ความคิดเห็นที่ 1
Q: คำถามโดย แอน(แอ่นแอ๊น) A: คำตอบโดย A Life In The Dark
~~~ กระทู้เรียนถามคุณหมอเล็กเรื่อง Laser ค่ะ ~~~ ส่วนใหญ่ถามกันบ่อยๆ ในปัญหาผิวหนังของเราน่าจะเป็นเรื่อง ปัญหาเม็ดสีค่ะ พวกกระแดด กระตื้น (สองตัวนี้ประเภทเดียวกันหรือเปล่าคะ) กระลึก ในบ้านเราที่เห็น (จากข้อสังเกตส่วนตัว) หมอเค้านิยมใช้เลเซอร์รักษามีอยู่ 2 ชนิด คือ Ruby Laser กับ Nd: Yag Laser ขอถามคุณหมอเป็นประเด็นดังนี้ค่ะ
Q: 1. กระตื้น กับกระลึกต่างกันยังไงคะ แล้วรักษาด้วย Laser ทั้งสองตัวนี้ได้ผลเหมือนกันหรือไม่คะ
A: Freckle กระแดด หรือ กระตื้น เป็นบริเวณจุดเล็กๆ บนผิวหนังที่มีสีเข้มขึ้นและจะเข้มมากขึ้นเมื่อถูกแสงแดด จะพบรอยโรคได้ บริเวณนอกร่มผ้า เช่นที่ หน้า แขน มักพบอยู่กันหลายจุด และจะพบอยู่ทั้งสองข้างของร่างกาย เช่น สองข้างของใบหน้า
กระตื้น อาจหมายถึง กระจากอายุ (senile Lentigine) รอยโรคจะมีลักษณะเป็นปื้น นูนและสากเล็กน้อย พบในคนอายุมากๆ กระลึก คงหมายถึง ๑. Neavus Fascocaereleus Zygomatigus รอยโรคเป็นปื้นสีน้ำตาลเข้มปนเขียว อยู่เป็นกลุ่ม ๒ ข้างของโหนกแก้ม และ ใต้ตา ๒. Neavus of Ota or Ito รอยโรคเป็นปื้นสีเทาเขียว พบเพียงข้างเดียวที่โหนกแก้ม ใต้ตา และอาจพบได้ที่นัยน์ตาขาว กระทั้งสองกลุ่ม ที่เหมือนกันก็คือเป็นโรคที่มีความผิดปกติของเซลสร้างสีที่เรียกว่าเมลาโนไซต์ ที่ต่างกันก็ตามชื่อครับ กระตื้นก็จะมีเม็ดสีเมลานินอยู่ไม่ลึก ส่วนกระลึก นั้น เมลานินหรือเม็ดสีจะมีอยู่ลึก และมากขึ้นในชั้นหนังแท้
Q: 2. การรักษากระทั้งสอง (สามแบบ) ครั้งเดียวสามารถรักษาได้หมดเลยหรือไม่ แล้วถ้าต้องทำซ้ำ กี่ครั้งถึงจะหมด (โดยประมาณก็ได้ค่ะ)
A: Laser มีหลายชนิดครับ แต่ชนิดที่นำมารักษาเกี่ยวกับเม็ดสีผิดปกติเป็นหลัก ก็มี Ruby, Nd:Yag, Alexandrite เอาคร่าวๆก็คือแต่ละชื่อก็ต่างกันที่ตัวกำเนิดพลังงาน และความยาวคลื่นที่ได้ ความยาวคลื่นก็จะแปรผันตรงกับความลึกที่ได้เข้าสู่ผิวหนัง คือ ความยาวคลื่นยาวก็จะได้ลึกกว่าความยาวคลื่นสั้น ความยาวคลื่นยังสัมพันธ์กับตัวเป้าหมาย (Target) ที่เลเซอร์จะวิ่งเข้าหา โดยที่ความยาวคลื่นหนึ่งก็จะมี Target ในผิวหนังอย่างหนึ่ง
Ruby ความยาวคลื่น 694นาโนเมตร Nd: Yag ความยาวคลื่น 1,064นาโนเมตร
ยังมีรายระเอียดของเลเซอร์แต่ละชนิดแยกย่อยไปอีกมากๆ เช่นใช้เทคโนโลยี Q-switched แต่เอาคร่าวๆ ว่า ความยาวคลื่นต่างกัน ก็ จะลงลึกได้ต่างกัน
กระที่กล่าวมาข้างต้นสามารถถูกรักษาได้ด้วยเลเซอร์ที่กล่าวมาทั้งหมด แล้วแต่จะเลือกครับ ผลการรักษาก็ค่อนข้างดี แต่ไม่ได้รับประกันการกลับมาเป็นใหม่นะครับ เกือบจะร้อยทั้งร้อยจะมีการกลับมาเป็นใหม่ไม่มากก็น้อย
การรักษาในบางคนก็อาจใช้เลเซอร์เพียงครั้งเดียวร่วมกับยา ก็เรียบร้อยดี แต่ในบางรายก็สองถึงสามครั้ง บอกให้ชัดเจนไปเลยไม่ได้ครับ
แต่ในบางคนก็ครั้งเดียวแล้วไม่มารักษาต่อ เพราะกระน่ะจางลงแต่ได้สีผิวรอบๆเข้มขึ้นเป็นปื้นน้ำตาล หรือแดง หรืออาจเป็นวงขาวก็ได้ เลยหนีหายไป ไม่รักษาต่อครับ
Q: 3. ผลหลังจากการรักษาด้วยเลเซอร์ทั้งสองแบบเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมั้ย (อาการหลังจากทำการรักษา) ต้องพักหน้าไม่เจอผู้คนนานแค่ไหน เห็นหมอบอกว่าหลังจากรักษาแล้ว แรกๆ สีผิวบริเวณนั้นจะเข้มขึ้นกว่าเดิม (ประมาณ 2-3 อาทิตย์หลังจากนั้น) ทำไมถึงเป็นแบบนั้นคะ
A: ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยเลเซอร์ที่เห็นได้ชัด โดยเฉพาะในคนผิวสี (เอเชีย นิโกร) คืออาจจะได้ปื้นน้ำตาล แดง หรือวงขาวมาแทนกระที่เป็น ปัญหานี้จะไม่ค่อยพบในพวกผิวขาว (ฝรั่งคอเคเชี่ยน) ที่พบก็เพราะมันเป็นปฏิกิริยาหลังการเกิดแผลจากเลเซอร์ (Postinflammatory hyper-hypopigmentation) ซึ่งเหมือนกับการเกิดรอยดำ รอยแดงหลังจากสิวหายครับ เนื่องจากการรักษาด้วยเลเซอร์ดังกล่าว ๑. ต้องแปะยาชาก่อนจะยิงด้วยเลเซอร์ เพราะจะเจ็บมาก ๒. หลังจากถูกยิงเลเซอร์จะเป็นแผลสด เจ็บครับคงเจ็บเหมือนตอนเด็กๆ ที่ล้มหัวเข่าถลอก ปวดแสบร้อน ครบหล่ะครับ ๓. ใช้เวลาในการหายของแผลอย่างต่ำ๑-๒สัปดาห์ ซึ่งในคนผิวสี (เอเชีย นิโกร) ควรต้องเลี่ยงแสงแดดในช่วงนี้ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดผิวบริเวณที่รักษาเข้มมากขึ้นกว่าที่ควรได้จากแสงแดด
แค่ ๓ ข้อก็ทำให้บางคนคิดหนัก ว่าจะรักษาดีไหม ทำให้ผู้ผลิตเลเซอร์คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ เรียก Non-Ablative laser โดยเน้นให้ไม่เกิดแผลหลังทำ (no downtime) ไม่เจ็บระหว่างทำ และสามารถพบปะผู้คนหลังทำได้ไม่ต้องหลบหน้าอยู่บ้านเป็นสัปดาห์หลังได้รับการรักษาด้วยเลเซอร์ แต่จำนวนครั้งในการรักษาอาจมากกว่าเลเซอร์เดิม และเม็ดสีที่ลึกมากก็ยังได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจนัก
Q: สุดท้ายค่ะ Cool Touch คือ เลเซอร์ตัวไหนเหรอคะ เห็นมีคนพูดถึงบ่อยๆ เอาไว้ทำอะไรอ่ะ แอนไม่รู้จัก (จริงๆ นะ) A: CoolTouch เป็นชื่อยี่ห้อของเลเซอร์ที่เป็น Non-Ablative Technology เป็นเลเซอร์ชนิด Nd: Yag แต่ความยาวคลื่นที่ 1320นาโนเมตร ไม่ใช่ 1064นาโนเมตร ที่ใช้รักษาเม็ดสี ที่ความยาวคลื่น 1320 นาโนเมตร เชื่อว่าจะไปที่เป้าหมาย (Target) หลักคือ คอลลาเจน เชื่อกันว่า จะทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทดแทน และทำให้การจัดเรียงตัวของคอลลาเจนสมบูรณ์แบบขึ้น ผลดังกล่าวทำให้ ริ้วรอยเหี่ยวย่น แผลเป็นหลุม ดีขึ้น
คร่าวๆแค่นี้ครับ
Q: อ้อ แล้ว IPL ถ้าเรื่องรักษาเม็ดสี ในกรณีเดียวกับเลเซอร์ 2 ตัวข้างบนจะให้ผลได้ดีเหมือนกันมั้ยคะ เห็นเคยมีน้องๆ หลายๆ คนที่หมอมักจะแนะนำให้ทำ IPL ลบรอยแดง-ดำจากสิว พอดีเห็นว่า ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แอนเห็นว่าไม่จำเป็นขนาดนั้น เลยมักจะบอกแบบปรามๆ เสมอ เพราะคิดว่าแค่รอย ทายาเอาก็ได้ แต่หายช้าหน่อย เท่าที่ทราบ IPL ต้องทำหลายครั้งเหมือนกันกว่าจะได้ผล และมักจะพูดเรื่องการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ทำนองนี้ด้วย เป็นจริงอย่างนั้นหรือเปล่า หรือว่าแค่เป็นการตลาดอย่างหนึ่ง
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ แหะ แหะ ถามยาวไปหน่อยนะคะเนี่ย :) A: IPL (Intense Pulsed Light) เป็นกลุ่มคลื่นแสงพลังงานสูง แต่ไม่ใช่เลเซอร์นะครับ เด่นๆก็เห็นจะเป็นเรื่องทำให้สีผิวดูเนียนขึ้น ช่วยเรื่องกระตื้นๆได้พอประมาณไม่ถึงกับดีมาก และคงสู้เลเซอร์ไม่ได้ แค่นี้แหละครับที่IPLทำได้ อย่าไปพูดถึงคอลลาเจนอะไรเลยครับ ไม่ชัดเจนและไม่แน่นอน อ้อจะดีอีกเรื่องก็คือ ใช้ถอนขนได้ครับ คิดว่าตอบครบหมดแล้วนาครับ แต่ที่ตอบมาทั้งหมดก็แค่คร่าวๆนะครับไม่ได้ลงลึกมากนัก (เก็บเอาไว้ให้หมอเรียนเถอะครับ) เอาแค่ที่เป็นประโยชน์ต่อคนไข้ก็พอ ที่เหลือเอาไว้ให้หมอเค้าสอบกัน
อยากจะย้ำอีกครั้งครับว่า ก่อนจะใช้ยาหรือรักษาด้วยวิธีอะไรควรศึกษาให้ละเอียดถึงผลดีผลเสีย และพยายามอย่าซื้อยาใช้เอง เพราะยาคือยาครับ ไม่ใช่เครื่องสำอาง
กว่าจะกลับมาอ่านคงอีกหลายๆวันมาก ถ้าจะถามอะไรต่อ ให้ส่งใส่กล่องข้อความแล้วกันครับ จากคุณ : A Life In The Dark - [ 6 ส.ค. 47 00:54:20 ]
ผู้ตอบเป็นคุณหมอผิวหนังท่านนึง ที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยค่ะ ได้ขออนุญาตทำการจัดหน้าจากกระทู้เดิมเรียนบร้อยแล้ว ส่วนเจ้าของกระทู้จะถามเรื่องเลเซอร์แนะนำให้ปรึกษาหมอค่ะ เพราะแต่ละคนหน้าไม่เหมือนกัน ต้องดูเป็นเคสๆ ไปค่ะ
จากคุณ :
แอน (แอ่นแอ๊น)
- [
18 ต.ค. 47 14:43:13
]
|
|
|