ความคิดเห็นที่ 1 เป็นเพราะการสั่งสอนของพ่อแม่ด้วยครับ ไม่มีภูมิคุ้มกัน สนใจแต่เรื่องผู้ชายเพราะไม่มีเป้าหมายในชีวิตอยู่ด้วยตนเองไม่ได้ ต้องโทษที่คนเลี้ยงครับ จากคุณ : sittichai007 เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 14:02:20

ความคิดเห็นที่ 2 เป็๋นหรือไม่เป็นตอนนี้ไม่สำคัญครับ คุณแม่ลองปรับวิธีการคุยกับลูกดูนะครับ ลองไปปรึกษากับจิตแพทย์ดูก่อนก็ได้ครับ จากคุณ : รากแก้วประดู่ เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 14:02:26

ความคิดเห็นที่ 3 ลองพาแกไปพบจิตแพทย์ดูสิค่ะ จากคุณ : บัวลอยน้ำใส เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 14:55:54

ความคิดเห็นที่ 4 ส่งกำลังใจให้ค่ะ   ก็ ต้องลอง พบแพทย์ดู  ค่ะแล้วก็ ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม  แกดูค่ะ  ไม้แก่ดัดยาก  ก็ต้องเด็ดขาดค่ะ  คุณแม่ลอง ชวนแก ทำกิจกรรม อื่นๆ  ดึงความสนใจของแก   พาไปออกกำลังกายบ้าง  เข้าวัดปฎิบัติธรรม ดูบ้างค่ะ ช่วยขัดเกลาจิตใจ ของลูกสาวดู   รู้ว่ามีความทุกข์   ลองใช้ปัญญาดับทุกข์ดูนะค่ะ จากคุณ : honeybfit เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 16:15:36

ความคิดเห็นที่ 5 ขออภัยนะคะ  คุ้นๆจังเลย  เหมือนเคยมาโพสกระทู้เรื่องลูกสาวในห้องนี้หลายครั้งแล้วรึเปล่าคะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 17:27:33

ความคิดเห็นที่ 6 คนเรา ก็มีโอกาสผิดพลาดในชีวิต ได้ทั้งนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่ ความบกพร่อง ของใครทั้งสิ้น ไม่ต้องไปหาสาเหตุนะคะ เมื่อเจ็บมา เราก็ให้แต่ความเห็นใจ เยียวยากันถึงที่สุด โดยเฉพาะกับลูก ลูกเจ็บ  แม้เขาจะยิ้ม เขาก็อาจกำลังเจ็บที่สุด กำลังใจจากแม่ สวยงามที่สุดนะคะ และบาดคมจากคำพูดของแม่ ก็เฉือนใจลูกได้มากที่สุดเช่นกัน สงสารลูกเถิดค่ะ ถ้าเราไม่สงสารลูก แล้วใครจะสงสารลูกคะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 55 19:49:34 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 55 19:49:07 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 55 19:48:24 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 55 19:47:43 จากคุณ : ลมสบาย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 19:46:43

ความคิดเห็นที่ 7 คห5 คะ  ใช่ค่ะ จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 20:02:55

ความคิดเห็นที่ 8 ถามนิดนึง 1) คุณทำงานกี่โมง กลับบ้านกี่โมงคะ 2) ทานข้าวเช้ากับข้าวเย็นกับลูกไหมคะ 3) ลูกยังเรียนหนังสืออยู่ไหมคะ 4) เคยพาลูกไปดูหนัง, shopping, เที่ยวต่างจังหวัด บ้างไหมคะ 5) เสาร์อาทิตย์ คุณทำอะไรคะ 6) พ่อเค้าอยู่ที่ไหนคะ จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 20:31:56

ความคิดเห็นที่ 9 เด็กขาดความอบอุ่นหรือเปล่า แต่แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เถอะค่ะ จากคุณ : Alex on the rock เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 21:01:19

ความคิดเห็นที่ 10 คห8 คะ 1. เป็นครูโรงเรียนมัธยมต่างจังหวัดค่ะ  ไปกลับๅคล้ายนักเรียน  ต่างกันบางวันต้องช่วยงาน พิเศษ  ผูกผ้าตกแต่งเวทีค่ะ 2. ลูกไม่ค่อยทานกับพ่อแม่  เขาแยกทานคนเดียวหน้าทีวี(ชอบอาหารไม่เหมือนกันเลย เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆของดิฉันค่ะ  ดิฉันไม่มสามรถมีลูกได้) 3,ลูกท้องตอน  ม.4  กันเด็กเกเร  ดิฉันจึงให้ออกมาเรียนกศน   พร้อมแฟนเขา  จนจบ ม  ,6  ค่ะ  ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย  เขาไม่ยอมเรียนและพึ่งเลิกกับแฟนคนที่ทำให้ ท้อง 4. เคยค่ะ  แต่ส่วนใหญ่เขาต้องพาเพื่อนไปด้วย  ตั้งแต่เด็กแล้ว  เขาไม่ค่อยชอบไปกับ พ่อแม่เลยค่ะ 5. ตอนคุณย่ายังอยู่จะเดินทางไปเยี่ยมท่าน(เพราะท่านเลี้ยงมา  ดิฉันก็เป็นลูกบุญธรรม ค่ะ  แต่ลูกสาวดิฉันแจ้งเกิดเองค่ะ)  ปัจจุบันไปเยี่ยมพ่อบุญธรรมค่ะ  ลูกสาวไม่ยอมไป ด้วยทุกครั้ง  นอกจากมีเพื่อนไปด้วย   เพราะเขาไม่สนุก 6. สามีดิฉันขี้โรคเป็นภูมิแพ้  ไม่ค่อยพูด  ปล่อยให้ดิฉันเป็นผู้นำ  เขาไม่ได้ทำงานมา นานแล้ว  แต่ไม่ฟุ่มเฟือยไม่ค่อยช่วยเหลือดิฉัน  จึงมีเงินเก็บมากว่าดิฉัน แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 55 21:12:24 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 55 21:11:02 จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 21:07:37

ความคิดเห็นที่ 11 เราไม่ได้เป็นหมอ แต่จากที่อ่านดู เค้าไม่ได้เป็นโรคจิต แต่เค้าขาดความอบอุ่นอย่างรุนแรง 1) เป็นครู ยังไงๆต้องมีเวลาอยู่กับลูกอยู่แล้ว เพราะไม่ต้องทำงานกะดึก เลิกงานแล้วคุณทำอะไร เคยสอนการบ้านลูกไหม คุณนอนกี่โมง 2) ชอบอาหารไม่เหมือนกัน ก็ทานพร้อมกันได้ เวลาเค้าทานคนเดียวหน้าทีวี คุณเคยตามไปนั่งทานใกล้ๆไหม 3) เค้าใช้เงินใคร คุณเคยหางานให้เค้าทำไหม  เขาไม่ยอมเรียนเค้าโดดเรียนหรือยังไง เคยไปส่งเค้าที่โรงเรียนๆไหม เคยแอบไปดักดูเค้าบ้างไหม 4) เคยถามเค้าไหมว่าทำไมไปเที่ยวกับพ่อแม่แล้วไม่สนุก 5) เสาร์อาทิตย์ ไม่คิดจะทำอย่างอื่นนอกจากไปเยี่ยมญาติเลยเหรอ ไปเยี่ยมแต่ญาติ ผู้ใหญ่นั่งคุยกัน เด็กจะสนุกตรงไหน 6) พ่อก็ว่างนี วันๆไม่ฟุ่มเฟือย แล้วนั่งเฉยๆนี่นะ ก็ให้พ่อไปตามรับตามส่งลูกไปโรงเรียนบ้างสิ 7) เค้าเป็นลูกใคร คุณเอาเค้ามาเลี้ยงได้ยังไง อ่านแล้วแบบโมโหอ่ะ เลี้ยงลูกแบบนี้ได้ไง คุณทิ้งขว้างเค้ามากๆเลยนะเนี่ย จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 21:52:29

ความคิดเห็นที่ 12 คห11 คะ ดิฉันไม่ได้เล่ารายละเอียด  ได้แต่ตอบกว้างๆ  ทำให้คุณคิดว่า  ดิฉันทิ้งขว้างเขา  ดิฉันไม่ได้ ทิ้งขว้าง  ใครๆก็เห็นว่าดิฉันรักเขามากเกินไป  ตามรับตามส่งเพื่อนๆเขาเพื่อมาเรียนและ ทำการบ้านกับดิฉันทุกวันแถมหุงข้าวเลี้ยงเพื่อนๆเขาด้วย  เพราะลูกสาวมีปัญหาด้านการ เรียนตั้งแต่เด็ก    ดิฉันพาเขาไปหาหมอที่จุฬาแล้ว  หมอสรุปว่สเขาสมองทึบ  ดิฉันจึงสอน เขาเป็นพิเศษทุกวัน  เขาไม่ชอบเรียนได้ที่สุดท้ายประจำ ดิฉันนอนกับเขาตลอดเวลา  พึ่งจะแยกตอนเขามีแฟนนี่แหละค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 08:30:57 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 55 22:11:34 จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 22:08:12

ความคิดเห็นที่ 13 รบกวนตอบตามที่เราถามมาด้วยเป็นข้อๆ เราอยากจะช่วยและอยากจะเข้าใจค่ะ จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 22:15:17

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะ  คุณ Hellknight 1. ตอนลูกเรียนหนังสือ  ดิฉันติดตามการบ้านลูกทุกวัน  แต่ลูกบอกไม่ค่อยได้  ดิฉันต้อง สอบถามจากเพื่อนๆเขาบ้าง   จากครูบ้าง  เกือบทุกวันค่ะ  นอนกับเขา  เล่านิทานหรือเปิด เทปนิทานทุกคืนจนหลับไป  ดิฉันไม่ได้นอนกับสามีเลย  นอนกับลูกมานานแล้ว  จนลูกมี แฟน 2. เคยค่ะ  แต่เขาไม่ค่อยชอบให้ไปยุ่งเขา  บ้านดิฉันซืออาหารทานค่ะ 3. ใช้เงินดิฉันค่ะ  เขาไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียน   การบ้านไม่เสร็จทุกวัน  ดิฉันต้องตาม เคลียร์ประจำค่ะ  ยอมรับว่าดิฉันเครียดกับเขาเรื่องเรียนมากค่ะ 4. เคยถาม  แต่เขาไม่ตอบ  เขาตอบคำถามอะไรไม่ค่อยได้ค่ะ 5. ดิฉันคิดว่าวันจันทร์ถึงศุกร์ดิฉันอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูกมากแล้ว   วันเสาร์หรืออาทิตย์จะ ไปเยี่ยมดูแลผู้มีพระคุณค่ะ(วันเดียวค่ะ   อีกวันก็ไปเทีียว  แต่ลูกไม่ชอบไปถ้าไม่มีเพื่อน ไปด้วย  ดิฉันต้องพาเพื่อนเขาไปด้วยเสมอ) 6. ตอนประถมพ่อก็ไปรับส่ง   ลูกชอบเล่นกับเพื่อนไม่ยอมกลับ  จนกว่าเพื่อนกลับหมด จึงจะกลับ  พ่อเขาไม่รอ   บางครั้งดิฉันจึงต้องไปรับเอง   7. เป็นหลานของนักเรียน  เกิดมาไม่มีพ่อ จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 22:37:19

ความคิดเห็นที่ 15 จำได้แล้วครับ ที่เป็นครู แต่ไม่มีปัญญาสอนลูกตัวเองใช่มั้ยครับ หายไปนานเลยนะครับ ซวยครับ อุตส่าห์หาเด็กมาเลี้ยง ไปเอาควายมาเลี้ยงแทน ปลดเชือกออก แล้วปล่อยไปเถอะครับ เด็กคนนี้ คงหาผัวได้ไม่ยากครับ ไม่มีอะไรต้องห่วง คิดเสียว่าไม่ใช่ลูกเราตั้งแต่ต้นนะครับ รำคาญคุณ จขกทนะครับ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นครู เหมือนกับจะคุยรู้เรื่อง แต่ดูแล้วเอ๋อๆ บื้อๆ ไม่กล้าทำอะไร(ตั้งนานแล้ว) เด็กคนนี้เลยออกกาก ตามความสามารถคนเลี้ยงนะครับ ทำใจครับ ถือว่าซวย ลองไปหาเด็กคนใหม่มาเลี้ยงก็ได้ครับ ส่วนคนนี้ปล่อยไป อันนี้แนะนำจริงๆนะครับ ไม่ใช้ตอบเรื่อยเปื่อย ^_____^ จากคุณ : รปภ.บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า (GMPLS) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 22:37:20

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ hell knight ครับ คงไม่เคยอ่านกระทู้เก่าๆ คนเป็นแม่พยายามมากแล้วครับ แต่พยายามแบบโง่ๆไปหน่อย ส่วนคนเป็นลูก เลวเหลือรับประทานครับ ชั่วทุกรูปแบบ เคยปลอมลายเซ็นต์แม่ เอาเงิน30,000 ไปเลี้ยงผู้ชายก็มี + เลวสารพัดที่คิดได้ ด่าเด็กเถอะครับ ส่วนด่าคนเป็นแม่ ผมรับด่าให้เอง ^____^ จากคุณ : รปภ.บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า (GMPLS) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 22:42:42

ความคิดเห็นที่ 17 ขอเว้าซื่อๆ เลยนะคะ คุณครู ในเื่มื่อลูกรักจะเอาดีทางมีสามี... สอนเค้าหาสามีดีๆ ดีกว่าค่ะ กุศโลบายมีเยอะแยะมาก ที่จะหาสามี ใจเย็นๆ อย่าขี้บ่น อย่าก่นด่า รวมถึงอย่าท้อใจ แล้วชี้ชวนกันหาสามีให้ลูกดีกว่านะๆๆๆๆๆ จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 23:13:08

ความคิดเห็นที่ 18 เคยอ่านค่ะพียาม แต่อยากให้เค้าแก้เองก่อน แต่ดูแล้วยังแก้ไม่ถูกทางค่ะ ตัวหนูเองไม่มีประสบการณ์ แต่อยากช่วย เลยถามเป็นจุดๆไปค่ะ จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 23:13:48

ความคิดเห็นที่ 19 จำกระทู้เก่าของคุณได้  ปัญหาน้องมีต่อเนื่องเลยนะครับ เดาล้วนๆ นะครับ...แกขาดความนับถือหรือมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเองไปหรือเปล่า พอมีคนมาสนใจแกยิ่งเป็นเพศตรงข้ามด้วย  แกเลยยกยอเชิดชูตัวเอง ว่าการที่เป็นแบบนี้แปลว่าจะเป็นที่หมายตา  มีคุณค่าอะไรประมาณนั้นหรือเปล่า เลยไม่เลิกกับแฟนแม้มันจะแย่ยังไงก็ตาม  เพราะมัวแต่คิด  มัวแต่เชื่อว่าเค้ารักฉัน เพราะลำพังคนเรา  ถ้ารักตัวเองคิดถึงตัวเอง  รู้คุณค่าในตัวเองมากกว่านี้ ใครจะมารังแกน่ะ ไม่ยอมหรอกครับ ปกป้องตัวเองก่อนทั้งนั้น มาถึงวันนี้อยากแนะนำให้คุณพาน้องไปพบจิตแพทย์ดีกว่า เพราะลักษณะน้องดูแล้ววุฒิภาวะแกไม่โตตามตัวเลย ดูแล้วน่าจะมีปมอยู่ลึกๆ ในจิตใจ เลยก่อปัญหาวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นขนาดนี้   ปล.จริงๆ มีข้อสันนิษฐานเรื่องระดับสมองของน้องด้วย ลองเช็คดูนะครับ อาจบอกอะไรได้ จากคุณ : หัวใจข้างซ้าย พวงมาลัยข้างขวา เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 23:20:48

ความคิดเห็นที่ 20 1) ติดตามการบ้านลูกทุกวัน <-- อยู่ทำกับเค้าจนเสร็จไหมคะ 2) นอนกับเขา <-- ตอนโตแล้ว ก่อนนอนทำอะไร ชวนกันสวดมนต์ไหม คุยเล่นกันก่อนไหม หรือหันหลังชน ต่างคนต่างนอน 3) การบ้านไม่เสร็จทุกวัน  ดิฉันต้องตามเคลียร์ประจำค่ะ <-- ตามเคลียร์คือ? 4) เขาตอบคำถามอะไรไม่ค่อยได้ค่ะ <-- ก็เลยปล่อยทิ้งไว้งั้น คุณไม่อยากรู้เหรอคะ ว่าทำไม 5) อยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูกมากแล้ว <-- มีกิจกรรมอะไรร่วมกันไหมคะ ก็เห็นต่างคนต่างกินข้าว หรืออยู่แค่ใต้หลังคาเดียวกันเลยเรียกว่าอยู่ด้วยกัน วันเดียวค่ะ   อีกวันก็ไปเทีียว  แต่ลูกไม่ชอบไปถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วย <-- ไปเที่ยวไหนกันคะ ทำอะไรบ้าง 6) พ่อเขาไม่รอ   บางครั้งดิฉันจึงต้องไปรับเอง <-- ตอนเอาน้องเค้ามาเลี้ยง สามีคุณคิดเห็นยังไง เห็นด้วยตั้งแต่เริ่มไหม มีทะเลาะกันบ้างไหม 7) เป็นหลานของนักเรียน  เกิดมาไม่มีพ่อ <-- แม่ตัวจริงเค้ามาหาบ้างไหม 8) น้องเค้ารู้ความจริงว่าเค้าไม่ใช่ลูกคุณเมื่อไหร่ แล้วพฤติกรรมเปลี่ยนไปไหม หลังจากรู้ความจริงแล้ว ถามเยอะเพราะว่ามันละเอียดอ่อนนะคะ จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 23:38:29

ความคิดเห็นที่ 21 เรามีการบ้านให้คุณ 1 อย่าง พรุ่งนี้นะคะ ชวนลูกสาวทานข้าวเย็น ซื้อของที่เค้าชอบมานั่งทานด้วยกัน เค้าอยากนั่งทานที่ไหน คุณต้องตามไปนั่งทานกับเค้า แล้วพูดตามนี้ "วันนี้แม่ซื้อ...ที่ลูกชอบมาให้ด้วย มากินด้วยกันสิ" ระหว่างกิน ให้ถามว่า "แล้วแฟนลูกชอบทานอะไร แล้วเพื่อนลูกคนนั้นหล่ะชอบทานอะไร " ตะลอมถามไปเรื่อยๆแบบชวนคุย เข้าใจไหมคะ ไม่เอาแบบจับผิด ต้องไม่ด่าว่าใครเด็ดขาด ให้พูดแต่เรื่องดีๆ กินเสร็จ "วันหลังชวนแฟนมากินข้าวด้วยกันสิ เค้าชอบกินอะไร เดี๋ยวแม่ซื้อเตรียมไว้ให้" คำพูดอาจจะดูลิเก 555 แต่เราอยากรู้พฤติกรรมลูกคุณ พรุ่งนี้มารายงานด้วยนะ ว่าเป็นไง จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 00:01:01

ความคิดเห็นที่ 22 ถามไปก็ป่วยการณ์ครับ คุณ hellknight เดี๋ยวครูเค้าคงเข้ามาตอบ มาอธิบายทุกข้อ แถมมีเหตุผลดีๆ คิดว่าตัวเองทำดีแล้ว เหมือนเช่นทุกครั้ง (จนคนอื่นเค้าเอือม เลิกถาม/เลิกแนะนำแล้ว เพราะให้ความคิดเห็น หรือช่วยคิดอะไรไป ครูเค้าก็ไม่ทำตาม) คือครูเค้าบื้อๆ เอ๋อๆไงครับ (ตามที่บอก) ครูเค้าไม่แปลกใจ ไม่สงสัย ว่าทำไมตัวเองทำถูกทุกข้อ แต่เด็กมันถึงออกกาก อุบาทว์เพียงนี้ สามสี่เดือนที ถือว่ามาอัพเดตความห่วยแตกเด็กมากกว่า ไม่ได้มาขอความช่วยเหลืออะไร เสียเวลาถามครับ รออีก3-4 เดือน เดี๋ยวลูกไปทำเรื่องชั่วๆใหม่ ก็มาเล่าให้ฟังอีก ถือว่าอ่านฆ่าเวลาครับ เรื่องขำๆพวกนี้ ^_____^ จากคุณ : รปภ.บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า (GMPLS) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 00:01:07

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าคนเดิมที่เราคิด  ตามคุณ รปภ.บิ๊กซีว่าเลยค่ะ อ้อ  ลูกคุณไม่ได้เป็นฮิสทีเรีย หรือขาดผู้ชายไม่ได้หรอกนะคะ ลูกคุณแค่ขาด"ความรัก"แค่นั้นเอง  สิ่งที่คุณให้คือการ"บังคับ"ไม่ใช่ความรักค่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 00:10:18

ความคิดเห็นที่ 24 ลูกคุณสวยเซ็กซี่ไม๊อ่ะครับ ถ้าเด็กจะเอาดีทางมีสามี ผมช่วยได้ จากคุณ : ปลาแมน เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 01:27:35 A:110.168.82.12 X: TicketID:148264

ความคิดเห็นที่ 25 ดิฉันเห็นใจคุณนะคะ คุณคงเหนื่อยมาก เลิกผิดหวัง เลิกคาดหวังเถิดนะคะ มันเหนื่อย จงพอใจในสิ่งที่เราได้ และสิ่งที่เรามี เขาเป็นอย่างนี้ ก็ยอมรับที่เขาเป็น อย่าไปคาดหวังอะไรเลย อะไรจะเกิด ก็ปล่อยให้มันเกิดไปเถิด อะไรที่เกิดแล้ว ก็ให้มันผ่านพ้นไปเลย ให้จบ เอาเป็นว่า เพื่อความสบายใจของเรา เพื่อเขาจะอยู่เย็นเป็นสุขในชีวิตต่อไป ทำใจให้สบายๆ ดูแลเขาเหมือนเขาเป็นเด็กล่ะค่ะ หาของอร่อยให้กิน  มีที่หลับที่นอนอุ่นใจ แต่งเนื้อแต่งตัว  ดูแลเป็นห่วงเป็นใยเท่าที่จะทำได้ ทุกอย่างให้เขารู้ว่า เราเป็นห่วงเขานะ ห่วงมากๆ เขาจะไปทำอะไร ก็คงได้แต่เมตตา หมั่นบอกเขาแต่เพียงว่า "ดูแลตัวเองดีๆ นะ  แม่เป็นห่วง" และอย่าลืมดูแลตัวเองนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ อย่าลืมสวดมนต์แผ่เมตตาทุกวันนะคะ จากคุณ : ลมสบาย เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 06:17:10

ความคิดเห็นที่ 26 1) ติดตามการบ้านลูกทุกวัน <-- อยู่ทำกับเค้าจนเสร็จไหมคะ ตอบ  เสร็จค่ะ 2) นอนกับเขา <-- ตอนโตแล้ว ก่อนนอนทำอะไร ชวนกันสวดมนต์ไหม คุยเล่นกันก่อนไหม หรือหันหลังชน ต่างคนต่างนอน ตอบ  คุยกันค่ะ  เคยชวนสวดมนต์  เขาไม่ยอมสวด ก็เลยให้กราบพระก่อนนอน  ตอนโตเริ่มมีแฟน  เขาคุยกับแฟนแต่ละคน  เขาให้ดิฉันคุยด้วย  ส่วนใหญ่พอดิฉันถามว่าเรียนอะไร  แฟนๆไม่ค่อยเรียนหนังสือก็ห่างหายกันไป  เหลือคนที่มีลูกกับเขา  เพราะเป็นศิษย์เก่าดิฉัน  ดิฉันได้ช่วยให้เขาได้เรียนกศน.จนจบม6 ค่ะ 3) การบ้านไม่เสร็จทุกวัน  ดิฉันต้องตามเคลียร์ประจำค่ะ <-- ตามเคลียร์คือ? ตอบ ดิฉันพาเขาไปถามเพื่อนๆว่าครูให้ทำอะไรบ้าง  แล้วกลับมาทำจนเสร็จค่ะ 4) เขาตอบคำถามอะไรไม่ค่อยได้ค่ะ <-- ก็เลยปล่อยทิ้งไว้งั้น คุณไม่อยากรู้เหรอคะ ว่าทำไม ตอบ ดิฉันปรึกษาหมอแล้ว  หมอบอกว่าเขาสมองทึบ 5) อยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูกมากแล้ว <-- มีกิจกรรมอะไรร่วมกันไหมคะ ก็เห็นต่างคนต่างกินข้าว หรืออยู่แค่ใต้หลังคาเดียวกันเลยเรียกว่าอยู่ด้วยกัน วันเดียวค่ะ   อีกวันก็ไปเทีียว  แต่ลูกไม่ชอบไปถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วย <-- ไปเที่ยวไหนกันคะ ทำอะไรบ้าง ตอบ พาเขาไปเที่ยวน้ำตก  เฝ้าดูเขาเล่นน้ำกับเพื่อน  พาเขาและเพื่อนๆไปกินหมี่ 6) พ่อเขาไม่รอ   บางครั้งดิฉันจึงต้องไปรับเอง <-- ตอนเอาน้องเค้ามาเลี้ยง สามีคุณคิดเห็นยังไง เห็นด้วยตั้งแต่เริ่มไหม มีทะเลาะกันบ้างไหม ตอบ สามีใจดี  เขารักตั้งแต่แรกเห็น  แต่สามีขี้โรคเป็นภูมิแพ้จึงขี้หงุดหงิด  ไม่ค่อยพูด ดูหนังฆาตกรรมเคเบิลทีวีประจำ  ดิฉันและลูกจึงไม่ดู  เขาดูคนเดียว  ดิฉันก็เปิดพันทิปปรึกษาปัญหาไปเรื่อยๆ  ถ้าไม่มีปัญหา  ก็ทำงานฝีมือจากห้องจตุจักร ตอนนี้ไม่ได้ทำเลยเพราะปัญหามากและต้องเลี้ยงหลาน(ลูกชายของลูกสาวนี่แหละค่ะ  จะสามขวบแล้ว) 7) เป็นหลานของนักเรียน  เกิดมาไม่มีพ่อ <-- แม่ตัวจริงเค้ามาหาบ้างไหม ตอบ ไม่มาค่ะ  เขาก็มีสามีใหม่มีลูกใหม่แล้ว  ตอนท้องลูกสาว  เขาก็มีลูกชายมาก่อนหนึ่งคน  เขามีลูกตอนจบ ป6  ตอนท้องลูกสาวไม่ทราบว่าพ่อไปไหน(ไม่ทราบว่าตายหรือติดคุก  ดิฉันไม่ได้รายละเอียดนัก  เพราะความไว้ใจลูกศิษย์และเพื่อนครูที่แนะนำเพราะทั้งสองเป็นคนดีมาก  ยังเสียใจเลยว่าลูกศิษย์ไม่น่าจะทำอย่างนี้) 8) น้องเค้ารู้ความจริงว่าเค้าไม่ใช่ลูกคุณเมื่อไหร่ แล้วพฤติกรรมเปลี่ยนไปไหม หลังจากรู้ความจริงแล้ว ตอบ เขาแค่สงสัยค่ะ  เพราะหน้าตาไม่เหมือนกัน  ดิฉันคิดว่าเขาเริ่มสงสัยเมื่อเขาไปอยู่บ้านสามีเขา  แล้วแม่สามีถามว่าเคยพบแม่ตัวจริงบ้างไหม  เห้นเขากลับมาถามดิฉัน  ดิฉันก็ตอบไปว่า  ดิฉันนี่แหละแม่ตัวจริง  เขาก็หยุดถาม  คือเขาเป้นคนไม่คิดมาก  ไม่ค่อยพูดอะไรยาวๆค่ะ   แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 09:13:33 จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 09:09:16

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วแม่สามีถามว่าเคยพบแม่ตัวจริงบ้างไหม  เห้นเขากลับมาถามดิฉัน  ดิฉันก็ตอบไปว่า  ดิฉันนี่แหละแม่ตัวจริง  เขาก็หยุดถาม  คือเขาเป้นคนไม่คิดมาก  ไม่ค่อยพูดอะไรยาวๆค่ะ   --- ทำไมคิดอย่างนั้นละคะ เท่าที่อ่านมาเราว่าคุณไม่เข้าใจลูกคุณเลยนะ เค้าถึงเป็นอย่างนี้ ที่เค้าหยุดถาม ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะหยุดคิดนะคะ ตอนแรกก็สงสาร จขกท นะที่โดนดุซะเยอะ แต่อ่าน ๆ มาแล้วก็เฮ้อ.... จากคุณ : คิน * คาเนะ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 10:49:31

ความคิดเห็นที่ 28 คห 17 คะ ลูกสาวไม่ค่อยพูดซ้ำซากจริงๆค่ะ  แต่ดิฉันก็เข้าใจนั่นแหละว่าเขาคงคิด ต่อไปว่าเขาไม่ใช่ลูกหรอกค่ะ  แต่ดิฉันก็ไม่อยากบอกความจริงตอนนี้เพราะเกรงว่า ลูกจะเสียใจ   (ดิฉันก็เป็นลูกเขาขอมาเลี้ยง  ดิฉันรู้สึกว่า ใครจะว่าดิฉันไม่ใช่ลูกแท้ ไม่เป็นไร   แต่ไม่อยากได้ยินจากปากผู้เลี้ยงค่ะ ) เพราะดิฉันรักเขามากเหมือนลูก จริงๆ   ดิฉันมีเขาคนเดียว จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 11:02:41

ความคิดเห็นที่ 29 ถึง รปภ.บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า (GMPLS) ขอบคุณค่ะ  ความคิดของคุณช่างทำร้ายจิตใจฉันได้มากทีเดียว ฉันก็ทำใจแล้ว ก่อนจะเขียน  ว่าต้องเจออีก  แต่ดิฉันตัดสินใจเขียนเผื่อเจอคนจิตใจดีเช่นหลาย ท่าน (โดยเฉพาะคุณ Hellknight ) ทำให้ดิฉันมีกำลังใจสู้ต่อไปค่ะ คุณไม่เข้าใจดิฉันดีหรอกค่ะ   แค่ภาษาเขียนของดิฉันคุณก็ตัดสินว่าดิฉันขนาดนี้ ดิฉันไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะคะ   แต่สังเกตจากคนใกล้ชิด ญาติๆ   เพื่อนครู  เพื่อน บ้าน  ไม่มีใครคิดเหมือนคุณ  แต่ส่วนใหญ่เขาขอให้ดิฉันตัดขาดลูก  แต่ดิฉันตัดไม่ ได้เท่านั้นเอง  จึงพยายามหาวิธีอื่น  ผิดด้วยหรือคะ ไม่มีใครคิดเหมือนคุณเลยจริงๆ  คุณคิดว่าเรื่องของดิฉันเป็นเรื่องขำๆ  จิตใจ คุณดีมากนะ   คุณไม่เจอเองคุณไม่รู้หรอก  ไม่เป็นไร  ดิฉันอโหสิกรรมให้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 11:32:02 จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 11:13:59

ความคิดเห็นที่ 30 ตามพี่ยามว่าอ่ะแหละ อ่านมานานแล้ว เนื้อยเหนื้อย เลี้ยงเด็กไม่เป็นก็ยังทู่ซี้จะเลี้ยงดู ถึงเวลานี้ควรจะปล่อยมือแล้วก็ยังไม่ปล่อย ลูกคุณก็เป็นคนไม่รักดีธรรมดาๆคนหนึ่งอ้ะแหละ อย่าไปหาโรคยัดให้เค้าเล้ย คุณตะหากที่ควรไปหาหมอจิตเวชซะบ้าง ผิดปกติแน่ๆ จากคุณ : KHIMM เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 11:15:07

ความคิดเห็นที่ 31 เด็กเราเอามาเลี้ยงแล้ว  รักเหมือนลูก จะทิ้งได้ยังไงคะ  ดิฉันก็พยายามทำจิตใจให้ เข้มแข็ง   หาวิธีแก้ปัญหาค่ะ   เหมือนคนเป็นแผลที่ขา   หมอบอกให้ตัดทิ้ง  แต่ถ้า มีวิธีรักษาได้แม้ไม่เหมือนเดิม  ก็เลือกจะรักษาค่ะ  จึงมาขอความคิดเห็นที่นี่   เผื่อ มีคนที่มีประสบการณ์กว่าดิฉัน  หรือผู้มีน้ำใจเสนอแนะ   ดิฉันก็จะนำไปปรับใช้ ค่ะ   ตลอดเวลา  ดิฉันสำนึกในคำแนะนำของทุกท่านแล้วนำไปใช้   จนประสบ ความสำเร็จไปหนึ่งขั้นแล้ว  นะคะ   คือดิฉันใจแข็งเรื่องเงินทอง   จนแฟนเก่าลูก สาวเลิกราไปแล้วค่ะ  แต่เกิดปัญหาใหม่  ดิฉันจึงมาขอความกรุณาอีกค่ะ  ขอปรับ ความเข้าใจท่านที่เข้ามาอ่านใหม่ด้วย  นะคะ   ดิฉันทำตามคำแนะนำค่ะ   แต่เรื่อง ตัดลูกสาวเท่านั้นที่ยังทำไม่ได้   เพราะขนาดล่าสุด   ดิฉันลองไม่พูดกับเขา  2   วัน  เขายังหนีไปจนเกิดเรื่องค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 13:21:58 จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 12:48:44

ความคิดเห็นที่ 32 # คุณปลาแมน ไม่ตลกครับ จากคุณ : รากแก้วประดู่ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 12:48:56

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่รู้คิดถูกหรือปล่าว แต่เห็นมาหลายรายแล้วครับ พ่อแม่เป็นไง ลูกเป็นงั้น เด็กอาจมีเชื้อมาจากพ่อแม่จริง ๆ พอประมาณ บางรายยิ่งกว่า จขกท บ้านรวยด้วย เลี้ยงอย่างดี ไม่น่าเชื่อว่า เป็นคนชอบขโมยของเป็นชีวิตจิตใจ สุดท้ายตายหน้าบ้าน คนที่โดนหลอกมาตามฆ่าถึงที่เลย (เรื่องจริงนะครับ) แต่ กรณี จขกท ต้องขออนุญาตตำหนิเหมือนหลายความคิดเห็น เด็กหลุดจากโลกของคุณไปนานแล้ว จะทู้ซี้ก็ซ้ำซาก ถ้าคนบนโลกนี้สอนได้ทุกคน คงไม่มีโจร ไม่มีฆาตกร ถ้าไม่คิดจะตัดใจ อย่าเข้ามาโพสในนี้อีกเลย เพราะคำปลอบใจ ไม่ใช่คำตอบในการแก้ปัญหา ในอนาคตถ้ายังรักยังโอ๋อยู่ ก็รอเรื่องเดือดร้อนตามมาอีกเยอะเลยครับ ดวงโจร ดวงเลว โชคชะตาฟ้าลิขิต บางครั้งมันหาเหตุผลไม่ได้ อยู่ในสังคมดียังทรามมีให้เห็นแทบทุกวัน จากคุณ : ไม่มีวันจบ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 13:22:33 A:171.7.226.170 X: TicketID:202545

ความคิดเห็นที่ 34 เพื่อนๆห้องสวนลุม ความเห็นส่วนใหญ่ ให้ปล่อยไปเพราะเกินเยียวยา นี่พูดจริงหรือพูดเล่นคะ ปล่อยคนไม่ดีออกไป วันดีคืนดี เธอมาปล้นฆ่าเพื่อนๆหน้าบ้าน จะไม่แย่เอาเหรอคะ จริงอยู่ที่สอนกันยาก แต่เราว่าสอนกันได้ ถ้ามีความ "พยายาม" และ "ถูกทาง" เราว่า คุณจขกท "พยายาม" แล้ว แต่ "ไม่ถูกทาง" เราก็ไม่รู้ว่า "ถูกทาง" เนี่ย จริงๆแล้วมันทางไหน ก็ต้องลองดูซักทางอ่ะค่ะ จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 14:09:00

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านรายละเอียดต่างๆแล้ว เห็นใจคุณมากๆครับ แต่เท่าที่ผมอ่านนะ ผมรู้สึกว่าคุณตามใจเด็กคนนี้มากจนเกินไป ผมไม่เคยอ่านกระทู้เก่าๆของคุณ เลยไม่รู้ตื่นลึกหนาบางอะไร แต่ถ้าเป็นผม สิ่งที่จะทำคือ ปล่อยให้เขาไปอยู่เองก่อน คนแบบนี้ ต้องให้ไปเรียนรู้อะไรเอง เพราะคุณเองก็บอกว่าทั้งสอน ทั้งดูแล ต่างๆนาๆ ถ้าเด็กมันจะไม่รักดี ผมคงจะปล่อยให้ไปเจออะไรเอง ถ้าดีก็ดีไป แต่ถ้าเหลวมา คุณมีหน้าที่ปลอบ ความรักให้กันได้ครับ แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่รับ ก็สูญเปล่า เป็นกำลังใจให้ละกันนะครับ จากคุณ : Doomsday Specter เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 14:45:55

ความคิดเห็นที่ 36 ขออนุญาตออกความเห็น นะคะ บางทีคุณอาจจะรักเค้ามากเกินไป ทำนอง พ่อแม่รังแกฉัน เพราะความรักของคุณมาก เค้าทำผิดอะไรคุณก็ยอมเค้าทุกอย่าง เค้าจะทำอะไรก็ได้ ทำผิดยังไงก็ได้ เพราะสุดท้ายแม่ก็ช่วยเค้า เราว่าเค้าคิดอย่างนี้ โลกของเค้ามีคุณคอยปกป้องเค้าตลอดเวลา ลองให้เค้าอยู่กับโลกของความจริงมั้ยคะ ให้เค้าเจอกับชีวิตจริง เค้าจะได้มีภูมิต้านทานและแข็งแรงขึ้น ลองปล่อยเค้า ไม่ช่วยเค้าดู ไม่ได้ให้ตัดขาดนะคะ แต่ไม่ช่วย ตั้งเงื่อนไขกับเค้า จะช่วยเค้าต่อเมื่อเค้าทำตัวดี คุณก็ต้องใจแข็งมากๆๆ เพราะที่ผ่านมาคุณใจอ่อนเพราะรัก บอกเค้าว่าคุณรักเค้า แต่คุณจะไม่ช่วยเค้าถ้าเค้าไม่เลิกกับคนนั้น และให้รอ รอจนกว่าเค้าจะกลับมาค่ะ ทำให้เค้าเห็นว่าไม่มีใครรักคุณเท่าเค้า สิ่งที่ยากที่สุดคือต้องใจแข็งนะคะ ลองดูค่ะ เป็นกำลังใจให้ จากคุณ : แม่ค้าหน้าแป้น เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 14:52:42

ความคิดเห็นที่ 37 กลับมาอ่านอีกรอบ  เห็นใจ ในความรักของแม่คนหนึ่ง ที่มีต่อลูก ถึงมันจะไม่ถูก   เท่าที่ควรก็ตาม  แต่ ในเมื่อมาขนาดนี้ แล้ว และ แม่ก็ พยายามแก้ไข อยู่  เพื่อที่ให้ดีขึ้น      แต่คน  อื่นๆ ก็ ไม่มีสิทธิ มาด่าเจ้าของกระทู้นะค่ะ     บ่งบอก ถึง วุฒิภาวะและสภาพจิตใจคุณได้ดี ..  ตอบแบบนี้อย่าตอบเลยค่ะ  ไม่ได้ช่วยอะไรแถมยังซ้ำเติมเจ้าของกระทู้อีก สอน บอก  ทุกอย่าง  แต่เด็ก เค้าดื้อ  จริงๆ ต้อง ลอง  ปล่อยดูค่ะ ให้พบกับความยากลำบากดูบ้าง   ให้ ทำงาน หาเงินเอง ดูแลตัวเอง เอง รับผิดชอบตัวเอง     สอนให้ เค้ารู้จักป้องกันตัว เอง  คุณต้องเด็ดขาด แล้วค่ะ ถ้ายัง เลี้ยงในทางที่ ผิด ๆปกป้องเค้ามากเกินไป    ผลก็ กลับ มาวงจรเดิมๆ  เค้าจะ  สร้างปัญหา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยู่นั่นหละค่ะ ต้องเด็ดขาดแล้วค่ะ   ดีกว่าปล่อยให้ยืดเยื้อ สร้างปัญหา ไม่จบไม่สิ้น  เราเลี้ยงเค้าได้เท่านี้  สุดท้ายก็ต้องปล่อยวาง  อุเบกขา   รักษา ใจตัวเองไว้ให้ผ่องใส เอาเวลามาดูแลหลาน ที่เกิดมาดูแล สามี  หาเวลา  ให้ตัวเองได้  พัก กายพักใจ  บ้างค่ะ    ดิฉันเอาใจช่วยค่ะ .. จากคุณ : honeybfit เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 15:05:40

ความคิดเห็นที่ 38 **คน  อื่นๆ ก็ ไม่มีสิทธิ มาด่าเจ้าของกระทู้นะค่ะ     บ่งบอก ถึง วุฒิภาวะและสภาพจิตใจคุณได้ดี ..  ตอบแบบนี้อย่าตอบเลยค่ะ  ไม่ได้ช่วยอะไรแถมยังซ้ำเติมเจ้าของกระทู้อีก เห็นด้วยกับคุณ honeybfit ค่ะ ไม่น่ามาซ้ำเติมเจ้าของกระทู้เลย ถ้าคุณยามไม่พอใจก็ไม่ต้องเข้ามาตอบก็ได้ จากคุณ : champagne glasses เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 16:21:08

ความคิดเห็นที่ 39 ใจเย็นๆจ้า ต่างคนก็ต่างความคิดเน้อ แค่นี้ก็ดราม่าเยอะแล้ว มาเบรคไว้ก่อน เดี๋ยวกลายเป็นด่ากันเองเน้อ พี่ยามเค้าก็สไตล์นี้ อ่านแล้วเจ็บ แต่มันก็มีข้อเท็จจริงอยู่ในนั้น เหมือนยา (จำไม่ได้ว่าใครพูดไว้) ว่าของพี่ยามเค้ายาแรง 555 จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 16:36:58

ความคิดเห็นที่ 40 หากจิตแพทย์ได้เคยบอกไว้แล้วว่าลูกสาวคุณปัญญาทืบ ก็จะเห็นถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวคุณค่อนข้างไม่ทันคน จึงเชื่อคำหวานของหนุ่มๆได้ง่าย ส่วนเรื่องที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อาจจะเป็นเพราะเค้ารู้สึกว่าไม่ใช่พ่อแม่เค้าก็เป็นได้ครับ อาจจะต้องสร้างเงื่อนไขที่เข้าใจง่ายๆขึ้น เช่น ถ้าเชื่อฟังเรื่องนี้ จะได้ผลตอบแทนอะไร หรือถ้าไม่เชื่อจะโดนอะไร โดยอาจจะเริ่มจากกฏง่ายๆ เล็กๆ น้อยๆ แล้วค่อยๆเพิ่มความยากขึ้น และเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ว่ากฏนี้เชื่อถือได้จริง คุณเองก็ต้องทำตามกฏที่ตั้งขึ้นนี้ให้ได้ 100% ด้วยครับ จากคุณ : nut_cud33 เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 16:59:06

ความคิดเห็นที่ 41 จาก คห. ที่ 26 นะครับ ขอแชร์คห. บ้าง 1) เสร็จค่ะ 2) คุยกันค่ะ  เคยชวนสวดมนต์  เขาไม่ยอมสวด ก็เลยให้กราบพระก่อนนอน  ตอนโตเริ่มมีแฟน  เขาคุยกับแฟนแต่ละคน  เขาให้ดิฉันคุยด้วย  ส่วนใหญ่พอดิฉันถามว่าเรียนอะไร  แฟนๆไม่ค่อยเรียนหนังสือก็ห่างหายกันไป ^^^ ในสายตาผม เค้าเป็น "เด็กดี" นะครับ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ได้เสียมาตั้งแต่เด็ก ดูว่าง่ายพอใช้ 3) ตอบ ดิฉันพาเขาไปถามเพื่อนๆว่าครูให้ทำอะไรบ้าง  แล้วกลับมาทำจนเสร็จค่ะ ^^^ เค้าเป็นเด็กดีมากนะครับ เป็นผม ถ้าโดนแม่ลากไปถามเพื่อนๆ ให้อายเพื่อนแบบนี้ ผมอาละวาดไปคนละทางแน่ๆ 4) ดิฉันปรึกษาหมอแล้ว  หมอบอกว่าเขาสมองทึบ ^^^ ผมไม่เชื่อหมอครับ ผิดไหม? ผมอาจจะผิดก็ได้ แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใคร "สมองทึบ" เกินเรียนจริงๆ นอกจากมีความผิดปกติทางสมองจริงๆ คุณครูเคยรู้มาบ้างใช่มั้ยครับ ว่ามีเด็กคนหนึ่งถูกตัดสินให้เป็นเด็กสมองทึบ ไม่สามารถเรียนร่วมชั้นกับเพื่อนคนอื่นๆ ได้ ... จนแม่ของเด็กคนนั้นต้องสอนเองที่บ้าน... เด็กคนนั้นชื่อ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 5)พาเขาไปเที่ยวน้ำตก  เฝ้าดูเขาเล่นน้ำกับเพื่อน  พาเขาและเพื่อนๆไปกินหมี่ ^^^ เด็กวัยนี้ พาไปเที่ยวแล้วต้องปล่อยแล้วครับ เฝ้าดูเขาเล่นน้ำ พาไปกินข้าว ทำได้ถึงอย่างมาก ม.3 ครับ พอขึ้น ม.ปลาย สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเค้าคือ ให้เงินเค้าไว้สำหรับกินข้าว ไปส่ง อย่างมากก็นัดเวลาไปรับกลับเท่านั้นครับ 6) ตอนนี้ไม่ได้ทำเลยเพราะปัญหามากและต้องเลี้ยงหลาน(ลูกชายของลูกสาวนี่แหละค่ะ  จะสามขวบแล้ว) ^^^ ลูกสาวคุณรักลูกของเขาไหม? เลี้ยงลูกของเขาเองมากน้อยแค่ไหน? อันนี้เป็นประเด็นนึงที่ผมไม่เห็นครับ 8) ดิฉันก็ตอบไปว่า  ดิฉันนี่แหละแม่ตัวจริง  เขาก็หยุดถาม  คือเขาเป้นคนไม่คิดมาก  ไม่ค่อยพูดอะไรยาวๆค่ะ   ^^^ พลาดแล้วครับ ผมว่าเค้าจะไม่เชื่อคุณอีกต่อไปเพราะเค้าเซนส์ว่าคุณโกหก เด็กวัยนี้สรุปอะไรเร็วนะครับ และอยากรู้เรื่องราวของตัวเองอย่างที่คุณคาดไม่ถึง... แกโตแล้วนะครับ มีลุกของตัวเองแล้วด้วยซ้ำ ถ้าเค้าอยากรู้ประวัติของตัวเอง ถึงเวลาหรือยังครับที่จะต้องเริ่มคุยแบบ "ผู้ใหญ่คุยกัน" สรุปว่า เค้ารู้สึกว่าตัวเค้าเองเป็นคน "ไร้ค่า" เมื่ออยู่กับคุณครับ ทำอะไรก็ไม่ได้ดังใจ ไม่ได้ดีไปหมด ดีไม่ดีอาจจะพาลคิดไปถึงว่าเพราะคุณไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเค้า เลยพาลทำตัวขัดใจทุกอย่าง สำหรับคุณครูเอง คุณครูใจเย็นมากนะครับที่ค่อยๆ โต้ตอบเพื่อนๆ ในนี้โดยไม่โกรธเคือง แต่ความใจเย็นอย่างเดียว แก้ปัญหาลูกคุณครูไม่ได้ครับ... โดยปกติผมจะแนะนำหนังสือธรรมะ หรือหนังสือแนวชีวิตดีๆ ไว้อ่าน แต่สำหรับคุณครู ผมคงต้องแนะนำหนังสือชุดนี้แล้วล่ะครับ (แนะนำจริงๆ ด้วย ไม่ได้เอาฮา) ลองอ่านดูซักสามสี่ตอนใหญ่ๆ แล้วจะเข้าใจเด็กๆ มากขึ้นครับ ดีไม่ดีจะได้ทางแก้ปัญหาใหม่ๆ ด้วย เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : WalkingTrail เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 17:17:24

ความคิดเห็นที่ 42 ขอถอนคำพูดว่า  อ่านฆ่าเวลา และถอนคำพูดว่า  เรื่องขำๆนะครับ แต่ยืนยันคำเดิมครับ ว่าคุณไม่ค่อยรู้เรื่อง สมองทึบ อืด เฉื่อย เบลอ น่ารำคาญเหมือนทุกๆครั้ง ที่มาตั้งกระทู้ คนอื่นๆ  ใครเค้าก็คิดเหมือนผมครับ เพื่อนๆครูของคุณ  ญาติๆคุณ ล้วนบอกให้ปล่อยเด็กเวรนี่ไปได้แล้ว ทั้งนั้น คุณไม่คุยกับลูก2 วัน เด็กเวรนี่ก็หนีจากบ้านแล้ว   แสดงว่าเด็กนี่ไม่มีหัวใจ/สมอง/ความคิดแล้วครับ สงสัยทั้งตัวเด็กบ้านี่  function ได้อย่างเดียวคือระบบสืบพันธ์ุ  สมองก็ไม่มี คุณว่ามั้ย ลูกตัวเองก็ไม่สนใจเลี้ยง(หลานชายคุณ) แม่ตัวเองก็ไม่สนใจ คุณครับ ตอนคุณตาย เด็กนี่ไม่มางานศพคุณหรอกครับ พนันได้เลย ถ้าสามีคุณตายก่อนคุณ  รอดูนะครับ ว่าเด็กนี่จะโผล่หัวมามั้ย แนะนำหลังด่า ดังนี้ 1 ตั้งใจเลี้ยงหลานให้ดี อย่าให้ห่วยแตกเหมือนเด็กเวรนั่นอีก อย่าซ้ำรอย 2 ยกสมบัติ  ทำพินัยกรรมให้หลาน อย่าให้ลูกเลี้ยง 3 เลิกคิดว่าเด็กคนนี้เป็นลูก ให้คิดว่าเป็นญาติห่างๆรุ่นลูก แล้วปฏิตัวแบบญาติ ไม่ใช่แบบแม่ลูก 4 ให้หางานทำ หยุดให้เงินแบบไร้สติเช่นก่อน ระวังโดนปลอมลายเซ็นต์แบบโง่ๆอีก 5 ถ้าเด็กเวรนี่ก่อเรื่องอีก ปล่อยให้แก้ปัญหาเอง ถ้ามันจะไปขายตัว จะติดยา ติดผู้ชาย ก็ปล่อยวาง ทุ่มเวลาให้หลานให้มากๆ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน จำไว้ให้ดีครับ ถ้าอยากจะหลุดพ้นจากเวรกรรม  เรื่องห่วยแตกพวกนี้ คุณต้องกล้าเปลี่ยนแปลง ไม่แปลกใจหรือครับ ทำไมรอบตัวคุณถึงมีแต่เรื่องบ้าๆทำนองนี้ตลอด ตัวคุณเองก็ถูกพ่อแม่ทิ้ง ตัวคุณเองก็โดนเอามาเลี้ยง แม่ลูกสาวคุณ ก็ทิ้งลูกคุณ เด็กเวรลูกสาวคุณ ก็ท้องตั้งแต่14 แล้วโดนทิ้ง หลานชายคุณมีแนวโน้มสูงมาก ที่จะถูกลูกสาวคุณทิ้งอีก มัวแต่เศร้า มัวแต่ทุกข์ มัวแต่อืดอาดยืดยาด เบลอๆ เลยไม่สามารถหลุดจากเวรกรรมวงจรอุบาทว์พวกนี้ได้   ต้องเปลี่ยนตัวคุณเองขนานใหญ่ครับ ไม่งั้นอีกสามเดือนก็มาตั้งกระทู้ให้คนทุเรศอีก ตอบเน้นๆ ตอบชัดๆ ให้มีการเปลี่ยนแปลง อย่าเป็นเหมือนแต่ก่อน เปลี่ยนกรรมของคุณให้ได้ ด้วยตัวคุณเอง ไม่ต้องพึ่งพระเจ้า ไม่ต้องสวดมนต์ใดๆ เอาใจช่วยครับ ^_____^ จากคุณ : รปภ.บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า (GMPLS) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 17:20:16

ความคิดเห็นที่ 43 GTO นี่ใช่เลย ลองยืมลูกศิษย์อ่านดูนะคะ :-) จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 17:44:03

ความคิดเห็นที่ 44 สรุปว่าไงคะ การบ้านที่ให้ไปทำมา อย่าเงียบหายไปค่ะ จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 02:18:47

ความคิดเห็นที่ 45 เพิ่งเข้ามาอ่าน เรื่องเก่าๆก็ยังไม่ได้ตามไปอ่าน รู้สึกถึงความห่วงใยของคุณ จขกท.ต่อลูกสาวบุญธรรมจริงๆ ท่านใดที่แนะนำทางสว่างให้ก็ขอให้บุญกุศสส่งให้มีแต่ความสุขนะคะ ปล.ตกใจกับคำพูดคุณยามมาก ทำไมใช้คำรุนแรงมากเกินไป จากคุณ : จุดตานิด เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 07:55:53

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่ได้อยากเกรียน แต่คุณยามพูดเป็นเรื่องจริงครับ แต่การแสดงความเห็นอาจจะฮาร์ดคอร์ไปซักหน่อย เด็กไม่ได้ขาดความอบอุ่นเลยซักนิด มีผู้ใหญ่ดูแล ประคับประคองตลอด แต่น่าจะเป็นการเลี้ยงดูแบบตามใจ เพราะยอมให้แยกทานข้าวได้ก็น่าจะพอเดาได้ว่า จขกท ตามใจลูกพอสมควร จขกท ก็มีปัญหาส่วนตัวนะครับ การทุ่มเทความรักให้กับเด็ก มันต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณ น้ำหนักการควบคุมมันไม่สมดุล เลยเป็นแบบนี้ อยู่ใกล้ชิด ดูแลเค้าอย่างดี แต่ตามใจหลาย ๆ อย่าง เช่น ให้เงินเยอะ ให้แยกกินข้าว เด็กรู้ดีว่า จขกท ใจอ่อนง่าย ให้อยู่บ้านกับเด็กผู้ชาย ให้ไปไหนมาไหนด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่วัยกำลังเจริญพันธุ์ งงตรงนี้มาก ในส่วนของเด็ก เป็นคนเห็นแก่ตัว เอาแต่ความสุขตัวเอง ผมไม่ได้เพ้อเจ้อเรื่องกรรมพันธุ์ แต่มันมีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ แม้ว่าเด็กที่ดีจะมีให้เห็นก็ตาม ขนาดอยู่กับครอบครัว ยังล่อกับผู้ชายจนท้องตั้งแต่ ม.4 พอเลิกกับคนนี้ ก็ไปมั่วกับผัวชาวบ้าน เด็กขาดความอบอุ่นหรือเห็นแก่ตัวกันแน่ มีลูกก็ไม่สนใจ มีชู้ โดนเมียเค้าฟันหน้าแหก ยังไม่แยกแยะ ยิ้มอย่างมีความสุขกับผัวคนอื่น เด็กไม่มีสามัญสำนึกของความเป็นคนเหลืออยู่แล้วครับ! ญาติผม นำเด็กมาเลี้ยง พยายามให้อยู่ในสังคมดี ยังแว๊บไปชั่วได้ แต่เค้าเด็ดขาดครับ ไม่รักเรียน ไปทำงาน ไม่งั้นไม่ให้เงิน (จะบอกว่าในอดีต ญาติเลี้ยงดีเวอร์ เลี้ยงดีกว่า จขกท ด้วยซ้ำ เพราะมีฐานะมากกว่า) สุดท้าย พาไปฝากงานให้ทำ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดิบได้ดีอะไร แต่ที่เห็นชัดเจนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลยคือ เด็กมันบ้าอยากทำงาน อยากหาเงินมาก อยากเรียนให้จบไว ๆ จะได้มาทำงาน ซึ่งผมทึ่งมาก ตอนแรกคิดว่ากู่ไม่กลับซะแล้ว รักลูก ไม่ใช่ว่าจะด่าไม่ได้ บังคับไม่ได้ แต่แยกแยะให้ดีว่าจะตึงเรื่องไหน จะผ่อนเรื่องไหน เมื่อเด็กมันใฝ่ต่ำ ยื่นทองคำไว้ให้มันยังด่าว่าเป็นขรี้ ที่บอกว่าให้ปล่อย เพราะเชื่อว่า จขกท ไม่มีทางรั้งเค้าไว้ได้หรอก ดึงกลับมาก็เป็นแบบเดิม และถ้าจะมาก็มาเพราะเดือดร้อน ไม่ได้อาลัยอาวรณ์หรือพิศวาส จขกท แต่ประการใด ยิ่งเค้ารู้ว่าไม่ใช่พ่อแม่เค้าด้วย เป็นข้ออ้างชั้นดีเลยที่จะไม่ใส่ใจ เค้าไม่รู้สึกไร้ค่าเลยซักนิด เวลาที่อยู่กับ จขกท ตรงข้ามเลย เค้ารู้ว่าตัวเองมีค่าโคด ๆ เวลาอยู่กับ จขกท เพราะสามารถทำเลว ๆ ทุกอย่างได้อย่างมีความสุขและมีคนคอยตามล้างตามเช็ด จขกท ต้องการคำปลอบใจเพื่อสร้างกำลังใจที่ดี แล้วกลับไปเลี้ยงโจรให้เค้าได้ทำชั่วได้อย่างสะดวกใจและสบายตัวเพราะมีตู้กดเงินเป็นของตัวเอง ก็สุดแท้แต่ครับ ความเข้มแข็ง ความเด็ดขาด จะสอนหรือผ่อนหนักให้เป็นเบาได้เหมือนที่ญาติผมทำ เพราะบอกได้เลยว่า เข้ามาขอคำปรึกษาอีก 3 เดือน อีกปีนึงหรือทุกปี คุณก็ได้แค่ความคิดเห็นเดิม ๆ ซึ่ง จขกท รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ช่วยอะไร เพียงปลอบใจตัวเอง ว่าเป็นคนดี ทำดีแล้ว แต่คนดีก็โง่ได้ครับ ถ้าไม่คิดเปลี่ยนแปลงแก้ไข บ้านโดนขโมย ของหาย ต้องเป็นหนี้เพราะเด็กคนนี้ หรือตอนแก่โดนลูกทำร้ายเอาเงินไปให้ผู้ชาย หรือป่วยแล้วโดนบังคับให้ยกมรดกให้ เตรียมตัวไว้หรือยังครับว่า จะเข้ามาโพสขอคำปรึกษาในนี้อีก เพราะผมคิดว่า.........................ต้องมีแน่ ๆ จากคุณ : ไม่มีวันจบ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 10:37:24 A:27.130.127.201 X: TicketID:202545

ความคิดเห็นที่ 47 เพื่อนๆสวนลุมก็ให้ความคิดเห็นดีๆ และ เยอะมากเลยกับเจ้าของกระทู้นะคะ ลองคิดดูให้ดีๆนะคะ เรามีข้อเสนอแนะมา 1 อย่าง ง่ายๆ พร้อมคำถาม (อีกแล้ว) 555 เวลาคุณไปทำงาน ใครเลี้ยงหลานคะ คุณจ้างลูกสาวคุณเลี้ยงลูกตัวเองดีไหมคะ ถ้าไม่เลี้ยง ก็ไม่ให้เงิน อันนี้ก็ต้องใจแข็งนะคะ ไม่ให้ก็คือไม่ให้ค่ะ จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 13:27:19

ความคิดเห็นที่ 48 พ่อแม่รักแกฉัน   ไม่มีบ้านไหนเขา เลี้ยงให้แยกโต้ะไปกินข้าวหรอก จากคุณ : แก้วคุง เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 14:29:36

ความคิดเห็นที่ 49 ขอขอบพระคุณทุกคนมากเลยค่ะ ขอตอบคุณ Hellknight ตอนนี้หลานไปโรงเรียนแล้วค่ะ  คุณตาไปส่ง  ตอนแม่เขายังไม่เจ็บ  แม่เขาไปส่ง ด้วยค่ะ  ช่วงหลังหยุดเรียนบ่อย  เพราะไข้สูง เป็นโรคมือเท้าปาก  ดิฉันก็ให้คุณตา ไปส่งหมะ(คนที่เคยเลี้ยงแม่เขาค่ะ   จ้างเป็นรายวัน) แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 55 16:41:39 จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 16:41:16

ความคิดเห็นที่ 50 งงอย่างแรง...! ตอนแม่เขายังไม่เจ็บ  แม่เขาไปส่งด้วยค่ะ <-- แสดงว่า ลูกสาวคุณก็ไม่ได้ทอดทิ้งลูกเค้านี่คะ ขอละเอียดกว่านี้หน่อยนะคะ 1) วันๆนึง ลูกสาวคุณทำอะไรบ้าง 2) วันๆนึง เค้าได้ดูแลหรือทำอะไรให้ลูกเค้าบ้าง 3) ตอนนี้เค้านอนที่ไหน นอนบ้านผู้ชาย หรือ นอนบ้านคุณ 4) ถ้านอนบ้านผู้ชาย เค้าเอาลูกเค้าไปด้วยไหม 5) ถ้านอนบ้านคุณ เค้านอนกับคุณ หรือ นอนกับลูกเค้าคะ หรือ นอนกัน 3 คน จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 17:02:21

ความคิดเห็นที่ 51 1) วันๆนึง ลูกสาวคุณทำอะไรบ้าง ตอบ นอน ตื่นตอนเที่ยง  เพื่อนมารับไปทานข้าว อยู่บ้านเพื่อน คุยโทรศัพท์กับแฟน กลับบ้านตอนค่ำ ทานข้าวบางครั้งก็ทานที่บ้านเพื่อน(เขาซื้อเอง) คุยโทรศัพท์กับแฟน  เขาทำโทรฟรี  คุยหรือฟังแฟนเขาร้องเพลงเล่นกีตาร์กับเพื่อนๆในห้องเช่า จนเกือบสว่าง  ก็นอนหลับไป 2) วันๆนึง เค้าได้ดูแลหรือทำอะไรให้ลูกเค้าบ้าง ตอบ ดิฉัน บอกให้เขาไปส่งลูกไปโรงเรียนทุกวัน  เขาก็ตื่นไปส่งทั้งๆที่ไม่อาบน้ำ  กลับมานอนต่อทุกวัน 3) ตอนนี้เค้านอนที่ไหน นอนบ้านผู้ชาย หรือ นอนบ้านคุณ ตอบ นอนคนเดียว  ที่บ้านดิฉัน  หลานนอนกับดิฉัน  สามีนอนอีกห้องค่ะ 4) ถ้านอนบ้านผู้ชาย เค้าเอาลูกเค้าไปด้วยไหม 5) ถ้านอนบ้านคุณ เค้านอนกับคุณ หรือ นอนกับลูกเค้าคะ หรือ นอนกัน 3 ค จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 18:31:51

ความคิดเห็นที่ 52 วันๆนึง ลูกสาวคุณทำอะไรบ้าง <-- จากคำตอบของคุณ เข้าใจกระจ่างหมดแล้วค่ะ จะไม่ถาม, จะไม่ปลอบ, และ จะไม่ตอบไปมากกว่านี้ "ส่วนใหญ่เขาขอให้ดิฉันตัดขาดลูก  แต่ดิฉันตัดไม่ ได้เท่านั้นเอง  จึงพยายามหาวิธีอื่น" <--- มีทางเดียวเท่านั้นจริงๆค่ะ "งดให้เงิน ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น คุณต้องบอกให้เค้าหางานทำ ค่าโทรศัพท์ หรือ อะไรก็แล้วแต่ ไม่ต้องจ่ายให้" ไม่ว่าคุณจะมาตั้งกระทู้ซักกี่ครั้ง มันมีทางนี้ทางเดียวจริงๆค่ะ ธรรมะ ความเป็นห่วงจากแม่ ช่วยไม่ได้นะคะ เพราะความสำนึกและจุดหมายของชีวิตเค้าไม่มีค่ะ ความเด็ดขาดของคุณเท่านั้นค่ะ คุณต้องยอมให้เค้าเกลียดคุณ ยอมให้เค้าด่าคุณ ว่าคุณไม่ใช่แม่จริงๆของเค้า คุณต้องฟังและนิ่งรับ คุณจะเสียใจมากแต่คุณต้องเดินหนีออกมา "ลูกสาวโกรธดิฉันที่ไปค้างคืนกับผู้ชายคนนี้  2  คืนแล้ว  ดิฉันไม่พูดด้วย ลูกหนีไปหาผู้ชายถึงห้องพัก" <-- คุณต้องไม่สนใจ จะกี่วันก็แล้วแต่ ถ้าเค้าไม่สบาย คุณพาไปหาหมอเอง ไม่ต้องให้เงินเค้า "ตัดขาดลูก" <-- ย้ำอีกครั้ง มีทางเดียวเท่านั้นจริงๆค่ะ สุดท้ายนี้ เมื่อใดที่คุณอ่อนแอ ขอให้กลับมาอ่านกระทู้นี้อีกครั้ง ความคิดเห็นของเพื่อนๆมากมายในนี้มีประโยชน์มากๆ ขอให้โชคดี หลุดได้จากทุกข์นี้นะคะ จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 19:43:33

ความคิดเห็นที่ 53 ดิฉัน จำคุณได้  วันนี้ คุณยังเป็นคนเดิม ไม่เคยได้พ้นทุกข์ หรือทุกข์เบาบางลงเลย    บางที สวรรค์อาจรู้ล่วงหน้าแล้วว่า ความสามารถของคุณมีจำกัด คุณเลี้ยงเด็กให้ดีไม่ได้ จึงไม่ให้ลูกมาเกิด     อย่าฝืนต่อไปอีกเลยค่ะ เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2554  คุณรับปากว่า จะลองฝึก การปล่อยวาง  แต่ในวันนี้ คุณยังวนเวียนกับเรื่องเดิม เด็กคนเดิม เด็กที่เกินจะเยียวยา      ให้ยอมรับตัวเอง ว่า  คุณทำเท่าไร ก็ไม่มี อะไรดีขึ้น  เดินออกมาเสีย จากคุณ : นิลตวา เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 21:04:38

ความคิดเห็นที่ 54 อย่าเพิ่งตัดขาดลูกเลยครับ ผมว่าน้องเค้ายังสั่งสอนได้นะครับ แต่ว่าที่ผ่านมาคุณกลัวที่จะสั่งสอนเค้าแค่นั้นเองครับ อาจเป็นเพราะรักมากเกินไป อย่าลืมว่าอะไรที่มันเกินไปนั้น ย่อมไม่ดีครับ จากคุณ : Janglai Man เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 13:07:15

ความคิดเห็นที่ 55 เดี๊ยนบอกตรงๆอะค่ะ ว่าไม่รู้จะช่วยแนะนำอะไรได้จริงๆ คนบางคนเค้าเลือกวิถีชีวิตแบบนั้น คนที่ผูกพันด้วยก็ต้องปลงให้ตกอะค่ะ เก็บเกี่ยวรักษาส่วนดีไว้เท่านั้นก็พอ ส่วนหลานหากคุณเต็มใจเลี้ยงก็ขอให้เค้าเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายนะคะ เดี๊ยนเองหากเจอแบบนี้ ก็คงคิดว่า เราตัดทอนอะไรเขาไป เขาก็จะไปเติมเอาเองจากคนอื่น ตอนนี้คุณตัดเรื่องเงินไป เขาก็คงไปหาคนที่ให้เขาได้ สังเกตว่าผู้ชายมีอายุมากกว่าเยอะและคงจับจ่ายที่เขาขาดจากคุณได้ อยากให้คุณปลงให้ตกให้ได้ก่อน หากคุณบรรลุถึงตรงนี้แล้ว เดี๋ยวความคิดเรื่องทางออกก็มีมาเองค่ะ แต่ก็เข้าใจว่า การปล่อยเขาไปมันมีให้ลุ้นเสมอ เพราะชีวิตไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เอาใจช่วยก็แล้วกันนะคะ เดี๊ยนไม่เห็นสภาพจริงๆแล้วก็ได้แต่อ่าน จนมาถึงจุดนี้ก็คงต้องแนะนำแบบเดิม จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 02:41:20

ความคิดเห็นที่ 56 ขอขอบคุณทุกคนมากค่ะ คุณ   แดงเร็กเก้บาร์ คะ  ขออธิบายนิดหนึ่ง  นะคะ  ผู้ชายที่เขาติดพันอยู่  อายุมากกว่า  5 ปี  ( 25 ปี)  ไม่มีเงินเลยค่ะ  ติดหนี้มากมาย  ติดยาด้วยค่ะ  ตอนนี้ถูกจับให้ฝึกอบรมอยู่ที่ ค่ายทหาร 15 วัน  เมื่อสามวันก่อน  ลูกสาวยังแอบหนีดิฉันไปเยี่ยมเขาค่ะ   ดิฉันแอบอ่าน เจอในเฟชบุ๊คค่ะ  และสอบถามจากเพื่อนที่เขาชวนไปค่ะ  (เงินที่เขาใช้ในการไปเดินทางไป เยี่ยม  เป็นเงินที่พ่อแม่แฟนเก่าเขามาเยี่ยมแล้วให้ลูกสาวไว้  1000 บาทค่ะ ตอนนี้เขา ทุรนทุรายมาก  บ่นอยากไปเยี่ยมอีกแต่ไม่มีเงินค่ะ   แต่วันที่ 3   สค  นี้  ลูกสาวไปสอบ ตำรวจ  คงจะไปเยี่ยมแน่นอนเพราะอยู่จังหวัดเดียวกัน ดิฉันคิดว่า  ถ้าผู้ชายมีเงินพอ   ลูกสาวไม่อยู่กับดิฉันแน่นอนค่ะ   มีปัญหาเรื่องเงินคน ก่อนก็เช่นเดียวกันค่ะ จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 08:29:10

ความคิดเห็นที่ 57 อ่อ เป็นเช่นนี้เอง แบบนี้ต้องภาวนาให้เขาได้งานทำน่ะค่ะ คุณก็พยายามตัดความช่วยเหลือออกไปเรื่อยๆนะคะ เชื่อว่าตัวเขาเองต้องคิดได้สักวันหนึ่ง ไม่ช้าก็เร็วค่ะ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 17:56:31

ความคิดเห็นที่ 58 คนเราต้องมีจุดเปลี่ยนครับ ผมเห็นด้วยกับที่พี่ยามวิเคราะห์ หลายๆ อย่างคุณครูก็เฉื่อยไปจริงๆ แต่ผมก็ยังคิดว่า... น้องเค้าไม่ได้ถึงขนาดสายเำิกินแก้ครับ ลองหาจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตของเค้าดู GTO ไปหามาอ่านรึยังครับ ย้ำอีกที ไม่ได้ฮา บางคนเปลี่ยนตัวเองได้จากการเจออะไรสักอย่างในชีวิต... บางคน ได้ทำงานอดิเรกที่ชอบ... ดนตรี กีฬา ปลูกต้นไม้ แต่งหน้า ฯลฯ.... บางคน ได้คุยกับคนที่เป็นแรงบันดาลใจ... บางคน แค่ไปออกค่าย ต่างจังหวัดสักสองสามอาทิตย์ชีวิตก็เปลี่ยนไป บางคน ได้ไปเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า เด็กที่ติดเชื้อ HIV บางคน ไปอ่านหนังสือให้คนตาบอดฟัง... ชีวิตเปลี่ยนไปได้ครับ แต่ต้องหาจุดเปลี่ยนให้เจอ... คุณครูทำเหมือนเดิมแล้วจะให้น้องดีขึ้น มันเป็นไปไม่ได้ครับ ถ้า GTO ดูเป็นการ์ตูนเกิน ลองนี่มั้ยครับ ตัวอย่างการเปลี่ยนชีวิตเด็กที่เค้าทำกันทั่วไป เผื่อจะถูกจริตคุณครูมากกว่า http://au.tv.yahoo.com/plus7/worlds-strictest-parents/ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : WalkingTrail เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 17:36:35

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณมากค่ะ ทุกคน คุณ WalkingTrail คะ ดิฉันจะเปิดวีดีโอ  GTO  ดูค่ะ แต่เรื่องที่คุณ  บอกมา  เปิดดูไม่ได้ค่ะ  ขอความกรุณา  แนะนำต่ออีกนิด  ได้ไหมคะ จากคุณ : lawandee99 เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 19:17:18

ความคิดเห็นที่ 60 อ่านแล้วเพลีย ไม่รู้จะให้ความคิดเห็นยังไงดี --" จากคุณ : [C]haruru เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 55 13:03:06