CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ครีมกันแดดในอุดมคติ

    จริงๆคุณรำเพยเขียนถึงกันแดดต่างๆไว้ดีเป็นอย่างยิ่งแล้วครับ ในเวบไซท์
    แต่อยากจะเพิ่มเติมเอาไว้ อีกนิดในแง่ที่ต่างไป
    เพราะเห็นหลายคนๆชอบถามถึงกันแดดในอุดมคติกัน

    กันแดดในอุดมคติที่ว่าก็คือ ไม่มัน ไม่ขาว ไม่วอก
    กันได้ครบทั้งยูวีเอ(สองช่วง)และยูวีบี
    ใช้แล้วไปตากแดดหน้าไม่คล้ำลง
    สารที่ใช้กันแดดอยู่ตัว(เสถียร)
    กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่หลุดง่าย
    แถมต้องล้างออกง่าย
    ไม่แพ้ ไม่อุดตันทำให้เป็นสิว
    ราคาสมเหตุสมผล

    คุณสมบัติที่กล่าวมาถ้ามีครบหมด เราเรียกว่ากันแดดในอุดมคติครับ
    เมื่อเป็นอุดมคติก็คงไม่มีจริงครับ
    แต่บริษัทผู้ผลิตก็พยายามที่จะทำให้ใกล้เคียงเท่าที่เป็นไปได้ครับ

    สารกันแดดในกลุ่มดูดซับรังสีนั้น จะให้มากน้อยอย่างไร พัฒนาดีเท่าใดก็ยังคงมีความมันครับ
    เพราะส่วนใหญ่แล้วเป็นสารที่ละลายในน้ำมัน ไม่ละลายในน้ำ
    ดังนั้นเมื่อผลิตออกมาก็ต้องใช้น้ำมันเป็นสารพื้น
    หรือสารใกล้เคียงกันเช่น สารที่ทำให้น้ำกับน้ำมันรวมตัวกัน(Emulsifier)
    ถ้าใช้สารดังกล่าวครีมกันแดดที่ได้ก็จะไม่มันเท่าไร แต่ก็จะมีโอกาสเกิดสิวได้ง่าย
    (ให้ไปดูกระทู้ของคุณรำเพย เรื่องสารก่อสิว กลุ่มสารก่อสิวส่วนใหญ่เป็นพวก Fatty acid& Derivatives ซึ่งก็คือ Emulsifier นั่นเองครับ)
    ดังนั้นจะเอากันแดดที่ไม่มันก็ต้องเสี่ยงสิวหน่อยครับ

    มาที่สารสะท้อนรังสี ก็มีพระเอกหลักอยู่แค่๒ตัวที่ใช้อย่างแพร่หลาย คือ Titanium Dioxide and Zinc Oxide
    (จริงๆมีมากกว่านั้นแต่ไม่ใช้กันมากนัก)  
    สารทั้งสองเป็นสารเฉื่อย ก็คือไม่ทำปฏิกริยาอะไรกับผิว จึงไม่ค่อยพบผู้ที่แพ้จากสารสองตัวนี้
    ในขนาดอนุภาคปกติจะสะท้อนได้ดีมากใน
    รังสียูวีเอ(สองช่วง) ยูวีบี แสงขาว (Light แสงนี้ทำให้เกิดความหมองคล้ำ โดยที่สารดูดซับรังสีไม่ช่วยในเรื่องนี้)
    แต่จะมีสีขาวเวลาที่ทาบนผิวซึ่งไม่น่ามองเท่าไร
    ดังนั้นจึงมีพัฒนาให้อนุภาคเล็กลง เพื่อให้ไม่ขาวมากนัก แต่เมื่ออนุภาคเล็กลงการสะท้อนแสงและรังสีก็จะด้อยลงตามไปด้วย
    ทำให้อาจไม่สามารถกันรังสียูวีเอได้ดีเท่าเดิม
    Zinc Oxide จะสะท้อนUVAได้ดีพอสมควรแม้ว่าจะถูกทำให้อนุภาคเล็กลง
    และดีกว่าเมื่อเทียบกับTitanium Dioxide
    แต่Zinc Oxide ก็จะทำให้เกิดการอุดตันได้มากกว่าครับ

    แค่นี้ก็จะเห็นได้ว่าไม่มีสารใดที่จะมีคุณสมบัติดีพร้อมไปหมด
    ถ้าอยากได้กันแดดที่ไม่มัน
    ก็อาจได้กันแดดที่กันไม่ครบ หรือ ทาแล้วขาววอก หรือ ทาแล้วอาจอุดตันได้ง่าย

    หรือถ้าอยากได้ที่ไม่วอกและกันครบ
    ก็อาจต้องมันบ้าง ราคาอาจสูง แล้วก็อาจเสี่ยงกับการแพ้จากสารดูดซับรังสีต่างๆ

    แล้วค่าSPF(ค่าบอกจำนวนเท่าเวลาที่ผิวทนได้กับUVB)
    กับ PA, PPD, IPD (ค่าบอกความสามารถในการกันUVA ซึ่งยังไม่เป็นมาตราฐานทั่วโลกครับ) นั้นจะเลือกอย่างไร

    ให้พิจารณาตามนี้ครับ

    มีการตรวจสอบวิธีการทา ปริมาณที่ทา ของคนทั่วๆไปแล้วพบว่า วิธี และปริมาณที่ทากันโดยทั่วไป จะทำให้ประสิทธิภาพของกันแดด ลดลงไปตั้งแต่ 1/3-1/2 เช่นครีมที่มีSPF60ทากันแล้วประสิทธิภาพจะอยู่แค่30 เป็นต้นครับ

    ดั้งนั้นครั้งต่อไปที่จะใช้ครีมกันแดด ต้องทาปริมาณให้ได้มาก และถูกวิธี
    คร่าวๆคือ ปริมาณบีบออกมา1-1.5 ซม. ต่อหน้าครึ่งซีก
    ทาให้กระจายให้ทั่วโดยแต้มครีมเป็นจุดเล็กๆทั่วใบหน้าแล้วค่อยเกลี่ย
    ไม่ใช้ครีมทั้งหมดที่อยู่บนนิ้ว หรือฝ่ามือถูที่หน้าโดยตรง(จะทำให้ครีมส่วนใหญ่อยู่ที่จุดแรกที่ป้ายไปบนหน้า)
    ทาโดยการลูบเบาๆไม่ถู ถ้าเป็นสารสะท้อนรังสีจะเห็นสีขาวบ้างถ้าถูทิ้งเท่ากับว่าไม่ได้ทาเลย
    ไม่นวดครีมบนฝ่ามือก่อนแล้วนำมาทา
    เมื่อทาทั่วหน้าควรจะทาซ้ำอีกรอบ และรอให้แห้งสักพัก ก่อนแต่งหน้า
    ไม่ควรใช้กระดาษซับหลังจากทาเสร็จ
    ทาก่อนออกแดดอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
    ทาซ้ำทุก ๑-๒ ชั่วโมง ถ้าเหงื่อออกมาก หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง

    อาจยาวไปหน่อย แต่อยากให้ทุกคนเลือกกันแดดได้เหมาะกับตัวเองแล้วเข้าใจถึงกันแดดมากขึ้น จะได้มีผิวสวยกันถ้วนหน้าครับ

    จากคุณ : A Life In The Dark - [ 31 ส.ค. 47 16:20:05 ]