ความคิดเห็นที่ 1 ปิดเองก็มี..แต่ที่ไม่ปิดก็มีเช่นกัน นอกจากอาการของโรคหัวใจ..ต้องระวังภาวะแทรกซ้อนอื่นๆในกรณีที่มันไม่ปิดด้วยครับ จากคุณ : delealpi เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 14:41:49

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณค่ะคุณ delealpi บอกได้มั้ยค่ะภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง ขอบคุณค่ะ จากคุณ : จขกท (ชอบกินเผ็ด) เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 14:54:29

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้ชำนาญนะครับแต่เท่าที่อ่านมาหากขนาดไม่เกิด 6 มิลส่วนมากจะปิดเองที่สองขวบโดยอาจเห็นการปิดช้าไปได้จนถึง 5 ขวบ ส่วนขนาด 6-8 มิลโอกาสปิดเองจะน้อยแต่หากไม่มีอาการไม่ค่อยแนะนำให้ผ่าตัดปิดครับ สำหรับตัวเลขนั้นจากการศึกษาพบว่า (มีหลายการศึกษา) 1 หากขนาด 5-8 mm จะปิดเอง 80% หากมากกว่า 8 มิลไม่ปิดเองเลย (จำนวนคนไข้ 4 คนในกลุ่มนี้) 2 หากขนาด 6-7 mm จะปิดเอง 67% หากขนาด 8-10 mm จะปิดเอง 36% ตัวเลขที่ต่างกันส่วนหนึ่งอาจจะมาจากอายุตอนวินิจฉัยครับยิ่งอายุน้อยโอกาสปิดก็มาก ยิ่งอายุมากโอกาสปิดก็น้อย(เพราะที่ปิดเองได้คงปิดไปหมดแล้ว) คำว่ามากน้อยก็คือภายในขวบปีแรกครับ ภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่น่ากลัวที่สุดคือการที่มีอะไรหลุดลอยจากฝั่งเลือดดำไปเข้าเลือดแดงและไปอุดตันที่เส้นเลือดสมอง(ปกติถ้ามีจะไปอุดที่เส้นเลือดปอด) อะไรที่ว่านั้นส่วนมากเป้นลิ่มเลือด ในบางรายอาจเป็นฟองอากาศ(เช่นคนที่ดำน้ำขึ้นลงเร็วๆ) อย่างไรก็ตามพบว่าในคนที่ไม่มีอาการไม่ได้มีข้อมูลสนับสนุนว่ามันเพิ่มความเสี่ยงไปกว่าคนทั่วไปๆ แต่ถ้าใครเกิดขึ้นแล้วมีรูรั่วก็คงต้องปิด Ref UpToDate 19.1 จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 17:03:59

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณคุณหมอ oncodog มากๆค่ะ ได้ความรู้ ความกระจ่างเพิ่มขึ้นอีกเยอะ ได้แต่ภาวนาให้ปิดเอง มีใครมีประสบการณ์เรื่องหัวใจรั่วมั้ยคะ ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : จขกท (ชอบกินเผ็ด) เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 20:30:34

ความคิดเห็นที่ 5 ลูกสาวเรามี case คล้ายๆกับเจ้าของกระทู้ ตอนแรกเกิด มีอาการปรกติทุกอย่าง พออายุครบ 1 เดือน พากลับไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล คุณหมอได้ยินเสียงหัวใจผิดปรกติ มีเสียงฟู่ๆ ก็เลยส่งให้ไปตรวจ เอคโค่ สรุปว่าเป็น PDA ขนาดประมาณ 4 มิล ตอนนั้นก็คาดว่ารูรั่วอาจจะปิดเองได้ รอผ่านไปหลายเดือนก็ไม่ปิด และตอนนั้นก็ยังเล็กเกินกว่าจะผ่าตัดได้ คุณหมอบอกว่า ถ้าจะผ่าตัดเด็กต้องมีน้ำหนัก 10-15 กิโล (จำไม่ตัวเลขไม่แม่นนะคะ เพราะเหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 17 ปีแล้ว) เราก็เลี้ยงลูกด้วยความระมัดระวัง เรื่องความสะอาด เรื่องการติดเชื้อ เพราะคุณหมอบอกว่า หัวใจรั่ว ต้องระวังเรื่องการติดเชื้อในกระแสเลือด จนน้ำหนักสามารถผ่าตัดได้ เราก็ผ่า ตอนนั้น มีวิธีรักษา 2 วิธี คือ ใส่เหรียญเข้าไปปิดรูรั่ว กะ ผ่าตัดเพื่อปิดรูรั่ว แต่ตอนนั้น วิธีใส่เหรียญ เพิ่งจะเริ่มมีการทำ เราก็เลยตัดสินใจผ่า ปัจจุบัน ลูกสาว อายุ 17 แล้ว ไม่มีอาการผิดปรกติใดๆทั้งสิ้น ก่อน และ หลัง ผ่าตัด คุณหมอจะ x-ray หัวใจ จะเห็นความแตกต่างของ ขนาดของหัวใจอย่างชัดเจน เพราะตอนที่มีรูรั่ว ห้วใจต้องทำงานหนักมาก ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : ยัยม่ำ เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 21:53:44

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ คุณยัยม่ำมากๆนะคะ ไม่ทราบว่าค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดประมาณเท่าไร แล้วลูกคุณยัยม่ำ ผ่าตัดตอนอายุกี่ขวบคะ ขอบพระคุณมากๆค่ะ จากคุณ : ชอบกินเผ็ด เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 13:13:15

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนที่ผ่าลูกอายุได้ประมาณขวบเศษๆ ผ่าเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ที่ โรงพยาบาลพระรามเก้า แต่เิชิญ อาจารย์หมอจาก รพ รามา ชื่ออาจารย์สมบูรณ์ (เป็นศัลยกรรมหัวใจ) เป็นคนผ่าตัดให้  ตอนโน้น รู้สึกจะจ่ายไปประมาณ 8 หมื่นกว่าบาทค่ะ เนื่องจากปัจจุบันตัวเองเป็นมะเร็งปอด และเพิ่งผ่าตัดปอดไปเมื่อปลายปีที่แล้ว (หมอผ่าตัดปอด กะ หัวใจ จะเป็นคุณหมอที่เป็นศัลยแพทย์ทางด้านหัวใจเหมือนกัน) เราผ่ากับ คุณหมอ วิชัย เบญจชลมาศ ซึ่ง คุณหมอประจำอยู่ที่ รพ จุฬา รู้สึกจะออกตรวจคลีนิค พิเศษ ด้วยนะคะ  ลองโทรไปสอบถามที่ รพ จุฬา ดูนะคะ ลองพา ลูกสาวไปตรวจดูไม๊ค่ะ ค่าตรวจที่ รพ จุฬา คลีนิคนอกเวลา ราคาไม่แพงมาก ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : ยัยม่ำ เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 22:07:03

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณคุณยัยม่ำ มากๆค่ะที่เอื้อเฟื้อข้อมูล ติดตรงที่ค่าใช้จ่ายนี่แหละค่ะ อยู่ต่างจังหวัดด้วยค่ะ ตอนนี้ใช้สิทธิบัตรทองอยู่ บัตรทองนี่ ถ้้าอาการไม่มากก็คงยังไม่ส่งผ่า คงต้องรอคิวยาวแน่เลย T_T จากคุณ : จขกท (ชอบกินเผ็ด) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:19:54

ความคิดเห็นที่ 9 เราก็เป็นโรคหัวใจตัวแต่เกิดค่ะ ตอนนี้อายุจะ 25 แล้ว แต่ไม่ได้เป็นหัวใจรั่วนะค่ะ ของเราหมอบอกว่าผนังหัวใจ แบบว่าประมาณว่าเยื่อหุ้มหัวใจเป็นรูอ่ะค่ะ ประมาณ 3 มิล ตอนเกิด 3 มิล ยังไงก็ยังคง 3 มิลอย่างนั้นค่ะ เพราะว่ามันไม่ปิดเอง หมอบอก ถ้ามันปิดเองมันจะปิดตั้งแต่เด็กแล้ว T____T ตอนนี้ก็ยังคงไม่ผ่าตัดค่ะ เพราะผ่าไปก็เท่านั้น แต่ถ้าเราโตกว่านี้ ซึ่งนั้นก็หมายถึงแก่ - -* มันก็คงไม่ปิด เรารักษาประจำที่ โรงพยาบาลจุฬาค่ะ ตอนนี้หมอประจำ คุณหมอวิทวัส ลออคุณค่ะ ตอนแรกเกิด แม่บอกหมอนัดให้มาตรวจทุกเดือน แล้วก็เลื่อนเป็น ไปทุกๆสามเดือน แล้วก็ 6 เดือน....ตอนช่วงมัธยมปลาย.......เป็นต้นมาก็นัดปีละครั้ง จนตอนนี้ เรียนโท แล้วก็ยังคงปีละครั้งอยู่ ตอนเด็กๆแม่เราเป็นคนพาไปหาหมอ หมอนัดทุกครั้งจะเป็นวันพุธเสมอ เจอเพื่อนๆเด็กโรคหัวใจที่จุฬาอย่างเยอะอ่ะ ตอนนี้ผ่านมา 24 ปีที่เดิมนี่แบบว่าตอนนี้ล่าสุดเมื่อเดือนเมษา เห็นมีแต่เด็กๆๆ ตั้งแต่แรกเกิดจนประถม มีเรา โตสุดอยู่คนเดียว 555+ เราเริ่มไปหาหมอเองโดยไม่มีแม่มาด้วยช่วง มัธยมปลายอ่ะค่ะ (เดี๋ยวต่อไปก็จะให้แฟนพาไปแล้ว อิอิ) แม่ลูกอ่อนทัก พาลูกมาหาหมอเหรอ ผ่าตัดหรือยังละลูก... โธ่เอ้ยยยยย พี่หนูไม่ได้พาลูกมา แต่หนูอ่ะมาหาหมอเอง - -* ล่าสุดคุณพยาบาลหน้าเค้าเตอร์ซึ่งก็ยังคนเดิมตั้งแต่จำความได้ ก็แบบประมาณว่า ดีเท่าไรแล้ว เรายังได้มาหาหมอที่คลีนิกโรคหัวใจเด็ก ฮาๆๆๆ เพราะว่าถ้าผู้ป่วยแก่แล้วเค้าจะไม่ได้ให้มาแผนกเด็กแล้ว   พูดมากเรื่องของตัวเองเยอะมาก ก็แค่จะบอกเจ้าของกระทู้ว่า ไม่ต้องเครียดนะค่ะ โรคหัวใจไม่ใช่โรคร้ายแรง ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ก็แค่ดูแลรักษาและค่อยสั่งเกตตัวเองอยู่เสมอค่ะ ว่าเหนื่อยมั้ย เราทำกิจกรรมโน้นนี่นั้นแล้วก็ต้องค่อยสังเกตตัวเอง กินอาหารที่มีประโยชน์ ถ้าน้องโตแล้วก็ออกกำลังกายเบาๆโดยมี คุณแม่ค่อยดูอย่างใกล้ชิด (เรื่องออกกำลังกายและเรื่องเหนื่อยง่ายนี่ โชคดีของเราไม่เคยมีปัญหาเลย อาจจะเพราะด้วยความที่เป็นไม่มากเหมือนคนอื่นเค้า ตอนเด็กๆนี่ วิ่งเปรี้ยวกีฬาสี ชนะด้วย ช่วงมัะยมก็ว่ายน้ำกับแม่ตลอด ^^) เรื่องค่าใช้จ่ายเราแนะนำว่าให้มาโรงพยาบาลจุฬาเลยค่ะ เพราะว่าเชี่ยวด้านนี้มาก เพราะว่ามีคลีนิกหัวใจในเด็กโดยเฉพาะ โดยจะตรวจทุกวันพุธ และศุกร์ และค่าใช้จ่ายไม่มีเลยสมัยก่อนนะ เราเพิ่งจะมาเสียค่าอะไรซักอย่าง 50 บาทเมื่อตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วนี่เอง แล้วเวลา  echo มันจะมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 1000 บาท ตอนนี้เท่าไรไม่รู้เราทำ echo ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปีที่แล้วเราไม่อยากเสียเงินเหมือนกัน ก็เลยทำเรื่องบัตรทอง อาจจะยุ่งยากนิดนึง แต่ก็ประหยัดอ่ะค่ะ แฮะๆ ส่วนถ้าน้องต้องผ่าตัดหรืออะไรยังไง เราไม่รู้รายละเอียดเหมือนกัน เพราะไม่เคยผ่า แต่จะบอก จขกท ว่า ถ้าหมอให้ผ่า ก็ผ่าเถอะค่ะ เพราะหมอเค้าฟันธงแล้วว่าดีต่อตัวน้อง ^^ หลังผ่าก็อาจจะต้องดูแลตัวเองมากหน่อย แต่ก็อย่ากังวลนะค่ะ น้องสามารถใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติได้ ส่วนเรื่องสำคัญที่สุดของเรา ณ ตอนนี้คือเรื่องมีลูก 5555+ เราถามหมอ หลายครั้งมากก ทุกครั้งที่ไป โดยเฉพาะตอนโตนี่ ถามว่า แล้วหนูจะมีลูกได้มั้ย มีได้แน่นอนค่ะ ไม่มีปัญหา โรคหัวใจในเด็กไม่ได้เป็นกรรมพันธ์ค่ะ หมอบอกว่างั้นนะค่ะ แต่แค่เวลาตั้งครรภ์อาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษกว่าคนอื่นเค้า ว่างๆ จขกท พาลูกสาวมา จุฬาเลยค่ะ บอกหน้าเค้าเตอร์ชั้น 1 ให้คุณพยาบาลเค้าแนะนำค่ะ เวลาตรวจนี่ ตึก ภปร ชั้น 9 ค่ะ ^^ จากคุณ : Only One Girl เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 00:24:57