PANTIP.COM : L12491178 ^^ อยากสอบถามเกี่ยวกับแพทย์ GP และการเรียนต่อเฉพาะทางค่ะ ^^ [คลินิกหมออาสา]

ความคิดเห็นที่ 2

1.อยากทราบว่าในปัจจุบันมีแพทย์ GP กับแพทย์เฉพาะทาง อย่างไหนมีอัตราส่วนที่เยอะกว่ากันคะ ???
GP เยอะกว่ามากครับ แต่เฉพาะทางหลายๆสาขานั้นหางานยากในเมืองใหญ่ๆแล้วครับ
คำแนะนำคืออย่าเรียนเพราะอยากหนีความเป็น GP เพราะมันจะไม่ได้ทำให้มีความสุขเท่าไร จงมาเรียนเพราะว่าชอบและตั้งใจครับ

GP ไม่ใช่ไม่เก่ง ไม่ใช่ไม่มีความสามารถ การเป็นเฉพาะทางก็ไม่ได้หมายความว่าจะเก่งรอบด้าน หรือเก่งกว่า GP ด้วยซ้ำ แต่รู้มากกว่าในเฉพาะทางนั้นๆเท่านั้นเอง ให้ผมตอนนี้ไปทำคลอด ผ่าตัดเล็ก ก็สู้ GP ไม่ได้แล้วครับ

2.ส่วนใหญ่แพทย์ที่จบมาจะใช้ทุนครบ 3 ปีเลยหรือใช้ทุน 1 ปีเพิ่มพูพทักษะแล้วเรียนต่อเลย ทั้งสองอย่างมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไรคะ ???
เฉพาะทางที่ขาดแคลนมากจะเรียนต่อได้เลยไม่ต้องใช้ทุน
เฉพาะทางที่ขาดแคลน(แต่ไม่มากเท่าอันบน)ใช้ทุน 1 ปีแล้วเรียนได้
เฉพาะทางอื่นๆใช้ทุนหนึ่งปีแล้วรออีกสองปีมาเรียนได้ (การรออีกสองปีนั้นจะใช้ทุนต่อหรือเบี้ยวทุนก็ได้)

โดยทั่วไปการใช้ทุนปีแรกสำคัญมากเพราะจะให้ประสบการณ์ที่สำคัญหลายๆอย่างเปิดโอกาสให้ได้คิดว่าชอบอะไรอยากจะเรียนต่อจริงหรือไม่ เกิดสาขาที่อยากจะเรียนแต่เปลี่ยนใจไม่ชอบยังไปสมัครสาขาอื่นแทนได้ (เพราะได้เพิ่มพูนทักษะแล้ว - ใช้ทุนปีแรก)

การใช้ทุนปีที่สองปีที่สามให้ประสบการณ์อีกแบบ ผมไม่ได้ใช้ทุนตรงนี้เพราะมาเรียนต่อในสาขาขาดแคลน คงจะบอกยากว่ามันดีไม่ดีอย่างไร

เท่าที่ดูช่วงที่มาเรียนต่อ ใช้ทุนปีเดียว สามปี หรือมากกว่านั้นก็ไม่ได้แตกต่างกันมากครับ แค่ถ้ามาตามรอบปกติก็จะเจอเพื่อนเยอะหน่อยแค่นั้นเอง แต่มาไม่ตรงเพื่อนก็ได้เพื่อนใหม่เยอะเช่นกันครับ

3.การเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางในแต่ละสาขาส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักเรื่องเกรดมาพิจารณามากมั๊ยคะ ???

เกรดมักจะเป็นปัจจัยท้ายๆครับ
ส่วนมากจะดูจาก
- ใบ recommend/เส้นสาย หรือเป็นการบอกหน่วยก้านเนื่องจากเวลาทำงานบางคนอาจจะตั้งใจบางคนอาจจะไม่รับผิดชอบ คนสัมภาษณ์ช่วงสั้นๆไม่มีทางแยกได้หรอก
- การที่มีทุน ก็สำคัญมากจะทำให้เรามีโอกาสได้เรียนต่อสูงกว่าไม่มีเพราะเป็นการบอกว่าผลิตออกไปแล้วจะได้ไปเติมเต็มส่วนที่ขาดจริงๆ หากมาเรียนโดยไม่มีทุนโอกาสไปทำงานต่อต่างจังหวัดที่ขาดแคลนก็อาจจะน้อยหน่อย
- การสัมภาษณ์ จะเป็นการตัดตัวคนที่ไม่เหมาะออกไป มากกว่าครับ
- แล้วเมื่อมีคนที่พอๆกันจึงค่อยมาดูเกรดครับ แต่บางสาขาก็อาจจะให้น้ำหนักของเกรดสาขาหรือเกรดรวมครับ แต่เชื่อเถอะไม่มากหากเราโดดเด่นในสาขานั้นๆจริงๆก็จะไม่ยากในการสมัครแม้เกรดจะไม่ดี

หากไม่เลือกที่เรียนว่าต้องเป็นโรงเรียนแพทย์มีชื่อเดี๋ยวนี้ผมว่าเรียนต่อไม่ยากเหมือนเมื่อก่อนยกเว้นบางสาขาเช่นผิวหนัง จักษุ ที่นอกจากจะยังแข่งขันสูงแล้วเหมือนกับเลือกหน้าตาด้วยอย่างนั้นแหละ (หน้าตาดีถึงดีมากเป็นส่วนใหญ่)

แต่บางสาขาขนาดโรงเรียนแพทย์มีชื่อยังคนสมัครไม่ครบเลยครบต้องรับรอบสองรอบสามก็มี

จากคุณ : oncodog

เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 16:54:53