++ KAEW ไดอารี่ ++ หมูแก้ว นั่งสมาธิ

    วันเกิดปีนี้ เป็นปีที่เตรียมของขวัญไว้ให้ตัวเอง โดยการสมัครไปนั่งสมาธิ ตอนแรกๆที่พี่เหมียวชวนก็อยากๆไป แต่ความขี้เกียจมีมากกว่าก็เลยเฉยๆ แต่พอพี่เหมียวชวนอีกครั้งพร้อมทั้งให้รายละเอียดว่าไปช่วง 21 – 27 กันยานะ ยังเริ่มสนใจเพราะตรงกับช่วงวันเกิดของหมูแก้วพอดี

    หลังจากคิด 8 ตลบหมูแก้วก็ตัดสินใจสมัคร เพราะอยากจะให้ของขวัญกับตัวเองบ้าง และถือโอกาสพักผ่อนไปในตัว แต่ก็มีแอบหวั่นไหวว่าเราจะอยู่ได้เหรอ ตื่นมาทำวัตรเช้าตอนตี 4 กินข้าว 2 มื้อก่อนเพล ก่อนไปมีการซ้อมอดข้าวเย็น แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากอกไปได้ 3-4 วันจะเกิดอาการซึมๆ หงอยๆ และดูโง่ๆ เลยต้องกินข้าวเหมือนเดิม

    ใกล้ถึงวันที่จะต้องเดินทาง งานก็เริ่มเข้ามา 25 กันยาเริ่มงานกินเจที่เยาวราช เว็บแก้วไดอารี่ ไปขายธูป ขายดอกบัวเพื่อเอาเงินไปซื้อยาต้านไวรัส HIV ให้เด็กกำพร้าติดเชื้อเอดส์ ที่บ้านแกร์ด้า ลพบุรี ตอนแรกว่าจะยังไม่กลับมา แต่เริ่มห่วงงาน มันยังงัยไม่รู้ เพราะงานนี้มันเป็นงานใหญ่ งานหนัก กลับมาช่วยเพื่อนๆทำดีกว่า

    พี่เหมียวเพื่อนรุ่นพี่ที่แสนดี ก็บอกว่าไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจะให้พี่อึ่ง ซึ่งเป็นน้องสาวพี่เหมียว กลับมาพร้อมหมูแก้ว พอใกล้วันเข้ามาอีก ก็มีงานด่วนคือ ทางบ้านแกร์ด้าขอให้ไปช่วยบรรยายเรื่องราวของเด็กบ้านแกร์ด้า ให้ผู้คนที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกตฟัง เพราะเค้าจะมีกีฬา แล้วแบ่งเงินส่วนนึงให้บ้านแกร์ด้า

    งานมีบ่าย 2 โมง วันที่ 24 กันยา ทำยังงัยดีหล่ะทีนี้ หมูแก้วเลยว่าจะเอารถไปเอง จะได้กลับมาก่อนได้ แต่ที่บ้านไม่อยากให้ขับรถทางไกลคนเดียว ก็ได้พี่เหมียว และ พี่อึ่งอีก ที่บอกว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องเอารถไป แต่จะเอาหมูแก้วกลับเข้ากรุงเทพก่อนบ่าย 2 เอง ……….. เฮ้อ เกรงใจจังเลย

    วันเสาร์ที่ 20 หมูแก้วตะลอนทัวร์อยู่กับเด็กๆบ้านแกร์ด้า ไปเยี่ยมลูกๆ เมจิลูกสาวหมูแก้วช่วงนี้แข็งแรง อารมณ์ดีแบบผิดปกติ ลูกเกาะแข้งเกาะขาอยู่ตลอด พูดได้มากขึ้นด้วย ถามว่ารักแม่แก้วเท่าไหน เมจิกางมือสุดแขนเลย ชื่นใจจัง เล่นกับลูกทั้งวัน กลับถึงกรุงเทพค่ำแล้ว ระหว่างทางกลับบ้านเริ่มๆปวดหัว ถึงบ้านก็จาม 10 ตลบ ลางร้ายเริ่มปรากฏ

    ด้วยอาการของ AIDS ทำให้ผู้ติดเชื้อจะมีอาการภูมิแพ้ด้วย แต่ก่อนหมูแก้วก็ปกติดี แต่ตอนนี้แพ้อากาศ แพ้นู่นแพ้นี่ ถ้าจามติดๆกันแบบนี้ก็เตรียมใจได้เลย มันจะหายใจไม่ได้ ทรมานมาก จามไป ป้ายน้ำมูกไป จัดกระเป๋าไป

    วันอาทิตย์ที่ 21 พี่เหมียว พี่อึ่ง มารับที่บ้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า พี่เหมียวขับไป 1 คัน ส่วนหมูแก้วไปกับพี่อึ่ง อากาศยามเช้าสดใสดีมาก แต่หมูแก้วต้องแอบหายใจทางปาก(ต้องแอบเพราะกลัวไม่สวย) เรามุ่งหน้าตรงไปที่ บ้านบุญ อยู่ที่อำเภอปากช่อง นครราชสีมา ที่บ้านบุญ เป็นรีสอทร์ส่วนตัว ของผู้ใหญ่ท่านนึง แล้วเปิดให้เป็นสถานปฎิบัติธรรม ก็เลยบรรยากาศดี สะดวกสบายพอควร

    8 โมงเช้ากว่าๆ นั่งฟังท่านชยสาโร ซึ่งเป็นพระชาวอังกฤษ อยู่วัดป่านานาชาติ(สาขาของวัดหนองป่าพง) เทศน์ ต่อจากนั้นก็นั่งสมาธิ หมูแก้วลืมตาบ้องแบ๋ว เพราะหลับตาไม่ได้ หลับตาเมื่อไหร่ ก็หลับเมื่อนั้น แถมหายใจไม่ได้เลย ต้องฉวยโอกาสตอนคนอื่นหลับตานั่งสมาธิอ้าปากหายใจแบบสะดวกๆ แต่ยิ่งนานเข้ายิ่งทรมาน ปวดหัว ปวดตา หายใจไม่ออก

    10.30 ปล่อยลงมาทานข้าวกลางวัน อาหารมังสวิรัติอร่อยดี กินข้าวเสร็จทานยาแก้ไข้ แต่ไม่ดีขึ้นเลย วันแรกเป็นวันที่ให้ปรับตัว ช่วงกลางวันจะยังว่าง ให้กลับไปพักที่บ้านพักก่อนได้ แล้วค่อยมาทำวัตรเย็น แต่เนื่องด้วยกลุ่มของพี่เหมียวเป็นกลุ่มใหญ่พอประมาณ ต้องรอไปพร้อมๆกัน หมูแก้วเลยต้องอ้าปากพะงาบๆไปเรื่อยๆ

    บ่ายได้ไปบ้านพัก รีบพุ่งตรงไปห้องน้ำ เปิดน้ำดังๆ แล้วสั่งน้ำมูก จมูกโล่งชั่วคราว แต่ยังปวดหัวอยู่ เลยถอดคอนแทดเลนส์ แล้วนอน พี่เหมียว พี่อึ่งชวนเล่นโยคะ แต่ไม่ไหวแล้ว นอนดีกว่า นอนสักพักไม่ดีขึ้น ลุกมากินยาซ้ำอีกทีแล้วนอนต่อ

    ตื่นมาเหตุการณ์ดีขึ้นนิดหน่อย ไม่เป็นไข้ ไม่ปวดหัวเท่าไหร่ แต่หายใจไม่เข้าเหมือนเดิม ไปทำวัตรเย็นตอน 6 โมง ทำไมสวดมนต์กันเก่งจัง ขนาดหมูแก้วอ่านตามหนังสือยังอ่านผิดอ่านถูก พระอาจารย์ที่จะมาฝึกอบรมให้ คือท่านคเวสโก เป็นพระญี่ปุ่น ท่านมีวัดอยู่ที่เมืองกาญจนบุรี ท่านอ่านหนังสือหมูแก้วด้วยนะ แล้วเคยให้ลูกศิษย์ติดต่อมาว่าให้มาเอายาสมุนไพรของญี่ปุ่นไปทาน

    หมูแก้วเลยไปกราบท่านที่เสถียรธรรมสถาน ตอนท่านเข้ามาเทศน์ ได้ยาสมุนไพรมา 1 ห่อใหญ่ เป็นแคปซูลใสๆ ข้างในเป็นผงๆสีน้ำตาล ท่านอธิบายว่าเป็นสมุนไพรญี่ปุ่น ตอนท่านกลับไปญี่ปุ่นมีคนนำมาถวาย เป็นยาบำรุง ข้อบ่งใช้ของยาคือให้ทานตอนบ่าย 2 กับ ตี 2 ตอนแรกหมูแก้วนึกว่าฟังผิด แต่ไม่ผิดแฮะ ตี 2 จริงๆ ก็ทานอยู่ 2-3 วัน แล้วก็ไม่ตื่นมากินอีก

    หมูแก้วทานบ้างไม่ทานบ้าง เพราชอบลืมทานยา ท่านก็มีเมตตาให้พี่ที่เป็นลูกศิษย์ส่งเมลล์มาถามเรื่อยๆว่าหมูแก้วเป็นอย่างไรบ้าง ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ได้ไปกราบท่านอีกครั้ง

    การทำวัตรเย็นครั้งแรกในชีวิตของหมูแก้ว ทรมานจริงๆ (ตลอดการฝึก เราต้องนั่งกับพื้นตลอด มีเบาะบางๆรอง) พลิกซ้าย พลิกขวา พับเพียบ คุกเข่า นั่งทับส้น เปลี่ยนมาทุกท่าแล้ว ยังสวดไม่จบอีก ก็เลยลงเอยที่นั่งขัดสมาธิสวดมนต์

    สวดจบ ใช่ว่าจะพ้นทุกข์ ปิดไฟนั่งสมาธิอีก นั่งนานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอบอก นั่งไปสักพักท่านก็เริ่มเทศน์ไปด้วย เมื่อยขาสุดๆ เหน็บกินจนชาไปหมด ง่วงนอนเพราะกินยาไปเยอะ หายใจก็ไม่ได้ แถมห้องเงียบมาก ไม่กล้าหายใจแรง ต้องกระมิดกระเมี้ยนสูดอากาศ

    นั่งอยู่อย่างนั้นจน 4 ทุ่มกว่า ถึงได้กลับที่พัก กินยาแก้แพ้อีกรอบ หัวถึงหมอนหลับสนิท ตี 3 กว่าตื่นนอน ไปทำวัตรเช้าตอนตี 4 หุหุ ชีวิตตู

    สวดมนต์ทำวัตรเช้ายาวมากอีกเช่นเคย สวดไม่ได้เหมือนเดิม ทรมานมากเพราะหัวจะคะมำตลอด กระพริบตานานไม่ได้ เพราะถ้าเปลือกตาติดกันเกิน 2 วินาที หมูแก้วจะหลับ กลัวจะหัวทิ่มไปโดนคนข้างหน้า สวนมนตร์เสร็จนั่งสมาธิอีกแล้ว หลับหัวสั่นหัวคลอน

    6โมงเช้า ลงไปฝึกชี่กง ง่วงนอนจนปวดหัว เลยขอสมัครเป็นผู้ดูก่อน อาจารย์ที่สอนอายุเยอะแล้ว แต่ยังแข็งแรง หน้าใสเด้งอยู่เลย นั่งจิบกาแฟ ดูเค้าฝึกชี่กง ก็แปลกๆดี มีเพลงประกอบเป็นเพลงจีน แล้วท่าเหมือนหนังกำลังภายใน เหมือนนางเอกหนังจีนกำลังรำอยู่ในสวนเลย

    เสร็จจากชี่กง ก็ทานข้าวเช้า อาหารที่นี่เป็นมังสวิรัติ กะ อาหารเจ ซึ่งอร่อยสุดๆ ทานเสร็จได้พักช่วงนึง แล้วเข้าห้องปฎิบัติธรรมต่อ นั่งสมาธิอีกแล้ว ทรมานจริงๆ ง่วงนอน ปวดขา เมื่อย มี pop-up ขึ้นในหัวตลอดว่า มาทำไมเนี่ย กลับบ้านเถอะ บอกเค้าจิว่าไม่สบายแล้วกลับไปนอน วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังใจแข็ง ถึงแม้จะยุกยิกตลอด แต่จะอยู่เหมือนคนอื่นให้ได้

    เป็นเหน็บจนขาชา ก็ได้เวลาเดินจงกรม ชอบมากได้เดินชมสวนด้วย แต่เดินเสร็จก็มานั่งสมาธิอีกแล้ว 10.30 กินข้าว ได้พักช่วงนึง 13.00 มานั่งสมาธิอีก pop-up ก็ขึ้นตลอดว่า กลับบ้านเถอะ ลุกขึ้นไปนอกห้องเถอะ แต่ก็ยังทนนั่งอยู่ ถึงแม้จะกระดุกกระดิก ยุกยิกตลอด ไม่ก็หลับหัวทิ่ม แต่หมูแก้วก็ยังไม่ลุกไปไหน

    ชีวิตวนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดวัน และ ทุกวัน หมูแก้วว่าเป็นการทดสอบจิตใจอย่างหนึ่งนะ ถ้าให้ประเมินตัวเอง หมูแก้วคงไม่ได้หลักธรรมอะไรกลับมาบ้านมากมายนัก เพราะสวดมนตร์ก็ไม่เป็น นั่งสมาธิก็ไม่นิ่ง แต่ที่หมูแก้วภูมิใจคือ ชนะใจตัวเอง หมูแก้วไม่เคยหนีการฝึก ไม่ลุกไปไหน ทั้งๆที่อยากจะไปใจจะขาด

    สิ่งที่ได้คือ ได้ความอดทน และ ใจเย็นขึ้นมาก ได้ฝึกการทนทรมาน นั่งสมาธิทั้งวันนี่ทรมานอย่างบอกไม่ถูกจริงๆนะ มันจะปวดหลัง ปวดเข่า เหมือนไปปีนเขามาเลยอ่ะ พระท่านบอกว่าจะได้รู้ถึงทุกขเวทนา แล้วท่านก็บอกว่าทุกสิ่งเป็นอนิจจัง เกิดมา ตั้งอยู่ และ ดับไป แต่เป็นเหน็บตั้งนานจนชาไปหมดแล้ว มันก็ตั้งอยู่อย่างนั้น ไม่ดับไปสักที

    สิ่งต่างๆเป็นการฝึกอาณาปานสติ คือการมีสติอยู่กับลมหายใจตัวเอง หมูแก้วว่ามีประโยชน์นะ มันจะทำให้นิ่ง ให้สงบลงได้เยอะ เวลาป่วยก็ช่วยได้นะ มันจะสงบ ความทรมานจะน้อยลงบ้าง(แต่ต้องอยู่ในท่าที่ถูกต้องนะ) จริงๆหมูแก้วก็ฝึกทุกวันนะ แต่นอนฝึกแล้วก็หลับไปเลย เพื่อนๆเริ่มจากนอนฝึกก็ได้ ง่ายดี หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ มีสติอยู่กับลมหายใจ ไม่คิดเรื่องอื่น สบายดีนะ ลองดูได้เลย

    หมูแก้วได้อยู่ที่บ้านบุญ 4 วัน แล้วก็กลับมาทำงาน โดยพี่อึ่งเสียสละ ขับรถมาส่ง เกรงใจจริงๆ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ปีหน้าหมูแก้วจะไปนั่งสมาธิอีก จะอยู่ให้ครบ 7 วันให้ได้เลย

    ขอบคุณพี่เหมียว พี่อึ่ง สำหรับทุกๆอย่างนะคะ

    จากคุณ : ++MooKaew++ - [ 30 ก.ย. 46 12:52:05 ]