|
เมลิออยด์ โรคติดเชื้อที่คนไทย ต้องรู้จัก !!
|
|
เมลิออยด์ เป็นโรคติดเชื้อที่พบในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน มานานแล้ว แต่ทำไมคนไทย จึงไม่ค่อยรู้จักโรคนี้ ??? นั่นเป็นเพราะโรคนี้ มีอาการได้หลากหลาย และมักจะวินิจฉัยได้ช้า ทำให้ผู้ป่วยหลายคนเสียชีวิตก่อน แต่ที่สำคัญ คือโรคนี้สามารถป้องกันได้ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันเถอะครับ ^^ ผมหาข้อมูลที่เป็นข้อสรุปสั้นๆ 10 ข้อนี้มาให้ทุกคนได้อ่านกัน
1) คนไทยเป็น "โรคเมลิออยด์" ปีละไม่ต่ำกว่า 2,000 คน และเสียชีวิตด้วยโรคนี้ปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ... (ตัวเลขรายงานโดยโรงพยาบาลนั้นคลาดเคลื่อนจากตัวเลขที่แท้จริงอย่างมาก) 2) มีงานวิจัยยืนยันว่าในปี 2551 ถึง 2554 เฉพาะในจังหวัดอุบลราชธานี มีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วย "โรคเมลิออยด์" มากกว่า 150 รายต่อปี และจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้กำลังเพิ่มขึ้นทุกปี 3) "โรคเมลิออยด์" เคยมีชื่อภาษาไทยอื่นๆ ว่า "โรคเมลิออยโดสิส" "โรคมงคล่อเทียม" และ "โรคไข้ดิน" ชื่อ "โรคเมลิออยด์" นั้นถูกกำหนดตามผลการประชุมระหว่างทีมนักวิจัยและตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขประเทศไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2555 ณ. คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล เพื่อให้การรณรงค์เกี่ยวกับโรคนี้ใในทุกภาคส่วนสอดคล้องกัน 4) "โรคเมลิออยด์" เกิดจากการติด "เชื้อเมลิออยด์" ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในดินและในน้ำ พบได้ทั่วไปในดินและในน้ำในประเทศไทย 5) การติด "โรคเมลิออยด์" นั้นเกิดจาก (1) การสัมผัสดินและน้ำทางผิวหนังโดยตรง (2) จากการกินอาหารหรือน้ำที่ไม่สะอาดและมีแบคทีเรียปนเปื้อน หรือ (3) จากการหายใจเอาเชื้อเข้าทางปอดโดยตรง ** โดยที่โรคนี้ไม่ติดต่อจากคนสู่คน ** 6) "โรคเมลิออยด์" จะระบาดมากในช่วงฤดูฝน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูทำนาของเกษตรกร โดยที่เกษตรกรไทยมีการสัมผัสดินและน้ำตลอดเวลาโดยไม่มีการป้องกัน 7) อาการของ "โรคเมลิออยด์" นั้นมีได้หลากหลายรูปแบบ บางคนก็มาด้วยไข้สูงอย่างเดียว บางคนก็มาด้วยปอดอักเสบ บางคนก็มาด้วยอาการปวดท้อง บางคนก็มาด้วยอาการฝีเรื้อรังไม่หาย บางคนก็มาด้วยไอเหมือนวัณโรค อีกทั้ง บางคนก็มาด้วยอาการเฉียบพลัน บางคนก็มาด้วยอาการเรื้อรัง ทำให้ยากต่อการวินิจฉัย 8) การวินิจฉัยโรคเมลิออยด์นั้นทำได้โดยการเพาะเชื้อ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2-7 วันในการเพาะเชื้อ แต่คนไทยไม่ค่อยรู้จักโรคนี้เพราะกว่าผลเพาะเชื้อจะออกว่าเป็น "โรคเมลิออยด์" นั้นผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็เสียชีวิต และญาติได้นำศพกลับบ้านไปแล้ว 9) "โรคเมลิออยด์" ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะทั่วไป ต้องใช้ยาปฏิชีวนะที่จำเพาะกับเชื้อที่ก่อโรคนี้เท่านั้น ดังนั้นผู้ป่วยที่มีไข้สูง (ที่ไม่ใช่ไข้หวัด) และมีอาชีพทำไร่ทำนาหรือมีประวัติสัมผัสดินหรือน้ำโดยตรง ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ 10) ทีสำคัญที่สุดก็คือ "โรคเมลิออยโดสิส" สามารถป้องกันได้ โดยการ (1) ไม่สัมผัสดินและน้ำโดยตรง ไม่เดินเท้าเปล่า และ เกษตรกรควรสวมถุงมือและใส่รองเท้าบูทเสมอ (2) กินอาหารที่สะอาดและดื่มน้ำต้มสุกเท่านั้น (3) ถ้าจำเป็นต้องสัมผัสดินและน้ำโดยตรง (เช่น ต้องทำนาโดยไม่สามารถสวมถุงมือหรือใส่รองเท้าบู๊ทได้) ควรทำความสะอาดร่างกายทันที หลังจากเสร็จกิจกรรมนั้นๆ (4) ไม่ตากฝน ไม่อยู่ท่านกลางฝุ่นดิน และ (5) เลิกบุหรี่ ไม่ทานยาหม้อ ยาต้ม ยาชุด หรือ ยาลูกกลอน
ขอบคุณข้อมูลจาก www.melioidosis.info/th และถ้าใครอยากอ่านเพิ่มเติมก็เข้าไปตามลิงค์ได้เลย กดโหวต ให้กระทู้นี้ขึ้นแนะนำ คนไทยจะได้อ่านกันเยอะๆนะครับ ^^
จากคุณ |
:
smhong
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ต.ค. 55 21:15:56
|
|
|
| |