ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าทำแล้วดีขึ้น ก็ลองขอดู เราว่าขอได้นะ อย่าคิดว่าเขาจะอยู่ได้อีกไม่นาน กำลังใจคำพูดดีๆ ดีกว่ายาทั้งหลาย เขาอาจจะหายด้วยยาพิเศษจากเรา สู้ๆคะ จากคุณ : lolitaa เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 07:24:14 A:58.9.117.203 X: TicketID:383850

ความคิดเห็นที่ 2 เอาใจช่วยค่ะ ขอให้คนไข้มีสุขภาพกายและใจเข้มแข็งค่ะ ลองปรึกษาคุณหมอที่รักษาดูค่ะ เผื่อคุณหมอจะมีวิธีอธิบายเรื่องการรักษาให้คนไข้สบายใจได้ค่ะ จากคุณ : นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 07:28:18

ความคิดเห็นที่ 3 เราว่ายาที่ดีที่สุด สำหรับเขาตอนนี้ คือ ยาธรรมะนะ  เพราะต้องเตรียมตัวกับความตายที่จะมาถึง  ลองฟังดูไหมคะ เราส่งให้ฟรี ธรรมะสำหรับผู้ป่วย จากคุณ : nuch_tre เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 07:34:39

ความคิดเห็นที่ 4 การฉายแสงไม่ใช่วิตามิน หรือยาแก้ปวดนะ ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ทำ เพราะอันตรายก็เยอะ ปรึกษาหมอที่รักษาอยู่เดิมค่ะ ถ้าทำได้มีเหตุผลให้ทำ หมอเขาก็จะพิจารณาให้ทำ ถึงจะไปที่ใหม่ หลักการก็เหมือนกันแหละค่ะ อาการไม่สบายที่เป็นอยู่ตอนนี้ อาจจะเป็นผลจากยาคีโมที่ได้รับอยู่ก็ได้ คุยกับหมอที่รักษานะคะ จากคุณ : OG เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 08:37:09 A:171.99.156.142 X: TicketID:324242

ความคิดเห็นที่ 5 ครับที่บ้านเราช่วยกันดูแล ปั่นอาหารเหลวเอง ใครว่าอะไรดีก็หามาให้ทาน ตัวคนไข้เองก็ปลงไม่ตก ถ้าได้ซีดีธรรมะที่ว่านั้นแล้วจะทำให้คนไข้ผ่อนคลายลงบ้างก็ดีครับ ตอนนี้ผมก็ทำใจได้ เพราะเห็นคนรวยๆน่าจะกินแต่อาหารดีๆมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีก็เป็นมะเร็งตายเยอะแยะ จากคุณ : Mumbi เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 08:42:29

ความคิดเห็นที่ 6 ปัญหาของการไม่ฉายแสงซ้ำไม่ได้อยู่ที่เงินหรือเป็นรพ.รัฐ เรื่องคิวอาจมีส่วนบ้างแต่ไม่มาก ปัญหาสำคัญคือทุกการรักษาจะต้องมีการชั่งใจระหว่างข้อดีและข้อเสียก่อนเสมอ หากการฉายแสงเพิ่มจะทำให้คนไข้ได้ประโยชน์จริงๆเช่นลดปวด ลดแผล คุมโรค และมากกว่าผลเสียที่จะได้เช่น ผลข้างเคียงต่อเนื้อเยื่อปกติข้างเคียง(ยิ่งฉายไปมากโอกาสเกิดผลข้างเคียงก็มาก เนื้แเยื่อแต่ละชนิดทนแสงได้ไม่เท่ากัน การฉายที่เดิมจึงอาจได้ผลข้างเคียงที่มากกว่าตอบรอบแรกมากเพราะมันนับแบบสะสม) เสียโอกาสที่จะควบคุมโรคในตำแหน่งอื่นๆ(เพราะการฉายแสงไม่สามารถฉายทั้งหมดทั้งตัวได้ ฤทธิ์จะอยู่เฉพาะในบริเวณที่ฉายเท่านั้น) จะอยู่รพ.รัฐก็ฉายใหม่ได้ครับ แต่ถ้าการฉายจะทำอันตรายต่อคนไข้มากกว่าประโยชน์ รพ.เอกชนก็ไม่ฉายให้ครับ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 09:00:52

ความคิดเห็นที่ 7 คือคนไข้เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เดิมมีแผลที่เหงือก ก้อนที่กระพุ้งแก้ม หลังจากฉายแสงแผลทั้งหมดดูเหมือนจะหายไป คนไข้ก็มีอาการดีขึ้น พาไปเที่ยวได้ด้วย ต่อมาเริ่มให้คีโมก็เริ่มแพ้ เหนื่อยและมีไข้ตลอด และตอนนี้แผลเดิมเริ่มกลับมาปวดอีกครั้ง คนไข้เลยคิดว่าถ้าได้ไปฉายแสงอีกน่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม ผมก็ไม่อยากขัดใจครับ เห็นแล้วก็สงสาร เป็นใครก็ไม่อยากตาย จากคุณ : Mumbi เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 09:14:01

ความคิดเห็นที่ 8 ยากนะ การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายเนี่ย การพยายามให้ความหวังว่าอาจจะหาย พยายามทุกวิถีทางที่จะให้หาย ไม่ใช่วิถีที่ถูกต้อง เพราะเป็นไปไม่ได้ เหมือนหลอกกันไปวันๆ เราต้องพยายามทำให้ผู้ป่วยยอมรับธรรมชาติของชีวิต ธรรมชาติของโรค และเตรียมพร้อมที่จะรับการมาถึงของวาระสุดท้าย ทั้งการทำธุรกรรมต่างๆ เช่นพินัยกรรม และอื่นๆที่จะทำให้ไม่ก่อปัญหากับคนที่อยู่ข้างหลัง เมื่อตนเองจากไป การรักษาก็เพียงรักษาตามอาการให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมานน้อยที่สุด อันนี้ทำได้ แต่การที่จะทำอย่างไรให้ผู้ป่วยยอมรับธรรมชาติของชีวิต ธรรมชาติของโรคนี่สิ ยากมาก จากคุณ : OG เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 09:45:08 A:171.99.156.142 X: TicketID:324242

ความคิดเห็นที่ 9 มาให้กำลังใจ คนไข้ จขกท และครอบครัวค่ะ ถ้าทำได้ และอยากจะลองทำดู  ก็ให้คนไข้ฝึกหายใจให้ถูกต้อง คือที่ว่าหายใจเข้าลึก ๆ (ท้องป่อง) นิ่งไว้แป๊บ หายใจออกช้า ๆ (ท้องแฟบลง)  คือลองทำไปเรื่อย ๆ จะช่วยทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้นนะคะ จากคุณ : ฟ้า (หยาดทิพย์) เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 10:09:07

ความคิดเห็นที่ 10 ฉายถ้าเป็นจุดเดิม อาจจะเพิ่มแสงไม่ได้อีก แนะนำว่าไปพบแพทย์เพื่อพิจารณาปรับยาแก้ปวดครับ จากคุณ : Iris of เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 11:16:19

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับ คคห6 คุณหมอoncodog ครับ และ คคห10 เจ้าของกระทู้คุณ Mumbi ไม่บอกใบ้หน่อยเหรอครับว่าเป็นมะเร็งอะไรที่ไหน จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 20:45:46

ความคิดเห็นที่ 12 "เห็นแล้วก็สงสาร เป็นใครก็ไม่อยากตาย " ถ้าหมอจะเลือกไม่ฉายให้ก็ไม่ใช่เพราะอยากให้คนไข้ตายหรือทรมานหรอกครับ แต่เพราะได้คิดแล้วว่าข้อเสียมันจะมากกว่าข้อดีครับจึงไม่ทำ การฉายเพิ่มแม้ว่าอาจจะทำได้แต่โอกาสตอบสนองก็คงไม่ดีเท่าตอนแรกอย่ดีเพราะปริมาณที่เนื้อเยื่อปกติจะรับได้อีกคงเหลือไม่มากถ้ามันยังจะฉายเพิ่มได้ สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ หากได้รับรังสีมากเกินไปอาจจะต้องมาทรมานจากทั้งมะเร็งและจากพิษรังสีนะครับ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 55 22:22:16

ความคิดเห็นที่ 13 บอกแล้วครับที่ #7 จากคุณ : Mumbi เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:44:22

ความคิดเห็นที่ 14 โอ๊ย ขออภัยเจ้าของกระทู้ไม่ทันเห็น คคห7 มะเร็งต่อมน้ำเหลือง โดยทั้วไปการรักษาโดยการให้ยาเคมีบำบัดเป็นการรักษาหลัก แต่ก็เหมือนกับที่คุณหมอoncodog  บอกแหละครับ รับรังสีมากไปอาจจะไม่คุ้ม แต่ว่า รังสีที่ ผู้ป่วยรายนี้ได้ไปนั้น อาจจะพอฉายเพิ่มได้นะครับ เพราะ 18 ครั้ง น่าจะได้ปริมาณรังสีไปสัก 36 Gy ในบริเวณนี้ เนื้อเยื่อจะรับรังสีได้มากกว่านั้น เพราะ มะเร็งที่บริเวณนี้ ถ้าไม่ใช่เป็นพวกมะเร็งต่อมน้ำเหลือง(lymphoma) แต่เป็นพวกเนื้อเยื่อบุผิว (squamous cell carcinoma) การฉายแสงในบริเวณนนี้จะให้สูงถึง 70Gy (35ครั้ง) แต่ก็อย่างว่าละครับ ผลข้างเคียงย่อมสูงตามมา แต่ต้องทำใจด้วยนะครับว่าโอกาสตอบสนอง จะลดลงค่อนข้างมาก แม้ผลข้างเคียงจะพอรับได้ ดูจากระยะเวลาที่โรคกลับมาค่อนข้างเร็ว ถึงตอบสนองก็คงไม่ได้นาน จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:56:15

ความคิดเห็นที่ 15 วันนี้คนไข้หิวทั้งวัน ไม่รู้เป็นอะไร ท้องป่องเลย จากคุณ : Mumbi เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 21:17:42

ความคิดเห็นที่ 16 พอดีคุณแม่เพิ่งจากไปด้วยโรคนี้ครับ คนไข้ ใจสู้ เราก็ให้กำลังใจกันไป ช่วงเดือนสุดท้ายก็พอทานได้ คุยได้ แต่เดินไม่ไหว วันสุดท้ายจริงๆ  ตัวที่ไม่ไหว ก็คือร่างกายท่านเอง มันไปต่อไม่ได้ จิตรู้แต่พูดไม่ได้ อ่อนล้าจนหลับ และหัวใจค่อยหยุดเต้น คุยกันรู้หกโมงเย็น เที่ยงคืนจากกันอย่างสงบ วิธีที่แนะนำคือ อยากทำอะไรทำ อยากกินอะไรกิน ค่อยๆให้ท่านรับรู้ระลึกถึงบุญ ที่ได้เคยทำ ให้เห็นองค์พระ(เอามาวางในห้อง) ท่านจะค่อยๆคิดได้เองไม่ต้องไปบอกอะไร ให้ใจระลึกถึงพระ พิมพ์ภาพที่เคยไปทำบุญ เอามาติดๆไว้ เวลาอ่อนแรงไม่ไหวแล้ว หูท่านจะได้ยิน สวดมนต์ให้ท่านฟัง บ่อยๆ บอกให้ว่า หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ นึกไว้ หากหลุดไปจริงๆให้ไปไหว้พระพุทธเจ้านะ ไปบนสวรรค์ชั้นดาว์นดึง ไปไหว้พระพุทธเจ้า อาจจะเพ้อฝันไปนิดนะครับ : แต่คุณแม่หลังจากจากเราไปแล้ว ได้กลับมาบอกว่า ได้ไปไหว้พระุพุทธเจ้ามาด้วย แต่อยู่ไกลมากเพราะแรงบุญที่ได้ทำไว้มีน้อย แต่ ได้ยินเสียงพระพุทธเจ้าท่านเทศน์ชัดเจน หากคิดว่าไร้สาระก็ต้องขอโทษด้วย กับประสบการณ์ของครอบครัวเราที่เพิ่งเสียคุณแม่ ไปด้วยโรคมะเร็ง สองสัปดาห์ก่อน จากคุณ : teoytoon (teoytoon) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 18:45:29