ความคิดเห็นที่ 1 <><><><><> แปงหอ ยอเรือน <><><><><> เรือนอยู่อาศัยของชาวล้านนา มีหลายระดับตามหน้าตาสถานภาพของเจ้าของ มีตั้งแต่ ตูบ (กระต๊อบ) ติดดิน -ตูบหมาแหงน- ตูบหย่างร่างเรือน- ตูบพื้นหลองข้าว- เรือนไม้บั่ว ไปจนถึงเรือนเครื่องไม้จริง เรือนไม้จริงล้วน การปลูกเรือนของชาวล้านนา ประกอบด้วยความรู้ภูมิปัญญาหลายสาขา แต่ละด้านก็มีรายละเอียดแจกแจงไว้โดยพิสดาร ทั้งด้านการเลือกชัยภูมิที่ตั้ง การเลือกไม้วัสดุก่อสร้าง ความรู้ทางสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือน ความรู้ทางช่าง ความเชื่อเรื่องโชคลางหลีกเลี่ยงเบี่ยงปัดเคราะห์ และเสริมสร้างสิ่งที่เป็นมงคลแก่เจ้าเรือนและผู้อยู่อาศัย ฯ อย่างว่า ...เสามงคลและเสานาง ต้องคัดเอาแต่ไม้ต้นที่เป็นมงคล จะไม่เอา...ไม้ปลายลำเป็นดั่งแผ่นหางปลา ไม้สองกิ่งสองนาง ไม้มีน้ำย้อยออกตาไม้ ไม้เคยถูกฟ้าผ่า ไม้ขึ้นบนจอมปลวก ไม้ขึ้นอยู่ใกล้ฝั่งน้ำ ไม้กลวงใจ ไม้ตายแห้งตายขาน ไม้ปลายหัก.. นอกจากนี้ยังมีพิธีกรรมเกี่ยวกับเรือนอีกมาก เช่น พิธีกรรมในการปลูกสร้างเรือน และรวมไปถึงพิธีเรียกขวัญเรือนใหม่ เป็นต้น ****เสามงคล=เสาเอก(ในภาษาคนภาคกลาง) ****เสานาง=เสาโท จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 6 ก.ย. 46 12:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ชาวล้านนามีความเชื่อเกี่ยวกับการออกแบบบ้านโดยอาศัยหลักธรรมชาติหลาย ๆ แบบรวมเข้าด้วยกันหากลองวิเคราะห์ดูความเชื่อเหล่านี้กับหลักการออกแบบของสถาปนิกปัจจุบันแล้วสามารถดำเนินไปด้วยกันได้อย่างลงตัว แทบไม่น่าเชื่อว่าความคิดของคนล้านนาโบราณจะทำให้บ้านเรือนปัจจุบันอยู่สุขสบาย ยกตัวอย่างเช่น - การสร้างห้องนอนใหญ่อยู่บนห้องครัวจะทำให้เจ้าของบ้านอยู่ไม่สุขสบาย - บันไดบ้านควรจะลงขั้นด้วยเลขคี่(ไม่รวมชานพัก){{{ความเชื่อตามหลักไสยศาสตร์บันไดคู่บันไดผี-บันไดคี่บันไดคน}}} - บันไดบ้านควรจะเดินวนขวา - บันไดบ้านไม่ควรจะขึ้นลงทางทิศตะวันออกหรือตก{{{ขึ้นลงบันไดตอนเช้าเย็น มองสวนตะวันจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย}}} - การถมบ่อน้ำก่อนสร้างบ้านจะทำให้คนในบ้านมีอันเป็นไป จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 6 ก.ย. 46 13:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรือนพักอาศัยล้านนานั้นพอจะแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 3 ประเภท  ตามวัสดุก่อสร้างและรูปทรงดังนี้ 1.) เรือนเครื่องผูกหรือเรือนไม้บั่ว คำว่า ไม้บั่ว คือไม้ไผ่ ในภาษากลาง 2.) เรือนไม้จริงหรือ เรือนเครื่องสับ แบบประเพณีนิยมของล้านนา บางท่านเรียกเรือนชนิดนี้ว่า “เรือนกาแล” 3.) เรือนไม้จริง ที่วิวัฒนาการรูปทรงไปจากเรือนกาแล (เรือนสมัยกลาง) <><><><> เรือนเครื่องผูก <><><><>      เรือนประเภทที่ 1 นั้น ยังหาดูได้ทั่วไปตามชนบทและหมู่บ้านต่างๆ เรือนชนิดนี้โครงสร้างส่วนหลังคาตง พื้น ใช้ไม้ไผ่ ส่วนคานและเสานิยมใช้ไม้เนื้อแข็ง ฝาเป็นฝาไม้ไผ่ สานหลังคามุงแฝก หรือใบตองตึง (ใบพลวง)นิยมใช้ตอกและหวายเป็นตัวยึดส่วนต่างๆ ของเรือนเข้าด้วยกันแบบวิธีผูกมัด เป็นเรือนขนาดเล็ก ถือว่าเป็นเรือนแบบดั้งเดิม เพราะวิธีการก่อสร้างเป็นระบบวิธีการที่เก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันนี้ชาวบ้านที่มีรายได้น้อย ยังนิยมปลูกสร้างกันอยู่ทั้งภายในตัวเมืองและชนบท แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 46 18:12:13 จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 6 ก.ย. 46 13:16:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วันนี้มาเล่าแค่นี้ก่อนดีกว่า ผมขอเวลาหาภาพประกอบให้ มากกว่านี้หน่อย ลงรูปเล็กพอประมาณเนื้อเรื่องน่าเบื่อ น้อยๆดีกว่า ส่วนใครอยากได้รายละเอียดการปลูกเรือน ล้านนา อดใจรออีกนิดครับ ผมจะทะยอยเล่าสักหลาย อาทิตย์เลย เอารูปไปดูกันดีกว่า ภาพเรือนไม้บั่ว(เรือนเครื่องผูก) จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 6 ก.ย. 46 13:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรือนพญาวงศ์ เรือนกาแลที่มีขนาดใหญ่ จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ "พญาวงศ์" ผู้เป็นเจ้าของเรือนนี้ เป็นนายแคว่นหรือกำนัน อยู่ที่บ้านสบทา แขวงปากบ่อง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เรือนไม้สักขนาดใหญ่ที่มีเข้าลิ่มตอกสลักอย่างดีแทบไม่ปรากฏรอยตะปู เป็นเรือนที่ปลูกสร้างโดย ลูกเขยของพญาวงศ์ ชื่อว่า พญาอุด ซึ่งท่านเป็นนายแคว่นบ้านริมปิง เมื่อประมาณ พ.ศ. 2440 เมื่อพญาวงศ์ได้เสียชีวิตลง ลูกหลานก็ไม่มีผู้ใดอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้อีก ต่อมาพระครูเวฬุวันพิทักษ์ (เขื่อนคำ อตตสนโต) เจ้าอาวาสพระพุทธบาทตากผ้า เจ้าคณะ อำเภอป่าซาง ได้ไปพบเรือนหลังนี้ จึงถามซื้อและได้รื้อมาปลูกสร้างไว้ที่วัดสุวรรณวิหาร บ้านแม่อาว ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสที่วัดนี้ด้วย หลังจากนั้นนายแฮรี่ วอง ชาวสิงคโปร์ ได้ซื้อไว้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2541 มูลนิธิ ดร.วินิจ-คุณหญิงพรรณี วินิจนัยภาค ได้มอบเรือนหลังนี้ให้แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยสนับสนุนการรื้อถอนและย้ายมาปลูกตั้งอยู่ในสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปัจจุบัน แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 46 18:21:22 จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 6 ก.ย. 46 13:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เรือนกาแล ที่บ้านวัวลาย ตำบลประตูหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่(ถ่ายเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๑๗) จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 6 ก.ย. 46 13:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรือนกาแล เมืองน่าน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 6 ก.ย. 46 13:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ๒.เรือนกาแล เมืองน่าน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 6 ก.ย. 46 13:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จากคุณ : ป้า...สวย - [ 6 ก.ย. 46 15:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จากคุณ : Batgirl 2001 - [ 6 ก.ย. 46 17:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดูๆไป น่ากลัวแทนฮ่ะ จากคุณ : ห้องนี้มีรักให้พักพิง - [ 7 ก.ย. 46 02:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับป้าสวย แฟนประจำที่อีกหน่อยคงไม่มีเวลาเข้ามาอ่านกระทู้แล้ว และขอแสดงความยินดีต่อหน้าที่การงานที่ขยับสูงขึ้นของป้าสวยด้วยครับ ถือโอกาสจากกระทู้นี้เสียเลย ฮี่ๆๆๆ สวัสดีพี่ไก่ ขอบคุณครับที่อุตส่าห์ทำเครื่องหมายกันหลงไว้ให้คนข้างหลังซึ่งเป็นวิธีของชาวอเมซอน ที่ยังใช้กันอยู่ (เคยดูหนังคนป่าอเมซอนสมัยเด็กๆจำได้ไม่ลืมเลยสาวๆในเรื่องอึ๋มๆแบบพี่ไก่ทั้งน้านนน) สวัสดีคุณ"ห้องนี้มีรักให้พักพิง" อันที่จริงแล้วบ้านทางล้านนาอยู่อาศัยสุดจะสุขสบายเลยครับอบอุ่นน่าอยู่ไม่ว่าหน้าร้อนหน้าหนาวในห้องในบ้านเรือนไม้ อบอุ่นจริงๆครับ นับเป็นความชาญฉลาดในการออกแบบส่วนหลังคา-มุมลาดเอียง-ตลอดจนพื้นไม้และฝาบ้านที่ตีขัดไม่เหมือนเรือนทางภาคกลางครับ รายละเอียดผมจะนำมาเล่าทีละหน่อยกันเอียนในครั้งต่อไปครับ ส่วนเรื่องความน่ากลัวของตัวเรือนคงเป็นที่มุมมองของคนครับ อีกทั้งเรื่องเล่าขานที่พวกเราซึมซับกันมาแต่วัยเด็กว่าบ้านเก่าน่ากลัวบ้านเก่าผีดุนั่นเป็นเพราะเรื่องชีวิตวิญญาณที่ผูกพันกับที่อยู่อาศัย เพราะบ้านเป็นที่ให้ความสุขความอบอุ่นไงครับไม่ว่าอยู่หรือไปก็ยังผูกพันอยู่(เรื่องวิญญาณและผีนั้นผมไม่ได้บอกว่ามีจริงหรือไม่จริงนะครับ ไม่ขอออกความเห็นละกัน) ทิ้งลิ้งค์น่าอ่านไว้ให้ตามไปดูกันครับ ผมเองก็ยังไม่เคยไปเหมือนกัน ชักอยากพาเด็กๆไปดู"การผจญภัยของต๊กโต" แล้วสิ ใครสนใจโทรนัดกันไปดูกันเอาไหม อยากเห็นบ้านคำเที่ยงด้วยว่าสวยงามขนาดไหน http://www.kapook.com/content/publish/article_13294.shtml จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 7 ก.ย. 46 10:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไปเชียงใหม่คราวหน้านี้...จะมีโอกาสได้พัก...เฮือนโบราณ... หรือเปล่าคะ คุณอีกาฯ จากคุณ : ดาวพระเสาร์ - [ 8 ก.ย. 46 12:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีพี่ดาวพระเสาร์ ไปเชียงใหม่คราวหน้าเราคงได้ดูโคม แขวน เกี่ยวแขนคนที่เรารักปล่อยโคมลอยสะเดาะเคราะห์ กันด้วยค่ะ กิจกรรมของเด็กๆคงไม่พ้นลอยขโมดกับ เล่นพลุไฟสีสวยๆไร้เสียงดังกันแน่ๆล่ะ ตบท้ายของทุกคืน ด้วยการจิบเหล้าจิบไวน์นั่งชมจันทร์เต็มดวงที่จะผลุบมา จากยอดเขาข้างๆบ้านอีกด้วย....และที่สำคัญหากอยาก เมาก็เมากันได้เต็มที่ ขอแค่คลานกลับเข้าห้องในบ้านได้ก็ โอเคแล้ว.....ที่เหลือเป็นธุระดูแลของ "คุณสนอง" ต๊กโต ประจำบ้านหลองข้าวอยู่เฝ้ายามล่ะค่ะ ต๊กโต=ตุ๊กแก จากคุณ : แม่กรุ๊งกริ๊ง - [ 8 ก.ย. 46 15:39:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตื่นเต้นจังเลย อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ...แต่ว่า แม่กรุ๊งกริ๊งคนสวยขา...ช่วยซื้อตั๋วเครื่องบินให้คุณสนองไปเที่ยวต่างประเทศชั่วคราวได้มั้ยคะ... พี่ดาวกลัวต๊กโตมั่กๆๆค่ะ จากคุณ : ดาวพระเสาร์ - [ 8 ก.ย. 46 16:05:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณค่ะพี่อีกาฯ ว่าแต่ว่าจะเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่เมื่อไหร่ดีค่ะ เวลาเข้ากระทู้ตอนกลางวันอาจจะหายไป... แต่กลางคืน ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ... ----------------------------------------------------- พี่ดาวพระเสาร์ขา ต๊กโต พี่อีกาสั่งได้ค่ะ.....เงียบเดี๋ยวนี้ จากคุณ : ป้า...สวย - [ 8 ก.ย. 46 16:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณค่ะพี่อีกา จากคุณ : ตรีจิตร - [ 8 ก.ย. 46 23:25:47 ]