ความคิดเห็นที่ 1 “โชคดีที่เป็นเบาหวาน” ใช่ครับ..อ่านไม่ผิดครับ ถ้าถามว่า โชคดียังไง ลองอ่านเรื่องของผมดูนะครับ ผมขอให้เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือ กำลังลดน้ำหนัก นะครับ อาจจะยาวไปนิด ถ้าไม่เบื่อซะก่อน ก็อยากให้อ่านให้จบ นะครับ ^_^ ผมเป็นคนที่ทานเก่งมากๆ ทานข้าวมื้อหนึ่งก็ต้องพิเศษสองจาน (ข้าวร้านอาหารตามสั่งอะครับ) ข้าวมันไก่นี่ต้องสั่ง “เจ๊..เนื้อน่อง พิเศษ สองจาน” ทาน เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน เลยล่ะครับ ขนมก็ทาน ขนมปัง เบเกอรี่ เค้ก โดนัท อะไรพวกนี้นี่ชอบมากๆ ทานได้ตลอดเวลา โดนัทกล่องหนึ่ง 10 ชิ้น ผมทานคนเดียวก็หมด ภายใน 1 วัน ขนมกรอบๆ มันฝรั่งทอด ห่อล่ะ 30 บาท ทานครั้งล่ะ 2 ห่อ ห่อเดียวไม่เคยหนำใจ ช๊อกโกแลต คุกกี้แซนวิส เวเฟอร์ อะไรพวกนี้ทานเรียบ ไม่เคยสนใจอะไรทั้งนั้น จะเลิกทานก็ตอนนอนหลับเท่านั้น กาแฟปั่นก็ดื่ม ติดด้วยครับ บ่ายๆนี่ต้องดื่มทุกวัน น้ำอัดลม น้ำหวาน ชาเขียว ก็ดื่มครับ เท่านั้นยังไม่พอ ยังดื่มเบียร์ร์เกือบทุกวันด้วยครับ สูบบุหรี่เป็นประจำอีกต่างหาก  สัปดาห์หนึ่งก็ดื่มประมาณ5-6 วัน จะดื่มช่วงเย็นครับ ถึงประมาณ ห้าทุ่มเกือบเที่ยงคืน ดื่มเสร็จ เมาแล้ว ก็ทานข้าวครับ ข้าวมันไก่บ้าง  ผัดไทบ้าง เกาเหลาเลือดหมูบ้าง อะไรที่ขายข้างทางตอนดึกๆ นี่ผมเป็นลูกค้าประจำตลอด 555+ ทานเสร็จ ก็อาบน้ำ นอน(อืด)ครับ แห่ะๆ ไม่เคยออกกำลังกายเลย แม้แต่นาทีเดียว แค่เดินยังไม่เดินเลยครับ เดินได้ไม่เกิน 50 เมตร ถ้าไกลกว่านั้น ต้องขึ้นรถอย่างเดียวครับ (ขี้เกียดเดิน มันเหนื่อย) ใช้ชีวิตอย่างนี้มาตลอด  จนถึง อายุ 23 ครับ น้ำหนักรวม 120 กิโลกรัม สูง 175 เซนติเมตร  โอ้โห..ทำไปได้อย่างไร น้ำหนักขนาดนั้น  อ้วนมากๆ แต่ไม่เคยแคร์อะไรทั้งสิ้นครับ ไม่เคยไปหาหมอ..ไม่เคยตรวจสุขภาพ แล้วก็ไม่เคยคิดว่าจะเป็นโรคอะไรด้วยครับ คิดว่าตัวเองแข็งแรงดีมาตลอด (ช่างกล้า..ไม่สังวรตัวเองครับ) ชีวิตผมดำเนินไปเรื่อยครับ ซึ่งผมก็จะยังมีพฤติกรรมการทาน การดื่ม และการสูบ แบบเดิมๆอยู่ทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมเกิดอาการคอแห้ง กระหายน้ำ ดื่มน้ำเท่าไรก็ไม่หายคอแห้ง ปวดปัสสาวะบ่อยมาก ทั้งวันทั้งคืน 20 นาที เข้าห้องน้ำ 1 ครั้ง  ก็เข้าใจว่าเราคงดื่มน้ำเยอะ เราเลยปวดปัสสาวะบ่อย แล้วทำไมเราถึงคอแห้งล่ะ สงสัยอากาศร้อนล่ะ เลยกระหายน้ำ หรือว่าเราร้อนใน ไม่เคยมีเรื่องโรคเบาหวานเข้ามาในหัวเลยครับ คิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวมาก โอ้ย..โรคคนแก่ คนแก่โน้นถึงจะเป็น พอเช้าวันรุ่งขึ้นครับ ตื่นมาพร้อมอาการเวียนหัว คลื่นไส้ ปวดหัวมาก มึน งง ไปหมด เหมือนโลกหมุนครับ เอาล่ะ เดือดร้อนแล้วครับ ไม่ได้การ ต้องรีบแจ้นไปโรงพยาบาลครับ มีสิทธิประกันสังคมนี่ ใช้ซะหน่อย ไหนๆก็ส่งเงินอยู่ทุกเดือนอยู่แล้ว เดินเข้าไปพบคุณหมอครับ คุณหมอแค่เห็นหุ่นผม แล้วผมแค่บอกอาการว่าผมคอแห้ง แล้วก็ปัสสาวะบ่อย แค่นั้นแหละครับ หมอ(ไล่)ส่งไปตรวจเลือดทันที เดี๋ยวนั้นเลยครับ ผมถูกตรวจเลือดด้วยวิธี ที่เจาะปลายนิ้วอะครับ น้ำตาล วิ่งปริ๊ด ไปหยุดที่ 398 คุณพยาบาลร้องโอ้โหหหห ผมก็ตกใจ ว่า ร้องทำไม คือผมไม่รู้หรอกว่า 398 มันน้อยหรือมากเพียงใด ในตอนนั้น กลับมาพบคุณหมอ คุณหมอบอกว่าคุณเป็น ”เบาหวาน” แน่นอน 398 นี่มันเบาหวานแน่ๆบวกกับอาการที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ มันเป็นอะไรอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากโรคนี้โรคเดียว คุณหมอก็ถามว่าคนในครอบครัวมีใครเป็นมั้ย ผมบอก “ไม่มี” ไม่มีใครเป็นคุณก็เป็นได้ครับ เป็นได้ด้วยตัวคุณเองเลย คุณหมอบอก 555+ เอาล่ะครับ คุณหมอให้ยามาทาน เป็นยาทานก่อนอาหารครับเม็ดเล็กๆ ผมก็ทานไป ยังไม่สำนึกนะครับ ออกจากโรงพยาบาล ขากลับยังแวะร้านส้มตำร้านประจำโทรลากเพื่อนออกมานั่งดื่มเบียร์ แล้วก็เล่าให้เพื่อนฟังว่า “เห้ยย..ตรูเป็นเบาหวานนนนนนนนน” พร้อมกับยกแก้วเบียร์ขึ้นกระดก อีกมือก็ยกบุหรี่ ขึ้นมาสูบ ควันขโมง จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 02:27:33

ความคิดเห็นที่ 2 บอกตรงๆครับ ตอนนั้นไม่รู้ว่า เบาหวานคืออะไร เป็นแล้วเป็นยังไง ผมก็ยังปกติดีอยู่นี่ ยังเดินเหินได้สบาย ไม่เห็นจะหน้ากลัวตรงไหนเลย หลังจากนั้นกลับมาบ้าน มาบอกคุณแม่ครับ คุณแม่ตกใจมาก แล้วก็บอกให้ฟังว่า เบาหวาน มันเป็นยังไง (คือตอนไปพบคุณหมอ คุณหมอก็บอกนะครับ แต่ผมไม่ได้ฟัง อารมณ์แบบไม่แคร์ ไม่กลัวอะครับ 5555+) มาฟังเอาตอนที่คุณแม่พูดแหละครับ เพราะสีหน้าคุณแม่ตอนที่รู้ คุณแม่ดูกังวลมาก ผมเลยตกใจ แล้วก็เลยตั้งใจฟังอะครับ ก็ฟังไปครับรู้สึกว่ามันน่ากลัวอยู่เหมือนกัน เริ่มกลัวนิดๆครับ แต่ก็ยังไม่เลิกครับ ระหว่างนั้นผมก็ทานยาที่คุณหมอให้ทุกวัน แต่ก็ยังไม่เลิกดื่มเบียร์ ไม่เลิกสูบบุหรี่ ยังทานไม่เลือกเหมือนเดิม มันอด มันห้ามใจ ไม่ไหวจริงๆนะครับตอนนั้น แต่ก็เริ่มอ่าน หาข้อมูลทางอินเตอร์เนตบ้างครับว่าโรคเบาหวาน เป็นอย่างไร ทานยาติดต่อกันมากๆเป็นอย่างไร ถ้าควบคุมน้ำตาลไม่ได้ จะต้องฉีดยา  เบาหวานอาจจะขึ้นตา ตาจะบอด เท้าจะเน่า  ไตจะวาย โน้นนี่นั่น ออกอาการเริ่มกลัวครับ  แต่ก็ยังครับ ยังไปนั่งดื่มเบียร์ตอนเย็นเหมือนเดิมครับ ทานข้าว ทานขนม สูบบุหรี่เหมือนเดิมครับ เวลาผ่านไปซักประมาณ 1 เดือน คุณหมอนัดครับ ไปตรวจ น้ำตาลลงมานิดหน่อยครับ  แต่ที่เจอเพิ่มคือ “ไขมัน”ครับ โอ้ววว..ตายแล้วอะไรกันเนี่ย ตอนนั้นไม่เคยเข้าใจเลยครับว่ามันมีโรคแบบนี้อยู่บนโลกเราด้วยหรอ คิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวเรามาก แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลย ผมทานยาอยู่ประมาณ 3 เดือนครับ ทั้งยาเบาหวานและยาลดไขมันในเลือดที่ทานก่อนนอนอะครับ แต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะผมยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมครับ จนมีอยู่คืนหนึ่งครับ คืนนั้นผมจำได้ ผมไม่ได้ดื่มเบียร์ กลับบ้านเร็วมาเจอคุณแม่นั่งดูทีวีอยู่ครับ คุณแม่ก็บอกว่าเนี่ยนั่งดูรายการขายยาเขาว่าคนเป็นเบาหวานทานแล้วหาย เอามั้ยลูกแม่จะซื้อให้ มันอันตรายมากนะถ้าเราควบคุมน้ำตาลไม่ได้ มีโรคแทรกซ้อนเยอะแยะเลย สีหน้าแม่กังวลมาก เบียร์น่ะ เลิกดื่มได้มั้ย บุหรี่น่ะอย่าไปสูบเลย ของไม่ดีทั้งนั้น เอาเข้าตัวเราทำไม อยู่ด้วยกันนานๆสิ ในร่างกายมีแต่ของที่ให้โทษ แล้วจะอยู่ได้นานหรอ เอาซะผมนอนไม่หลับเลยคืนนั้น นี่ผมไม่เคยห่วงตัวผมเองยังไม่พอ ผมยังไม่เคยห่วงคุณแม่ผมอีก ผมเริ่มคิดได้ ว่าถ้าเราเป็นอะไรไป คนที่เสียใจที่สุดก็คงเป็นคุณแม่เรา (นี่มันหนังชีวิตชัดๆ) แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆนะครับ ผมเชื่อว่าใครหลายๆคน ต้องเคยผ่านอะไรแบบนี้มาบ้างล่ะ ผมนอนคิดทั้งคืน นอนเปิดอินเตอร์เนต ในแทบเล็ตเน่าๆของผม (ช้าซะไม่มี ทั้งหนืด ทั้งหน่วง )  หาข้อมูล หาวิธีการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด และแล้วผมก็เจอ วิธีที่ดีที่สุด เน้นว่า ที่ดีที่สุด ไม่ใช่การทานยา หรือ ฉีดยา หรือการพบคุณหมอ หรือไปตระเวนหายาสมุนไพร จากไหนก็ไม่รู้ ที่พูดต่อๆกันมาว่าดี ว่าหาย แต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันถึงผลลัพธ์ที่ได้จริงๆ วิธีที่ดีที่สุด คือการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ควบคุมปริมาณน้ำตาล เลิกดื่มเหล้า เลิกสูบหรี่ ทานแต่อาหารที่ มีประโยชน์ นี่แหละ คือวิธีที่ รักษาโรคเบาหวานและโรคไขมันในเลือดสูง ที่ดีที่สุด เอาล่ะ ผมจะเริ่มต้นการลดน้ำหนักอย่างจริงจังแล้วนะ เพื่อสู้กับโรคบาหวานและโรคไขมันในเลือดสูง เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นเดินลงมาจากห้องนอน เจอคุณแม่นั่งดูทีวีอยู่เหมือนเคย ผมเดินเข้าไปพูดกับคุณแม่ว่า “ผมจะเลิกดื่มเบียร์ เลิกดื่มเหล้า เลิกสูบบุหรี่แล้วนะ ผมจะออกกำลังกาย ผมจะลดน้ำหนัก นะครับแม่” คุณแม่ดูตกใจมาก พูดกับผมว่า “จริงเหรอ? ดีใจนะเนี่ย” ผมบอก “จริง ผมจะลดน้ำหนัก ควบคุมน้ำตาล เพื่อสู้กับไอสองโรคนี้” ที่มันมาเยี่ยมเยือนผม โดยที่ผมไม่ได้แจกการ์ดเชิญมันเลย หลังจากนั้นผมเริ่มควบคุมอาหาร ทานข้าวแต่มื้อเช้าและมื้อกลางวัน ขนม ของว่างระหว่างมื้อ น้ำหวาน น้ำอัดลม ผมเลิกหมด เหล้าเบียร์บุหรี่ ผมเลิกแบบหักดิบ ทิ้งอุปกรณ์ทั้งหมด คิดว่าถ้าไม่สูบแล้วมันจะตายก็ให้มันตายไป เพราะถ้าไม่เลิกสูบก็ต้องตายอยู่ดี ผมค่อยๆเริ่มออกกำลังกาย วันแรกเป็นอะไรที่ เหมือนตกนรกมาก ทรมานแบบสุดๆ ทั้งเหนื่อย ทั้งอยากสูบบุหรี่ ทั้งอยากดื่มเบียร์ หิวข้าวด้วย มันรุมเร้าผม จนผมเกือบท้อไปเหมือนกัน จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 02:27:58

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ผมสู้ตาย ผมนึกถึงคำพูดคุณแม่ผม นึกถึงหน้าตาคุณแม่ ตอนที่บอกว่าจะไปหาซื้อยาสมุนไพรที่เขา(เขาไหนก็ไม่รู้)บอกว่ากินแล้วดีกินแล้วหายมาให้ ผมฮึดเลยครับ นี่ผมเป็นคนยังไงกัน ทำไมถึงทำให้แม่ผมเครียดและกังวลใจได้ขนาดนี้ ที่ผ่านมาผมเคยนึกถึงใครบ้าง นอกจากตัวเอง คิดแต่จะทำตามใจตัวเอง  ปล่อยปะละเลยอะไรไปบ้าง ตาจะบอด ไตจะวาย เท้าจะเน่า ยังไม่สำนึก ผมสู้เลยครับ ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ถึง สองสัปดาห์ ทุกอย่างเริ่มค่อยๆดีขึ้น ตามลำดับ ผ่านไปหนึ่งเดือน ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ อาการอยากสูบหรี่ยังมีแต่ก็น้อยลง อาการอยากดื่มเบียร์ยังพอมีแต่ลดน้อยลง อาการเหนื่อย หอบเป็นสุนัขวิ่งไล่มอเตอร์ไซค์วิน ตอนที่ออกกำลังกายก็ดีขึ้น หอบน้อยลง อาการหิวข้าวตอนเย็นก็เริ่มชินมากขึ้น แต่ยังไม่เลิกทานกาแฟปั่นนะครับ เลิกไม่ได้จริงๆ ผมก็จะสั่งแบบหวานน้อยครับ น้อยๆมากๆ แทบจะไม่หวานเลยด้วยซ้ำไป น้ำหนักตัวลดฮวบลงอย่างไม่น่าเชื่อ ภายในหนึ่งเดือนแรก ลดไป 10 กิโลกรัม ทำเอาผมอึ้งและทึ้ง และเริ่มมีความสุขในการลดน้ำหนักมากขึ้นเพราะมันเห็นผล (มารู้ทีหลังนะครับว่าคนที่อ้วนมากๆน้ำหนักตัวเยอะๆ ถ้าเริ่มลดความอ้วนน้ำหนักตอนแรกจะลงไวมาก) ผมก็ทำมาเรื่อยครับ จนครบประมาณ สองเดือนครับ (ผมยังทานยาเบาหวานและยาลดไขมันอยู่นะครับ) ถึงเวลาคุณหมอนัด ผมไปพบตามนัดครับ คุณหมอก็ตรวจระดับ น้ำตาลครับ ปรากฏว่า น้ำตาล ลดลงมาเหลือ 99 ครับ ผมถึงกับอึ้ง ปนกับความดีใจ หมอบอกน้ำตาลดีนี่ ผมเลย ถามคุณหมอว่าผมไม่ต้องทานยาแล้วได้มั้ย คุณหมอบอกใจเย็นๆ เอาแบบนี้ กลับไปทานยาอีก 1 สัปดาห์แล้วมาพบหมออีกครั้งหนึ่ง ผมก็กลับบ้านมา ทำกิจวัตรการลดน้ำหนักของผมเหมือนเดิม ทานยาที่คุณหมอสั่ง 1 สัปดาห์ ผมกลับไปใหม่ คุณหมอตรวจน้ำตาล น้ำตาลเหลือ 94 ผมดีใจมากเลยครับ ขอคุณหมอเลิกทานยาอีก คุณหมอ เอ้า ลองดูแต่อย่าหายตัวไปไหนนะ ลองดูแค่ 1 สัปดาห์ ไม่ต้องทานยาดู แล้วกลับมาใหม่ ผมกลับมาบ้าน พร้อมกับทำกิจวัตรลดน้ำหนักของผมเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ไม่ต้องทานยาแล้ว ผมดีใจและมีกำลังใจขึ้นเยอะมากๆ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปผมไปพบคุณหมอตามนัด ใจก็ตุ๋มๆต่อมๆ ตรวจเลือดมา น้ำตาลอยู่ที่ 91 น้ำตาลสะสม อยู่ที่ 4.1 ไขมันในเลือดคุณหมอก็บอกว่าต่ำ แต่ผมจำไม่ได้ว่าเท่าไรบ้าง  คุณหมอบอกว่า ไม่ต้องทานยาแล้ว กลับไปไป๊ 555+ แต่ไม่ได้แปลว่าเราหายนะ คุณหมอขอ 1 เดือน กลับมาให้คุณหมอดูน้ำตาลใหม่ แต่ถ้าก่อนถึงวันนัดมีอาการอะไรผิดปกติต้องรีบมาหาคุณหมอนะ อย่าทิ้งไว้ มันอันตรายอยู่ โอ้โห..ผมดีใจแทบจะกระโดดหอมแก้มคุณหมอเลยครับ (แต่ไม่ได้ทำนะครับ 555+) ผมแค่ดีใจมากๆที่ได้ยินคำๆนี้ออกมาปากจากคุณหมอ ผมกลับมา ปฏิบัติ ภารกิจอันยิ่งใหญ่ของผมเหมือนเดิม โดยที่ไม่ได้ทานยาแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย อาการเหนื่อยง่ายเริ่มหายไป ออกกำลังได้มากขึ้น เผาผลาญได้เยอะขึ้น อาการอยากสูบบุหรี่และอยากดื่มเบียร์ หายไป อาจเป็นเพราะผมใจจดจ่ออยู่ที่การลดน้ำหนักด้วยล่ะมั้งครับ น้ำหนักตัวผมลดลงมาเรื่อยๆ ผ่านไป 1 เดือน ผมกลับไปพบคุณหมอตามนัด น้ำตาล อยู่ ที่ 93 แอบขยับขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ของระดับน้ำตาลของ คนปกติ คุณหมอเลยบอกผมว่าไม่ต้องทานยาแล้วล่ะ แต่ขอให้กลับมาพบคุณหมอ อีก 2 เดือนข้างหน้า ผมดีใจมาก ที่ผมไม่ต้องทานยาแล้ว ผมบอกกับคุณแม่ คุณแม่ผมดีใจใหญ่ ผมรู้สึก ภูมิใจ แล้วก็ดีใจ อย่างบอกไม่ถูก ผมปฏิบัติภารกิจลดน้ำหนักของผมต่อไป ตอนนี้คนรอบข้างทักผมแล้ว ว่าผมทำอะไรมา ผอมลงนะ แต่จะให้ดี ต้องลดอีก ผมก็บอกว่าผมกำลังทำอยู่ ผมลดน้ำหนักสู้กับเบาหวานและไขมันในเลือดอยู่ เวลาผ่านไปครบสองเดือน ถึงวันที่คุณหมอนัด ผมไปพบคุณหมอ ด้วยใจฮึกเหิม เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมหยุดทานยาไปประมาณ สองเดือน ปรากฏว่าผลน้ำตาล สะสมอยู่ที่ 4.7 (ขึ้นมาหน่อยครับ แต่คุณหมอบอกว่าดี ปกติคนที่เป็นเบาหวานคุณหมอจะให้คุมให้ไม่เกิน 6.0 ส่วนคนไม่เป็นเบาหวาน ให้อยู่ที่ไม่เกิน 5.0 ครับ) จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 02:28:18

ความคิดเห็นที่ 4 ไขมัน  LDL อยู่ที่ 160 ไขมัน HDL อยู่ที่ 55 ไตรกลีเซอไรด์ อยู่ที่ 75 คุณหมอบอกว่า LDL ค่อนข้างสูง แต่ว่าไม่ต้องใช้ยา ให้ออกกำลัง แล้วก็ไม่ทานของมันๆ ให้ผมลองดู คุณหมอนัดผมอีกครั้งก็อีก สองเดือนข้างหน้า  ซึ่งก็คือวันที่ 4 กรกฎาคมนี้  ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรบ้าง ผมจะมารายงานความคืบหน้าครับ ตอนแรกผมหนัก 120 กิโลกรัม หลังจากผ่านไป ประมาณ หกเดือนกว่าๆครับที่ผมภารกิจอันใหญ่ยิ่งครับ น้ำหนักผมเหลือ 77 กิโลกรัม อายุกำลังจะ 24 ครับ คนรอบข้างผมอึ้ง อย่าว่าแต่คนรอบข้างผมเลย ตัวผมเองผมยังอึ้งเลย แต่เป็นเพราะความตั้งใจครับ หัวใจล้วนๆครับ สู้ไม่ถอยครับ ออกกำลังกาย 6 วัน ต่อสัปดาห์ครับ ปัจจุบันนี้ ผมกลายเป็นคนติดการออกกำลังกายไปแล้วครับ (ไม่ติดดื่ม ทาน สูบ อีกแล้ว แห่ะๆ)  สูตรลดน้ำหนักของผม ง่ายมากๆครับ ทานอาหารมื้อเช้า ทานเต็มที่ แต่เบาแป้ง เบาข้าวครับ แต่ทานผักเยอะ แกงส้ม แกงเลียง ผัดผัก ผัดฟักทอง แกงจืดหัวไชท้าว แกงจืดมะระ ผัดขิงไก่ ผัดวุ้นเส้น สุกี้น้ำ  ปลานึ่ง ปลาเผา ผมจะทานอยู่ประมาณนี้ครับ ทานเยอะๆ เลยครับ ทานให้อิ่มสำหรับมื้อเช้าและมื้อกลางวัน ดื่มน้ำเปล่า  พอช่วงบ่าย ก็ดื่มกาแฟปั่นหวานน้อยๆๆ 1 แก้ว ครับ (เลิกไม่ได้เลยครับ จริงๆ)  พอตอนเย็นก็ออกกำลังกายครับ โปรแกรมออกกำลังกายของผมคือ วันจันทร์ พุธ และศุกร์ จะวิ่งลู่วิ่งกึ่งสเต็ปที่บ้านครับ วิ่งประมาณ 100 นาที แล้วแต่วันครับ  ส่วนวัน อังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ จะไปตีแบดครับ ประมาณ สามชั่วโมงครับ  วันอาทิตย์จะพักหนึ่งวัน แต่บางทีเดอะแก๊งค์ ว่างตรงกันก็โทรมาลากกันไปตีแบดครับ ข้าวมื้อเย็นไม่ทานนะครับ แต่ถ้าหิวมากจริงๆ ก็จะทานฝรั่งครับ ฝรั่งเท่านั้น ผลไม้อย่างอื่นทานไม่ได้เลยครับคุณหมอบอกว่าผลไม้มีน้ำตาลเยอะเหมือนกัน เช่น สัปปะรส ขนุน มะม่วง กล้วย แตงโม องุ่น ลิ้นจี่ ลำไย บลาๆๆๆ ทานฝรั่งจะดีที่สุดครับ นี่แหละครับสูตรการลดน้ำหนักของผม ไม่เห็นต้องพึ่งคอร์ส ลดความอ้วนคอร์ส ล่ะแพงๆ ไม่เห็นต้องพึ่งยาลดความอ้วน สัปดาห์ล่ะเป็นพันบาท แถมเสี่ยงด้วย พึ่งแค่ “เบาหวาน”โรคเดียวก็พอ เพราะถ้าไม่เป็นเบาหวาน ก็ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองสักทีครับ เห็นมั้ยครับ..ผมโชคดีขนาดไหนที่เป็น **เบาหวาน** ปอลิง ขณะที่ผมพิมพ์กระทู้นี้ ผมเพิ่งกลับมาจากตีแบตครับ กลับมาถึงบ้าน สี่ทุ่มกว่า นั่งพิมพ์กระทู้นี้เลย น้ำท่ายังไม่ได้อาบ ที่ผมพิมพ์กระทู้นี้ขึ้นมา เพราะเมื่อสองสามวันก่อน มีท่านสมาชิกท่านหนึ่งได้ตั้งกระทู้ ถามเกี่ยวกับว่าเพิ่งทราบว่าเป็นเบาหวาน แล้วไม่อยากทานยา ผมก็ได้ตอบกระทู้นั้นไป ว่าผมโชคดีที่เป็นเบาหวาน แล้วก็คิดว่า เดี๋ยวถ้ามีเวลาว่างจะพิมพ์กระทู้ อธิบายคำๆนั้น หวังว่าคุณเจ้าของกระทู้นั้นคงมาได้อ่านนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ถ้าเราตั้งใจ เราผ่านมันไปได้แน่ครับ อาจจะยากซักหน่อยในช่วงแรก แต่ถ้าผ่านไปได้แล้วเราจะมีความสุขมากๆครับ ไม่ใช่ได้แค่สุขภาพดีนะครับ ยังได้บุคลิกภาพที่ดีด้วยครับ (^_^) ผมกะเอาไว้ว่า จะลดน้ำหนักให้อยู่ที่ 70 กิโลกรัมครับ ขอเวลาอีกสักสองเดือน น่าจะบรรลุเป้าหมาย 55555+ จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 02:28:42

ความคิดเห็นที่ 5 โอ้ย..ใช้เวลาพิมพ์กระทู้นี้ ร่วมสี่ ชั่วโมงครับ มีแว่บๆดูทีวี กับไป ปั่นผ้าบ้างอะไรบ้างครับ ตีสองกว่าแล้ว อาบน้ำนอนดีกว่าครับ พรุ่งนี้มีงานนะเนี่ย ราตรีสวัสดิ์ครับ (^_^) จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 02:42:13

ความคิดเห็นที่ 6 ดีใจด้วยน้า จากคุณ : JointJoint เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 03:10:31

ความคิดเห็นที่ 7 คุณนี่สุดยอดจริงๆ ขอชมจากใจจริง โหวตให้ด้วยนะ จะเอารูปคุณไปอวดสามีที่เป็นเบาหวานมายี่สิบปีแล้วมั้ง ถ้าทำแบบคุณเขาจะมีโอกาสหายมั้ยนะ อยากให้เขาหายมากๆเลย เขาจะได้มีชีวิตปกติสุข ตัวเราเองก็ไม่ต้องลำบาก ที่ต้องดูแลเขา จากคุณ : ป้าแอ๋ว (ย่าครับ) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 03:28:28

ความคิดเห็นที่ 8 สุดยอดเลยครับ ก่อนที่จะให้คนอื่นดูแลต้องดูแลตัวเองก่อน โหวตไปเลย แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 04:00:57 จากคุณ : tudtudent เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 03:58:34

ความคิดเห็นที่ 9 ปล.เห็นรูปตอนแรกนึกว่าเชฟหมีครัวกาก 555 จากคุณ : tudtudent เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 04:07:41

ความคิดเห็นที่ 10 เริด ถ้าเป็นเพื่อนไม่เจอนานๆ คงจำไม่ได้เลย เห็นแล้วมีกำลังใจ ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ จากคุณ : alya เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 04:46:23

ความคิดเห็นที่ 11 หน้าตาดูเด็กลงมากเลยค่ะ ยินดีด้วยนะคะ จากคุณ : Piggy_Jiggy เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 06:29:19

ความคิดเห็นที่ 12 เก่งมากเลยหล่อขึ้นด้วย สู้ๆ จากคุณ : เขียนบน iPhone (nsdnaka) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 06:48:30

ความคิดเห็นที่ 13 เก่งมากๆ เลยค่ะ ^^ แล้ว น้ำตาลในเลือดโอเคแล้ว โอกาสหายขาดมีไหมคะเนี่ย จากคุณ : Sweetest Love เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 07:09:33

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆคุณก็หล่ออยู่นะเนี่ยะ แต่ดูรูปแรก หาความหล่อไม่เจอเล้ยยยย.... 55++ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 07:17:32

ความคิดเห็นที่ 15 ขอให้หายไวๆนะคะ คุณแม่น่ารักมาก อ่านแล้วน้ำตาซึมเลย จากคุณ : เขียนบน iPhone (anoomm) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 07:24:44

ความคิดเห็นที่ 16 สวดยวด จากคุณ : กระเบื้องแปดคูณแปด เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 08:06:59

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นกำลังใจให้ รักษาน้ำหนักให้คงที่ ตลอดไป เพื่อสุขภาพนะคะ อย่าได่ท้อเด็ดขาด. เพราะหลังๆน้ำหนักมันจะลดลงช้า เหมือนไม่ลดลงก็อย่าได้ท้อนะคะ จากคุณ : เขียนบน iPad (green coffee) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 08:14:43

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพแรกใส่นาฬิกามือซ้าย ภาพสองใส่นาฬิกามือขวา ปรกติเรื่องพวกนี้มันเป็นความเคยชินที่ไม่ค่อยมีใครเปลี่ยนกันนะครับ ไม่ได้จับผิดอะไรผมเองก็เป็นโรคที่ต้องลดน้ำหนักเช่นกัน แต่ยังทำไม่สำเร็จ บอกตามตรงเรื่องนี้ให้กำลังใจผมเยอะ ****เพิ่มเติม**** ผมดูไม่ดีเองว่าภาพที่สองถ่ายจากกระจกอีกที ขอโทษครับ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 13:27:25 จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 08:15:27

ความคิดเห็นที่ 19 ยินดีด้วยครับ ผมน้ำหนักน้อยกว่าคุณ 5kg เดือนแรกผมก็ลดมา 11kg เป้าหมายอีก 23kg จริงครับ ที่ในตอนแรกมันลดเร็วมาก อาจเป็นเพราคุณได้ทานยาลดไขมันติดต่อกันด้วย ทำให้เผาพลานได้ดี 2 อาทิตย์แรกผมลดไป 5-7 kg ส่วนอีก 2 อาทิตย์หลังเหลือ 4kg ทั้งที่ก็คุมเหมือนเดิม + ออกกำลังกายหนักกว่าเดิม อาจเพราะผมเล่นเวทด้วย มันเลยไปสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาแทน ส่วนต่างเลยน้อยลง จากคุณ : In Sky! Sky! Sky! เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 08:19:59

ความคิดเห็นที่ 20 นายแน่มากกกกก....... จากคุณ : sugar1 เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 08:20:21

ความคิดเห็นที่ 21 #18 ตอนแรกก็สังเกตแบบคุณนะ แต่พอดูดีๆ พบว่า รูปทางขวา จขกท ส่องกระจกแล้วถ่ายครับ รูปเลยกลับซ้าย-ขวา ป.ล. ผมว่าน้ำหนัก 77 กำลังดีนะ เล่นเวทเทรนนิ่งให้บึ้กขึ้นหน่อย แจ๋วเลย จากคุณ : JeZeus เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 08:28:12

ความคิดเห็นที่ 22 คุณแมงแกลบ ภาพขวาถ่ายจากกระจก มันก็เลยสลับซ้ายขวาครับ   แต่ผอมลงแล้วหล่อขึ้นเยอะเลย จากคุณ : tudtudent เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 08:32:21

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพแรก ใส้สร้อยทอง ภาพสอง ไม่มีสร้อย สงสัย ขายสร้อย ไปรักษาเบาหวาน อิอิ จากคุณ : valdez (tornnagin) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 08:38:55

ความคิดเห็นที่ 24 ผอมลง ขาวขึ้น หล่อขึ้น ... เก่งมากถ้าทำได้ขนาดนี้ จากคุณ : น้องสาวพ่อมด เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 08:45:04

ความคิดเห็นที่ 25 น่าจะขึ้นหัวข้อว่า "กระทู้คืนชีพ" มากกว่านะคะ จากคุณ : นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:00:00

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณทุกๆความเห็นที่ให้กำลังใจและคำชมเลยนะครับ (^_^) ความเห็นที่ 7 ถ้าทำได้ ลดน้ำหนักได้ ควบคุมน้ำตาลอยู่ในระดับปกติก็ได้ ก็ โอเค ครับ หายมั้ยคงไม่หายครับถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นแล้ว ไม่หายขาดครับ แต่ควบคุมได้ ผมเองก็ไม่ได้หายขาดครับ ต้องคุมตลอด ความเห็นที่ 21และ22 ขอบคุณมากครับที่อธิบายให้คุณแมงแกลบ เข้าใจ 555+ ความเห็นที่ 23 สร้อยยังใส่อยู่ครับ แต่เสื้อมันบังครับ ไกลด้วยเลยมองไม่เห็น 555 ผมรักษาเบาหวาน ไม่ได้เสียเงินเสียทองเลยนะครับบบ อิอิ ทุกวันนี้เลิกดื่มเบียร์ เลิกสูบเงินบุหรี่ เงินที่เหลือ เอาไปซื้อเสื้อผ้าหมดเลยครับ ฮ่าๆๆๆๆ ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกๆคนมากๆ ครับ (^___^) จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:03:49

ความคิดเห็นที่ 27 ความเห็นที่ 25 พลีชีพ..แล้วฟื้นคืนชีพ 5555+ (^_^) จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:07:08

ความคิดเห็นที่ 28 เก่งมากๆ จากคุณ : กลางคืนวัยทีน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:12:13

ความคิดเห็นที่ 29 น่ารักมากเลยอ่ะ ยังกับคนละคน ขอดูรูป ก่อนและหลังลด  เยอะๆนะคะ จากคุณ : กำลังลด นน. เหมือนกัน (หนูอยากเป็นเชฟ) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:13:26

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามายกนิ้วให้ สุดยอดจริงๆ จากคุณ : ผ่านมา (pasad) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:14:07

ความคิดเห็นที่ 31 เก่งมากเลยค่ะ เพื่อสุขภาพเราเองเนอะ แถมพ่วงความหล่อเพิ่มมาอีก ^^ จากคุณ : KhuenChayOA เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:20:49

ความคิดเห็นที่ 32 ว้าวๆ เก่งจังเลยอะค่าาาา... งื้ดๆ อยากมีความตั้งใจลดนน.ได้แบบนี้มั่งจัง - -" ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์นะคะ เห็นภาพชัดเจนเลยทีเดียว ... จากคุณ : Spirited A's way เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:20:54

ความคิดเห็นที่ 33 สุดยอดมากเลยค่ะ ยกนิ้วให้เลย ^_^ จากคุณ : หนูหิ่น อินเตอร์ฯ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:30:53

ความคิดเห็นที่ 34 น้ำหนักผมไม่ค่อยลงอ่ะ ก่อนรักษาเบาหวานอยู่ที่ 95 ตอนนี้รักษามาสองเดือนอยู่ที่ 89 น้ำตาลเกือบ 300 เหลือ 140 เป็นเบาหวานจากกรรมพันธ์และพฤติกรรม เรื่องน้ำหนักทำใจแล้ว เพราะเมื่อ 6-7 ปีก่อนที่ออกกำลังกายแทบตายมา 2 ปีน้ำหนักยังได้แค่ 80 เอง จากคุณ : sourire เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:32:35

ความคิดเห็นที่ 35 So cool เลยค่ะ ! ขอบคุณเรื่องราวที่มาแบ่งปันนะคะ ดูดีขึ้นมากๆ เลยจ้า จากคุณ : Terabithia เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:35:46

ความคิดเห็นที่ 36 สุดยอดมากๆเลยค่ะ นับถือความตั้งใจ อยู่ที่ใจจริงๆชนะได้หมดเลย เก่งมากๆค่ะ หล่อเหมือนกันนะคะเนี่ย จากคุณ : indyallday เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:44:42

ความคิดเห็นที่ 37 โหววววววววววววววว เปิดรูปมาอึ้งมากค่ะ เหมือนคนละคนอะ จขกท.เก่งมากๆ สุดยอดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : ฟ้าไม่ให้มีรัก เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:45:46

ความคิดเห็นที่ 38 เก่งมาเลยค่ะ รูปเปิด รูปก่อนนี้เรานึกว่า 30 กว่าๆ แต่รูปหลังนี้ บอก 17 ยังเชื่อ จากคุณ : ohhioh เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 09:55:48

ความคิดเห็นที่ 39 ลดน้ำหนักมากๆ มีปัญหาเรื่องหนังย้วยมั๊ยครับ จากคุณ : abright เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 10:07:02

ความคิดเห็นที่ 40 เอ่อ  .. จากรูปนึกว่าคนละคนกันเลยนะครับ  สุดยอดดดดดดดดดด จากคุณ : mung_emo_reborn เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 10:09:27

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นรูปแล้วไม่อยากเชื่อว่าคนเดียวกันจริงเหรอ O_O สุดยอดมากค่ะ จากคุณ : Bonza-lily (Bonza-lily) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 10:23:47

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่ได้อยากจับผิด แต่  แหมมมม รูปมันดูเป็นคนละคนเลยนะเนี่ย o_O!! ไม่น่าเชื่อว่า น้ำหนัก 40-50 โล จะทำให้คนดูเด็กลงได้เกือบ 20 ปี  ^ ^ อยากให้คนที่บ้านเป็นอย่างนี้มั่ง เอาแต่หาตัวช่วย ไม่ยอมช่วยเหลือตัวเองเล้ย เฮ้อออออ จากคุณ : bejinpao เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 10:30:17

ความคิดเห็นที่ 43 ลดได้เยอะขนาดนี้...ผิวหนังเป็นอย่างไรบ้างครับ ย้วยบ้างหรือเปล่าครับ สงสัยมาก จากคุณ : อาแปะมีพุง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 10:35:16

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนนี้พี่ก็กำลังลดน้ำหนักอยู่ และสาเหตุที่ลดก็เหมือนน้อง แต่ของพี่เป็นช่วงเริ่มต้น คือเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดนคุณแม่ที่รักษาสุขภาพตัวเองดีมาก ไปไหนมีแต่คนนึกว่าเป็นพี่น้องกัน แม่ลากพี่ไปตรวจเลือด (ลากจริงจริงนะ) เพราะแกคงทนเห็นพี่ใส่ทุกอย่างที่อร่อยเข้าปากไม่ได้ แน่นอนว่าของอร่อยส่วนมากจะไม่ดีต่อสุขภาพใช่ป่ะ โดยเฉพาะเป็ปซี่ ้เหมือนเป็นฝาแฝดกัน อยู่ติดตัวตลอด ช่วงน้ำท่วมที่น้องซี่หายไปแทบจะลงแดงตาย ผลที่ออกมาแต่น แตน แต๊น  หมอบอกว่าคุณเป็นเบาหวานนะครับ น้ำตาลสูง 149 (คนปกติให้สูงได้ไม่เกิน 115) แถมด้วยโรคความดันทุรังสูง 160/100 แต่เบาหวานพี่เป็นช่วงเริ่มต้น หมอบอกให้ลองคุมอาหาร และลดน้ำหนักดู ยังไม่ให้ยา อีก 1 เดือนมาตรวจใหม่ ถ้าไม่ลงจะจับกินยาแล้ว แต่ความดันต้องกินยา   หลังจากนั้นมา แม่พี่ก็เหมือนแม่น้องเลย (หัวอกคนเป็นแม่) ทั้งพูด ทั้งสรรหา โอ้ยสารพัดที่แกจะหว่านล้อม จนเรารู้สึกว่าแม่เป็นเดือดเป็นร้อนมากกว่าเราอีก แถมยังใช้จุดอ่อนของพี่ว่า "ไม่อยากอยู่กับลูกแกนานนานรึไง ลูกแกยังเล็กนะ" ทั้งที่เมื่อก่อนแกก็เตือน แต่ก็เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาไปเลย ตอนนี้พี่ใช้วิธีการลดน้ำหนักแบบน้อง คือคุมอาหาร ออกกำลังกาย แต่ไม่หนักเท่าน้องนะ น้ำหนักก็ลดลงมาแล้วแต่ยังไม่มาก แค่ 3 กก. เอง แต่่จะทำไปเรื่อย ๆ  สู้ สู้ จากคุณ : กานดาริมคลอง (กานดาริมคลอง) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 10:37:38

ความคิดเห็นที่ 45 เหyดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : Pollutor เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 10:39:00

ความคิดเห็นที่ 46 เป็นกำลังใจให้นะคะ จิตใจเข้มแข็งดีมากๆๆๆๆๆๆ สู้ต่อไปค่ะ ปล.ผอมลงดูหล่อขึ้นค่ะ จากคุณ : เทียนสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 10:47:50

ความคิดเห็นที่ 47 สุดยอดมากๆครับ จากคุณ : Pita เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 10:56:51

ความคิดเห็นที่ 48 เก่งมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ นับถือสุดๆ ผอมลงแล้วหน้าเด็กลงมากกกกกกกกกกก :) จากคุณ : Girl_of_Monsterteam เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 10:58:47

ความคิดเห็นที่ 49 โอ้โห ถ้าคนไข้ทุกคนเป็นอย่างคุณเนี่ยนะ จากคุณ : zenario เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 11:05:48

ความคิดเห็นที่ 50 สุดยอดดดด มาก ดูดีขึ้น หลายเลเวล จากคุณ : cheerful_love เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 11:07:01

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นรูปแล้วไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ ว่าเป็นคนเดียวกัน สุดยอดมาก ๆ ครับ ปล.อย่ากลับไปอยู่ในร่าง 120 กิโลนะครับ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 14:35:52 จากคุณ : คนมีตังค์ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 11:07:47

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณทุกกำลังใจทุกๆความคิดเห็นครับ แจกกิฟให้ทุกท่านเลยครับ แทนการขอบคุณ ความเห็นที่ 34 สู่ต่อไปนะครับ อย่าท้อ น้ำหนักไม่ลง หรือลงช้าก็ไม่เป็นไร ขอให้น้ำตาลอย่าเกินแล้วกันเนอะ (^_^) ความเห็นที่ 39 และ 43 ผิวหนังก็ปกติครับ มีรอยแตกตรงพุงกะทิ แต่มันเป็นรอยแตกตั้งแต่ตอนอ้วนๆแล้วอ่ะครับ ความเห็นที่ 44 สู้ๆครับ เรื่องน้ำหนักจะลงยากสักนิดก็ขอให้สู้ครับ นึกถึงคุณแม่ และน้องตัวเล็กๆไว้ครับ เราต้องอยู่ดูแลเค้าครับ (^_^) สำหรับท่านที่บอกว่าเหมือนคนละคน ไม่อยากจะเชื่อ ผมไม่แปลกใจเลยครับ 555+ เพราะคนที่เห็นหน้าผมทุกวัน คือคุณแม่ของผม กลับมาดูรูปเก่าๆอีกครั้ง ก็ยังบอกว่า "ไอคนอ้วนๆนั่นใคร..เหมือนคนจมน้ำตายมาสามวันแล้วเพิ่งเจอศพอ่ะ" 555555+ (^_^) จัดรูปที่ถ่ายในวันเดียวกันตอนนั้นให้ดูอีกซักรูปครับ แบบไม่ใส่แว่นอำพรางเลยครับ พลีชีพ สุดฤทธิ์ ไม่แคร์สื่อแล้วครับ (เพราะสื่อไม่เคยแคร์เรา 5555555+) อ่อ..อันนี้เล่าให้ฟังนอกเรื่องนิดนึงครับ ผมเคยสมัครโครงการ "เป๊ะ" ด้วยครับ ของกาแฟแก้วสีเหลืองๆอะครับ สมัครตอน โครงการปีที่ สอง ครับ ตอนกรอกประวัตื สมัครผ่านอินเตอร์เน็ต เค้าให้ใส่รูปไปด้วย ผมเลือกส่งรูปนี้ไปเลยครับ แต่ปรากฎว่า เค้าไม่รับ 555555+ ผมเลยไม่ง้อ..แอบงอล เช๊อะๆ รูปนี้ถ่ายเดือนกรกฎาคม ปี 2554 ครับ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 11:22:38 จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 11:15:50

ความคิดเห็นที่ 53 จขกท เก่งจังคะ เราจะลด แค่ 5 โล ยังแทบตาย ทุกวันนี้ยังไม่ค่อยจะขยับลงเล้ยยย สงสัยต้องหาแรงบันดาลใจบ้างแระ กีปหมด ติดไว้ก่อนน่ะคะ อิอิ จากคุณ : รู้น่ะว่าแอบชอบ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 11:44:29

ความคิดเห็นที่ 54 จขกท สุดยอดครับ ผมจะลดบ้างทำบ้างแล้วครับ จากคุณ : AmericanAlternative เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 11:45:35

ความคิดเห็นที่ 55 เป็นกระทู้แรกที่ยาวมาก ๆ แต่อ่านทุกตัวอักษร เห็นความตั้งใจของคุณแล้วปลื้มแทนคุณแม่และตัวคุณเองเลยค่ะ^^ เราเป็นคนผอม ระบบเผาผลาญดี กลัวอยู่เหมือนกันวาจะเป็นโรคอะไรเข้าสักวัน เพราะกินไม่ได้ห่วงอวัยวะภายในเอาซะเลย-_-'' ขอบคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์นะคะ เอาไว้เราจะลุกขึ้นมารักสุขภาพบ้างจะได้ทำตามอย่างจขกท. ^^ จากคุณ : แมลงสาบเทวีราชินีกะจั๊ว เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 11:47:12

ความคิดเห็นที่ 56 เก่งมาก สู้ต่อไปค่ะ จากคุณ : ชฎาแหลม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 11:50:22

ความคิดเห็นที่ 57 เราเป็นคอเรสเตอรอลค่ะ กินแต่ของต้องห้าม ไม่เชิงอ้วนนะคะ เรียกว่าไม่ผอมไม่อ้วน แต่ไขมันปาไป311 ตอนนี้เรากินยาลดค่ะ แต่พอรู้ว่าเป็น ก็เลยไปเข้าฟิตเนส ตอนนี้ทำได้แค่สามวัน ออกกำลังกายประมาณชม.นึง ตอนแรกเราออกกำลังกานแค่สิบนาทีก็แย่แล้ว คนมันไม่เคยออกกำลังกายเลยนี่นา นน.ลดไปแค่ 0.5 กก. ในเดือนแรก เพราะเราไม่ได้คิดจะลดนน. แต่ที่เรารู้สึกคือ ขาแข็งแรงขึ้น จากการวิ่งในลู่ครั้งละสามสิบนาทีก่อนไปเข้าคลาสหรือเล่นกีฬาตัวอื่น สู้ๆนะคะ เราก็อยากเลิกกินยาคอเลสเตอรอลเหมือนกัน จากคุณ : ไกลนั้น เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 12:10:23

ความคิดเห็นที่ 58 ผม 77 อยากเหลือซัก 65 แงๆๆๆ ตัวไม่อ้วนแต่พุงกาง จากคุณ : หว่างฮั่น2011 เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 12:16:45

ความคิดเห็นที่ 59 ดูรูปแล้วนึกว่าคนละคนกันจริง ๆ ค่ะ ดีใจด้วยค่ะ ที่เอาชนะใจตัวเอง และเอาชนะโรคภัยได้ ค่ะ จากคุณ : Ratchanapa เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 12:19:52

ความคิดเห็นที่ 60 กำลังฮึดลดน้ำหนักอยู่พอดี สร้างกำลังใจได้ดีเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Jemie_A เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 12:32:24

ความคิดเห็นที่ 61 สุดยอดเลยค่ะ กับความมุ่งมั่น อ่านทุกตัวอักษรเลย สู้ต่อไปนะคะ จากคุณ : mylllsoul เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 12:36:43

ความคิดเห็นที่ 62 ขอชื่นชมด้วยครับ น่านำไปเป็นตัวอย่างให้คนไข้เบาหวานที่ยังควบคุมไม่ได้ จากคุณ : Kho-D เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 12:37:11

ความคิดเห็นที่ 63 สุดยอดมากๆๆๆๆ ผอมแล้วขาวขึ้น น่ารักเลยอ๊า ^^ จากคุณ : อยากผอมบ้าง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 12:54:16 A:202.60.203.182 X: TicketID:362522

ความคิดเห็นที่ 64 ว้าวๆๆ เก่งมากจ้า จากคุณ : กลางคืนวัยทีน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 12:56:53

ความคิดเห็นที่ 65 สุดยอดเลยค่า จากคุณ : bassgirl เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 12:58:53

ความคิดเห็นที่ 66 ซวดยวด เลยค่ะ เรา 93 อยากลดเหมือนกัน ตอนนี้กินยาลดไขมันอยู่ ตอนไปหาหมอหมอบอก อีก 2 เดือน ให้ตรวจเลือดหาเบาหวานอีกรอบ เพราะว่าก่อนหน้านั้น ตรวจหลายรอบแล้ว เหมือนว่าค่ารวมมันจะเกิน ถ้าเกินอีก  คงได้กินยา แน่ ๆๆ เฮ้อ ... เหลืออีก 2 อาทิตย์ต้องไปหาหมอแล้ว สามารถลด นน ได้สัก 5 โล มั้ยเนี่ย ปอลิง...  ลดแล้วหน้าตาดีมาก...อิอิ จากคุณ : พิม-ฮยอง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 12:59:35

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณที่ทำให้มีกำลังใจสำหรับคนอยากลดน้ำหนักนะคะ ^^ จากคุณ : net_kung เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 13:26:17

ความคิดเห็นที่ 68 กระทู้นี้ดราม่ามากก อ่านแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอะคะ งง..........งง สงสัยปลื้มกับความตั้งใจของจขกท. คิดบวก ชีวิตก็เป็นบวกคะ ^___________^ จากคุณ : น้องนู๋ GaZib เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 13:32:23

ความคิดเห็นที่ 69 นน.ลดแล้ว หล่อมากเลยคุณน้อง จากคุณ : Super เมีย เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 13:52:25

ความคิดเห็นที่ 70 คุณเก่งมากเลย ทึ่งง.. อยากเห็นภาพปัจจุบันอีกค่ะ จะได้สร้างแรงบันดาลใจ จากคุณ : tipjung เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:01:13

ความคิดเห็นที่ 71 ชนะตัวเอง สุดยอดที่สุดแล้วครับ เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเลยครับ จขกท สุดยอด จากคุณ : หลังโรง (หลังโรง) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:05:21

ความคิดเห็นที่ 72 สุดยอด เก่งมากค่ะ ปล ลด นน.แล้วหล่อมากจ้ะ :D จากคุณ : PAPA BUENO เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:07:36

ความคิดเห็นที่ 73 อ่านจบแค่กระทู้ตั้งต้น แล้วอยากตั้งหัวข้อใหม่ว่า "โชคยังดีที่เป็นแค่เบาหวาน" อะค่ะ เดี๋ยวกลับไปอ่านวิธีการลดต่อ ปล.คนที่ตั้งใจลดน้ำหนักจริงๆจังๆ มีกจะได้ผลลัพธ์ที่ดีทุกคนเลย จขกท.เก่งมากค่ะ จากคุณ : penn_peno เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:11:22

ความคิดเห็นที่ 74 รูปตอน 23 เหมือนอายุ 30 กว่า พอลดนน.แล้วเหมือนอายุ 18 อ้ะ ผิวพรรณดีขึ้นด้วยนะ คุณเก่งมาก เจ้าของกระทู้ จากคุณ : กลมเป็นหมูแต่ก็ยังดูน่ารัก เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:12:47

ความคิดเห็นที่ 75 เก่งมากเลยค่ะ อยากทำได้บ้างจัง จากคุณ : Love in the mist เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:14:20

ความคิดเห็นที่ 76 อยากเห็นภาพปัจจุบันอีกหลายๆรูปอ่ะค่ะ จขกท.เก่งมากๆเลยค่ะ จากคุณ : farmville เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:16:33

ความคิดเห็นที่ 77 เจ้าของกระทู้สุดยอดเลยค่ะ เหมือนเป็นคนละคนเลย อยากเห็นรูปตอนผอมชัดๆ อีกจัง จะได้เป็นแรงบันดาลใจ จากคุณ : ซากุระเมืองไทย เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:31:59

ความคิดเห็นที่ 78 เก่งมาก เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : ai_chun เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:33:46

ความคิดเห็นที่ 79 มาปรบมือให้กับ จขกท คะ เก่งมากเลย.. เปลี่ยนเป็นคนละคนอีกอย่างดูดีขึ้นด้วยๆ ^^ จากคุณ : Lilleeสีม่วง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:36:00

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณจขกท.ที่เขียนกระทู้ดีๆขึ้นมา ถ้าคนเป็นเบาหวานได้มาอ่านกท.นี้ทุกคน ก็คงดีไม่น้อย ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อผู้ป่วยเท่าไหร่นะ เวลาน้ำตาลออกมาดี ผมจะคิดว่าเป็นจากยา ดังนั้นเมื่อคนไข้ขอหยุดยา ผมก็จะห้าม บอกว่าที่น้ำตาลดีได้เพราะยา ห้ามหยุด ถึงแม้จะรู้ว่าการรักษาเบาหวานที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพแบบที่จขกท.ทำ แต่ก็ไม่เคยเชื่อว่าจะมีคนทำได้จนไม่ต้องพึ่งยา ยิ่งเป็นเยอะแบบจขกท.ตอนแรกที่น้ำตาลเกือบสี่ร้อย มาเห็นผู้ป่วยที่ตั้งใจจริงแบบจขกท.นี่แหละ ถึงได้มั่นใจว่าการรักษาที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพจริงๆ ไม่ใช่ยา อย่างไรก็ตามอย่าชะล่าใจนะครับ โรคแทรกซ้อนจากเบาหวานเกิดจากสองอย่างครับ หนึ่งระยะเวลาที่เป็น ซึ่งผู้ป่วยคงไปทำอะไรไม่ได้ ยิ่งจขกท.อายุน้อยต้องอยู่กับมันไปอีกนานครับ สองคือระดับน้ำตาลที่สูง อันนี้รู้ได้คือต้องเจาะเลือดครับ ถึงจขกท.จะไม่ได้ทานยาแล้ว ก็ต้องเจาะเลือดประจำนะครับ อาจซื้อเครื่องวัดน้ำตาลแบบเจาะนิ้วมาตรวจเองก็ได้ ถ้าไม่อยากไปรอคิวพบแพทย์ ยังไงช่วงนี้เงินเก็บที่ไม่ทานเหล้าและสูบบุหรี่คงเหลือเยอะ ลองซื้อมาใช้ก็ดีนะครับ ตัวเครื่องไม่แพง สี่ถึงห้าพันก็คงได้มั๊งครับ แต่จะแพงแถบที่ใช้แล้วทิ้ง แต่ก็อันละยี่สิบสามสิบมั๊งครับ ตรวจอาทิตย์ละครั้งก็ดี เจาะปลายนิ้ว (เช็ด alcohol ก่อนนะ) หลังตื่นขึ้นมา (อดข้าวและน้ำประมาณแปดชั่วโมง) ควบคุมระดับน้ำตาลไม่เกินช่วง 100-110 ก็จะดีมากเลยครับ สู้ต่อไปนะครับ จากคุณ : mk096 เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:49:40

ความคิดเห็นที่ 81 สุดยอด จากคุณ : เฟรินเดอเบอโรว์ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:51:02

ความคิดเห็นที่ 82 จขกท เก่งมากๆ ค่ะ ที่ชื่นชมเลยคือ จขกท คิดถึงคุณแม่ไว้มากๆ ว่าถ้าเราเป็นอะไรไปแล้วคุณแม่จะเสียใจขนาดไหนเลยมีแรงฮึดสู้ และทำได้ขนาดนี้เก่งมากๆ ค่ะ ขอปรบมือให้เลย จากคุณ : may_ling เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 14:51:13

ความคิดเห็นที่ 83 อ้ายหย่า........คนเดียวกันหรอเนี่ย จากคุณ : นางแมวเหมียวซ่า เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 15:01:16

ความคิดเห็นที่ 84 ยินดีกับ จขกท ด้วยนะครับ เก่งมากๆที่สามารถลดได้ขนาดนี้ คนส่วนใหญ่ลดไม่ได้ เพราะห้ามปากตัวเองไม่อยู่ เลยกินมากเกินไป และขี้เกียจออกกำลังกาย (รวมทั้งผมด้วย) แต่ผมขอแย้งเรื่องการกินหน่อยครับ เท่าที่อ่านดูปริมาณอาหารที่คุณกินต่อวัน ค่อนข้างน้อยมากเลยครับ เคยได้ลองนับแคลคร่าวๆใหมครับว่าวันหนึ่งกินไปกี่แคล และควรเฉลี่ยจากมื้อเช้าไปมื้อเที่ยงกับเย็นบ้าง ส่วนเรื่องอื่นๆคุณทำได้สุดยอดมากครับ --------------------- แก้ไขที่ถามเรื่องออกกำลังกาย ผมอ่านไม่ดีเอง กลับไปอ่านอีกทีได้ข้อมูลครบถ้วน แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 15:11:57 แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 15:09:57 จากคุณ : น้องปออ้วน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 15:05:20

ความคิดเห็นที่ 85 สุดยอดค่ะ^^ จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 15:21:42

ความคิดเห็นที่ 86 ขออนุญาตเอาไปให้หลานชายน้าอ่านน่ะค่ะ เค้าตัวเท่าหนู อายุก็พอกัน กะหนูตอนอ้วนเลย น่ารักมากค่ะ มาเป็นอีกหนึ่งแรงใจ.... น้ากลัวเค้าไม่คลิกในจออ่านเพราะมันเยอะ น้าใช้วิธี ก๊อปแปะไปทีละพารากราฟ ไล่ไปด้วย ใส่หน้ากระทู้ด้วย ชัดๆ เลย เวลาคนใกล้ตัว คุณแม่คุณพ่อ พูด เค้าอาจจะนึกว่าขี้บ่นน่ารำคาญ แต่หนูน่ารัากกกกกกก ที่สุด ขอบพระคุณมากค่ะ จากคุณ : ขอพิมพ์ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 15:23:23

ความคิดเห็นที่ 87 เจ๋งจริง  ขอบคุณค่ะ ตอนนน.เยอะ + วิถีชีวิตช่วงนั้น มันทำให้ดูแก่กว่าวัยด้วยอ่ะเนาะ พอลดแล้วกลับมาเป็นวัยรุ่น ใหม่เลย แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 15:38:36 แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 15:37:16 จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 15:35:42

ความคิดเห็นที่ 88 สุดยอดค่ะ สู้ๆ ต่อไปนะคะ ยังหล่อและแข็งแรงได้อีกเยอะ คุณมาถูกทางแระค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 15:57:46 จากคุณ : viewdevilz เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 15:57:27

ความคิดเห็นที่ 89 เก่งมากๆๆๆ คร๊า ขอให้หายไวๆ น๊าคร๊า^^ จากคุณ : คุณน่ารักจัง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 16:04:22

ความคิดเห็นที่ 90 โอ้  เก่งมากๆเลยค่ะ  เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย  สุดยอดดด จากคุณ : แม่ค้าหน้าหวาน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 16:19:01

ความคิดเห็นที่ 91 เก่งมากครับ ขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะครับ   และคุณเองก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมด้วยเช่นกันล่ะ โชคดีนนะครับ จากคุณ : tosamart เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 16:35:33

ความคิดเห็นที่ 92 เยี่ยม มันอยู่ที่ตัวคุณอ่ะ คุณเป็นคนดี คุณรักแม่คุณ เห็นแม่คุณเป็นกังวล ก็พยายามจะให้แม่สบายใจไม่เครียด ทุกอย่างคือคุณเป็นคนดีอ่ะ จากคุณ : jeeper เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 16:42:05

ความคิดเห็นที่ 93 Likeซะ5ล้านทีเก่งมากดูดีขึ้นทั้งร่างกายและสุขภาพแน่นอน เราจะต้องทำให้ได้บ้าง สู้ๆ จากคุณ : Manee_Jung เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 17:02:33

ความคิดเห็นที่ 94 ดูในรูปนี่แบบ เห้ยยย คนเดียวกันจริงๆ เหรอเนี่ย? นับถือใจคุณจริงๆ อะ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 17:02:40

ความคิดเห็นที่ 95 สุดยอดค่ะ   หน้าตาตอนลดแล้ว เด็กมาก ๆ จากคุณ : ลีอองกา เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 17:12:43

ความคิดเห็นที่ 96 หล่อขึ้นเยอะเลยคร๊า >///< จากคุณ : นู๋น้ำค้าง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 18:53:13

ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณทุกความเห็น ทุกๆกำลังใจ ทุกๆคำชม และทุกๆคำแนะนำครับ (เพิ่งกลับถึงบ้าน..เปิดกระทู้มาตกใจเลยครับ555+) ผมดีใจมาก ที่ได้เป็นแรงบันดาลใจ ให้ท่านอื่นๆ ที่ป่วย หรือ น้ำหนักตัวเยอะ ดีใจมากๆ ตื้นตันอะครับ (โอ้วว..T_T) ความเห็นที่ 80 คงเป็นคุณหมอใช่มั้ยครับ (^_^) ผมไม่ได้ซื้อเครื่องมาเจาะเองที่บ้านอะครับ  ตอนนี้ผมเจาะ 2 เดือน 1 ครั้ง ที่โรงพยาบาลครับ คุณหมอนัดต่อเนื่องตลอด ผมไปตามนัดตลอดครับ ความเห็นที่ 84 ผมทานวันละสองมื้อครับ เช้า และ กลางวัน  บ่ายมีกาแฟฟั่นด้วย เย็น ถ้าหิวก็มีฝรั่งด้วยครับ  ทานจนอิ่มเลยครับ คือผมจะทานกับเยอะ (มาก) แต่ทานข้าวน้อยอะครับ แต่อย่างที่บอก ทานแค่มื้อหลัก สองมื้อนี้เท่านั้น ไม่ทานอะไรระหว่างมื้ออะครับ (^_^) จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 19:16:15

ความคิดเห็นที่ 98 เห็นรูปแล้ว เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยนะคะ ขอชื่นชมด้วยอีกคนค่ะ จากคุณ : Kzybear เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 20:08:00

ความคิดเห็นที่ 99 สุดยอดมาก ๆครับ พี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเลยนะนี่ ^_^ จากคุณ : เขียนบน iPhone (SaiNoGO) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 20:08:33

ความคิดเห็นที่ 100 แห่ะๆ อันนี้สำหรับคนที่บอกว่าขอดูรูปหลังลดอีก ผมขอลงหนึ่งรูปแบบหน้าใกล้ๆ ถ่ายที่บ้านเมื่อต่ะกี้นี้ครับ จะถ่ายทั้งตัวแบบรูปเสื้อสีดำที่บ้านก็ไม่มีกระจกบานใหญ่แบบในห้าง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจครับ (^_^) อ่อ ไอรูปเสื้อสีดำนั่นที่เห็นว่าขาวอาจเป็นเพราะแสงไฟในห้องน้ำนั้นสวยนะครับ 55555+ ถ้าแสงที่บ้านจะเป็นแบบนี้ครับ จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 20:16:05

ความคิดเห็นที่ 101 ชื่นชมในความตั้งใจ จริงจังของจขกท.มากค่ะ  คุณทำได้เยี่ยมยอดจริงๆ ต้องฮึดบ้างแล้วสิน่ะเรา ^ ^ จากคุณ : Paracrine เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 21:24:38

ความคิดเห็นที่ 102 ลดน้ำหนัก นี่ลดอายุ ไปหลายปีเลยนะคะ เห็นหลายคนหละ พอน้ำหนักลด หน้าก้อเด็กไปด้วยเลยอ่ะ จากคุณ : ย้งยี้ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 21:29:41

ความคิดเห็นที่ 103 เราตามมาจากโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ เป็นคนที่ลดน้ำหนักได้เหมือนกันค่ะ เราลดจาก 83 โลเหลือ 53 ค่ะ ........สาเหตุอาจจะแปลกๆหน่อยเราเริ่มลดน้ำหนักเพราะเราอยากหาชุดใส่ให้ได้ค่ะ เพราะสาวๆถ้าอ้วนมากๆจะหาชุดใส่ยากมากค่ะ ไปไหนก็จะมีคนพูดว่าทำไมอ้วน ไม่สวยเหมือนแม่เลย เราเลยรู้สึกแย่ค่ะ .......แต่เด่วนี้พอหุ่นดี ก็จะรู้สึกไม่มีคนมาพูดแย่ๆแล้ว เลยรู้สึกดีแล้วค่ะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังลดน้ำหนักอยุ่นะค้า เพราะถ้าลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีไม่มีทางโยโย่แน่นอนค่ะ เรารับประกัน จากคุณ : นางพญาผึ้ง (pyp159) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 21:34:39

ความคิดเห็นที่ 104 ช่วยค่ะ เราว่า คนเดียวกันนะ หุหุ จากคุณ : นางสาวบี นามสมมติ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 21:44:26

ความคิดเห็นที่ 105 ขอเป็นกำลังใจให้ครับ คนไข้แถวๆ รพ.ที่ผมทำงานอยู่ น้อยคนนักที่จะควบคุมให้ Hb A1C หรือน้ำตาลสะสมน้อยกว่า 6.0 ได้.. มีแต่ 8.0 ขึ้นไป บางคนทะลุไป 14 ก็มี.. แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 22:00:22 จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 21:55:24

ความคิดเห็นที่ 106 ฮึดๆ สู้ๆ ๆ กันนะครับ ทุกๆคนคือกำลังใจของผม ขอบคุณทุกความเห็นครับ ขอบคุณสาวที่มาจากห้องแป้งครับ ผอมแล้วเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งครับ จริงๆ (^_^) จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 21:58:56

ความคิดเห็นที่ 107 ความเห็น 105 ครับผม ผมตั้งไว้เป็นคำเปรียบเปรยน่ะครับ (^_^) จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 22:00:12

ความคิดเห็นที่ 108 ลดแล้วหล่อระเบิดระเบ้อมากเลยเพ่ รูป Before After นั่น มันคนๆเดียวกันจริงๆเหรอ โอววว....อย่างกะพ่อ ลูก จากคุณ : ฮิปโปกระโดด เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 22:00:16

ความคิดเห็นที่ 109 แต่สงสัยอย่างนึง คือ .. คุณเริ่มเป็นเบาหวานตั้งแต่อายุ 20 กว่าๆ.. ทำไมหมอถึงเริ่มยาทานหว่า.. จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 22:02:21

ความคิดเห็นที่ 110 อร๊ายยยย รูปสุดท้าย จขกท. น่ารักอ่ะ จีบได้มั้ยอ่ะ ^^ เข้าเรื่องๆ ของเราคลอเรสเตอรอล 251 มั้ง จำไม่ได้ว่าคลอเรสเตอรอลหรือไตรกลีเซอร์ไรด์ ตรวจเลือดไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว แต่จำตัวเลขได้แม่นว่า 251 ปกติไม่ควรเกิน 200 แต่ตอนนั้นก็ดันชิลล์ๆนะ ไม่คิดไรมาก น้ำหนักเราไม่ได้ขนาด 100 โล ก็เลยคิดว่าคนผอมๆเค้าก็เป็นกัน ฮึดลดแค่สองสามวันแรก หลังๆลดเพราะอยากสวยมากกว่า เลยลดวิธีผิดๆ แต่พอมาเจอกระทู้นี้วันนี้ เริ่มเครียดละตรู (- - !) เหมือนไขมัน จขกท. จะน้อยกว่าเราอีก แถมมานั่งนึกๆดู วงศาคณาญาติก็มีโรคติดตัวกันเพียบ ทั้งความดัน เบาหวาน เกาท์ อย่างพ่อกับยายเราเนี่ย โรคระจำตัวคือความดันเลย และกำลังจะกลายเป็นเบาหวาน ต้องกินยาตลอด แงงงง ละเลยตัวเองมานาน คิดว่าเรายังเด็ก คงไม่เป็น พอมาเจอกระทู้นี้ ถึงกับเครียด ต่อไปคงต้องลดเพื่อสุขภาพจริงๆแล้ว ต้องหลีกเลี่ยงของมันของทอดจริงๆจังๆซักที ไม่อยากตายก่อนแก่ จากคุณ : kurapik เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 22:08:09

ความคิดเห็นที่ 111 ความเห็นที่ 108 และ 110 โห เอาซะผมเขิลเลยครับ ความเห็นที่ 110 จะจีบกันเลยหรอครับ 55555+ ขอบคุณกำลังใจ ดวงใหญ่ๆ มากๆเลยครับ (^_^) ความเห็นที่ 109 ผมเป็นตอนอายุ 23 ครับ คุณหมอคงเห็นว่าน้ำตาลสูงมากล่ะมั้งครับ น้ำหนักก็พุ่งทะยาน หนักกว่าข้าวสาร 1 กระสอบซักอีก เลยให้ทานยาเลย ผมก็ไม่รู้อ่ะครับ คือปกติเขาจะยังไม่ให้ทานยาหรอครับ?? จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 22:25:04

ความคิดเห็นที่ 112 อ่อ ความเห็นที่ 110 เริ่มต้นลดน้ำหนักตั้งแต่ตอนนี้เลยนะครับ สู้ๆครับ จากคุณ : LeOSeeD เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 22:26:14

ความคิดเห็นที่ 113 ลดแล้วดูดีจมูกก็แลดูโด่ง หล่อเรยอ่ะ จากคุณ : Kittypiggybent เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 22:27:29

ความคิดเห็นที่ 114 เรื่องคล้ายชีวิตผมเลย....ต่างกันนิดเดียว จาก 77 กำลังจะไป 120 จากคุณ : DOG TUTA เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 23:14:32

ความคิดเห็นที่ 115 คนละคนจริงๆคะ หน้าหวานมากนึกว่าเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ ความรักของคุณแม่ที่มีต่อคุณ และ ความรักที่คุณมีต่อคุณแม่ ช่วยชีวิตไว้จริงๆ ขอบคุณที่มาเป็นแรงบัลดาลใจให้เพื่อนๆค่าาา จากคุณ : lithop เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 23:40:14

ความคิดเห็นที่ 116 หน้าเด็กลง 10 ปี จากคุณ : opor_pingping เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 23:52:53

ความคิดเห็นที่ 117 จะบอกว่า อ่านกระทู้ของ จขกท.เสร็จแล้วตอนเย็นก็ไปเข้าฟิตเนส หลังจากไม่ได้เข้ามา... (กี่เดือนแล้วฟระ ) วิ่งๆ ซัก 10 นาที ใช้เครื่องวิ่งวงรี เพราะเข่าไม่ดีวิ่งธรรมดามันกระแทกเดี๋ยวปวดเข่าอีก ผลาญไป 60 แคล เอง (โหมตั้งแต่วันแรกก็กลัวปวดขา) แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ในรอบหลายเดือนเลยนะเนี่ย ^^ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 00:12:40

ความคิดเห็นที่ 118 เราจะเอาคุณเป็นแบบอย่าง จะเริ่มพยามยาม แล้ว ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : sommersohappy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 00:20:48

ความคิดเห็นที่ 119 สุดยอดเลยครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 01:57:09