*********แฟนทิ้งไป เพราะต้องกลายมาเป็นคนพิการ (ตอนจบ)*********

    กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก L2579908

    .........ไม่น่าเชื่อ เวลาผ่านไปเหมือนโกหก ๗ วันเต็มๆ ผมทำได้ในสิ่งที่ตั้งใจไว้ แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ดีเท่านั้นเองครับ เมื่อย้อนกลับไปดูตัวเอง มันตลกสิ้นดี แค่หักห้ามใจตัวเองไม่ให้โทรศัพท์ไปหาอดีตคนรักภายใน๗วัน แค่นี้ก็ต้องดูเหมือนทำให้คนอื่นมาเดือดร้อนด้วย ([^_^]จริงๆ เล๊ย ชีวิต) แต่ผมก็ยอมรับว่าวิธีนี้มันทำให้ผมผ่านไปได้ด้วยดี เหมือนเป็นตัวช่วยที่ผมเลือกไม่ผิด.........

    ........."มันจบไปแล้ว" คำๆ นี้ช่วยผมได้เยอะเลยครับ และก็หวังว่า "มันคงไม่มาเริ่มต้น" อีกครั้ง ผมคงไม่ตั้งเป้าหมายอะไรอีกแล้ว ๗ วันที่ผ่านมาอย่างน้อยทำให้ผม"เข้มแข็ง"ขึ้น และ "ความมั่นใจ" เริ่มกลับมามีมากขึ้นกว่าเก่า ลึกๆ แล้วผมรู้นิสัยตัวเอง น้อยครั้งมากที่ผมตั้งใจจะทำอะไรอย่างจริงจัง และไม่ประสบผลสำเร็จ แต่...เมื่อได้ผลดั่งตั้งใจแล้ว แทบทุกครั้งก็ปล่อยตัวเรื่อยเปื่อย ไม่คิดจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันต่อไป รอให้เกิดปัญหาเข้ามากระทบก่อนแล้วจึงคิดการแก้ไข.........

    .........การเข้าใจความเป็นจริง กับ ความรู้สึกของจิตใจ ถ้าบังเอิญมันสวนทางกัน มันยากเหมือนกันนะครับ ที่จะทำให้ความรู้สึกยอมรับกับความเป็นจริง.........

    .........ท่านคงไม่ลืมว่า ท่านกำลังอ่านความรู้สึกของคนที่สับสนกับตัวเองมากๆ เพราะสภาพร่างกายแปรเปลี่ยนไป ผมประสบอุบัติเหตุเมื่อ ๒๔ พ.ย.๔๔ ผ่านมาสองปีกับอีกสิบกว่าวัน ช่วงเวลาดังกล่าวทำให้ชีวิตผม ต้องพบผ่านอะไรใหม่ๆ ในชีวิตหลายอย่าง ซึ่งแต่ละอย่างมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย มันยิ่งกว่าขวากหนาม มันยิ่งกว่ากับระเบิด มันเป็นอะไรที่สามารถทำให้คุณจากโลกนี้ไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ถ้าคุณ "ท้อ" ถามว่าผมเคย "ท้อ" มั๊ย?.........

    .........หลายๆ ครั้ง ผมยอมรับความท้อแท้ มันเข้ามาเยือนบ่อยมาก โดยเฉพาะกับการเริ่มต้น แต่ก็ผ่านมันมาได้แทบจะทุกอย่าง บางอย่างก็แอบลืมๆ มันไปบ้าง ก็ถือว่าผ่าน ที่ผ่านมาถือเป็นประสบการณ์ชีวิต น้อยคนจะมีประสบการณ์เฉกเช่นผม (แสดงว่าผมได้กำไรมากกว่าคนอื่น ฮา!) และก็เชื่อได้เลยคงไม่มีใครในโลกแสนใจวุ่นวายใบนี้ อยากมีประสบการณ์อย่างผม แต่ผมก็อยากให้ทุกๆ คนรับรู้ เพื่อนำไปเป็นตัวช่วย ในยามที่ท่านคิดว่าท่านต้องการ.........

    ........."กาลเวลา" เป็นสิ่งๆ หนึ่งที่มนุษย์เราสมมุติมันขึ้นมา มันพร้อมที่จะเคียงข้างไปกับหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่าง แต่ในขณะเดียวกันมันก็พร้อมที่จะสวนทางกับบางสิ่ง บางอย่าง อยู่ที่เราจะเลือกมอง เราจะเลือกคิด แต่ที่แน่ๆ สำหรับผม "เวลา" ช่วยให้ลืมในสิ่งที่ไม่อยากจะจดจำมัน แต่ความเป็นจริงแล้ว "เวลา" ไม่ได้เป็นตัวช่วยหรอกดอกจะบอกให้ มันอยู่ที่ "ใจ" ตะหาก เพียงแต่เราเอาไปเป็นเงื่อนผูกกับกาลเวลา.........

    ......... ดูเหมือนคืนนี้ ผมเริ่มจะเรื่อยเปื่อย หาจุดจบไม่ได้ อย่าถือสากันเลยนะครับ มันเป็นคืนสุดท้ายแล้วสำหรับกระทู้นี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะสื่อให้รับรู้ แต่ก็ถามตัวเองตลอด เพื่ออะไร? เพราะตอนนี้ตัวเอง ยังเอาชีวิตตัวเองแทบไม่รอด ยังคงต้องประคองฝ่าฟันปัญหาในอีกหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่าง ที่มันพร้อมจะวิ่งเข้ามาชน ในขณะที่ผมยังไม่พร้อมจะรับรู้มันซักเท่าไร ได้แต่คิดว่า "อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด" ค่อยๆ แก้ไขมันไปที่ละเรื่อง ถ้ามันเข้ามาพร้อมๆ กันทีละหลายๆ เรื่อง ก็ไม่ยาก ระเบิดตัวเองให้มันจบไปพร้อมๆ กัน มันจะได้ไม่ไปก่อปัญหาให้คนอื่นอีก.........

    ........."ธรรมะ" คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ เป็นตัวช่วยชั้นเยี่ยมที่สุด ผมเคยบอกแล้ว ผมชอบศึกษา แต่ไม่ค่อยจริงจังนัก โดยเฉพาะมีปัญหาอะไรหนักๆ ทีก็หยิบมาอ่านที ผมขอสรุปความเข้าใจสำหรับผม ผมขอเรียกว่า "การดับทุกข์ในเบื้องต้น" นะครับ.........

    .........ณ เวลาใดก็ตาม ท่านไม่สบายใจ รู้สึกหงุดหงิด ฟุ้งซ่าน กลุ้มใจ สรุปว่า "ทุกข์ใจ" ถ้าเป็นผม ผมจะอยู่แต่กับตัวเอง และค้นหาตัวเองอย่างจริงจัง อะไรคือ "สาเหตุ" จิตใจของมนุษย์เราสรุปแล้วมีคิดแค่ ๒ ด้านครับ ชอบ-ไม่ชอบ หรือ รัก-เกลียด และเราก็เอาไปปรุงแต่ง กลายเป็น "ความอยาก" ถ้าชอบ-ก็อยากได้ ถ้าไม่ชอบ-ก็อยากเหมือนกัน อยากให้มันไปไกลๆ เจ้า "ความอยาก" เนี่ยแหละครับ ทำให้เราเป็น "ทุกข์" .........

    .........ทีนี้เราจะจัดการอย่างไรกับเจ้า "ความอยาก" ถ้าเราเปลี่ยนให้มันเป็น "ไม่อยาก" เสีย ท่านก็จะลืมไปเลยกับคำว่า "ทุกข์" พูดมันง่าย ผมบอกแล้วว่า บางสิ่งบางอย่างเราเข้าใจได้ แต่ มันสวนทางกับจิตใจของตัวเราเอง "ความเข้าใจ" อย่างเดียวมันคงยังไม่พอ ต้องสามารถบังคับ "จิตใจ" ตัวเองให้คล้อยตามด้วยครับ สำหรับผมบอกได้คำเดียวว่า "ยากมาก" สำหรับในบางเรื่อง.........

    .........การที่จะทำให้ "อยาก" กลายเป็น "ไม่อยาก" ก็ยังมีตัวช่วยอีกหลายๆ ตัว สำหรับผม ผมใช้ตัวนี้ครับ "อนิจจัง" ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน นั่นคือ สัจธรรมชีวิตจริงๆ เหมือนเดิมพูดง่าย ทำใจยาก ได้แต่เสียดายตัวเองในทุกวันนี้ ทำไม ไม่ศึกษา คำสอนของพระพุทธองค์ อย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้ ถ้าย้อนเวลาได้ ชีวิตในวันนี้ คงไม่ต้องมาเป็น...อย่างงี้...(แต่อย่าลืมน๊ะผมยังมีกำไรมากกว่าคุณ ฮา!).........

    .........ขอสรุปครับ ขอบพระคุณเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับ กำลังใจ ทุกๆ ดวง และ ความคิดเห็น จากทุกๆ ท่าน ๗ วันที่ผ่านมาทุกๆ ท่านทำให้ผม "เข้มแข็ง" และ "มั่นใจ" ในตัวเองมากขึ้นครับ สิ่งที่ผมพร่ำบ่น ในคืนนี้ ถ้ามันเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน ก็ถือเสียว่า มันคือ "การตอบแทน" จากผมอย่างตั้งใจครับ แต่...ถ้ามันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ กลับสร้างความน่ารำคาญหรือผลเสียให้กับท่านใด ผมขออภัย และโปรดคิดเสียว่า ผมไม่ได้ตั้งใจครับ.........

    .........ผมคงกลับมาที่นี่อีก แต่ยังคิดไม่ออก จะกลับมาในฐานะอะไรดี แต่ที่อยากมากที่สุด คือ การกลับมา "เดิน" ได้ อีกครั้งครับ.........

    .........สุดท้าย คงต้องร่ำลากันจริงๆ สำหรับกระทู้นี้ คงอยู่ในความทรงจำไปอีกนานเหมือนกัน อย่าใช้ชีวิตอย่างประมาทนะครับ ผมขออำนวยพร ส่งท้ายปีเก่า ให้ทุกๆ ท่าน สุขภาพแข็งแรง ประสบสุขสำเร็จในทุกๆ ด้าน ตลอดไปครับ.........

    ..........ข อ บ คุ ณ และ ส วั ส ดี ค รั บ.........

    จากคุณ : ...วัยกลางคน... - [ 13 ธ.ค. 46 23:13:23 ]