ความคิดเห็นที่ 1 ก้ไม่ต้องแต่งแบบแพงๆสิคุณ แต่งแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย แค่ควงกันไปจดทะเบียนว่าผมเป็นสามีคุณนะครับ และอาจมีกินเลี้ยงในหมู่ญาติๆ หมดเงินคงไม่กี่พันบาทนะครับ ไม่สนับสนุนการจัดงานใหญ่โต ตำน้ำพริกทิ้งแม่น้ำครับ หรือว่าบ้านแฟนคุณจะเอาสินสอด หรือให้จัดงานใหญ่โตครับ คุณเลยไม่อยากเสียตังจัดงานน่ะ จากคุณ : สาด - [ 11 ก.ค. 47 10:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เข้าใจนะว่ากำลังเครียด แล้วก็คนที่เรารักมาทำอย่างงี้กับเราอีก เอาน่าอย่าคิดมาก บางทีครอบครัวฝ่ายหญิงอาจจะคิดอะไรอารมณ์ชั่ววูบก็ได้ ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากไหนๆ ก็อยู่ด้วยกันมาตั้ง 2 ปีแล้ว คิดแบบนี้ส่งๆ ไปก่อน ลุยงานตอนนี้ก่อนดีกว่า จากคุณ : 34-24-34 (sasil) - [ 11 ก.ค. 47 10:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มัวแต่สร้างตัว... แต่เวลา ไม่เคยหยุด... เมื่อถึงวันหนึ่ง อาจจะต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง... จากคุณ : วนา - [ 11 ก.ค. 47 11:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กระทู้คุณทำให้แล่ดนึกถึงตอนที่แล่ดแต่งงาน แล่ดอยู่กับพ่อของลูกก่อนค่ะ ก็ไม่นานนะคะ ประมาณ 5 เดือน เค้าทำงานเงินเดือนแค่สองหมื่น(13ปีที่แล้ว) แล่ดก็ทำงานรัฐวิสาหกิจ เงินเดือนรู้ๆกันอยู่ว่าน้อย ตอนเค้าขอแต่งงาน แล่ดไม่เคยที่จะบอกว่าต้องจัดแพงๆ จริงๆแล้วไม่อยากมีงานแต่งด้วยซ้ำ แม่แล่ดก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร งานแต่งเราก็จัดที่ร้านอาหารธรรมดา เพื่อนมาช่วยถ่ายวิดีโอให้ เป็นพิธีกร แต่งวันสิ้นเดือนเพราะจะได้มีเงินจ่าย ของขวัญงานแต่งเป็นเงินที่เรานำมาเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกัน พอแต่งเรามีลูกเลย(แบบว่าแอ๊คซิเดนท์) สามีทำงานหนักมาก เลิกกลับบ้านดึกทุกวัน แล่ดบอกได้เลยว่า เค้าทำงานหนักเพื่อเราจริงๆ ทุกอย่างที่คนอื่นมี เค้าก็จะหามาให้เรา จำได้ว่าเค้าออกรถครั้งแรก เพื่อที่จะได้วิ่งรอกงานให้ได้เงินมากขึ้น กรณีของแล่ดกับคุณแตกต่างกัน แฟนคุณเป็นฝ่ายอยากแต่งงาน แต่คุณอยากให้พร้อมกว่านี้ ความพร้อม ดูตรงไหน บ้าน รถ เงินสดในธนาคาร ถ้าดูตรงนั้น แล้วจะต้องรอไปอีกกี่ปี แล้วมั่นใจได้อย่างไรว่า เมือถึงวันนั้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แค่ความเห็นของแล่ดน่ะค่ะ จากคุณ : ไอ้แล่ด - [ 11 ก.ค. 47 11:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 น่าเห็นใจฝ่ายหญิงนะครับ การอยู่กันเฉยๆ โดยไม่แต่ง งาน ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเสียนะครับ และสองปีมันก็นานเกิน พอแล้วนะครับ ถ้าสมมุติผมหรือคุณมีลูกสาว แล้วเจอภาวะแบบนี้ คุณจะคิดอย่างไร ใจเขาใจเรา จากคุณ : เราชื่อ มารบูรพา - [ 11 ก.ค. 47 11:49:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มองในแง่มุมของผู้หญิงนะคะ คือ อยากให้พิธีการให้ถูกต้อง ที่สังคม เครือญาติยอมรับ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นพิธีใหญ่โตหรูหราอะไรตามประเพณีไทยนะค่ะ แค่อยู่ก่อนแต่งสังคมก็ไม่ค่อยยอมรับอยู่แล้วโดยเฉพาะกับฝ่ายหญิงเสียงนินทาว่าร้ายมันต้องมีอยู่แล้ว ไม่เฉพาะกับเธอ แต่กับพ่อแม่ของเธอด้วย การแต่งงานจึงเป็นการแสดงถึงการให้เกียรติฝ่ายหญิง ( เจ้าสาว และ พ่อตา แม่ยาย คุณด้วย ) บางครั้งความรักอย่างเดียวไม่เพียงพอค่ะ จากคุณ : bunnygirl - [ 11 ก.ค. 47 12:15:24 A:203.113.45.42 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ลองคุยกันสิคะ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ประนีประนอม อาจจะได้จุดพอดี ได้คำตอบที่พอใจทั้งสองฝ่าย เอาใจช่วยค่ะ : ) จากคุณ : บัว - [ 11 ก.ค. 47 13:29:02 A:203.121.153.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 เอ่อ...เข้าใจนะคะว่าต้องทำงานหนัก..แต่อยากให้ลองคิดมุมกลับอ่ะคะว่า ฝ่ายพ่อแม่ผู้หญิงเค้าจะรู้สึกยังไงกับที่ลูกสาวเค้ายังไม่แต่งงานแต่มาอยู่ก่อนแต่งกับแฟนมา 2 ปีแล้ว... ถ้ากลัวสิ้นเปลือง เอาอย่างนี้ดีมั้ยคะ เลี้ยงพระ เชิญญาติผู้ใหญ่ และเพื่อนสนิทอีกเล็กน้อยมารับประทานอาหารร่วมกันและก็ผูกข้อมือตามประเพณี ไม่ต้องเอามากมายหรอกคะ..เอาให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงเค้าดีใจว่าลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว และถ้ากลัวว่าจะไม่พร้อมเกี่ยวกับชีวิตหลังแต่งงาน ก็อย่าเพิ่งมีลูกคะ..เอาให้มั่นคงกว่านี้ ค่อยมีก็ยังไม่สายนะคะ อย่าคิดว่าการแต่งงานเป็นภาระหรือว่าสิ้นเปลืองเลยคะ ลองเปลี่ยนมุมมองดีกว่ามั้ยคะว่า แต่งงานกัน ได้เพื่อนคู่ ชีวิติ เป็นกำลังให้กันและกัน ไม่เหงา มีคนทำกับข้าวให้ทาน ช่วยกันล้างรถ ฯลฯ เข้าใจนะคะว่าตอนนี้คุณเองก็คงกำลังสับสน..ใจเย็นๆคะให้รักนำทางไป สุดท้ายปัญหาทุกอย่างมันก็มีทางออกและคำตอบในตัวมันคะ ขอให้คุณโชคดี จากคุณ : spize (spize) - [ 11 ก.ค. 47 14:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รอได้ แต่เมื่อไหร่ล่ะคะ เหมือนคุณๆ ข้างบนบอก ผู้หญิงไม่ได้ต้องการงานแต่งงานที่เลิศหรูอลังการหรอกค่ะ เพียงทำถูกธรรมเนียมประเพณี อย่างน้อย ไปสู่ขอตามธรรมเนียม ผูกข้อไม้ข้อมือ ใส่บาตรทำบุญ ให้ผู้อื่นรับรู้ว่า เราทั้งคู่อยู่กันอย่างถูกต้อง ไม่ได้ลักขโมยใครเขากิน ส่วนสินสอดอะไรที่จะไปขอ ก็เปลี่ยนเป็น เงินที่ส่งเสียทางพ่อแม่ของฝ่ายหญิงแทนจะได้ไหม จะเท่าไหร่ก็บอกเขาว่า ขึ้นอยู่กับกิจการงานที่ทำ ลูกไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องมี คุมไว้ก่อน เราว่าน่าจะโอเคนะ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 11 ก.ค. 47 16:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นั่นสิครับ ผมก้อเห็นด้วยกะท่านอื่นๆที่หนับหนุนการแต่งแบบประหยัดนะครับ ไม่กี่ตังหรอก คุณเอาลูกสาวเค้ามาอยู่ด้วยตั้งสองปีแล้ว ยังไงก้อนึกถึงหน้าพ่อตาแม่ยายหน่อย เค้าจะได้บอกญาติๆถูกว่า ลูกสาวฉันแต่งแล้ว กับไอ้หมอนี่ไง อย่ามองด้านคุณฝ่ายเดียวสิครับ ยังไงลองหันหน้าคุยกันดีๆนะครับ จากคุณ : สาด - [ 11 ก.ค. 47 16:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับทุกความเห็นด้านบน ถ้าจะให้รอ...ก็ขอให้มีเหตุผลที่ดีค่ะ ผู้หญิงให้รอนานแค่ไหนยอมรอได้อยู่แล้ว แค่ขอให้ฝ่ายชายให้ความมั่นใจเท่านั้นแหละค่ะ จากคุณ : รักเฌอ..ประเทศไทย - [ 11 ก.ค. 47 17:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณน่าจะคิดถึงใจฝ่ายหญิงนะคะ เพราะการอยู่ก่อนแต่งมันไม่ดีอยู่แล้วในสายตาผู้ใหญ่ และบอกได้เลยว่าผู้หญิงน่ะ เค้าไม่สนใจเงินทองของคุณหรอกค่ะ แค่ได้จดทะเบียนมีคนรับรู้ก็พอแล้ว ( ถ้าเป็นเรานะ ) ไม่เห็นต้องมีงานใหญ่โต แค่พ่อแม่รับรู้ก็พอแล้ว ผู้หญิงเค้าไม่คิดเรื่องความพร้อมของฝ่ายชายมากนักหรอกค่ะเพราะเค้าคิดว่าจะฟันฝ่าไปสุ่อนาคตด้วยกันหลังแต่งงานต่างหาก เข้าใจผู้หญิงหน่อยนะคะคุณ จากคุณ : จุ้นchan (จุ้นchan) - [ 11 ก.ค. 47 18:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ทราบว่ากรณีคุณ บ้านฝ่ายหญิงเค้ารู้หรือเปล่าคะว่าอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่รู้..คุณควรคุยกับแฟนคุณนะคะว่า รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนได้มั้ย รอให้ราบรื่นกว่านี้อีกนิด แต่ที่สำคัญ คุณต้องคุยให้เข้าใจกันก่อน ถ้ารู้..อันนี้ การอยู่ก่อนแต่ง ผู้หญิงมีแต่เสียกับเสียค่ะ การจัดงานแต่ง ก็เหมือนเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิงน่ะค่ะ คงเหมือนกับความคิดข้างบน ชอบที่คุณแล่ดบอกว่า.. "ความพร้อม ดูตรงไหน บ้าน รถ เงินสดในธนาคาร ถ้าดูตรงนั้น แล้วจะต้องรอไปอีกกี่ปี" เพราะความต้องการของคนเราไม่มีที่สิ้นสุดหรอกค่ะ จากคุณ : angkaloong - [ 11 ก.ค. 47 21:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แต่งงานแล้วแต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องมีลูกเลยก็ได้ รอให้พร้อม จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า - [ 11 ก.ค. 47 22:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แล้วไม่พร้อม เอาเขามาอยู่ด้วยกันทำไม ต่างคนต่างอยู่แต่ไปๆมาๆก็ได้ การที่คุณเอามาอยู่แต่ไม่แต่งงาน ในขณะที่เจ้าตัวไม่ต้องการ ถือว่าคุณเห็นแก่ตัวนะ บ้าน+รถ อย่างต่ำๆ ก็3ล้าน รถประมาณ 1 ล้าน บ้าน 2 ล้าน คุณเงินเดือนเท่าไรถึงจะเก็บได้ สมมุติว่า เงินเดือน 50,000 ใช้ 15,000 เก็บ 35,000 คูณ 12 ปีนึงได้420,000 กว่าจะเก็บครบ 3 ล้าน ก็ 6 ปี จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า - [ 11 ก.ค. 47 23:06:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกะความเห็นข้างบนค่ะ และขอเพิ่มเติมว่า ถ้าคุณยังอยากที่จะพร้อมมากกว่านี้ก่อนจริงๆ และจำเป็นที่จะต้องให้เธอรอ บอกเธอไปเลยค่ะว่าอีกกี่ปี เพราะการรออย่างมีจุดหมาย รออย่างมีวันสิ้นสุด กับการรอไปวันๆ มันต่างๆกันมากเลยนะคะ และเรามั่นใจว่าเธอจะเป็นกำลังใจ หั้ยคุณอย่างแน่นอน และช่วงระหว่างนี้เธอก็จะไม่เรียกร้องเรื่องแต่งงานด้วย ทำให้มีทั้งคุณและเธอ ต่างก็มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น แต่เมื่อถึงกำหนดแล้วคุณต้องแต่งนะคะ ห้ามขอเลื่อนเด็ดขาด มิฉะนั้นเธอจะหมดความเชื่อมั่นในตัวคุณไปเยอะเลยค่ะ จากคุณ : ปอมมี่ใสกิ๊กๆ (freedom_pomme) - [ 12 ก.ค. 47 00:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้ครับ ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ ใจเย็นๆครับ มีปัญหามาก็แก้ไป ถ้ายังไม่มาอย่าไปกังวลมาก แต่อย่าประมาท คอยตั้งสติให้มั่นๆครับ "สติมาปัญญาเกิด ครับ" จากคุณ : F@X - [ 12 ก.ค. 47 00:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 "ความพร้อม ดูตรงไหน บ้าน รถ เงินสดในธนาคาร ถ้าดูตรงนั้น แล้วจะต้องรอไปอีกกี่ปี แล้วมั่นใจได้อย่างไรว่า เมือถึงวันนั้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม" ประโยคนี้โดนมากกก เหอๆ เราว่า เค้าคงอยากทำให้มันถูกต้องตามประเพณีแหละ อีกอย่างเค้าอาจจะคิดเหมือนคุณหลายๆคนในนี้ก็ได้ว่า ที่ว่ารอให้พร้อมเนี่ย อะไรคือพร้อมล่ะ ก็เข้าใจนะว่าเครียดเพราะอยากสร้างตัว แต่เรื่องอย่างนี้ ก็ต้องพยายาม "เข้าใจกันและกัน" นะ จะให้เค้ามา เข้าใจคุณ ฝ่ายเดียวก็ไม่ได้หรอก อีกอย่าง เราว่า เค้าก็พยายามเข้าใจคุณมาพอควรแล้วล่ะ ถ้าเค้าไม่รักคุณ ป่านนี้เราว่า เค้าไม่รอตั้งนานแล้วอ่ะนะ ค่อยๆคุยกันก็แล้วกันจ้า จากคุณ : TazTabby - [ 12 ก.ค. 47 02:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลองมองในแง่เขาบ้าง พ่อแม่ที่ลูกสาวไปอยู่กับเขาแล้ว มันอับอายครับ ที่ลูกตัวไปแบให้เขาตั้ง2ปียังไม่ได้แต่ง ตัวที่รักคุณเอง ก็อายครับ ยอมทุ่มขนาดนี้ ขออะไรให้เป็นหน้าเป็นตาบ้างได้มั๊ย งานแต่ง จัดไม่ต้องใหญ่ได้ครับ สินสอด เรียกซัก 1 ล้านก็ได้ เอามากองให้ดู แต่คิดจริงที่ 5 หมื่น 1 แสนก็ได้ จากคุณ : โลหการ4 - [ 12 ก.ค. 47 02:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แสดงความจริงใจเบื้องต้น ด้วยการไปพบปะพูดคุยกับผู้ใหญ่ก่อน อาจจะไปเองหรือผู้ใหญ่คุณไปด้วยก็ได้... บอกไปว่ากำลังทำอะไรอยู่ ให้เค้าเห็นว่าเรามีความตั้งใจและจริงใจ... อาจจะกำหนดเวลาคร่าวๆ กันก่อนก็ได้ว่าจะแต่งกันเมื่อไหร่ หรือจะมัดจำโดยการหมั้นกันไปก่อนก็ได้(ซื้อเวลาไปอีกจี๊ดนึง) อย่างน้อยมันก็เหมือนเดินเข้าหากันคนละครึ่งทางล่ะ...ว่ามั้ย!!! จากคุณ : ไอ้ตั้ม - [ 12 ก.ค. 47 08:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าคิดในมุมมองนี้บ้างไหมครับ ถ้าผู้ชายมี 2 ล้าน ผู้หญิงมี 2 ล้าน หรือมีใกล้เคียงกันซื้อบ้านซื้อรถ มีเงินเก็บก้อไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ปัญหาที่เห็นผมว่า ฝ่ายหญิงมีแต่ตัว รอให้ฝ่ายชายพร้อม มีรถมีบ้าน มีเงินเก็บ ฝ่ายชายก้อเก็บ ตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตสิครับ แล้วฝ่ายหญิงก้อร่ำร้องอย่างเดียวเมื่อไหร่แต่ง เมื่อไหร่แต่ง พ่อแม่ฝ่ายหญิงก้อคงช่วยถามเมื่อไหร่แต่ง เมื่อไหร่แต่ง ทั้งทั้งที่ฝ่ายหญิงก้อมีแต่ตัว แล้วยังจะเอาอะไรอีก ช่วยก้อไม่ช่วยเก็บ มัวแต่เรียกร้อง พอซื้อบ้านก้อพยายามให้ชื่อบ้านเป็นชองฝ่ายหญิง สักพักพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะเข้ามามีบทบาทภายในบ้าน มากเข้าก้อจะย้ายตัวเองจากที่อื่นมาอยู่ในบ้าน เจ้ากี้เจ้าการาเจ้าบ้านตัวจริง จนอยู่ไม่สุข แล้วอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องของเรื่องนะครับ ถ้าฝ่ายหญิงรักกันจริงต้องช่วยกันหาครับ ไม่ใช่มัวรอแต่ฝ่ายชาย กำหนดเลยว่า คุณมีเท่าไหร่ ฉันควรมีเท่าไหร่ แล้วนำมาใช้จ่ายด้วยกัน ไม่ใช่ คนหนึ่งต้องหาให้ได้ 3 ล้าน อีกฝ่าย มีเท่าไหร่ก้อได้ แต่พร้อมมีสิทธิเท่าเทียมกับคนที่หามาได้ บอกเจ้าของกระทู้ครับ ผมคงใกล้เคียงกับคุณมั้ง สิ้นปีถูกเรียกให้จัดงานแล้ว ผมไม่ยอมครับ บ้านผมซื้อให้แล้วแฟนอยู่ต่างจังหวัดไม่มีบ้านในกรุงเทพ ผมก้อซื้อ ชื่อก้อชื่อเขา สิ้นปีนี้ผมมีโครงการจะซื้อตึกแถวย่านการค้าอีกหลัง แต่ผมคงวัดใจเขาครับ ถ้าจะจัดงานให้ได้ ก้อไม่ต้องซื้อตึก วัดกันครับ ระหว่างการได้หน้าในระหว่างหมู่ญาติ กับอนาคตที่กำลังจะถูกสร้างเขาจะเลือกอะไร ผมคงไม่สนใจอะไรมากหรอกครับ มีเงินก้อมีผู้หญิง ผมให้โอกาสเขาแล้ว แล้วแต่ว่าจะเลือกอะไร แค่งานแต่ง กับบ้านมีสองหลังและตามกำหนดทุก5 ปีจะซื้อได้อีกหลังหนึ่ง จะเลือกอะไร สำหรับผู้หญิง ตอนนี้มีมารอต่อแล้วครับ ถ้าเลิกกับคนนี้ ก้อมีผู้หญิงอีกคนเข้ามาในชีวิตผมได้ แต่ตอนนี้ผมไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ชีวิตผมไม่สนใจเรื่องความรักหรอกครับ ถ้าผู้หญิงคิดจะร่วมกันทำงานสร้างอนาคต คนไทนก้อได้ครับ ผมมีหน้าที่แค่หาเงินครับไม่ใช่มานั่งคิดจัดงานเอาหน้ากัน เบื่ออยากมากพวกไม่คิดถึงอนาคตเห็นแค่วันนี้ จากคุณ : G-Saga - [ 12 ก.ค. 47 09:37:23 A:203.149.43.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 แต่งไปเถอะไอ้น้อง อย่าเอาเรื่องงานมาเป็นสาเหตุให้รอต่อไป ถ้าเงินน้อยก็ พูดกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงให้รู้เรื่อง ดูว่า จะแต่งกันแบบไหน บางอย่างก็ต้องทำตามใจเขาบ้าง ผมหมายถึงเมียคุณน่ะนะ เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มักมีภาพสวยๆ ให้กับวันแต่งงานของเขา รักกัน ทำให้นิดนึง คงไม่เป็นไรมั้ง ไม่ถึงกับกิจการจะเจ๊งหรอก จากคุณ : เชื่อผมเต๊อะ - [ 12 ก.ค. 47 11:04:19 A:203.170.245.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 โพสเสร็จ อ่านของคุณ G-Saga ขอเข้ามาตอบหน่อย คุณเป็นผู้ชายประเภทคิดว่าตัวเองมีทางเลือก เผลอๆ ผมว่าคุณก็ไม่ได้รักแฟนคุณจริงจัง (ถึงขนาดที่เข้าใจตัวเองได้ว่า ทำไมคุณถึงต้องการอยู่กับเธอไปตลอดชีวิตที่เหลือ ) นอกจากนี้ คุณพูดถึงอีกฝ่ายว่าไม่ช่วยอะไร พูดไปพูดมา ผมว่าคุณคิดเรื่องเงินมากกว่าอีกฝ่ายซะด้วยซ้ำ ( อยากจะบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาต่อรองประเภท เอาไง....มีงานไม่มีตึก ) เดินสายกลาง กันนิด ถ้ารักจริง จะไม่ทำแบบที่คุณพูดเลย เวลาที่เรามีเงิน แต่ไม่มีคนรู้ใจที่แท้จริงน่ะ ชีวิตมันก็เรื่อยๆไปวันๆเท่านั้นไอ้น้องเอ๋ย มีเงินแล้วเป็นไง....ใครๆเขาก็มีกันทั้งนั้น อย่าได้คิดว่า คนที่รักเราจริงมันมีมาก จากคุณ : เชื่อผมเต๊อะ - [ 12 ก.ค. 47 11:12:11 A:203.170.245.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับ คุณมารบูรพา นะค่ะ ถ้าเราเป็นฝ่าย ญ เราคิดว่าทางบ้านเค้า คงมองว่านานเกินไป จัดพอเป็นพิธีเล็ก ๆ ก้อ พอค่ะ เลี้ยงพระ ทำกับข้าวกินกันในหมู่คนสนิท เราว่าคงไม่หนักหนา อยู่กันมาสองปี เค้าคงดีกับคุณเช่นกัน ถือว่า ให้เกียรติฝ่าย ญ ด้วยค่ะ จากคุณ : น้องชวน(ป๋วย) - [ 12 ก.ค. 47 13:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เฮ้ออออ ได้เขาไปแล้ว แล้วก้อมาทำยึกยัก ผมล่ะเบื่อพวกผู้ชายที่ชอบบอกว่ายังไม่พร้อมแต่งจริงๆ ไม่พร้อมแต่ง แล้วทำไมพร้อมอย่างอื่นเล่า ถ้าคุณไม่มีปัญหา เคลียร์ได้ เรื่องสินสอด เรื่องจัดเลี้ยงนะ แต่งเถอะ การงาน การเงิน คุณยังอยากให้เป็นหลักเป็นฐานได้ ทำไม ชีวิตครอบครัว ไม่ทำให้เป็นหลักเป็นฐานเลยล่ะ ให้เกียรติแฟน และครัอบครัวแฟนบ้างครับ อย่าคิดเอาแต่ด้านตัวเองฝ่ายเดียว จากคุณ : ววมฟ้วก (ววมฟ้วก) - [ 12 ก.ค. 47 13:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าไม่พร้อมตั้งแต่แรก แล้วอยู่กันก่อนทำไม ผู้หญิงยังไงก็เสียเปรียบวันยังค่ำ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ พอตอนอยู่ด้วยกันก็แฮปปี้ แต่พอจะแต่งงานก็มีปัญหาอ้างว่าไม่พร้อม จากคุณ : รอรักแท้ - [ 12 ก.ค. 47 15:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เราว่าถ้าผู้หญิงเข้าใจ ก็ไม่น่ามีปัญหานะคะ ปัญหาคุณเหมือนแฟนเรา แฟนคุณก็เหมือนตัวเรา เพียงแต่เราไม่ได้เรียกร้องจะแต่งงานเท่านั้น เพราะคิดเหมือนคุณว่าแต่งไปแล้วทำไม ช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้ ถ้าเรายังต้องสร้างเนื้อสร้างตัว แล้วจะมาแต่งงานเพิ่มภาระขึ้นมาทำไม การแต่งงานไม่ใช่แค่ใช้เงินนะคะ อยู่ทีปัญหาอื่นๆ ด้วย ถ้าเรายังต้องเครียดกับการสร้างเนื้อสร้างตัว แล้วจะมีแก่ใจประคับประคองชีวิตคู่ได้ยังไง ถ้าเรามั่นคงอีกซักหน่อย ไม่ต้องถึงกับให้รวย แต่อยู่ตัวบ้าง ก็ควรจะแต่ง ไม่ต้องจัดงานใหญ่ ๆ ก็ได้ อย่างเราก็คิดว่าแค่เลี้ยงภายในเล็ก ๆ แล้วเก็บเงินไปฮันนีมูนค่ะ ทางบ้านเราเห็นด้วย แต่ตอนนี้เรากับแฟนก็แค่คุย ๆ กันว่าจะแต่งอีกสองสามปีข้างหน้านี้ เป็นที่เข้าใจกัน เราว่าอยู่ที่คุณกับแฟนคุยกันรู้เรื่องมั๊ยนะคะ คุณควรจะแสดงอะไรให้แฟนเห็นว่าถ้าคุณให้เธอรอ เธอจะไม่รออย่างเสียเปล่า คุณจะสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อจะได้แต่งงานกับเธอ (ไม่ใช่เพื่อต้วเอง) และจะต้องรักเธอ แต่งงานกับเธอแน่ ๆ ขณะเดียวกันก็ทำตัวเป็นว่าที่ลูกเขยที่ดี ไปมาหาสู่บ้านแฟน ดูแลพ่อแม่เค้าบ้าง อย่างนี้ดีมั๊ยคะ น่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เรารักแฟน เรารอได้ ไม่เกี่ยวว่าแฟนรวยหรือจน แต่ถ้าแฟนเราแสดงให้เราเห็น ให้เรามั่นใจว่าเค้าสู้ เค้าสร้างเนื้อสร้างตัวมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะแต่งงานกับเรา โดยไม่ให้เรารอแบบเรื่อยเปื่อย ไร้จุดหมาย มีกำหนดเวลาให้เรา เราก็จะรอค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 47 17:37:25 จากคุณ : แบ๊น แบน - [ 12 ก.ค. 47 16:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านหลายคห.แล้วอยากหัวเราะ บางคนยังมีหน้าไปด่าเจ้าของกระทู้เขาอีก คุณเจ้าของกระทู้จะทำอะไรก็ทำเถอะครับ อย่ามาถามคห.คนในนี้เลย ตัดสินใจด้วยตัวเอง เพราะคุณเท่านั้นที่รู้รายละเอียดดีที่สุด เข้ามาถามให้ถูกด่าเปล่าๆ จากคุณ : กัซจัง - [ 12 ก.ค. 47 17:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เราก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่อยู่ในฐานะเดียวกับแฟนคุณ แฟนคุณอาจคิดไม่เหมือนเรา แต่ลองฟังความรู้สึกเราดูไม๊ เราตัดสินใจอยู่กับผู้ชายคนนี้มา 3 ปีกว่าแล้ว เค้าทำงาน เราก็เห็นนะ แต่ เค้าทำงานเพื่อตัวเค้าเอง หรือเพื่อสร้างครอบครัว ......เราไม่รู้ แม่เราแก่ลงทุกวัน เราอยู่กับแฟนก็ไม่ได้บอกให้เขารู้หรอก แต่มีหรือ ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อนจะไม่รู้ เพียงแต่จะพูดหรือไม่เท่านั้นแหละ เราอายุ 30 เค้าก็เกือบ 30 คิดให้ดีนะ ผู้หญิงอายุ 30 ความต้องการความมั่นคง(ด้านจิตใจ) กับคำว่าครอบครัว มันถึงจุดแล้ว ก็รู้ว่าเค้ายังไม่พร้อม และก็ยังจะรออยู่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด บอกได้ไม๊ว่าทุกวันนี้ทำเพื่อครอบครัว(เรากะเค้า ไม่ใช่กะใครก็ได้) ให้ตีหน้าตายกับแม่ต่อไปอีก 5 ปี ก็ทำได้ ให้แก่จนไม่ควรจะมีลูกแล้ว ก็รอได้ สำคัญที่สุดตรงความมั่นใจนี่แหละ คุณบอกได้ไม๊ ว่าถึงวันนั้น "เรา" จะยังอยู่ เคยบอกเค้าหรือยังคะ ย้ำบ่อยๆ นะ "รอผมอีกหน่อยนะ ผมสัญญาไม่ให้คุณรอเกิน...ปี" จากคุณ : nymp (nymp) - [ 12 ก.ค. 47 22:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 (เจ้าของกะทู้) อยากถามนะครับ แต่ละวันผมมัวแต่ง้วนกับงาน กับความอยู่รอด ผมไม่มีบ้าน มีแม่มีน้องที่ยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ถ้าผมล้มในวันนี้ จะมีอีกหลายคนที่ต้องลำบาก กับแฟนผมเค้ามีที่มาต่างกัน เขามีบ้าน มีที่บ้านคอยดูแลได้ เขาไม่เคยลำบากแบบผม เขาไม่เข้าใจหรอก เขารู้จักชีวิตที่สบายๆ ทำงาน มีเงินใช้ มีเงินเก็บ วันหยุดพักผ่อน ไปเที่ยว คุณเชื่อมั้ย ผมเลิกเที่ยวตั้งแต่อายุ21 เพราะผมมีน้องที่เรียนมหาลัย 2 คน มีแม่ที่ยังลำบาก จนถึงวันนี้ผมยังไม่มีบ้านอยู่ บ้านต้องเช่า คือวันนี้ผมจะล้มไม่ได้ ถ้าผมพลาดหรือล้มเหลว ผมไม่เสียใจหรอกถ้าผมจะลำบากคนเดียว แต่ผมทนเห็นคนในบ้านลำบากไม่ได้ ผมยังไม่แน่ใจเลยนะว่าเธอจะเป็นคู่ชีวิตผมได้แค่ไหน เพราะทุกวันนี้ผมคิด ทำอยู่คนเดียว ถ้าผู้ชายคนไหน เจออย่างผมจะเข้าใจนะ ถ้าคุณสู้ยิบตา ทำงานไม่มีวันหยุด แต่อีกคนเขาเฉยๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว คุณจะเข้าใจว่า ทำไมผมถึงไม่กล้าคิดถึงการแต่งงาน จากคุณ : เจ้าของกะทู้ - [ 13 ก.ค. 47 00:55:17 A:202.22.37.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ฟันเขา...ทำไม ฮิ ฮิ ตลกดีว่ะ ยังมาโพทนาอีก จากคุณ : รักเดียวใจเดียว (เด็กดีและดื้อ) - [ 13 ก.ค. 47 03:42:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #30 คุณมีภาระ และไม่รู้ว่าแฟนคุณจะทนได้มั๊ยถ้าแต่งงานกับคุณน่ะเหรอ ไม่รู้อีกเหรอ เค้ายอมอยู่กับคุณทั้งไม่ได้แต่งเนี่ย ไม่แปลว่าเค้ารับได้เหรอ เพราะเรื่องภาระของคุณเค้าก็น่าจะรู้อยู่ เค้าอาจจะขอแค่ทำให้ทุกอย่างถูกต้องก็พอ เท่านั้นหรือเปล่า ไอ้ที่ให้รอน่ะ ก็รอได้ ขอเพียงแค่บอกเหตุผลและคำมั่นเท่านั้นแหละ ไม่ใช่รอแบบไปวันๆ ไม่มีหลักอะไรเลย ผู้หญิงเค้าก็ต้องการอนาคตนะคุณ จากคุณ : vilandra - [ 13 ก.ค. 47 11:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แล้วจะให้เขารอถึงเมื่อไหร่ล่ะครับ? เกิดคุณอายุ 30 35 40 คุณยังไม่พร้อมซะที ก็คงไม่ได้แต่งสินะ จะรอดไม่รอดก็ไม่เกินปีนี้ครับ <-- ธุรกิจยังลูกผีลูกคนอยู่เลย คุณเลยไม่คิดจะแต่ง ถ้ารอดไปได้ คุณก็จะมีข้ออ้างอีกว่า ธุรกิจกำลังไปได้ที่ คุณต้องทุ่มหนักเพื่อให้มันอยู่มีเยอะขึ้น แล้วก็พอเริ่มใหญ่โต ก็จะเริ่มหาทางขยับขยาย ก็ไม่พร้อมอีก เคยมีอีฟอร์เวิร์ดเมล์ตัวหนึ่ง คล้าย ๆ คุณนี่แหละ ผู้ชายขยันทำงานอย่างหนัก เพื่อให้หญิงที่รักของเขาได้มีสิ่งที่เพรียบพร้อม เก็บเงินเพื่อให้ได้แหวนเม็ดโต เก็บเงินซื้อรถ เก็บเงินซื้อบ้านที่ใหญ่ขึ้น จนเมื่อเขามีพร้อมทุกอย่าง ก็สายไปแล้ว เธอตายไปแล้ว สุดท้ายเขามีเงินมากมาย มีแหวน ที่ไม่มีคนใส่ มีรถที่ต้องขับไปคนเดียว มีบ้านใหญ่โตที่ไม่มีคนอยู่ด้วย ผู้หญิงไม่ได้ต้องการแหวน รถ บ้าน เธอต้องการแค่ให้แฟนของเธออยู่เคียงข้าง ในมุมมองของผมคุณยังไม่พร้อมสำหรับการแต่งงานหรอกครับ อาจจะต้องให้ถึงวันที่คุณเสียเธอไปตลอดกาล คุณอาจจะเพิ่งรู้สึกตัว หรืออาจจะไม่รู้สึกเลยก็ได้ เพราะเธออาจเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เกิดมาในครอบครัวสุขสบาย ไม่เข้าใจคุณ คุณเลยไม่รู้สึกเสียใจอะไรถ้าจะต้องเสียเธอไป ถ้าอย่างนั้น หาผู้หญิงที่เกิดมาในครอบครัวที่เขาลำบาก เป็นอย่างคุณ ไม่ดีกว่าเหรอครับ? คุณรักเธอเพราะอะไรกันแน่? จากคุณ : zeros - [ 13 ก.ค. 47 13:45:17 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คิดว่าพอจะเข้าใจแล้วค่ะว่าคุณยังไม่อยากแต่งกับเธอจริงๆ "ผมยังไม่แน่ใจเลยนะว่าเธอจะเป็นคู่ชีวิตผมได้แค่ไหน เพราะทุกวันนี้ผมคิด ทำอยู่คนเดียว" คำพูดแบบนี้ แสดงว่าคุณยังไม่มั่นใจมากๆและไม่อยากแต่งเอาซะมากๆเลยค่ะ ไม่มีใครบังคับให้คุณแต่งได้หรอกค่ะถ้าคุณจะไม่แต่งซะอย่าง อย่ากังวลเลยนะ คุณไม่จำเป็นต้องแต่งแล้วค่ะ สบายใจเถอะนะ เราเองเป็นผู้หญิงถึงจะอยากแต่งงานกะคนที่รักแค่ไหนก็ไม่อยากบังคับใจคนให้มาแต่งด้วยขนาดนี้หรอกค่ะ ยิ่งถ้าได้รู้ว่าผู้ชายคิดยังไง และไม่อยากแต่งขนาดนี้แล้ว คงยอมแพ้แล้วค่ะ.... จากคุณ : แมมมอม - [ 13 ก.ค. 47 22:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เราแต่งงานกับแฟนเรา โดยที่สามีต้องส่งเสียให้แม่ พี่สาว หลาน ๆ เงินเดือนเค้าเราไม่เคยแตะ เพราะเราก็หาเองได้ ทำให้เรายิ่งแกร่ง และ ดิ้นรน ในที่สุด เราก็สามารถมีรายได้ที่ดี ปัจจุบันนี้ ต่างคนต่างช่วยกันหาค่ะ ไม่มีหนี้ มีบ้าน รถ พร้อมเกษียณได้ทุกเมื่อ เมื่อแฟนคุณต้องการให้แต่งงาน นั่นแสดงว่าเธอย่อมเข้าใจและยอมรับในเงื่อนไขชีวิตคู่ของทั้งสองแล้ว คุณก็คงต้องจัดสรรรายได้ให้ดีระหว่างครอบครัวคุณเอง และ กับ แม่และน้อง ๆ เพราะถ้าคุณรักเธอจริง เชื่อว่า ที่บ้านคุณคงเข้าใจ และ ไม่น่าจะเรียกร้องมากเกินความพอดีค่ะ จากคุณ : แมกโนเลีย - [ 14 ก.ค. 47 12:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นแก่ตัว ญาติก็เอาแต่ญาติตัว กลัวชีวิตจะล้ม เดี๋ยวญาติทางตัวเองจะลำบากไปด้วย เอาแต่ได้ ได้แต่เอา นอนกับเค้าแล้วไม่แสดงความเป็นลูกผู้ชาย ผู้หญิงก็ไม่ดีเท่าไหร่หรอก มาอยู่ด้วยก่อนอ่ะ แต่เค้าทำเพราะรัก เฮ้อ เสียดายความทุ่มเทที่ผู้หญิงมีให้จริงๆ ถามจริงๆ อยู่ด้วยกันตั้งสองปีแล้ว แต่งให้จบๆเรื่องคาใจไปมันต่างกับอยู่อย่างนี้ยังไงเหรอ ชีวิตหลังแต่งงานจะเปลี่ยนไปเหรอคะ?? มีพิธีวันเดียวชีวิตที่อยู่ด้วยกัน นอนด้วยกันมาจะเปลี่ยนเนี่ยนะ จากคุณ : Cuddle - [ 14 ก.ค. 47 12:42:46 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แล้วไปนอนกับเค้าทำไม เอาเค้ามาอยู่ด้วยทำไมตั้งสองปี ทั้งๆที่คุณคิดถึงแต่ตัวเองเป็นใหญ่ ผู้หญิงเค้าไม่มีพ่อไม่มีแม่หรือคะ หรือเค้าไม่มีศักดิ์ศรี มาอยู่กับคุณเอง ถ้าคุณคิดจะใช้ชีวิตคู่กับใคร คุณต้องหัดคิดถึงใจเขาบ้าง ไม่ใช่ตัวคิดแบบนี้เค้าก็ต้องคิดเหมือนคุณเสียที่ไหน แล้วขอถามหน่อย ตั้งแต่คบกันมาเค้าไม่มีข้อดีอะไรเลยหรือคะ เค้าไม่ต้องมีศักดิ์ศรีอะไรให้ผู้ชายอย่างคุณคิดจะรักษาไว้บ้างหรือคะ คุณมีเหตุผลก็เข้าใจ แต่เหตุผลส่วนใหญ่เข้าข้างตัวเองเกินไปค่ะ จากคุณ : fingers-crossed (fingers-crossed) - [ 16 ก.ค. 47 17:47:45 ]