ความคิดเห็นที่ 1 ความคิดเห็นนอกเรื่องนะน้องแคท อัตรากำลังตอนนี้ไม่ได้มาตรฐานขั้นต่ำด้วยซ้ำ วอร์ดที่พี่อยู่ มีห้องพิเศษ 10 ห้อง และเตียงสามัญ 24 เตียง แต่ยอดคนไข้ 30-50 ตลอด โดยที่เวรบ่าย-ดึก มีพยาบาลเวรละ 2 คน แล้วก็พนักงานผู้ช่วย 1 คน แล้วการรับคนไข้ไมไ่ด้จำกัดด้วย จะให้นอนที่ไหน ทำยังไง พยาบาลต้องบริหารจัดการเอาเองจะทำงานให้ทันแค่ฉีดยา ทำ treatment ให้ทันก็วิเศษแล้ว ทำไมจะไม่นึกถึงการดูแลผู้ป่วยแบบ โฮลลิสติก พยายามทำไปพร้อมๆกับการฉีดยา ทำทรีทเม้นท์ นั่นแหละ แต่มันก็ต้องบกพร่องถามอัตรากำลังที่มี เพราะฉะนั้นถ้าใครมาเจอพยาบาลพูดน้อยหน่อยก็ต้องเข้าใจนิดนึงนะจ๊ะ เหนื่อยจริงๆ แล้วยังงี้ถ้ามีน้องคนไหนอยากลองออกไปทำงานเมืองนอกพี่จไปห้ามน้องได้ยังไง ใครก็อยากลองหาสิ่งที่ดีกว่า( หรือไม่เราก็ไม่ทราบ) เราทราบนะว่าคนไข้ต้องการแบบไหน ทำแบบสอบถามมาทุกครั้งก็รู้ เช่น พยาบาลไม่ค่อยมีเวลาำพูดคุยด้วย อยากให้ดูแลมากกว่านี้ เตียงนอนไม่พอ, ห้องน้ำไม่สะดวก ช่วงสองสามอาทิตย์ที่ฝ่านมา ยอดคนไข้ 40 อัพตลอด น้องๆที่ตึกพี่เดินกันทั้งวัน ( ยังจะมีพวกปากไม่ดีว่าพยาบาลน่องทู่อีก ) แบบสอบถามที่ออกมาคะแนนเละเลย โอย ไม่เห็นเราเดินกันหรือไงนะ ตอนนี้ก็ได้แต่บอกน้องๆว่า ทำงานให้สนุกเข้าไว้ ยิ้มแย้มแจ่มใส ใส่ใจกับคนไข้มากขึ้น หาโอกาสคุยกับคนไข้มากขึ้น แนะนำเค้ามากขึ้น (ถ้าทำได้) ตอนนี้ก็คุยๆกันเรื่องอัตรากำลังเพิ่มต่อเวร แต่ก็มีปัญหาเรื่องไม่มีคนพออีก ตอนนี้ใช้วิธีไปเอาพยาบาลจากอำเภอใกล้มาอยู่เวรเสริมด้วย เพราะน้องๆที่ รพ. พี่ขึ้นเวรคนละ 10 กว่าโอทีทั้งนั้น ไม่มีเวลาพักผ่อน เดี๋ยวคนที่บ้านก็จะหายตัวอีก ..บ่นยาวไปไหมเนี่ย จากคุณ : ริต้า - [ 22 ก.ย. 47 19:09:03 A:203.156.44.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าในความรู้สึกคนไข้ ก็ว่า มันมองที่ เมืองไทยเราเพียงพอแล้วหรือ พยาบาลคุณภาพ พี่ว่าแยกก่อนนะครับ พยาบาลอาชีพ กับหญิงที่มีอาชีพพยาบาล อย่างแรก มันมีกี่เปอร์เซนต์ของพยาบาล คือพยาบาลอย่ามี อัตตา อัตตาที่แปลว่า ตัว ku นี่แหละ เมื่อจบมาแล้วกี่คนที่เป็นอย่างแคท พี่ไม่ได้ชมแคท แต่บอกด้วยหัวใจว่าพี่ชอบพยาบาลอย่างแคท อย่างอ้อม มาก เพราะเวลามีปัญหาคือตอบ ตอบจริง ๆ ไม่ใช่ตอบแบบหยิ่ง ๆ แบบมองคนไข้โง่ ว่า ข้าคือพยาบาล อาจจะโดนคนไข้ ยันเอาง่ายๆ ตอนเขียนไม่ได้เมานะ แต่มันเรื่องจริง เราต้องการพยาบาล ที่ดี หมอที่รักพยาบาล เอ้ยรักคนป่วย เราต้องการมืออาชีพ เอางี้ คิดง่ายๆ ทำไมคนไข้หนีไปเอกชน เพราะคนไข้ ทนไม่ไหวกับบริการที่ห่วยแตกของรัฐ ที่ดูถูก ด่าคนไข้ นี่พี่ไม่ได้ด่า นะ พูดเฉยๆ เดี๋ยวยัยอ้อมมาโวยพี่ แต่จริงแล้ว ทำไมละ เราต้องการพยาบาลที่ดี ที่มาด้วยใจใช่ไหม ทีนี้พยาบาล พอวันหนึ่งจาก ที่จบใหม่เหมือนนักเรียนนายร้อยจบใหม่ สดโสด พอวันหนึ่งอายุขึ้นเลข 3 ก็เหมือนจ่าแก่ๆ แต่งหน้าเข้มๆ ดุคนไข้ ขี้เกียจทำงาน เพราะพุงโต ทำไมมันเปลี่ยนไป หรือไม่ก็สามีให้ออกมาอยู่เป็นเจ้าหน้าที่ สาธารณสุข เลิกงาน เหมือนคนทั่วไป มันก็สมองไหล สุดท้าย ซวยคนไข้ พี่ว่าไง ก็ยังขาด นะครับอย่างที่เจ้าอ้อมว่าแหละ จากคุณ : จมื่นไวกว่า - [ 22 ก.ย. 47 20:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ความเห็นของพยาบาลที่อยู่รพ เอกชนนะคะ หนูก็เป็นอีกคนนึงที่พยายามสมองไหลอยู่ ก็เห็นด้วยอย่างมากๆเลยล่ะค่ะถ้าจะมีนโยบายส่งออกเพราะคนที่อยากไปตอนนี้ก็ต้องพยายามกันเอาเอง ถ้ามีโครงการนี้อย่างน้อยเราก็จบจากคอร์สที่เป็นEnglish ิbase ไม่ต้องไปสอบภาษาอังกฤษ หรือ ไป เรียนconversion ให้เปลืองตัง ถ้ามองแบบpositive thinking นะคะ ก็เป็นเรื่องที่ดีนะหนูว่า ช่วยกันหาเงินเข้าประเทศ ......อย่าว่างั้นงี้เลยนะคะ เดี๋ยวจะว่าหนูอีโก้สูง......หนูเข้าใจและเห็นใจเพื่อนร่วมอาชีพที่ทำงาน รพ ของรัฐนะ แต่ก็อย่างที่เห็น ไม่เห็นจะมีผู้ใหญ่มาแก้ปัญหาเรื้ออออออรังงงงงงนี้เลย ตั้งแต่เข้าสู่อาชีพพยาบาลมากก็นานพอสมควร ปัญหาก็ยังเป็นปัญหาเดิมๆ เฮ้อ.......แล้วอย่างนี้จะโทษใครดีล่ะ ช่วยกันแก้ปัญหาน่าจะดกว่าเนอะ.......นายก ช่วยด้วยยยยยย น่าจะเอาเงินทำถนนที่เชียงใหม่มาช่วยเราบ้างเนอะ หลายๆพันล้านเชียว จากคุณ : ์NooMali (NooMali) - [ 22 ก.ย. 47 21:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เย้!!!!!!!!!!!!! หนูโหวตคนแรกเลย แล้วจะเป็นคนเดียวที่โหวตป่ะเนี่ย จากคุณ : ื์์์Noomali (NooMali) - [ 22 ก.ย. 47 21:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปัญหาตอนนี้เท่าที่ทราบคือ อัตรากำลังไม่เพิ่งเนื่องจาก Zero growth effect ดังนี้คนที่ช่วยราชการก็ไม่มีตำปน่งลง ช่วยไปหลายปียังไม่ดีขึ้น ก็ต้องกลับ เพราะอนาคต ปีละขั้นมันทุกปี ทำดีให้ตายก็ปีละขั้นเนื่องจากเงินเดือนได้จากต้นสังกัด แต่ตัวไปทำงานที่อื่น นี่คือผลพวงทำให้คนลาออกกันเยอะ เพราะเอกชนเขาให้เงินดีกว่า พยาบาลของกระทรวงสาะรณสุขตอนนี้เป็นแบบไม่มีสัญญาผูกมัด คือจบมาใครมีทางไปไหนก็ไป ถ้าทำกะรัฐก็มีแค่ตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว ดีหน่อยก็ลูกจ้างประจำ ทำสัญญาปีต่อปี start 6 พันกว่าบาท ในขณะที่ไปทำเอกชน start 12000 งานรัฐก็หนักกว่า นี่คือปัญหาที่ไม่รู้จะไปบ่นให้ใครฟังค่ะ น้องๆจบใหม่ก็ลาออก ลูกศิษย์หนู่จบไปปีที่แล้ว ลาออกไปจะครึ่งแล้ว อย่าว่าไงเลย อาจารย์น้องใหม่ก็ลาออกไปอยู่เอกชนหมด เพราะพยาบาลเรานี่เงินเดือนน้อยกว่าชาวบ้านเขาจริงๆ ในขณะที่หมอ เถสัชได้เงนิมากกว่าแถมได้เงินประจำตำแหน่งค่าตอบแทนพิเศษก็มากกว่า มันเลยห้ามกันยากนะคะเรื่องระบบสมองไหล ถ้าใจไม่รักชาติจริง ทำเพื่อรัฐแม้ตัวต้ดงกัดก้อนเกลือกิน เพราะคนเราต้องกิน ครอบครัวต้องกิน มีน้องต้องส่งเรียน 6000กว่า นี่แค่ค่าเช่าหอพัก็แย่อีก(เพราะตำแหน่งลูกจ้าง แต่สวัสดิการไม่มีซะอีก) หนูก็สงสารน้องๆ และเด็กจบใหม่นะคะ ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะว่าอันนี้คงต้องสู้กันในระบบนโยบายและแผนและคนที่จะเป็นเสียงให้พวกเราในการจะเรียกร้อง รอหนูเป็นรัฐมนตรีก่อนนะคะ อิอิ หนูจะได้ต่อสู้ให้ บางคนเลยคิดว่าในเมื่อเราเองยังไม่ต้องการที่จะสู้เพื่อขอตำแหน่งรองรับให้คนเราเอง ก็ต้องให้ปากกัดเท้าถีบกันไปอ่ะค่ะ เพราะที่อื่นเขา Need มากกว่า เมื่อใดที่รัฐปรับตรงนี้ได้ คิดว่าคงไม่มีใครอยากไปไหนไกลบ้านหรอกค่ะ คิดถึงบ้านจะตาย ก็คงแค่อยากทราบความคิดเห็นค่ะ อิสระแล้วแต่จะคิด เผื่อจะได้นำไปเป็นข้อมูลให้กับคนที่สามารถจะนำเสนอตรงนี้ต่อไป จากคุณ : นางฟ้าของมารี - [ 22 ก.ย. 47 22:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนคุณภาพของการพยาบาล หนุเห็นด้วยกับพี่อ้อมค่ะ เราก็ควรจะรับผิดชอบ และทำหน้าที่ตัวเองให้ดี Caring ด้วยหัวใจ และใช้เวลาอยู่กับข้างเตียงคนไข้ให้มากกว่า Chart จริงๆถ้าจะเพิ่มอัตรกำลังให้พยาบาล 1 คนต่อคนไข้ ไม่เกิน 4 คนได้ จะเยี่ยมมากเลยค่ะ หนูว่าอาจมีเวลาอ่านหนังสือนิทานข้างเตียงให้คนไข้เด็กฟัง มีเวลานั่งคุยรื้อฟื้นความหลังกับคุณยายทีป่วยอยู่ใน ward ก็ได้ค่ะ อย่างว่าค่ะ ระบบบางทีมันต้องช่วยกันปรับ และที่สำคัญคือระดับผู้บริหารสนับสนุน หนูเคยตรวจคนไข้นอกเวลาตอนทำงานอยู่โรงพยาบาลชุมชน หลังจกาตรวจจะใช้เวลาคุยกับคนไข้อยู่นานมากเพื่อสอนให้เขาดูแลตัวเองต่อ จนพยาบาลรุ่นพี่ที่อยู่เวรด้วยกัน บอกว่าหนูตรวจนาน ไม่อยากอยู่เวรนอกเวลาคู่กับหนู 555 พอเราอธิบายว่าเราต้องการจะให้สุขศึกษาและใช้เวลาตรงนี้คุยกับคนไข้ด้วย คนไข้พอใจ แต่พยาบาลเก่าๆกลับไม่พอใจ เพราะว่าเขาอยากเคลียคนไข้ให้โล่งๆเร็วๆ นี่คือปัญหาที่หนูเคยเจอและมันทำให้หนูท้อที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรเพราะเราเองเพิ่งจบมาใหม่ๆเอง สุดท้ายเลยขอย้ายมาสอนหนังสือดีกว่า จะได้ปลูกฝังพยาบาลเลือดใหม่ไปแทนที่พยาบาลเก่าๆที่คิดแบบนี้ให้หมดไปซะ เวลาเป็นนักเรียนพยาบาลเห็นสอนกันดีจัง คนไข้จะไปก็กวักเรียกไว้จะสอนสุขศึกษา แต่เวลาจบไป ไอ้การอยากสอนนี่มันหายไปไหนซะหมดกันนิ นี่หล่ะคะ ที่ทำให้หนูสมองไหลมาอยู่การศึกษาแทน จากคุณ : นางฟ้าของมารี - [ 22 ก.ย. 47 22:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 บางครั้งก็ต้องทำแบบนั้ล่ะแคท คือรีบเคลียร์คนไข้ เพราะต้องรับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงที่เกิดได้ตลอดเวลา บางครั้งตอนเช้ากำลังเดินราวน์อาการคนไข้ เกิด arrest ขึ้นมาจากคนไข้ที่อาการคงที่แล้ว งานก็รวนไปทั้งเช้าเลย วันนั้นก็อดล่ะ คนไข้กลับบ้านที่จะต้องได้การสอนสุขศึกษา ได้ยากลับบ้านก็รีบให้ไปเลย กำำลังนั่งรอบนรถเข็นต่อเตียงกันเลย ได้แค่บอกเรื่องยา อาหาร แบบคร่าวๆ แค่ันั้น แหม ถ้าได้ 1/4 นะแคท จะให้ทำอะไรบอกมาเลย จากคุณ : ริต้า - [ 24 ก.ย. 47 17:36:59 A:203.156.44.181 X: ]