ความคิดเห็นที่ 1 ข้อเสนอแนะ - มันก็ต้องจัดสรรงบเพิ่มแหละครับ จนท.เค้าก็ต้องกินต้องใช้ จะให้มาทำงานฟรีๆคงได้บ้างแต่ไม่พอหรอก แนวทางที่จะให้ได้เลือดมากขึ้น 1. เพิ่ม จนท. เพิ่มถุง เพิ่มเตียง อย่าให้คนเหลือแต่รับบริจาคไม่ได้เพราะอุปกรณ์ไม่พอ 2. ต้องเพิ่มจุดบริจาคโลหิต และเป็นแบบรับบริจาคทุกวัน เช้ายันค่ำ จะหวังให้คนบริจาคไปให้ตรงวันนัดทุกครั้งคงยาก บางคืนนอนดึกไป งานเยอะ ดูบอล ฯลฯ ถ้าคิดไม่ออกก็เอา รพ.ใกล้ๆสถานีรถไฟฟ้าแหละครับ เช่น รพ.ราชวิถี จัดห้องบริจาคให้ติดสถานีรถไฟฟ้าเลย ทำป้ายประชาสัมพันธ์มีลูกศรชี้ทางเดินให้ชัดเจน 3. บนสถานีรถไฟฟ้าใหญ่ๆ เช่นสยาม ก็ขอสถานที่ วางเก้าอี้นอนสัก 2-3 ตัว แค่นี้ก็รับบริจาคได้แล้ว เช้ายันเย็นไปเลย 4. ตามศูนย์การค้าใหญ่ๆ ควรมีทุกแห่ง ชั้นไหนก็ได้ คนที่อยากบริจาคเค้ายินดีเสมอ ชั้นที่ 20 ก็ได้ 5. ช่วยๆกันคิดครับ น่าจะมีอีกหลายทาง จากคุณ : ss2498 เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 22:41:35

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องหนึ่งที่เห็นด้วย คือ เรื่องมารยาทของ จนท. ที่มีต่อ ผู้บริจาคนะคะ เคยเจอหลายครั้ง แต่ที่รู้สึกเสียความรู้สึกมากๆ เลย มีครั้งเดียว แต่จำนาน เพราะเป็นคนความจำดี ไปบริจาคที่หน่วยเคลื่อนที่ วันนิมมานรดี คือไม่ทราบล่วงหน้า แวะไปซื้อของที่โลตัสเห็นมีป้ายบอกก็ คิดว่าเราแข็งแรงดี แวะมาบริจาค หลังจากไม่ได้บริจาคมานาน ไปตรวจความดัน เจาะความเข้มข้น ก็OKดี จนท.คนแรกมีอายุหน่อยถามว่าเอาบัตรมาไหม เราก็เล่าให้ฟังว่าไม่ไ้ด้เตรียมตัวมาเพิ่งทราบข่าวก็เลยมา ก็OKให้ไปรอที่เตียง จนท.หญิงอีกคนมาถาม ชื่อถามบัตร เราก็บอกเหมือนคนแรก กลับกระแทกถุงใส่ข้างเตียง แล้วบอกว่าไม่เชื่อถ้าคุณโกหกจะรู้ได้ไง เราก็ชักฉุน บอกงั้นไม่เป็นไร จะลุกขึ้น เธอก็บอกว่า งั้นรับครั้งนี้ครั้งเดียวนะ งวดหน้าถ้าไม่เอาบัตรมาไม่รับ ไม่รอคำตอบจากเราด้วย กระชากแขนรัดยาง แล้วแทงเข็ม เจ็บมาก โกรธมากด้วย  กะจะเรียกให้มาเอาเข็มออกเลย เสียความรู้สึกมาก  เป็นการบริจาคที่นอกจากไม่รู้สึกอิ่มใจแล้ว ใจยังร้อนเป็นไฟ หลังจากนั้นมี จม.มาสอบถามความคิดเห็น เราเขียนตอบไปเลย 2 หน้ากระดาษ บอกเวลา สถานที่ ลักษณะจนท.ไปพร้อม แต่พอปิดซองมาคิดอีกที ช่างเถอะ เราตั้งใจบริจาคไปช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ส่วนเธอคนนั้นเราอโหสิ แต่เชื่อว่าโลกมันกลม เราเจอเธออีกที่เสาวภา แต่กิริยายังกับคนละคน เพราะอยู่ต่อหน้าเพื่อนรวมงานที่อาวุโสกว่าหรือเปล่า แต่มันดูไม่จริงใจ หรือเรามีอคติไม่รู้ บ่นเยอะ เพราะเก็บกดคะ จากคุณ : บุปผาหน้าฝน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 23:09:20

ความคิดเห็นที่ 3 เป๊ะๆเลย วันนี้นี่แหละ ที่โรงงานมีรถมารับบริจาค ถุงไม่พอเหมือนกัน แต่จนท.บอกจากประวัติเห็นทุกทีมากันประมาณ 300 คน เลยเตรียมถุงมา 400 พอดีเขาย้ายออฟฟิศใหญ่มารวมกันที่สำนักงานใหม่น่ะ คนบริจาคเลยราวๆ 700 คน (^ ^)" (แต่ป้าหัวหน้าทีมเขาก็บอกฝ่ายบุคคลว่ารอบหน้าจะจัดรถให้สองคันกะถุงเลือดเพิ่มนะ) จากคุณ : กาแฟป๋องเขียว เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 23:15:26

ความคิดเห็นที่ 4 เนื่องจากช่วงนี้มีประชาสัมพันธ์เรื่องเลือดขาด คนก็เลยช่วยบริจาคเยอะ จนท.ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ เลยรับมือไม่ทันหรือเปล่า เรามองอีกมุมนะ จากคุณ : Khunnootom เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 23:59:56

ความคิดเห็นที่ 5 อาจจะมีเยอะที่เป็นเลือดเสียและเอาไปใช้งานไม่ได้ค่ะ จากคุณ : นางพญาระเริงไฟ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 00:23:28

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อก่อนก็มีช่วงนึงที่ประกาศว่าเลือดขาดแคลน เรียกร้องให้มาบริจาคเลือดกัน พอผมไปถึงตอนบ่ายกว่าๆปรากฏว่าถุงเลือดหมดแล้ว คนตามมาบริจาคอีกเพียบ แล้วเค้าจะถ่อมาทำไมกันเนี่ย ถ้าเป็นวันธรรมดาปกติเนี่ย จะไม่ว่าเลย แต่ในเมื่อออกข่าวว่าต้องการเลือด คุณก็ต้องเตรียมอุปกรณ์มาเผื่อให้มากๆสิ จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 01:33:33

ความคิดเห็นที่ 7 คิดเหมือน คห.4 แต่การบริการที่ไม่ดีก็เป็นไปได้เพราะเจ้าหน้าที่ก็เป็นคนทำงานเหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ อาจมีเหนื่อยบ้างหงุดหงิดบ้างหลุดออกมาก็คิดซะว่าเป็นธรรมดาของมนุษย์ เรามาบริจาคเพื่อผู้คน ก็มองข้าม ๆ มนุษย์หน้าหงิกคนนั้นไปดีกว่านะ จากคุณ : มดคันไฟไร้ระเบียบ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 01:34:19

ความคิดเห็นที่ 8 การบริจาคเลือดตามกระแสผมว่าน่าจะช่วยสถานการณ์ขาดแคลนเลือดได้แค่ส่วนหนึ่ง เพราะความต้องการใช้เลือดมีอยู่ทุกวัน น่าจะขยับจากการรณรงค์ให้บริจาคเลือดในภาวะเลือดขาดแคลนมาเป็นการสร้างผู้บริจาคประจำให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นน่าจะช่วยแก้ปัญหาได้มากขึ้นนะ จากคุณ : มดคันไฟไร้ระเบียบ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 01:42:02

ความคิดเห็นที่ 9 เราว่าเค้าทำงานแบบราชการนะ จนท เรารู้สึกว่า เค้ามองผู้บริจาคว่ามาให้เพื่อหวังผล เช่น 10 ครั้งได้พระ 20 ครั้งได้เลือดก่อนคนอื่น อะำไรทำนองนั้น เราจำเรื่องผลประโยชน์ไม่ได้ชัดเจน แต่จากการบริจาคมานานทำให้คิดเช่นนั้น รู้สึกได้ชัดเจน จนท แทบทุกคนคิดแบบนั้น ทำให้หลายคนได้รับ ปสก ทีไม่ดีเวลาไปบริจาค คนที่ไ้ด้รับเลือดก็เช่นกัน เขาก็ทวงบุญคุณประมาณนึงที่เดียว อันนี้จากที่ประสบมาเอง เขาไม่ได้มองว่าคนมาบริจาคมีบุญคุณกับเขา ก็จริง เขาไม่ได้ใช้เองหนิ เราว่าอันแรกที่ต้องเปลี่ยนเลยคือทัศนคติ ว่าเขามีหน้าที่อันนี้ ถ้าเลือดไม่พอ เขาต้องหา คนที่มาบริจาค มีบุญคุณอย่างน้อยก็ทำให้เขาทำงานของเขาสำเร็จ ให้บริการด้วยดี รวดเร็ว ไม่ใช่เอากาชาดเป็น ศก ของจักวาลอย่างทุกวันนี้ ถ้าเขาทำให้การบริจาคเป็นเรื่องง่าย สะดวก รวดเร็ว เขาจะไ้ด้เลือดมากกว่านี้ ไม่ต้องมีสิทธิประโยชน์ตอบแทนหรอก จากคุณ : เคยอย่างน้อยก็ 50 ครั้ง เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 05:05:27 A:58.9.32.218 X: TicketID:278621

ความคิดเห็นที่ 10 ผมคิดว่า การบริจาคโลหิต ต้องเป็นการบริจาคทั้งเลือด เวลา และกำลังทรัพย์ของผู้บริจาคครับ แน่นอนว่า หลาย ๆ คนคงไม่สะดวกหาเวลาไปบริจาคประจำที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถ.อังรีดูนังค์ ได้เป็นประจำ อย่างผมเอง ครั้งล่าสุด ก็ต้องเลื่อนจากวันครบกำหนดมาเกือบ 1 เดือน เพราะว่าตั้งใจที่จะไปบริจาคที่ศูนย์เท่านั้น ตอนเรียนมหาวิทยาลัยผมรู้เวลาก่อนรับบริจาคเป็นเดือน ๆ แต่ก็ไม่เคยใช้บริการ เพราะรู้ดีว่าควรกลับไปบริจาคที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดบ้านเกิดตัวเอง ในช่วงปิดภาคเรียน (เรียนปีละสามเทอม) จะสะดวกต่อระบบการบันทึกข้อมูลมากกว่า ผมเคยบริจาคที่หน่วยกาชาดบางแค 2 ครั้ง รถเคลื่อนที่สนามหลวง 2 ครั้ง ห้างอื่น ๆ 1 ครั้ง นี่ก็ยังรู้สึกผิดจนวันนี้เลยว่า "ตอนนั้นจะไปบริจาคที่อื่นให้มันยุ่งยากระบบเขาทำไม" สำหรับผู้ชาย ประโยชน์ที่ได้จากการบริจาคอย่างหนึ่งก็คือ ได้ถ่ายเทเลือดเสียบางส่วนออกจากร่างกาย ซึ่งผลพลอยได้จากการบริจาคเลือดจึงเป็นการรักษาและดูแลสุขภาพไปในตัว บริจาคแต่ละครั้ง ได้ทั้งการตรวจสุขภาพย่อย ๆ, ไม่ต้องจ่ายค่ารักษา แถมได้ความสุขใจเวลาเห็นคนอื่นมาบริจาคกันเยอะ ๆ คิดได้แค่นี้ผมก็ว่ามันคุ้มค่าเดินทางและเวลาแล้วครับ จากคุณ : TumProfess เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 06:04:12

ความคิดเห็นที่ 11 ของเราไปบริจาคที่โรงพยาบาลเอง เลือกช่วงที่คนไม่เยอะ บริจาคเสร็จนั่งกินไข่ต้ม ขนม โอวัลตินเย็น อ่านหนังสือพิมพ์ สบายใจ บางช่วงมีโปรโมชั่น บริจาคครบ 3 ครั้งใน 1 ปี แจกเสื้อด้วย ^O^ มองว่าช่วงนี้ เตรียมเลือด ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ งานเค้าเลยยุ่งมั้งคะ ใจเย็นๆ นะคะ อุตส่าห์ตั้งใจแล้ว ของเราค่อยบริจาคอีกทีช่วงก่อนสงกรานต์ . แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 55 06:23:08 จากคุณ : moonface เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 06:18:18

ความคิดเห็นที่ 12 เจ้าหน้าที่รับบริจาคออกหน่วย   ส่วนมาก เฉพาะคนที่จิ้มเข็มถึงจะเป็นเจ้าหน้าที่รับเงินเดือนนะคะ ตั้งแต่บันทึกประวัติ หมอที่มาตรวจจะเป็นอาสาสมัคร รวมไปถึงคนเชียร์ข้างเตียงด้วย (ตำแหน่งนี้บางทีต้องช่วยถ่ายรูปให้อัพFB IG) เราเองก็ไปเป็นอาสาสมัครรับบริจาคเลือดอยู่หลายครั้งค่ะ คือควักตังค์ค่าน้ำมันขับรถไปเอง  ข้าวปลาหากินเอง  แล้วก็กลับบ้านเอง เพราะเรากินยาหลายอย่าง  บริจาคเลือดไม่ได้  ก็เลยตั้งใจอาสาแทน บางครั้งคนมาบริจาคก็มากันแรงๆค่ะ ยิ่งบางคนเกิน ๕๐ครั้งแล้วเนี่ย  เราพูดอะไรนิดเป็นผิด   เค้าถือว่าเค้ามีบุญคุณ  เค้าได้เข้าเฝ้านะ  บลา บลา บางคนก็คิดซะว่าเป็นการตรวจเลือดฟรีๆ ประหยัดดี แฟนเก่าเรายังใช้การบริจาคเลือดแก้กลัวเลือดเลยค่ะ คือปกติเค้าเห็นเลือดแล้วเป็นลม  ก็เลยหัดไปบริจาค พอตอนนี้ไม่กลัวเลือดละ  ก็ไม่ไปบริจาคอีกเลย อาสาเองก็เหนื่อยนะคะ ปกติออกหันอาทิตย์ละหน ๒ หน ตอนนี้ออกหน่วยกันแทบทุกวัน พอออกหน่วยถี่ๆ  คนมาช่วยกันต่อครั้งก็น้อยลงค่ะ ทั้งอาสา ทั้งเจ้าหน้าที่ก็อาจจะไม่ค่อยน่ารักเพราะเหนื่อยเหมือนกัน บางทีข้าวปลาน้ำท่าก็ไม่ได้กิน  เพราะคนมาเยอะ  แว่บไม่ได้ ขอความเห็นใจด้วยค่ะ จากคุณ : na na' เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 06:27:29

ความคิดเห็นที่ 13 อีกด้านหนึ่งที่ ไม่ใช่คนสา'สุขไม่รู้ ความต้องการเลือดต้องการตลอดทั้งปี ต้องการสม่ำเสมอ ต้องการมากเป็นช่วงๆในเทศกาล การไม่พอใช้ส่งผลต่อ คนไข้   แต่ถ้าช่วงที่มีการบริจาคมากๆในวันสำคัญ ใช้ไม่ทัน  เสียทิ้ง สิ้นเปลืองงบประมาณ   โรงพยาบาลต้องการคนที่บริจาคสม่ำเสมอ เลือดจะนำไปใช้ได้มากกว่า   สำหรับผม ใคร ไปบริจาคเพื่อตรวจเอดส์  ขอให้ได้รับ ผลกรรมนั้น มันเพิ่มคสามเสี่ยง แก่ผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น จากคุณ : life saver เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 06:36:54

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ nana ทำไมต้องแขวะเราด้วย 50 ครั้งแล้วเยอะ เราไม่เึคยเข้าเฝ้า ไม่ได้ถือเป็นบุญคุณ ไม่เคยรับของชำร่วยใดๆ ไม่เคยถือว่าเป็นการเช็คสุขภาพฟรี เราระวังทุกครั้งที่ไปบริจาค ว่าเราดีพอหรือไม่ กินยาหรืออะไรหรือเปล่า เราเกรงว่าจะทำให้คนที่รับมีปัญหา หรือเสียถุงและอุปกรณ์ฟรี แต่เราว่าสิ่งที่เราพูด สะท้อนออกมาในความเห็นคุณนั่นแหละ อย่างที่บอก ควรเปลี่ยนทัศนคติก่อน เลือดอาจใหลมาเทมา เราให้ด้วยใจ แต่ในความเห็นเรา เห็นว่าคนไม่ค่อยไปบริจาค ทำกันไม่สม่ำเสมอ เราก็เลยเสนอแนะ ตามที่ จขกท ถามมา ว่าทำไม คนไปบริจาคไม่สม่ำเสมอ ก็เพราะไปเสมอไง เลยรู้สึกแบบนั้น ไป 2-3 ครั้งไม่รู้สึกหรอก จากคุณ : 789 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 06:47:56 A:58.11.170.175 X: TicketID:278621

ความคิดเห็นที่ 15 อ้อ ลืมไป พวกไปออกหน่วยหลายๆครั้ง ก็เยอะเหมือนกัน ไปน้อยลงบ้างก็ได้นะ จากคุณ : 789 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 06:50:31 A:58.11.170.175 X: TicketID:278621

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าข่าวออกไปคนเลยไปบริจาคกันเยอะ สภากาชาดอาจคิดไม่ถึงว่าคนจะเยอะขนาดนี้ การเตรียมการเลยผิดพลาดบ้าง อย่าให้เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ทำให้ไม่อยากบริจาคเลยครับ จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 08:10:34

ความคิดเห็นที่ 17 ที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย กาชาดจะมารับบริจาคออกบ่อย แต่เป็นวันอังคาร ทำให้ผมไม่ได้ออกไปบริจาคให้ อย่างต่อเนื่อง (ทั้งที่เคยบริจาคมาร่วม สิบกว่าครั้ง) เคยถามเขาว่า น่าจะมารับวัน เสาร์-อาทิตย์บ้างนะครับ จนท. ก็บอกว่า ข้าราชการก็คน (หยุด เสาร์-อาทิตย์เหมือนกัน) แน้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูผิดเองไม่น่าถามเลย จากคุณ : ละอ่อนเจียงฮาย เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 08:56:54

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องมีการไปตั้งจุดรับแล้วถุงเลือดไม่พอ ตรงนี้ผมก็เคยเจอครับ แต่คิดในแง่ดี ทางเจ้าหน้าที่คงประเมินนะครับว่า ตัวกล่องที่จะเก็บถุงเลือดมีเท่าไหร่ สามารถเก็บเลือดได้กี่ถุง ถ้ามากกว่านั้นเสียหาย ก็ไม่คุ้ม เค้าก็ต้องจัดให้พอดี และอย่างที่คุณ paramedian อย่าเอาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาทำให้เราเสียความรู้สึกในการบริจาคเลยครับ สำหรับตัวผม จะไปบริจาคที่สภากาชาดไทยครับ จากคุณ : I^^ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 09:34:46

ความคิดเห็นที่ 19 ก่อนอื่นขอยอมรับว่า เริ่มบริจาคเพราะอยากได้ของ(เข็มกลัด)เอามาสะสม เพราะเห็นว่าน่าสนใจ (แต่ดันทำเข็มบริจาค ครั้งที่1หายไปไหนแล้วไม่รู้) แต่หลังจากที่บริจาคไปหลายๆครั้งก็เริ่มเฉยๆ (ตอนนี้ก็24ครั้งล่ะ) จากคุณ : slamer เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 10:10:35

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่เห็นด้วยกับท่าน #10 ที่ว่า "ตอนนั้นจะไปบริจาคที่อื่นให้มันยุ่งยากระบบเขาทำไม" ถ้าคนรับ และคนบริจาค ต้องการให้เป็น ที่เก่า เวลาเดิม ทุกครั้งไป มันจะทำให้เลือดไม่พอแบบนี้ละครับ เมื่อก่อนผมไปให้ประจำที่วัดมะขาม เขามาทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน มีนา,มิย,กย,ธค แต่บางทีคืนวันเสาร์มีบอลที่ผมอยากดูมากๆ เลยนอนดึก ตื่นมาก็ให้ไม่ได้ ก็เลยต้องเว้นไปอีก 3 เดือน ระบบที่ดีต้องยืดหยุ่นครับ เลือดของคนไทย บริจาคที่ไหนก็ได้ และเอาไปใช้ที่ไหนก็ได้ ผมถึงมาเสนอแนวทางให้เพิ่มจุดรับ ประเภท รับทุกวัน เช้ายันค่ำ จากคุณ : ss2498 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 11:12:08

ความคิดเห็นที่ 21 #12 ผมถึงได้บอกว่า ต้องเพิ่มงบไงครับ คนอาสาสมัครก็ควรได้รับความสะดวกในระดับหนึ่ง ต้องมีอาหารเลี้ยง อ้อ คนมาบริจาคมีหลายรูปแบบ บางคนต้องการทำบุญ บางคนอยากได้เหรียญ บางคนอยากเข้าเฝ้า ฯลฯ แล้วคุณจะไปวุ่นวายกับเขาทำไมครับ คุณก็ต้องรับเลือดของทุกคนนั่นแหละ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอแล้ว แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 55 11:19:14 จากคุณ : ss2498 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 11:14:20

ความคิดเห็นที่ 22 #19 เป็นความสุขของเรา เหมือนการสะสมบุญเลยครับ เสียดายแทนท่านด้วยที่เข็มแรกหายไป เมื่อได้ 36 ครั้ง อย่าลืมไปเข้าเฝ้านะครับ (มีเข้าเฝ้า 2 รอบ ตอน 36 กับ 108 ครั้ง) ผมเองก็ได้บ้างไม่ได้บ้างและไม่ได้ตั้งโชว์ เลยไม่รู้ว่าเอาไปซุกไว้ที่ไหนบ้าง แม้แต่เหรียญสุดท้ายเหรียญที่ 108 ครั้ง เคยวางโชว์ไว้ พอเจอน้ำท่วมใหญ่ก็รีบรวบๆเก็บหนีน้ำตอนนี้ยังหาไม่เจอเลย เรื่องเข้าเฝ้านี่ ผมก็ไม่เคยคิดว่าจะไปเลย ตอน 36 ครั้ง ก็ไม่ได้ไป พอมาครั้งที่ 108 นี่แหละ มาคิดได้ว่านี่มันก็เข้าช่วงท้ายๆของการบริจาคแล้ว น่าจะไปรับเหรียญ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้สักหน่อย ไม่ผิดหวังเลยครับ ในงานมีแต่คนใจบุญ หน้าตายิ้มแย้มอิ่มเอิบ พูดจาไพเราะกันทั้งงาน ต้องไปให้ได้นะครับ แนะนำเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : ss2498 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 11:46:17

ความคิดเห็นที่ 23 ขอโทษที่ทำให้คิดว่าวุ่นวายนะคะ แค่แชร์ว่าเวลาไป  อาสาโดนอะไรบ้าง เราไม่ได้ไปวุ่นวายอะไรกะใครหรอกค่ะ เค้าว่าอะไรมาเราก็ยิ้ม  ขอบคุณค่า....ตลอด (เพิ่งเห็นว่าตัวเองไปกระทบ คห ๙ เข้า  อย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะไม่เคยอ่านชื่อคนตอบซะที) เราก็ยังคงไปอาสาเรื่อยๆแหละค่ะ ไปช่วยเชียร์คนใจดีที่มาบริจาคเลือด ^^/ อ้อ  เพิ่มเติมนะคะ น้องผู้หญิงตัวผอมๆอยากบริจาค ก็พยายามกินน้ำมาเยอะๆ ให้ตัวหนักๆ จะได้ชั่งน้ำหนักผ่าน พอเจาะเลือดแล้วเลือดใสหน๋องแหน๋ง  ใช้ไม่ได้อยู่ดี อย่าทำเลยนะคะ จากคุณ : na na' เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 13:04:56

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนตัวอยากบอกว่า   บางทีเจ้าหน้าที่ที่ไปเขาไม่ได้อยากไปนะครับ แต่ส่วนใหญ่โดนบังคับให้ไปโดยไม่มีข้อแม้      เรื่องค่าตอบแทนสำหรับการรับบริจาคเลือดนี่ผมไม่ทราบว่ามีหรือไม่       ต่อให้มีก็ไม่คุ้มสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้เต็มใจไป หลายๆโครงการของระบบราชการ       เจ้านายอยากได้ผลงานก็จะกะเกณฑ์ลูกน้องไปทำ     ตัวเองได้หน้า ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องออกแรง     แค่เสนอหน้าก็ได้เครดิต และส่วนใหญ่โครงการต่างๆ     เป็นการบังคับเกือบทั้งหมด        คนที่ไม่อยากไป คนที่ไม่สะดวกไปก็หลีกเลี่ยงไม่ได้         บางทีต้องควักเงินตัวเองจ้างคนอื่นให้ไปแทน     คนที่เสียสละพร้อมยอมไปน่ะก็มี      แต่คนที่ไม่พร้อม ไม่สมัครใจก็มีแต่ก็โดนบังคับด้วยระบบ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่บางทีเจ้าหน้าที่หน้าไม่ยิ้มแย้ม  ไม่พูดจาไพเราะเสนาะหู      เพราะเขาโดนบังคับให้ไป ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นขอรับ จากคุณ : รู้ใจไม่รู้หน้า เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 15:08:59

ความคิดเห็นที่ 25 อยากให้ใครไปบอกสภากาชาดทีว่ามีปัญหาการบริการแบบนี้ และจะมาบ่นว่าเลือดไม่พอไม่พอ ต้องทำ PDCA เยอะๆ นะครับ คนไทยน่ะใจดีครับ แถมลืมง่าย ท่านผู้บริหารสภากาชาดโปรดนำไปพิจารณา อย่ามัวแต่นั่งบนหอคอยงาช้าง ดูมั่งว่าเจ้าหน้าที่ที่ท่านส่งออกมาบริการประชาชน เขาอยากทำแค่ไหน คนไม่พอจริงหรือเปล่า และส่งผลกับการบริการอย่างไร นะครับนะ จากคุณ : คุณท่าน เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 17:44:24

ความคิดเห็นที่ 26 เคยบริจาคแค่ 2 ครั้ง แล้วก็ไม่ได้บริจาคอีกเลย ไม่ใช่อะไรหรอก ครั้งที่ 2 เจอไวรัสบี ก็เลยบริจาคไม่ได้ตลอดชีวิต T^T จากคุณ : tiennokkeaw เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 19:35:58

ความคิดเห็นที่ 27 เราเพิ่งไปบริจาคเลือดเมื่อวันเสาร์ค่ะ ที่ซีคอนสแควร์ คนเยอะมากกกกกก เราว่าบริการแย่ลงนะ เจาะเจ็บมากกกกกก แขนเขียวเลย ทั้งที่เราเส้นเลือดหาง่ายมาก เข้าใจว่าคนเยอะ รีบ แต่แบบ คุณคะ แขนอิฉัน ไม่ใช่หุ่นตอนเรียนนะคะ จากคุณ : Saranghae.B7* เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 19:51:54

ความคิดเห็นที่ 28 เลือดที่รับบริจาคมาแล้วมีอายุแค่ ๑ เดือนเองนะครับ สิ่งที่ต้องการคือผู้บริจาคประจำต่างหาก ลำพังแค่ผู้บริจาคตามเทศกาลนั้นไม่สามารถใช้ได้ตลอดปีครับ จากคุณ : logarithm เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 20:19:12

ความคิดเห็นที่ 29 ช่วงพักเที่ยง น่าจะสลับกันไปพักก็ได้ เล่นไปพักเที่ยงพร้อมกันอีก จากคุณ : tigerpoll เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 20:47:56

ความคิดเห็นที่ 30 เราเป็นผู้บริจาค เราไม่กังขาใด ๆ ทั้งสิ้น ว่าถุงพอไม่พอ เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างไร หรือปลายทางของเลือดที่อยู่กับผู้ป่วยท่านใด หรือ เลือดไม่ผ่าน ต้องทิ้ง เราไม่กังขาใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเราไปด้วยใจบริสุทธิ์ ที่ต้องการบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือคนเหล่านี้ เท่านั้น ไม่คิดเรื่องยอดการบริจาคด้วย เราไม่เก็บเอามาใส่ใจใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเราไปช่วยเหลือผู้อื่น ต้องการให้ผู้รับโลหิตเรา เขามีความสุข เพื่อต่อชีวิตต่อ เพื่อคนข้างหลังของเขา แค่นี้หล่ะที่เราคิด และเรารู้สึกว่า เรามีประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์แค่ไหน จะบริจาค จิตอาสา อย่าขุ่นเคือง อย่ากังขา เลยดีกว่า ปล่อยให้เป็นไป อันนี้ก็แล้วแต่ระบบจัดการของเขา เราบริจาค เท่านั้น สะดวกใจ ก็มา ไม่สะดวก ก็ไม่ต้องมา ถ้าขุ่นเคืองใจแต่ทีแรก บริจาคไป ใจมันไม่ดี แล้วจิตที่พะวง จะช่วยให้เรื่องดีขึ้นหรือย่ำแย่ลงหรือไม่  ...................... จากคุณ : ULtr@_PerioD (Moonlight-Eclipse) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 21:00:36

ความคิดเห็นที่ 31 #30 ผมก็คิดอย่างนี้แหละ จึงยังให้เลือดมาตลอด แต่มันข้องใจ ที่สภากาชาด มักจะมาออกข่าวอยู่เป็นระยะๆว่าเลือดหมด คนบริจาคน้อยลง ทั้งๆที่คนที่อยากบริจาคยังมีอีกเยอะแยะ แต่ระบบของสภากาชาดนี่แหละที่มันไม่เอื้อให้คนอยากมาบริจาค จากคุณ : ss2498 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 21:36:44

ความคิดเห็นที่ 32 ระบบของกาชาดจะคล้ายๆ ข้าราชการ ทั้งการเลื่อนขั้น เงินบำนาญ ระเบียบการลา และอื่นๆ หลายคนอาจคิดว่ากาชาดรวย ได้ตังบริจาคเยอะ(ข่าวในพระราชสำนักมีบอกบริจาคเพื่อบำรุงสภากาชาดบ่อย) แต่ความจริงคือตอนนี้กาชาดขาดงบประมาณอย่างมาก เงินบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาลของเจ้าหน้าที่กาชาดเคยถูกเสนอให้ตัดเงินออกหลายครั้งแล้วแต่ถูกต่อต้านมาโดยตลอด ตำแหน่งต่างๆ ก็มีการลดตำแหน่งลง ใครเกษียรก็ยุบตำแหน่งทิ้ง เป็นมาหลายปีแล้ว มันไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นในอากาศ ทุกอย่างมันมีต้นทุน อยากให้หลายท่านเข้าใจตรงจุดนี้ ส่วนที่บอกว่าโลหิตไม่เพียงพอนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ยังไม่ถึงกับหมด แต่คลังสำรองไม่มี ซึ่งนั้นคือความเสี่ยง ในทางการบริหารแล้ว ผลิตภัณฑ์เลือดเป็นสิ่งที่ต้องมีสำรองไว้ใช้เสมอ เพราะหากเกิดอุบัติภัย ภัยธรรมชาติ หรือภัยจากเทศกาลประจำปี ความต้องการใช้โลหิตจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เข้าใจทุกท่านว่ามาบริจาคด้วยความตั้งใจ แต่มาเจอระบบแย่ๆ ทำให้หมดศรัทธา แต่อยากบอกว่าโปรดเข้าใจสภากาชาดบ้างว่าเราก็มีข้อจำกัด โอกาสหน้าก็คงมีการเตรียมการรองรับฝูงชนเมื่อมีการประชาสัมพันธ์มากกว่านี้ หากท่านมีข้อสงสัยสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ ช่วงนี้เจ้าหน้าที่อาจดูดุหน่อยเพราะทำงานหนัก ห้องเจาะเลือดช่วงนี้ทำงานกันเป็นโรงงานนรกเลย จากคุณ : megacure (SET50.com) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 22:00:21

ความคิดเห็นที่ 33 ในฐานะบริจาคมา 40 ครั้งแล้ว เข้าเฝ้าก็เข้าแล้ว  จนมา ตปท เลยไม่ได้บริจาค ขอพูดหน่อย ทั้งๆ ที่ผมกลัวเลือด  เห็นเลือดแดงๆ นี่เข่าอ่อนเลย แต่ผมบริจาคเพราะอยากบริจาค  แต่ส่วนนึงก็รู้สึกเหมือนฝากเงินไว้ เหมือนมีหลักประกันชีวิต วันนึงยามเราแก่เฒ่าขึ้นมา มีความต้องการ จะได้ไม่ถูกทอดทิ้ง วันนึงอาจจะเป็นเราหรือคนที่เรารักที่ต้องการเลือด นั่นก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้ไปบริจาค หลังๆ ไปบริจาคไม่ได้ เพราะไปบริจาคทีไรความดันขึ้น เค้าไม่ยอมรับ  กลับบ้านความดันลด ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่คือ เรารู้ว่าเรากำลังทำประโยชน์ให้ผู้อื่น ได้ต่อชีวิตใครซักคน แค่นั้นก็เพียงพอที่จะให้ผมถ่อสังขาร ยอมรถติดไปบริจาคแล้ว เคยบริจาคเกล็ดเลือด แต่เป็นเครื่อปั่นงรุ่นเก่าทำงานช้ามาก จนเลือดที่เข็มแข็งไม่ไหล ต้องเจาะใหม่ วันนั้นโดนไป 5-6 รู  พรุนกันทีเดียว อีกหนนึง เกล็ดเลือดเช่นกัน  พยาบาลเจาะพลาด  เส้นเลือดในแขนแตก แขนดำไปข้างนึงหลายอาทิตย์ ดูน่ากลัวมาก ผมก็ไม่เคยโทษหรือต่อว่าเจ้าหน้าที่นะ และไม่เข็ดด้วย เจ้าหน้าที่จะยิ้มจะดุก็ไม่เป็นไร  เราทำเพื่อคนอื่น อย่าไปคาดหวังอะไรที่เลอเลิศ เค้าทำงานนี้ทุกวัน จะหวังอารมณ์ดีทุกวันคงไม่ได้   ความเคยชินทำให้เค้าปฏิบัติต่อผู้บริจาคแบบคนธรรมดา เราผู้บริจาคก็อย่าไปคิดว่าเรามาทำความดี ต้องได้รับบริการเลิศหรูด้วย เค้าดุมาเรายิ้มตอบ  อย่างผมก็แค่บอกเค้าก่อนทุกครั้งว่าผมใจเสาะ เจาะเบาๆ หน่อยครับ ไม่งั้นผมเป็นลมคุณแบกไม่ไหวนะ เจ้าหน้าที่ดุๆ ก็เห็นเค้าก็ยิ้มออกทุกคน เวลากาชาดเค้าบอกเลือดขาด คนก็มักแห่กันไปบริจาคแต่ช่วงนั้น ถุงเลือดหมดจึงเกิดขึ้นได้ แล้วทำไมไม่เอาถุงเลือดมาให้เยอะๆ  ก็ต้องคิดต่อว่า แล้วถ้ามันมีเยอะๆ มันเก็บได้นานแค่ไหน คิดว่าเค้าน่าจะมียอดไว้แล้ว ว่าวันนึงควรได้เลือดเท่าไหร่  เกินกว่านั้นไปก็ไม่มีประโยชน์ มันเก็บไม่ได้นาน ไม่หมือนเงิน อย่างช่วงสึนามิ คนแห่ไปบริจาคจนกาชาดแทบแตก แต่ผ่านไปแค่ 2 อาทิตย์ผมไปบริจาค  คิวไม่มีแล้ว เห็นด้วยว่ากาชาดก็ต้องปรับปรุง แต่บางทีที่ปรับปรุงไม่ได้ ก็อยากให้เข้าใจว่าเพราะข้อจำกัดมันก็มี ไปตั้งศูนย์บริจาคหลายๆ ที่  ต้นทุนมันไม่ได้มีแต่ค่าสถานที่ ก็อยากให้เข้าใจกัน บ่นกันเสร็จ ก็ไปบริจาคกันต่อไป เอาให้ประจำเลยครับ จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 22:31:12

ความคิดเห็นที่ 34 แล้วตกลงจะมีการปรับปรุงไหม? จากคุณ : ps000000 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 22:35:28

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าขาดงบประมาณมาปรับปรุง ก็น่าจะเปิดบัญชี ประกาศรับบริจาคเงินออกสื่อบ้างนะครับ จากคุณ : moteabc เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 22:53:50

ความคิดเห็นที่ 36 สภากาชาดไม่ได้เรียกเก็บเงินค่าเลือดกับโรงพยาบาลหรือ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน เพราะตอนพ่อผมเข้ารพ. ต้องใช้เลือดหลายถุง ค่าเลือดแพงมากๆ แล้วทำไมถึงอ้างว่าไม่มีงบประมาณได้ งงมากๆ รพ.เอกชนมีกำลังจ่าย ถ้าไม่พอค่าใช้จ่ายก็ขึ้นค่าเลือดก็ได้ จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 00:32:41

ความคิดเห็นที่ 37 ค่าเลือดฟรีนะคะ แต่ค่ากระบวนการตรวจไม่ฟรีค่ะ ต่อถุงก็เกือบจะหลายร้อยแล้ว จากคุณ : นานนุนนอน เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 03:21:02

ความคิดเห็นที่ 38 ต่างประเทศมีรับบริจาคตามปกติ แต่ต้องโทรศัพท์ไปจองเวลาก่อนล่วงหน้า!! ถึงจะได้บริจาค ต้องรอคิวกัน มันถึงจะเป็นระบบ ไม่ต้องไปนั่งรอให้เสียเวลา ถ้าระบบจัดการดี ต่อให้คนมากแค่ไหน มันก็จะเป็นระบบระเบียบ จัดการง่าย ตรวจสอบได้ ยกเว้นรถรับบริจาค จากคุณ : เพลงz เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 05:59:48

ความคิดเห็นที่ 39 ประเด็น จนท ทำงานไปอารมณ์ไม่ดีไป นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ผมว่าไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่เลือดหมดคลัง ประเด็นหลักคือ สภากาชาด ไม่มีระบบจัดการที่ดี พอเลือดหมดก็บ่นออกสื่อ มันดูเหมือนคนไทยไม่เสียสละ ขี้เกียจไม่ยอมไปบริจาค ทั้งๆคนที่อยากบริจาคยังมีอีกเยอะแยะ มันต้องเลิกแนวคิดที่ว่า ทุก 3 เดือน เจอกันที่เก่า เวลาเดิม เพราะมันติดขัดกันได้ เช่น ต้องนอนดึก ติดธุระ ไปสัมนาต่างจังหวัด ฯลฯ เปลี่ยนแนวคิดครับ ต้องตั้งจุดรับบริจาคแบบ รับทุกวัน เช้าจรดค่ำ ดังนั้น เมื่อวานเราให้ไม่ได้ วันนี้เรายังให้ได้ หรือพรุ่งนี้ก็ยังให้ได้ เลิกจุดรับที่สำนักงานใหญ่ไปยังได้เลย คุณต้องไปตั้งรับที่มีคนเยอะๆ ไม่ใช่ให้คนเยอะๆเดินทางไปหาคุณ แนะนำเลยครับ ใกล้ๆเส้นทางรถไฟฟ้านี่แหละเหมาะสุด ตามห้างใหญ่ๆทั่วประเทศ ขอใช้สถานที่เขาฟรีๆได้ไหม ตั้งเก้าอี้นอน 2-3 ตัว ใช้พื้นที่แค่ 10-20 ตารางเมตรก็พอแล้ว จากคุณ : ss2498 เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 07:20:13

ความคิดเห็นที่ 40 ส่วนนึงที่ตอนนี้ถุงขาด คนไม่พอ อาจจะเพราะคนแห่กันไปบริจาคเลือดเพราะข่าวคลังเลือดขาด แต่เราเชื่อว่าฝ่ายรับบริจาคเขาทำสุดความสามารถแล้วหล่ะ ทั้งผู้ให้และผู้รับก็คนอ่านะคะ ถ้าต่างเห็นใจกันทุกอย่างก็คงราบรื่น แต่ในอีกมุมนึง ในฐานะที่เราบริจาคมา 3 ประเทศ ไทย ออสเตรเลีย UK เรารู้สึกว่าทำไมประเทศอื่นถึงไม่ค่อยมีข่าวเลือดขาดแคลนถี่เหมือนบ้านเราเลยนะ ออสเตรเลียนี่ต้องบุ๊ควันบริจาคก่อนถึงจะได้คิว บางทีรอเกือบเดือนถึงจะหาวันลงตัวได้ ส่วนสก็อตแลนด์นี่ เราดูในเว็บ NHS พูดได้เลยว่าเลือดไม่ค่อยจะพร่อง  พอสำหรับ 8-9 วัน++ แทบจะทุกกรุ๊ป แต่ทำไมบ้านเราขาดเลือดตลอดๆ ทั้งๆที่จากประสบการณ์ศูนย์บริจาคเลือดที่สภากาชาดไทย ตรงราชดำริ สามารถ speed การรับบริจาคได้มากที่สุดในสามประเทศ  (เราแทบจะมองว่าเหมือนโรงงานบริจาคเลือดเลยหล่ะ ^^" เจ้าหน้าที่ของบ้านเรา manage ผู้รับบริจาคได้เทพสุดๆ)  ซึ่งแม้อาจจะไม่เป็นเหมือนกันทุกทีรับบริจาคเลือด แต่บ้านเราก็ขาดแคลนเลือดตลอดมาอยู่ดี เราเดาว่า น่าจะเพราะบ้านเราใช้เลือดเยอะค่ะ  เยอะมากกกกกกกกเกินไป  อยู่เมืองไทย ต้องมีเดือนละครั้งหล่ะ ที่เจออุบัติเหตุรถชนจนแทบเป็นเรื่องปกติ   แต่อยู่เมืองอื่น  อืม.....หายากมากๆ  เราอยุ่ UK มาจะสี่เดือน ยังไม่เจอรถชนเลยซักกะคัน ฉะนั้น..เราว่าวิธีแก้ปัญหาการขาดแคลนเลือด อาจจะไม่ใช่การเพิ่มศักยภาพการรับบริจาคเลือดอย่างเดียว ละมั้ง?? อยากได้ข้อมูลเชิงลึกของปริมาณการใช้เลือดของบ้านเราด้วยหล่ะนะ จากคุณ : LittleBuff-studio เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 07:32:30

ความคิดเห็นที่ 41 ทหารโดนทุกสามเดือนนะครับ ผมคนนึงแหล่ะ ซีดหมดแล้วอ่า ไม่พอได้ไง จากคุณ : โลกินะจ๊ะ (โลกินะจ๊ะ) เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 10:26:06

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับหลายๆ ความเห็นนะคะ ขอแลกเปลี่ยนความคิดส่วนตัวเราบ้าง เราคิดเหมือนกับหลายๆ คนในนี้ค่ะว่า ต้องเน้นเรื่องระบบบริหารจัดการของคลังเลือดเอง และรณรงค์เพิ่มจำนวนผู้บริจาคประจำค่ะ โดยเฉพาะผู้บริจาคประจำเนี่ยเราเห็นว่า คนจำนวนไม่น้อยไม่ค่อยปฏิบัติตัวในแบบผู้บริจาคประจำเลยค่ะ (อันนี้เราเห็นจากคนรอบข้างค่ะ เช่น ตั้งใจจะบริจาคพรุ่งนี้ คืนนี้จะนัดดึก แถมพฤติกรรมเรื่องสุขภาพหลายอย่างก็ชวนให้เลือดลอยตลอดๆ) ตัวเราเองกำหนดการบริจาคเลือดเป็นกำหนดการสำคัญของชีวิตค่ะ บันทึกและย้ำกับตัวเองตั้งแต่ก่อนเดือนนั้นจะมา เพื่อไม่วางแผนทำกิจกรรมอะไรที่มันจะส่งผลต่อการบริจาค รักษาสุขภาพเป็นพิเศษเพราะกลัวจะป่วยและต้องกินยาแก้หวัด เรื่องเดียวที่เลี่ยงไม่ได้คือประจำเดือน เราอาจจะโชคดีที่อยู่ใกล้หน่วยรับบริจาคใหญ่คือตึกซีพี ถ้าพลาดนัด ยังมีตึกธนิยะให้ไปในสัปดาห์ถัดไป หรือถ้าพลาดจริงๆ จะไปสภากาชาดฯก็ไม่ยาก แถมพอเป็นหน่วยใหญ่ เจ้าหน้าที่ทุกระดับทุกขั้นตอน บริการประทับใจมากค่ะ ไม่มีอารมณ์เสีย ไม่มีชักสีหน้าหรือน้ำเสียงเลย เค้าทำให้เรารู้สึกว่าเราไปทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดประโยชน์กับคนมากมายค่ะ จากคุณ : Sea Daisy เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 11:50:41

ความคิดเห็นที่ 43 เพื่อนผมเป็นสาวประเภทสองไปบริจาคเขาบอกไม่รับครับ เขาบอกเป็นพวกกลุ่มเสี่ยงเลยไม่เอา... ทั้งๆที่เพื่อนผมบริจาคมาทุกปี ไม่เห็นว่าอะไร จากคุณ : Desolation Angel เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 11:56:19

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่ใช่แค่ งบประมาณไม่พออย่างเดียว กำลังจิตกำลังใจของพนักงานที่ทำงานซ้ำๆๆๆ กันทุกวัน ความเอื่อยเฉื่อย ไม่มีพลังทำ ก็ทำไปเรื่อยๆ ส่วนนี้ก็สำคัญนะครับ จากคุณ : STL เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 12:30:19

ความคิดเห็นที่ 45 ตั้งแต่บริจาคมาเจอเจ้าหน้าที่น่ารักทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ 1 ท่านต้องดูแลเตียงผู้บริจาคอย่างน้อย 3-4 เตียงหมุนเวียนไปไม่ได้หยุด  แต่ก็ยังพูดจาและยิ้มแย้มแจ่มใสดีค่ะ ไม่เคยคิดว่าการบริจาคจะเป็นบุญคุณอะไร คนในครอบครัวเราเคยรับเลือดมา เมื่อมีโอกาสให้ได้ก็ให้ไป ถือว่าอะไรช่วยได้ก็ช่วยๆ กันไปค่ะ แล้วก็ไม่เห็นว่าเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติกับเราเหมือนผู้มีพระคุณด้วย แค่ดูแลตามสมควรตามหน้าที่ก็เพียงพอแล้วค่ะ ส่วนตัวก็พยายามทำร่างกายให้แข็งแรง ทานวิตามินและอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้พอ เมื่อถึงกำหนดให้เลือดจะได้พร้อมบริจาคได้ตามกำหนดค่ะ จากคุณ : นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 14:38:24

ความคิดเห็นที่ 46 ทำไมเลือดขาดจนต้องออกสื่อขอรับบริจาค ทำไมต้องใช้เลือด สาเหตุมีมากมายมีทั้งที่ควบคุมได้และไม่ได้ ถ้าไม่ช่วยกันลดต้นเหตุ ที่ต้องการใช้เลือด อาศัยรอคนมาบริจาคอย่างเดียวอนาคตเท่าไหร่ก็ไม่พอ คหสต. อีกหน่อยใครจะรักษาตัวต้องใช้เลือดคงต้องอาศัยญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ที่กรุ๊ปตรงกับผู้ป่วย จูงมือกันมา เพื่อสำรองเลือด(กรณีต้องใช้เลือด) ฉะนัันทุกคนต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เตรียมพร้อมสละเลือดได้ทุกเวลา จากคุณ : Thai_Am เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 15:14:06

ความคิดเห็นที่ 47 เลือดมันเป็นของที่มีอายุการเก็บสั้น อะครับ  เพราะฉะนั้นการบริจาคก็ต้อง รับไปเรื่อยๆ แบบไม่มีสิ้นสุด แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าช่วงไหนจะได้ใช้มาก ใช้น้อย ถ้ารับมามาก ในช่วงที่ใช้มากก็ดีไป แต่ถ้ารับมามาก แต่ไม่ใช่ช่วงที่ต้องใช้ เลือดก็มีโอกาสหมดอายุได้       คิดซะว่าทำบุญนะครับ อย่าคิดอะไรมากเลย ไปแล้วได้บริจาคก็ดีไป หรือถ้าไปแล้วไม่ได้บริจาค ก็ถือซะว่าเรามีจิตกุศล นั่นก็น่าจะได้บุญแล้ว คิดเล็กคิดน้อย เปลืองสมองเปล่าๆ        อ่อ อีกอย่างหนึ่ง ผมว่า กาชาดน่าจะหาทางที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเสืยเลือดกันมากๆ นะครับ เช่นรณรงค์ลดอุบัติเหตุ หรือชวนกันรักษาสุขภาพ อะไรพวกนี้        ยกตัวอย่าง อย่างพวกเมาแล้วขับองค์กรอื่นเค้าก็จะเน้นประเด็น พิการบ้าง ทำคนอื่นเดือดร้อนบ้าง กาชาดเองก็บอกไปเลย ว่า "ถ้าเมาแล้วขับอาจจะบาดเจ็บสาหัสเราไม่แน่ใจว่ามีเลือดให้คุณพอ เพราะฉะนั้น อย่าเมาแล้วขับกันเลย"  อะไรทำนองเนี่ยะ จากคุณ : b13 (suramatee13) เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 15:33:48

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นด้วยกับ คห.22 ครับ .....ในงานมีแต่คนใจบุญ หน้าตายิ้มแย้มอิ่มเอิบ..... เวลาไปบริจาค ผมมักจะสังเกตคนรอบข้าง แล้วก็มักจะพบว่า 99 ใน 100 หน้าตาอิ่มเอิบ แลดูสุขภาพดี ยังบอกเพื่อนที่ยังโสดอยู่ว่่า มรึงควรจะมาหาแฟนแถวนี้นะ รับรองว่าเป็นคนดี จิตใจดี อย่าไปหาตอนกลางคืน ตามสถานบันเทิงเลย ค่ำมืดมองไม่ชัด จะไปได้พวกกินเลือดเอา 55 จากคุณ : พันละที เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 15:43:03

ความคิดเห็นที่ 49 ขอแชร์ประสบการณ์การบริจาคเลือดครั้งล่าสุดบ้างนะคะ ** อันนี้เป็นประสบการณ์ตั้งแต่ต้นปีนะคะ ** คือเราบริจาคเลือดมาได้สามครั้งแล้ว กับกาชาดของจังหวัดที่ไปทำงานอยู่ (ก่อนหน้านั้นบริจาคไม่ได้ เพราะน้ำหนักน้อย พอไปทำงานน้ำหนักขึ้นถึงเกณฑ์บริจาคได้ เลยบริจาคทุกครั้งที่มีโอกาส) ทีนี่ออกจากงานกลับมาจังหวัดบ้านเกิด วันนั้นเห็นข่าวรับบริจาคเลือด เลยฟิตร่างกาย กินอิ่มนอนหลับเต็มที่เป็นอาทิตย์ พอไปถึง ตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้บริจาค บอกดูแล้วน้ำหนักเราไม่น่าถึง เราเลยยื่นบัตรบริจาคเลือดให้ดู เพื่อยืนยันว่าน้ำหนักตามเกณฑ์ที่บริจาคได้ เคยบริจาคมาหลายครั้งแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ถามกลับว่าเลือดกรุ๊ปอะไร น้ำหนักเท่าไหร่ เราบอกไปว่าหนักห้าสิบ เลือดกรุ๊ปโอ ป้าเค้าก็บอกว่า "โอ๊ย ได้แค่ถุงเล็ก ไม่เอาหรอก มีเยอะแล้ว กรุ๊ปโอจะเอาแต่ถุงใหญ่ ต้องหนัก 55 ขึ้นไป ถุงเล็กเอาไปก็เกะกะ ไปกองแห้งตายอยู่ในตู้เย็นนั่นแหละ ไว้หนัก 55 เมื่อไหร่ค่อยมาบริจาคละกัน" สาบานได้ว่าป้าเจ้าหน้าที่พูดยังงี้จริง ๆ ยืนอึ้ง ๆ เสียใจมากอ่ะ คือเราตั้งใจและมาแต่เช้าเป็นคนแรก ๆ เลย เสียใจสุด ๆ ตรงเลือดไปนอนแห้งตายอยู่ในตู้เย็นนี่แหละ แลดูไร้ค่ามาก ๆ เลย วันถัดมาเห็นที่มหาวิทยาลัย ติดป้ายขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ปโอช่วยผู้ป่วย อีกสองวันถัดมาเห็นมีการแชร์ให้ช่วยกันบริจาคเลือด เพราะขาดแคลน ยังไปถามแฟนอยู่เลยว่า "ตกลงยังไงกันแน่ ..ป้า จนท. บอกเอาไปก็ไม่ได้ใช้" และยังแอบไปบ่นอยู่หน้าเฟสตัวเองอยู่เลย อันนี้อาจจะเป็นความไม่รู้ของเราเองนะคะ คือเราไม่รู้ว่าเลือดถุงใหญ่กับถุงเล็กมันแตกต่างกันยังไง ที่คิดตอนนั้น คือ ก็ถ้าเลือดถุงเล็กมันมีเยอะขนาดนั้น ทำไมไม่เอามาใช้อ่ะ หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่ได้ไปบริจาคเลือดที่ไหนอีกเลย จากคุณ : เปิ้นกับตั๋ว เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 18:28:47

ความคิดเห็นที่ 50 #44 น่าแปลกใจมาก ผมเคยคิดว่าทำงานหน่วยนี้ไม่เครียด ได้พบปะคนใจบุญและคนเสียสละ ผู้บริหารสภากาชาด สมควรทบทวนระบบการทำงานได้แล้วครับ จากคุณ : ss2498 เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 20:49:57

ความคิดเห็นที่ 51 โชคดีจัง ตรงที่เราอยู่ตอนนี้มีแต่จนท.ใจดี (เราบริจาคที่คลังเลือดของมหาวิทยาลัยขอนแก่น) ไปทีไรเจอบรรยากาศยิ้มแย้มเป็นมิตร พูดคุยดีทุกครั้ง ^^ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 21:01:16

ความคิดเห็นที่ 52 คนที่มาบริจาคบางคนก็น่าเบื่อค่ะ คิดว่าตัวเองเป็นผู้มีพระคุณมากนักหรือไง บางคนก็อยากได้เข็มไว้อวดคนอื่น บางคนมาตรวจเลือดฟรี แต่กาชาดก็ต้องปรับปรุงค่ะ ทำงานเช้าชามเย็นชามเป็นข้าราชการแบบนี้ ประเทศถึงไม่เจริญสักที จากคุณ : BIOTOMNEG เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 21:56:01

ความคิดเห็นที่ 53 กับตรรกะความคิดที่ว่าคนที่มาบริจาคบางคนอยากได้เข็มไว้อวดคนอื่น อยากตรวจเลือดฟรี ดูจะไม่เป็นความคิดที่เหมาะสมกับอาชีพพวกคุณเลยนะ ไม่รู้ว่าไปถามคนที่มาบริจาคหรือทึกทักคิดเอาเองด้วยความรำคาญ ถ้ามันเหนื่อยนักก็ไม่ต้องทำหรอก สถานที่ที่ควรจะมีแต่คนดีๆความคิดดีๆกลับมาความคิดบ้าๆแบบนี้ขึ้นมาได้ คนไปบริจาคส่วนใหญ่ก็ต้องไปด้วยใจที่ดีทั้งนั้น ถึงเค้าจะไปปีละครั้งวันเกิดปีใหม่แต่เค้าก็ไปด้วยจิตใจที่ดี ถึงคุณจะบอกว่าเป็นกับผู้บริจาคบางคนก็เถอะ แต่การที่คุณเก็บกดอัดอั้นมาระบายขนาดนี้้ แสดงว่ายังไงความคิดนี้มันก็วนเวียนอยู่ในหัวพวกคุณตลอดเวลานั่นล่ะ ถ้าคิดว่าสักแต่ทำงานไปวันๆแล้วมันเหนื่อยนักก็ออกไปเถอะ ให้คนที่เค้ามีจิตใจดีจริงๆได้ทำ พวกคุณอัดอั้นกันขนาดนี้ เก็บไปมากๆ วันไหนเก็บไม่อยู่หงุดหงิดอารมณ์เสียเดี๋ยวก็ไปลงกับผู้บริจาคคนโน้นทีคนนี้ที แล้วคนที่มาบริจาคคนนั้นเค้าจะรู้สึกยังไง ถึงจะแค่คนๆเดียวแต่ความรู้สึกนั้นก็จะติดไปกับคนนั้นๆไปตลอด ยิ่งกับคนที่นานๆจะมาครั้ง มาโดนพวกคุณแหวใส่เค้าคงไม่มากันอีกหรอก อยากจะมาช่วยเหลือคน แต่โดนปฏิบัติเหมือนมาขอข้าวกินน่ะ จากคุณ : PYA เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 22:38:19 A:58.8.70.229 X: TicketID:308671

ความคิดเห็นที่ 54 ถ้าเลือดฟรีจริง คงต้องไปตรวจสอบรพ.เอกชนแล้วล่ะ ว่าทำไมถึงนำเลือดมาขายต่อแพงๆเอากำไร ทั้งๆที่ได้เลือดมาฟรี ทำให้แทนที่รายได้จะเข้ากาชาดกลับไปเป็นกำไรพวกรพ.เอกชนทั้งหลาย จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 22:40:43

ความคิดเห็นที่ 55 ความคิดเห็นที่ 46 ถามว่าทำไมไม่ช่วยกันลดต้นเหตุที่ต้องการใช้เลือด อาศัยรอคนมาบริจาคอย่างเดียวอนาคตเท่าไหร่ก็ไม่พอ อยากจะถามว่าจะให้ลดที่ต้นเหตุอย่างไร ต่อไปนี้ห้ามทุกคนประสบอุบัติเหตุ เป็นโรค ผ่าตัด เลือดออกหรือ? เลือดเก็บได้ประมาณเดือนนึง และส่วนใหญ่ก็ไม่เหลือถึงวันหมดอายุด้วย คนประสบอุบัติเหตุ เป็นโรค ผ่าตัดกันทุกวัน คุณจะหาวิธีลดต้นเหตุที่ต้องการใช้เลือดยังไง? หรือว่าไม่รู้ว่าเลือดหมดอายุได้ เก็บมาใช้ได้ตลอดการหรือ ความรู้พวกนี้หนังสือวิทยาศาสตร์ประถมก็มี จากคุณ : PYA เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 22:44:56 A:58.8.70.229 X: TicketID:308671

ความคิดเห็นที่ 56 #55 เลิกเหล้า ลดพวกเมาแล้วขับเกิดอุบัติเหตุ ลดพวกเลือดออกจากกระเพาะ แค่นี้ก็เก็บเลือดไว้ช่วยคนที่น่าช่วยได้อีกเยอะ จากคุณ : ปรายภพ เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 23:23:31

ความคิดเห็นที่ 57 มีทั้งเลือดดีและเลือดเสียแหละที่บริจาคไป ส่วนตัวยังไม่เจอกับ เจ้าหน้าที่แบบนั้นน่ะ เพราะเลือกไปสถานที่คนน้อยๆ ไปทีไรสบายตัว ส่วนเลือด อุบัติเหตุมีทุกวันเขาไม่มานั่งบอกข่าวหรอกว่าต้องการเลือดด่วน เท่านั้น เท่านี้ตามสื่อ เพราะไปไม่ได้คาดหวังอะไร ก้เลยให้ไปเพราะเหมือน refresh ตัวเองไปในตัวเท่านั้น จากคุณ : longtime เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 02:25:43

ความคิดเห็นที่ 58 ประเด็นคือ เงิน. ข้ออ้างครับ. งบตรวจเลือด ดองเลือดดูโรค 200 ถุงตรวจวันเดียวไม่เสร็จ คนไม่พอ ของบๆๆๆๆๆเพิ่ม อ่า. ตังอะมีไหม. จริงๆ7เข้ ผู้บริจาคควรบริจาคเงินแนบไปด้วย จากคุณ : via iPhone (Bloodstream) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 04:14:16

ความคิดเห็นที่ 59 กลายเป็นกระทู้ Complain จนท รับบริจาคโลหิตไปซะแล้ว สภากาชาดเค้ารู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ย จากคุณ : ss2498 เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 06:24:37

ความคิดเห็นที่ 60 เคยไปบริจาคเพราะเห็นป้ายประกาศว่าเลือดหมดต้องการเลือดด่วน ขับรถไปตั้งไกล ... ไปถึงเลยเวลาไป 2นาที บอกให้พรุ่งนี้มาใหม่ ... เลยเข้าใจว่าคงไม่ด่วนเท่าไร (แอบอารมณ์เสีย) จากคุณ : VivaFestA เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 10:55:53

ความคิดเห็นที่ 61 ถ้างบไม่พอก็ตั้งโตะรับบริจาคไปเลย บางคนไม่พร้อมให้เลือด ก็ให้เป็นเงินได้ครับ จากคุณ : ongreen เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 12:46:37

ความคิดเห็นที่ 62 แนะนำว่า ให้เปลี่ยนเจ้าหน้าที่ใหม่ และการจัดการทั้งหมด เพราะยังมีอีกหลายคนพร้อม และ ที่ทำได้ดีกว่า จากคุณ : หมูกรอบหวานมัน เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 13:15:35

ความคิดเห็นที่ 63 บริจาคมาสามสิบครั้งถ้วน เมื่อเดือนที่ผ่านมา ไม่มีใครบอกหรอกค่ะว่าเลือดขาดแคลนรึอะไไร แต่ตอนนั้นเรียนมอปลาย พี่ชายไปโรงพยาบาลตำรวจทำบุญ เราก็ถามเฮีย ไม่เบริจาคเลือดบ้างหรอ "กลัวเลือดว่ะ" "โหหหห เข็มกระจิดกลัวไรเฮีย" "ไปบริจาคให้ดูดิ" "ได้ ขับพาหนูไปดิ" ...นี่คือการบริจาคเลือดครั้งแรกของหนูค่ะ กลับบ้านมานอนๆๆๆ 55555 สำออยด้วย ไปซื้อของ ไม่หิ้วอ่ะ พี่เค้าบอกว่าไม่ให้ยกของหนัก 55555 จนตอนนี้สามสิบครั้งแล้ว ทุกสามเดือน ยกเว้นช่วงนึงที่ ป่วยไม่สบาย ก็หยุดไป อาจจะเลทบ้าง ช่วงนี้โดนตามตัวก่อนถึงครบกำหนดสัก3-4วัน เพราะมีเคสฉุกเฉินจริงๆ ซึ่งร่างกายเราก็เตรียมพร้อมแข็งแรงดี เพราะคำท้าจากพี่ชายตัวดีที่ทำให้เราบริจาคเลือดมาตลอด บริจาคครั้งที่สอง คือช่วงTsunamiพอดี ได้รับเสด็จพระเทพ ไม่ถึงเมตรด้วย วันนั้นเปรมเลย ครั้งที่สองนี่แหละที่ทำให้เรารู้ว่า เลือดเราคือ Rh negative จากคุณ : ก็แค่เข็มเล็กๆที่แทงเราเอง ^^ (...ชิปปี้เดล...เดลลี้ชิป) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 13:32:12

ความคิดเห็นที่ 64 เคยเสียความรู้สึกกับสภากาชาดค่ะ พอดีเรามีเลือก  b negative อ่ะค่ะ พอท้องคุณหมอก็บอกแต่เนิ่น ๆ ให้เราลองหาคนที่เลือดเหมือนกันเตรียม ๆ ไว้บ้างเพราะเผื่อเกิดกรณีฉุกเฉินหรือผ่าคลอดแล้วเกิดต้องการเลือดขึ้นมา เราก็หาค่ะพอดีเพื่อนของน้องที่ทำงานมีเลือดกรุ๊ปเดียวกันก็เลยบอกเขาไว้เขาก็เตรียมที่จะบริจาคให้เราตั้งใจเต็มที่ ปกติเขาก็บริจาคทุก 3 เดือนอยู่แล้ว แต่คราวนี้เขาก็งดเพื่อเตรียมไว้ให้เราโดยเฉพาะเลยค่ะ พอถึงสัปดาห์ใกล้คลอดคุณหมอก็บอกให้น้องเขาไปที่สภากาชาดบอกว่าต้องการบริจาคเลือดเพื่อเรา ชื่อ...... คือให้ระบุชื่อ นามสกุล อ่ะค่ะ ตอนวันคลอดจะได้ทำเรื่องขอเบิกไป แต่ถ้าไม่ใช้ก็จะส่งคืน ปรากฎว่าไปถึงเจ้าหน้าที่ที่สภากาชาดบอกว่า ไม่สามารถระบุชื่อผู้รับได้ ถ้าใครเขาต้องการก่อนหน้าเราเขาก็จะให้ไป โหเสียความรู้สึกมาก น้องคนนั้นเขาเลยกลับบ้านไม่บริจาคเลยอ่ะค่ะ เพื่อน ๆ เราเคยไปบริจาคที่โรงพยาบาลศิริราช ระบุชื่อผู้ที่กำลังจะผ่าตัดที่ต้องการเลือดยังได้เลยค่ะ แปลกที่สภากาชาดทำไมระบุไม่ได้ จากคุณ : ส้มโชกุนจ้า เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 13:39:36

ความคิดเห็นที่ 65 หากจะบริจาคระบุตัวผู้รับ คุณก็ต้องบริจาคที่โรงพยาบาลนั้นๆ นะครับ ไม่ใช่ที่สภากาชาด จากคุณ : xxx เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 16:22:48 A:58.8.47.38 X: TicketID:102477

ความคิดเห็นที่ 66 บางที ก็มีหน่วยงานมาเอาเลือดจากเด็กๆในสถาบัน แต่ถ้าจะถามว่าไม่พอจริงหรอ คงจะจริง จากคุณ : Fuya เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 16:31:40

ความคิดเห็นที่ 67 เราไปบริจาคที่เดอะมอลล์บางแค เจอ จนท. ใจดีทุกครั้งเลยค่ะ จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 16:52:02

ความคิดเห็นที่ 68 โอ้ย ไม่ใช่หรอก เรื่องช่อง3 ประกาศจะเอาหน้า รถบริจาคเลือด 4 คัน 80 ล้าน จากครอบครัวข่าว แต่ทำเหมือนเงินตัวเองมากกว่า โปรโมตทุกวัน คิดให้ลึกๆนะ จากคุณ : ptboy เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 17:07:31

ความคิดเห็นที่ 69 อย่าเก็บเรื่องหงุดหงิดเล็กน้อยมาเลยครับ จากคุณ : Godgate เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 19:21:19

ความคิดเห็นที่ 70 ผู้บริจาค อาจไม่ทราบนะคะว่า คุณไม่จำเป็นต้องไปที่ศูนย์ หรือ ตามหน่วย ตามรถที่ไปรับบริจาค เช็ค รพ.รัฐแถว ๆ บ้านคุณก่อนดีไหมคะ ว่าเป็นเครือข่ายของ กาชาดหรือเปล่า ...เข้าไปบริจาคได้เลยค่ะ ที่เราเคยไปบริจาคนะคะ  รพ.รามา / รพ.โรคทรวงอก ( นนทบุรี ) / รพ.พระนั่งเกล้า ( รพ.ศิริราช แต่ไม่รวมกับกาชาด ) ดังนั้น คุณบริจาคได้ทุกเมื่อที่คุณพร้อมค่ะ...เจ้าหน้าที่ประจำ รพ.เหล่านี้ ก็จะบริการดีอยู่แล้วเพราะเป็นงานประจำวัน  ไม่ต้องรอคิวด้วย แทบทุกรพ.มีแผนกรับบริจาคโลหิตอยู่แล้วนะคะ จากคุณ : Serverlus เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 19:52:09

ความคิดเห็นที่ 71 สรย้วย ออกข่าวที ก็แห่กันไป คนที่เขาทำงานก็รองรับไม่ไหว รองไปเดือนหน้าดิ เงียบ ได้คิวแรกเลย จากคุณ : หางแหลม เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 22:33:35

ความคิดเห็นที่ 72 เราไม่บริจาคเลือดประจำเหมือนแต่ก่อน เพราะ ไม่ประทับใจการให้บริการของเจ้าหน้าที่ตามหน่วยบริจาคอย่างแรง  ไม่เหมือนผู้มีจิตอาสาบริการประชาชน เหมือนเรามาขอความกรุณาให้เค้าเอาเลือดเรายังไงก็ไม่รู้   ล่าสุดเดือน ตค ที่พาราไดซ์ปาร์ค  เจ้าหน้าที่เป็นคุณหมอผู้หญิงตรวจความดัน เราเข้าไปสอบถามวันบริจาคเพราะเพิ่งไปบริจาคปลายๆเดือน สิงหา มา  แกก็พูดการนับวันบริจาคเลือดให้ฟัง สี่ ห้า ประโยค เราเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ เท่านั้นแหละถูกแกทำหน้าเบื่อๆ ใส่  แล้วแกก็เชิญไปเราโต๊ะข้างๆค่ะ  ประมาณว่าไม่อยากคุยด้วย เสียเวลาหมออย่างชั้น   ตอนนั้นไม่มีคนต่อคิวแล้วนะคะเพราะเรายืนรอให้คนหมดคิวก่อน ค่อยเข้าไปสอบถาม   เซ็งมาก ขาดจิตอาสาอย่างแรง   กิริยาแบบนี้เก็บไปทำกับคนที่บ้านเถอะ อย่ามาทำเลยจิตอาสา คนตั้งใจมาบริจาคเสียความรู้สึกและเสียความตั้งใจเปล่าๆ   อีกครั้งที่สาขาซีคอน  เจ้าหน้าที่เหวียงๆ    มีประสบการณ์ในการเจาะเลือดหรือเปล่าไม่รู้ แต่เป็นครั้งแรกที่ แขนช้ำเป็นสีม่วงที่สุดในชีวิตการบริจาคเลือดเลย  ช้ำเป็นวงใหญ่ๆน่าเกลียดมากต้องใส่เสื้อแขนยาวประมาณอาทิตย์กว่าจะหาย หลังๆหากผ่านไปสภาค่อยเข้าไปบริจาคค่ะ   ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ตั้งประเด็นนี้ขึ้นมา อยากให้ถึงผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องช่วยปรับปรุงการให้บริการด้วยโดยเฉพาะหน่วยบริจาค แก้ตัวสะกด แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 55 22:54:37 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 55 22:52:49 จากคุณ : kena (kenaz) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 22:34:52

ความคิดเห็นที่ 73 ปกติบริจาคที่ ม.ราม ค่ะ มีรถมาทุกสัปดาห์ ครบ 3 เดือนมี sms แจ้งเตือนทุกอาทิตย์เลย แต่ครั้งแรกๆบริจาคที่เดอะมอลล์บางกะปิ ได้ยา ขนม รูปถ่าย CDเพลง บลาๆๆๆๆๆมาอื้อเลย ปล.ปกติแล้วไม่มีรถไปรับบริจาคตามมหาวิทยาลัยต่างๆเหรอคะ? ถ้ามีแล้วสะดวกที่ไหนก็น่าจะโอเคนะ จากคุณ : TeaTlme เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 22:35:42

ความคิดเห็นที่ 74 เราเป็นคนนึงที่อยากบริจาคเลือดมากๆ ยิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นO Rh- ก็ยิ่งว๊อนท์มาก แต่เราดันเป็น ตับอักเสบบีแต่กำเนิด เสียใจมาตลอดว่าได้แต่รับไม่เคยได้ให้เลย ใครบริจาคได้ร่างกายแข็ง แรงก็ทำเถอะค่ะ อย่าคิดเล็กคิดน้อย ถือว่าสำรองเผื่อตัวเราต้องใช้ขึ้นมาในอนาคต ปล. เราได้แค่เป็นอาสา+บริจาคร่างกาย อิจฉาคนที่บริจาคทุกคนเลย จากคุณ : ต๊องต๊อง กะ บ๊องบ๊อง เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 23:22:07

ความคิดเห็นที่ 75 #73 ม.เกษตรมีครับ แต่มันจะมาวันที่ผมมีเรียนทั้งวัน... จากคุณ : LunaticNeko เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 23:29:35

ความคิดเห็นที่ 76 มารับบริจาคเลือดตามห้างฯ เราชอบนะคะ สะดวกเดินทางสำหรับเรา แต่เวลารับบริจาค 11.30 - 15.30 เราว่าช่วงเวลามันสั้นไป ขยายเวลาหน่อยเหอะค่ะ เพราะบางครั้งไปถึงบ่าย 3 กว่านิดๆ จนท ก็เก็บข้าวของเตรียมกลับกันแล้ว จากคุณ : ท้องฟ้าสีครามยามเย็น เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 00:23:13

ความคิดเห็นที่ 77 รพ.รัฐก็ไปบริจาคกันได้ค่ะ ไม่ต้องไปสภากาชาด เคยไปส่งเพื่อนบริจาคที่รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ (ตัวเราบริจาคไม่ได้) จนท.เค้าก็พูดจาดีมากนะยิ้มแย้มแจ่มใสตลอด แต่...ไปครั้งแรก  หัวใจเต้นถี่เกินไป อาจจะเป็นเพราะตื่นเต้นก็เลยให้ไม่ได้ จนทเค้าก็ยังแนะนำว่า ถ้ามีว่างๆก็ลองไปตรวจสุขภาพดู ครั้งต่อมาก็ไปอีก  แต่น้ำหนักห้าสิบเป๊ะ  แล้วถุงเลือดมันมีแต่ถุงใหญ่ เค้าก็ไม่ให้บริจาคเพราะกลัวจะไม่ไหว เลยรู้สึกว่าการบริจาคเลือดนี่มันยากจัง คนให้ต้องคัดแล้วคัดอีก ดังนั้น ใครบริจาคได้ก็ช่วยบริจาคเถอะค่ะ ถือว่าช่วยชีวิตคน อย่าไปเครียดกับจนท.เลย จากคุณ : MissSamatan เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 00:27:12

ความคิดเห็นที่ 78 อาทิตย์หน้าก็ว่าจะไปบริจาคค่ะ ครบรอบพอดี ทำด้วยใจ อิ่มใจค่ะ ไม่อยากคิดอะไรมาก ^^ จากคุณ : กะทิสีชา เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 00:51:24

ความคิดเห็นที่ 79 เคยจะบริจาคครั้งนึง ก่อนนี้น้ำหนักไม่เคยถึง พอน้ำหนักถึงก็อยากบริจาคบ้าง เจ้าหน้าที่มารับบริจาคที่บริษัท แต่คนเยอะมาก พอไปถึงก็บอกว่าเต็มแล้ว แอบเซ็ง หลังจากนั้นเลยยังไม่ได้บริจาคสักที จากคุณ : EyeContact เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 08:25:44

ความคิดเห็นที่ 80 อยากบริจาคแต่น้ำหนักไม่ถึงค่ะ ตอนนั้นชั่งได้ 44 ทางพยาบาลก็ไม่ยอม เสียดาย แต่ก็ต้องตามกฎค่ะ จากคุณ : chackinthehat เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 12:14:45

ความคิดเห็นที่ 81 เคยไปที่นึง แบบสัญจร บอกจะปิดบ่าย 3 โมง เรารีบไปตอนบ่าย 2 ครึ่ง ใกล้ถึงแล้ว เจอรถบัสที่รับบริจาคกำลังเลี้ยวออกกลับ รพ.   เซ็งเลย อุตส่าห์เดินฝ่าแดดร้อนๆ ออกไป จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 13:20:43

ความคิดเห็นที่ 82 ส่วนมากคนที่บริจาคประจำทุก 3เดือน ก็จะมีสถานที่ประจำอยู่แล้ว แนะนำว่าบริจาคบ่อยครั้งเรื่อยเรื่อย ปัญหาที่กล่าวมาก็จะหมดไป เพราะจะชินหรือรู้วิธีการที่จะไม่เกิดปัญหานี้ อย่าให้ปัญหาทั้งหลายมาทำลายความตั้งใจเราเลยครับ ก่อนบริจาค 2-3วัน เตรียมร่างกายตัวเองให้พร้อม ไปถึงแล้วจะได้ไม่เสียความตั้งใจ จากคุณ : คนบ้าบิต เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 19:03:56

ความคิดเห็นที่ 83 เลือดฟรีนะคะ ไม่คิดเงิน แต่ที่คิดคือค่าอุปกรณ์ ถึงเลือด ค่าดำเนินการอย่างที่บางค.ห.ว่า --------------------------------------------------------------------------------------------- สงสัยว่า ทำไมเราต้องบริจาคที่สภากาชาดหรอคะ เพราะเราไม่เคยบริจาคที่กาชาดเลย เราบริจาคที่รพ.ศิริราชประจำ ครั้งแรกที่บริจาคคือที่ต่างจังหวัด ตอนม.6 เค้ามาประกาศหาเลือดหน้าเสาธง สงสัยว่า เลือดที่เราบริจาคที่อื่นๆที่ไม่ใช่กาชาด เค้าจะบริหารจัดการเลือดเองไหมคะ หรือว่าเลือดทุกถุงต้องส่งให้กาชาดเป็นคนกระจายไปตามรพ.ต่างๆ?? เพราะถ้าไม่ใช่...งั้นก็บริจาคที่ไหนก็บริจาคไปเหอะค่ะ ทุกรพ.มีคนผ่าตัดทุกวัน เว้นเสียแต่ว่า ถ้าไม่ได้บริจาคกับกาชาดจะไม่ได้เข็ม ไม่ได้เฝ้า (อันนี้เราก็เพิ่งรู้นะเนี่ย ก็ว่าอยู่..บริจาคจะสิบครั้งแระ ไม่เห็นได้อะไรกับเค้าบ้าง ปิดทองใต้ฐานพระจริงๆ) ------------------------------------------------------------------------------------------------ อีกเรื่องคือ -ทุกคนที่ไปเข้าคิวไม่ได้หมายความว่าจะได้บริจาคทุกคน (กรณีขาจร แห่ตามๆกันไป สุขภาพดีบ้างไม่ดีบ้าง) -ทุกคนที่บริจาคไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเลือดคุณจะๆไม่มีปัญหาใดๆ (เหตุผลเหมือนอันแรก) -เลือดทุกถุงที่ใช้ได้ ไม่ได้หมายความว่าจะได้ใช้ (เหตุผลเหมือนอันแรก หมดอายุก่อน) คิดดูว่า 100 ถุงจะเหลือได้ใช้จริงสักกี่ถุง สรุปแล้ว ...การบริหารจัดการและการหาผู้บริจาคประจำค่ะที่ต้องปรับและสนับสนุน จากคุณ : Stinky Cat เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 22:07:44

ความคิดเห็นที่ 84 บริจาคมาสิบกว่าครั้งแล้ว นับหนึ่งใหม่ทุกครั้ง เพราะไม่เคยพกบัตร ไม่ค่อยซ้ำที่ด้วย จากคุณ : Prishnananda เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 23:01:55

ความคิดเห็นที่ 85 ที่ทำงานดิฉันกาชาดจะมารับบริจาคทุก 3 เดือนเจ้าหน้าที่ทุกคนก็พูดจาดีนะคะ แถมมี message เข้ามือถือดิฉันบอกวันเวลาที่จะมารับบริจาคด้วย แต่บางครั้งก็ไม่ได้บริจาคเพราะกินยาแก้อักเสบบ้าง หรือเป็นจังหวะเสียเลือดอยู่แล้วบ้าง จากคุณ : กระรอกสามสี เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 10:34:56

ความคิดเห็นที่ 86 ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยไปบริจาคเลือดอยู่3ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปบริจาคอีกเลย เพราะเป็นลมระหว่างที่บริจาคเลือดทุกครั้ง จนกลัวการบริจาดเลือดไปเลย หลังจากนั้นผ่านมา 10ปีได้ พ่อก็ป่วยเป็นมะเร็ง ระหว่างที่รักษาตลอด2ปี พ่อต้องรับเลือด 3 ครั้งเท่าจำนวนที่เราไปบริจาคมาเลยค่ะ ตอนนั้นยังคิดเลยว่าโชคดีนะที่เราเคยบริจาคเลือดมา ตอนที่เห็นพ่อได้รับเลือดก็ขอบคุณเจ้าของเลือดจริงๆ แต่สุดท้ายคุณพ่อก็จากไป เรายังคิดเลยว่า ถ้าตอนนั้นเราอดทนบริจาคเลือดมากกว่านี้ คุณพ่อจะอยู่กับเราได้นานกว่านี้รึเปล่า จากคุณ : Napabluesky เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 14:09:33

ความคิดเห็นที่ 87 เอ...รพ.เอกชนไม่มีเลือดเขาจะไปซื้อที่ไหนน๊า.... จากคุณ : เพ็ชรสามสี1 เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 20:54:42

ความคิดเห็นที่ 88 มาตอบในฐานะคนใช้เลือดค่ะ 1.ทำไมกาชาดถึงบ่นว่าเลือดขาด ทั้งที่คนไปบริจาคกันเยอะแยะ ตอบ ความต้องการใช้เลือดมีทั้งปีแหละค่ะ เลือดก็ไม่เคยจะพอซักที ส่วนใหญ่จะขาดเป็นบางกรุ๊ป เช่นช่วงนี้ขาดกรุ๊ปโอ ก็จะสังเกตได้จากขอเลือดทางกาชาดไปแล้วไม่ได้ตามจำนวนที่ขอ คนไข้จะใช้ทีนึงต้องโทรศัพท์ขอยืมกันให้วุ่นวาย ถ้าช่วงเทศกาลจะขาดทุกกรุ๊ป เพราะกาชาดจะเก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน รพ ในกรุงเทพไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้เท่าไร แต่ช่วงนี้ขออะไรได้หมด ก็ต้องขอขอบคุณท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายที่ไปบริจาคโลหิตกันด้วยนะคะ 2.ทำไม รพ เอกชนถึงเอาเลือดมาขายราคาแพงๆ ทั้งๆที่เลือดได้มาฟรี ค้ากำไรเกินควรชัดๆ ตอบ ค่ะ เลือดได้มาฟรี ได้มาจากจิตศรัทธาของผู้บริจาค แต่ถุงเลือด วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการเจาะเก็บเลือด เงินเดือนพนักงาน ค่าตรวจคัดกรองเพื่อให้มั่นใจว่าเลือดที่คนไข้จะได้รับนั้นมีความปลอดภัยสูงสุด และอื่นๆนั้นไม่ได้ฟรีด้วยนะคะ ล้วนแต่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งกาชาดก็จะต้องมาเรียกเก็บกับผู้ใช้ ซึ่งคือ รพ ที่ไปเบิกใช้ รพ ก็ต้องมาเก็บกันคนไข้อีกทีนึง เลือด 1 unit ก็ไม่ได้ถูกๆเลย ราคาก็ตามแต่วิธีที่ใช้เก็บและชนิดของเลือด มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหลายพัน เมื่อมาถึง รพ กว่าจะให้เลือดคนไข้ได้ก็ไม่ได้เหมือนในละครหลังข่าว ที่มานอนข้างเตียงแล้วเอาสายมาต่อกันแล้วกล้องก็แพนไปให้คนดูเห็นว่าเลือดวิ่งจากนางเอกไปหาพระเอกในห้องผ่าตัด (--") กว่าจะให้เลือดคนไข้แต่ละที ก็ต้องมีคนคอยตรวจความเข้ากันได้ของเลือด (compatibility testing) ว่าถูกต้องตรงตามกรุ๊ปหรือไม่ มีติดปัญหา antigen-antibody ตรงไหนหรือเปล่า ซึ่งแน่นอนค่ะว่ามันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น เลยอยากจะขอให้คนที่ยังมีความเข้าใจว่า รพ เอกชน เอาเลือดที่ได้ฟรีจากกาชาด (ซึ่งไม่จริง) มาขายคนไข้เพื่อเอากำไรเข้า รพ ช่วยเข้าใจใหม่ด้วยนะคะ ส่วนในกรณีของกาชาดนั้น ไม่สามารถออกความเห็นได้เพราะไม่ได้ทำงานที่กาชาด แต่เห็นด้วยว่าบางครั้ง จนท ก็บริการไม่ดี แต่ก็นั่นล่ะค่ะ ลองคิดถึงใจเขาใจเราดูบ้างก็ดีนะคะ คุณไปบริจาคเลือด รอนานนิดนึงแต่บริจาคเสร็จก็ได้กลับ จนท เค้าค้องอยู่ตรงนั้นทั้งวันนะคะ ก็คงมีอารมณ์เสียบ้างอะไรบ้าง ส่วนถ้าเค้าจะเข้มงวดตรงการซักประวัติ นั่นก็เพราะว่าเค้าอยากให้เลือดที่คุณได้บริจาคมานั้นถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ไม่ใช่ว่าต้องทิ้งไปเพราะว่าตรวจไม่ผ่าน เสียทั้งเลือด ทั้งเวลา ทั้งน้ำยาตรวจ และความรู้สึกด้วย อีกอย่าง กาชาดไม่ใช่ที่ตรวจ HIV ฟรีนะคะ เค้าตรวจให้คุณเพราะคุณเป็นผู้บริจาคโลหิต ถือว่ามีพระคุณกับกาชาด แต่หลายคนกลับใช้การบริจาคโลหิตเป็นการตรวจ HIV เพราะอายที่จะไปหาหมอ ถึงแม้ว่าวิธีตรวจของกาชาดนั้นจะมี % ความผิดพลาดน้อยมากกกกกก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นไม่ได้ หากเชื้ออยู่ในระยะ window period (<7 วันหลังจากได้รับเชื้อ) ก็มีโอกาสที่จะหลุดรอดไปได้ แล้วถ้าคุณหรือญาติคุณได้รับเลือดถุงนั้นไปคุณจะรู้สึกอย่างไรคะ จะทำบุญทั้งที ทำด้วยจิตและเจตนาที่เป็นกุศลจะดีกว่านะคะ ----- บ่น เอ้ย พูดซะยาวเลย ขอบคุณที่อ่าน และขอขอบคุณท่านผู้บริจาคโลหิตทั้งหลายที่มีจิตเป็นกุศล มุ่งจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ข้าวสวยหุงไม่สุก เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 22:50:24

ความคิดเห็นที่ 89 ผู้ใหญ่เถียงอะไรกันไร้สาระมาก เราอายุ 22 ปี บริจาคประจำเพราะอยากได้บุญและเข็มกลัด ไม่แคร์ว่า จนท จะทำหน้ายังไง เขาก็คน ต้องกินข้าวกลับบ้านไปหาลูกหาสามีเหมือนใครหลายๆคน ก็แค่ยิ้มให้เขาสิคะ ทำให้วันที่เราไปบริจาคเป็นวันดีๆ ก็เท่านั้นเองจะแคร์ทำไม ต้องให้ทุกคนบนโลกยิ้มให้กับพวกคุณเหรอ จากคุณ : รีดเนี้ยบเฉียบขาด เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:25:18

ความคิดเห็นที่ 90 อาสาก็อาสาจริงๆ สละเวลาส่วนตัวมาตรวจ คัดกรอง เจาะเลือด ฯลฯ เบี้ยเลี้ยงของวิชาชีพอื่นไม่รู้ได้หรือเปล่า แต่หมอที่ไปหน่วยรับบริจาคเลือดไม่ได้อะไรทั้งสิ้นครัย.. มาด้วยใจ (หรือไม่ก็โดนบังคับให้มา) ล้วนๆ ในเมื่อต่างคน ต่างคิดว่าตัวเองมีบุญคุณ เรื่องกระทบกระทั่งก็เกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 00:51:26

ความคิดเห็นที่ 91 สำหรับเราจะกำหนดไว้เลยว่า ปีหนึ่งจะบริจาค 4 เดือนครั้ง   คือ เดือนเมษา  เพราะคุณพ่อเราเสียวันที่ 1 เมษา และเป็นวันปีใหม่ไทยที่มักจะเกิดอุบัติเหตุเยอะ เดือน สิงหา  เพราะเป็นวันแม่  เราคิดว่าทำบุญให้คุณแม่เรา เดือน ธันวา  เพราะเป็นเดือนเกิดเรา ที่เราทำเป็นประจำก่อนวันที่บริจาคคือ ล่วงหน้า 1-2 วัน เราจะเข้านอนประมาณ 2 ทุ่ม และดื่มน้ำเยอะมาก  เรามักจะไปที่สภากาชาดไทย  ไปตอนเช้าเวลา 8.30 - 9.00 น. ของวันเสาร์-อาทิตย์  เพราะเราไปเวลาทีไร คนก็ยังไม่เยอะ ส่วนเรื่องของชำร่วย (เข็มกลัด หรือของที่ระลึก) เราถือเป็นผลพลอยได้ เพราะสำหรับเราแค่ขอให้เลือดที่บริจาคไปได้ใช้ประโยชน์ให้กับคนที่ต้องการจริงๆ แค่นี้เราก็รู้สึกดีมากๆ แล้ว  ส่วนที่บางคนบอกว่าเหมือนได้ตรวจสุขภาพไปในตัว  ในความคิดเราตรวจสุขภาพประจำทุกปีอยู่แล้ว  ก็เลยไม่คิดถึงเรื่องนี้ จากคุณ : tipjang เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 18:12:22

ความคิดเห็นที่ 92 ความคิดเห็นที่ 55 ความคิดเห็นที่ 46 ถามว่าทำไมไม่ช่วยกันลดต้นเหตุที่ต้องการใช้เลือด อาศัยรอคนมาบริจาคอย่างเดียวอนาคตเท่าไหร่ก็ไม่พอ อยากจะถามว่าจะให้ลดที่ต้นเหตุอย่างไร ต่อไปนี้ห้ามทุกคนประสบอุบัติเหตุ เป็นโรค ผ่าตัด เลือดออกหรือ? เลือดเก็บได้ประมาณเดือนนึง และส่วนใหญ่ก็ไม่เหลือถึงวันหมดอายุด้วย คนประสบอุบัติเหตุ เป็นโรค ผ่าตัดกันทุกวัน คุณจะหาวิธีลดต้นเหตุที่ต้องการใช้เลือดยังไง? หรือว่าไม่รู้ว่าเลือดหมดอายุได้ เก็บมาใช้ได้ตลอดการหรือ ความรู้พวกนี้หนังสือวิทยาศาสตร์ประถมก็มี จากคุณ : PYA เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 22:44:56 A:58.8.70.229 X: TicketID:308671 แหมคุณ PYA ไม่มีใครห้ามใครไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยได้หรอกเพียงแต่ช่วยกันทำให้มันลดลง.. คุณทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนี่ หากต้องการให้เกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการเป็นโรคต้องผ่าตัด หรืออยากเอามีดกรีดข้อมือก็ทำได้ ไม่มีใครห้าม เพียงแต่ต้องการสื่อว่าต้นเหตุการใช้เลือดมันลดได้.. ถ้าเคารพกฏจราจรก็ลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เด็กแว๊นทั้งหลายไม่ออกมาปิดถนนแข่งรถ ก็ลดการบาดเจ็บ พนักงานขับรถตู้โดยสาร รถบัส รถทัศนาจร มีจิตสำนึกดีๆ ว่ามีอีกหลายชีวิตฝากไว้กับคนขับ อันนี้ก็ลดอุบัติเหตุได้ ส่วนเรื่องโรคภัย ออกกำลังกายซิ กินให้น้อยไอ้พวกของทอด ของมัน ก่อให้เกิดโรคหัวใจกินเยอะก็ไม่ดี ตายเร็ว เสียดายเลือดที่ต้องนำมาใช้ในการผ่าตัด ส่วนอุบัติเหตุนอกเหนือการควบคุมเช่นภัยพิบัติต่างๆ หรือทหารชายแดนภาคใต้ที่บาดเจ็บเพราะคุ้มครองปัองกันประชาชนอันนี้สมควรให้เลือด เลือดหมดอายุได้ไม่เถียง แต่เลือดในคลังไม่ทันได้หมดอายุมันหมดก่อน คุณก็รู้คุณก็พูดออกมาเอง ส่วนความรู้จะอยู่ที่ชั้นเรียนประถมหรือมัถยมหรือวิทยาลัย อันนี้ไม่ทราบได้ รู้แต่นับวันความต้องการเลือดเพิ่มขึ้นทุกวัน ถึงบอกว่าให้ลดที่ต้ันเหตุ ทำตัวเองให้ห่างไกลกับความต้องการใช้เลือดให้มากที่สุดจะได้ไม่เดือดร้อน ตามมาอ่านกระทู้นี้ช้าเพราะไม่ได้เข้าพันทิปหลายวัน จากคุณ : Thai_Am เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 15:55:04