ความคิดเห็นที่ 1 ในแง่การรักษาทุกสิทธิเท่าเทียมกัน คือรักษาในมาตรฐานเดียวกัน ดูรายละเอียดของแต่ละสิทธิ บัตรทอง หลักการคือให้ทุกคนเข้าถึงบริการสุขภาพ โดยใช้เงินจากรัฐซึ่งก็คือเงินภาษี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้บัตรทองจะจ่ายภาษี จะอ้างว่าจ่ายภาษีเยอะต้องได้บริการดีไม่ได้เพราะต้องเฉลี่ยกับคนที่ไม่จ่ายภาษีด้วย ข้าราชการ เป็นสวัสดิการหรือก็คือให้เพื่อจูงใจให้คนรับราชการ น่าจะมีสิทธิพิเศษกว่าคนอื่นไม่งั้นก็ไม่สามารถจูงใจคนให้มารับราชการได้ ประกันสังคม ต้องออกเงินสมทบส่วนหนึ่ง แต่เงินกองทุนประกันสังคมไม่ได้นำมาใช้ในจ่ายค่ารักษาทั้งหมด สิทธิในการรักษาเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 18:18:05

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนตัวเกิดในครอบครัวข้าราชการ อยู่อย่างพอเพียง ไม่เคยคิดคดคิดทุจริต สิ่งที่ทำให้ยังอุ่นใจอยู่คือการทำงานรับใช้ชาติโดยยอมรับเงินเดือนน้อยกว่าคนอื่น แต่หมดห่วงเรื่องการรักษาพยาบาล อุ่นใจว่าอย่างน้อยเราไม่มีเงินมากนักแต่รัฐก็ยังช่วยดูแล ว่าไปนั่น ครอบครัวผมไม่ได้เข้าโรงพยาบาลมาเกือบยี่สิบปีแล้ว (ครั้งสุดท้ายตอนผมโดนหมากัด). ไม่ได้ใช้สิทธิเลย จากคุณ : เขียนบน iPhone (Jin Shuu Hei) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 18:50:33

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องภาษี นั้นอ้างไม่ได้ครับเพราะคนที่รายได้น้อยก็อาจทำประโยชน์ให้สังคมมากกว่าเพียงแค่เขารับรายได้ที่น้อยกว่า ถ้าไม่มีเกษตรกรเราจะมีอะไรกินพอได้อย่างไร ถ้าต้องนำเข้าทั้งหมดค่าครองชีพคงสูงลิบ ถ้าไม่มีคนทำงานค่าตอบแทนต่ำๆจำนวนมากประเทศชาติจะเดินหน้ามาได้อย่างไร (ผมเป็นคนหนึ่งที่ทำงานมา 6 ปีจ่ายภาษีรวมกันไม่ถึง 20,000 โดยไม่ต้องหลบหลีกซ้อนเร้นใดๆครับ) เรื่องข้าราชการนั้นต้องยอมรับว่าสมัยก่อนรัฐบาลเขาออกกฏหมายเรื่องสิทธิข้าราชการมาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ (ไปดูได้ที่เนื้อหาสาระของกฏหมายฉบับนั้น) ดังนั้นข้าราชการอดีต-ปัจจุบันจึงยังควรคงสิทธิเหล่านี้ต่อไป แต่ข้าราชการรุ่นใหม่(ไปหาตัวแบ่งเอาเอง)ที่รับค่าตอบแทนสูงขึ้นควรได้รับสิทธิที่ลดลง หรือถ้าคิดจะลดสิทธิลงทั้งหมดก็จ่ายค่าตอบแทนชดเชยย้อนหลังไปด้วยแล้วกัน (แล้วจะได้คำตอบว่ามันไม่มีเงินเหลือแล้ว) ประกันสังคมนั้นควรแยกการรักษาออกไปเลยเปลี่ยนเป็นบัตรทองให้หมดแล้วเก็บเงินเพื่อสวัสดิการการทำงานและสังคมอื่นๆจะดีกว่า (อ้อ..ช่วยเก็บให้น้อยลงด้วยนะ) สรุปแล้วสิทธิที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือ รัฐวิสาหกิจ บางแห่ง จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 18:53:27

ความคิดเห็นที่ 4 พ่อเป็นข้าราชการ ก็ว่า สิทธิราชการดี ดีจน แม่ บังคับให้สอบบรรจุ ดันสอบได้ เลยก็ มาเป็นข้าราชการนี่แหละ ตั้งแต่บรรจุมายังไม่ได้ใช้สิทธิเลย มีแต่แม่ที่ใช้แล้ว คำนวณแล้วก็ 2-3 แสนแล้ว ถ้าต้องจ่ายเอง อะ จากคุณ : โทโมกะ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 19:44:14

ความคิดเห็นที่ 5 ที่แน่ๆคือไม่ใช่บัตรทอง อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 19:46:37

ความคิดเห็นที่ 6 ไทยเสียภาษีแค่ 2.3 ล้านคน รายได้คนจนสุดต่ำกว่าคนรวยสุดถึง 12.81 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ชี้ รายได้คนจนสุดต่ำกว่าคนรวยสุดถึง 12.81 เท่า มีคนแค่ 2.3 ล้านคนจ่ายภาษีเลี้ยงคนทั้งประเทศ นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยในงานประชุมสัมมนาประจำปีของ สสค.ว่า ความยากจนโดยรวมของประเทศไทยได้ลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2543-2550 แต่การกระจายรายได้ในภาพรวมไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยโครงสร้างรายได้ปัจจุบัน กลุ่มคนที่มีรายได้สูงสุดของประเทศ หรือกลุ่มประชากร 20% มีส่วนแบ่งรายได้สูงสุดถึง 55.1% ของรายได้รวม ขณะที่กลุ่มประชากรที่มีรายได้ต่ำสุด 20% มีส่วนแบ่งรายได้เพียง 4.3% ของรายได้รวม ทำให้รายได้ของคนจนสุดต่างจากคนรวดสุดถึง 12.81 เท่า ซึ่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 25 ปีก่อน จึงไม่แปลกที่ผลการจัดอันดับการกระจายรายได้ของประเทศไทยรั้งท้ายอยู่ในอันดับที่ 50 ของโลก ความแตกต่างระหว่างจำนวนคนรวยกับคนจนยังสะท้อนได้จากจำนวนผู้เสียภาษีของประเทศ โดยเฉพาะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากที่ประเทศไทยมีประชากร 64 ล้านคน แต่มีผู้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเพียง 9-10 ล้านคน และในจำนวนนี้มีผู้ที่ต้องจ่ายเงินภาษีจริงเพียง 2.3 ล้านคนเท่านั้น เพราะเมื่อหักค่าลดหย่อนต่างๆ แล้ว ทำให้คนส่วนหนึ่งมีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี จึงไม่ต้องมีภาระเสียภาษี ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ามีคนเพียง 2.3 ล้านคนเท่านั้นที่จ่ายเงินภาษีเลี้ยงคนทั้งประเทศ นอกจากนี้ หากพิจารณาลงไปในรายละเอียดของจำนวนผู้เสียภาษี จะพบว่า มีผู้เสียภาษีในอัตราสูงสุดที่ 37% เพียง 6 หมื่นคน และคิดเป็นเม็ดเงินจ่ายภาษีถึง 50%ของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และในจำนวนคน 6 หมื่นคนที่เสียภาษีในอัตราสูงสุดนี้ พบว่า มีผู้ที่มีเงินได้สูงกว่า 10 ล้านบาท เพียง 2,400 คน เท่านั้น และคนกลุ่มนี้มีสัดส่วนการเสียภาษีสูงถึง 34% ซึ่งสะท้อนว่าประเทศไทยมีการกระจุกตัวของรายได้ในกลุ่มคนรวยเพียงไม่กี่คน http://www.108acc.com/index.php?mo=5&qid=536755 จากคุณ : Rockman เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 20:29:55 A:180.183.48.188 X: TicketID:353287

ความคิดเห็นที่ 7 สนับสนุนให้เท่ากันครับ จะได้มีบัญชีสิ่งที่เบิกได้เหมือนกัน เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ และเพื่อความง่ายต่อการตรวจสอบ ป้องกันการทุจริต ส่วนเรื่องข้าราชการทำงานได้เงินเดือนน้อยเพื่อสวัสดิการ ต้องคิดใหม่ทำใหม่แล้วครับ หมดยุคแล้ว ไม่มีใครยอมรับอีกแล้ว เค้าว่าทำงานก็ได้เงิน ถ้าอยากได้เยอะก็ไปทำงานอื่นสิ ใครบังคับให้มาเป็นข้าราชการ เป็นข้าราชการต้องรับใช้ประชาชน ห้ามมีสิทธิพิเศษเหนือประชาชน คนที่คิดจะเป็นข้าราชการต่อไปก็เลิกหวังสวัสดิการบำนาญได้เลย รัฐมีแต่จะตัดลง สังคมไทยคนสูงอายุจะเยอะขึ้น รัฐจะเลี้ยงไม่ไหว เค้าจะลอยแพพวกท่านแน่นอน ไม่ต้องกังวลครับ ข้าราชการเตรียมหาทางหนีทีไล่ได้ รัฐไม่เลี้ยงขุนศึกชราภาพแล้วครับ สรุปสั้นๆ ว่าเค้าจะทิ้งคุณ ประชาชนก็เห็นว่าคุณควรโดนทิ้งด้วย  โชคดีครับ จากคุณ : megacure (SET50.com) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 21:49:46

ความคิดเห็นที่ 8 บัตรทองเอาไปแค่ para ibu amoxy metro ก็พอละ อยู่ รพช เหนแต่ เมารถคว่ำหัวแตก เบาหวาน ความดัน แต่ไม่เคยเห็นคุมกันเลย จากคุณ : เขียนบน iPhone (arsarn) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 05:09:02

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่ามนุษย์เราควรเท่าเทียมกันในเรื่องสุขภาพนะ  ฐานะทางสังคมไม่ควรให้สามารถได้มาซึ่งสุขภาพ (บริการทางการแพทย์) ที่ดีกว่า  เพราะการที่คนนึงจะได้รับบริการทางการแพทย์ที่ดีกว่าย่อมได้ไปจากอีกคนนึง (คือทรัพยากรณ์มันมีอยู่จำกัดอย่างที่เศรษฐศาสตร์เค้าว่าไว้ละนะ)  เพราะฉะนั้นไม่ควรมีสิทธิข้าราชการ บัตรทอง ประกันสังคม และการแพทย์เอกชน  แต่ควรเป็นสิทธิเดียวกันทั้งประเทศหรือทั้งโลก อุดมการณ์เกินไปมั้ยนี่ จากคุณ : แฮมยูนนาน (แฮมยูนนาน) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 10:03:55

ความคิดเห็นที่ 10 ผมคิดง่ายๆ มันน่าจะเท่าเทียมกัน เพราะ -แก้ปัญหาการที่ ถ้าสิทธิ์ต่างกัน จะมีการขอยาราคาแพง ไปเผื่อญาติพี่น้องซึ่งตรงนี้รั่วไหลค่อนข้างเยอะครับ -คนแม้ทำงานต่างกัน รายได้ต่างกัน การเสียภาษีต่างกัน ไม่ได้เป็นการอ้างอิงถึงการทำประโยชน์แก่ประเทศชาติที่แตกต่างกัน แต่.....โรคที่ทำตัวเองเนี่ย จ่ายเงินเองเหอะ เมาแล้วขับ กินเหล้าจนตับแข็ง บลาๆๆๆ จากคุณ : zenario เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 10:36:14

ความคิดเห็นที่ 11 แค่ทำสิทธิให้เท่ากันก็พอใจแล้ว จากใจคนจ่ายประกันสังคม จากคุณ : อยากเขกหัวตัวเอง เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 12:14:20

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าถามว่า สิทธิ์ดีที่สุด ... คงตอบไม่ได้   เพราะ แต่ละสิทธิ์ มีที่ีมา แตกต่างกัน เหมือนถามว่า " รถบรรทุก  รถเก๋ง รถกะบะ " อะไรดีที่สุด ??   จะตอบได้ ก็ต้องมีข้อมูลอื่นเพิ่มเติม  ประกอบการพิจารณา .. จากคุณ : หมอหมู เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 14:25:52

ความคิดเห็นที่ 13 ยังไม่เข้าใจเรื่องสิทธิ์ต่างๆ มาจนทุกวันนี้ จากคุณ : angelzpuu เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 00:00:13