++KAEW ไดอารี่ ++ ประสบการณ์การขึ้นขาหยั่ง และ ผลตรวจสุขภาพ

    หวัดดีค่ะ

    มารายงานผลการตรวจร่างกายให้ฟังค่ะ วันจันทร์ที่ 5 มกรา ไปตรวจร่างกายประจำปี ตรวจหมดทุกอย่างเลย รวมถึงตรวจภายในครั้งแรกด้วย อดข้าวอดน้ำไป 12 ชั่วโมงกว่าๆ ที่กว่าก็เพราะไม่มีรถ ต้องไปโรงพยาบาลด้วย รถเมล์ รถไฟฟ้า และ สองแถว ตามลำดับ กว่าจะไปถึงโรงพยาบาลได้ก็แทบแย่

    ไปถึงยื่นบัตร ยื่นใบนัดมาตรวจร่างกายแล้วก็นั่งรอ สังหรณ์ใจตะหงิดๆว่าต้องนานแน่เลย เพราะคนมาโรงพยาบาลเยอะมาก สงสัยป่วยฉลองปีใหม่กัน รออยู่พักใหญ่ๆ คุณพยาบาลเรียกไปชั่งน้ำหนัก ดีใจมากน้ำหนักไม่ขึ้น ขนาดกินเค้กส้ม ของเอื้องพิน เค้กผลไม้ของมินิ รังนกของพี่คิง เข้าไปเยอะมากช่วงปีใหม่ ต่อไปก็วัดความดันก็ปกติ

    ต่อจากนั้นก็นั่งรออีกพักใหญ่มากๆๆๆๆๆ คุณพยาบาลมาเรียกไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ อันนี้เคยตรวจมาแล้วครั้งนึง แต่ก็ยังเขินๆอยู่นะ ต้องถอดเสื้อหมดเลย (แต่ก็มีผ้าห่มให้อ่ะ ) ต่อจากนั้นก็ทาอะไรไม่รู้เย็นๆ ที่ข้อมือ ข้อเท้า แล้วก็เอาคีมพลาสติคเสียบสายไฟมาหนีบไว้

    หลังจากนั้นก็ …… เปิดผ้าห่มออก เอาอะไรเย็นๆมาทาหน้าอก หลายจุดเหมือนกัน โดยเฉพาะด้านซ้ายที่หัวใจตั้งอยู่ ทาเสร็จก็แปะสำลี แล้วเอาที่หนีบเล็กๆ ต่อสายไฟมาหนีบไว้ มันก็เย็นๆ เจ็บนิดๆอ่ะคะ แต่อายมากกว่า เพราะขั้นตอนต่อไปคือ นอนเฉยๆ รอให้เครื่องตรวจ มันเขินคุณพยาบาลอ่ะ เพราะเค้ายืนมองอยู่ตลอด ในที่สุดก็ผ่านพ้นมาได้ แต่ตอนแต่งตัวคุณพยาบาลผู้หวังดี ยังถามว่า ช่วยติดตะขอเสื้อในให้มั้ยค่ะ อิอิ เค้าคงเห็นว่ารีบร้อนลนลานแต่งตัวมากเลย แต่ก็ตอบไปว่าไม่เป็นไรค่ะ ติดเองได้

    ต่อไปก็นั่งรออีก รอนานมากๆๆๆๆ เริ่มหิวน้ำ ไม่ได้กินอะไรเลยมาตังแต่เย็นแล้ว ตอนนั้นก็ใกล้จะเที่ยงแล้วน๊า อดทนรออีกสักพัก เริ่มเวียนหัว เลยลุกไปบอกพยาบาลที่เคาต์เตอร์ว่า ช่วยส่งไปเจาะเลือดก่อนได้มั้ยค่ะ จะได้กินอะไรได้ จะเป็นลมแล้วค่ะ

    พูดจบ คุณพยาบาลทำหน้าตกใจมาก โวยวายกันเองใหญ่ ว่าทำไมไม่ส่งคนไข้ไปเจาะเลือดตั้งแต่มาถึง เห็นมาตั้งนานแล้วนี่คนนี้ คุณพยาบาลอีกคนก็รีบร้อนหาเอกสารอะไรใหญ่เลย แล้วก็บ่นๆว่า ไม่เห็นแฟ้มส่งมาเลย ระหว่างที่คุณพยาบาลกำลังชุลมุน หมูแก้วได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง จากอีกด้านนึง เลยเดินไปดู ก็เห็นคุณพยาบาลอีกคนถือแฟ้มเรียกชื่ออยู่พอดีเจอตัวคุณพยาบาลก็บอกว่า มาคะ มาตรวจภายใน ง่ะ ชะงักเล็กน้อย แล้วถามต่อไปว่า ไม่เจาะเลือดก่อนเหรอค่ะ คุณพยาบาลบอกว่า มาตรวจก่อนเถอะคะ แป็บเดียว ว่าแล้วก็ลากแขนหมูแก้วเข้าห้องไป

    เข้าไปในห้อง ก็พบกับคุณหมอ”ผู้ชาย” คนนึง มีอายุหน่อยแล้ว หน้าตาเคร่งขรึม ไร้อารมณ์ หมอมองหน้าแป็บนึง แล้วก็เริ่มสัมภาษณ์ หุหุ หมอถามแต่ละเรื่อง ตอบแทบไม่ถูก ก็หมอดันถาม เรื่อง เคยตรวจภายในมั้ย อยู่กับแฟนบ่อยมั้ย คุมกำเนิดอย่างไร เครียดเลยเรา แสดงว่าหมอไม่ได้เปิดดูประวัติแฮะ เลยอ้ำๆอึ้งๆว่า เลิกกะแฟนแล้วค่ะ

    หมอคงกลัวจะเสียใจ เลยอธิบายมายาวว่า ไม่เป็นไรนะ จริงๆตรวจภายในเนี่ย ผู้หญิงที่อายุเกิน 25 ปี ควรตรวจเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง ไม่ว่าจะแฟนหรือไม่มีแฟน แล้วถ้ามีความเสี่ยงกับมะเร็งควรตรวจทุก 6 เดือน ต่อจากนั้น หมอก็บอกา ไม่ต้องกลัวนะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวหมอจะตรวจให้

    เฮ้อ เฮ้อ ชีวิต ไม่อยากเลย แต่เอาก็เอาฟ่ะ มันก็จริงอย่างที่หมอบอก ผู้หญิงมีโรคอะไรภายในเยอะกว่าผู้ชาย ดังนั้นก็ควรจะตรวจไว้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ติดเชื้อ HIV มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่สูงมากๆๆๆๆๆๆ ก็ควรจะป้องกันไว้ก่อน

    ในห้องเปลี่ยนชุดมีผ้าถุงสีขาวๆทำจากผ้าปูเตียงโรงพยาบาลไว้ให้เปลี่ยน ก่อนจะปิดประตูคุณพยาบาลยื่นหน้ามาบอกว่า ถอดกางเกงในด้วยนะคะ เฮ้อๆๆๆๆ ถอนหายใจ เรียกความกล้าอีกเล็กน้อย แล้วปลอบใจตัวเองว่า เราไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกในโลกที่มาตรวจภายในหรอก และ หมอเค้าคงเห็นจนชินแล้ว ของเราก็คงไม่แปลกประหลาดกว่าของใครหรอกน่า นึกถึงตอนนี้ คำพูดของเหล่าเพื่อนผู้หวังดีก็ผ่านเข้ามาในสมอง

    เพื่อนเกย์คนนึง แนะนำว่า แกอย่าลืมตัดผมไปหล่ะ ……
    เพื่อนเกย์อีกคนนึงบอกว่า เครื่องมือมันเย็น ระวังจะสะดุ้ง (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เกย์ตรวจภายในด้วยฤา)
    เพื่อนสาวชาวเอช ที่มีปัญหากับอวัยวะภายใน และ เชี่ยวชาญการขึ้นขาหยั่ง บอกว่า ถ้าเค้าให้รอนาน เอาขาลงก่อนก็ได้ เดี๋ยวมันจะแห้ง
    เพื่อนเกย์อีกคน ขู่ไว้ว่า ที่โรงพยาบาลนี้ ตรวจ”ลึก”มากเลยนะแก ก็ไม่รู้อีกว่าเคยมาตรวจเหรอถึงรู้ว่าลึกมั้ยลึก

    เฮ้อ….. เพื่อนแต่ละคน มันหวังดีจริงๆ ถอนหายใจอีก 3 เฮือก เปลี่ยนผ้าถุงแล้วเดินออกมา เห็นเตียงชัดๆ ก็แทบอยากเดินกลับไป ทำไมมันกว้างอย่างนั้นหล่ะคะ เวรกรรมจริงๆ คุณพยาบาลบอกว่า น้องขึ้นไปนอนรอเลยค่ะ เอาก็เอา มาถึงขั้นนี้แล้วนี่นา

    กระมิดกระเมี้ยนไปนั่งงงๆบนเตียง คุณพยาบาลหันมาเห็นก็บอกว่า นอนไปเลยคะน้อง แล้วเอาขาขึ้นมาพาดบนขาหยั่งด้วย เฮ้อๆๆๆๆๆๆ

    ขาหยั่งแต่ละข้างกว้างมากๆขอบอก และด้วยความอายกระมิดกระเมี้ยนยกขา แบบพยายามหนีบๆไว้ ผลก็คือ เป็นตะคริว (อ้อ ตะคริวที่ขานะจ๊ะ อย่าเข้าใจผิด) คุณพยาบาลคงนึกขึ้นได้ว่าเราไม่เคยตรวจ ก็เลยปลอบใจว่าไม่น่ากลัวหรอกค่ะ แป็บเดียวก็เสร็จ แต่อย่าเกร็งนะคะ

    ว่าแล้วก็มาช่วยจัดท่าทาง โดยบอกว่ากระเถิบมาอีกนะคะ แล้วก็เปิดผ้าถุงออก แงๆ แงๆ ที่แย่ยิ่กว่านั้น มีสปอต์ไลท์ไว้ส่องด้วยอ่ะ โธ่ ชีวิตของหมูน้อย

    คราวนี้คุณหมอเดินมา ใส่ถึงมือมาพร้อม แต่หมอคงไปเปิดแฟ้มของเราดูแล้ว เพราะหมอมาพูดว่า ไม่ต้องเกร็งนะ อย่างหนูอ่ะ มีความเสี่ยงกับมะเร็งเยอะ ต่อไปมาตรวจทุก 6 เดือนเลยนะ บอกกันไว้ก่อน ก็ได้แต่พยกหน้าหงึกๆ ทำไมคุณหมอไม่พูดตอนอยู่ที่โต๊ะหล่ะคะ หมอรีบๆตรวจเถอะ หนูไม่อยากอยู่บนนี้นาน

    ขั้นตอนการตรวจ หมอก็มาจัดท่าใหม่อีก บอกให้กระเถิบไปใกล้ๆ เพราะหมูแก้วกระเถิบออกมาเรื่อยๆมั้ง ตอนนี้คุณพยาบาลดึงม่านด้านข้างมาปิด แต่ก็ยังสว่างจ้าเพราเจ้าสปอต์ไลท์อยู่ดี หมออธิบายว่าจะตรวจมะเร็งก่อน โดยจะเอาเครื่องมือเข้าไป แล้วป้ายอะไรไม่รู้เอาไปเพาะเชื้อมั้ง 1 อาทิตย์ จะรู้ผลว่ามีมะเร็งมารุกรานรึเปล่า

    ต้องเป็นเจ้าเครื่องนี่แน่เลยที่เพือ่นบอกว่าเย็น เพื่อนยังบอกอีกว่า แกอย่าสะดุ้งนะ เดี๋ยวงับเครื่องมือหมอ แง น่ากลัวจริงเลย สูดหายใจลึกๆ เตรียมทำใจ แต่ เอ……… ไม่เห็นเย็นมากเหมือเพื่อนบอกเลย ระหว่างกำลังคิด ม่านสีเขียวข้างๆก็เปิดออก คุณพยาบาล 2 คนที่เคาต์เตอร์นั่นเอง โผล่มาส่งยิ้มแล้วบอกว่า มาอยู่นี่เอง ขอโทษด้วยนะคะ ที่รอเจาะเลือดช้า ………อย่างนั้นอย่างนี้ เฮ้อๆๆๆๆๆ ทำไมต้องมาขอโทษตอนเค้าอยู่บนขาหยั่งเนี่ย ไปเถอะ แล้วปิดม่านซะ คุณพยาบาลพูดอะไรต่ออีกสักพักแล้วก็ไป พอดีกับคุณหมอตรวจเสร็จพอดี แป็บเดียวเองแฮะ เจ้าเพื่อนเกย์ หลอกเรานี่หว่า

    ดีใจตรวจเสร็จ กำลังจะยกขาลง หมอรีบบอกว่า ยังไม่เสร็จ ยังไม่ได้ตรวจภายในเลย อ้าว แล้วเมื่อกี้ก็ภายในนี่หว่า แล้วหมอก็บอกว่ากระเถิบมาก่อน ต่อจากนั้นก็……. เปิดผ้าถุงออกสูงขึ้นอีก โ ถชีวิต อายพุงอ่ะ

    หมอเอานิ้วคลำข้างในมือนึง ส่วนอีกมือก็กดๆตรงพุง เดาเอาเองว่าคลำหาสิ่งผิดปกติมั้ง คลำไปหมอก็บอกว่า อืมมม ดีนะ แต่ไม่กล้าถามว่าอะไรดี เหรอคะหมอ ใช้เวลาไม่นานมาก แต่อายสุดๆในชีวิต

    พอหมอดึงถุงมือออกก็บอกว่า เรียบร้อยนะ ปกติดี แต่ผลมะเร็งรออีก 1 อาทิตย์ เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดได้ เฮ้อ เหมือนเสียงสวรรค์เลย รีบร้อนเอาขาลงจากขาหยั่ง ทำให้เกือบตกเตียง ก็เตียงตรวจภายในมันโล่งๆงัยพอเอาขาลงมันก็ไม่มีที่วางขา เกือบไปแล้วเรา ถ้าตกเตียง หมอต้องจำเราได้แน่เลย รีบเปลี่ยนชุดอย่างเร่งด่วน เสร็จเรียบร้อย ก็ไหว้ลาคุณหมอ หมอยังบอกว่า อีก 6 เดือนมาตรวจอีก อย่าลืมหล่ะ แล้วถ้ามีอะไรผิดปกติรีบมาหาหมอ หนูมีความเสี่ยงสูง อย่าลืมนะ

    ออกมานอกห้องคุณพยาบาลเมื่อกี้เดินมาส่งยิ้มอีก แล้วบอกว่าไปเจาะเลือดได้เลยค่ะ ที่ห้องเจาะเลือดคราวนี้โชคดี คนเจาะคนนี้เก่ง เจาะรูเดียวได้เลย ต่อจากนั้น ก็ตรวจปัสสาวะ เสร็จแล้วไปเอกซ์เรย์ปอด หมูแก้วมั่นใจว่าปอดต้องมีปัญหาแน่ เพราะเหนื่อยง่ายมาก แล้วต้องใช้แรงในการพยายามหายใจเยอะ เสร็จจากห้อนี้เค้าบอกให้ไปกินข้าวได้ เสร็จแล้วค่อยไปรอพบหมอของเราเอง

    หาอะไรกินเสร็จก็ไปรอหน้าห้อง เจอเพื่อน 2 คน มาหาหมอเหมือนกัน เลยมีเพื่อนคุย ดีใจที่เห็นเพื่อนดีขึ้นด้วย เพราะเพื่อนคู่นี้โทรมาปรึกษากับหมูแก้วนานมากแล้ว และตอนที่แนะนำให้เค้ามาหาหมอก็อาการหนักมาก เจอกันเดือนก่อนก็ยังแย่ตองนั่งรถเข็น แต่คราวนี้แข็งแรงดี สดใส เดินได้คล่อง ไม่ไอแล้วด้วย

    คุยกับเพื่อนอีกพักใหญ่มาก ก็ถึงคิวไปพบหมอ เจอหน้าหมอ หมอก็ถามเลย เป็นงัยตรวจภายใน ไม่น่ากลัวเลยใช่มั้ย อืมมม ได้แต่หัวเราะ หึหึ บอกไม่ถูก มันก็ไม่เลวร้ายนะ แต่อย่าตรวจบ่อยก็ดี

    หมอชี้ให้หันไปดูฟิลม์เอกซ์เรย์ที่แปะอยู่แล้วบอกว่า ปอดปกติ แข็งแรงดีมาก อ้าวๆๆๆๆ ปอดปกติ แล้วทำไมเราเหนื่อยฟ่ะ ต่อจากนั้นหมอก็อ่านผลต่างๆให้ฟัง เริ่มจาก หัวใจปกติแข็งแรงดี น้ำตาลในเลือดปกติ คอเรสตอรอลปกติ แถมต่ำด้วย 130 เอง หมอมีการแซวว่า ไขมันในเลือดต่ำดีจัง แต่ไขมันใต้ผิวสูงนะ ตัวต่อไป ไตรกรีเซอร์ไรด์ ซึ่งเป็นไขมันไม่ดีอีกตัวนึง ก็ต่ำเหมือนกัน ต่อไป HDL ซึ่งเป็นไขมันดี ช่วยขนคอเรสตอรอลไปทิ้ง ช่วยทำให้ไม่เป็นโรคหัวใจ ได้ 35 ซึงถือว่าต่ำ แต่พอดีกับ ไขมันร้ายอีก 2 ตัวก็ต่ำด้วย ร่างกายเลยยังแข็งแรงดี หมอบอกว่าต้องไปเพิ่ม HDL หน่อยนะ หมูแก้วก็เลยถามว่า ต้องกินอะไรหล่ะคะ

    หมอบอกว่าตัวนี้กินไม่ได้ มันเป็นไขมันที่ได้จากการออกกำลังกาย อ้อ มิน่าถึงต่ำ
    ผลตัวต่อไป กรดยูริค สูงนิดหน่อย แต่ไม่ถึงระดับอันตราย ไม่ถึงระดับเป็นโรคเก๊าส์ อันนี้อ่ะ รู้ตัวเองว่าทำไมยูริคสูง มันสูงเพราะงานโอท๊อป หนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล เพราะครอบครัวหมูแก้วไปติดใจหน่อไม้ต้มใบย่านาง จิ้มน้ำพริกแดง ผลิตภัณฑ์จากเมืองกาญจ์ ซื้อมาเยอะมาก หมูแก้วกินทุกวันมา 2 อาทิตย์แล้ว เคยอ่านเจอว่า หน่อไม้มียูริคสูง แล้วจริงๆผู้ติดเชื้อไม่ควรกินหน่อไม้บ่อย แต่มันอร่อยนี่นา

    ผลตรวจตัวต่อๆมา อะไรๆก็ปกติดี แล้วหมอก็มาหยุดที่ตัวเลข 33% ต่อจากนั้นก็เอาปากกาวงๆๆๆๆๆๆ แล้วบอกว่าโลหิตจางนี่นา จางเยอะด้วยแฮะ ต่อจากนั้นก็หันมามองหน้าหมูแก้ว ตรวจตา ตรวจปาก แล้วบอกว่า ก็ไม่ซีดนี่นา หมอถามว่าไปเสียเลือดเยอะบ้างป่าว ประจำเดือนมาปกติมั้ย ทุกอย่างก็ปกตินะ เพียงแต่ว่า หมูแก้วจะเป็นแผลง่าย เลือดออก่าย แต่หยุดยาก

    หมอบอกว่า เลือดจางเยอะ ต้องให้ยาไปกิน กิน 3 เวลาหลังอาหาร แล้วเดือนหน้าเจาะเลือดดูว่ายังจางอยู่มั้ย ถ้าจางอีก ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องหาสาเหตุว่ามันจางเพราะอะไร

    แต่หมูแก้วแอบดีใจเล็กๆ ที่ได้โรคโลหิตจางมาเป็นเพือ่นอีก 1 โรค เพราะมันเป็นตัวตอบคำถามในใจได้งัย ว่าเราเป็นไร ทำไมเหนื่อยๆ เพลียๆ วิงเวียน มึน ซึม อาการต่างๆเพราะเลือดจางมากนี่เอง จะได้ยืนยันกับเพื่อนๆได้ว่า หมูแก้วไม่ได้ขี้เกียจ ไม่ได้อู้งานนะ แต่ที่เห็นนั่งมึนๆอยู่ มันเหนื่อยจริงๆ ไม่ได้แกล้ง

    ระยะหลังหมูแก้วจะเหนื่อยง่าย เวียนหัวบ่อยๆ นอนอยู่เรื่อยๆ แล้วรู้สึกโง่หน่อยๆ เพราะมันมึนๆยังงัยไม่รู้ หมอบอกว่าให้กินยาตามหมอสั่ง นอนพักเยอะๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่หมูแก้วลืมถามว่าจะให้ทานอะไรหล่ะคะ ความจำที่ลางเลือนในวิชาสุขศึกษา บอกว่า ธาตุเหล็กมีในเครื่องในสัตว์ แต่หมูแก้วไม่กินเครื่องในนี่นา แล้วก็จำไม่ได้แล้วว่าเหล็กมีในอาหารพวกใดอีก จะได้ตามไปกิน

    หมอบอกอีกว่า ขนาดของเม็ดเลือดหมูแก้วเล็กกว่าปกติ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร แล้วมันจะทำให้เป็นอะไร แต่เดาว่ายังไม่อันตราย ไม่งั้นหมอคงเอาปากกาวงๆๆๆอีก

    ตอนนี้ก็กินยาตามหมอสั่งไปก่อน แล้วค่อยดูผลเลือดเดือนหน้าอ่ะจ๊ะ ขอจบรายงานเท่านี้ก่อนนะ



    จากคุณ : ++MooKaew++ - [ 8 ม.ค. 47 10:58:31 ]