ความคิดเห็นที่ 1 การรักษาภาวะสายตาผิดปกตินอกจากใส่แว่น หลักการคือ การจาระไนกระตกตาให้มีความหนาที่เหมาะสม เมื่อแสงผ่าน จะทำให้แสงตกกระทบลงบนจอประสาทตาพอดิบพอดี ดังนั้นจึงสามารถแก้ไขความคมชัดของภาพได้ การจาระไนกระจกตา ปัจจุบันมี 2 วิธี หลักๆ (1) PRK วิธีนี้ ไม่มีการฝานกระจกตาเปิดออกเป็นหน้าต่าง แพทย์จะใช้เลเซอร์จาระไนบนกระจกตา ข้อดีคือ ไม่มีการฝานกระจกตา และวิธีนี้เป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน ข้อเสียคือ กระจกตาจะมีลักษณะถลอก ต้องเปิดคอนแทคเลนส์แข็งไว้ในมีการสมานผิว คนไข้ต้องมาตรวจตาทุกวันเป็นเวลา 1สัปดาห์ ระยะพักฟื้นนานกว่าสายตาจะค่อยๆเริ่มดีขึ้น (2) LASIK วิธีนี้มีการฝานกระจกตาเปิดออกเป็นหน้าต่าง แล้วค่อยใช้เลเซอร์จาระไนกระจกตา เสร็จแล้วจึงปิดหน้าต่างกลับ ข้อดีคือ สายตาดีขึ้นค่อนข้างไว ไม่ค่อยเคืองตาเท่าแบบแรก นัดติดตามที่ 1วัน และ1สัปดาห์ (ไม่ต้องมาตรวจทุกวัน) ข้อเสียคือ ต้องฝานกระจกตา ดังนั้นย่อมมีกาีเสียเนื้อกระจกตาบางส่วน คนที่กระจกตาบางอาจจะทำไม่ได้ ปัจจุบันการฝานกระจกตามีทั้งแบบใบมีด และแบบใช้เลเซอร์แทนใบมีด แน่นอนว่าเลอเซอร์ย่อมแม่นยำกว่า ฝานตัดได้เรียบกว่า แต่ แพงกว่ามาก ข้อจำกัดของการทำเลสิค ไม่สามารถแก้ไขภาวะแสงกระจายที่มีมาก่อนให้หมดไปเลยได้ ไม่สามารถแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติจากสาเหตุอื่นๆนอกเหนือจาก refractive error ถ้าสายตาผิดปกติมากๆ เช่น เกิน 1000 อาจไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด ขึ้นกับความหนากระจกตา และเทคโนฯ ยิ่งสายตาผิดปกติมากเท่าไร การทำเลสิคยิ่งพบภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น จาก <1% อาจเพิ่มเป็น 3-5% หลังจากทำเลสิค ตาจะแห้งทุกคน มากน้อยแล้วแต่คน อาการจะค่อยๆดีขึ้นใช้เวลาเป็นเดือนๆ บางคนมีแสงกระจายตอนกลางคืน ทำให้ขับรถกลางคืนไม่ได้ อาการจะดีขึ้นใช้เวลาเป็นเดือนๆ ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ติดเชื้อ กระจกตาถลอก ... เกิดขึ้นได้ จะเห็นว่า เลสิค ไม่ได้สามารถแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติได้ทุกคน มันมีข้อจำกัดอยู่ และไม่ได้เป็นการผ่าตัดที่จำเป็น หรือเร่งด่วน ดังนั้นต้องศึกษามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และคาดหวังให้ถูกต้อง ถ้ายังไม่พร้อม หรือไม่มั่นใจ ไม่แนะนำให้ทำเลยครับ จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 11:39:46

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับตัวผมเอง สายตาสั้นไม่มากครับ สั้นบวกเอียงประมาณ 300 ซึ่งคุณหมอบอกว่าอยู่ในกลุ่มสั้นน้อย (น้อยกว่า600) โอกาสแก้ไขจนหมดสิ้น 99% และโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน น้อยกว่า 1% และแนะนำเลสิคเพราะกระจกตาหนา จะทำแบบเทคโนฯไหนก็ได้ แต่เดิมทีผมมีปัญหาตาแห้งมากนานมากแล้ว เนื่องจากเคยกิน Roaccutane รักษาสิว จริงๆก็เลิกกินยาตัวนั้นมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังตาแห้ง ประกอบกับชอบอ่านหนังสือ เล่นคอม อยู่ในห้องแอร์ด้วย ตาเลยแห้งมาเรื่อยๆ ส่วนตัวผมเก็บเงินมานานแล้ว และอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับตัวเองครับ (ผมไม่เสียดายเงินเลย ถ้าเป็นเรื่องสุขภาพ) เลยเลือกวิธี RELEX ครับ มันก็คล้ายๆกับเลสิคครับ แต่เป็นวิธีใหม่ โดยจะใช้เลเซอร์ยิงเข้าไปจาระไนในกระจกตา จากนั้นจะเปิดรูเล็กๆ 3-5มิลลิเมตร เผื่อคีบส่วนที่ไม่ต้องการออก ข้อดีคือ แผลมันจะเล็กมาก ไม่ต้องฝานกระจกตาจนเป็นหน้าต่าง และเสียเนื้อกระจกตาน้อย (เหมาะกับคนที่สายตาสั้นมากๆ) ดังนั้นการสมานตัวจะดีขึ้น โดยเคลมว่าลดโอกาสเกิดตาแห้งด้วยครับ (แต่ก็คือ claim นะครับ ไม่รู้จริงๆจะเป็นไง :)) ข้อเสียที่สำคัญมากคือ แพง แพง แพง และในประเทศไทยเพิ่งใช้เทคนิคนี้มาแค่ 1-2ปี จึงไม่ทราบผลระยะยาว แต่จาก papers ทั่วโลกแล้ว แนวโน้วผลระยะยาวน่าจะดี (น่าจะนะครับ เพราะไม่ได้ทำเป็น trial) ผมคิดว่าราคามันต่างจากแบบ เลสิคที่ใช้เลเซอร์ทุกขั้นตอน (femtosecond) ไม่มาก ยกเว้นถ้าทำเฟมโตที่ศิริราชจะถูกกว่าค่อนข้างเยอะ แต่ผมไปศิริราชไม่ไหวครับ ไกลบ้านมากๆๆๆๆๆ ไม่มีใครไปรับไปส่งด้วย ก็เลยจัดแบบ RELEX ไปเลย ก็อย่างที่บอกครับว่าต้องการสิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องสุขภาพสำหรับตัวเอง บางคนอาจจะคิดว่าแพงเกิน เหมือนกับผมที่มองคนที่ขับยุโยปว่าซื้อรถแบบนั้นทำไม แพง! เรื่องแบบนี้มันก็นานาจิตตังครับ แล้วจะใครว่าจะให้ค่าสิ่งไหนมากกว่ากัน แต่สำหรับผมแล้ว ตาสำคัญมาก!!!! รถก็ขับรถญี่ปุ่นรุ่นประหยัดต่อไปเหอะ ^__^ ไม่ได้เป็นคนขับซิ่งอยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 12:24:33 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 12:18:03 จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 12:02:10

ความคิดเห็นที่ 3 ก่อนทำเลสิค จะมีการตรวจตาอย่างละเอียด และตรวจ anti-HIV เพื่อให้แน่ใจว่า สายตาเราคงที่ (อย่างน้อยอายุ18-20ปีขึ้นไป) และไม่มีโรคตาหรือข้อห้ามอื่นๆในการผ่าตัด โดยจะมีการตรวจสายตาอย่างละเอียด ตรวจความหนากระจกตา ตรวจลานสายตา ตรวจความดันลูกตา มีการขยายรูม่านตาเพื่อตรวจจอประสาทตาโดยแพทย์ ใช้เวลาตรวจทั้งหมด 3-4ชม ทีเดียว พอตรวจเสร็จยาขยายม่านตาจะยังออกฤทธิ์ (ระยะเวลาออกฤทธิ์ 4-6ชม) แนะนำให้ใส่แว่นกันแดดครับ รูม่านตาขยาย แสงจะจ้ามาก และมองใกล้ไม่ชัด ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ขับรถเองครับ จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 12:13:43

ความคิดเห็นที่ 4 ผมผ่าตัดวันที่ 13 ตค 55 ครับ ตื่นเต้นมาก แต่ก็เตรียมใจไว้แล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ระยะเวลาผ่าตัดกินเวลาไม่เกิน 1ชม เริ่มจาก จนท จะมาอธิบายขั้นตอนคร่าวๆ พร้อมทั้งให้กำลังใจ กับกินยาคลายเครียดไปเม็ดนึง อิอิ ก่อนเข้าห้องผ่าตัดมาให้เปลี่ยนรองเท้า กับสวมชุดคลุม โซนก่อนถึงห้องผ่าตัด จะมีให้พักนั่งเก้าอี้ หยอดยาฆ่าเชื้อ หยอดยาชา 3รอบ พยาบาลจะชวนคุย พูดให้เราสบายใจ แล้วคุณหมอก็เดินมาหา อธิบายกันผ่าตัดอีกครั้ง :) ในใจผมก็ รีบๆทำให้มันจบเถอะครับ ใจเต้นระรัวละ 555 ขณะผ่าตัดพยาบาล กับคุณหมอ จะคุยด้วยตลอด บอกให้เราจ้องไฟ "ดีมาก เพอร์เฟคครับ" ฟังแล้วสบายใจขึ้นเยอะครับ 555 ถ้าถามผมนะ ไม่เจ็บเลย บางครั้งตึงๆนิดหน่อย ส่วนใหญ่จะกลัวมากกว่า :'-( แต่พอตาข้างแรกเสร็จ พอทำตาข้างที่สองก็สบายใจขึ้นเยอะแล้วครับ จริงๆเฉพาะเวลาผ่าตัดจริงๆ ข้างละ 5 นาทีเองมั้งครับ หลังผ่าตัดก็มีหยอดตาฆ่าเชื้อ กินยาพาราแก้ปวด กับใช้ฝาครอบตากันเผลอขยี้ตาครับ ห้ามน้ำเข้าตา ห้ามล้างหน้า ห้ามสระผมเอง 1สัปดาห์ครับ 1สัปดาห์นี้ถือเป็นระยะวิกฤต มีโอกาสติดเชื้อได้ ต้องหยอดน้ำตาเทียม หยอดยาฆ่าเชื้ิอตลอด จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 13:11:20

ความคิดเห็นที่ 5 หลังผ่าตัด 1วัน มาตรวจความเรียบร้อยครับ แผลติดดี ตาแห้งเยอะอยู่ แต่มองชัดแล้ว :) ตาซ้ายชัดมาก 20/16 ตาขวาชัดพอประมาณ 20/20 อาศัยหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 13:15:48

ความคิดเห็นที่ 6 ตลอด 1สัปดาห์ ผมหยอดน้ำตาเทียมบ่อยมากๆๆๆ ทุก1-2ชม เลย มีความสุขมากครับ ลาทีเจ้ากรอบแว่น แต่ที่รำคาญมากๆ คือ ล้างหน้าไม่ได้ สระผมไม่ได้ พอครบ 1สัปดาห์ มาตรวจแผล :) แผลเรียบร้อยดีมาก ตาสองข้าง 20/20 และมองเห็น 20/16 อีกหลายตัว ผมพอใจผลมากครับ แม้ว่าข้างขวาจะมัวนิดนึง คาดว่าคงยังเอียงนิดหน่อย ดีใจมาก ล้างหน้าสระผมได้สักที :) ตลอดสัปหาห์ที่ผ่านมา ผมขับรถได้ปกตินะครับ ตอนกลางคืนก็ขับได้ ไม่ค่อยมีปัญหาแสงกระจายครับ ส่วนใหญ่ที่เป็น คือ ตาแห้ง! ก็หยอดน้ำตาเทียมกันไป แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 13:20:44 จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 13:20:26

ความคิดเห็นที่ 7 เวลาขับรถกลางวัน ได้ใส่แว่นกันแดดแล้วครับ :) แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 22:57:58 จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 13:21:33

ความคิดเห็นที่ 8 วันนี้ 17 พย 55 มาตรวจตาหลังครบ 1 เดือนครับ อ่านหนังสือ หรือขับรถปกติมากแล้วครับ ตาแห้งลดลง แต่จะแห้งมากช่วงตื่นนอน กับตอนบ่ายๆที่ใช้ตามาทั้งวัน ตาซ้าย ปกติมากๆ 20/16 ตาขวาแห้งเยอะหน่อย 20/20 เหลือเอียง 50 แต่ถ้าใช้ 2 ตานี่มองชัดแจ๋วเลย ส่วนตัวผมพอใจแล้วอ่ะ -__- ไม่อยากคิดมาก เหลือตรวจตาอีกทีที่ 3 เดือน กับ 1ปีครับ มีรูป before, after ให้ดูครับ จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 13:31:13

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณจขกท.มากครับสำหรับรีวิวดีๆแบบนี้. จากคุณ : อัสลาน เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 13:49:09

ความคิดเห็นที่ 10 อย่าเพิ่งดีใจไป สายตากลับมาสั้น เอียงใหม่ได้ ผมในที่สุดต้องกลับมาใส่แว่นเหมือนเดิมหลังทำไป 7 ปี ยิงไปสองครั้ง ครั้งแรกจำไม่ได้ว่าภาพมันเป็นอย่สงไร เลยไปหาหมอ หมอยิ่งเพิ่ม ในช่วงห่างกันเดือนเดียว คงไม่ยิงอีกเพราะครั้งที่สอง เขาบอกเกลี่ยกระจกตาตรงขอบไม่สนิท น้ำตาไหลตลอดเวลาทั้งวันจนคอแห้งผาก จากคุณ : เดือนดารา เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 14:26:40 A:27.55.6.137 X: TicketID:378455

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากค่ะ เป็นประโยชน์มาก กำลังอยากทำ ไม่ทราบว่าหลังไมค์ได้ไหมคะว่า ทำที่ไหนค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ จากคุณ : EostreNoni เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 14:27:06

ความคิดเห็นที่ 12 คห 10 ผมทราบครับว่า ถ้าเรากลับมามีพฤติกรรมใช้สายตาหนักๆ ก็มีโอกาสต้องยิงเลเซอร์เพิ่ม ขอบคุณครับ ผมจะพยายามดูแลตาคู่นี้ให้ดีที่สุด อีกอย่าง พอเราแก่ตัวลง ก็อาจจะมีสายตายาวคนแก่ได้ (presbyopia) ซึ่งเกิดจากเลนส์ตาไม่ยืดหยุ่นและกล้ามเนื้อตาล้า ทำให้อ่านหนังสือหรือมองใกล้ลำบาก กระทู้นี้ผมแค่ขอแชร์ประสบการณ์นะครับ ไม่ได้สนับสนุนให้ทำเลสิค เพราะส่วนตัวทำแล้วข้างขวายังเหลือเอียง 50 แต่ผมก็พอใจแหละ ต้องรอดูอีกทีที่ 3 เดือน เพราะกระจกตาจะคงที่แล้ว แต่ผมก็พอใจแล้วล่ะ ถึงจะเหลือเอียงนิดนึงก็ช่างมัน บอกตามตรงว่ากลัว ถ้าไม่สายตาเปลี่ยนมากๆ คงไม่ทำเพิ่มแล้ว :) จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 14:41:42

ความคิดเห็นที่ 13 ขอทิ้งท้ายไว้นิดนึงว่า ทุกสิ่งที่เล่ามาคือ ประสบการณ์ของผมเอง และร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผลลัพธ์อาจจะแตกต่างกัน การผ่าตัดทุกอย่างมีความเสี่ยง ดังนั้นแล้วต้องศึกษาให้ดี ถามคุณหมอจนกว่าจะมั่นใจ ถ้าไม่มั่นใจ ไม่พร้อม อย่าเพิ่งทำครับ เพราะเลสิคไม่ใช่การผ่าตัดที่จำเป็นหรือเร่งด่วน ผมไม่อยากให้ท่านๆมาเสียใจที่หลัง ถ้าผลไม่ออกมาดังหวัง และไม่ควรหวังมากเกินความเป็นจริง ศึกษาให้ดีครับ ย้ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้เข้าใจก่อน ให้มั่นใจก่อน ทั้งข้อดีและจ้อเสีย ถ้าสรุปแล้วว่าจะทำ ผมขอให้ท่านโชคดีนะครับ มีอะไรถามมาหลังไมค์ได้ครับ จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 14:42:31

ความคิดเห็นที่ 14 เราทำวิธี PRK ค่ะ เพราะกระจกตาค่อนข้างบาง ตอนทำไม่เจ็บเลย กลับบ้านก็ไม่เจ็บ มองเห็นชัดได้ทนที เรายังแอบดูทีวีตอนนั่งกินข้าว เช้าวันแรกหลังจากทำก็ไม่เจ็บ ปกติมากๆ แต่ไปแสบตาแทบลืมไม่ขึ้นเช้าวันที่ 2 ตอนนี้ทำมาประมาณเกือบ 8 ปีแล้ว ใช้สายตาเหมือนเดิม แต่สายตายังเป็น super visual คือ ตาดีกว่าคนอื่น แต่เรามีปัญหาเรื่องมองในที่มืด ไม่แน่ใจว่าเป็นมาก่อนทำรึเปล่า เพระาแต่ก่อนไม่เคยขับรถกลางคืนเลยไม่ได้สังเกตุ เค้าบอกว่ารูม่านตาเรากว้างกว่าคนทั่วไป เลยทำให้เห็นแสงจ้ากว่าคนอื่นในที่มืด ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าแสงกระจายรึเปล่า แต่เราบอกหมอว่า ตอนมีรถขับสวนมาตอนกลางคืน 2 คัน เราจะแยกไม่ค่อยออกว่าคันไหนมาก่อน จากคุณ : Rurujung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 14:51:57

ความคิดเห็นที่ 15 คห 14 ครับ เพื่อนผมก็มีอาการเหมือนคุณครับ เขาทำแบบ femtosecond lasik แต่มีอาการมาตั้งแต่ก่อนทำ เพราะว่ารูม่านตาในที่มืดค่อนข้างใหญ่กว่าคนอื่น เลยรับแสงได้มาก ปกติคนเรา ถ้าอยู่ในที่แสงจ้า รูม่านตาจะหดเล็กลง  และเมื่อแสงน้อย รูม่านตาจะขยายขึ้นครับ จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 15:04:54

ความคิดเห็นที่ 16 เราทำมาแล้วสองครั้ง.  ถามหมอค่ะ.   ครั้งแรก สิบปีที่แล้ว.  ครั้งต่อมาปีที่แล้ว เราไม่กลัวนะ. มีไรเราถามหมอค่ะ.  หมอรู้เรื่องดีที่สุดค่ะ. แล้วเทคโนโลยีมันก็ก้าวหน้าไปเรื่อยๆๆๆ. เวลาในการยิงก็น้อยลง เมื่อครั้งแรก. นานข้างละประมาณเจ็ด ถึงสิบนาที.  มีกลิ่นไหม้ซะด้วยซ้ำ.   แต่ครั้งล่าสุดที่ยิง. เร็วมาก. สองข้างไม่ถึง. ห้านาทีหรอก. แถมไม่มีกลิ่นด้วย เห้นด้วยค่ะที่มาเล่าประสงการณ์.  เพราะตอนเราทำเมื่อสิบปีเราถามใครไม่ได้เลย. เทคโนโลยีเพิ่งมา. ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย สำหรับเราถ้าหมอบอกว่าปลอดภัยก็ทำเลยค่ะ.    ของเราหมอบอกว่าเดี่ยวอายุเยอะตายาวเจอกันนะ.  หมอจองตัวไว้ก่อนเลย 55555 จากคุณ : นะ.อรุณรุ่ง เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 15:06:10

ความคิดเห็นที่ 17 คห 16 เดี๋ยวนี้เทคโนฯ ดีขึ้นจริงๆครับ ของผมทำแบบไร้ใบมีด ใช้เลเซอร์ทุกขั้นตอน เฉพาะระยะเวลาที่ยิงเลเซอร์นี่ไม่เกิน 1 นาที ต่อข้างอ่ะ พอดีเจ้าหน้าที่เค้านับถอยหลังให้ฟัง :) จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 15:30:28

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณคุณ HengKung  สำหรับประสบการณ์ดีนำมาแชร์ ศึกษามานานแล้วเหมือนกันตอนนี้ อายุ 20 ย่าง 21 เดือนหน้านีเองมีปัญหาสายตาสั้นตั้งแต่อนุบาล 2 (สมัยนั้นใส่แว่นหนาเตอะ - -") แต่พอช่วง 6-7 ปีที่แล้วใส่คอนแทคเลนส์ สลับกับแว่นตา แต่พักหลังใส่คอนแทคส์เสียส่วนใหญ่ เป็นคนตาแห้งเพราะอยู่แต่กับหน้าคอมกับห้องแอร์ ไม่ค่อยพกน้ำตาเทียมเลย สายตาสั้นมากแต่ไม่รู้เท่าไหร่แน่ตรวจหลายที่เค้าก็ให้ค่าตัวเลขไม่เท่ากันแต่รู้ว่ามีเอียงเยอะ (ก่อนตรวจ ต้องถอดแว่น ถอดคอนแทคออกสักพักจขกท. พอทราบไหมว่าตรวจที่ไหนวิธีไหนแม่นยำสุด) ตอนนี้ก็กำลังเรียนอยู่ศึกษาไว้ถ้าจบแล้ว อะไรหลายๆอย่างพร้อมก็อยากทำ (ร้านตัดแว่นที่ตรวจแบบเอาแว่นแบบกลมๆใหญ่ๆ ที่มีกล่องเลนส์เยอะๆมาเสียบแล้วถามเราว่าชัดไหมเป็นไงบ้าง ? เลนส์หมดกล่องแล้วยังไม่ดีขึ้นเลย เห้อ T T ต้องวัดแบบเครื่องคอมพิวเตอร์น่าจะแม่นยำกว่า) ตัดทีไรได้แว่นมาใส่แล้วพื้นก็สูงกว่าปกติ มึนหัวด้วย พักสายตามาใส่ใหม่ก็เป็น แต่ด้วยสายตาสั้นมา 15 กว่าปีแล้วและสั้นมากๆ + สายตาเอียง แต่เด็กยังทำได้อยู่รึเปล่า ? ถ้าจะทำในอนาคตคงต้องฝึกนิสัยหยอดน้ำตาเทียมก่อนแน่ๆ จากคุณ : ifattO เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 16:58:08

ความคิดเห็นที่ 19 อีกอย่างที่เป็นเหมือน จขกท. คือไม่ชอบใส่แว่นมีอะไรมาอยู่บนหน้า ใส่แล้วเสียบุคลิกไปเลย ใส่แต่คอนแทคเลนส์ จากคุณ : ifattO เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 17:00:20

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบคุณ ifattO รอเรียนจบ ทำงานเก็บเงิน แล้วค่อยทำก็ดีนะครับ อายุเกิน 20 ปีแล้ว สายตาจะได้คงทีนะครับ ปกติที่ๆเค้ารับทำเลสิคทุกที่จะตรวจละเอียดมาก 2-3 ชม ได้ เค้าจะวัดสายตาก่อน และหลังขยายม่านตา หลังหยอดยาขยายม่านตาแล้ววัดสายตาจะค่อนข้างเที่ยงตรงมาก เพราะเราจะหรี่รูม่านตาไม่ได้ หดกล้ามเนื้อรอบเลนส์ตาเพือเพ่งไม่ได้ ปล. ผมอ่ะ นอกจากไม่ชอบใส่แว่นแล้วยังแพ้คอนแทคเลนส์อีก ใส่แล้วจะหนังตาบวม เคืองตาตาแดง ตอนหลังมาใส่แบบ one day ดีขึ้นมาหน่อย พอนานๆเข้าก็แพ้เหมือนเดิม จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 17:16:10

ความคิดเห็นที่ 21 ผอมลงนิ จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 00:16:37

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณที่มาแชร์ข้อมูลนะคะ มีประโยชน์มากเลยค่ะ เราเองก็สนใจอยู่ :) จากคุณ : เขียนบน iPhone (ม้วนต้วน) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 09:39:08

ความคิดเห็นที่ 23 ขอหลังไมค์ ราคากับที่ทำหน่อยได้มั้ยครับ สนใจมาก ขอบคุณครับ จากคุณ : DeMoN06 เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 10:12:59

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ วี คห 21 ผอมลง นี่หมายถึงผมเหรอ? เคยเจอกันมาก่อนเหรอครับ :) งง คห 22, 23 หลังไมค์แล้วนะครับ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 55 10:35:59 จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 10:18:38

ความคิดเห็นที่ 25 ขอทราบราคาหลังไมค์หน่อยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : S. KITTIPORN เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 14:17:33

ความคิดเห็นที่ 26 คห25 หลังไมค์แล้วครับ จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 14:24:09

ความคิดเห็นที่ 27 ขอทราบราคาหลังไมค์ด้วยคนครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Vipob32266 เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 20:08:07

ความคิดเห็นที่ 28 ขอทราบราคาและสถานที่ทำบ้างได้มั้ยคะ คิดมานานแล้วว่าอยากทำ เราสั้นตั้ง 700 T T จากคุณ : แอบมองเธออยู่ห่างๆ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 20:12:10

ความคิดเห็นที่ 29 คห27,28 หลังไมค์แล้วนะคร้าบ ศึกษาหลายๆที่ก่อนนะครับ จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 20:43:11

ความคิดเห็นที่ 30 เราเป็นคนหนึ่งที่ทำเลสิก หลายปีมาแล้ว2ข้าง 62000 บาท ซึ่งตอนนั้นถือว่าแพงมากสาเหตุที่ทำตอนนั้นเพราะไม่อยากตาโบ๋เพราะใส่แว่น ทำความเข้าใจทุกอย่างก่อนทำ ตอนนี้อายุหลัก4 สายตาเริ่มมีปัญหาอีกครั้ง เริ่มกลับมาใส่แว่นอีกรอบครับ จากคุณ : nai-royin เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 21:10:10

ความคิดเห็นที่ 31 พอคนเราแก่ตัว ก็อาจจะต้องกลับไปใส่แว่นอ่านหนังสือนะครับ เรียกว่า สายตายาวคนแก่ (presbyopia) ไม่เหมือนกับสายตายาวในเด็ก (hyperopia) สายตายาวในเด็กเกิดจาก แสงผ่านเลนส์ตาเข้ามาแล้วไฟกัสตกกระทบไม่พอดีกับจอประสาทตา (ตกไกลออกไป) สายตายาวคนแก่ เกิดจากเลนส์ตาไม่ยืดหยุ่น กล้ามเนื้อรอบเลนส์ล้า ทำให้สูญเสียการมองใกล้ (เสีย accommodation) อันนี้คือ อธิบายคร่าวๆๆๆนะครับ ความแก่ ในที่สุดเราก็คงหนีไม่พ้นครับ :) ไหนจะโรคต้อกระจกอีก ที่เกิดจากเลนส์ตาขุ่นมัวตามกาลเวลา แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 00:39:02 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 00:38:22 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 00:37:53 จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 00:37:38

ความคิดเห็นที่ 32 เพิ่งทำ Lasik น่าจะระยะเวลาไล่เลี่ยกับเจ้าของกระทู้คะ พบคุณหมอ 1 เดือน ต่อไปพบ 3 เดือนคะ โดยรวมพอใจมากคะ ปัญหาที่พบคือตาแห้งมากต้องหยอดตาบ่อยๆ  และอาการแพ้แสงมากทำให้ตาล้า กลางวันสู้แสงไม่ได้ ซึ่งก่อนทำมีอาการแพ้แสงอยู่แล้ว (เนื่องจากทำงานด้านคอมฯ)  แต่จะใช้แว่นตาตัดแสงจึงไม่รู้สึก...  ปัญหาการแพ้แสงอาจต้องกลับไปใช้แว่นตัดแสงช่วย เรื่องนี้แค่อยากบอกเล่าน่ะคะ จากคุณ : PaPLoy เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 10:15:25

ความคิดเห็นที่ 33 ขอทราบราคาบ้างครับ จากคุณ : okay-phon เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 11:52:35

ความคิดเห็นที่ 34 ใช่แล้วครับ ผมก็ตาแห้งมาก ตอนนี้ครบ 1เดือน เริ่มดีขึ้นบ้าง ระหว่างวันไม่แห้งมากละ แต่จะแห้งช่วงตื่นนอนใหม่ๆ ตอนนี้คุณหมอให้ใช้น้ำตาเทียมแบบเจล ก่อนนอนด้วย ขอบคุณท่านอื่นๆที่มาช่วยแชร์ประสบการณ์นะครับ เพราะแต่ละคนก็มีอาการข้างเคียงไม่เท่ากัน ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน :) จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 12:18:23

ความคิดเห็นที่ 35 ค่าเทอม ม.กรุงเทพก็ 45000+ แล้ว ได้ยิงเลสิคเทอมละข้างน่าจะดีเลยทีเดียว เลิกเรียนๆๆ 555 จากคุณ : ifattO เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 13:57:34

ความคิดเห็นที่ 36 555 เรียนก่อนสิครับ พอมีความรู้ แล้วจะได้เอาไปใช้หาตังค์ อิอิ :) จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 14:12:04

ความคิดเห็นที่ 37 ปกติ ไม่เคยพิมพ์ถาม-ตอบในเวปพันทิปเลยครับ งวดนี้ขอซะหน่อย จขกท พอจะทราบไหมครับว่าตอนนี้ที่ไหนอุปกรณ์ดีที่สุด แล้วทำแบบไหน (ชื่อวิธีทำ)ผลข้างเคียงน้อยที่สุดครับ พอดีว่ามี Plan จะไปทำเร็วๆนี้ (ขอชื่อที่ จขกท ทำแล้วก็ชื่อหมอด้วยครับ) ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : Kit เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 16:08:08 A:58.64.111.33 X: TicketID:383595

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ Kit ขอหลังไมค์ได้ไหมครับ ผมกลัวผิดกฎพันทิป เพราะมันจะเหมือนโฆษณา ส่วนตัวคิดว่าแบบ ReLEx ตอนนี้น่าจะดีที่สุด เพราะใช้เลเซอร์ทุกขั้นตอนและแผลเล็ก แต่ทั้งนี้ผลข้างเคียงมันแล้วคนนะครับ ต้องลองปรึกษาหมอดูก่อนครับ :) จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 00:40:23

ความคิดเห็นที่ 39 ขออภัย ไม่ทราบจริงๆว่า บัตรผ่านหลังไมค์ไม่ได้ ตอนนี้สมัครมาเองแล้วครับ - - (มือใหม่จริงๆครับ) จากคุณ : Caffeine-Machine เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 21:11:02

ความคิดเห็นที่ 40 :) ตอบหลังไมค์นะครับ จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 13:32:38