$$ $ เรื่องสิวๆ ที่น่าหวาดเสียว $ $$



     สิวเชื้อยีสต์    

    คุณสุภาพรรณ  ทองมาลัย santa


    โอ๋... ทำธุรกิจส่งออกผลิตภัณฑ์สปา      ผิวพรรณหน้าตา   จึงช่วยเสริมบุคคลลิก         ให้ดูน่าเชื่อถือเวลาติดต่องานกับลูกค้า        แต่เราอยากสวยขึ้น   ดูดีขึ้น    

     เห็นเพื่อนใช้เครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่งแล้วดี    จึงซื้อตามมาทั้งเซ็ท      ก่อนจะใช้ลองเทสต์ที่ข้อพับ    และ  หลังใบหู   30 นาที   ไม่มีอาการแสบคัน     ก็คิดว่าเราคงไม่แพ้       พลุ


    ตอนแรกที่ทาครีม   รู้สึกคันหน้ายิบๆ    คิดว่าเป็นเพราะ aha    ซึ่งจะทำให้หน้าเราขาวขึ้น     เพื่อความสวยก็ไม่ได้ติดใจ
       ผ่านไปสัก  1 อาทิตย์    เริ่มมีผดเม็ดเล็กๆขึ้นทั่วหน้า       เข้าใจว่าแพ้เหงื่อจากการออกกำลังกาย      


    พลุ     แต่แค่ 4- 5 วัน     ผดบนใบหน้าใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นสิวเม็ดโตสีแดงก่ำ       มันเพิ่มจำนวนขึ้นแบบทวีคูณ       กระจายสุดพื้นที่ผิวหน้าทุกด้าน         เฉพาะที่หน้าผากเห็นแล้วรู้สึกเลยว่าสิวเบียดกันขึ้นจนไม่มีที่ว่าง     มองรวมๆจะเห็นหน้าเราเป็นปื้นแดง


    ไปหาหมอ     หมอบอกว่าแพ้เครื่องสำอาง     แม้จะเทสต์แล้ว   แต่ผิวแขน   กับ   ผิวหน้า    มีความเซนซิทีฟ    และมีต่อมน้ำมันต่างกัน  


    บนใบหน้าทุกคนจะมีเชื้อยีสต์     ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียอยู่      เชื้อบางชนิดต้องอาศัยเวลาฟักตัวเป็นเดือน         เชื้อยีสต์บนใบหน้าโอ๋      เป็นชนิดที่ชอบกินน้ำมันเป็นอาหาร         พอถูกกระตุ้นจากเครื่องสำอาง         มันก็เลยขยายพันธ์เห่อขึ้น        กลายเป็นสิวเชื้อยีสต์


    แต่ที่เราคิดว่าแย่แล้ว    ก็ยังไม่ใช่จุดแย่ที่สุด    สิวยังคงขึ้นแบบทวีคูณต่อไปเรื่อยๆ    
    เทียน


    พอเดือนหนึ่งหัวสิวเริ่มเป็นหนอง    เวลาแตกเจ็บมาก     หมอบอกว่าต้องปล่อยให้เชื้อระเบิดออกมาจนถึงที่สุด      การรักษา  ก็คือ ทายา   กับทานยา  ควบคู่กันไป     วันหนึ่งทานยาเป็นกำมือเลย


    ไปหาหมอได้ 2 เดือน    หน้ายังไม่ดีขึ้น    เราใจร้อนว่าทำไมไม่หายสักที      เลยเปลี่ยนหมอ        พอหมอให้ยาใหม่หน้าก็บวม     ต้องกลับไปหาหมอเดิมอีก      พอหน้าหายบวม     จากที่เกือบจะหาย   ก็กลับมาอักเสบเป็นหนองอีก


    ช่วงนั้นใครเห็นหน้าเราก็ตกใจ       โอ๋เครียดมาก   ไม่ส่องกระจกเลย   จะส่องเฉพาะเวลาทายา     คือ.....  ไม่มีความรู้สึกดีกับใบหน้าของตัวเอง    ไม่กล้าไปไหน    จะพบปะผู้คนเท่าที่จำเป็น    คุยกับใครก็ไม่กล้ามองตาเขา    เพราะรู้ว่าเขาต้องมองหน้าเรา


    พอเข้าเดือนที่ 5       หน้าเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด      และหายเร็วมาก       แต่กว่ารอยแผลเป็นจะหายกลับมาเหมือนเดิม   ใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง
     

    เป็นบทเรียนเลยว่า   ก่อนจะลองใช้เครื่องสำอางอะไร   ต้องพิจารณาดูให้ดี     และถ้ามีสิ่งผิดปกติ  เกิดขึ้นกับผิว   ต้องไปหาหมอทันที    


    กระดิ่ง     เพราะผิวหน้าบางๆ   กางออกมามีเนื้อที่แค่ไม่เท่าไหร่     แต่ทำให้คนดูดี   หรือ  ดูไม่ดีไปได้เลย



    อยากให้ .....  ผู้หญิงทุกคนสวยค่ะ     ลูกโป่ง         ลูกโป่ง

                   
    จากคอลัมภ์ วันร้าย   นิตยสาร แพรว   ฉบับ 25 พย. 2546




    แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 46 00:01:51

    จากคุณ : ดอกชบา ดอกนั้น - [ 21 ธ.ค. 46 23:55:48 ]