร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว แต่ไม่นานร่างกายเราจะแข็งแรงขึ้นเอง แล้วโรคภัยก็จะหายไปเอง เหมือนอย่างตอนนี้ผมเองก็อยากวิ่งใจจะขาด แต่ก็วิ่งไม่ได้เพราะถ้าวิ่งแล้วจะเจ็บข้อเท้า(มาเจ็บเอาหลังวิ่งเสร็จ ตอนวิ่งไม่รู้สึก) ตอนนี้ก็ใช้การเดินเร็วแทน เพราะเดือนก่อนวิ่งไปหนหนึ่ง 1ชม.(วิ่งสลับเดิน) เดินไม่ได้เกือบ 2 อาทิตย์ เล่นเอาเซ็งเลย จากคุณ : Rage Doll เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 16:47:08 A:171.96.12.167 X: TicketID:363484

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านๆแล้วเราเริ่มรู้แล้วว่าตัวเองมุุ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่้้ัััััำำำำำ่่ี่่่งเรื่องน้ำหนักเกินไป ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด เรื่องเรียน กับ เรื่องสุขภาพ สำคัญกว่าเยอะ เราลืมไปได้ยังไง ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีดีค่ะ :)) ปล.พิมพ์ไม้เอกบนตัวมอม้าไม่ได้ คอมเป็นอะไรไม่รู้ จากคุณ : เคะโรโระ กบต่างดาว เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 21:12:24