ความคิดเห็นที่ 1 <><> ตั่งแว่น <><> คือโต๊ะเครื่องแป้งเตี้ย ๆ มีกระจกเงา นิยมเก็บไว้ในห้องหรือห้องแต่งตัวของลูกสาว ใช้วางเครื่องประทินโฉม เครื่องประดับและเครื่องใช้ในการตกแต่ง ใกล้ ๆ ตั่งแว่น มีตู้ไม้สักและสลักลวด ลายใช้บรรจุเสื้อผ้า บางบ้านจะมีหีบ สำหรับอบร่ำเสื้อผ้าให้มีกลิ่นหอม ทำด้วยไม้จริงหรือไม้สานทารักและชาด เรียกว่า เอิบ จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 10:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตั๋งแว่น ตั่งแว่น ก๊างแว่น โต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆที่มีกระจกเงาส่องหน้าด้วย สมัยก่อนจะเป็นแผ่นทองแดงขัดเงาวับก่อนมาใช้กระจก ภาคกลางเรียก "คันฉ่อง" หากติดยึดแขวนกับฝาหรือผนังเรียก "ก๊างแว่น" แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 46 10:45:36 จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 10:43:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรือนไฟ เป็นห้องครัว โดยทั่วไปจะเป็นเรือนเล็กอีกหลังหนึ่ง แต่มีส่วนเชื่อมกับเรือนหลังใหญ่ มีชุดเตาไฟเป็นกระบะไม้สี่เหลี่ยมภายในถมดินให้แน่น มีก้อนเส้า 3 ก้อนไว้ตรงกึ่งกลาง ใช้เป็นเตาไฟ รอบ ๆ ก้อนเส้าจะวางภาชนะเครื่องครัวต่าง ๆ เช่น ภาชนะบรรจุอาหารหมักดอง เครื่องใช้ไม้สอยในครัว ส่วนบนสุดที่หน้าเตา จะมีตะแกรงไม้สานโปร่งแขวนไว้กับเพดาน เป็นที่วางอาหารแห้ง พริก หอม กระเทียม ฯลฯ ที่จำเป็นต้องรมควัน เพื่อยืดอายุอาหารนั้น ๆ เรียกว่าถนอมอาหาร ครัวไฟใช้เป็นที่ประกอบอาหาร ในเทศกาลสงกรานต์และเดือนยี่เป็ง แม่บ้านจะนำดอกไม้ ธูปเทียนใส่กระทงใบตองไปวางไว้ในบริเวณที่เรียกว่า แม่จิไฟ เพื่อบูชาไฟ และมีความเชื่อว่า เครื่องครัวทุกอย่างจะต้องดูแลให้อยู่ในภาพดี ถ้าชำรุดต้องนำไปดัดแปลงใช้ประโยชน์อย่างอื่น ห้ามนำไปทิ้งหรือเผาไฟ เพราะจะเป็นเหตุให้คนในบ้านอยู่ไม่เป็นสุข เรียกว่า ขึด จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 10:53:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ภูมิปัญญาที่แสนฉลาดและช่างสังเกตของคนล้านนาที่ผมเคยมองข้ามไปคือห้องครัวนี่แหละ ทุกบ้านที่ผมเคยไป ห้องครัวของพวกเขาแม้จะดูไม่สะอาดมากนักมีแต่สีเขม่าที่ผนังและฝ้าตะแกรง แต่มีส่วนระบายอากาศที่ดีนัก อีกทั้งมดมอดปลวกไม่มีเลยเพราะควันจากการหุงต้มทำอาหาร นี่แหละครับที่ช่วยดูแลบ้านในบริเวณครัวไฟให้ปราศจากการผุพังจากแมลงทำลายไม้ อีกทั้งมีการระบายอากาศที่ดีไม่มีกลิ่นอับใดๆเลย จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 10:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ที่รับประทานอาหาร ชาวล้านนานิยมรับประทานอาหารในครัว ถ้ามีแขกมาร่วมด้วยจะย้ายมาที่เติ๋น การรับประทานอาหารนิยมนั่งบนเสื่อ ใช้ขันโตกวางถ้วยอาหาร รับประทานกับข้าวเหนียวในกล่องข้าว มีคนโทน้ำดื่มจอกหรือขันน้ำ แอ๊บยาเส้น ถ้วยเมี่ยง บริเวณบ้านล้านนาร่มรื่น มีตัวเรือนเป็นประธานรายรอบด้วย ฉางยุ้งข้าว ผามมองตำข้าว (โรงสำหรับตั้งครก กระเดื่องตำข้าว) บ่อน้ำ ต๊อมน้ำหรือห้องอาบน้ำ หลังบ้านใช้เป็นที่ตากผ้า ตากพืชพันธุ์และใช้ประโยชน์อื่นๆ บริเวณ ที่เหลือจะปลูกไม้ผล ไม้ดอก และพืชผักสวนครัว ซึ่งปลูกในรั้วรอบเตี้ย ๆ กันสัตว์เลี้ยง สะอาด น่าอยู่และสะดวกต่อ การอยู่อาศัย ตลอดจนมีพืชผล ไม้ดอก ผัก เป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตที่เรียบง่าย สงบ สบายตามแบบล้านนา จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 10:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มุมมองจากใต้ถุนตัวเรือนใหญ่ จะเห็นหลองข้าวและผามมองตำข้าว(โรงสำหรับตั้งครกกระเดื่องตำข้าว) จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 11:05:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ชาวล้านนาจะใช้บริเวณบ้านให้เกิดประโยชน์ ทั้งทางด้านความสวยงามตามธรรมชาติและประโยชน์ใช้สอย อาทิ รั้วบ้าน จะปลูกพืชผักและดอกไม้ที่รับประทานได้ เช่น ตำลึง ดกสลิด (ดอกขจร) เป็นต้น นอกจากนั้น จะมี ข่า ตะไคร้ ไพร ขมิ้น ประเภทผักสวนครัวรั้วกินได้ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงมานานแล้ว นอกจากนี้ ยังมีต้นหมากผู้ หมากเมีย พลู ดอกไม้ สำหรับงานบุญ (ไปวัด) เช่น ต้นสบันงา พุดซ้อน กุหลาบมอญ โกศล สายน้ำมิ้น ซอมพอ (หางนกยูงเล็ก) ใต้ถุนบ้านจะวางตั่ง ซึ่งใช้ได้ทั้งนั่งเล่น นอนเล่นตอนกลางวัน ตลอดจนให้เป็นที่ทำงาน เช่น จักสาน แกะสลัก ทำผ้า ฝั่นเชือก เป็นต้น จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 11:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พืชริมรั้ว...เศรษฐกิจพอเพียงที่มีมานานแล้วของคนทางนี้ จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 11:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พืชสวนครัวริมรั้วที่มีกันทุกบ้าน ไม่ต้องซื้อ ขอกันได้สบายมาก จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 11:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เนื่องจากระบบเศรษฐกิจของล้านนาดั้งเดิมเป็นระบบเศรษฐกิจเพื่อยังชีพ การผลิตจึงต้องผลิตเพื่อเลี้ยงตนเอง ฉะนั้นชาวบ้านส่วนใหญ่จำต้องปลูกพืชผลต่างๆ ไว้รับประทาน ยังผลให้สภาพแวดล้อมของบริเวณที่พักอาศัย และหมู่บ้านแต่ละแห่ง มีลักษณะทางภูมิทัศน์เป็นลักษณะสวนเกษตรผสมผสาน มีบรรยากาศร่มรื่นจนดูเป็นป่าอาหารรายล้อมบ้านที่พักอาศัย และอีกทั้งภูมิประเทศของล้านนาเป็นภูเขาสูงใหญ่น้อยเรียงรายสลับซับซ้อนถึง 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมด ป่ากว้างใหญ่ไพศาลจึงนับเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติแหล่งใหญ่ของล้านนาทีเดียว หมู่บ้านล้านนานั้นจะมีลำเหมืองเพื่อส่งน้ำและระบายน้ำ ขุดเป็นโครงข่ายวกวนผ่านขอบริมของแต่ละหมู่บ้าน สู่บริเวณทุ่งนากว้างไหลลงสู่ธารน้ำใหญ่ต่อไป เหมือง=คลองลำเลียงน้ำ คลองระบายน้ำ ทางระบายน้ำ จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 11:18:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ทางเดินรอบๆบ้านสู่ที่นาที่สวน จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 11:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ข้อมูล : จากหนังสือ"เรือนไทย" จัดทำโดย สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณ : ห้องสมุดประชาชน จังหวัดน่าน ข้อมูลจาก นครน่านดอทคอม ภาพคคห.ที่2จากชมรมส่งเสริมสล่าล้านนา แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 46 18:10:59 จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 11:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หายไป 3 วัน กลับมาแทบอ่านไม่ทันเลยค่ะ จากคุณ : Batgirl 2001 - [ 11 ก.ย. 46 13:27:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 @@@@@@@@@ บอกกล่าวท้ายกระทู้ @@@@@@@@@ หลายคนอ่านตามไม่ทัน คนเขียนจะมันส์ได้ยังไง (((แหมกว่าจะรู้ตัว ไมช้าจัง))) เอาเป็นว่าผมจะหยุดพักการโพสท์กระทู้สักระยะนึงแล้วกัน อีกอย่างความตั้งใจเดิม แค่มาโพสท์อะไรที่เป็นสาระ หน่อยๆได้ความรู้เยอะๆ เราคนไทยเองเรื่องบางเรื่องของ เรากลับไม่รู้เลย ผมเคยโดนชาวต่างชาติถามบางเรื่องอาย มันก็หลายหน ก็ไอ้พวกนี้มันมาเมืองไทยทีนึงศึกษาจาก แผ่นปิดบ้างคู่มือเที่ยวเมืองไทยบ้าง เราเสียอีกที่ไม่สนเลย เหตุที่สองที่ตั้งกระทู้มาตั้งแต่ก่อนมีตติ้งสองสามวัน เพราะ เห็นว่ากระทู้เงียบเหงามานานจนเซ็งผมอ่านยังเซ็งเลย ก็คิดเอาว่า อีกหน่อยสมาชิกเก่าก็หายหมด สมาชิกใหม่ก็ ไม่อยากแวะเวียนมาสนุกด้วยแน่ๆ เป็นสมาชิกสามห้าอัพมานาน ปีแรกผมตั้งกระทู้สมัครแค่กระทู้เดียว ปีที่สองตั้งกระทู้สองกระทู้ เรื่องชวนเล่นเน็ตฟรีกับเตือนเรื่องไวรัส ปีที่สามคงบ้าไปแล้วตั้งกระทู้เรื่องเล่าจากล้านนาไป๕๙กระทู้ กระทู้บ้าบออีกร่วมสิบ มาคิดๆดูเออหนอ...ผมเปลี่ยนตัวเองได้ขนาดนี้เลยหรือ.... สรุปหลังพร่ำเพ้อสั้นๆว่า ผมจะหยุดเรื่องเล่าจากล้านนา กระทู้อัดแน่นด้วยสาระแบบหัวขโมยไปสักระยะนึงก่อน หลังจากงานกีฬาสีที่ปากช่องผ่านพ้นไปแล้วค่อยมาว่ากันใหม่ ดีไหมครับ..... จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 17:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ้าว อะไร จะมาหยุดกันง่ายๆขนาดนี้ได้ไงคะ ยังอ่านอยู่นะจ๊ะ เห็นมะ ยังเข้ามาตั้งสองครั้ง ไม่โกหกหรอก จากคุณ : Batgirl 2001 - [ 11 ก.ย. 46 21:22:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอาน่าพี่ค้างคาวสุดสวยจ๋า.... "เรื่องเล่าจากล้านนา"ของผม มันเป็นเรื่องที่ต้อง รู้จำเอาความกันน่ะครับ อ่านทุกตอนแบบต่อเนื่อง ก็จะทำให้ตามทันและเข้าใจเนื้อหาโดยตลอด เพราะจะมีความอ้างถึงทั้งเนื้อเรื่องและศัพท์แสง ที่พี่ต้องเจออยู่เรื่อยๆเชียวนา..... เอาไว้จบเรื่องเรือนกาแลและเรือนโบราณตามที่ผมจั่วหัว เรื่องแสนยาวคราวนี้ผ่านไปแล้ว ต่อไปคราวหน้าผมจะหา ทางเล่าเรื่องเอาแบบที่ใครว่างมาอ่านก็ได้ อ่านตอนไหนก็ ได้ คือเป็นเรื่องแบบไม่ต่อเนื่องดีไหมครับ เข้าทำนอง "ซะป๊ะล้านนา" ดีไหม (ซะป๊ะ น่าจะหมายถึงสารพัดน่ะครับ) คือต่อไปจะเสนอเรื่องราวตอนเล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวกับคนทาง ล้านนา น่าจะดีกว่า คือใครติดธุระการงานไม่ว่างหรือเบื่อ ก็สามารถข้ามตอนที่ติดไม่ได้อ่านไปได้ มาอ่านตอนที่ กำลังโพสท์หมาดๆจะได้ไม่เสียรสชาด ดีไหมเอ่ยยยย ส่วนใครที่อยากเซฟและอยากเสพไปเสียทุกตอน คงต้องหาทางเอาเองแล้วล่ะครับ....หากอีกาฯมีเวลา คงหาทางไร้ท์ลงซีดีแบบนายหมอนฯว่านั่นก็คงได้ แต่แหม...มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ หากอยากจะได้กัน จริงๆ ผมนึกสนุกเมื่อไรผมหาคำถามจากเรื่องที่เคยโพสท์ๆ ไปมาถามแล้วทำเป็นแจกรางวัล ไม่สนุกกว่าหรือครับ อิอิ จากคุณ : อีกาสีขาว - [ 11 ก.ย. 46 21:46:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โห...ต้องตอบคำถามชิงรางวัลเลยเหรอ เหมือนสอบเลยน่ะ งั้นต้องกลับไปท่องหนังสือก่อนแล้ว แต่เอาแบบจบในตอนก็ดีค่ะ อ่านง่ายดี สำหรับคนที่เข้ามาบ้างเป็นบางวัน เอาแบบไหนก็ได้ แต่ห้ามหายไป เดี๋ยวเข้ามาไม่มีกระทู้ให้คลิก ค้างคาวยิ่งเป็นโรคจิต ต้องคลิกทุกกระทู้ จากคุณ : Batgirl 2001 - [ 11 ก.ย. 46 22:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตามอ่านมาทุกตอน ไม่เคยเบื่อเลยค่ะ คุณอีกาสีขาว สนุกสนาน ได้ความรู้เกี่ยวกับล้านนาเยอะแยะเลย ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : hayashimali - [ 13 ก.ย. 46 06:21:25 ]