ความคิดเห็นที่ 1 คนพวกนั้นเขาไม่มีเงินมาเล่นเนตหรอกครับ แค่จะหาอะไรลงท้องเขายังไม่มีปัญญาเลยครับ เราก็คงต้องป้องกันและดูแลตัวเองกันไป ครับ จากคุณ : แสงดาว เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 17:24:31 A:124.122.226.64 X: TicketID:378455

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเขาเป็นมาก ป่านนี้คงไอเป็นเลือดแล้วค่ะ ที่เขาหายไป อาจเสียชีวิตแล้วก็ได้ค่ะ จากคุณ : พอใจน้องเป็นต่อ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:12:56 A:171.6.226.169 X: TicketID:377805

ความคิดเห็นที่ 3 เข้าใจหัวอกคนทำงาน TB ค่ะ เป้นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : หายใจเข้า..กลั้นใจนิ่ง เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 15:28:54

ความคิดเห็นที่ 4 บางคนเค้าก็มีข้อจำกัดจริงๆ เรื่องการเดินทาง เรื่องงาน เรื่องเงิน(ในการเดินทาง) กลุ่มนี้หลายๆคนน่าสงสารมาก แต่บางคน ก็แค่มักง่าย ไม่สนใจมารักษา ไม่ดูแลสุขภาพ ทั้งที่จริงๆแล้วสามารถมารักษาได้ เฮ่อ.. จากคุณ : Winki เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 15:46:04

ความคิดเห็นที่ 5 จขกท คงมีเจตนาดี เห็นใจทั้งคนทำงานกับคนป่วยค่ะ จากคุณ : thezircon (thezircon) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 16:12:36

ความคิดเห็นที่ 6 กลัวว่าเค้าจะไม่ตาย แล้วไปทำให้คนที่อ่อนแอๆ ตายนะสิ จากคุณ : kolanya เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 16:16:04

ความคิดเห็นที่ 7 คห1 ครับ มีเงินไม่มีเงินเล่นเน็ทไม่เล่นเน็ทไม่สำคัญหรอกครับเพราะทาง รพ. พร้อมช่วยเหลือคนกลุ่มนี้อยู่แล้วเพราะการที่ปล่อยเค้าไปก็เหมือนตัวแพร่กระจายโรคที่สำคัญให้ออกไปสร้างความเสียหายในวงกว้างต่อไปเป็นลูกโซ่ต่อเนื่อง ที่บอกว่าเราต้องป้องกันตัวเองกันไปส่วนหนึ่งมันก็ใช่ แต่ในแง่การควบคุมโรคมันถือเป็นข้อบกพร่องนะครับ ไม่มีเงิน ไม่มีเวลา แต่ทาง รพ.มีทีมเยี่ยมบ้าน เอายาไปให้ ขอแค่กินก่อนนอนทุกวันมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เกินไปหากคิดจะดูแลตัวเองและคนรอบข้าง ... จากคุณ : Always Red เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 17:16:37

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่อ่านนี่ก็ฟรีแทบหมดแล้วนะ เราว่าประเด็นไม่ได้อยู่กับรวยหรือจนนะ  แต่ประเด็นคือคนพวกนี้ไม่ใส่ใจถึงความสำคัญ ไม่ใยดีถึงปรารถนาดีที่คนอื่นมอบให้ และหลีกเลี่ยงโดยอ้างนู่นนี่ซึ่งจริงๆแล้วคือขี้เกียจที่จะทำตามมากกว่า คล้ายๆกับคนสูบบุหรี่แล้วเป็นมะเร็งปอดนั่นล่ะ  หลายรายนะคะที่มาเสียใจบ่นกับพยาบาล เป็นคนว่านอนสอนง่าย ตอนอยู่ระยะสุดท้าย   ทั้งๆที่ลูกหลานแฟนห้ามมาตั้งกะสิบปีก่อน แต่ไม่ทำ จากคุณ : ลูกกระปุก เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 17:47:07

ความคิดเห็นที่ 9 บ้านเราขายของ ลูกค้าที่เป็นพยาบาลบอกว่า ลูกค้าที่มาซื้อของเราหลายคนเป็นวัณโรค บอกให้เอาผ้าปิดหรือระวังคนอื่น เชื่อไหมคะไม่มีคนทำเลย แม้แต่ลูกหลานก็ไม่ระวัง ยังทำตัวปรกติ   เวลาซื้อของก็ไอใส่หน้าเรา จะต่อว่าก็ยังไม่กล้าทำ แต่ที่เห็นชัดคือ ลูกหลานยังเล็กแต่ไม่ป้องกันเลย ไม่รู้จะมีใครติดไปแล้วบ้าง จากคุณ : LONGBridge เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 20:02:46

ความคิดเห็นที่ 10 ต่อไปคงต้องถึงขั้นจ่ายเงินจ้างเพื่อให้เค้าเข้ามารักษาตัวเองแล้วล่ะมั้ง ถ้า จนท.พยายามช่วยแล้วขนาดนี้ ยังไม่ใส่ใจจะมา ก็คงแล้วแต่บุญกรรมเค้าแล้วล่ะครับ จากคุณ : จิ้งจอกภูเขาหิมะ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 21:11:03

ความคิดเห็นที่ 11 พอถึงเวลาใกล้ตาย  ก็มาโวยวาย อ้อนวอน "ช่วยด้วยหมอ ไม่อยากตายๆๆๆ" เจอแบบนี้ไม่รู้จะว่ายังไง...เฮ้อ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 22:08:43

ความคิดเห็นที่ 12 จริงครับ ผมเจอบ่อยมาก มาเจอเรา เราก็บอกให้ใส่หน้ากากไว้ กินยา6เดือน บลาๆๆๆ อธิบายอย่างดี พอเที่ยงปุ๊บไปเจอที่ร้านอาหาร กำลังสั่งข้าวกับแม่ค้า แต่ไม่มีหน้ากากละ เฮ้อ... แพร่เชื้อวัณโรคไม่มีที่สิ้นสุด เบื่อคนป่วยบางคน แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 00:24:39 จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 00:24:17

ความคิดเห็นที่ 13 ซึ่งก่อนที่ คนไข้จะหายไป คุณหมอได้บอกคนไข้แล้วใช่มั้ย ถึงเรื่องของการแพร่เชื้อ ถ้าไม่ไ่ด้บอก เค้าก็อาจไม่รู้ ครึ่งหนึ่งหมอต้องตำหนิตัวเองด้วย ที่ไ่ม่ไ่ด้เตือนคนไข้ จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 00:31:45

ความคิดเห็นที่ 14 ก๊าก ทำไมจะไม่ได้บอกล่ะคุณ อิโรควัณโรคที่เป็นโรคระบาดทางปอดอันดับต้นๆของเมืองไทยถึงขนาดแยกศูนย์ แยกจนท.ออกมาทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีการให้คำแนะนำหรือองค์ความรู้แก่ผป. อยู่ที่ว่าจะใส่ใจจำแล้วทำตามหรือเปล่า เพราะโดยมาก การป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อแก่คนอื่น มันก็ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อคนไข้เอง. แต่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม มันก็เป็นตัวชี้วัดทัศนคติความรับผิดชอบสังคมของพลเมืองประเทศนั้นได้เหมือนกันนะ ไหนๆกุก็ป่วยเดือดร้อนอยู่แล้ว.  จะให้ทำตัวดีๆป้องกันคนอื่นทำไม ไม่เห็นต้องสนใจ แนวคิดด้อยพัฒนาแบบนี้ เยอะจริงๆ. ที่ผมเจอส่วนใหญ่จะเป็นวัณโรคที่ควบคู่กับติดสุราหรือเป็นเอดส์.  พี่แกดีแต่จะแบมือขอความช่วยเหลือจากสังคม แต่ไม่คิดจะตอบแทนใดๆ (อย่างน้อยๆขอแค่รัมัดระวังไม่แพร่เชื้อให้คนอื่นยังไม่ทำ)  เอาสะดวกตัวเองเข้าว่าตลอด จากคุณ : natefang เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 07:56:00

ความคิดเห็นที่ 15 นับถือน้ำใจของพยาบาลที่ต้องดูแลผู้ป่วยวัณโรคจริงๆค่ะ เราก็เคยป่วยเป็นวัณโรคปอด ระยะที่ไม่มีเชื้อแพร่กระจายให้คนอื่น (หมอว่ามางั้น) พยาบาลโทรหาทุกครั้งที่จะถึงวันหมอนัด โทรเตือนให้มารับยาตลอด ^_____^ จากคุณ : เด็กหญิงมะเดี่ยว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 11:09:54

ความคิดเห็นที่ 16 จะโหดร้ายไปไหม ถ้าเราจะคิดว่าเขาอาจจะไปหาที่ตายเงียบๆคนเดียว จากคุณ : Diesel Engine เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 11:31:12

ความคิดเห็นที่ 17 โรคมันรักษาได้ ถ้าไปเพราะจะไปหาที่ตายจริงๆ ก็น่าเสียดายมาก จากคุณ : ปรายภพ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 12:28:53

ความคิดเห็นที่ 18 *16 เป็นงั้นได้ก็ดีสิครับ แต่ผมว่ามันจะเป็นไปตาม *14 กล่าวไว้ทุกประการ จากคุณ : priwhan เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:38:32

ความคิดเห็นที่ 19 เจอบ่อยครับ คนไข้ TB ประเภทไร้สามัญสำนึก แทบจะกราบเท้าให้รักษา ยังทำหน้ามึน คงเป็นเวรกรรมของคนทำงาน TB ครับ จากคุณ : ปิยวีร์ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 15:02:48

ความคิดเห็นที่ 20 น่าจะมีกฏหมายควบคุมเนอะ แบบว่าุ้ถ้าไม่ยอมใส่หน้ากาก ไม่มารับยาตามนัก มีความผิด ต้องเสียค่าปรับไรงี้ จิตสำนึกไม่มีก็ต้องบังคับกันบ้าง เพราะผลที่ตามมามันเสียหายมากกว่านั้นเยอะ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 21:01:27

ความคิดเห็นที่ 21 คนเรานี่ก็แปลกนะ รักษาได้แท้ๆ กลับทำเฉยและไปแพร่เชื้อต่ออีก เฮ้อ น่าส่งกลับไปอยู่สมัยอยุธยาดูสิ ไม่ไหวเลย รับผิดชอบตัวเองยังไม่ได้เลย... จากคุณ : Azzurie Jr. เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 22:24:07

ความคิดเห็นที่ 22 สู้ๆครับ มันเป็นอย่างนี้มานานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เมื่อสิบปีที่แล้วก็เป็นอย่างนี้แหละ ตอนนี้ มันก็ยังไม่พัฒนา สมัยโน้นนนนนนนนนน   ตามกันแบบ แทบจะเป็นญาติกันเลยทีเดียว จากคุณ : maxxx123 เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 00:15:07

ความคิดเห็นที่ 23 เคยเป็นค่ะ แต่ไม่รู้ระดับไหน ช่วง 3 เดือนแรกไปหาหมอทุกสัปดาห์เลยค่ะ (เหนื่อยเดินทางมากกก) กินยาทีละเป็นกำ พอสักพักก็เว้น 2 สัปดาห์ครั้ง ถัดมาก็เหลือเดือนละครั้ง สองเดือนครั้ง ปริมาณยาก็ลดลงตามลำดับ แต่ไปตลอดไม่ได้ขาดค่ะ เหนื่อยยังไงก็ไป อยากจะหาย รวมๆ แล้วทานยาอยู่เกือบ 2 ปี ทำตามคำแนะนำคุณหมออย่างเคร่งครัด^^" ตอนนี้ปอดขวายังมีแผลเป็นอยู่เลยค่ะ ต้องคอยเอ็กเรย์ดูบ่อยๆ ทุกปี ว่ายังอยู่สงบนิ่งไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ^^ ปล. หาสาเหตุที่เป็นไม่ได้เลยค่ะ เพราะเพิ่งมาอยู่ กทม.ได้ไม่นาน ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่สูบ - -" (คงติดจากใครสักคนละมั้งเนอะ ^^") แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 55 10:54:57 จากคุณ : Girl_of_Monsterteam เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 10:53:59

ความคิดเห็นที่ 24 ผมก็เคยเป็นครับ ไม่รู้เป็นระยะไหนเหมือนกัน หมอไม่บอกว่าให้ปิดปาก ปิดจมูกเท่าไรยังไง แต่เห็นในเน็ตบอกว่าถ้ากินยา 2 สัปดา่ห์แรกให้ใส่ผมก็ใส่ กินยาอยู่ประมาณ 6 เดือน ก็จบคอส ตอนนี้ก็ต้องไปเช็คปีละครั้ง ธันวานี้ก็จะครบ 2-3 ปีแล้วมั่ง รอยที่ปอดก็ยังมีอยู่นิดหน่อย แต่หมอบอกลดลงไปมาก และคงไม่เป็นไรแล้ว หาสาเหตุไม่ได้เหมือนกัน ไม่เที่ยว ไม่กิน ไม่ดื่ม ไม่สูบ แต่ตอนนั้นไม่ได้ออกกำลังกาย (-.-) แต่หมอ ดูประวัติแล้วบอกว่า ตอน ม.ปลายเคยผ่าน้ำท่วมปอด หมอลงว่าเป็น TB ไำว้(ไม่ได้บอกผม) แต่ผมกลับมารู้ตัวมาเป็นอีกที ก็ ปี 2 แล้ว จากคุณ : Bom Ma Boom เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 16:26:08

ความคิดเห็นที่ 25 วัณโรค ตายได้นะครับ จากคุณ : ptboy เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 17:21:59

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นกำลังใจให้คนทำงานนะคะ จากคุณ : enduresexy เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 05:16:58

ความคิดเห็นที่ 27 เราคลุกคลีอยู่กับคนเป็นวัณโรคเป็นเดือนเลยค่ะ อยู่ โรงพยาบาล นอนเฝ้าคุณตา แต่ก็พยายามใส่หน้ากากตลอดนะคะ อยากจะลองไปตรวจเหมือนกัน กลัวเป็นน่ะค่ะ เขาเอาเสมหะตรวจเหรอคะ มีิวิธีตรวจอื่นอีกไหม เช่น เจาะเลือด คุณตากินยาวัณโรค แล้วปวดกระดูก ต้องนวดให้บ่อยๆ  เป็นผลข้างเคืองของยานะคะ ตอนนี้ท่านเสียไปแล้ว ด้วยโรคมะเร็งในปอด จากคุณ : enduresexy เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 05:19:21

ความคิดเห็นที่ 28 ว่าด้วยเรื่องใส่ mask ไม่ต้องรอให้เป็น TB หรอกค่ะ เวลาเราเป็นหวัดหรือมีน้ำมูกนิดหน่อย ก็ต้องหยิบ mask มาใส่แล้ว กลัวจะไปแพร่เชื้อให้คนอื่น แล้วทำคนอื่นเค้าเดือดร้อน แต่บางคนเป็นหวัดน้ำมูกไหล ไอจาม ไม่ยอมใส่หน้ากาก มาแพร่เชื้อให้คนอื่น อ้างว่าใส่หน้ากากแล้วหายใจไม่สะดวก ไม่นึกถึงหัวอกคนอื่นที่ต้องติดหวัดตัวเองบ้าง อยากขอร้องให้ทุกท่านใส่ mask เวลาไม่สบายนะคะ please จากคุณ : staryscary เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 06:34:23

ความคิดเห็นที่ 29 บางทีอาจเป็นความละเลย ไม่ใส่ใจ ความขี้เกียจ คิดว่าไม่เป็นอะไรมาก >< จากคุณ : ตามใจท่าน เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 11:17:29 A:115.67.135.251 X: TicketID:178706

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วเราจะรู้ได้งัยละครับ ว่าคนไหนป่วยหรือไม่ป่วย ทำงาน รพ. เหมือนกันแต่ไม่ได้ทำส่วนของผู้ป่วย เพียงแค่ ใช้สถานที่เฉยๆ อีกอย่างต้องเดินผ่าน ผู้ป่วยมากมาย เช่น ผ่านเวชระเบียน ผ่านห้องจ่ายยา ผ่านแผนกเวชศาสตร์ครอบครัว และอีกหลายๆ แผนก เพราะที่ทำงานหลักอยู่หน้า รพ. แต่ออฟฟิค อยู่หลัง รพ. เลย แต่ยังงัยเราก็ต้องป้องกันตัวเองด้วย หน้ากากอนามัย น่าจะเป็นทางเลือก ที่ถูกต้องที่สุด ยังงัยก็เป็นกำลังใจให้ จนท.TB ทุกคนครับ สู้สู้ จากคุณ : kong_thep เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 14:06:55

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นด้วยว่ามันเป็นจิตสำนึกต่อสังคม  ไม่ต้องเป็นวัณโรคหรอก  ไข้หวัด ไอจามก็ควรใส่หน้ากากป้องกันได้แล้ว  แต่แทบไม่เห็นคนใส่เลย  ถ้าไม่มีอย่างน้อยพกผ้าเช็ดหน้าก็ยังดี  เวลาไอจามก็เอามาปิดบ้าง  ทุกวันนี้รู้สึกแย่มากเลยคนที่ป่วยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันอะไรแถมยังไม่แม้แต่หันหน้าไปทางอื่น  เพลียใจมาก จากคุณ : bussayayee เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:28:19

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่รักตัวเองก็ว่าแย่แล้ว...แต่ยังจะไปแพร่เชื้อทำร้ายคนอื่นที่เขาไม่รู้เรื่องรู้ราวอีกต่างหาก จะก่อเวรก่อกรรมไปถึงไหนนะ ตายไปจะสงบสุขไหมเนี่ย? จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 16:22:53

ความคิดเห็นที่ 33 ให้กำลังใจนะคะ สู้ๆค่ะ คนทำงาน หน่วยวัณโรค ก็ไม่ค่อยจะมีใครอยากอยู่แล้ว หล่ะมั้ง ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ก็แย่ ตอนนี้ คอตีบระบาดอีก คนที่เกิดก่อน ปี 2535 ควรจะไปฉีด dT นะคะ ประเทศอื่นเค้าปลอดกันหมด มีแต่ประเทศไทยที่ยังมีทั้ง Rabies and Diptheria อยากจะบ้า จากคุณ : หัวใจนักท่องเที่ยว เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 21:36:33

ความคิดเห็นที่ 34 เราทำงานเป็นเภสัชกรในรพ.เอกชนแห่งหนึ่งในชลบุรี จะบอกว่าที่จขกท.เล่ามานี่มันตรงโคตรๆ เป็นเรื่ิองจริงที่สุด   เราเห็นความพยายามของภาครัฐที่สนับสนุนในเรื่องของยาต้านวัณโรค ทั้งยังมีงบประมาณให้ ไม่เว้นแม้แต่รพ.เอกชน ก็ยังสามารถรับสิทธิ์นี้ได้เหมือนรพ.รัฐบาล แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ คนไข้ส่วนหนึ่งกลับหายหน้าหายตาไปเฉยๆ  ทั้งที่ยังรับยาไม่ครบ น้องๆพยาบาลก็พยายามตามแล้ว บางทีก็ติดต่อไม่ได้ จู่ๆพี่แกก็เข้ากลีบเมฆไปเฉยๆ ทำเหมือนตัวเองเป็นหวัดธรรมดา กินยาแป๊บเดียวหายยังไงยังงั้น เห็นใจคนทำงานวัณโรคค่ะ เสี่ยงด้วยเหนื่อยด้วย บางทีมาหาหมอพี่แกก็ไม่ใส่หน้ากาก (ทั้งที่ไม่ต้องซื้อ มาหยิบที่่เคาท์เตอร์ได้)  แถมยังเดินว่อนทั้งรพ.  หมอมาเปิด OPD CARD ทีแทบเป็นลม  3+ เงี้ย  มาคุยในที่ประชุม  คนทำงานก้อหงายเงิบ บอกคนไข้ก็แล้ว แต่เค้าไม่สนใจ แล้วเราจะทำอะไรได้ล่ะ เฮ้อ...เพลียแทนพยาบาล (- -'') V V V แก้ไขคำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 16:21:53 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 12:06:06 จากคุณ : hi hacky (hi hacky) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 11:57:38

ความคิดเห็นที่ 35 วันพฤหัสช่วงบ่าย เป็นเคสนัดผู้ป่วยวัณโรค จะมีแต่คนไข้วัณโรคนั่งรอตรวจ พยาบาลท่านนึง ตะโกนบอกผู้ป่วยที่นั่งรอคิว "คนไข้กลุ่มนี้ ขอให้ใส่ที่ปิดปากด้วยทุกคน ให้เดินไปรับที่ปิดปากที่เค้าเตอร์ลงทะเบียน" พลันสายตา เหลือบไปเห็นพยาบาลใหม่ นั่งพิมพ์เอกสารที่โต๊ะ แต่ไม่ได้ใส่ที่ปิดปาก "หนูพยาบาล ต้องใส่ที่ปิดปากทุกครั้ง ที่เข้าเวรรับผู้ป่วยนะคะ พี่เป็นห่วงสุขภาพค่ะ" "อ่าวแล้วนั่นผู้ป่วยนอก มาตรวจอะไรคะ วัณโรครึเปล่า ถ้าไม่ใช่ย้ายไปนั่งรอฟากโน้นค่ะ" นี่แค่มโนภาพค่ะ ของจริงไม่มีอย่างนี้หรอก ละเลยกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคนไข้หรือบุคลากร นี่ขนาดแค่ในโรงพยาบาล เจอคนเป็นวัณโรคข้างนอก อาจเดินสวนกัน หรือไอใส่เราแล้วก็ได้ อยากให้หมอบอกคนไข้ เน้นย้ำแล้วย้ำอีก ให้พูดตาม สาบาน หรือสัญญาได้เลยยิ่งดี ว่า"วัณโรคเป็นแล้วไอจนตาย แต่หายได้นะ แค่ต้องกินยาอย่างเคร่งครัด หากดื้อยาต้องมาฉีดยาที่ก้นทุกวัน จนก้นพรุน" ปล ดิฉันไม่ใช่หมอหรอกนะ จากคุณ : เด็กหัดเดิน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 21:11:39

ความคิดเห็นที่ 36 ผมไม่มีความรู้ทางกฏหมายนะครับ แต่ผมสงสัยว่า ในทางกม.ไม่มีการบัญญัติ เรื่องการควบคุมตัวคนไข้ที่เป็นพาหะโรคติดต่อร้ายแรงหรือครับ? น่าจะมีการขอหมายศาล/แพทยสภา กักบริเวณ กักตัวคนไข้ได้นะครับ จากคุณ : ทูตนิรันดร์สราญ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 11:06:47