Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องราวที่ "ไม่รู้จะอธิบายยังไง..." ติดต่อทีมงาน

สวัสดีครับเพื่อนท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านกระทู้นี้ ฮี่ๆๆๆๆๆ
ท่านได้ตกหลุมพลางละ.....  แป่วววววว  ม่ายช่ายแร้ววว...

พอดีผมเพิ่งออกเวรน่ะครับ... เพิ่งว่างจากการทำงานติดต่อกันมาตั้งแต่หกโมงเช้า T><T
เลยอยากเอาเรื่องที่ได้เจอมาเล่าให้ฟัง เวิ่นเว้อซักหน่อย...

คือ... ผมอยู่เวร ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งน่ะครับ
ประมาณสามทุ่ม ก้อมีคนติดต่อ ขอส่งตัวผู้ป่วย
มารับการรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลที่ผมเข้าเวรอยู่
คนไข้เป็นผู้ชายไทย ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ
มาด้วยอาการสำคัญคือ ทำร้ายร่างกายด้วยของมีคม ฟันที่บริเวณศีรษะ
แผลเป็นแผลยาว คล้ายที่คาดผมผู้หญิงนั่นแหละครับ
ใต้แผลมีกะโหลกศีษะแตก ตามรอยฟัน และแผลนี้มีเลือดออกมาก...

เหตุนี้เกิดตอนบ่ายครับ...
ตอนแรกที่ไปโรงพยาบาลแรกนั้น คนไข้ยังพอรู้อยู่บ้าง
(ภาษาทางโรงหมอเค้าให้คะแนนเป็น M5 ครับ)
ผมได้รับการติดต่อว่าจะส่งตัวผู้ป่วยมาประมาณค่ำๆ
ตอนที่มา นี่ แย่แล้วครับ ไม่รู้สึกตัว ม่านตาไม่ตอบสนองต่อแสง
ความดันตก... (ตอนนี้เหลือแค่ประมาณ M2-M3)
ก้อรีบให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ, และให้เลือด
จากนั้นก้อรีบนำคนไข้ไป ทำ เอ้กซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง...
ที่เห็นก้อคือ กะโหลกแตกตามรอยฟัน มีเลือดออกในกะโหลกศีรษะ

ก้อรีบเปิดผ่าตัดฉุกเฉินทันที...
ระหว่างนี้ ก้อคุยกับญาติ ซึ่งเป็นแม่ของผู้ป่วยครับ
แนะนำถึงเรื่องความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงความเสี่ยงที่อาจจะเสียชีวิตบนเตียงผ่าตัด
แม่บอกแต่ว่า ขอให้ทำเต็มที่ เข้าใจดีว่าอาการอาจจะไม่ดี
อย่างน้อย ขอแค่ไม่ให้ตายบนเตียงผ่าตัด
เพราะจะได้ให้ลูกตนเองน้ัน  "สามารถบริจาคอวัยวะได้"
(หากเสียชีวิตจากภาวะสมองตาย)

ผมเข็นคนไข้เข้าห้องผ่าตัดตอนดีกๆ แล้วครับ
ผ่ากันเสร็จ เข็นคนไข้ออก ก้อปาเข้าไปเกือบสว่าง
หลังทำ ก้อเอาคนไข้ไปทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมองซ้ำ
ก้อพบว่าสมองมันค่อนข้างดำและบวมมาก จนคิดว่าอาจจะเกินเยียวยาแล้ว
ก้อเลยต้องคุยกับญาติ เพื่อแจ้งอาการ และผลการผ่าตัดอีกรอบ

ระหว่างที่คุยกับญาติ ส่ิงที่ผมรู้สึกได้เพียงอย่างเดียวคือ
"ผู้หญิงคนนี้เข้มแข็งมาก"
เธอยิ้มตลอดเวลา บอกแต่คำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
มีบางขณะที่ผมสังเกตได้ว่า เธอหัวเราะกลบเกลื่อน
แต่ระหว่างนั้น เธอก็ยังบอกอยู่เสมอว่า
...ขอแค่บริจาคอวัยวะได้ก็ยังดี...

ทีมของผมไปคุยกับเธออีกครั้ง ตอนเช้าวันนี้
หลังจากที่ประเมินอาการแล้ว...
ก้อได้แต่บอกว่า... อาการแย่ลงอีก
มีภาวะเลือดเป็นกรด (severe metabolic acidosis)
เกร็ดเลือดต่ำ ฯลฯ....
....อาจจะไม่รอดนะ  ผมคิดว่าคุณแม่คงต้องทำใจนะครับ...

หลังจากนั้น น้ำตาของผู้เป็นแม่ ก็หลั่งไหลออกมาพร้อมกับการโอบกอดลูกชาย
บ่งบอกถึงดวงใจของผู้เป็นแม่ที่กำลังจะแหลกสลายไป
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคำพูดประโยคนึง ที่ทำให้ผมอึ้งไปอีก...
"ทนอีกหน่อยนะลูก เดี๋ยวก้อได้บริจาคตามความตั้งใจแล้ว"...
ผมปลอบเธอได้เพียงนิดหน่อย แล้วก้อออกไป เพราะคิดคำพูดไม่ออก
ว่าจะพูดกับเธอยังไงต่อไปดี...
...
...
...
..
.
.... "การให้ ไม่มีสิ้นสุด" ครับ....
.... ผมคิดว่า บางคร้้ง แค่คิดถึงตัวเองให้น้อยลง
.... หันไปมองคนอื่นมากขึ้น
.... รู้จัก Give มากกว่า Get
.... แค่นี้ ก็จะทำให้สังคมเราน่าอยู่ขึ้นแล้ว...

เขาอาจไม่รู้หรอกครับ ว่าการเสียสละของพวกเขา ครั้งนี้
อาจช่วยชีวิตคนได้อีกอย่างน้อยๆ ห้าหกคน
ขอให้ผลบุญ อันเกิดจากการการกระทำของบุตร และ มารดา คู่นี้
จงดลบันดาลให้พวกเขาเหล่านั้นพบแต่สิ่งที่ดีตลอดไป...
.
.
.

ผมขอไปนอนก่อนแล้วกันครับ
มีอะไรตอบกันไว้ เดี๋ยวจะมาตอบครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ....

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 10:05:53

จากคุณ : PeaceBREAKER
เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 18:13:56




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com