ความคิดเห็นที่ 1 ขออนุญาตส่งข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ให้คุณ jaklex ค่ะ http://www.facebook.com/morsommai จากคุณ : Timeless love เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 12:49:34

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณ คุณ Timeless love มาก ๆ ค่ะ ตอนนี้ ก็กินยาของคุณหมอสมหมาย อยู่เหมือนกัน แต่พึ่งเริ่มกินได้ไม่นานค่ะ จากคุณ : jaklex เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 13:38:43

ความคิดเห็นที่ 3 เรียนคุณ jaklex ผมอ่านข้อความของคุณแล้ว ยังไม่มั่นใจว่าคุณเข้าใจแผนการรักษาของแพทย์ดีหรือยัง ผมขออธิบายขั้นตอนการรักษาให้คุณฟังคร่าวๆ ดังนี้ 1.เมื่อผู้ป่วยมาด้วยก้อนที่เต้านม แพทย์จะทำการซักประวัติและ ตรวจร่างกาย เพื่อประเมิณความเสี่ยงต่อการเป็น มะเร็ง เต้านม 2.อาจมีการตรวจเอกซเรย์ หรือที่เราเรียกว่า แมมโมแกรม เพื่อดูลักษณะ ของก้อน ทีนี้ในโรงพยาบาล บางแห่งอาจข้ามวิธีนี้ไป เพื่อนำชิ้นเนื้อมาพิสูจน์ 3.การนำชิ้นเนื้อมาพิสูจน์ ก็มีสองวิธีหลักๆ คือใช้เข็มเจาะ หรือ ผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ การเจาะอาจจะใช้เครื่องอัลตราซาวด์ช่วยดูเพื่อเพิ่มความแม่นยำของการเจาะก็ได้ ทีนี้ถ้าผลการเจาะแล้วไม่ได้ชิ้นเนื้อ หรือไม่ไปกับอาการที่แพทย์สงสัย แพทย์ก็จะทำการผ่าตัดก้อนไปตรวจให้แน่ชัด ซึ่งผมคิดว่าแพทย์ที่คุณไปหา ก็ทำได้ถูกต้องตามหลักการรักษา ทีนี้มาดูผลการวิเคราะห์ชิ้นเนื้อ คำว่า grade 2 ไม่ได้หมายความว่าเป็นระยะที่ 2 grade หมายถึงลักษระของเซลมะเร็งเทียบกับเซลปกติ •Grade 1 (low-grade) – The cancer cells look similar to normal cells and grow very sl:-). •Grade 2 (moderate- or intermediate-grade) – The cancer cells look more abnormal and are slightly faster growing. •Grade 3 (high-grade) – The cancer cells look very different from normal cells and tend to grow quickly ส่วนระยะ เราแบ่งเป็น 1-4 โดยระยะต้น ระยะที่ 1 หรือ 2 การผ่าตัดและการให้ยาเคมีบำบัด ร่วมกับการฉายรังสีเมื่อมีข้อบ่งชี้ ผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดได้สูง ส่วนระยะ ที่ 3 มักสัมพันธ์กับก้อนที่ใหญ่ และ มีการกระจายไปต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ หรือเหนือไหปลาร้า มักจะผ่าตัดเลย ไม่ได้ จำเป็นต้องให้ยาเคมีบำบัดก่อน เพื่อให้ก้อนยุบลง แล้วจึงผ่าตัด ตามด้วยการฉายรังสี ส่วนระยะที่ 4 คือระยะที่มีการกระจายของมะเร็งไปที่ต่างๆ ไม่มีโอกาสหาย การรักษาจึงเป็นการให้ยาเคมีบำบัด เพื่อไม่ให้มะเร็งโตขึ้น ช่วยเพิ่มให้ผู้ป่วยอยู่ได้นานขึ้น ทีนี้ในกรณีของคุณ การจะบอกว่าเป็นระยะไหนต้อง รอขนาดของมะเร็ง จากการผ่าตัด ร่วมกับจำนวนต่อมน้ำเหลือง ที่มีการกระจายถึงจะบอกได้ว่า มะเร็งเป็นระยะไหนแน่นอน การรักษา 1.การผ่าตัด แบ่งเป็นผ่าตัดเต้านมทั้งหมด ร่วมกับการผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลือง น้ำเหลืองที่รักแร้ ถือเป็นการผ่าตัดมาตรฐาน ผมว่ากรณีของคุณแพทย์ก็ทำถูกต้องแล้ว 2.ให้ยาเคมีบำบัด 3.ฉายแสง ส่วนการรักษา กับแพทย์ทางเลือกอื่นๆนั้น ยังไม่มีข้อมูลว่าหาย ได้ทราบมาว่ายาที่แพทย์ท่านนั้นจ่ายมียาเคมีบำบัดชนิดกินอยู่ด้วย ในช่วงแรกอาจทำให้มะเร็งเล็กลงได้บ้าง แต่ไม่หายส่วนที่เหลืออาจดื้อยามีการแพร่กระจายจนเป็นระยะสุดทายได้ โดยส่วนตัวมีเคสคล้ายๆคุณ ไม่ยอมผ่าตัด ไปรักษากับแพทย์ท่านนั้นด้วยยา สุดท้ายอีก 6 เดือนกลับมากลายเป็นระยะสุดท้าย เสียโอกาสในการรักษา อยากจะแนะนำ เจ้าของกระทู้ว่า ที่ร.พ.เดิมท่าน น่าจะทำถูกต้องอยู่แล้ว อยากให้ท่านลองปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ก่อนย้ายร.พ. จากคุณ : breastman เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 14:44:47 A:58.97.84.11 X: TicketID:370909

ความคิดเห็นที่ 4 ตอบในกระทู้ใหม่เลยแล้วกัน สรุปว่ายังไม่ได้ผ่าตัด แค่เจาะเอาเนื้อไปตรวจเฉยๆ เอาทีละอย่างเลยแล้วกัน การเจาะชิ้นเนื้อมีโอกาสเกิดผลลบลวงได้(false negative) คือ เป็นมะเร็งแต่ผลอ่านออกมาว่าไม่เป็น ซึ่งแพทย์จะใช้ข้อมูลหลายๆอย่างมาประกอบกัน ทั้งการตรวจร่างกาย แมมโมแกรม ซึ่งถ้ายังสงสัยมะเร็งอยู่ก็จำเป็นต้องเจาะใหม่ Grade 2 ที่เห็นน่าจะเป็น nuclear grade 2 เป็นการบอกลักษณะของเซลล์มะเร็ง ไม่น่าใช่ระยะของโรค (หมอถึงขี้เกียจอธิบาย เพราะไม่จำเป็นต้องรู้เท่าไหร่--ความเห็นส่วนตัวนะ) ถึงจุดนี้ก็คิดว่าคงเป็นมะเร็งจริง เพราะผลชิ้นเนื้ออ่านปุ๊บหมอจะรู้เลยทันที ถ้าไม่ใช่คงไม่มีหมอที่ไหนกล้านัดผ่าตัดคนไข้ (ยิ่งเป็นโรคพยาบาลเอกชนด้วย) การรักษามาตรฐาน คือการผ่าตัดเต้านมออกทั้งข้างร่วมกับเลาะต่อมน้ำที่รักแร้ออก (เหมือนกับที่หมอนัดผ่าไว้) แต่ก็สามารถเลือกผ่าตัดแบบเก็บเต้านมไว้บางส่วนได้ (ก้อน 2-2.5 cm) ให้ผลการรักษาไม่แตกต่างกัน แต่มีข้อแม้ว่าต้องฉายแสงร่วมด้วย เรื่องปวดขา อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับมะเร็งก็ได้ แต่คงไม่เปลี่ยนการรักษา ตราบใดที่ยังไม่พบมีการกระจายไปที่อื่นเช่น ปอดหรือตับ จากคุณ : hinghoi เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 14:50:27

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ  breastman  และคุณ hinghoi มาก ๆ เลยค่ะ สำหรับคำแนะนำ ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ตัดสินใจว่าจะไปผ่าที่ รพ.เดิม  เพราะจาำกคำแนะนำ เป็นทางเลือกที่ดีทีี่สุดแล้ว หมอบอกว่าจะทำการผ่าตัดแบบตัดออกหมดทั้งเต้า เลยขอหมอว่าจะเลือกผ่าแบบเก็บเต้านมได้ไหม หมอบอกว่าไม่ได้ค่ะ ต้องตัดออกทั้งหมด อยากทราบว่าทำไมหมอถึงบอกว่าผ่าแบบเก็บเต้านมไม่ได้คะ ถ้าเป็นคนหน้าอกเล็กสามารถผ่าแบบเก็บเต้านมได้ไหม เพราะเป็นคนหน้าอกเล็กค่ะ หรือว่าการผ่าตัดแบบตัดเต้านมออกทั้งหมด ตามที่คุณหมอแนะนำเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างคะในการผ่าตัด ตอนนี้สามารถกินยาสมุนไพร ของ คุณหมอสมหมายควบคู่ไปกับการรักษาด้วยได้ไหมคะ แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 55 16:39:35 แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 55 16:38:45 แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 55 16:19:00 จากคุณ : jaklex เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 16:11:21

ความคิดเห็นที่ 6 การผ่าตัดแบบเก็บเต้านม ประกอบด้วยการตัดก้อนมะเร็งออก และเนื้อเยื่อโดยรอบอีกประมาณ 1 เซนติเมตร ถ้าก้อนมะเร็งใหญ่ 2-3 เซนติเมตร ต้องตัดเนื้อเยื่อออกประมาณ 4-5 เซนติเมตร ในรายที่เต้านมไม่ไหญ่มาก การตัดเนื้อเต้านมออกมาก จะทำให้เต้านมยุบและเสียรูปทรง ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการรักษาด้วยวิธีเก็บเต้านมไว้ เพราะเต้านมก็จะเสียรูป บางกรณีก้อนอยู่ใกล้หัวนม หรือฐานลานหัวนม ก็ไม่เหมาะสำหรับการผ่าตัดแบบสงวนเต้านมไว้ เพราะต้องคว้านเนื้อเต้านมตรงกลาง และลานหัวนม และหัวนมออก ส่วนการรับประทานยา ของแพทย์ท่านดังกล่าว เท่าที่ทราบ เป็นยาคีโมชนิดกินผสมอยู่ด้วย ซึ่งยาดังกล่าวไม่ใช้ในสูตรการรักษาตามมาตรฐานสากล ซึ่งตัวยาอาจมีผลกดภูมิคุ้มกัน กดการหายของแผลผ่าตัด และอาจทำให้เซลล์มะเร็งพัฒนาการดื้อต่อยาเคมีบำบัดที่ต้องได้รับหลังผ่าตัด ขอแนะนำว่าให้หยุดยาไปเลย อย่าไปเสียดาย เท่าที่รู้มาแพทย์ท่านนั้นขายยาให้ราคาแพงมาก ประมาณ15000 บาท เชื่อเถอะ ไม่ได้ผลหรอก จากคุณ : breastman เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 17:54:25 A:58.97.84.11 X: TicketID:370909

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ  breastman ค่ะ พอดีก้อนอยู่ใกล้หัวนมค่ะ คงต้องรับการรักษา แบบตัดเต้านมออกหมด เรื่องยาก็คงจะไม่ีทานต่อแล้วค่ะ แต่มีคนแนะนำมาว่า ให้กินยาชงหญ้าปักกิ่ง แบบที่เป็นถุงชา ไม่ทราบว่าจะกินควบคู่ัไปกับการรักษาได้ไหมคะ จากคุณ : jaklex เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 18:32:55

ความคิดเห็นที่ 8 การรักษานั้นมีหลายทางเลือกครับ # เต้านม - ผ่าตัดออกทั้งเต้า เป็นวิธีมาตรฐานข้อดีคือเอาเนื้อเยื่อเต้านมออกไปทั้งหมด สามารถมาผ่าเสริมทีหลังได้ - ผ่าออกทั้งเต้าและเสริมใหม่เลย ผ่ารอบเดียว แต่ก็ผ่านานขึ้น เจ็บตัวเยอะ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเพราะการดูแลช่วงหลังผ่าโดยเฉพาะตอนให้เคมีนั้นบางทีถ้ามีปัญหา(ส่วนน้อยแต่สำคัญ)ก็ลำบาก - ผ่าแบบรักษาเต้า อย่างที่หลายความเห้นบอกคือมันมีข้อกำจัดสองอย่างหลักๆคือ ทางเทคนิค เต้านมต้องใหญ่พอเมื่อเทียบกับขนาดก้อนให้พอทำได้เพราะเราไม่ได้เลาะแต่ก้อน ผมเคยมีเคสที่เต้าเล็กแต่ไม่ยอมตัดออกหมดผลคือผ่าสามรอบยังไม่หมด สุดท้ายเลยไม่ยอมผ่าต่ออีก อีกข้อจำกัดคือความสวยงาม ถ้าเต้าเล็กหรือใกล้หัวนมหลังผ่าความสวยงามมักจะเสียไปหรือบางทีอาจจะดูบิดเบี้ยว ยุบบุ๋ม น่าเกลียดกว่าตัดออกหมดเสียอีก *** วิธีนี้หลังผ่าต้องฉายแสงด้วยเสมอ # ต่อมน้ำเหลืองรักแร้ - เลาะออกทั้งหมด เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดเซลล์มะเร็งในอดีตร่วมกับการผ่าตัดเยอะๆมีผลข้างเคียงมาก ในปัจจุบันผลข้างเคียงเรื่องแขนบวมพบไม่มากและไม่รุนแรงเหมือนแต่ก่อน - ฉีดสีหรือสารนิวเคลียร์แล้วเลาะต่อมเริ่มต้นที่มันไป (Sentinel LN biopsy) ตามหลักการคือการกระจายทางต่อมน้ำเหลืองจะวิ่งไปตามทางท่อน้ำเหลืองดังนั้นหากมีเซลล์มะเร็งกระจายไปการตรวจเพียงไม่กี่ต่อมก่อนก็จะพอบอกได้ ถ้าลามแล้วก็เลาะต่อจนหมด กรณีทำได้เฉพาะกรณีที่ยังคลำไม่ได้ต่อมน้ำเหลือง วิธีนี้มีปัญหา False Negative ประมาณ 10-15% เพราะตอนเลาะออกมาจะส่งตรวจแบบเร็ว(แช่แข็ง)หมอพยาธิจะฝานหนาๆเพื่อดูผ่านๆดังนั้นมีโอกาสบอกว่าไม่กระจายแต่พอดูละเอียดจากชิ้นเนื้อปกติ(แช่ฟอร์มาลินในพาราฟิน) ก็อาจจะมาเจอเซลล์มะเร็งภายหลังและต้องมาผ่ารอบสองอีกก็ได้ ปล.ยาหมอสมหมายได้ผลบ้างเหมือนกันนะครับเพราะมันคือยาแผนปัจจุบันผสมกับสมุนไพร แต่ วิธีให้นั้นยังไม่มีข้อมูลว่าดีไปกว่าวิธีที่ได้รับการศึกษามาเป็นพันเป็นหมื่นคน และที่ร้ายกว่าคือบางรายเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงต้องหามมาให้หมอแผนปัจจุบันแก้ไขให้ *** และที่สำคัญการรักษาด้วยยามีโอกาสกำจัดเซลล์มะเร็งหมดน้อยมาก ไม่สามารถทดแทนการผ่าตัดได้ การที่ก้อนยุบลงหมดไม่ได้หมายความว่าเซลล์มะเร็งจะหมดไปเพราะในการศึกษานั้นแม้จะให้ยาเคมีบำบัดจนยุบลงหมดตรวจไม่เจอไม่ว่าวิธีใดหากผ่าตัดออกมาดูก็จะยังมีโอกาสที่มีเซลล์มะเร็งเหลืออยู่นั่นหมายความว่าเมื่อหยุดยาหรือปล่อยนานไปมันจะกลับมาแน่นอน จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 18:48:12

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ oncodog มากค่ะ คงต้องเลือกรักษาตามที่คุณหมอแนะนำ แบบตัดออกทั้งเต้า แล้วเสริมทีหลัง เพราะกลัวมีผลตอนทำคีโมเหมือนกันค่ะ มีคนแนะนำมาว่า ให้กินยาชงหญ้าปักกิ่ง แบบที่เป็นถุงชา ไม่ทราบว่าจะกินควบคู่ัไปกับการรักษาได้ไหมคะ แล้วตอนนี้เราควรทาน อาหารอะไร ที่เป็นประโยชน์ และสามารถยับยังมะเร็งได้คะ จากคุณ : jaklex เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 19:25:40

ความคิดเห็นที่ 10 กินอาหารมาตรฐานนี้แหละ กินให้แข็งแรงไว้ จะได้มีแรงสู้ต่อ ดีแล้วที่เลิกกินยาหมอท่านนั้น ถ้าหาย(หมอ)ก็ดัง ถ้าไม่หาย ใครที่แนะนำมันจะรับผิดชอบ จขกท มั้ย ไม่มี จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 20:08:35

ความคิดเห็นที่ 11 มาแนะนำ จขกท นิดนึงค่ะ มีพี่ที่ทำงานเราทาน แต่ทานไปทานมา ตอนนี้เสียไปแล้วค่ะ ถ้า จขกท ทานชีวจิต ได้ก็ทานนะคะ แต่ถ้าไม่ได้ก็พยายามทานเนื้อให้น้อยลงค่ะ แต่ไข่ขาวทานได้ ค่ะ จากคุณ : ตังโอ๋ เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 22:57:22

ความคิดเห็นที่ 12 เพิ่มเติมค่ะ ว่าหญ้าปักกิ่งทานได้ค่ะ จากคุณ : ตังโอ๋ เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 23:04:39

ความคิดเห็นที่ 13 แต่แพทย์แผนปัจจุบัน ก็ไม่เคยรับประกันว่า การรักษาแบบผ่าตัด จะไม่กลับมาเป็นอีก มีคนไข้อยู่มากมายที่ผ่าตัดเอาเต้านมออกแล้ว ผ่านไป 3ปี 5ปี ก็กลับมาเป็นมะเร็งเต้า นมอีก  และผลของการใช้ยาที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์เป็นอันตรายต่อเซลล์ทั้งระบบของ ร่างกาย จะถูกเพิ่มปริมาณของยามากขึ้นๆ จนในที่สุดก็เสียชีวิต จากฤทธิ์ของยาซึ่งผล ข้างเคียงของการรักษาคนไข้ก็จะได้รับความเจ็บปวดจากฤทธิ์ของยาเช่นกัน         ในความคิดส่วนตัวของผม  ที่ไม่อ้างถึงข้อมูลจากที่ใด เซลมะเร็งที่เกิดขึ้นนั้นเกิด จากการที่ร่างกายได้รับสารพิษมากเกินไป  แนวทางรักษาจึงควรใช้วิธี แพทย์ทางเลือก ที่มุ่งเน้น "การล้างพิษ"ออกจากร่างกายจะดีกว่า ซึ่งวิธีการล้างพิษนั้นสามารถ เซิทหาได้ จากใน กูเกิ้ล     การเป็นมะเร็งนั้นมันค่อยๆมีการพัฒนาความรุนแรง  ไม่ใช่เป็นปุ๊ปตาย ปั๊ป  ถึงแม้หมอจะนัดผ่า วันที่ 15  ก็ไม่ควรจะรีบไปผ่า เพราะความเสียหายของร่างกาย ที่ถูกตัดเต้าออกไปมันมากมายมหาศาล จึงควรที่จะรักษาชิ้นส่วนของร่างกายไว้จะดีกว่า การมีประกันสังคมไม่ใช่ประเด็น  การเลือกแนวทางรักษา เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า ผมศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มาตลอด  เห็นคนรู้จักกันเป็นมะเร็งตายก็มาก แพทย์แผนปัจจุ บันที่รักษา แล้วผู้ป่วยเสียชีวิตก็ไม่เคยยอมรับว่าการรักษา ด้วยวิธี "ปวดหัว รักษาหัว ปวดขา รักษาขา" เป็นวิธีการที่ไม่สมบูรณ์  มันมีความบกพร่องอยู่มาก  ผมพูดกับตัวเอง อยู่บ่อยๆว่า  ถ้าผมเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ผมจะไม่ใช้วิธีการผ่าตัดอย่างเด็ดขาด ผมจะรักษาด้วยวิธีแพทย์ทางเลือก ซึ่งผมได้ศึกษาวิธีการไว้แล้ว แต่ผมแน่ใจว่าผมจะ ไม่เป็นมะเร็งอย่างแน่นอนเพราะผมได้ดูแลเลือดลมภายในร่างกายของผมอยู่ตลอด เวลา จากคุณ : พรรษา เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 07:39:12

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบความเห็น 9 เรื่องหญ้าปักกิ่ง หรือ หญ้าเทวดานั้นมีกาศึกษาดีที่สุดคือ ประสิทธิภาพ มีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางอย่างได้ ความเป็นพิษ พบว่ามีความเป็นพิษกับตับและไตที่ขนาดสูงมากๆ อย่างไรก็ตามยาที่มีผลในระดับเซลล์นั้นเกือบทั้งหมดล้มเหลวในการแสดงประสิทธิภาพในระดับคน และเรื่องความเป็นพิษนั้นไม่ได้ดูในกรณีที่ได้เคมีบำบัดอยู่ ดังนั้นคำแนะนำที่เหมาะสมคือไม่ควรทานขณะได้รับเคมีบำบัดอยู่เพราะอาจจะทำให้ประสิทธิภาพเคมีบำบัดลดลงหรือความเป็นพิษของเคมีบำบัดมากขึ้น เรื่องการรักษาทางเลือกที่เป็น "ธรรมชาติบำบัด" จริงๆนั้นในเวชปฏิบัติของตัวเองไม่เคยห้ามคนไข้แต่จะให้ข้อมูลข้อดีข้อเสีย ถ้าจะเลือกจริงๆผมจะไม่ให้คีโมเพราะมันอาจจะอันตรายกว่า ผมจะแนะนำคนไข้ให้มาติดตามการรักษากับผมต่อ(แม้จะไม่เอาคีโมก็ตาม)เพราะจะได้แสดงให้เห็นว่าการรักษานั้นๆมันเปล่าประโยชน์ ผ่านมาหลายปียังไม่มีซักเคสเดียวที่มันได้ผล (ยกเว้นของหมอมีชื่อท่านนั้นซึ่งอย่างที่บอกเขาให้ยาเคมีบำบัด ยาแผนปัจจุบันด้วย) แต่ที่อันตรายคือการรักษาที่อ้างว่าเป็นทางเลือกแต่แท้จริงแล้วกลับให้สารเคมีที่มากมายไม่ว่าจะเป็นวิตามินขนาดสูง ยาแผนปัจจุบันที่ให้แบบผิดๆเกินขนาด เราไม่เคยรับประกันว่าคนไข้จะหายขาด แต่เรารับประกันว่าทางเลือกนี้ให้ "โอกาส" หายขาดสูงที่สุดชนิดที่ไม่มีทางเลือกใดยังเอาชนะได้ แต่กลับกันผมเห็นคนไข้ที่ถูกทางเลือกบอกว่าดีแน่ หายแน่ ย่ำแย่ลุกลามมารักษากับผมอยู่เนืองนิจ สิ่งที่เขาเก่งคือเขาพูดโน้มน้าวเก่ง อาจจะด้วยจรรยาบรรณที่ทำให้เราไม่สามารถพูดแบบโน้มน้าวได้มันเลยทำให้การรักษาแผนปัจจุบันดูผลไม่ค่อยดี คนไข้ทางเลือกคนล่าสุดติดตาม CT ให้โรคก็ลุกลามต่อแต่ยังเชื่อทางเลือกว่าเดี๋ยวมันจะดีขอยังไม่เอาคีโม ก็ได้แต่เตือนว่าหากสายเกินไปร่างกายทรุดโทรมเกินรับยาไหวเมื่อไรถึงอยากได้คีโมแต่ผมก็คงไม่ได้ไม่ให้อีก จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 08:25:12

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับทุก ๆ ความคิดเห็น จากคุณ : jaklex เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 15:30:08