ความคิดเห็นที่ 1 ใครๆก็อยากให้ น้ำหนักที่ลดลง เป็นไขมันหายไป มากกว่ากล้ามเนื้อ ถูกไหมครับ ตรงนี้มาถูกทางแล้วครับ การอดอาหาร ทำให้น้ำหนักลดก็จริง แต่ที่หา่ยไป จะเป็นกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน 1.คุมปริมาณ แคลอรี่ใน1วัน 2.ออกกำลังกาย เพื่อดึงไขมันมาใช้ (เช่นว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เดินเร็วบนลู่วิ่งไฟฟ้า ฯลฯ) ซึ่งก็ไม่ต้องรีบครับ เพราะไขมันที่สะสม ตอนแรก เราก็ค่อยๆกินเข้าไปเหมือนกัน ช้าๆปลอดภัยต่อร่างกาย ความต้องการของร่างกาย ในแต่ละมื้อแบ่งเป็น แป้ง โปรตีน ไขมัน ถ้าในแต่ละวัน เราสามารถกินแคลอรี่ให้ได้เท่าๆกัน ทีนี้จะเป็นงานง่ายเลยครับ เพราะโดยทั่วไป สูตรลดคือ ตัดแป้งคราวละ10-15% แล้วสังเกตุต่อไป สัปดาห์ต่อสัปดาห์ (โดยยังกินโปรตีนและไขมัน เท่าเดิม หรือให้ได้ปริมาณเพียงพอ เท่าที่ร่างกายต้องการ นั่นเอง) ปล.โดยที่ก่อนจะไดเอ็ต (ตัดแป้งลง) ควรจะเริ่มออกกำลังกาย กระทั่งได้วันละ 30-50นาที 5วันต่อสัปดาห์ หมายความว่า น้ำหนักเริ่มนิ่งแล้วนั่นเอง (ไม่ยอมลดลง) จึงมาตัดแป้งช่วย ทีนี้สัปดาห์ต่อๆไป ถ้าน้ำหนักเริ่มนิ่งอีก ก็ตัดแป้งลงอีก 10-15% พอตัดแป้งครบ50% ทีนี้ลดได้แค่ไหนก็แค่นั้นครับ กลับมากินปกติ (แต่ยังงดของทอดของมัน เหมือนเดิม) แล้วรอ3-5เดือน ค่อยมาเข้าโปรแกรมใหม่ จากคุณ : Patriots เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 01:44:35

ความคิดเห็นที่ 2 สรุปว่า เราควรไดเอ็ตอาหารก็ต่อเมื่อ ออกกำลังกายแล้ว น้ำหนักเริ่มตัน ไม่ยอมลง แต่ที่คนทำผิดคือ อดมื้อเย็น (ทั้งๆที่ไม่ได้เข้าโปรแกรม ออกกำลังกาย) ร่างกายจึงสลายกล้ามเนื้อ มาเป็นพลังงาน (น้ำหนักที่ลด คือกล้ามเนื้อที่หายไป) ผลเสียอีกอย่าง จากการอดอาหารคือ ลดmetabolism ของร่างกายตัวเอง ปล.ขณะที่ทำcardio คนที่ร่างกายมีกล้ามเนื้อมากกว่า จะเบิร์นไขมันได้มากกว่า จากคุณ : Patriots เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 01:54:34

ความคิดเห็นที่ 3 น้ำหนัก ส่วนสูง ใกล้เคียงกันมาก ตอนวัยรุ่นก็น้ำหนัก ต่ำกว่า 60 ปัจจุบันก็ 63 - + แต่รูปร่างเฟิร์มกว่าวัยรุ่น ยกเว้นหน้าตา ออกกำลังกาย ต้องมีวินัย รวมทั้งการกินด้วย คาร์ดิโอ เสริมด้วยเวท เครื่องมือไม่จำเป็น แต่ถ้าไม่เดือดร้อนก็จัดไป แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 55 08:45:02 แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 55 08:42:38 จากคุณ : ชาวนากรุงเก่า เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 08:40:38