คือผมกำลังลำบากใจมาก ควรทำอย่างไรดีครับ
ถึงยังไง ก็ขอเล่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นให้ฟังนะครับ เผื่อว่ามันจะทำให้คนอื่นๆได้ระวังตัว ระวังปนิธานในชีวิตเอาไว้บ้าง
ผมกับผู้หญิงคนที่ผมรักที่สุดในชีวิต รองจากแม่ กำลังประสบปัญหาครับ
...บางทีมันอาจจะกระทบถึงความสัมพันธ์ของเราก็ได้...
ขอเล่าตรงนี้ให้ได้ทราบกัน และขอให้คนที่รักกันคนอื่นๆต้องอย่าประสบสิ่งเดียวกันกับผมเลยนะครับ
คือตอนแรกเขาก็ไปฟังโดยรู้สึกไม่เชื่อ แล้วไม่ยอมบอกผมว่าจะไป เพราะเขาจะเข้าไปจับผิด และหาข้อมูลต่างๆเพื่อดูว่ามันไม่ดีอย่างไร
บริษัทนี้เป็นบริษัทใหญ่ที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว
แต่ผมเอ่ยนามตรงนี้ไม่ได้ เพราะอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา
ยิ่งไปเข้าร่วมมาก เขาก็ยิ่งเปลี่ยนไป จากแต่ก่อนที่
ไม่สนใจเรื่องเงินมากนัก และอ่านหนังสือมาก พยายามทำงานเขียน
งานเรียน งานศิลปะออกมาอย่างสนุกสนานในงาน
เป็นสิ่งที่ทำให้ผมนับถือในความสามารถทางวิชาการของเธอ
ในตอนแรกที่เราพบกันเมื่อหลายปีมาแล้ว จนเรากลายมาเป็นแฟนกันในที่สุด
และในตอนนี้แฟนผมเขาแทบจะเลิกหมดทุกอย่างเลย ในทุกสิ่งที่เขาเคยชอบ
และต้องไปเซ็นเตอร์ทุกบ่อยเพื่อ "ฟังแผนฯ" และทำกิจกรรม
เสริมสร้างยอดขาย ออกหาเครือข่าย(downline) ตามต่างจังหวัด
กับหัวหน้างานที่เดี๋ยวนี้เขาเคารพราวกับอาจารย์ผู้มีคุณ หรือราวกับพ่อ
หรือศาสดาอะไรสักอย่าง คือผมพูดว่าบริษัท หรือผลิตภัณฑ์ หรือบริษัทฯ
ไม่ได้เลยครับ เพราะเธอจะออกโรงมาปกป้องเองทุกๆอย่าง โดยไม่มีเหตุผล
ทั้งที่แต่ก่อนเธอแอนตี้ธุรกิจประเภทนี้มาก เพราะแน่นอนว่าเงินตราที่ได้มาในธุรกิจ จะมีส่วนมากที่ส่งกลับไปยัง
Head Quarter ที่ต่างประเทศ
เธอบอกผมว่า "ทุนนิยมไม่มีชาติ" ซึ่งเป็นคำที่เธอได้เรียนรู้มาระหว่างการไป "เข้ารับการอบรมในศูนย์" ซึ่งบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดีมาก ใหญ่มาก มีโรงงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก ได้รับรางวัลจากหลายหน่วยงานต่างประเทศ ซึ่งเธอบอกว่า น่าชื่นชมไปกับความสำเร็จของเขา
เธอบอกว่าผมไม่มองรางวัลเงินปันผลที่จะได้รับ ไม่มองว่ารางวัลนี้จะไม่ได้ช่วยเฉพาะตัวเอง แต่ยังช่วยครอบครัวคนที่เรารักด้วย เธอบอกว่าผมไม่ฉลาด ไม่มีวิสัยทัศน์(เดี๋ยวนี้คำว่า "วิสัยทัศน์" ออกมาจากปากของเธอบ่อยมากขึ้นทุกทีๆ...เธอคนที่เคยชอบชวนผมไปดูงานแสดงศิลปะ งานสัปดาห์หนังสือ งานถนนคนเดิน งานประกวดวรรณกรรม และชอบฟังผมเล่าเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ เธอคนนั้นหายไปหมดแล้ว)
เธอว่าสักวันเธอจะล่องเรือสำราญ ชิมอาหารมากมายหลายหลากในเรือลำนั้น
ซึ่งทางได้ยี่สิบสี่ชั่วโมง เธอจะไปเที่ยวอลาสก้า ซึ่งสองอย่างนี้บริษัทฯจะให้เธอฟรีๆ ถ้าเธอทำเปอร์เซ็นต์ได้ตามที่บริษัทฯกำหนด
ผมอยากถามพวกคุณหน่อยว่า ถ้าหากลึกๆในระดับที่ซับซ้อนนั้น ทุนนิยมไม่มีชาติจริงๆแล้ว เพราะเหตุผลใดทำไมบริษัทนี้ และรวมถึงบริษัทใหญ่ต่างๆ จึงไม่ตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศอื่นๆที่ไม่ใช่ประเทศแม่ของเขาครับ
ทำไมบริษัทผู้ผลิตชิปประมวลผล(ซีพียู)ในคอมพิวเตอร์ จึงยังคงผลิตและออกแบบ โดยพัฒนากันที่ประเทศแม่ของเขา โดยให้บริษัทลูกในประเทศอื่นๆ ผลิตแค่ส่วนประกอบ แรม ฮาร์ดดิสก์ และอื่นๆเท่านั้น โดยไม่มายุ่งกับชิปประมวลผลซึ่งเป็นหัวใจหลักของคอมพิวเตอร์
ทำไมบริษัทผลิตน้ำอัดลมที่ทำมาจากผลโคคาแบรนด์ต่างๆจึง
ไม่บอกความลับของหัวเชื้อ และสูตรส่วนผสมทางเคมีให้แก่บริษัทลูก ที่มีหน้าที่ผสมและบรรจุขวดอย่างเดียวในประเทศต่างๆ แต่ต้องขนหัวเชื้อน้ำอัดลมมาจากประเทศแม่แต่เพียงอย่างเดียว
ผมพอมองออกอยู่หรอกครับ แม้จะไม่ได้ร่ำเรียนมาทางนี้
ทุนนิยมแบบเอื้ออาทร ลึกๆแล้วมีชาติครับ
เดี๋ยวนี้่สิ่งที่เธอพูดกับผมประจำไม่ใช่ปรัชญา หรือศิลปะ หรืองานเขียนอีกแล้ว แต่เป็นคุณภาพของสินค้าแต่ละตัว และความดีของหารตลาดแบบเครือข่าย รวมถึงสังคมที่อบอุ่นแบบ "การตลาดแบบเอื้ออาทร" รวมทั้งยังรบเร้าให้ผมซื้อเครื่องกรองน้ำราคาหลายหมื่นให้เธอไปสาธิตให้ลูกค้าอีกด้วย
(ถ้าผมซื้อก็บ้าแน่ เพราะสตางค์ส่วนตัวของผมที่ใช้เรียนยังไม่พอเลย)
...เราทะเลาะกันหลายครั้งแล้วครับ รู้สึกไม่โกรธแล้วตอนนี้
แต่กลายเป็นความเศร้าลึกๆมากๆ มันเจ็บนะครับ...
ผมอยากได้แฟนของผมคืนมาครับ.............
..............
...ได้โปรด....
แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 47 08:04:30
จากคุณ :
DigiTaL-KRASH!!! 
- [
10 ต.ค. 47 07:58:29
]
แฟนไปลองเข้าฟังบรรยายธุรกิจแบบเครือข่ายมาครับ แล้วเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย
