ความคิดเห็นที่ 1 ตอบยากครับ   การที่เป็นศัตรูกับนักข่าวนี่ก็อันตรายกับโรงพยาบาลไม่น้อยครับ เขาสามารถเขียนเติมข่าวให้ รพ.เน่าได้สบายๆครับ จากคุณ : พี่ไก่ (kai golf) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 10:33:05

ความคิดเห็นที่ 2 ตรงนี้คงจำเป็นต้องคุยกับหัวหน้างานตรง ๆ เพื่อส่งเรื่องไปข้างบนล่ะครับ เราต้องให้เหตุผลในด้านความปลอดภัยของผู้ป่วยและประสิทธิภาพในการทำงานเป็นสำคัญ หากไม่มีใครพูดอะไรผู้บริหารอาจคิดว่าผู้ปฏิบัติงานไม่มีปัญหาก็ได้ จากคุณ : ตามนั้นครับ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 17:16:27

ความคิดเห็นที่ 3 บรรยากาศวันนั้น จากคุณ : I am 1st (I am 1st) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 19:29:45

ความคิดเห็นที่ 4 ความเหมาะสมนั้นทุกคนก็คงทราบดีแก่ใจ แต่ทำอะไรไม่ค่อยได้ จากคุณ : หิมะสีนํ้าเงิน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 19:46:49

ความคิดเห็นที่ 5 จริงๆก็ต้องเชิญออกให้หมดแหละนะ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 20:14:18

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องความไม่รู้กาละเทศะของสังคมไทยนี่ดูจะร้ายแรงขึ้นทุกวัน เคยเห็นคุณพ่อสมัยใหม่ทั้งหลาย เอาVDO เข้าไปถ่ายสมาชิกใหม่ของครอบครัวไหมครับ ทำกันเป็นปกติในโรงพยาบาลเอกชน ถือว่าข้าจ่ายเงินแล้วมีสิทธิ แถมเป็นหลักฐานซะด้วยว่า คุณหมอสูติทำเวลาตกฟากได้ตามที่คุณหมอดูหมอเดาสั่งมาหรือไม่ การที่คุณหมอให้คุณพ่อเข้าไปในห้องคลอด ก็เพื่อเป็นกำลังใจคุณแม่ไม่ใช่ไปเกะกะขวางทาง ไปๆมาๆ คุณพ่อทนเห็นเลือดไม่ได้ หงายตึงไป หมอต้องมาช่วยคุณพ่อแทนจะช่วยลูกน้อย ก็ไม่รู้จะเข้าไปทำไม ดูแล้ว ขอโทษที่ต้องใช้คำว่า "ทุเรศ" ครับ จากคุณ : หมอตาตี่ี่ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 22:09:16 A:171.98.64.215 X: TicketID:307618

ความคิดเห็นที่ 7 นี่เมื่อหลายเดือนก่อน ทำกับคนไข้เด็ก ไม่ได้ขออนุญาตก่อนด้วย จากคุณ : I am 1st (I am 1st) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 23:05:00

ความคิดเห็นที่ 8 https://m.facebook.com/?_rdr#!/photo.php?fbid=10151085029452730&id=733022729&set=a.10150197581142730.313996.733022729&__user=733022729 รายละเอียดเรื่องราวในวันนั้นfacebookผมเอง จากคุณ : I am 1st เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 23:17:14

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ มุมกล้องสวยมาก แปะจมูกเลย^^ แนะนำให้ส่งเรื่องไปที่กระทรวงและแพทยสภาครับ จากคุณ : น้องเอยแก้มอ้วน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 23:18:59

ความคิดเห็นที่ 10 ผู้บริหารโรงพยาบาล จะสนับสนุน นักข่าวทำไมครับ มีผลประโยชน์อะไรต่อกัน จากคุณ : คลอโรพลาสต์ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 23:32:23

ความคิดเห็นที่ 11 นักข่าว หรือ คนขายข่าวกันแน่???? จากคุณ : ศรัทธาในปีกของนางนวล เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 07:43:18

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่สมควรอย่างยิ่งที่ทำอย่างนี้ แค่เห็นภาพถ่ายที่โพสออกมาทางสื่อที่ถ่ายข้างนอกไม่ใช่โรงพยาบาล หรือที่เห็นบ่อยมากภาพจากนักข่าวที่ถ่ายออกมาจากภาวะฉุกเฉิน ที่โรงพยาบาล หน้าห้องฉุกเฉิน และที่พยายามจะถ่ายออกมาจากห้องฉุกเฉิน ภาพแต่ละภาพมันไม่สมควรเลยที่จะไปถ่ายคนไข้แบบนั้น   บางคนอยู่ในสภาพที่ไม่ควรไปถ่ายเขาเลย  บางคนเห็นภาพใส่แต่กางเกงใน บางคนอยู่ในสภาพที่ไม่น่าดูนัก ไม่ว่าร่างกาย แขน ขาที่ไม่ควรจะถูกถ่ายภาพจากคนอื่น คนไข้กำลังบาดเจ็บและต้องการรักษาฉุกเฉิน ต้องการการรักษาอย่างรีบด่วน เวลาแค่เสี้ยววินาทีก็สามารถชี้เป็นชี้ตายให้เขาได้ หรือมีผลต่อร่างกายเขาได้ หรือถึงไม่รีบด่วน คนไข้แต่ละคนเขาก็มีสิทธิในการรักษาความลับของตัวเอง ไม่ว่าด้านร่างกายหรือทางด้านจิตใจ   การที่คนไข้ปกติทั่วไปที่ได้เข้าไปตรวจกับหมอในห้อง จะมีเจ้าหน้าที่น้อยที่สุด ( แต่จำเป็นต้องมีบุคคลที่3 คือพยาบาล หรือผู้ช่วยพยาบาล  ตามกฏหมายและความเหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดกรณีที่ไม่เหมาะสม) เพราะตามธรรมชาติและความเป็นจริง ทุกคนมีความลับและความอายเป็นของตัวเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ ความลับนั้นที่ต้องเปิดเผยต่อคนอื่นเพื่อการรักษา ต้องมีคนรู้น้อยที่สุดไม่ว่าจากคนไข้เองคือญาติ และทางเจ้าหน้าที่ที่รักษา คนอื่นไม่มีสิทธิที่จะรู้ความเป็นส่วนตัวของเขานั้น หรือแม้แต่การถ่ายภาพ ถ้าเขาไม่อนุญาต ก็ไม่สามารถถ่ายได้   ขนาดการตรวจรักษา หากคนไข้ไม่ยินยอม ก็ไม่สามารถทำการตรวจรักษาได้ (ยกเว้นกรณีฉุกเฉินเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรืออันตรายต่อคนไข้) หรือในขณะรักษาพยาบาล ต้องมีคนน้อยที่สุด พยายามเป็นส่วนตัวที่สุด อย่างน้อยก็มีม่านกั้น เปิดเผยร่างกายคนไข้น้อยที่สุด ตัวอย่างการฉีดยา หากต้องฉีดในจุดที่จะเกิดความอายของคนไข้ ก็จะเปิดในส่วนที่จำเป็นต้องฉีดยาเท่านั้น ส่วนใหญ่จะมีผ้าปิดคลุมส่วนข้างเคียงอีก อยู่ในห้องที่เป็นส่วนตัว หรืออย่างน้อยมีม่านกั้น ถึงไม่มีจรรยาบรรณอะไรในแต่ละอาชีพหรือในแต่ละคน แต่ควรมีจิตสำนึกในการทำอะไรต่อผู้อื่น ถ้าไม่นึกถึงคนอื่น ก็ให้นึกถึงตัวเองว่า   ถ้าตัวเองอยู่ในสถานะอย่างนั้น ตัวเองต้องการให้คนอื่นทำกับตัวเองอย่างนั้นหรือไม่ หรือกับญาติตัวเองหรือไม่ **อยากจะเน้นว่า ความลับและความอายอยู่ในทุกสภาวะของคนทุกคน ทั้งรู้สึกตัวไม่รู้สึกตัว หรือตายไปแล้ว อยากให้เคารพสิทธินี้ด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 55 08:36:08 จากคุณ : ดาวเหนือเมื่อยามฟ้าสาง เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 08:19:22

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง แต่ก่อน ภาพข่าวหน้าหนึ่งที่ไม่งามเช่นศพ หน้าผู้ป่วย บาดแผลอุกฉกรรจ์ ยังต้องเซ็นเซอร์ด้วยซ้ำไป เดี๋ยวนี้ปล่อยโชว์หรา ไม่รู้ว่ามารยาทของสื่อหายไปไหนหมด ผู้ป่วยมีสิทธิ์ที่จะเก็บความเจ็บป่วยของตนเองเป็นความลับ เดี๋ยวนี้บางร.พ.ไม่มีกระดานชื่อผู้ป่วยตามตึกด้วยซ้ำไป นี่ปล่อยเข้ามาถึงในร.พ. ถือว่าไม่เคารพสิทธิผู้ป่วย เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง ถ้าเป็นญาติมันจะรู้สึกยังไง เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างเถอะ จากคุณ : capucine เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 15:11:32

ความคิดเห็นที่ 14 ขอพูดตรงๆไม่อ้อมค้อมนะครับ   "ถีบมันออกไป" จากคุณ : ยำปลากระป๋องใส่ซอสมะเขือเทศ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 16:56:47

ความคิดเห็นที่ 15 การที่คุณพ่อเข้าไปให้กำลังใจคนกำลังคลอดเนี่ยมีความสำคัญนะคะ ตอนเราคลอดลูกที่ ตปท คุณพ่อเข้าไปด้วยก็ไม่มีปัญหาอะไร สามีเราไม่ล้มตึงด้วย ถ้าคุณไม่เคยคลอดลูกแม้ว่าจะเป็นหมอสูติก็ตาม ก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่กำลังจะคลอดหรอกว่าทรมานขนาดไหน ต้องการกำลังใจขนาดไหน การที่คุณพ่อเป็นลมในห้องก็เป็นแค่บางคน ไม่เห็นข้ออ้างในการห้ามเข้าห้องคลอด ตอนคลอดลูกอีกคน เราก็คลอด รพ. รัฐ เลือก รพ. รัฐที่ให้พ่อเข้าห้องคลอดได้ มีการอบรมก่อน เพราะมันสำคัญสำหรับเรา ไม่ใช่เพื่อจะถ่ายวิดีโอ การถ่ายวิดีโอนั้นได้ถ่าย เป็นผลพลอยได้ วินาทีที่ลูกเราเกิด เราอยากจะเก็บไว้เหมือนกัน เป็นอะไรที่น่าจดจำ ดีใจที่มีวีดีโอลูกเก็บไว้ค่ะ คลอดธรรมชาติ ไม่ได้กะเวลาตกฟากอะไร หมอไทย ไม่เน้นการดูแลจิตใจผู้ป่วยเเท่าไหร่หลายหนที่เจอ เน้นการรักษาโรคเป็นหลัก โดยลืมว่าใจก็มีผลต่อกายขนาดไหน รพ.รัฐที่เคยไปหาถึงสองแห่ง ใน กทม เป็น รร. แพทย์ด้วย ตอนจ่ายยาได้ขึ้นชื่อผู้ป่วยบนบอร์ดให้ไปรับยา หรือว่ายังไม่ถึงคิว รู้สึกว่าเป็นการละเมิดสิทธิผู้ป่วยเหมือนกัน ก็คอมเ้ม้นท์ไปแล้ว แต่ยังเหมือนเดิม เราไม่อยากให้ใครรู้จักชื่อเราว่ามาหมอ ขึ้นวนซ้ำไปซ้ำมา ขณะที่ รพ. อีกหลายแห่งใช้เลขที่ใบเสร็จ ก็เพียงพอต่อการเรียกรับยาแล้ว แก้ไขข้อความ อาจจะเห็นต่างกัน แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 00:07:39 จากคุณ : pinkyjung เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 18:44:22

ความคิดเห็นที่ 16 ผมไม่ได้เป็นหมอสูติ มือผมอยู่จับมือเมียผมในวินาทีที่ลูกคลอด ทุกๆคน ผมไม่มีภาพถ่าย ไม่มีVDO ภาพทุกอย่างอยู่ในสำนึกของเราทั้งสองคน ผมวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา อาจไม่ถูกใจใคร จากคุณ : หมอตาตี่ี่ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 19:51:44 A:171.98.64.215 X: TicketID:307618

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนขณะกำลังคลอด สามีจับมืออยู่ตลอดเหมือน พอลูกคลอดออกมาค่อยถ่ายวีดีโอเหมือนกัน คุณพยาบาลช่วยถ่ายให้ด้วย ยอมรับทัศนคติต่างกัน มองมุมต่างกัน จากประสบการณ์ที่ต่างกัน ยังไงขอโทษคุณหมอตาตี่ด้วยค่ะถ้าแสดงความคิด offensive เกินไป แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 00:21:10 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 55 23:59:18 จากคุณ : pinkyjung เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 21:28:59

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนเราอยู่รพช. มีเคสชันสูตรเคสนึง (ไม่เล่ารายละเอียดเคสเเล้วกัน) เราให้เอาเข้ามาดูในโรงพยาบาล เพราะวันนั้นมีเราเป็นหมอเวรคนเดียว มูลนิธิก็เอาเคสเข้ามา พร้อมกับมีชายแปลกหน้าสองคนพร้อมกล้องถ่ายรูปเเละกล้องวีดีโอเข้ามาด้วย  ตอนเเรกเราตรวจเคสอื่นอยู่ก็เลยยังไม่สนใจ พอเราเห็นเค้าเริ่มถ่ายรูป เราถามว่าเค้าสองคนเป็นใคร เค้าบอกเราว่าเป็นนักข่าว เราก็เลยบอกเค้าไปว่าที่นี่ห้ามถ่ายรูป(มีป้ายติดห้ามในerด้วยนะ) สองคนนั้นก็ไม่พอใจ บอกว่าเราเป็นหมอใหม่ใช่ไหม รู้ไหมว่าที่นี่เค้าก็ให้นักข่าวมาทำข่าวเสมอเเหละ ไม่อยากอยู่ที่นี่ดีๆใช่ไหม อยากมีเรื่องกับพวกเขาเหรอ  เรานี่เเบบเซ็งมาก  คือเราได้รับการสั่งสอนมาว่าต้องให้เกียรติเคสทุกเคสของเรา เราไม่รู้ว่าถ้าเป็นตัวเค้าหรือญาติเค้าหัวเเบะไส้เเตกมาจะอยากถูกถ่ายรูปลงหน้าหนึ่งไหม(เเต่เราไม่ได้พูดไปหรอกนะ สถานการณ์ตอนนั้นมัน เครียดดด) พยาบาลERก็ไม่พูดอะไรซักคำ ปล่อยเค้ามาข่มขู่เราหน้าตาเฉย นักข่าวนี่มันอภิสิทธิ์ชนจริงๆ จากคุณ : defe_caola เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 22:20:44

ความคิดเห็นที่ 19 เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเป็นเรากำลังนอนป่วย หรือบาดเจ็บอยู่รพ. เราก็คงไม่พอใจมากๆ ถ้านักข่าวมาถ่า่ยรูปเราหน้าตาเฉย ไม่เคารพสิทธิของคนอื่นบ้างเลย แถมดีไม่ดี ไปเกะกะการทำงานของพยาบาลและหมออีก แม้แต่การถ่ายรูปโจรไปเผยแพร่ ความจริงก็ไม่ควร เพราะทำให้เค้าไม่มีที่อยู่ในสังคม โอกาสกลับตัวก็น้อยลง แต่อีกมุมหนึ่งก็พอจะมองได้ว่าเป็นการเตือนให้สังคมรู้ จะได้ระวังคนหน้าตาแบบนี้ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 22:34:38

ความคิดเห็นที่ 20 น่าจะมีเฉพาะตามรพ.ใหญ่ๆ จากภาพที่เราดู อยากบอกว่าเกะกะจัง คนไข้ERก็เยอะอยู่แล้ว ไหนจะพยาบาล ผู้ช่วย ก็หลายคน ยังมาเจอนักข่าวขวางอีก น่าเห็นใจจัง จากคุณ : Imphamog เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 00:54:23

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าไม่ยอมพวกนั้น ก็จะเกิดการเขียนข่าวเชิงลบใส่ รพ. หรือ ผู้บริหาร พอเป็นข่าว  ชาวโซเชี่ยล  ที่ฟังความข้างเดียว ก็จะมาช่วยรุมด่า รพ. หรือ ผู้บริหาร ... ผู้บริหารกลัว ก็ต้องยอม แต่พอยอม  ก็โดนด่าอีกเช่นกัน 5 5 5 จากคุณ : จินหยง เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 03:32:11

ความคิดเห็นที่ 22 ส่วนตัวผมเชิญออกตลอด แต่โชคดีที่รพ.ผมก็ไม่มีนโยบายให้นักข่าวเดินเล่นไปมาได้ตามสะดวก (ผู้บริหารมีแต่อาจจะเปิดแถลงข่าวได้หากจำเป็นในบางกรณี ก็คงประณีประนอมได้ระดับหนึ่ง) ส่วนตัวผมอยากด่ารพ.ก็ด่าไป (อย่างแย่คนไข้ก็น้อยลงก็ไม่เป็นไร รพ.รัฐบาลนี่หว่า ... น้อยก็ตรวจน้อย แต่ส่วนใหญ่คนไข้เค้าจะเชื่อในหมอประจำตัวเค้ามากกว่า ต่อให้รพ.โดนด่า แต่หมอ ประจำตัวเค้าดี คนไข้ก็จะมาอยู่ดี) จากคุณ : ผมอยากที่จะเชื่อ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 03:59:21

ความคิดเห็นที่ 23 เชิญนักข่าวออกไปรอข้างนอก ถ้านักข่าวมีปัญหาให้โทรหาผู้บริหารแล้วให้ผู้บริหารตัดสินใจ หรือไม่ก็ถามในที่ประชุมเลยว่าจะเอายังไงเรื่องนักข่าว ถ้าผู้บริหารบอกว่าให้นักข่าวเข้า ER ได้ก็ตามนั้น มีอะไรให้ผู้บริหารรับผิดชอบไป เราทำดีที่สุดในส่วนของเรา บางอย่างอย่าไปลุยเองให้ผู้บริหารรับไป จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 07:58:43

ความคิดเห็นที่ 24 จรรยาบรรณนักข่าวเมืองไทย มันคงไม่เคยมีอยู่ และคงไม่มีวันเกิดขึ้นแน่ๆ จากคุณ : mayny the kop เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 09:44:23

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องคลอด การที่พ่อเข้าไปถ่ายวีดีโอ เราว่าไม่ใช่การละเมิดสิทธิ์ตรงไหน จากคุณ : angelzpuu เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 10:26:04

ความคิดเห็นที่ 26 จรรยาบรรณกับอาชีพเสื่อมโทรมลงทุกวัน ขอย้ำว่าทุกอาชีพ แต่กับอาชีพที่ต้องหากินกับคนอื่นแบบนี้ น่าจะระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ พวกมีสื่อในมือในหลายๆ ครั้งก็ย่ามใจ เหตุการณ์เรื่องโรงแรมตอนน้ำท่วมปีที่แล้วก็เอาเขาไปพูดเสียๆ หายๆ ทั้งที่เป็นความผิดของตนเอง จนตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าได้ออกมาขอโทษเขารึยัง จากคุณ : Little_Slam เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 10:27:45

ความคิดเห็นที่ 27 ทายเล่นๆว่าER สระบุรี ปล. คุณหมอระวังนะครับ อาจจะเจอสองกระทง กระทงแรก ข้อหาถ่ายรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตในห้องฉุกเฉิน กระทงสอง ข้อหาถ่ายรูปคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทงสาม เอารูปคนอื่นมาโพสท์ในเนทโดยไม่ได้ขออนุญาต จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 10:33:21

ความคิดเห็นที่ 28 สงสัยตัองรอ วันที่ ญาตินักข่าว นอนเจ็บแล้วมีคนมารุมถ่าย วันนั้น คงเข้าใจคนอื่น เกลียดนักคนที่รู้จักแต่สิทธิของตัวเอง จนไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นเหมือนกัน จากคุณ : sakurasato เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 14:13:21

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าเราต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยเรื่องบางอย่างซึ่งอาจเป็นเรื่องหรือโรคที่เราไม่อยากให้คนทั่วไปรู้ แล้วดันมีนักข่าวมาทำข่าวถ่ายรูป ออกทีวี เราสามารถบอกได้ไหมว่าอย่าเอาไปออกข่าวนะ หรือถ้าบอกไปแล้วแต่ยังมีข่าวเราเผยแพร่ไปอีกเราจะทำอะไรได้หรือไม่ อันนี้ถามเพราะไม่รู้จริงๆค่ะ จากคุณ : Amperage เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 15:28:08

ความคิดเห็นที่ 30 ดูจากภาพ ก็เห็นด้วยกับคุณหมอแมวว่า น่าจะเป็น ER ที่รพ.สระบุรี ตอนตาป่วยเข้ารพ. คนเยอะมากๆๆๆ และญาติต้องรออยู่ข้างนอก แค่เตียงคนไข้ หมอ พยาบาล ผู้ช่วย ก็แทบไม่มีที่ทางให้เดินอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะให้สิทธิ์กับนักข่าวขนาดนี้ จากคุณ : super-patter83 เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 16:03:07

ความคิดเห็นที่ 31 ควรมีกฎหมายไม่ให้นักข่าวทำแบบนี้อ่ะ จากคุณ : อัยอาย เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 16:32:06

ความคิดเห็นที่ 32 ผมไม่เห็นด้วยเลยครับที่ทำแบบนี้ เราไม่ได้อนุญาต แล้วในสภาพเจ็บป่วยด้วย ไม่ใช่ภาวะปกติ ผมไม่ยอมอะ แต่ถ้าป่วยอยู่คงไม่มีแรงจะคิดเรียกร้องอะไร จากคุณ : pandemic เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 00:44:32

ความคิดเห็นที่ 33 ทุกอย่างอยู่ที่ความยินยอมของคนไข้นะ อย่างเรื่องในห้องฉุกเฉินแล้วญาติหรือใครจะเข้าไป ถ้าหมอบอก อาจตายเพราะติดเชื้อได้ คนไข้กับญาติคงไม่เข้าไปหรอก แต่จริงๆ ก็ไม่รู้จะเข้าไปทำไม เกะกะหมอเปล่าๆ ส่วนเรื่องนักข่าวนี่  เหลือรับประทานจริงๆ กาละเทศะหายไปไหนหมด อภิสิทธิชนเกินไปจริงๆ ผู้บริหารโรงพยาบาลนี้ไม่ไหวเลย จากคุณ : หนุ่มน้อย ณ บาบิโลน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 07:14:44

ความคิดเห็นที่ 34 โรงพยาบาลผมก็เพิ่งโดนไปหมาดๆ มาทำข่าว อยู่ดีๆก็มาถ่ายรูป พยาบาลก้ถามไปว่า ขออนุญาตรึยังคะ นักข่าวตอบมาว่า ทำไมต้องขอด้วยละ  เสร็จแล้วไอ้นักข่าวคนนี้มันก้ไปเขียนข่าวของมัน พร้อมทิ้งท้ายประโยคว่า ไม่ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลนี้..... เชื่อเค้าเลย จากคุณ : ไข่ย้อย&ตาหวาน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 11:29:56

ความคิดเห็นที่ 35 งานนี้ ถ้าเราโดนนักข่าวฟ้อง เรื่องดัง ก็อยากให้นักข่าวฝั่งตรงข้าอกข่าวบ้าง หรือไม่เล่นงานกลับบ้าง เพื่อนักข่าวจะได้มีสำนึก แต่คงเป็นไปได้ยาก นักข่าวมันพวกเดียวกัน ข่มทุกฝ่าย ยกเว้นพวกการเมือง จากคุณ : atto-zepto-yocto เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:38:48

ความคิดเห็นที่ 36 เอ่อ .. งงเลยเป็นกระทู้แนะนำเลยเหรอเนี่ย ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ ผมจะลองนำไปเสนอผู้บริหารดู อ่านดูหลายที่คงเจอปัญหาคล้ายๆ กัน ได้ความคืบหน้ายังไงจะมาแบ่งปันกันครับ ล่าสุด มีการคุยกันแล้ว คงมีการเตรียมสห.หรือยามมาคอยควบคุมดูแลหน้าห้องฉุกเฉินก่อน แต่ก็ยังไม่เด็ดขาดเท่าไร คือยังยอมให้เข้าในบางกรณีอยู่ดี แต่ไม่รู้จะWorkแค่ไหนนะครับ ส่วนคุณนักข่าวผมต้องขอโทษโดยรวมจริงๆนะครับ เรื่องนี้สืบมาเป็นแค่นักข่าวกลุ่มเดียวจากช่องเดียว ที่สีเท่าสีรุ้งหน่ะครับ นอกนั้นมีมารยาทดีมาก โดยเฉพาะ เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ยังเข้ามานั่งอ่านกระทู้นี้เรื่อยๆ นะครับ มีอะไรบ่นกันมาได้ จากคุณ : I am 1st (I am 1st) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 20:36:43

ความคิดเห็นที่ 37 ผู้ป่วยสามารถฟ้องสื่อและโรงพยาบาลได้ หากไม่ต้องการให้ภาพแพร่ออกไป จำได้คร่าวๆ จะให้เป๊ะ ต้องไปค้นข้อกฎหมายเรื่อง "ละเมิด" มาเลยค่ะ แต่การบังคับใช้กฎหมายมันอ่อนนะคะ ฟ้องได้ แต่จะได้อะไร ว่ากันอีกเรื่อง จากคุณ : ตัวปลอม (พ่อศรีเรือนคับผม) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 21:06:54

ความคิดเห็นที่ 38 เรื่องแบบนี้นั้นมันไม่ถูกต้องแน่นอน แต่อย่างแรกจขกท.ต้องเข้าใจก่อนว่า ผู้บริหารบางคนไม่ได้จบมา ทางสายการแพทย์โดยตรง ทำให้ไม่ตระหนักกับเรื่องที่สำคัญมากๆ แบบนี้ จึงไม่แปลกที่ผู้บริหารเหล่านี้จะทำเรื่องแปลกๆโดยการให้นัก ข่าวเข้ามาบรรทึกภาพแบบนี้ ดังนั้นถ้าคุยกับผู้บริหารเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล แนะนำให้ไปร้องเรียนกับองค์กร ที่ใหญ่กว่า จากคุณ : ครั้งหนึ่งเคยเล่นดอท เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:57:31

ความคิดเห็นที่ 39 ต้องลองให้นักข่าวเจ็บเจียนตาย ไม่ใช่เจ็บจากการทำงานหาข่าวด้วยนะ  เจ็บเพราะสาเหตุอื่น แล้วโดนนักข่าวคนอื่นรุมถ่ายรูปแบบนี้บ้าง จากคุณ : ไอศครีมรสช็อกโกแลตชิป เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:33:14

ความคิดเห็นที่ 40 ตอนเด็กๆเคยดูหนังเรื่อง "เทวดาเดินดิน" กำกับโดย ท่ายมุ้ย ท่านทำหนังเรื่องนี้ได้ดีมาก มากเสียจน เด็กอย่างเรารู้แจ้งเห็นจริง ว่า เทวดาตัวจริงคืออาชีพนักข่าว ในหนังบอกให้รู้ว่า นักข่าวนั้นจะปั้นให้ใครดี ใครเลว ยังไงก็ได้ ทำได้ทุกอย่าง.........( ขอให้ให้ได้รับผลกรรม ) จากคุณ : - (สมหนิง) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:17:14

ความคิดเห็นที่ 41 ผมเชื่อว่า ถ้าเป็นคนในครอบครัวนักข่าว ..............เขาคงไม่ทำ แต่ถ้าทำกับคนอื่นแล้วได้เงินได้ผลงาน.........ก็นะ จากคุณ : เอ่ยรัก เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:50:58

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าเป็นคนไข้แล้วโดนถ่ายรูป ตามกม.ไทยคนไข้ฟ้องนักข่าวกับโรงพยาบาลได้มั้ย เราอยู่ออสเตรเลีย ที่นี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากโรงพยาบาลต้องรักษาความลับคนไข้ เห็นรูปลุงจ้องถ่ายรูปแล้วงงเลยว่าขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย จากคุณ : kk (Black Eyed Peas) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 16:14:05

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าเราเป็นคนไข้แล้วเจอนักข่าวแบบนี้ รับรองเราจะฟ้องให้เป็นข่าวดังเลยค่ะ พวกสื่อนสพ. สื่อโทรทัศน์ไม่น้อยหน้า คนเจ็บหรือแม้แต่คนตาย ยังไม่เบลอเขาเลย ไม่มีจรรยาบรรณและกาละเทศะเลยจริงๆ จากคุณ : Rich ka เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:35:48

ความคิดเห็นที่ 44 ด่านักข่าวอย่างเดียวไม่ถูกต้องด่าผู้บริหารด้วย เพราะเอาใจกันจนเกินขอบเขตและไม่คำนึงถึงผู้ป่วย ถ้าเดินสะดุดสายเครื่องช่วยหายใจหรืออุปกรณ์ฉุกเฉิน หรือเกะกะกีดขวางทำให้หมอไม่สามารถช่วยชีวิตคนไข้ได้ทันเวลา ใครจะรับผิดชอบ ต้องถามกลับไปยังผู้บริหารว่าทำอะไรกันอยู่บนหอคอย ต้องลงมาดูสภาพความเป็นจริงบ้างว่าเป็นอย่างไร จากคุณ : ดีแต่สั่ง เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 02:48:00 A:90.224.229.54 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 45 เอาแบบไม่อ้อมค้อม "เอามันออกไป" (ถ้าขออนุญาตคนป่วยเจ็บก่อน ก็ยอมรับได้ครับ แต่กรณีแบบนี้เดาว่าไม่น่าจะขอครับ)  แต่ก็เห็นด้วยว่ามันเป็นอภิสิทธิ์ชน ที่แม้แต่นักการเมือง ตำรวจ ทหาร ฯลฯ ยังต้องกลัวมัน ถ้าเราไม่ยอมมันอาจอยู่กันไม่เป็นสุขเหมือนกันครับ ปล.แอบคิดในใจ "อย่าป่วยมานะเฟร้ย" แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 11:11:47 จากคุณ : zenario เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 10:57:10

ความคิดเห็นที่ 46 ป่วยมาก็ลำบากเหมือนกันครับ ไม่รู้จะไปทำอะไรไม่ถูกใจเข้าตอนไหน จากคุณ : ปรายภพ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 16:58:41