ความคิดเห็นที่ 2
ส่วนอันนี้ เป็นคำถามที่น่าจะมีประโยชน์ มากขึ้นอีกนิด อ๋อ ....ดิฉันได้ทำการผ่าตัดส่องกล้องมาแล้วค่ะ ไม่ได้แพงอะไรอย่างนั้นเลยค่ะ เคยกินยาที่ว่านะค่ะ แต่ปรากฎว่าหน้าขึ้นฝ้าดำ และมัน ( แล้วแต่คนนะค่ะ บางคนก็ตอบรับดี แต่จำได้ว่า หมอบอกว่าเข็มละ 7000 บาท ครั้งเดียว) แต่ดิฉันก็มาผ่าตัดจนได้ค่ะ ......... ลองฟังปัญหาดูนะค่ะ.............
หัวข้อ หลังจากไปฟังผลทั้งการส่องกล้องและอัตราซาวด์แล้ว สรุปได้ว่า
1.ท่อนำไข่ด้านซ้ายตัน 2.ท่อนำไข่ด้านขวาบวม 3.เยื่อบุมดลูกขึ้นผิดที่ อยู่กระจัดกระจายไปทั่ว มดลูก 4.ผังผืดขึ้นอยู่เต็มไปหมด กระจัดกระจาย 5.มีถุงน้ำรังไข่ กระจัดกระจายทั่วไป 6.มีเนิ้องอก ทั้งภายใน มีอยู่หลายก้อน ขึ้นเบียดปากท่อ และ ทั้งภายนอก (นูนขึ้นมา)
คุณหมอค่ะ ทั้งหมดเนี้ย มันเป็นมาอย่างไรกัน ?? ปกติเป็นคนแข็งแรงค่ะ อายุจะ 35 ปีแล้ว ประจำเดือนมาสม่ำเสมอมาก ไม่ปวดท้องเวลามีประจำเดือน มากนัก ประจำเดือนมา 3 วัน ดิฉันไม่เคยมีประวัติ ด้านเสีย หรือ กินยาคุมกำเนิดใด ๆ แต่งงานมากว่า 5 ปี ไม่มีลูก เมื่อไปตรวจกับพบปัญหาอย่างนี้ แบบตระลึง ไปเลยค่ะ หมอค่ะ ปัญญามีอยู่ว่า
1. เรื่องทั้งหมดเมื่อเราพบว่าเรามีความผืดปกติ อย่างนี้แล้ว เราจะขอย้ายไปรักษา ผ่าตัด (ถ้าต้องทำ) กับโรงพยาบาลที่เรามีประกันสังคมได้ไหมค่ะ ? จ่ายมาไม่ค่อยได้ไปใช้สิทธิ์ 2.แล้วเราจะบอกหมอจุฬา คลีนิดพิเศษ ให้ส่งเราไปรักษาในโครงการประกันสังคมได้ ??? 3.เราต้องการรักษา ทุกๆอย่างที่เป็นอยู่ ทำได้ไหมค่ะ ทำกี่ครั้ง ค่าใช้จ่าย ? 4. เมื่อรักษาแล้ว เรายังพอมีหวังมีลูกไหมค่ะ ? 5. ทำเด็กหลอดแก้วที่จุฬา แพงแค่ไหนค่ะ ทำได้หรือเปล่า ? หรือที่อื่น ? ราคา?
หมายเหตุ เราไป ร.พ. จุฬา เพราะว่า มีปํญหา มีบุตรยาก แต่เมื่อพบปัญหาแล้ว จะถือว่าเราเจ็บป่วยต้องรักษา หรือไม่ ?
ขอชื่นชมคุณหมอจากใจจริงเลยค่ะ เพราะเห็นได้ว่า คุณหมอมีความพยายาม ใจเย็น และไม่หงุดหงิดง่าย กับปํญหาจำเจ ตอบได้ละเอียดและยาว ดีค่ะ ขอให้ผลบุญส่งถึงคุณหมอเป็นร้อยเท่าพันทวีนะค่ะ ต้นอ้อ ผู้ถาม/วันที่ ต้นอ้อ ( Monday, March 04, 2002 )
คำตอบ
1.ถ้าปัญหาหลักจริง ๆ คือการที่มีบุตรยาก ไม่ใช่อาการเจ็บป่วย เช่น ปวดท้อง ถึงแม้คุณจะมีปัญหามากมายเช่นนี้ คุณก็จะไม่สามารถใช้บัตรประกันสังคมได้ครับ เพราะการรักษาที่เกี่ยวข้องกับการมีบุตรยากเป็นหนึ่งในข้อยกเว้นของบัตรประกันสังคมรวมถึงข้าราชการด้วยครับ ดังนั้นคำตอบคือถึงแม้คุณจะขอประวัติไป ก็ไม่สามารถใช้สิทธิบัตรประกันสังคมได้ครับ
2.ในเรื่องของการขอประวัติการตรวจรักษา คุณหมอทุกท่านยินดีที่จะให้อยู่แล้วครับ เพราะเป็นสิทธิของผู้ป่วยที่จะขอประวัติเหล่านั้นได้ครับ
3-4.สำหรับการรักษาภาวะทั้งหมดคงเสียค่าใช้จ่ายไม่มาก มีโอกาสที่จะต้องได้รับการผ่าตัดค่อนข้างสูง อาจจะเป็นการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง หรือการผ่าตัดแบบกล้องส่อง ซึ่งอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา และอาจต้องรักษาหรือผ่าตัดมากกว่าหนึ่งครั้งได้ครับ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงที่เป็น และการตอบสนองต่อการรักษา
แต่ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากจริง ๆ คือการทำให้คุณตั้งครรภ์ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ถ้าจากที่คุณเล่ามาแสดงว่าค่อนข้างหนักหนาสาหัสพอสมควร โอกาสตั้งครรภ์คงต้องใช้ความพยายามกันพอสมควร ถึงแม้จะรักษาแล้วก็ตาม ตรงนี้จะเสียค่าใช้จ่ายมากพอสมควร เพราะวิธีการแต่ละอย่างก็มีค่าใช้จ่ายพอสมควร และส่วนใหญ่มักไม่ประสบความสำเร็จในการทำเพียงครั้งเดียว ต้องทำหลายครั้งเป็นส่วนใหญ่
5.การรักษาภาวะมีบุตรยากที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ถือได้ว่าค่อนข้างราคาถูกแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลเอกชน แต่ถึงจะถูก ก็ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายพอสมควรอยู่ดี เช่น การฉีดเชื้อ จะเสียค่าใช้จ่ายต่อครั้ง 2,000-3,000 บาท แต่ถ้าเป็นการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งมีหลายวิธี ค่าใช้จ่ายต่อครั้งอย่างน้อย 20,000-30,000 บาทขึ้นไป แต่อย่างที่บอกไปแล้วครับว่ายากที่จะตั้งครรภ์ได้ในการทำเพียงครั้งเดียว ดังนั้นคุณต้องเตรียมเงินไว้อย่างน้อย 100,000 บาทขึ้นไปครับ นพ.กวิน ก้านแก้ว / Wednesday, March 06, 2002
จากคุณ :
ต้ออ้อ
- [
15 ส.ค. 47 00:01:52
A:202.176.170.101 X: TicketID:048221
]
|
|
|