สำหรับตาสี ตาสา ตาใส คนไทยอย่างเรา

    เห็นเรื่องรักษาพยาบาลเลยเอาColume คุณนิติภูมิ ที่ลวท 14/08/46 ให้อ่าน เพื่อจะได้เตรียมใจกับความโหอร้ายต่อไปในอนาคต ...... เนื้อหาคุณนิติภูมิมีดังนี้

    เสียงโทรศัพท์จากผู้ประสงค์ร้าย

    มีสิ่งหนึ่งผมเห็นความเลวร้ายที่เกิดในประเทศฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้ และบัดนี้กำลังจะมาเกิดในประเทศไทย ซึ่งอยากจะเรียนท่านผู้เกี่ยวข้อง ลองพิจารณากันให้รอบคอบอีกหลายๆรอบ

    ทราบว่าเมืองไทยกำลังจะมีกฎหมายห้ามแพทย์จ่ายยารักษาคนไข้ ใครไปพบแพทย์ แพทย์ทำได้แต่เพียงวินิจฉัยโรค แล้วก็เขียนใบ สั่งยา คนไข้ก็ต้องถือกระดาษแผ่นนั้น ไปที่ร้านขายยา เพื่อให้เภสัชกรจ่ายยาให้ ถ้าเป็นยาฉีด คนไข้ก็ต้องถือยาฉีดนั้นกลับไป ที่คลินิกเพื่อให้ หมดฉีดยาให้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนำความยุ่งยากมาสู่การรักษาพยาบาลมาก

    สิ่งที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์หลังจากมีกฎหมายไม่ให้ แพทย์จ่ายยาได้ก็คือ พวกร้านขายยาเล็กๆ ที่เป็นของเภสัชกรท้องถิ่นหมดไป เหลือแต่ร้านขายยา ขนาดใหญ่ที่มีสาข าเป็นร้อยนับพันสาขา ที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ ร้านขายยาพวกนี้เป็นของนายทุนต่างชาติ บางกลุ่มร้านขายยาก็เป็นของ พวกบรรษัทข้ามชาติ

    คนที่มีสตางค์ในฟิลิปปินส์ ไม่มีใครอยากไปคลินิกของหมอหรอกดอกครับ เพราะเสียเวลาหลายขั้นตอน เดี๋ยวอยู่ที่ร้านหมอ เดี๋ยวต้องไปที่ร้านขายยา แล้วก็กลับมาที่ร้านให้หมอฉีดยาอีก คนที่พอมีฐานะในฟิลิปปินส์จึงตรงดิ่งไปที่ โรงพยาบาลเอกชน เพราะ โรงพยาบาลเอกชนจะมีทั้งหมอ ทั้งเภสัช รักษาเบ็ดเสร็จภายในโรงพยาบาลนั่นเอง

    มีผู้ไม่ประสงค์ดีท่านหนึ่ง ไม่ทราบว่าชื่ออะไร โทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่า บริษัทในกลุ่มของ ท่านนายกรัฐมนตรีของไทย ฯพณฯ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร กำลังกว้านซื้อโรงพยาบาลเอกชน ตอนนี้มีการเจรจาไว้หลายแห่ง ด้วยท่านนายกฯมีความเชื่อว่า ต่อไปในอนาคต โรงพยาบาลรัฐบาลจะคุณภาพแย่ไปเรื่อยๆ กิจการโรงพยาบาลเอกชน จะเซ็งลี้ฮ้อ เป็นธุรกิจที่กินกำไรมากกว่ากิจการด้านอื่น เพราะเป็นเรื่องความเป็นความตายของมนุษย์

    วางหูโทรศัพท์เสร็จ ผมก็ด่าไอ้ผู้ไม่ประสงค์ดีที่ไม่ยอมบอกชื่อเสียงเรียงนามไปหลายยก ฐานสกปรกขุดเอาข่าวโคมลอยมาโจมตีนายกรัฐมนตรีสุดที่รักของผม ท่านนายกฯของผมน่ะ อยากรวย ก็ได้รวยแล้ว อยากเป็นนายกฯ ก็ได้เป็นแล้ว ท่านยังจะไปแสวงหาสมบัติบ้าไปทำไมอีก ประชาชนก็รักท่านปานนี้ นิติภูมิไม่เชื่อหรอกดอกครับ ว่าท่านจะคิดทำลายระบบการ รักษาพยาบาลและการสาธารณสุขของรัฐ เพื่อที่จะให้คนหันไปใช้บริการกิจการของกลุ่ม บริษัทของตนเองในอนาคต

    อีกไม่กี่อึดใจต่อมา ก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมาใหม่ คราวนี้คนพูดขอร้องให้ผมเดินทางไปโคราช เอ๊ย จังหวัดนครราชสีมา บอกว่าคุณนิติภูมิมาดูให้เห็นกับตาเถิด บิดาของท่านรัฐมนตรีสาธารณสุข ฯพณฯ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ท่านซื้อกิจการร้านขายยาในกลุ่ม FASINO ไว้แล้วที่โคราช มีคนบอกว่าที่ท่านซื้อนี่ ก็เพื่อรอพระราชบัญญัติยาฉบับใหม่ที่จะออกมา ซึ่ง พ.ร.บ.ยาตัวนี้ออกมาเมื่อใด รับประกันว่า กิจการร้านขายยาพุ่งชะลูดกระฉูดแน่ แต่ต้องเป็นร้านขายยาที่มีเครือข่ายใหญ่โตครอบคลุมไปทั้งประเทศเท่านั้น ไอ้พวกร้านกระจอก งอกง่อย ที่มีเพียงร้านสองร้านปากซอยจะเจ๊งระเนนระนาด เพราะไม่มีปัญญาไปสต็อกยาจำนวนมากได้

    ผมนึกในใจว่า อ๊าย อ้ายผู้ไม่ประสงค์ดีนี่ช่างมีข้อมูลเยอะจริงๆ ฟังแล้วผมไม่เชื่อดอก เพราะ ฯพณฯ สุดารัตน์ท่านเป็นนักการเมืองหญิงเหล็ก ที่หายใจเข้าออกเป็นเรื่องความผาสุก ของประชาชน

    อ้ายผู้ประสงค์ดีพูดตอดฉอดๆ ต่อไปอีกว่า พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่นี้ พวกที่ฉ้อฉล ฉ้อโกงชาติบ้านเมืองวางระบบไว้รัดกุม กะกินรวบประเทศชาติต่อไปอีก นานแสนนาน

    แม้แต่แพทย์แผนโบราณ ลุงแม้น ตาโก้ ยายฉ่อย เจ๊จ๋อย ฯลฯ ที่ไปสอบได้วุฒิ บภ. และได้ ใบประกอบโรคศิลปะมาแล้ว ก็ไม่สามารถปรุงยา จ่ายยา ให้ลุงอู๋ ลุงชู ลุงผัน ตามั่น ยายมี ลุงอ๋อ ตาอ้อม พี่นารี ฯลฯ ที่มารักษาได้ พ่อหมอจ่ายยาเมื่อไร ผิดกฎหมายทันที เมื่อพ่อหมอ วินิจฉัยโรคได้แล้ว พ่อหมอก็ต้องเขียนใบสั่งยา จากนั้นคนไข้ก็ต้องไปซื้อยา แผนโบราณที่ร้านขายยาของนายทุนต่างชาติ หรือของนายทุนข้ามชาติ

    ผมบอกตนเองว่า ไม่เจื้อๆๆๆๆ พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่นี่ จะมีความเลวร้ายถึงขนาดนี้ และจะมีความหมกเม็ดในเรื่องผลประโยชน์มหาศาล ผมยังยึดมั่นกับรัฐบาลของท่านทักษิณ คิดว่าเลือกท่านมาดูแลประเทศชาติ เพียงท่านกรุณาปราบยาบ้าให้ ก็ถือว่าชาติได้กำไรแล้ว

    ขยับจะเข้านอน มีเสียงโทรศัพท์อีกแล้ว โทร.มาว่ายังไง พรุ่งนี้ขออนุญาต มาเล่ารับใช้กันต่อครับ.

    'นิติภูมิ นวรัตน์'

    โชคดีอย่าเจ็บไข้ ....แข็งแรงทุกคนนะค่ะ
    คนไทย

    จากคุณ : น้องชวน(ป๋วย) - [ 20 ส.ค. 46 15:34:32 ]