นอนให้สวย นอนให้ผอม

    ปริสนา บุญสินสุข puzzle@breakingbread.co.th

    นอนให้สวย นอนให้ผอม

    พวกฝรั่งเขาเป็นนักเก็บสถิตินะ ช่างมีสถิติไปได้ทุกเรื่องทุกราว

    อย่างเรื่องการนอน สถิติของประเทศอังกฤษบ่งว่า มีคนประมาณ 5-10 ล้านคนที่มีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ และมีอีกอย่างน้อยครึ่งล้านคน ที่เป็นโรคนอนไม่หลับแบบร้ายแรง

    ส่วนในอเมริกายิ่งแย่ใหญ่ กว่า 70 ล้านคนมีปัญหาในเรื่องนี้ ในประเทศไทยบังเอิญว่ายานอนหลับทุกชนิด ถูกจัดเป็นยาอันตราย โฆษณาไม่ได้ เราก็เลยไม่มีแม้แต่แนวโน้มให้เดากันว่า เรามีคนนอนไม่หลับมากน้อยแค่ไหน

    ที่ห่วงเรื่องนอนก็เพราะว่า เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความงามอย่างมหาศาล คำว่า beauty sleep น่ะ ไม่ใช่คำที่พูดกันพล่อยๆ เลย เพราะช่วงเวลาแห่งการนอน เป็นช่วงเวลาที่เซลล์ผิวฟื้นฟูตัวเอง และการเก็บกวาดขยะของผิวเกิดขึ้น

    กิจกรรมเหล่านี้ ผิวเก็บไว้ทำอย่างขันแข็งในยามหลับ ก็เพราะพลังงานที่ผิวต้องการใช้ ไม่ถูกดึงเอาไปทำอย่างอื่นเสียหมด เหมือนกับในยามที่ร่างกายตื่นอยู่ ทุกคนรู้ดีกันอยู่แล้วว่า ลึกลงไปในชั้นผิวนั้นเป็นเสมือนโรงงานผลิตเซลล์ใหม่ ที่หนุนเนื่องกันขึ้นสู่ผิวชั้นบน เผื่อผลัดเปลี่ยน ผลักเซลล์ชั้นบนๆ ที่แห้งและด้านแล้วให้หลุดไป โดยในวัยสาวเมื่อร่างกายฟิตเปรี๊ยะนั้น แต่ละรอบการผลัดเปลี่ยนเซลล์ใช้เวลาเพียงยี่สิบกว่าวัน เมื่ออายุมากขึ้น การผลัดเซลล์ก็เชื่องช้าลงไปตามวัย

    แต่การเก็บกวาดขยะของผิวนี่สิเป็นอย่างไร

    ขยะของผิวก็คืออนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการก่อเกิดความเสื่อมโทรมให้แก่อวัยวะทั่วร่างกาย รวมทั้งผิวด้วย เวลานอนเป็นเวลาที่สมองสั่งการปราบปรามและเก็บกวาดอนุมูลอิสระให้สูญหายไป

    สองอย่างที่พูดมานี้คือขบวนการซ่อมแซมของผิวที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการจรรโลงรักษาความงาม แต่ผิวยังเสริมสร้างความงามในยามหลับอีกด้วย เพราะเป็นเวลาที่ผิวผลิต growth hormone ฮอร์โมนตัวที่มีความสามารถพิเศษในการเร่งรัดขบวนการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ สร้างกล้ามเนื้อ สลายไขมันส่วนเกินที่ซุกซ่อนอยู่ตาม ที่ต่างๆ และคืนสมดุลให้แก่ระดับน้ำตาลในโลหิต

    มิน่าเล่า ฮอร์โมนตัวนี้จึงมีนามแฝงว่า "ฮอร์โมนชะลอวัย"



    นอนเท่าไรจึงจะพอ

    ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แปดชั่วโมงเป็นระยะการนอนที่พอดีที่สุด สำหรับการดูแลรักษาสุขภาพและความงาม ซึ่งฟังดูเหมือนไม่ยาก แต่ความจริงไม่ง่ายเลยสำหรับคนทีมีปัญหาในการนอน

    ความเครียดและวัยเป็นสองตัวการสำคัญที่ขัดขวางการนอนให้เต็มอิ่ม คำว่าความเครียดคำเดียวนี้ ตีความหมายออกไปได้หลากหลาย วิตกเรื่องงาน กังวลเรื่องลูก ห่วงใยพ่อแม่ คิดไม่ตกเรื่องเงินทอง ฯลฯ ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ตาค้าง สมองตกร่อง นอนก็ฝันร้าย สัจธรรมที่หนีไม่พ้นอีกอย่างหนึ่งก็คือ ยิ่งอายุมาก ร่างกายก็ดูเหมือนจะต้องการความหลับน้อยลง โดยเฉลี่ยแล้ว ทารกอายุสองสัปดาห์นอนวันละ 20 ชั่วโมง คนชราอายุ 65 นอนน้อยกว่าวันละ 5 ชั่วโมง

    นอนไม่หลับเพราะเครียดเป็นสิ่งที่ต้องหาทางแก้ไข มิฉะนั้น อย่าว่าแต่ผิวพรรณจะเสื่อมโทรมเลย สุขภาพร่างกายก็จะเสื่อมถอยจนหมดคุณภาพชีวิต การกินยานอนหลับเป็นสิ่งที่ควรทำเมื่อแพทย์แนะนำเท่านั้น เพราะยานอนหลับทุกชนิด เป็นยาเสพติด ถ้าพึ่งมันอยู่เรื่อยๆ ไม่นานคุณก็จะนอนหลับเองไม่ได้เลย ฉะนั้น แทนที่จะพึ่งสารเคมีแปลกปลอม เราควรจะศึกษาสไตล์ชีวิตของตัวเองก่อน เพื่อดูว่า เราจะทำอะไรเพื่อส่งเสริมการนอนให้หลับสนิทได้บ้าง เป็นต้นว่า

    - ถ้าอดกาแฟหรือชาไม่ได้ อย่างน้อยก็ดื่มเฉพาะช่วงเช้า และงดดื่มตอนบ่าย เพราะกาเฟอีนซึงสามารถทำให้ตาค้างอยู่ได้นั้น ต้องใข้เวลาถึง 10 ชั่วโมงกว่าจะสลายตัวออกจากระบบของร่างกาย

    - หลีกเลี่ยงบุหรี่และเหล้าใกล้ๆ เวลานอน แอลกอฮอล์ อาจจะทำให้ง่วง แต่พอมันเริ่มสลายตัว มันก็จะไปขัดจังหวะการนอน ทำให้เราตื่นกลางดึก แล้วทีนี้จะหลับใหม่ยากมาก ส่วนนิโคตินในบุหรี่นั้นทำให้ตื่นตามากกว่าหลับตา

    - อัปเปหิโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์จากห้องนอนให้หมด คนที่นอนไม่หลับ แล้วเปิดโทรทัศน์มาดู หรืออ่านหนังสือพิมพ์ไปพลางๆ เท่ากับยิ่งไปกระตุ้นสติสัมปชัญญะให้ตื่นตัวตอบสนองต่อสิ่งที่ได้เห็นได้อ่าน เลยยิ่งนอนไม่หลับเข้าไปใหญ่

    - อย่าใช้ห้องนอนเป็นสำนักงานสาขา อย่ายกแล็ปท็อปเข้าไปนั่งทำแผนการตลาดอยู่บนเตียง มิฉะนั้น ถึงจะหลับก็คงไม่สนิท และยังติดจะฝันร้ายซ้ำเข้าอีก

    - ลองกินกล้วยก่อนนอน กล้วยมี tryptophan ซึ่งเป็นกรดอะมิโนตัวที่ช่วยผ่อนคลายและส่งเสริมการนอนหลับ นมก็เป็นเครืองดื่มก่อนนอนที่ดี

    ส่วนการนอนน้อยลงเพราะวัยนั้น อย่าไปต่อสู้กับมันเลย แม้จะนอนไม่ถึงแปดชั่วโมง แต่ถ้าทุกชั่วโมงที่นอน เป็นความหลับที่หยั่งลึก ให้ร่างกายได้ผ่อนคลายเต็มที่ สุขภาพและความงามก็ไม่หนีหายไปไหน ไม่ว่าวัยจะก้าวไปอย่างไม่ละลดถดถอย

    from:http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=0425230147&srcday=2004/01/23&search=no

    จากคุณ : จริงเหรอเนี่ย...?? - [ 23 ม.ค. 47 11:15:53 A:203.118.80.198 X: ]