CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    หยุดยาหมอไม่ได้จริงหรือ คำถามที่มีคำตอบครับ

    เข้ามาอ่านเป็นส่วนใหญ่
    จะมีบ้างที่ตอบคำถามแต่ก็เป็นคำถามเกี่ยวกับโรคผิวหนัง ไม่ใช่ความสวยงาม
    และก็มีตอบเรื่องกระ กับ เลเซอร์ให้คุณแอน
    อีกทั้งไม่ค่อยชอบตอบเรื่องยาเพราะไม่อยากให้ไปซื้อยามาใช้เอง

    แต่เห็นมีคนส่วนใหญ่พูดถึงการใช้ยาของหมอตามคลินิก แล้วหยุดไม่ได้
    เลยอยากมาให้ความเห็นของผมเอาไว้ให้อ่านกัน
    สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าผมเป็นใคร
    ก็ดีแล้วครับจะได้ไม่มีอคติ(Bias)
    อยากอ่านก็อ่านเลยครับ
    ไม่อยากอ่านก็ออก(มุมบนขาว กดกากบาทออกจากหน้านี้ได้เลย ง่ายๆครับ)
    แล้วต้องย้ำว่า ไม่ได้เข้ามาแก้ตัว
    หรือว่ากล่าวหมอหรือคลินิกใดๆทั้งสิ้น
    และไม่ได้มีผลประโยชน์กับบริษัทยา บริษัทเครื่องสำอางใดๆเช่นกัน
    อ่านแล้วต้องคิดพิจารณาด้วยตัวเองนะครับ

    เอาหล่ะมาเข้าเรื่องเลยครับ
    หลายๆคนใช้ยารักษาหน้ากัน ได้ผลดีแล้วอยากจะหยุดยาแต่ก็หยุดไม่ได้สักที
    ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
    เอาเป็นว่าอ่านไปเรื่อยๆเป็นข้อๆนะครับ

    ๑.ต้องทำความเข้าใจกับโรคที่เราเป็นก่อนครับ
    ว่าโรคนั้นๆเป็นโรคที่รักษาแล้วหายขาดเลย
    หรือเป็นโรคเรื้องรังที่ต้องควบคุมด้วยยาเป็นครั้งคราว
    ส่วนใหญ่ที่ไปรักษากัน
    คงเป็น สิว ฝ้า กระ หรือต้องการให้หน้าขาวใส
    สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นโรคเรื้อรังครับ
    พอหน้าขาวใสอย่างที่ใจต้องการแล้ว
    หยุดยาโรคที่เป็นก็มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้
    ดังนั้นถ้าจะหยุดยา
    ก็จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงสาเหตุทีจะกระตุ้นทำให้โรคกลับมาเป็นใหม่
    เช่น สิว เมื่อรักษาหายแล้ว พอหยุดยา
    ก็ไม่ควรใช้ครีมต่างๆมากเกินความจำเป็น
    ตรงไหนแห้งก็ทาครีมให้ไม่แห้ง ตรงไหนมันก็ไม่ต้องทา
    แล้วก็ไม่ต้องทาหลายๆชั้นหลายๆตัว
    สิ้นเปลืองเกินความจำเป็นครับ
    ผมเห็นหลายคนในห้องนี้กว่าจะเข้านอนได้ต้องทาครีมที่หน้าปาเข้าไปไม่ต่ำกว่า๕ ๖ ตัว
    ครีมน่ะ ยังไงมันก็ไม่ซึมลงไปลึกได้อย่างที่คิดกันหรอกครับ

    ๒.พอพูดถึงครีมที่ทากัน
    ก็ต้องมาเน้นทำความเข้าใจว่า
    ครีมที่เป็นเครื่องสำอาง กับ ครีมที่เป็นยา
    นั้นคุณสมบัติต่างกันครับ
    ยาจะมีผลต่อผิวหนัง และการแบ่งเซลรวมถึงการทำงานต่างๆของเซล ครับ
    แต่เครื่องสำอางมีผลแค่ไหนไม่เป็นที่แน่ชัด
    ยา กว่าจะถูกนำมาใช้ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆมากๆๆๆๆๆๆๆ ต้องมีการลองใช้กับสัตว์และคน
    ต้องได้ผลและมีหลักการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้
    ส่วนเครื่องสำอางนั้นไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยครับ
    เมื่อทราบดังนี้ก็ต้องคิดได้ว่า
    ไม่มีเครื่องสำอางใดที่ใช้รักษาสิว ฝ้า กระ ฯลฯ ได้ดีเท่ายาครับ
    แต่ถ้าเป็นสิวเล็กๆน้อยๆแค่เม็ดสองเม็ด
    เครื่งสำอางบางตัวพอช่วยได้บ้างครับ

    ๓.พอใช้ยาอยู่ร่วมกับครีมต่างๆ(สกินแคร์)แล้วก็โอเค
    แต่พอหยุดใช้ยาและยังใช้ครีมเดิมอยู่
    แต่ทำไมผิวแย่ลงไม่เหมือนเดิม
    สิวขึ้น หน้าดำ เป็นผื่น ฯลฯ
    ถ้ามีคำถามนี้ขึ้นมาในใจก็ให้กลับไปอ่านข้อ ๑ และ ๒ ใหม่ครับ
    ว่า โรคที่เป็นอยู่นั้นเป็นโรคที่กลับมาเป็นใหม่ได้
    หยุดยาแล้วก็เป็นใหม่ได้ซิครับ
    แล้วที่ดูว่าผิวดีในตอนนั้นก็จากยาครับ
    ไม่ใช่ครีมสกินแคร์

    ๔.ก็หยุดยาไม่ได้ซิ แล้วจะมาบอกอะไร
    ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วมีคำถามเช่นนี้
    ก็ต้องกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นครับ
    ยังไงก็จะย้ำว่า หยุดยาได้ครับ
    แต่หลังหยุดต้องดูแลเอาใจใส่ให้ถูกต้อง
    ใช้ครีมแต่ที่จำเป็น
    แห้งก็ทาตรงแห้ง มันก็ไม่ต้องไปบำรุงอีก
    ล้างหน้าก็แต่พอควรไม่ใช้ล้างหน้าครั้งละ๔ขั้นตอน  
    โทนเนอร์ อะไรมากมายถ้าไม่ได้มีเงินเหลือเก็บ
    ก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ครับ
    รูขุมขนหน่ะโทนเนอร์ไม่ได้ช่วยนะครับ
    ที่เห็นว่าเล็กลงก็เพราะเซลผิวมันบวมขึ้นมาชั่วคราวก็เลยดูเล็กลง
    และอะไรที่ใช้แล้วดีแล้ว
    ก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนตามกระแสนิยม
    ดีในบางคนอาจแย่ในบางคนก็ได้ครับ

    สรุปว่าหยุดได้ครับ ได้แน่ๆ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวคุณเป็นหลักครับ
    เอาหล่ะคราวหน้าเห็นกระทู้ว่าครีมอันไหนดี
    แล้วอยากลองใช้
    ทั้งๆที่ตัวเองก็มีครีมใช้อยู่แล้วตั้งมาก
    แถมที่ใช้ก็ไม่มีปัญหา ได้ผลดี
    ก็ให้คิดถึงกระทู้นี้บ้าง
    และลองคิดว่าเราอยากจะเป็นคนหรือหนูทดลอง

    จากคุณ : A Life In The Dark - [ 29 ส.ค. 47 14:36:09 ]