++ช่วยอ่าน และส่งผ่านความคิดถึงไปให้เขาหน่อยได้มั้ยคะ++

    เรื่องของเราผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ทำไมมันยังชัดเจนและทำให้ฉันยังยิ้มได้เมื่อนึกถึง

    เปิดเรียนอาทิตย์แรก เด็กบ้านนอกเพิ่งเข้ามาเรียนกรุงเทพอย่างฉันตื่นเต้น และประหม่าอย่างบอกไม่ถูก การได้เห็นเด็กนักเรียน วัยรุ่นกรุงเทพ แต่ละคนหน้าตาใส ๆ ทันสมัย ไหนเลยจะอดไม่ได้ที่ต้องหันมองดูตัวเอง เด็กผู้หญิงหน้าจืด ขี้อาย และไม่มั่นใจในตัวเอง อาทิตย์แรก ๆ ฉันจับกลุ่มกับเพื่อนจืด ๆ ด้วยกัน นั่งอยู่แต่ตามเหลืบของห้องสมุดเวลาว่าง ความตื่นเต้นที่ต้องเข้าเป็นน้องใหม่ในสถาบันแห่งนี้ค่อย ๆ ลดลงจากวันแรก ๆ แต่แล้วความตื่นเต้นก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อฉันกำลังนั่งอ่านหนังสือเหมือนเคยในห้องสมุดและได้ยินกลุ่มนักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งส่งเสียงดังอยู่ข้างหลัง ฉันหันไปเพื่ออยากจะตำหนิ แต่ฉันกลับไม่ได้ทำอย่างที่คิด เพราะ....ฉันเห็นเธอ!!!! ผู้ชายผิวขาว ผมยาว หน้าใส โลกในตอนนั้นมันหยุดไปชั่วขณะ.....ฉันเขินและอายมากที่เห็นเธอ แต่....เธอไม่ได้ใส่ใจหรือแม้แต่มองหน้าฉันเลย

    จากวันนั้น ฉันผู้ซึ่งไม่เคยอยู่ในสายตาเธอยังไง ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาเธออย่างนั้น แต่เธอ...กลับอยู่ในสายตาฉันไม่ว่าเธอจะก้าวไปไหน ทำอะไร ฉันก็แค่ผู้หญิงขี้อาย ที่แอบมองหนุ่มที่สาว ๆ หลาย ๆ คนแอบกรี๊ด (รวมทั้งฉันด้วยนั่นล่ะ)

    และยิ่งเวลาผ่านไปฉันก็เหมือนตัวเองเป็นแค่อะไรซักอย่างที่ไม่คู่ควรกับเธอ เพราะเมื่อยามเธอเดินผ่านคณะของฉัน จะต้องมีผู้หญิงซุบซิบและกรี๊ดเธอเสมอ ส่วนฉันน่ะเหรอ....แค่จะออกปากบอกใครว่าแอบชอบเธอยังไม่กล้าเลยเพราะฉันเหมือนยัยทึ่มที่ริอยากเป็นแฟนกับหนุ่มฮอต ดูแล้วน่าขันซะจริง

    ฉันได้แต่แอบมองเธอ และเหมือนเธอก็จะรู้ว่าฉันแอบมอง เรามองกันไปมาอย่างนี้ตลอดระยะเวลา 1 ปี.....ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย รวมถึงไม่มีใครรู้เลยว่าเราแอบมองกันและกัน

    แล้ววันหนึ่งฉันก็ได้เบอร์โทรของเธอจากรุ่นน้องเธอเอง ฉันไม่รู้ว่าควรทำยังไง ฉันน่ะเหรอจะกล้าโทรไป จะเริ่มยังไง จะพูดยังไง??? ฉันเก็บเบอร์เธอไว้ อย่างคนไม่รู้เลยว่าจะใช้งานมันยังไง จนในที่สุดฉันแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำ ฉันโทรหาเธอ!!! เธอดูเหมือนไม่แปลกใจว่าฉันคือใคร ไม่ถามชื่อ ไม่ถามเหตุผล เราคุยกันปรกติ แล้วเธอก็ขอเบอร์ฉัน เราเริ่มคุยกัน...............มากขึ้น และมากขึ้น ทุกวัน............ แต่เมื่อยามไปเรียน และต่อหน้าคนอื่นเราจะทำเหมือนไม่รู้จักกัน จริง ๆ แล้วเวลาเราคุยกัน เราทำเหมือนเราไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นกันเลย เธอไม่เคยพูดว่าฉันคือฉัน (ยัยจืดคนนั้น) แต่เราคุยกันแบบนี้มันสบายใจกว่า แล้วเราก็เป็นเพื่อนกัน เพื่อนที่มีตัวตนอยู่แค่ในโทรศัพท์

    ฉันเรียนรู้ว่า เธอไม่ได้ขี้เก็ก เธอไม่ได้หยิ่ง เธอไม่ได้หลงตัวเอง แต่เธอไม่รู้จะวางตัวยังไง เวลาที่เดินไปแล้วใคร ๆ ก็กรี๊ดเธอ เธอเป็นคนอ่อนไหว แต่แสร้งปกคลุมด้วยการวางท่าทางโจ๋ ๆ เธอเป็นคนรักแม่ เธอเป็นคนขี้อ้อน และขี้เหงา เราคุยกันทั้งด้านที่อ่อนไหว และเข้มแข็ง เราคุยกันแบบนี้จนเรียนจบ

    ฉันทำงานแล้ว เธอทำงานแล้ว ฉันเป็นสาวออฟฟิสที่ไม่เหลือคราบเด็กบ้านนอกเปิ่น ๆ อีกแล้ว ฉันโตเป็นสาว ทำงานทันสมัย ส่วนเธอเป็นวิศวะกรในบริษัทใหญ่ เราโตขึ้นมาก แต่ความสัมพันธ์ของเราไม่โตขึ้นเท่าไหร่เลย.............

    จนวันที่เธออยากนัดเดทฉัน เรารู้จักกันมา 3-4 ปี นี่เป็นเดทครั้งแรกของเรา เธอรู้ว่าคนที่เธอคุยด้วยตลอด 3 ปีคือฉัน เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องแกล้งช็อคเวลาเจอกันครั้งแรก 

    เราเจอกันครั้งแรก เธอไม่ยิ้มเลย เก็กมาก หรืออาจะไม่รู้จะวางตัวยังไง ส่วนฉันประหม่ามาก เพราะวันนี้ฉันได้เป็นคนที่เดินข้างเธอ เธอไปรับฉันที่ทำงาน เพื่อนที่ทำงานยังถามถึง ว่าเธอคือใคร แฟนหรือเปล่า ใคร ๆ ก็ปิ๊งเธอ......

    ณ วันนั้นหลายคนบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ดูดี แต่งตัวดี ทำงานดี และมีหลาย ๆ คนเข้ามาจีบฉัน แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม มันก็ไม่มีอะไรลบความรู้สึกว่า เธอคือฮีโร่ เธอคือความฝัน และฉัน....คือคนไม่คู่ควรกับเธอ ออกไปได้เลย

    เราชอบเดินคุยกัน ไปร้านหนังสือ กินข้าว แล้วเธอก็ส่งฉันกลับบ้าน แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น จนฉันคิดว่า เราคงไม่ใช่......เราคุยกัน 3 ปี เดทกันอีก 1 ปี ไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นเลย (ในความคิดของฉัน) จนวันที่ฉันอยากจะตัดใจ ฉันทนกับความรู้สึกทรมานที่รบเร้าจิตใจไม่ไหว ฉันเหมือนอยากใกล้เธอ แต่ฉันไม่กล้าเข้าใกล้ ฉันกลัวว่ามันคือฝัน ที่เมื่อตื่นมาก็เจอแต่ความผิดหวัง ฉันกล้วว่าเธออาจจะไม่ชอบฉันจริง ๆ เพียงแต่สงสาร จนในที่สุดฉันขอหายไป หายไปจากเธอ เธอโทรมาไม่เจอฉัน เราติดต่อกันไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร (ฉันขอโทษ) แต่ฉันเสียใจเสมอ เราไม่เคยมองตากัน เราไม่เคยจับมือกัน เราไม่เคยบอกรักกัน แต่ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอคืออะไร วันนี้ ทุกอย่างผ่านมาเกือบ 4 ปีแล้ว ฉันไม่ได้เจอเธอเกือบจะ 4 ปีแล้ว เธอสบายดีไหม แต่งงานไปหรือยัง ยังโกรธฉันอยู่ไหม หรือ....ยังจำยันเฉิ่มคนนี้ได้หรือเปล่า

    ฉันคิดถึงเธอนะ แม้ตอนนี้ยามที่ฉันนึกถึงเธอ มันเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ตื้นตัน อยากจะร้องไห้ ฉันไม่เคยลืมเธอเลย.....

    ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ซักนาที ฉันจะขอแค่ได้จับมือเธอซักหน อยากให้ทุกคำพูดที่ค้างในใจส่งผ่านไป ว่าฉันรู้สึกต่อเธอมากแค่ไหน ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อฉันลึกแค่ไหน แต่ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอมันลึกอยู่ในจิตใจฉัน บางครั้งฉันคิดว่าฉันเป็นคนโง่ ฉันปรารถนาจะยืนข้างเธอมาตลอด 4 ปี แต่เมื่อฉันได้ยืนตรงนั้น ฉันกลับไม่มั่นใจและกลัวไปเอง เธออยากให้ฉันไปบ้าน พาไปแนะนำกับแม่เธอ เธออยากไปรู้จักกับบ้านฉัน อยากแสดงความจริงใจ แต่ฉันแปลความหมายไม่ออก ฉันรอแต่คำว่า “รัก” จากเธอ เมื่อเธอไม่เคยพูด ฉันก็ไม่เคยรู้เลยว่าเธอรู้สึกอย่างไร และฉันเอง ก็กลัวเกินกว่าจะกล้าแสดงตัวในฐานะคนรักกัน เราคบกันไปแบบนั้น เป็นเพื่อน หรืออะไรก็ตามที่ไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกต่อกันตลอดเวลา 4 ปี (มันเนิ่นนานและทรมานเหลือเกิน) แล้วเรื่องราวของเราก็จบลง....

    เธอยังจำคืนนั้นได้ไหม ก่อนลาจากกัน เธอยื่นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ให้ฉัน ข้างในเขียนไว้ว่า“ความคิดถึงเป็นของเรา แต่คนที่เราคิดถึงไม่รู้ว่าเป็นของใคร” ฉันอ่านแล้วร้องไห้ มันผ่านมานานแล้ว แต่ฉันอยากตอบเธอวันนี้ว่า ณ เวลาตอนนั้น และตอนนี้ใจฉันมีแต่เธอ...


    ฉันไม่ได้มาไขว่คว้า ฉันไม่ได้มาคร่ำครวญอยากให้เธอคืนมา วันนี้ฉันคิดถึงเธอ แค่อยากรู้ว่าเธอสบายดีไหม ฉันอยากปลดปล่อยพันธนาการแห่งความคิดถึง และโหยหา ฉันคิดถึงเธอเสมอ ฉันเหมือนคนที่ถูกพันธนาการด้วยความคิดถึงเธอมาหลายปี ฉันอยากปลดปล่อยมันไปเสียที

    ถ้าใครบังเอิญได้รู้จักผู้ชายผิวขาว สูง หน้าตาขี้เก็ก แต่ชอบอ่านการ์ตูนเด็ก ชอบฟังเพลงใต้ดิน และขี้เหงา ช่วยฝากความคิดถึง จากผู้หญิงเฉิ่ม ๆ ขี้อาย ไม่มั่นใจอะไรซักอย่าง ไปให้เขาที ช่วยบอกเขาทีว่า ฉันขอโทษที่หายไป และช่วยบอกเขาทีเถิดว่า ฉันยังระลึกถึงเขาเสมอ....วันนี้เรื่องราวมันผ่านไป ทั้งเขาและฉันคงไม่มีวันที่จะมีโอกาสเดินเคียงกันอีกต่อไป แต่ช่วยบอกเขาทีเถิดว่า ช่วงเวลาในชีวิตหนึ่งที่ฉันมีเขา ฉันมิอาจจะลืมได้เลย เขาคือช่วงเวลาหนึ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน และความรู้สึกดี ๆ ที่ฉันมีต่อเขามันมากมายเหลือเกิน







    จากคุณ : 159357 - [ 3 ก.ย. 46 06:13:42 ]