Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อาผมเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านม ลามไปกระดูกแล้วครับ อยากเขียนเรื่อง สื่อรักสัมผัสหัวใจในผู้ปวยมะเร็งให้อ่านกันนะครับ ติดต่อทีมงาน

ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณอย่างมากๆๆ สำหรับคำแนะนำหลังไมค์เกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แต่อาผมไปไหนไม่ไหว

ทานยาอะไรไม่ได้เลย การเดินทางลำบากมาก จนกระทั่งไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา

ผมค่อนข้างฝังใจ และ ลืมไม่ลงจริงๆ ครับ เกี่ยวกับโรคมะเร็ง เพราะได้อยู่ดูใจคุณอาจนวินาทีสุดท้าย ผมอยากบอกว่ามันทรมานมากจริงๆ โรคนี้

ผมจึงระบายออกมาเป็นตัวหนังสือ เรียบเรียงจากประสบการณ์จริง ผมจะทยอยเขียนเป็นตอนๆ นะครับ

ตอนที่ 1

สื่อรักสัมผัสหัวใจของ "ผู้ป่วยระยะสุดท้าย"

ท่านผู้อ่านหลายท่านน่าจะทราบกันดีนะครับว่า "ผู้ป่วยระยะสุดท้าย" โดยเฉพาะโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งชนิดต่างๆ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไต ฯลฯ ในช่วงระยะสุดท้ายก่อนจะเสียชีวิตทรมานขนาดไหน

บางท่านไม่ทราบ เพราะไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์ หรือ ไม่มีญาติพี่น้องป่วยด้วยโรคประเภทนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดี “เพราะการไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” ดั่งคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนา ตามที่พระท่านว่าไว้

การดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายนั้นช่วงที่สำคัญที่สุดคือ 2 สัปดาห์ก่อนที่จะคนที่เรารักจะเสียชีวิต บางคนทราบ บางคนไม่ทราบ ซึ่งเราอาจจะถามจากแพทย์ หรือ สังเกตุอาการจากคนไข้ว่า “อาการตอนนี้อยู่ได้อีกกี่วัน”  

เพราะหากจะไปถามกับแพทย์ตรงๆ คงจะได้รับคำตอบคล้ายๆ กันว่า “ไม่ทราบ แล้วแต่จิตใจของคนไข้” ซึ่งอาจจะเป็นจรรยาบรรณของแพทย์ หรือ ความเกรงใจ ที่กลัวว่าญาติผู้ป่วยจะตกใจ หรือ หดหู่

ผมเป็นคนหนึ่งที่มีความเข้าใจในเรื่องผู้ป่วยระยะสุดท้ายดีที่สุด เพราะได้เฝ้าไข้ญาติที่รักหรือ คุณอาลำใย ขันทอง ที่เปรียบประดุจดั่ง “แม่บังเกิดเกล้า”

การเฝ้าท่านในช่วงนั้นทำให้ผมได้สื่อสารกับท่านตลอดเวลา ผ่านทางแววตา สีหน้า และที่สำคัญที่สุดคือ “หัวใจ”

เพราะหากเป็นคนอื่นๆ จะไม่ทราบเลยว่า “คนที่เรารัก” ต้องการสื่อสารอะไร เพราะทั้งสายยาง ฝาครอบจมูกให้ออกซิเจน สายน้ำเกลือ ต่างๆ เหล่านี้ถูกโยงระยางเพื่อช่วยประคองชีวิตคนที่เรารักให้ยาวนานที่สุด

คนที่เรารัก ไม่สามารถขยับร่างกายได้ เพราะไม่มีแรง ซึ่งในช่วงระยะสุดท้าย ร่างกายถูกทำลายด้วยเซลล์มะเร็งไปหมดแล้วทำให้ไม่สามารถบอกกล่าวอะไรได้เลย แต่ทั้งนี้ผู้ป่วยรับรู้ได้จากพวกเราคนเฝ้าไข้ และ ญาติๆ  

สิ่งที่ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายยังคงมีอยู่คือ “จิตใจ” ที่รับรู้ได้ ซึ่งก็แล้วแต่ความเข้มแข็งของแต่ละคน ด้วยว่า ...ใครห่วงอะไรมากก็อยู่นาน ใครไม่ห่วงอะไร ก็อาจจะใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน ซึ่งตรงนี้พยาบาลประจำตึกผู้ป่วยหญิงเป็นคนบอกผม เพราะพยาบาลท่านนี้ผ่านประสบการณ์มาเยอะกับคนป่วยระยะสุดท้าย  

แต่สำหรับผมแล้ว คุณอาลำใย ขันทอง อยู่ในสภาพห่วงใยญาติพี่น้อง เป็นเวลา 9 วัน ที่คุณอาลำใย ได้สื่อสารทาง “หัวใจ” เพียงอย่างเดียว

เป็นความห่วงใยที่อยากจะพูดกับพี่ๆ น้องๆ และหลานว่า “เจ็บปวดมาก” และ “อยากจะขอร่ำลาว่าความทรมานจากอาการของมะเร็ง ไม่สามารถจะใช้ชีวิตต่อไปได้แล้ว ดังนั้นไม่ต้องห่วงเขา”

เป็นความห่วงใยที่เกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายพร้อมกัน “จากผู้ป่วย และ ญาติผู้ป่วย”  ผมสามารถรับรู้ในเรื่องนี้ได้อย่างดีจากแววตาที่คุณอาลำใยสื่อสารมาถึงผม !  

*** ติดตามอ่านตอนที่ 2

แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 55 10:14:36

แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 55 07:00:28

 
 

จากคุณ : hybridball
เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 06:44:03




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com