Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
HIV อีกด้านหนึ่งขงอผู้ติดเชื้อ บางที คุณคงต้องใส่ใจสังคมให้มากขึ้นมากกว่าความสุขส่วนตัวของคุณ ติดต่อทีมงาน

มันเป็นประสบการณ์ที่น่าเศร้า ของผมที่ต้องประสบพบเจอ เมื่อ อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมขอเริ่มเล่าเลยก็แล้วกัน อาจจะยาวสักหน่อย ทนๆอ่านกันหน่อยนะครับ เพราะเรื่องนี้ น่าจะสอนใจ คนติดชื้อ กับ คนที่กำลังมีความรักได้เป็นอย่างดี

ผมเริ่มทำงานตั้งแต่ปี 40 ในสำนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตอนนี้เป็นชื่อมาเป็น สำนักงานควบคุมโรค แล้วครับ แต่เขตไหน ไม่ขอเอ่ยก็แล้วกันนะครับ สมัยนั้น ในรพ ของรัฐ ยังไม่มีระบบการให้บริการสำหรับผู้ช่วยที่ติดเชื้อ HIV อย่างเป็นระบบเลย แต่ก็มีคลีนิคนิรนามแล้วนะครับ ผมเป็นทีมงานที่เริ่มต้นทำ ระบบการดูแล ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ใน รพ โดย ต้องไปโน้มน้าว ผอ แต่ละ รพ เพื่อเข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก เพราะสมัยนั้น โรคนี้ ยังเป็นที่หน้ากลัวมาก ความเข้าใจของประชาชนต่อโรคนี้ น้อยมาก แม้กระทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และที่สำคัญ สมัยนั้นทางรัฐบาลยังไม่บังคับให้รพ ของรัฐต้องมีระบบให้บริการสำหรับผู้ป่วยเอสด์ เมื่อผ่านผอ อนุมัติแล้ว ในทีม ก็จะต้องประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล เภสัชกร เจนท ห้องปฏิบัติการ และ นักสังคมสงเคราะห์ ที่เข้ามาทำงานร่วมกัน สมัยนั้น เหนื่อยมากครับ เป็นข้าราชการ แต่ต้องทำงาน 7 วัน จันทร์ ถึงศุกร์ ต้องไปเยี่ยม ไปบรรยาย เสาร์อาทิตย์ ต้องมาเคลียงานที่กองอยูเต็มโต๊ะ จะลาออกก็ไม่ได้ เพราะสมัยนั้น คนทำงานนี้ มันมีน้อยจริงๆ อีกอย่างเวลาเราไม่เจอคนไข้ มันทำให้เราลาออกไม่ได้ แววตาเขา มันน่าสงสาร น่าเห็นใจ จน ผมสัญญากับตัวเองว่า โครงการนี้ ต้องสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างก่อน ผมถึงจะลาออก

นอกเรื่องนิดหนึ่ง ในการทำงาน มันจะมีปัยหาอยู่อันหนึ่ง ซึ่ง ต้องเจอกันแทบทุกโรงพยาบาล คือ เมื่อสามี ภรรยา มาตรวจเลือด หากเป็นทั้งสองคน อันนี้ ให้คำปรึกษาได้สบายไม่ยุ่งยาก หากเจอ สามีติดเชื้อ ภรรยา ไม่ติดเชื้อ อันนี้ก็ให้คำปรึกษาไม่ยาก และส่วนมาก ภรรยาก็พร้อมที่จะดูแลสามีของตัวเองต่อไป ด้วยความรักปนสงสาร(มั้ง) แต่เคส ที่ ภรรยาติดเชื้อ สามีไม่ติดเชื้อ อันนี้ บ้านแตกครับ สามีรับไม่ได้ จนบางครั้ง เราต้องเรียกยาม ให้มาอยู่ใกล้ๆ ก่อนให้คำปรึกษา เพราะเสี่ยงต่อมีการตบตีกันมากที่สุด

เข้าประเด็นเลยแล้วกัน ปี 2542 ผมได้พบผู้ป่วยท่านหนึ่ง เป็นข้าราชการนอน ซม อยู่บนเตียง ในรพ ของรัฐแห่งหนึ่ง ตอนนี้ CD4=0 นำหนักเหลือแค่ 45 กก ขณะที่สูงเกือบ 180 ผิวแห้งดำคล้ำ สายตาเขา มันเว้าวอน ว่าช่วยเขาหน่อย ซึ่งแน่นอน ผมและทีมงานก็ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว ช่วยดูแลรักษาเขา ให้ยาต้าน HIV ซึ่งเขาก็ปฏิบัติตัวตามที่เราแนะนำอย่างเคร่งครัด จนอาการเขาดีขึ้นตามลำดับ ผมกับเขา เจอกันบ่อยมาก บางครั้งเขาก็โทรมาปรึกษาเรื่องผลข้างเคียงจากการใช้ยา พอเขาเริ่มมีแรง เขาเคยพูดกับผมไว้ว่า แค่ตื่นมา พรุ่งนี้ เขายังมีลมหายใจอยู่ แค่นี้ เขาก็พอใจแล้ว ผมก็เลยพูดเชิงขำขำว่า โอ้ย ไม่ตายง่ายๆหรอก คนดูแลตังเองดีอย่างเขาตายยาก ผมสิ อาจจะตายก่อนก็ได้ ใครจะไปรู้ เขาก็หัวเราะ

ผ่านไปสองปี ผมกับเขาเลยสนิทกันมากขึ้นจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันอาการเขาดีขึ้นจนเหมือนคนปกติ ไวรอล โหลด = 0 เขาเข้ายิม ดูแลตัวเอง จนกลับมาหล่อเฟี้ยว เหมือนสมัยหนุ่มๆ แต่ผมเหรอ ลงพุงหล่อสู้มันไม่ได้หรอก

พอปี45 เพื่อนผมคนนี้ก็เริ่มมีแฟน อันนี้แหละ เป็นปัญหาใหญ่ ของโครงการการให้ยาต้านไวรัสเอดส์ ในมุมบวก คือ ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่ในทางกลับกัน เขาก็จะเป็นพาหะ ซึ่งหลังจากเริ่มโครงการนนี้ เราพบว่า เรามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น อย่างหน้าใจหาย เข้าเรื่องเพื่อนผมเลยก็แล้วกันนะครับ ด้วยควาาที่มันหน้าตาดี บุคคลิกดี หน้าที่การงานดี พูดจาดี ก็มีสาวนางหนึ่งมาชอบพอ ขอใช้นามสมบุติ ว่า น้อง บี ก้แล้วกันนะครับ

น้องบี เป็นสาวไทย มารยาทงาม ถูกเลี้ยงดูแบบ ไทยแท้ ด้วยวงศผู้ดีสมัยเก่า แต่น้องบี ครอบครัวเธอ พ่อไปมีเมียน้อย แต่ก็ยังไปมาหาสู่บ้านใหญ่บ้านเล็ก แม่ของเธอ เกลียดผู้ชายสำส่อนมาก น้องบี จึงเหมือน ผู้หญิงขาดความอบอุ่น ขาดความมั่นใจ เมื่อได้รู้จักเพื่อนผม ทั้งสองจึงตกลงเป็นแฟนกัน ซึ่ง เพื่อนผมก็ไม่ยอมบอกบีว่าตัวเองติดเชื้อ ตอนนั้น ผมก็สับสนมาก ด้วยจรรยาบรรณ ที่เราไม่สามารถเปิดเผยความลับของผู้ป่วยได้ ผมจึงบอกบีไม่ได้ ผมเคยขอร้องให้เพื่อนผมเลิกกับบี โดยให้เหตุผลว่า ถ้าเองรักเขา เองต้องปล่อยเขาไปเจอคนที่ดีกว่า แต่เพื่นผมมันก็ไม่ยอม ผมก้เลยบอกว่า งั้น เองต้องไปบอกเขาว่าเองติดเชื้อ HIV มันก็บอกว่า มันทำไม่ได้ มันกลัวบีจะัรับไมไ่ด้แล้วทิ้งมันไป ตอนนั้นผมโกรธเพื่อนผมมาก ผมเลยด่ามันไปแบบ โมโห ว่า ไหนเมิงสัีญญากะกุว่า เมิงขอแค่ตื่นขึ้นมาแล้ว ยังรู้ว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ก้พอแล้วไม่ใช่หรือ ถ้ากุรู้ว่ามันจะเป็นอย่างนี้ กุไม่ดึงเมิงลุกขึ้นมาจากเตียงหรอก มันร้องไห้ ผมก็ร้องไห้ผมเสียใจที่พูดออกไปอย่างนั้น มันก็บอกว่ามันเสียใจ แต่มันก้อยากมีคนรัก อยากมีแฟน อยากมีอะไรๆเหมือนคนทั่วไป จนผมอารมณ์ เย็นลง ผมก็เลยกลับไปคุยกับเขาใหม่ ว่า งั้น เมิงต้องสัญญาว่า ทุกครั้ง ที่มีเพสสัมพันธุ์ เมิงต้องป้องกัน มันก็บอกว่าสัญญา

ปี 47 รัฐบาลประกาศให้ ทุกรพ ต้องมี คลีนิคสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV งานของผมจบแล้ว แต่ก่อน ผมเหนื่อยมาก ห้ามป่วย ห้ามลา ห้ามหยุด เมื่อรัฐบังคับ พอประกาศของรับออกมา วันรุ่งขึ้น ผมลาออกจากข้าราชการทันที เพราะโครงการนี้ จะมีคนสานต่อแล้ว ผมสามารถลาออกได้อย่างสบายใจ แต่ผมก็ยังติดต่อกับเพื่อน คนนี้อญุ่ แต่นานๆที แค่ย้ำให้มันกินยาให้ตรงเวลา พอหมอให้ตรงเวลา

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมมีโอกาสได้ผ่านไปแถวบ้านของเพื่อนผม เจอแม่ของเขา แม่ถามว่า ได้ไปงานศพบีหรือเปล่า ผมตกใจมาก ถามว่าบีตายแล้วเหรอ บีเป็นอะไรตาย แม่เพื่อนผมบอกว่า บีป่วยตาย ผมตกตะลึงมาก เลยขอตัวขึ้นไปพบเพื่อนผมในบ้าน

เพื่อนผมเห็นหน้าผม มันตกใจ แล้วมันก็ร้องไห้ออกมา ว่า กุขอโทษ กุไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทุกครั้ง กุก็ป้องกัน ไม่ไม่รู้ทำไม บีจึงติดเชื้อ HIV ผมเลยบอกมันว่า ทำไมตอบบีป่วย เมิงไม่โทรหากุ ถึงกุจะออกจากราชการแล้ว แต่กุก็ยังมีเพื่อน มีอาจารย์ กุสามารถช่วยบีให้มีชีวิตยืนยาวแบบเมิงได้ มันบอกว่า บีไม่ยอมรักษา บีไม่มีกำลังใจในการรักษาตัวเอง กุพาบีไปรักษาแล้ว บีไม่ยอมกินยา บี ถูกคนในครอบครัวรังเกียจ บีถูกแม่ด่าว่าเป็นคนสำส่อนเหมือนพ่อมัน บีมันตรอมใจ ผมถามว่า แล้วรู้มานานแล้วหรือยังว่าบีติดเชื้อ มันบอกว่าประมาณบีหนึ่ง หลุงจากนั้นก็ทรุดลงเรื่อยๆ สุดท้าย บีก็จากกุไป มันร้องไห้ โฮเลย ผมทำอะไรมไม่ถูกไ ด้แต่ปลอบใจมัน จะด่ามันก็คงไม่ทำให้อะไรดีขึ้น พอมันรู้สึกดีขึ้น ผมก็เดินออกจากบ้านมันด้วยความเศร้าใจ

ฝากไว้นะครับ ไม่ว่าคุณจะรักใครแค่ไหน มากเท่ไาหร่ ไม่ว่าคน คนนั้น จะเด้ก จะเป็นผู้ใหญ่ที่น่าไว้วางใจ ก่อนจะตกลงปลงใจมีอะไรกับเขา อย่าลืมป้องกัน และถ้าเป็นไปได้ ให้พากันไปตรวจเลือดเสียก่อน สัจจะธรรมของโลก ไม่มีใครรักตัวเราเองมากกว่าตัวเรา ไม่เชื่อ คุณลองเอาถ่านไฟ ร้อนๆวางบนมือคุณ กับคนที่คุณคิดว่าเขารักคุณมากที่สุด ดูสิ เขาจะปัดถ่านร้อนๆออกจากมือใครก่อน

สำหรับผู้ติดเชื้อ เมื่อสังคม ยอมจ่ายเงินมากมายเพื่อยื้อชีวิตคุณไว้ ให้คุณได้อยู่สร้างความดีบนโลกใบนี้ ผมอยากขอความกรุณาว่า คุณอย่าได้คิดทำร้ายสังคมอีกเลย

ฝากเป็นอุทาหรณ์ด้วยครับ

จากคุณ : maxxx123
เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 10:55:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com