ความคิดเห็นที่ 1    ตั้งแต่ตอนที่น้องริดเริ่มอักเสบมากๆ  และรู้ตัวว่าต้องขึ้นเขียงผ่า... มีเพื่อนใน FB เข้ามาถามเยอะมากกก ว่าตัวเธอๆๆ  ต้องผ่าอะไรเหรอ.. ???    ยอมรับค่ะว่า....อายที่จะตอบมากกกก   แต่พอเพื่อนๆ มาถามหลายๆ คนเข้า ความห่วงใยที่ให้มาของเพื่อนๆ  ทำให้ใจกล้าตอบไป...  ชั้นเป็นริดซี่ !!!!!! ย่ะ  และคิดไว้ในใจว่าต้องโดนทุกคนหัวเราะเเน่ๆ เลย...    ตรงกันข้าม เพื่อนๆ ส่งหลังไมค์เข้ามาเยอะมากกว่าเดิมอีก  ว่าตัวเองก็เป็น มีอาการยังงี้ๆ เล่าให้ฟังเป็นฉากๆ  ถามกันใหญ่ว่าต้องทำอะไร ยังไงบ้าง  ไอ้เราก็หลงอายอยู่ตั้งนาน...รู้งี้ขึ้น staะus ประกาศไปนานแระชั้นเป็น ริดซี่ย่ะ  จะได้ไม่ต้องเมื่อยตอบ  และเพื่อเพื่อนๆ ริบบิ้นทำได้...  เด๋วจะโม้ให้ฟังเป็นฉากๆ เลยเอ้า...   ว่าแต่ก็มาเริ่มโม้กันเลยดีกว่า   ริดสีดวง...  โรคนี้เป็นที่คุ้นเคยของริบบิ้นมาตั้งแต่เด็กๆ มากกกกกกก ทำไมน่ะเหรอคะ...  ก็เล่นเป็นกันทั้งบ้านนี่นา...   ตั้งแต่พ่อ แม่ น้องชายของยาย น้องชายตัวเอง...  ว่าง่ายๆว่า ทุกคนรอบๆ ตัว เป็นกันหมด....   ปกติส่วนตัวบิ้นเอง.. จะเป็นคนที่ธาตุอ่อนอยู่แล้ว  ถ่ายเป็นปกติทุกวัน ไม่มีขาด ไม่มีอาการท้องผูกใดๆ ทั้งสิ้น  แต่ทำไม๊ ทำไม ??!!!  ชีถึงเป็นริดสีดวงล่ะ...   งานนี้ไม่ต้องหาคำตอบยาก  พอใจกล้าเข้าพบคุณหมอปุ๊บ !!!  ก็ได้คำตอบปั๊บ...  กรรมพันธุ์  ครับผม... คำตอบง่ายๆ สั้นๆ  และสามารถเข้าใจได้ทันที !!!! ใครที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นต้องหมั่นสำรวจตัวเองนะคะ   ถ้าสงสัยต้องรีบพบหมอเลย อย่าทิ้งไว้นานแบบริบบิ้น...  เพราะถ้าต้องผ่าแล้ว มันเจ็บบบบบบบบ !!!  จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:41:06

ความคิดเห็นที่ 2 มาปูเสื่อ รอฟังครับ ท่าทางจะเล่าได้สนุก อิอิ จากคุณ : October31st เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:49:37

ความคิดเห็นที่ 3 ก่อนจะเข้าห้องผ่าตัด เรามาทำความรู้จักน้องริดซี่กันก่อนดีกว่านะคะ  ขอบคุณที่มาของข้อมูลจาก http://http://www.thaiclinic.com/hemorrhoid.html ริดสีดวงทวาร(Hemorrhoid) ริดสีดวงทวาร เกิดจากการโตขึ้นกลุ่มของ เส้นเลือด และ เนื้อเยื่อ  บริเวณส่วนปลายของลำไส้ตรง ที่เรียกว่า hemorrhoidal tissue    คนปกติมีริดสีดวงหรือไม่  เนื่อเยื่อนี้มีหน้าที่อะไร      ในคนปกติ จะมีริดสีดวง(hemorrhoidal tissue)ทุกคน โดยจะอยู่บริเวณ  ส่วนล่างของ ทวารหนัก  เนื้อเยื่อ ริดสีดวงจะมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ   (ลองนึกภาพ ถ้าเรานอนหงายแล้วกางขาออก  เหมือนท่าคนจะคลอดลูก   เปรียบเทียบกับ นาฬิกาด้านหน้า เป็น 6 นาฬิกา  ด้านหลังเป็น 12 นาฬิกา   ด้านซ้ายเป็น 3 นาฬิกา  ด้านขวาเป็น 9 นาฬิกา   (ค่อยๆนึกครับ  วาดรูปประกอบก็ได้)  เนื้อเยื่อริดสีดวงปกติจะมีอยู่ 3 ตำแหน่ง  คือ ที่ 3 , 7 , และ 11 นาฬิกา   (ที่บอกมี 3 หัวอะไรทำนองนี้ครับ)     เนื่อเยื่อริดสีดวงมีหน้าที่อะไร? หน้าที่ปกติ  จะมีหน้าที่ ป้องกัน กล้ามเนื้อของทวารหนัก  รวมทั้งหูรูด ระหว่าง ถ่ายอุจจาระ และช่วยให้ ทวารหนักปิดได้สนิท  ในขณะที่เราอยู่เฉย    โรคริดสีดวงทวารเกิดจากอะไร?   ริดสีดวง เกิดจากการโตขึ้น ของ เนื้อเยื่อ Hemorrhoid  ซึ่งสาเหตุแบ่งง่ายๆ เป็น 2 อย่างคือ  1.เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณนั้น  2.เกิดจากการเพิ่ม ความดัน ต่อ กำบังลมด้านล่าง(Pelvic Floor)  นานๆ  ซึ่งการเพิ่มความดัน ดังกล่าว เกิดได้จาก  การเบ่งอุจจาระบ่อยๆ จากท้องผูก   การยกของหนัก  การยืนนานๆ  รวมทั้งการตั้งครรภ์ จากการที่มีเด็กอยู่ ทำให้ เลือดไหลกลับไม่สะดวก หรือ กรรมพันธุ์      จากสาเหตุดังกล่าวทำให้  กลุ่มเส้นเลือดดังกล่าว โตและ ยืดออก   ซึ่งการที่มีเลือดออกนั้นเกิดจาก การที่มี การบาดเจ็บของเส้นเลือด บริเวณดังกล่าว (Local Injury)  ที่เจอบ่อยๆเกิดจาก อุจจาระที่แข็งมากๆ ร่วมกับ การเบ่งนานๆ  ทำให้จะมีเลือดสดๆ ไหลออกจากทวารหนัก    โรคริดสีดวงมีกี่ชนิด? เราแบ่งโรคนี้ออกเป็น 2  ชนิด คือ  1.ริดสีดวงภายใน คือริดสีดวง  ที่อยู่เหนือ เส้นสมมุติที่เรียกว่า dentate  line(บริเวณแถวๆ รอยที่หยักๆครับ)จะมีลักษณะที่สังเกตง่ายๆ คือ -จะคลุมด้วยเยื่อบุของทวารหนัก  ไม่ใช่ผิวหนัง ด้านนอก  -จะไม่เจ็บ  ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน  -ส่วนใหญ่มักเป็นอันนี้กัน ริดสีดวงภายใน แบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ  1.ไม่มีก้อนยื่นออกมานอกทวารหนัก  2.มีก้อนยื่นออกมาขณะเบ่งอุจจาระ และหดกลับเข้าไปได้เอง  3.มีก้อนยื่นออกมาขณะเบ่งอุจจาระ แต่ไม่หดกลับเข้าไปต้องใช้มือช่วยดันเข้าไป  4.มีก้อนยื่นออกมาและไม่สามารถใช้มือดันเข้าไปได้ 2.ริดสีดวงภายนอก คือริดสีดวงที่อยู่ใต้เส้น Dentate line  สังเกตง่ายๆคือ -จะเป็นก้อนทีอยู่ข้างนอก  -ส่วนที่คลุมก้อน จะเป็นผิวหนัง  มักมีอาการคัน  และ เจ็บมากกว่า  ริดสีดวงภายใน  -หลังจากอาการหายไป บางครั้ง  ติ่งผิวหนังนั้นอาจยังอยู่  กลายเป็นติ่งเนื้อที่เรียกว่า Skin Tag   อาการของโรคริดสีดวง มีอะไรบ้าง? อาการของโรคนี้ที่มีพบแพทย์  มี 3 อาการ  1.ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด ลักษณะจะเป็นดังนี้คือ จะถ่ายอุจจาระออกมา ก่อน ( ระหว่างถ่ายอาจจะเจ็บหรือไม่ก็ได้) จากนั้นจะมีเลือดสดๆ หยดออกมา ตามหลังจากอุจจาระ  เลือดจะเป็นเลือดสดจริงๆ มักไม่มีมูกเลือดปน 2.มีก้อนออกมาระหว่างถ่ายอุจจาระ ขณะที่เบ่งอุจจาระ จะมีก้อนยื่นออกมา  หรือ มีก้อนออกมาตลอดเวลา  ขึ้นกับ ระยะที่เป็น 3.เจ็บบริเวณ ทวารหนัก  ปกติ  ริดสีดวงจะไม่เจ็บ  จะเจ็บในกรณีที่มีภาวะ แทรกซ้อน เช่น เส้นเลือดอุดตัน(Thrombosis) หรือ มีเนื้อเยื่อตาย(Necrosis)   จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:58:43

ความคิดเห็นที่ 4 การรักษาโรคริดสีดวงทวาร ขึ้นกับระยะที่เป็น  ระยะ1 การรักษา  ในระยะนี้ ไม่ว่าจะเลือดออกหรือไม่ จะเน้นการใช้ยาและการปฏิบัติตัว การใช้ยา จะเป็นพวก ยาที่ทำให้อุจจาระนุ่ม(Stool Softener) อาจใช้ยาประเภท Steroid เหน็บทวารเพื่อลดการอักเสบ การปฏิบัติตัว  คือ ทานอาหารมีกากมากๆ  ทานน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงการเบ่ง   หรือนั่งนานๆ มีบางแห่ง อาจใช้ Infrared ช่วย  แต่ไม่จำเป็นครับ ระยะ2-3 ต้นๆ การรักษาด้วยยา รวมทั้ง การปฏิบัติตัวเหมือนเดิม  อาจใช้ยางชนิดพิเศษ รัดริดสีดวงทวาร ( Rubber Band Ligation)  ซึ่งได้ผลดีมาก ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ทำได้บ่อยๆ  ภาวะแทรกซ้อนต่ำ ระยะ 3ที่ใหญ่ๆ -4 ต้องผ่าตัดครับ   เมื่อไร ที่ต้องผ่าตัดริดสีดวง? 1.เป็นระยะ 3ที่ใหญ่ หรือ ระยะ 4  2.เป็นทั้ง ภายนอกและ ภายใน พร้อมกัน (Mixed Type)ซึ่งไม่สามารถ  ที่จะใช้ยางรัดได้ (เพราะจะเจ็บมาก)  3.มีภาวะแทรกซ้อน เช่น เส้นเลือดอุดตัน  ปวดมาก  หรือ หัวริดสีดวงเน่า  จากการขาดเลือด นั่นคือ จะเห็นว่า  ถ้าเป็นไม่มากจริงๆ  ไม่ต้องผ่าตัดครับ สามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอกได้    การป้องกัน ขับถ่ายให้เป็นเวลา  ไม่ทำให้ท้องผูก  กินอาหารที่มีกาก  ผักผลไม้  เพื่อช่วยในการขับถ่าย ดื่มน้ำมากๆ  ถ้ามีอาการผิดปรกติ  รีบปรึกษาแพทย์       ทำไมเราต้องมาสนใจโรคริดสีดวงด้วย?   จริงๆ แล้วโรคริดสีดวง  ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลย  อย่างมากก็เจ็บ เลือดออกส่วนใหญ่มักจะไม่มาก แต่ที่มากๆ จน Shock ก็มีครับ  แต่ที่น่าจะระวังมากกว่านั้นคือ  เราอาจไม่ได้เป็นริดสีดวงก็ได้ อาการถ่ายเป็นเลือดสดนั้น  อาจเกิดได้จากหลายอย่าง เช่น โรคแผลที่ทวารหนัก(Anal fissure) ฯลฯ  แต่ที่น่ากลัวกว่า คือ เนื้องอก หรือมะเร็ง บริเวณ ลำไส้ตรง หรือ ทวารหนัก  ซึ่งจะมีอาการ ถ่ายเป็นเลือด เหมือนกัน  ซึ่งสามารถให้การวินิจฉัยได้ด้วยการตรวจร่างกายธรรมดาเท่านั้น การรักษานั้น คนละเรื่องครับ  ดังนั้น ถ้ามีอาการถ่ายเป็นเลือด ไม่ควรรักษาตัวเอง  ควรมาพบแพทย์ครับ โดย นพ.ธเนศ พัวพรพงษ์  ศัลยแพทย์ จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:03:53

ความคิดเห็นที่ 5 เอาล่ะทีนี้  เรามาฟังในเคสของริบบิ้นกันดีกว่า...  บิ้นเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นค่อนข้างมาก และมีเลือดออก ตอนเข้าห้องน้ำพู๊พู  ก็ตอนอายุประมาณ 14  แต่มากล้าหาหมอ และผ่าออกตอนอายุจะสามสิบ   แหะๆ  กลัวอ่ะ ก็คนมันกลั๊ว !! ตอนสมัยมหาลัยต้องอยู่หอพักกับเพื่อนๆ  เพื่อนจะตั้งฉายาให้ว่า นังวอลล์เปเปอร์  เพราะทุกครั้งที่เธอเข้าห้องน้ำพู๊พู ผนังห้องน้ะจะเต็มไปด้วย เลือดเหมือนโดนฟ๊อกกี้ฉีดเต็มไปหมด...  แต่ขอบอกตอนนั้นเลือดออกขนาดนั้น เเต่เธอก็ไม่สะทกสะท้าน ก็มันยังไม่มีอาการเจ็บไงคะ เลยไม่เดือดร้อน ที่สำคัญ เพราะอายหมอด้วย... นั่นแหละประเด็นหลัก   ข้ามจากสมัยวัยละอ่อน มาจนเข้ายุคมืด (ย่าง30) จากที่น้องริดไม่เคยทำให้เจ็บ กลับเริ่มพัฒนาตัวเอง เจ็บปวดทรมานขึ้นมาซะงั้น  แต่จะเป็นลักษณะนานๆ จะเจ็บที ไม่ได้เจ็บตลอดเวลา น้องริดเธอจะชอบงอแงเวลาต้องนั่งรถไกลๆ แค่นั้นค่ะ   ส่วนอาการเลือดออกยังเป็นเมือนเดิม แต่นานๆ จะออกที แต่มาทีละเยอะๆ  ออกแนวประมาณว่านั่งอยู่เฉยๆ อยากจะออก ก็ออก อยากจะไหลก็ไหล  อาบขาลงมาเป็นทางๆ   ถ้าท้องนะ มีหวังชาวบ้านคิดว่านังคนนี้ กำลังแท้งลูกแน่ๆ  จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:14:05

ความคิดเห็นที่ 6 และเมื่อความเจ็บปวดถึงขีดสุด...  มากเกินกว่ายางอายอันน้อยนิด ที่พอจะมีอยู่ในร่าง...  ทำให้ต้องหาข้อมูลอย่างจริงจัง   ผ่าก็ผ่าฟะงานนี้ไม่ไหวแล้ววว   เริ่มหาข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตามบอร์ด และกระทู้ต่างๆ  ไม่เว้นแม้กระทั่งสวนลุมจนได้รายชื่อโรงบาลเอกชนที่เข้าตามา 4 ที่ ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงด้านนี้ ได้แก่ พญาไท2   วิภาวดี สมิติเวช สุขุมวิท และสมิติเวช ศรีนครินทร์  สาเหตุที่ต้องเลือกโรงบาลเอกชน เพราะ กว่าตัวริบบิ้นเองจะตัดสินใจไปหาหมอ  ก็ตอนที่ร่างกายทรุดโทรมมากแล้ว... เจ็บจนต้องพักอยู่บ้านเฉยๆ มาเป็นอาทิตย์  ไม่สามารถจะเข้าไปต่อคิวรอตรวจ รอผ่าใดๆ ได้แล้ว  เพราะฉะนั้น รพ.เอกชน จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุด ณ วินาทีนี้  และจาการหาข้อมูล ส่วนตัวเอง สนใจการผ่าตัดริดสีดวงแบบใหม่โดยใช้เครื่องมือ  ในการผ่า ที่มีการเคลมมาว่า เจ็บน้อย และเเผลหายเร็ว ตัดออกได้ทุกหัว !!!  จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:25:48

ความคิดเห็นที่ 7 บิ้นจึงเริ่มโทรถามราคาแพคเกจการผ่าตัดตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่หมายตาไว้ พร้อมทั้งดูรายชื่อแพทย์ผู้ทำการรักษาของแต่ละที่ เริ่มตั้งแต่ รพ.วิภาวดี อยู่ที่ 75,000 บาท ต่อเคส พักได้สองคืน รพ.พญาไท2  อยู่ที่ 70,000 บาทต่อเคส พักได้สองคืน รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์   76,000 บาทต่อเคส พักได้ 1 คืน รพ.สมิติเวช สุขุมวิท (ตัวเลือกของคุณสามี ที่ฮีบอกว่าใกล้บ้าน) เคาะราคาค่ารักษาออกมาได้... อยากเสียค่าน้ำมันขับรถไปไกลๆ มากกว่า คือ 140,000 บาทต่อ เคส ต่อคืน !!!   พอได้ราคามา สามีบอก งั้น สมิติเวช ศรีนครินทร์ค่ะ !!! แต่ตัวบิ้นเองที่เยอะ เลยนั่งค้นรายชื่อเเพทย์ พร้อมคำบอกเล่าของเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์มาก่อน หลายเสียงบอกว่า... พญาไท 2 สิดี หาคุณหมอคนนี้ๆ นะ ดูแลดีมากๆ....   เชื่อเพื่อนค่ะ  เรไรเชื่อคนอื่นมากกว่าอ้ายเสมาอยู่แล้ว จัดไป !!!  ลงชื่อขอคิวนัดคุณหมอธีรสันต์ ที่พญาไท 2 ทันที   5555555555555 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 12:35:22 จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:33:37

ความคิดเห็นที่ 8 และแล้ววันที่ต้องพบหมอก็มาถึง.......   ไปตามเวลานัดตรงเป๊ะ !!!  ตื่นเต้นงิ ต้องไปเปิดตรู๊ดให้คนอื่นดู  ระหว่างที่นั่งรอหน้าห้องตรวจ สายตาก็สอดสำรวจไปทั่ว  อุ้ย !!  ทำไมหมอในห้องนั้นหน้าตาคล้ายหมอที่เรานัดเลยอ่ะ  แต่หมอที่เรานัดไว้ ในรูป น่ากลัวกว่านี้นะ  แก่ด้วย !!!  แต่คนนี้ยังหนุ่มๆ อยู่เลย.....   หน้าตาก็แบบ... เอ่ออ  โอเคเลยอ่ะ  ไวเท่าความคิดค่าาาา......   พยาบาลเชิญเข้าตรวจห้องนั้นแหละ  แม่เจ้า.....  รูปมันหลอกดาวววววววววววว   กรี๊ดดดดดดดด หมอหนุ่มแบบนี้ ตรูก็เขินนะเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  แล้วแบบต้องขึ้นเตียง หันหลัง ถลกกระโปรงให้หมอดูด้วยนะเวลาตรวจ  ดาว  ดาว  ดาว   อยากตายยยยยยยยยยยย   จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:40:55

ความคิดเห็นที่ 9 หลังตรวจเสร็จ...  หมอก็อธิบายอาการของริบบิ้นให้ฟัง ระหว่างนั้นก็คนมันเขินอ่ะ  ทั้งเขินทั้งกลัว เลยให้คุณพยาบาลไปตามคุณจ๋ามี เข้ามานั่งฟังด้วยกัน...   คุณหมออธิบายอาการให้ทราบว่า ของเราเป็นลักษณะริดสีดวงแบบไหน และ วิธีการรักษา พร้อมทั้งโชว์รูปประกอบให้ดูไปพร้อมๆ กัน เราสองแจ้งความจำนงว่า...ตั้งใจว่าจะผ่าแบบใช้เครื่องมืออยู่แล้ว คุณหมอกลับเเนะนำว่า ในเคสของเรานั้น มีแค่หัวใหญ่อักเสบหัวเดียว ไม่แนะนำให้ใช้เครื่องมือ และวิธีการผ่าตัดแบบเดิมนั้น ก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดอยู่ แต่คุณหมอเองก็บอกว่าแล้วแต่เราจะเลือก.... อ้าว...  ก็ถ้าหมอบอกว่าผ่าแบบเดิมดีกว่า ก็ต้องเชื่อหมอสิคะ ....  ตกลงผ่า ทำเรื่องเซ็นต์ยินยอมผ่าไป...  พร้อมนัดวันผ่าทันที.... แก้ไข...  รูปประกอบจาก Google นะคะ  คล้ายกับรูปที่คุณหมอเอามาอธิบายอาการของเราที่สุดแล้ว ^^ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 20:42:38 จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:51:00

ความคิดเห็นที่ 10 หลังนัดวันผ่าเสร็จเรียบร้อย.... ก็ได้เวลากลับมาเวิ่นเว้อ กลัวตายอยู่บ้าน.....   งอแง มันทุกวัน กลัวๆๆๆๆ   แต่ระหว่างนั้นก็พยายามทานอาหารให้ครบทุกหมู่  และเป็นเวลา นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ.....   แต่บอกตรงๆ  นอนน้อยมันทุกวัน  ฝันถึงเรื่องผ่ามันทุกคืน.......    ก่อนจะถึงเช้าวันผ่า ต้องงดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืน  ด้วยความกลัวก็ปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด...  ประหนึ่งหมอสั่งไรไว้  พยาบาลสั่งอะไรไว้...  ทำหมดค่า !!!!   แปดโมง สองคนก็ซิ่งไปถึง รพ.  ทำเรื่องเข้าแอดมิท พร้อมยื่นบัตรประจำตัว ของประกัน Bupa เรียบร้อย...   คุณพยาบาลก็จับขึ้นรถเข็น เสียบสายน้ำเกลือ แล้วต่อด้วยเอ๊กเรย์ปอด...  และส่งขึ้นวอร์ด....  ให้ไปนอนรอ.... เตรียมสวนตรู๊ดดด.......   อืมมม....   ยิ่งใกล้เวลา ยิ่งสั่น ปอดแหกสุดๆ  จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:04:38

ความคิดเห็นที่ 11 พลีชีพพพพ จากคุณ : naemw เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:06:12

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์ให้ได้รับรู้กัน หายไวๆนะครับ จากคุณ : DragonV เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:17:11

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาดูรูปประกอบ   จากคุณ : somyosonline เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:23:52

ความคิดเห็นที่ 14 อยากฟังต่อ  แล้วหลังจากผ่า เป็นไงบ้าง ? จากคุณ : มีดกรีดใจ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:25:14

ความคิดเห็นที่ 15 หลังจากคุณพยาบาลมาตรู๊ดเรียบร้อย.... ท้องโล่งพร้อมผ่า....   ก็ได้เวลาโดนเข็นไปขึ้นเขียง !!!!!   ในเคสของริบบิ้นนี้ คุณหมอเลือกใช้วิธีฉีดยานอนหลับ และบล็อกหลังนะคะ ทันทีที่เข้าไปถึงห้องผ่าตัด ระหว่างที่นอนรอยู่บนเตียงรอผ่า เจ้าหน้าที่ให้ห้องเค้าก็เดินไป เดินมา เตรียมอุปกรณ์ ติดสายสารพัดสาย เข้ากับตัว....   เจ้าหน้าที่ทำงานไป เสียงก็ดังก๊องแก๊งไป...  ไอ้คนไข้ปอดแหก  ร้องไห้ไม่รู้ตัว....   ก็ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยป่วย รึเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลซักที  ศึกครั้งนี้ ยิ่งใหญ่นัก ฮือๆๆๆ เจ้าหน้าที่เห็นท่าไม่ดี เลยรีบไปตามคุณหมอวิสัญญีมาให้  คงกะว่าช่วยรีบๆ ทำให้ยัยนี่หลับไปซักทีเห๊อะ !!! โวยวายจริงๆ   พอคุณหมอวิสัญญีมาปุ๊บ คุณหมอก็บอกว่า เดี๋ยวหมอจะฉีดยานอนหลับ ให้นะครับ แสบนิดนึง แล้วเดี๋ยวหมอจะบล็อกหลังให้นะครับ  ทันทีที่ยาเข้าเลือด.....  หลับค่ะ  หลับสนิท เค้าทำไรบ้างไม่ได้รู้เล้ยยย  ตื่นมาอีกที....  ก็มึนๆ อยู่ในห้องพักวิสัญญีแล้วว  ตื่นมาพร้อมกับอาการแสบจมูก เพราะสายอ๊อกซิเจนที่เสียบอยู่  ยังมีแรงโวยวายอีกรอบ ขอให้คุณพยาบาลช่วยเอาออกจากจมูกนู๋ให้ที ไม่ไหวแล้วค่า..........   นับรวมเวลาที่หลับไปทั้งสิ้น 2 ชั่วโมงเป๊ะๆ   ค่ะ จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:27:26

ความคิดเห็นที่ 16 เอาหล่ะ....  ช่วงเวลาแห่งการรอคอยมาถึงแล้ว........ หลังผ่า !!!!!!!!!!!!   พยาบาลเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด พร้อมซองสีน้ำตาลที่ระลึกหนึ่งซอง ตอนนั้นไอ้ตัวคนป่วยก็ยังมึนๆ เจ็ยๆ อยู่ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรหรอกค่ะ... แต่จ๋ามีคนป่วยสิคะ  อยากรู้อยากเห็นไปหมด !!!  ฮีรีบเปิดซองที่ระลึกทันใด....    อั่ยย่ะ !!!!!!!!  ใครไม่ใจแข็ง ปิดตาด่วนค่ะ !!!!!  นี่คือคำเตือน  ยี้ !!!!  แหวะ   ไอ้ตัวนี้แหละ !! มันซ่อนตัวอยู่ในลำไส้ใหญ่ตอนปลายอุโมงค์อึ๊  จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:34:17

ความคิดเห็นที่ 17 เห้อ....   เห็นละกินข้าวไม่ลง.....  นี่มันซ่อนอยู่มาได้ยังไงตั้งหลายปี.....   คืนแรกนับว่าเป็นคืนที่สาหัสที่สุด......  บิ้นกดเรียกพยาบาลทุกชั่วโมงเลยก็ว่าได้  เจ็บจนน้ำตาไหล   เจ็บจนนอนไม่หลับ....   และเพราะฤทธิ์ของการบล็อกหลัง  จะฉี่เองก็ยังไม่ได้ ต้องเรียกพยาบาล และพึ่งกระโถนตลอด.... ฉี่เสร็จ...  ก็ต้องแกะผ้าก็อต ที่แปะตรู๊ดออกเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง เกรงใจ สงสารผู้ช่วยพยาบาลมากๆ เพราะเค้าต้องคอยทำความสะอาด ทั้งน้องจิ๊โม๊ะ  น้องตรู๊ด ให้ตลอด......   ฉี่ที  เรียกที  แม่เจ้า...  แล้วบิ้นเป็นพวกไม่เก็บกักน้ำด้วยนี่สิประเด็น  ตั้งแต่ออกจากห้องผ่าตัดมา ฉี่ไม่ต่ำกว่า 5 รอบ   ที่สำคัญกว่าจะฉี่ได้แต่ละที ต้องช่วยกันกดท้อง เพราะยาบล็อกหลังยังมีฤทธิ์อยู่ เบ่งฉี่เองไม่ได้....  ได้แต่ปวดท้องมากกกก.....   จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:44:55

ความคิดเห็นที่ 18 นอกจากจะฉี่ลำบากแล้ว....  เมื่อยาบล็อกหลังเริ่มหมดฤทธิ์.... นรก...  ของแท้เริ่มมาเยือน....​ ปวดดิ้นทุรนทุราย   จนต้องร้องขอยาฉีด ตัวที่เป็นอนุพันธ์ของมอร์ฟีนมาช่วย  ไม่งั้นนอนไม่หลับ....  คุณจ๋ามีห่วงมาก เพราะนังพันยาตัวแสบ ตั้งแต่ออกจากห้องผ่าตัดมา  จนถึงตีสาม มันไม่นอนเลย....  ไม่ร้องฉี่ ก็ร้องปวดแผล... จนได้ยาฉีดแก้ปวด ถึงสงบลงได้.......    เชื่อแล้วว่ามันทรมานจริงๆ นะคะ  ไอ้การตัดน้องริดซี่ ออกจากตัวเนี่ย...... แต่เซอร์ไพส์มันอยู่ที่....  ตื่นเช้ามาไอ้คนป่วยตัวแสบได้รับอนุญาตให้เดินเองได้ พอถอดน้ำเกลือกระปุกที่สองออกเรียบร้อยเท่านั้นแหละ ชีค้นพบวิถีใหม่ค่ะ...  คือ การเดิน  เดินมันรอบห้องนั่นแหละค่ะ........ เริ่มตั้งแต่เดินในห้องนอนตัวเอง ลามไปห้องพักญาติ เดินไปเดินมาอยู่ ในนั้นแหละ แม้กระทั่งตอนกินข้าว มันก็ยังเดิน...  เพราะค้นพบแล้วว่า   ถ้าไม่เดิน ก็ต้องนอนตะแคงเท่านั้น !!! ถึงจะปวดน้อยลงได้ซักหน่อย  เช้าแรกหลังการผ่าตัด เดินรอบห้องตั้งแต่ ตื่น จนสิบโมง..... นั่งไม่ได้เลย...  จะนอนก็ยังไม่ง่วง....  เดินเล่นเฟสบุ๊คมันรอบห้อง....  อึดจนพยาบาลตกใจ..     จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:04:43

ความคิดเห็นที่ 19 แหะๆ  ต้องกินยานอนแล้ว....   เด๋วมา.... ต่อนะคะ จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:09:05

ความคิดเห็นที่ 20 เจ๊....  ปกติหนูไม่ค่อยเข้านะห้องสวนลุมเนี่ย อยู่ๆก็เข้ามาเจอเรื่องเจ๊ซะงั้น บังเอิญมากๆ ยังไงก็สู้ๆ หายเร็วๆนะคะ จากคุณ : NaNNy_Kitty เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:54:15

ความคิดเห็นที่ 21 แหม๊ เล่าได้ตื่นเต้น เร้าใจดีแท้หลาว... จากคุณ : เด็กหญิงเอาแต่ใจ (เด็ดชายวุ่นวายเด็กหญิงเอาแต่ใจ) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:35:49

ความคิดเห็นที่ 22 เอ่อ.. ขนาดทำใจไว้แล้วว่าต้องเห็นรูปประกอบ แต่ก็ยังขนลุกอยู่ดีค่ะ แหะๆ >.< ขอบคุณที่นำมาแชร์ค่ะ เล่าได้สนุก น่าติดตามมากๆ หายไวๆนะคะ จขกท. จากคุณ : Nirancha เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:42:48

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านไป ขมิบตูดไป หวาดเสียว จากคุณ : Alex on the rock เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:31:33

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณครับ  ที่เสียสละเวลาพิมพ์ให้ความรู้แก่คนอื่นๆ จากคุณ : เขียนบน Samsung Galaxy Note (HS2ZFO) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:34:22

ความคิดเห็นที่ 25 บรรยายได้ สนุกดีครับ จากคุณ : ckbu (ckbu) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:44:53

ความคิดเห็นที่ 26 แฮ่ๆ  กลับมาแว้ววววววววววววว มาโม้ให้ฟังต่อได้แล้วค่ะ   ขอบคุณทุกๆ ความเห็น  และทุกๆ กำลังใจนะคะ....  งานนี้พลีชีพสุดๆ ค่ะ.....   แบบว่า ใครอยากรู้อะไรถามมา  พี่ผ่านมันมาได้แว้วววววววว 5555555555 มาต่อกันเลยดีกว่านะคะ.... ถึงวันที่ 2 แล้วเนาะ...   เริ่มต่อเลยนะคะ   หลังจากเดินเล่นทานข้าวทานยาเรียบร้อย....  ด้วยความที่นั่งไม่ได้...  ได้แค่เดินไปเดินมา คิดไปคิดมา... เอ่อไปล้างหน้าล้างตา กรีดตาหน่อยดีกว่า    อันว่าสเตปนี้ของริบบิ้นเป็นที่เลื่องลือไปทั้งวอร์ดมากค่ะ  ว่าคนป่วยกรีดตา โปะอายไลเนอร์เข้าห้องผ่าตัด 55555   จะให้ลบทิ้ง ฆ่ากันเลยเหอะ  นอกจากจะเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ชียังตื่นเช้าทาแป้ง กรีดตารอพยาบาลทุกวัน ด้วยนะเออ...  สร้างความสับสนให้กับคุณพยาบาลมากว่าคนไหนคนป่วย คนไหนญาติ  เพราะแม้กระทั้งชุดคนป่วยชียังไม่ใส่...   ก็มันเป็นกางเกงงิ ใส่แล้วเข้าห้องน้ำลำบาก ยิ่งถ้าตะเข็บกางเกงด้านในไปโดนแผลด้วยนะ  หึหึ  นรกกกกกกกกมาเยือนอีกรอบบบบบบ    ไม่เอาดีกว่า ขอใส่ชุดนอน กระโปรงแทนละกันนะคะ....  ณ เวลา 12.00 น. เมื่อคุณหมอคนเก่งเดินยิ้มร่ามาแต่ไกล... คุณหมอ... เป็นไงบ้างครับวันนี้ หันหลังซิ ขอหมอดูแผลหน่อย  คนป่วย... ทำตามคำสั่งอย่างไว ก็มันเจ็บง่ะ  คุณหมอ... อื้ม... แผลแห้งดีมาก เหลือแต่เจ็บแผลแล้วเนาะ        อดทนหน่อยนะครับ เดี๋ยวก็ดี  คนป่วย... ค่ะ... คุณหมอ... เห็นพยาบาลบอกว่า ร้องขอยาแก้ปวดทั้งคืนเลย        เด๋วหมอปรับยาให้ใหม่นะ แต่ว่าเดินไปเดินมาได้แล้ว                นี่แสดงว่าเตรียมร่างกายมาดีมากนะครับนี่ ฟื้นตัวเร็วมาก...  คนป่วย... =^___^=  คุณหมอ.... ว่าแต่เห็นก้อนเนื้อที่หมอตัดออกมาไหม๊ เบ่อเร่อเลย  ใหญ่มากเลยนะนั่น ปล่อยไว้นานก็แบบนี้ล่ะครับ  คนป่วย... อี๋แหวะ :P  — ที่ Phyathai 2 Hospital หลังจากนั้นคุณหมอก็แนะนำการดูแลตัวเองระหว่างนี้อีกนิดหน่อย  ส่วนใหญ่จะถามว่า พู๊พู ได้บ้างรึยัง ถ้าปวดพู๊พู ก็ถ่ายได้ปกติ แต่ห้ามเบ่ง ถ้าออกมาแล้วหมดขบวนก็พอ   อย่าออกแรงเบ่ง เพราะไม่ดีต่อแผล.. ว่าเสร็จ คุณหมอก็ปิดตรู๊ดให้แล้วเดินหนีไป....    เฮ้อ......   โดนเปิดก้นจนชินละงานเน้   แถมรูปประกอบ....  คืนแรกที่เจ็บจนนอนไม่ได้.... เดินไปเดินมา แล้วพบว่า ที่นอนคนเฝ้าไข้ สบายกว่าคนไข้อี๊ก ไปเลยคุณจ๋ามี  เปลี่ยนกันๆๆๆๆๆๆ   จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:00:06

ความคิดเห็นที่ 27 หลังจากผ่านคืนแรก กับคืนที่สองไปได้.... ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากแล้วล่ะค่ะ....  จะเหลือแค่เจ็บตรู๊ดแต่ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว   ในส่วนของการพู๊พู หลังผ่า ที่เพื่อนๆ ชอบถามกันมา  เพราะสงสัยมากๆๆๆๆ  ว่ามันจะพู๊ได้ยังไง  ขอบอกตรงนี้เลยค่ะ....  อันนี้ตัวคนไข้เองก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง นิดนึง...   บิ้นเองก่อนนอน จะทานโยเกิร์ตก่อนนอนทุกคืน   สร้างความแปลกใจให้พยาบาลอีกละ 555555  เพราะโดยมาก คนไข้ส่วนใหญ่แทบจะ 95% จะเกิดภาวะเครียดจากการผ่าตัด ทำให้จะเก็บกลับไป พู๊พู  กันที่บ้านทั้งนั้น.....  แต่เรามันคนขี้สงสัย  และด้วยส่วนตัวคิดว่า จะพู๊ กะพูมันที่นี่ล่ะ เกิดกลับบ้านไป....  พู๊แล้วแผลมีปัญหาจะทำยังไง       จัดไป โยเกิร์ต หนึ่งถ้วย....  ตื่นเช้ามา ตามด้วยน้ำสะอาด ดื่มไปอีกเกือบลิตร  ไม่ถึงห้านาที  วินาทีที่รอคอยก็มาถึง........ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด  !!!!!!!!!!     พู๊ไป น้ำตาไหลไป   เจ็บง่ะ เจ็บมากกกกกกกกก   เจ็บที่สุด   เชื่อแล้วว่าผ่าตรู๊ด มันน่ากลัว !!!  ขนาดพู๊เสร็จยังเจ็บอยู่ตลอด.......   ต่อไปอีกประมาณ ห้าชั่วโมงเลยล่ะค่ะ  ต้องระวังท่านั่งมากๆ   ท่านอนก็ต้องนอนตะแคงเท่านั้น ถึงเวลาคุณหมอมาตรวจอีกรอบ รีบรายงานผลงานการพู๊ของตัวเองทันที พร้อมบอกเล่าความเจ็บปวดรวดร้าว ร้าวรานให้คุณหมอฟัง  พร้อมทำหน้าแป้นแล้น....  รอฟังคำตอบจากหมอ ดูสิ หมอจะว่ายังงายยยยย  และเมื่อได้ฟังคำตอบจากหมอ ยิ่งอยากตายอีกรอบ  เมื่อคุณหมอบอกมาว่า... อ๋อ...  นี่เป็นอาการปกติครับ   พร้อมขยี้ใจต่ออีกรอบ ด้วยคำพูดที่ว่า และจะเจ็บแบบนี้ไปซักอาทิตย์นะ เดี๋ยวจะค่อยยังชั่วขึ้น  คุณทำร้ายจิตใจดาววววววววววว  อีกแล้ว   จากนั้นหมอก็จะแนะนำว่า หลังพู๊เสร็จให้พยายามเอาสบู่ล้างหน้าอ่อนๆ  ฟอกน้องตรู๊ดตรงแผลให้สะอาดนะ  เสร็จแล้วก็ซับให้แห้ง  ผ่ากับหมอคนนี้ ไม่ต้องเเช่ก้นในน้ำอุ่นนะครับ  ไม่จำเป็น....   และที่สำคัญ ถ้าใช้ Wipe paper  เช็ดต้องระวัง ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้อง เพราะ Wipe จะไปทำลาย แบคทีเรียดีๆ  ให้ตายไปเยอะ  น้องตรู๊ดของเราค่อนข้างบอบบางตอนนี้  ต้องระมัดระวังนิดนึง ดูสิ ใครว่าตรู๊ดเป็นเรื่องไม่สำคัญ...   ต้องดูแลกันดีๆ นะคะ   เพราะศูนย์รวมเส้นประสาทเลยนะนั่น   จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:17:05

ความคิดเห็นที่ 28 จบแล้วค่า.....  ประสบการณ์การผ่าตรู๊ดดดด ของริบบิ้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆคนอื่นไม่มากก็น้อยนะคะ   และสำหรับเพื่อนๆ ที่หลังไมค์มาถามข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาล ริบบิ้นขออนุญาตตอบตรงนี้เลยนะคะ   ออกตัวไว้ก่อนเลยว่า การเข้าผ่าตัดครั้งนี้ ริบบิ้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับทาง รพ. พญาไท2   หรือรู้จักเป็นการส่วนตัวกับคุณหมอมาก่อน รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมด คุณประกัน Bupa กับคุณสามีเป็นคนออก... นู๋ไม่ใช่ม้านะคะ  แต่ถ้าว่าเป็นหมูอ่ะไม่เถียง   สำหรับ Package ผ่าตัดของที่นี่ ราคาสุทธิอยู่ที่ 50,000 บาท  สำหรับการผ่าตัดแบบเก่านะคะ  ซึ่งในแพคเกจจะรวมค่าห้องพักธรรมดา สองคืน  และค่าปฎิบัติการณ์ทั้งหมด ซึ่งในเคสของบิ้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นมา.... คือ - อัพเกรดห้องพักธรรมดาแบบ Silver เป็น Platinum ที่มีห้องพักรับแขกเพิ่ม มา และห้องน้ำสองห้อง (พอดีญาติเยอะ และห้องที่อยากได้มันเต็มอ่ะค่ะ) - เพิ่มจำนวนการเข้าพักเพิ่มอีก 1 คืน  - ค่าอาหารที่คนป่วยเรื่องมาก สั่งมากินเอง 3 วัน  (สำหรับอาหารที่นี่เป็นที่ ปลื้มมากค่ะ เพราะ Food house ของที่นี่เป็นของ S&P เข้ามาดูแล อาหารอร่อย ทุกมื้อเล้ยยยยย  ) รวมยอดทั้งหมดเลขที่ออกคือ  64,000  บาทค่ะ  โดยสามารถเคลมประกันได้ครึ่งนึง  และคุณจ๋ามีจ่ายอีกครึ่งนึง   จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:35:24

ความคิดเห็นที่ 29     โดยส่วนตัวแล้ว พอใจห้องพัก และการบริการมากๆๆๆๆๆๆๆ    และผลการรักษาเอง ขนาดเป็นการผ่าตัดเเบบเก่า บิ้นเองฟื้นตัวเร็วมากก  จนทุกคนยังตกใจ  แผลการผ่าตัด ณ ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาใดๆ ค่ะ  ไม่มีไข้ หรืออาการแทรกซ้อนใดๆเลย  แม้กระทั่ง Side effect ของการบล็อกหลัง ยังไม่มีให้เห็น...    วันๆ ว่างๆ ก็ลงไปเดินเล่น รอบโรงบาล     แอบแว่บไปวอร์ดเด็กบ้าง แอบดูเด็กๆ  ไปสระผมที่ร้านทำผมในโรงบาลบ้าง เดินไปซื้อกาแฟมากินบ้าง  เป็นที่สนุกสนานหรรษามาก....  ถ้าไม่ติดว่าเจ็บตรู๊ดดดดนะ  นึกว่ามาตากอากาศซะอีก ฝากไว้ซักนิดด้วยความเป็นห่วง ถ้าใครที่มีอาการดังกล่าวข้างต้น ตามที่บิ้นแปะไว้ให้อ่าน  อย่าอาย รึมัวแต่ชะล่าใจนะคะ รีบไปหาหมอตั้งแต่เนิ่นๆ  มันจะรักษาง่ายมากกกก   และไม่ต้องมาทนทรมาน และเสียสุขภาพแบบนี้... โชคดี  สุขภาพแข็งแรงทุกคนค่า  ปล. ถ้าหลังไมค์มาตอบช้าไม่ทันใจ ต้องการข้อมูลแบบด่วน  ตามมาอัพเดทอาการรายวันได้ที่  FB เสิร์ช ว่า  ชื่อริบบิ้น  แม่ตั้งให้นะคะ    น่าจะตอบได้ไวกว่าเยอะ   จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:47:47

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าใครเพิ่งมีอาการระยะเริ่มแรก ให้ปอกเปลือกว่านหางจรเข้ ล้างเมือกออก แล้วตัดให้เป็นแท่งนำไปแช่แข็ง แล้วเอามาจิ้มก้นให้มิด ถ้าอยู่บ้านทั้งวันก็จิ้มเช้าเย็น เวลาถ่ายมันก็จะออกมากับอึ เองแหละค่ะ ถ้าไม่แช่แข็งมันจะนิ่มจิ้มไม่เข้า ช่วยรักษาอาการอักเสบ แสบคัน จากคุณ : AlwaysCraft เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:37:51

ความคิดเห็นที่ 31 เคยฟังประสบการณ์แบบนี้มาแล้วทำให้ตัดสินใจอยู่กับเค้าดีๆ แล้วอ่ะคะ ยิ่งฟังยิ่งน่ากลัวอ่าา เป็นตายยังไงก็ไม่ผ่า ฮื่อๆ จากคุณ : wan-tor เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:11:14

ความคิดเห็นที่ 32 ผ่าแล้ว มีโอกาสเป็นใหม่เพิ่มหรือเปล่าคะ จากคุณ : JointJoint เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:53:46

ความคิดเห็นที่ 33 ผมเคยเป็นครับ ถ่ายเป็นเลือดด้วยครับ พอจะทราบตัวเองครับ ว่าเป็นเพราะอะไร เวลาถ่ายอุจจาระชอบเบ่งครับ นั่งนานๆ มีอยู่วันนึง ตื่นมากลางดึก เลือดไหลใส่บ๊อกเซอร์ยังกับ ประจำเดือนผู้หญิงเลยครับ เลยไปหาคุณหมอ แต่คุณหมอบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก เลยให้แค่ยาเหน็บ กับยาเม็ดสีดำๆ ผมจำไม่ได้ชื่ออะไรแต่มันทำให้เวลาถ่าย แล้วสีดำมากๆครับ จากนั้นเวลาเป็นก็จะซื้อยาเหน็บเองเลยครับ จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร พร็อคโต อะไรซักอย่าง.. ปล. เล่าสู่กันฟังครับ แต่ของ จขกท. อาการน่ากลัวกว่าผมมากครับ จากคุณ : bundoh เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 21:13:16

ความคิดเห็นที่ 34 ผมมีอาการข้างเคียงจากการบล็อกหลังอีก 3 4 วัน คือ หน้ามืด เวียนหัว วันแรกนี่นั่งถ่ายอยู่ดี ๆ เกือบล้ม แอร์เย็นแต่เหงื่อแตกซิก ต้องเรียกพยาบาลมาหยิบน้ำผลไม้ให้กินทันที กลับมาบ้านก็ยังมีหน้ามืดเวียนหัว แต่ค่อย ๆ น้อยลง จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:20:33

ความคิดเห็นที่ 35 จขกท.ทำเรื่องน่ากลัวให้อ่านสนุกมากๆเลยค่ะ ขอให้หายไวๆนะคะ จากคุณ : chemistry_lism เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:21:50

ความคิดเห็นที่ 36 กินโจ๊กอยู่ แทบพุ่ง! จากคุณ : ชอบเลี้ยงปลา เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 06:58:35

ความคิดเห็นที่ 37 ผ่าเมื่อ16+ปีก่อน เจ็บหลายสัปดาห์ ไม่กล้ากินอะไรเลย กลัวอึแข็งเวลาถ่ายแล้วครูดแผล ผลคือน้ำหนักลบฮวบๆอย่างโทรมเลยค่ะ แต่พอหายเจ็บแผล(เกือบเดือน)กินได้ สบายจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งน้ำหนักที่เพ่มมากกว่าเดิมเพราะกินได้ทุกอย่าง ไม่ต้องกลัวเรื่องอร่อยปากลำบากตรู๊ดอีกแล้ว จากคุณ : สาวเกิน100 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 09:17:18

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้ากินยาตั้งแต่ต้นก็หายนะครับ เมื่อก่อนเป็นบ่อยเกือบทุกเดือน มันมียาแก้โรคนี้โดยเฉพาะหาซื้อได้ตามร้านขายยาครับ จากคุณ : เป็นตับ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 09:45:29

ความคิดเห็นที่ 39 แม่เจ้า ครึ่งแสน จากคุณ : bunkul เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 09:53:36

ความคิดเห็นที่ 40 สามีเคยไปผ่าที่ BNH เป็นการผ่าตัดแบบใหม่ ลักษณะคล้าย ๆ แม็กเย็บกระดาษ คือ ตัดและแม็กเย็บแผลในคราวเดียวกันเลย นอนพักฟื้น 2 คืน หมดราว ๆ 7 หมื่นกว่าบาท (เมื่อ 2 ปีที่แล้ว)ราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นในช่วงนั้น เบิกประกันเอไอเอ ได้เกือบหมดเลย สามีบอกว่า ถ้าผ่าแล้วสบายแบบนี้ คงผ่าไปนานแล้ว ไม่น่าเก็บไว้ทรมานเป็น 10 ๆ ปีหรอก จากคุณ : หนูหิ่น อินเตอร์ฯ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 10:47:39

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับความรู้และภาพปลากรอบค่ะ ^^ จากคุณ : anatchanan เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 12:45:13

ความคิดเห็นที่ 42 พญาไท 2 ดูแลดีมากครับ คอนเฟิร์ม เพราะเคยผ่าตัดใหญ่สองครั้งในชีวิต ก็ใช้บริการที่นี่ทั้งหมด อาหารอร่อยทุกมื้อ อย่างกับไปสั่งกินในร้านอาหารดี ๆ ห้องพักก็สะดวกสบาย ดูเผิน ๆ นึกว่ามาตากอากาศ ไม่ได้มารักษาตัว จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 13:15:42

ความคิดเห็นที่ 43 5555+ ตัดแร้ว คราวนี้แปลงร่างเป็นลิงยักษ์ไม่ได้แร้วน้าาาาา หายไวไวจ้า แพนด้า จากคุณ : Bigna เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 13:17:56

ความคิดเห็นที่ 44 หายไวๆคะ ขออนุญาตแอดเฟสบุ๊ค ไปแล้วนะค่ะ จากคุณ : มีความสุขสุดๆ (มีความสุขสุดๆ) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 13:45:14

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านแล้วเจ็บและเสียวแทนเลยค่ะ หายเร็วๆนะคะ ส่วนตัวเราน่าจะเริ่มแรกเพราะท้องผูกบ่อยๆ อาศัยเพชรสังฆาตแบบแคปซูล ได้ผลดีเชียวค่ะ อยากไปหาหมอแต่ยังอายเหมือนกัน สมัยนี้หมอหนุ่มๆหล่อๆทั้งนั้นด้วยค่ะ จากคุณ : กาหยู เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 15:18:28

ความคิดเห็นที่ 46 ก่อนหน้านี้มีอาการเจ็บ และคันมากเลยค่ะ ถ่ายเป็นเลือดด้วย แถมเป็นติ่งเนื้อออกมาด้วย ว่าจะไปพบคุณหมดเหมือนกัน แต่ก็กลัวโดนให้ผ่าเลยยังไม่ได้ไปซักที แหะ แหะ แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่เจ็บ ไม่มีเลือด แล้วติ่งเนื้อก็เหมือนผลุบเข้าไป ก็เลยงงว่าตกลงเป็นแน่รึป่าว และควรไปหาหมอดีมั้ยเนี่ย เป็นมาตั้งแต่กุมภาแล้ว กะว่ากรกฎานี้จะไปพบคุณหมอตรวจดูก่อนตัดสินใจ จากคุณ : ปาราวตี เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 16:05:30

ความคิดเห็นที่ 47 แงๆๆๆ มันเหมือนหัวใจไก่เลยอ่ะ แล้วเค้าจะกินหัวใจไก่ปิ้งเสียบไม้ลงได้ไงอ่ะ       สงสัยงดไปสักเดือนก่อน จากคุณ : fuji_fancy เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 16:10:42

ความคิดเห็นที่ 48 ในส่วนของประกัน อย่าลืมอัพเกรดสวัสดิการค่าห้องเพิ่มนะครับ จากคุณ : jomnalists เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 08:23:31

ความคิดเห็นที่ 49 ขอเล่าประสบการณ์ที่เคยผ่าเมื่อปี 52 บ้าง เป็นชนิดเดียวกันเลย ขนาดพอ ๆ กัน กว่าจะก้าวผ่านความอายได้ เจ็บแล้วเจ็บอีก จนอายุสามสิบกว่า ๆ อายน้อยแล้ว ก็เลยตัดสินใจหาหมอดีกว่า ตอนนั้นผ่าที่ รพ. กลาง บล็อกหลัง หมอให้ไฟเบอร์มากิน เช้ารุ่งขึ้นก็ถ่ายสบาย ให้นั่งแช่น้ำอุ่น เจ็บน้อยถึงไม่เจ็บเลย พักฟื้น 1 อาทิตย์ จากคุณ : แมงคามท้องลาย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 10:43:16

ความคิดเห็นที่ 50 แค่อ่านก็เจ็บตรูดรอเลย  ไม่อ่ะ...ไม่กล้าผ่าเด็ดขาดเค้ากลัวเจ็บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : chapa66 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 12:30:52

ความคิดเห็นที่ 51 เสียวตูดอ่ะ อ๊ากกกกกกกกกกก ขอให้อาการดีขึ้นทุกวันนะคะ จากคุณ : What i'm try to say is เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:37:36

ความคิดเห็นที่ 52 เข้ามาอ่านและมาโหวต พร้อมแจกกีฟให้ จขกท ค่ะ เป็นกระทู้ที่เขียนได้น่าอ่าน  ฮามากๆ ด้วย   เป็นประโยชน์มากค่ะ จากคุณ : Jintawanee เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:44:37

ความคิดเห็นที่ 53 แอบขนลุกเลย เพราะตัวเองก็เป็น แบบว่าระยะแรกน่ะค่ะ จากคุณ : saraekthong เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:04:09

ความคิดเห็นที่ 54 ใครยังลังเล ให้ผ่าเลยนะครับเก็บไว้ไม่ดีหรอก แต่เจ็บจริงๆ นะ ผมได้ใส่ผ้าอนามัยก็เพราะผ่าตูดนี่แหละ ป.ล. แช่ก้นในน้ำอุ่นสบายดีนะ จะเจ็บน้อยลง จากคุณ : ฝีคัณฑสูท เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:43:00 A:27.130.147.195 X: TicketID:035712

ความคิดเห็นที่ 55 หายไวๆนะครับ จากคุณ : Aqave เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 22:46:09

ความคิดเห็นที่ 56 นึกถึงกระเพราตับ จากคุณ : 180cc (ปะเกิ๊บปะเกิ๊บ) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 14:00:06

ความคิดเห็นที่ 57 มาแว้ววววววววค่า.........​ ริบบิ้นมาแว้วววววววววววววววววว    ไม่ได้ตั้งใจจะหายหน้า....แต่ที่หายหน้าไปเลย..   เพราะเจ็บหนักอ่ะค่ะ  ฮือๆๆๆๆๆๆ   ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเม้นท์   ขอบคุณทุกๆ แรงใจ และกำลังใจนะคะ...  ฮึบ ฮึบ  สู้ สู้  อย่างที่รู้กันคืือหลังจากที่ผ่ามาเสร็จ  บิ้นก็มาเขียนโม้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย ตอนนี้บิ้นมีอาการหลังผ่าคือ...   เหมือนหมอต่อสายตรงมาให้อ่ะค่ะ แบบว่าบริการสายซ้อนแบบรอได้ คุณหมอฮีคงไม่ได้เปิดแพคเกจไว้ให้...   มันเลยแบบว่าเกิดอาการถ่ายง่ายมากกกกกกกกกกก   นั่งพี๊พีอยู่ดีๆ นังพู๊พู ก็เสนอหน้ามาซะงั้น ไม่ต้องขอสายซ้อนให้เสียเวลา  วันนึง 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทานไฟเบอร์อะไรเสริม  ทานแค่อาหารปกติ ธรรมดาเท่านั้น...    ที่สำคัญคือ นังพู๊พูเนี่ยชีอดใจรอคิวไม่ได้เลย... ถ้าเธอจะออกต้องพาเธอไป เดี๋ยวนั้น...  ไม่งั้นมีเรื่อง !!!!!   เวง...  กำ และผลจากการถ่ายบ่อย... ทำให้แผลระบม สุดท้ายเมื่อวาน  นั่งชักโครกอยู่ดีๆ  แอบผายลมมาปุ๋งนึง แม่เจ้าาาาา !!!  แทบกรี๊ดดดด  เลือดสดๆ ไหลหยดแดงเถือกเต็มโถเลย  ฮือๆๆ   ร้องหาคุณจ๋ามีให้เอาโทรศัพท์มาให้ รีบถ่ายรูป ไว้ไปให้คุณหมอดู    เมื่อสายๆ ไปหาคุณหมอมาแล้ว...  สรุปว่าตอนที่ตัดเจ้าหนอนออก คุณหมอมีการตัดตกแต่งความสวยงามของรูน้องตรู๊ดให้ด้วย   โดยตัดเนื้อที่มันงอกเกินออกมาไปนิดนึง... ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้บิ้นต้องเจ็บมากกว่าที่ควรจะเป็น   หมอบอกว่า...เพื่อความสวยของรูน้องตรู๊ดดด     คุณบิ้นต้องอดทนนะครับ   ฮ่วย !!!!!!!!!!!!!!    หมอคิดว่านู๋จะไปโชว์ตรู๊ดให้ใครดูอีกรึงายเนี่ย....   และส่วนที่ถ่ายบ่อยๆ ประหนึ่งต่อสายตรงนั้น....   เป็นเพราะผลข้างเคียงจากการทานยาฆ่าเชื้อครับ...  เดี๋ยวก็เป็นปกติไม่ต้องตกใจ เพราะตอนผ่านั้นเราไม่ได้ไปวุ่นวายอะไร กับคุณหูรูดเค้าเลย ไม่ต้องเป็นห่วง อดใจนิดนึงเดี๋ยวระบบก็จะเป็นปกตินะ....  เฮ้อ... โล่ง หลงตกใจกลัวอยู่ตั้งนาน... ว่าจะเขียนพินัยกรรมสั่งลาให้เรียบร้อยแระ   หาหมอเสร็จเรียบร้อย จ่ายค่าโชว์ตรู๊ดตัวเองให้หมอดูไป 500  ก็เดินล้นล้ากลับบ้านพร้อมคำสั่งใหม่... คือ  งดเดินมากๆ และเป็นเวลานานๆ เด็ดขาดดดดด !!!!  นอนตะแคง หรือนอนคว่ำจะดีที่สุด อาหารสามารถทานได้ทุกอย่างปกติ  รสจัดได้ไม่ต้องระวังมากมาย  ทานผักผลไม้เยอะๆ ได้จะดีมาก...   และสุดท้าย... สั่งพักยาวถึงกลางเดือนหน้า เผื่อให้แผลหายสนิทจริงๆ ก่อน  จบข่าว....   ฟังแล้วอยากจะบร้า การอยู่นิ่งๆ เนี่ย  มันเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดมากกกจริงๆ นะคะ        ด้วยความปรารถนาดีจากใจ.... ใครที่เพิ่งเริ่มมีอาการ  รีบพบแพทย์เลยนะคะไม่ต้องอาย....  ห่วง ห่วง ห่วง  ไม่อยากให้ใครต้องเจ็บเหมือนตัวเอง  งิงิ   บุญรักษา โรคภัยไม่มี สุขภาพดีทุกคนนะคะ   จากคุณ : มู๋ด้า เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:24:38

ความคิดเห็นที่ 58 เคยมีประสบการณ์ผ่าแบบ จขกท. หลังจากผ่าเสร็จซักพักใหญ่ๆ พยาบาลมาถามว่าฉี่เองได้ไหม (ตอบไปว่าฉี่ไม่ออก เพราะมันยังชาครึ่งตัวล่างอยู่) เท่่านั้นแหละพวกเอาสายยางสอดเข้าทางรูปัสสาวะ โอ้โห!! รู้เลยครับว่านรกมีจริง แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 18:43:24 จากคุณ : นักเลงไขมัน~* เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 18:36:28

ความคิดเห็นที่ 59 โอยยยยยยยย ตัวเองก็เป็นค่ะ แต่มันกลับเข้าไปเองได้แล้วไม่เจ็บ อ่านจบแล้วไม่กล้า ไม่อยากจะไปหาหมอเลย TT~TT   ไม่อยากจะแหกทูดให้หมอดูแล้วยังกลัวเจ็บอีกตะหาก จากคุณ : M-TinA เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 19:01:16

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณที่แชร์ประสบการ์ณนะคะ จากคุณ : cocktal_19 เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 20:43:29

ความคิดเห็นที่ 61 เราก็เป็นค่ะ หัว1 อยู่ข้างนอก เวลาพูพู๊จะชอบออกมา  ตอนล้างก็ต้องพับมันเก็บ เรื่องเลือดนี่ จำได้ว่าไม่ค่อยมี นานๆครั้งที่มีเลือดหยด ไม่มาก เลยไม่ได้ไปตัดออก แม่เราเคยไปผ่า  ก็เล่าให้ฟังเหมือนกันว่าเจ็บมากๆๆ แล้วถ้าไม่เปลี่ยนวิถีการกิน มันก็จะผุดขึ้นมาได้อีกค่ะ T_T จากคุณ : ยัยใบเตย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 05:02:47

ความคิดเห็นที่ 62 บรรยายไม่ถูก จากคุณ : มิลัน (miluntaza) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 15:21:51

ความคิดเห็นที่ 63 ตอนอายุ 20 เป็นครั้งนึง เจ็บมาก แต่แค่จี้ออกก็หาย 10 ปีผ่านไป เป็นเยอะมาก ผ่าตัดที่ศูนย์แพทย์ ไม่ต้องบล็อกหลัง ไม่ต้องดมยาเลย 7 พันกว่าเอง พักไม่นานด้วย ปีนี้กำเริบอีกระ...เห้อออ จากคุณ : via iPhone (บ้าแพะ) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:57:10

ความคิดเห็นที่ 64 ผมก็เคยผ่าครับ พี่ริดสิงสถิตก้นผมตั้งแต่อายุสิบห้า มาตัดสินใจผ่าพี่เขาออกตอนอายุสามสิบห้า จากแรกๆ มีพี่เขาหัวเดียวครับ แต่ยี่สิบปีผ่านไป พี่เขาแต่งงานมีลูกอีกหนึ่ง รวมเป็นสามหัว!!! เกือบยี่สิบปีที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พี่และครอบครัวเขาไม่เกเรเท่าไหร่ครับ แต่ปีที่ยี่สิบ สงสัยพี่เขาคงเบื่อ ชอบออกมาดูโลกภายนอกบ่อยเหลือเกิน เดินนานหน่อยก็แลบ เล่นกีฬาไม่ต้องพูดถึง แลบตลอด เลยตัดสินใจผ่าเพราะใช้ชีวิตลำบากครับ คนอะไรแป๊บๆ เข้าห้องน้ำ อีกแป๊บนึงเข้าห้องน้ำอีกแล้ว ตอนแรกก็กะว่าจะผ่าในกทมฯ เหมือนกัน แต่สุดท้ายตัดสินใจไปผ่าที่ตรัง เพราะค่าผ่าหมื่นห้า กำเงินไปสามหมื่น ขับรถไปกันสี่คน ไปถึงก็ผ่าเลย ผ่าแบบฉีดยาชา เจ็บหน่อยนึง แต่อีกวันก็หลั่นล้าเที่ยวเกาะ ดำน้ำดูประการังเลย ทั้งหมดสามหมื่น ค่าผ่าหมื่นห้าที่เหลือเป็นค่ากิน ค่าเที่ยว ค่าน้ำมัน คห.63 กี่ปีถึงกลับมากำเริบครับ? ของผมพอรู้สึกว่าหรือสงสัยว่าพี่ริด(สามหัว)เขาน่าจะกลับสิงก้นผมอีกครั้ง ผมก็กินเพชรสังฆาตกันไว้ก่อนเลย พี่เขาก็หายหน้าหายตาไป หรือถ้าช่วงไหนท้องผูกหนักๆ ผมจะหาลูกสมอมากิน กินสดๆ ทั้งเปลือกหรือปอกเปลือกจิ้มพริกเกลือก็ได้ รสมันจะขมมากหน่อย แต่ถ้ากินบ่อยก็ชินแล้วก็จะรู้สึกอร่อยไปเองครับ แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว คนธาตุอ่อนกินครึ่งลูกก็เห็นผลแล้ว แต่สำหรับผมต้องสี่หรือห้าลูกขึ้นไปเพราะธาตุแข็งมาก จากคุณ : โสภณ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 23:56:30

ความคิดเห็นที่ 65 เข้าใจอารมณ์ บล็อกหลังเลย เราทรมานมาก ฉี่เองไม่ได้ และปวดท้องสุดๆ แถมโดนสวนฉี่อีกต่างหาก T^T จากคุณ : lessimol เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 00:39:11

ความคิดเห็นที่ 66 โหดมากกก ไม่อยากเป็นเลย จากคุณ : OreOแง่มๆ เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 01:17:17

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านแล้วทำให้รู้สึกโชคดีมากที่ตัวเองไม่เป็น ไม่งั้นแย่แน่ๆเลย T.T จากคุณ : Jankenpyon เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 16:02:55

ความคิดเห็นที่ 68 ผมก็ผ่ากับคุณหมอคนเดียวกันเลยครับ แต่ที่โรงพยาบาลอื่น เหมือนคุณหมอจะเป็นมือปืนรับจ้างอยู่หลายที่เลย ผ่าในเวลาใกล้เคียงกันเลยครับ แต่ผมไม่เจ็บปวดเท่าไหร่ สบายๆ เลยล่ะครับ คุณหมอให้พัก 10 วัน วันนี้ไปทำงานเป็นวันแรก นึกว่าจะนั่งทำงานไม่ได้ แต่ก็นั่งได้ไม่เจ็บอะไรมาก ผ่าแบบเก่าเหมือนกันครับ เพราะว่าอักเสบ ผ่าด่วนเลย เข้าตรวจที่ opd อีก 1 ชั่วโมงต่อมาเข้าห้องผ่าตัดเลย ขอให้ จขกท หายไวๆ นะครับ ^.^ จากคุณ : mrkimmy เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 22:18:32