ความคิดเห็นที่ 1 ท่องบทสวดมนต์ค่ะ ปกติแล้วเป็นคนใจร้อน อารมณ์ร้าย และขี้โมโหมาก หลังจากหันมาใช้วิธีนี้ รู้สึกว่าสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นมากๆเลยค่ะ จากคุณ : คิเรนะ - [ 12 ก.ย. 47 18:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 look at a mirror จากคุณ : eSJay - [ 12 ก.ย. 47 18:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วก็มีอีกเรื่องน่ะคะ มีวิธีคิดหรือทำใจยังไงในการยอมให้คนอื่นเอาเปรียบบ้างน่ะคะ พอมีคนจะเอาเปรียบทีไร เราเลือดขึ้นหน้าคิ้วขมวดทุกที กลุ้มใจมาก จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 12 ก.ย. 47 18:40:30 A:203.170.146.198 X: TicketID:069148 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คนในโลกนี้นะคะ จะแบ่งได้ 6 ประเภทใหญ่ๆน่ะค่ะ 1.โมหจริต มีการ..หลง...นำหน้ามาเลย หลงในที่นี้ ไม่ได้แปลว่า โง่ ไม่รู้จักคิด โดนหลอกง่าย ไม่มีเหตุผลใช้อารมณ์นำ แต่หลงในที่นี้ คือ หลงโลก ก็จะให้ความสำคัญกับ โลกธรรม 8 อย่างมาก ได้แก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ นินทา + การเสื่อมของทั้งสี่ข้อแรก เช่น เรียนก็ชอบแข่งขัน ชอบให้คนชม ชอบได้รางวัล ทำงานก็ต้องเด่น ชอบได้ยศ ได้ลาภ ฟังดูแล้ว คนส่วนใหญ่ก็เหมือนจะเป็นดั่งนี้อะนะคะ ทว่าจริงๆแล้ว คนมันจะมีจริตที่เด่นนำมาน่ะค่ะ ลองหาหนังสือ จริต 6 ปกแดงๆอ่านนะคะ ถ้าสนใจอะนะคะ พอใช้ได้ค่ะ ให้ 2 ดาว พวกจริตนี้อาจไม่ขี้โกรธแบบคุณและเราก็ได้น่ะค่ะ 2.ราคจริต พวกนี้รักสวยรักงาม ทั้งความงามของตนเองและของสิ่งรอบตัวค่ะ ชอบเพศสัมพันธ์ด้วยนะคะ พูดเพราะและชอบคนพูดเพราะ สาเหตุที่พูดเพราะก็เพราะว่าชอบอะไรงามๆไงคะ 3.วิตกจริต พวกนี้ขี้กังวลค่ะ ขี้กลัว กลัวอนาคต กลัวโน่นนี่ มักเป็นคนไม่มั่นใจในตนเองค่ะ มักคิดมาก 4.ศรัทธาจริต พวกนี้เชื่อง่ายค่ะ เชื่ออะไรก็ปักใจเชื่อ นิสัยโดนจูงง่าย แต่ก็อีกอะแหละค่ะ บางทีก็โดนจูงยาก มันขึ้นกับว่า เขาปักใจกับอะไรน่ะค่ะ แล้วสิ่ง/คนที่เขาปักใจนั้น มีความดึงดูดเขาแค่ไหนอะนะคะ บางทีก็โดนจูงกลับมายาก ถ้าบังเอิญไป ศรัทธาสิ่ง/คนผิดๆเสียก่อนแล้วน่ะค่ะ 5.โทสจริต ขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญ มักเจ้าระเบียบ มักเถรตรง มักมีกฎเกณฑ์ อาจเป็นกฎเกณฑ์ เฉพาะตนที่ตั้งมาเอง หรือกฎเกณฑ์สากล ก็ต้องขึ้นกับนิสัยเขาว่ามีเหตุผล หรือเจ้าอารมณ์แบบไร้เหตุผล คือคนเจ้าโทสะนี่น่ะ ไม่จำเป็นต้องไร้เหตุผลเสมอไปนะคะ แต่มักเป็นคนที่นำตนเองตั้งไว้ แล้วตัดสินคนอื่น ตามกฎเกณฑ์ตนเองน่ะค่ะ อีโก้มักสูง จึงเคืองง่ายน่ะค่ะ (แต่คนลักษณะนี้ ถ้ามาทางธรรมจะหลุดพ้นไวสุดนะคะ เพราะเหลือแต่อัตตาแล้ว ที่ต้องขัดออก เรื่องอื่นๆที่จริตอื่นๆต้องขัดเกลาแกผ่านมาแล้วน่ะค่ะ) 6.พุทธจริต เป็นคนช่างคิด หาเหตุหาผล ชอบตามข้อมูล มักเก่ง เจ้าปัญญา แต่ฟุ้งซ่านง่าย ตามวิสุทธมรรค จัดจริตเป็น คู่ๆ กล่าวคือ ใครมีจริตใดมักมีอีกจริตตามมาน่ะค่ะ (แต่ในความเป็นจริงก็ไม่แน่อะนะคะ) ได้แก่ 1.ราคจริต+โมหจริต 2.โทสจริต+พุทธจริต 3.ศรัทธาจริต+วิตกจริต จบเรื่อง จริต 6 อะนะคะ ทีนี้คุณคงเห็นได้ว่า เกิดเป็นคนน่ะ มันต้องตกอยู่พวกใดพวกหนึ่ง คนทุกคนมีจุดอ่อนทั้งนั้น โทสจริตน่ะ ได้โทษหนักจากตัวโทสะเองแต่โทษนั้นสั้น ขณะที่โมหจริตให้โทษน้อย แต่ให้โทษนานน่ะค่ะ ดังนั้นคนทุกคน ทุกจริต มีจุดอ่อนในแบบของตน หมดทุกคนค่ะ หน้าที่ของแต่ละคน ก้อต้องพยายาม แก้จุดอ่อนของตนเองไปน่ะค่ะ วิธีแก้ของคุณนะคะ 1.พยายามควบคุมอารมณ์โกรธให้อยู่แค่ในใจก่อน อย่าระบายออกมาทางวาจา และการกระทำค่ะ แล้วมันจะแก้นิสัยนี้ง่ายขึ้นน่ะค่ะ 2. เมื่อโกรธให้พยายามดูกลับมาที่ใจ+ ความรู้สึกตนเองขณะนั้นๆ ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ ดูเฉยๆค่ะ มันจะโกรธแรงขึ้นก็ดูค่ะ โกรธเบาลงก็ดูค่ะ ถ้าหัดไปเรื่อยๆ ทำถูกวิธี ความโกรธจะดับไปทันทีค่ะ (มีสติอยู่ กิเลสจะดับค่ะ) เชิญที่นี่นะคะ www.dungtrin.com หาอ่าน วิปัสสนานุบาลค่ะ และตอนนี้เรื่อง เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน หนุกมากค่ะ 3.พยายามอภัยให้เป็นนิสัยค่ะ อาจต้องศึกษากฎแห่งกรรมก่อนนะคะ เพราะว่า โทสจริตนั้น ถ้าเป็นคนมีรากฐานในใจที่ดี มักเถรตรง เป็นคนตรง รักษากฎเกณฑ์ หลักการ ไม่ชอบความอยุติธรรม ฯลฯ ดังนั้นการจะให้เขาละวางความโกรธ ก็ต้องให้เขาเข้าใจก่อนว่า คนทำผิดนั้นต้องรับผลแน่นอน อย่างไร เมือ่ไหร่ เท่านั้นเองอะค่ะ ไม่งั้นเขาอาจไม่ยอมวางเรื่องน่ะค่ะ 4. หัดแผ่เมตตาอย่างถูกต้องค่ะ หาอ่านในเว็บคุณดังตณอะนะคะ ในมหาสติฯ search หาการแผ่เมตตาค่ะ คนเจ้าโสะนี่น่ะ ตัวจะร้อนค่ะ เพราะไฟโทสะมันเผา กระแสเมตตา จะเป็นกระแสเย็นค่ะ มันจะต้านกันน่ะค่ะ มีความจริงอยู่อย่างอะนะคะ ถ้าคนเรายังร้อนอยู่ เราจะดูดเหตุการณ์ร้ายๆ คนร้อนๆ มาหาเราน่ะค่ะ เราต้องเย็นด้วยเมตตาเสียก่อน เหตุการณ์ในชีวิตจึงจะดีขึ้นอะนะคะ ใส่บาตรบ้างนะคะ เดือนละหลายหนหน่อยก็ดีค่ะ มันต้องทานก่อนน่ะค่ะ ไม่งั้นการทำดีบางทีทำได้ยาก และการทำวัตถุทานจะช่วยให้อภัยทานง่ายขึ้นค่ะ จากคุณ : ........ - [ 12 ก.ย. 47 19:05:59 A:203.113.51.104 X:203.150.217.117 TicketID:000836 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบ และไม่เคยเอาเปรียบใครเช่นกัน คนประเภทที่ชอบเอาเปรียบคนอื่นนั้นเจอมาบ่อย และจะต้องยังเจอต่อไปอีกบ่อยๆ..ชัวร์ แต่ก่อน..เจอทีไร ก็เป็นต้องหงุดหงิดทุกที ยิ่งปากไวอยู่ โดยเฉพาะเวลาอารมณ์ขึ้น เคยตอกกลับหน้าหงายไปก็หลายรายแล้ว ..เพราะยึดคติว่าใครมาไงก็ไปยังงั้น แต่จริงๆแล้ว ไม่ควรสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น บางทีอะไรๆที่ไม่ดีที่ต้องเจอ.. ก็ไม่ใช่จะต้องไปต่อความยาวสาวความยืดกับมัน ชอบเวลาตัวเองอารมณ์นิ่ง มากกว่าเวลาอารมณ์ขึ้น เพราะสามารถคิดอะไรๆได้กว้างกว่า ทั้งยังมีการตัดสินใจที่ดีกว่าตอนอารมณ์ร้อน .. แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องยอมไปซะทีเดียว เดี๋ยวนี้ถ้าเจอใครเอาเปรียบ..ก็ไม่ค่อยมีอารมณ์ เพราะถือเป็นเรื่องธรรมดา และจะมีวิธีพูดสื่อให้คนเข้าใจ ว่าเราไม่ใช่คนที่อยู่ดีๆ จะยอมให้ใครมาเอาเปรียบ.. โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรพอ ...อย่างไม่แสดงอารมณ์น่ะฮ่า จากคุณ : น้องเกิบ - [ 12 ก.ย. 47 19:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณน้องเกิบ มีวีธีพูดสื่อให้เข้าใจยังไงคะ อธิบาย สอนเราหน่อยได้ไหมคะ ขอบคุณมากๆ คะ สำหรับทุกคำแนะนำ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 12 ก.ย. 47 20:15:05 A:203.170.146.232 X: TicketID:069148 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นอน จากคุณ : โทโมกะ - [ 12 ก.ย. 47 20:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ต้องออกตัวก่อนว่าน้องเกิบไม่ได้ทำงาน แบบที่ต้องเจอเพื่อนร่วมงานประจำ และไม่ได้อยูตำแหน่งใต้บังคับบัญชาใคร จึงไม่จำเป็นต้องเกรงอกเกรงใจใครนัก เรื่องที่มักโดนเอาเปรียบ จึงเป็นกรณีที่ต่างจากคุณสาวออฟฟิศ เท่าที่สังเกตเห็นหลายรายที่มักเป็นผู้ถูกคนอื่นเอาเปรียบนั้น ส่วนหนึ่งมักเป็นผู้ที่เปิดโอกาสให้คนอื่นเอาเปรียบตนเองได้ด้วย บางทีการทำตัวเรื่อยๆ เออๆออๆไปกับใครง่ายๆ ใครว่าไงก็ว่าตามกันไป ไม่ค่อยมีความมั่นใจ ขาดความเป็นตัวของตัวเอง .. ไม่มีจุดยืนของตัวเอง ไม่กล้าปฏิเสธใคร ไม่พอใจอะไรก็ไม่ยอมพูดออกมา ... พวกที่มีคาแรกเตอร์อย่างนี้แหล่ะ มักโดนเอาปรียบได้ง่ายๆเสมอ ...ไม่ทราบว่าคุณเข้าข่ายคนมีคาแรกเตอร์อย่างนี้หรือไม่ คงถึงขนาดแจกแจงคำพูดให้คุณก๊อบปี้ไปพูดตามไม่ได้ ซึ่งการจะพูดสื่ออะไรออกไปนั้น มันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย คุณต้องมีจุดยืนของตัวเองก่อน เช่น สำหรับเรื่องนี้ .. หากคนโยนงานมาให้คุณนั้นเกินหน้าที่ของคุณไปหรือไม่ ...คุณต้องรู้ว่าระดับไหนคือการช่วยโดยน้ำใจ ที่คุณทำด้วยความเต็มใจ ...และระดับไหนที่เกินหน้าที่ของคุณ โดยที่คุณรู้สึกอึดอัดใจหากต้องทำ ถ้ามันไม่ยุติธรรมจริงๆ และคุณกล้าพูดปฏิเสธอย่างมั่นใจโดยมีเหตุผลที่ดี แล้วใครล่ะจะสามารถบังคับเอาเปรียบคุณได้ .. ถ้าเขายังยืนยันจะเอาเปรียบต่อ (ซึ่งคงเป็นไปได้ยาก..ไม่น่ามีใครจะขนาดนั้น) ..ก็ขอให้เขานั้นให้เหตุผลที่ดีกับคุณมาด้วย สื่อให้เขารู้ว่าคุณไม้ได้แล้งน้ำใจ หากกลับมีน้ำใจ ถ้าอยู่ในขอบเขตที่พอดี แต่ก็รู้สึกอึดอัดใจ เมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกเอาเปรียบ ..ความมั่นใจนั้นมีได้ ...แต่ต้องแสดงออกอย่างพอดี ไม่งั้นจะถูกหมั่นไส้ได้ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นอาจถูกเข้าใจผิดว่าก้าวร้าว ..ขอให้ระวังเรื่องนี้ไว้ด้วยฮ่า จากคุณ : น้องเกิบ - [ 12 ก.ย. 47 21:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โกรธแล้วระงับได้ มันดูดี ดูเป็นผู้ดี มีวุฒิภาวะ น่านับถือ พอโกรธ แล้วระงับไม่ได้ จะรู้สึกว่า ตัวเรามันช่างน่ารังเกียจจริงหนอ กระฟัดกระเฟียดเป็นวัวกระทิง โวยวายเป็นลิงค่างบ่างชะนี มีเพื่อนมีฝูงก็จะลองหันหน้าเข้าหา หาทางระบาย หาทางช่วยแก้ไขปัญหาค่ะ จากคุณ : kednoi - [ 13 ก.ย. 47 13:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คิดอย่างเดียวว่า..... เดี๋ยวก็ตายแล้ว.....อภัยๆๆๆๆ จากคุณ : เห้อออออออออ - [ 13 ก.ย. 47 15:43:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มองว่าพิจารณา...ว่าเราเป็นใคร..จึงจะไม่ยอม ให้ใครเขาเอาเปรียบเราได้เลย เรายอมเพราะเรารู้และยอม ดีกว่ายอมเพราะโดนบังคับ เอ้อ..แล้วอย่าลืมบอกเขาด้วยว่าเราก็รู้นะว่าโดนเอาเปรียบ แต่อดยอมไม่ได้ เพราะเขาน่ารักอ่ะ จากคุณ : ลูกคุณหลวง+ - [ 13 ก.ย. 47 18:50:52 A:212.34.162.77 X: TicketID:010148 ]

ความคิดเห็นที่ 12 --เจอบ่อยแฮะ...กับเพื่อนร่วมงาน กับหัวหน้างาน.... ส่วนใหญ่จะใช้วิธีเดินหนีนะครับ...ถ้ารู้ตัวว่าโกรธ ก็จะเดินหนี ทำเป็นไม่สน ไปทำเรื่องอื่นแทนน่ะครับ --จะมีบ้างที่ทนไม่ไหว ก็ใส่กลับไปบ้าง นานๆที พอให้เค้ารู้สึกตัวน่ะครับ.... จากคุณ : TzeTze - [ 23 ก.ย. 47 20:21:11 ]