CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ถึงลูกๆทุกคนครับ

    ขอระบายหน่อยครับ

    น้องสาวผมดื้อและหัวแข็งมากครับ พยายามแล้วทั้งไม้อ่อนไม้แข็งแต่ก็ยังไม่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยครับ ผมสงสารพ่อกับแม่มากเหลือเกิน ปีนี้น้องสาวอายุ21ครับ ผมกับน้องสาวห่างกัน 3 ปี เธอคนเชื่อเพื่อนครับ เพื่อนพูดอะไรก็ไม่ขัด ไม่ปฏิเสธ แต่กับพ่อแม่ญาติพี่น้อง อะไรนิดอะไรหน่อยก็เป็นฟืนเป็นไฟ

    วันนี้พ่อกับแม่ไปต่างจังหวัดครับ ตอนเช้าน้องมาปลุกผมให้ไปส่งขึ้นรถเพราะว่าจะไปงานบวชเพื่อน กว่าน้องสาวจะกลับมาบ้านอีกทีก็เกือบทุ่มแล้ว พาเพื่อนมาด้วยสองคน อยู่บ้านได้ซักพักเพื่อนชวนออกไปกินหมูกระทะหน้าหมู่บ้าน ผมเห็นว่าไม่ได้ไปไหนไกลเลยไม่ทักท้วง อนุญาตให้ไป (ความจริงถึงผมไม่ให้ไปเธอก็คงไม่ฟังอยู่ดี) แต่กลายเป็นว่าน้องแอบหนีไปเดินตรอกข้าวสารครับ (จนถึงตอนที่ผมเขียนกระทู้นี้ตี 1.15 แล้ว ก็ยังไม่กลับ) ตอนแรกโทรไปก็บอกว่าเดี๋ยวจะกลับ พอเที่ยงคืนโทรไปใหม่คราวนี้ปิดมือถือเลยครับ แม่เป็นห่วงมากไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน แม่ผมมีปัญหากับเรื่องการพักผ่อนอยู่แล้วด้วยครับ แม่เป็นโรคเครียดนอนไม่ค่อยหลับต้องกินยานอนหลับแทบทุกวัน

    แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้น้องก็ทะเลาะกับแม่อย่างรุนแรงมาทีหนึ่งแล้ว ผมเห็นแม่ร้องไห้แล้วผมสงสารแม่มากครับ น้องก็รับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก แต่สุดท้ายน้องก็เป็นเหมือนเดิมครับ ผมไม่เข้าใจจิตใจน้องผมเหมือนกันครับ ว่าทำไมและอะไรทำให้น้องเป็นคนแบบนี้

    เรื่องเรียนน้องผมก็ไม่เคยรับผิดชอบตัวเองได้ ทางบ้านเองก็ไม่เคยวาดฝันว่าน้องจะต้องเรียนเก่งเลิศเลออะไรหรอกครับ ตอนเรียนม.6 ทุกคนรู้อยู่แล้วว่ายังไงน้องก็เอนท์ไม่ติด น้องรบเร้าอยากเรียนเอกชน แต่ผมค้านเอาไว้เพราะที่บ้านเราไม่ได้ร่ำรวยอะไร บ้านผมค้าขายครับ ไม่ถึงกับไม่มีปัญญาส่งแต่มันต้องเหนื่อยมากๆถ้าน้องดื้อดึงจะเรียนเอกชน สุดท้ายน้องสาวก็เข้ามาเรียนราม เรียนไปได้ปีนึง น้องบอกเรียนไม่ไหว อ้างว่าคนเยอะบ้าง ร้อนบ้าง (ข้ออ้างแต่ล่ะอย่างไม่เคยแสดงให้เห็นเลยว่าน้องผมไม่ได้โตแต่ตัว) ผมคุยกับน้องว่าอย่าท้อถอย เพราะผมเองก็จบรามเหมือนกัน ผมเรียนได้ น้องผมก็ต้องเรียนได้ ตอนเรียนผมต้องช่วยงานทางบ้านด้วยซ้ำ สุดท้ายน้องก็รบเร้าจบสำเร็จ ได้ย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน ด้วยข้ออ้างสารพัด ว่าค่าเทอมไม่แพงมากนัก ค่าเทอมก็กู้ยืมได้ แต่ผลการเรียนก็ไม่เคยดีขึ้นแต่อย่างไร ตอนนี้น้องสาวติดโปรอยู่ น้องพูดกับผมว่าเธอจะพยายาม ผมยังไม่กล้าบอกแม่เรื่องนี้ เพราะว่าค่าเทอมแต่ล่ะเทอม (30,000 – 35,000 โดยประมาณ) พ่อกับแม่ผมเหนื่อยสายตัวแทบขาดกว่าจะหามาได้ แต่ดูที่น้องผมตอบแทนความเหนื่อยยากของพ่อและแม่ซิครับ

    แม่ผมเป็นโรคเครียดก็เพราะน้องผมนี่แหละครับ แม่รักน้องมาก เป็นห่วงน้องไปแทบจะทุกอย่าง กลับบ้านยังไง ปลอดภัยไหม แม่ผมเก็บเอาไปคิดตลอดเวลา (บ้านผมเปลี่ยวมาก ขนาดเพื่อนผมผู้ชายล้วน มันยังกลัวละแวกบ้านผมเลย) ตอนนี้ผมเป็นห่วงแม่มากกว่าเป็นห่วงน้อง แม่เปราะบางมากกับเรื่องนี้ กับเรื่องอื่นแม่ผมเข้มแข็งครับ ไม่เคยบ่น ไม่ย่อท้อเพื่อผมกับน้อง ครั้งหนึ่งสมัยยังเรียนมัธยมน้องหนีไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนผู้ชาย สุดท้ายโดนผมจับได้ ผมจำต้องบอกแม่ ทั้งๆที่รู้ว่าแม่ต้องเสียใจมากๆกับเรื่องนี้ ตอนกลับมาน้องกับแม่ทะเลาะกันใหญ่โตมาก น้องอ้างว่าเธอโตแล้ว โลกสมัยนี้มันก็เปลี่ยนไปแล้วด้วย คืนนั้นบ้านผมไม่มีใครนอนหลับลง ตอนใกล้เช้าตรู่ผมเผลอหลับไป ไม่นานนักผมได้ยินเสียงคนในห้องน้ำ เปิดน้ำแรงมาก ในตอนนั้นเองผมรู้ทันทีเลยครับว่าเป็นแม่ผมแน่ ผมรีบลุกขึ้นไปดู ใจหนึ่งหวังว่าอย่าให้เป็นจริงอย่างที่ผมคิดเลย

    ผมเคาะประตูห้องน้ำอย่างแรง แต่ไม่มีเสียงตอบใดๆ ผมตัวชาไปหมด มั่นใจแล้วว่า แม่ผมตัดสินใจที่จะไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป พ่อผมจึงพังประตูเข้าไป เห็นภาพแม่นอนจมน้ำอยู่ในอ่างไม่ขยับเขยื้อน ที่พื้นห้องน้ำมีแผงยานอนหลับที่แม่กินอยู่ประจำตกอยู่ แผงนั้นว่างเปล่า เพราะแม่กินมันเข้าไปหมดแล้ว พ่อประคองร่างแม่ผมขึ้นบ่า เผื่อให้สำลักน้ำออกมา ผมทำอะไรไม่ถูก ตัวเย็นหวาบหนาวจับขั้วหัวใจ แม่ไปแล้วหรือ น้องผมก็ได้แต่ร้องไห้ ทุกคนอยู่ในความตระหนก พ่อรีบไปสตารท์รถ ถึงตอนนั้นแม่ก็ยังไม่รู้สึกตัว

    พอดียายผมแวะมาหาแม่ตอนเช้าเพราะรู้เรื่องที่แม่ผมทะเลาะกับน้องเมื่อคืน ยายมาถึงหน้าบ้านพอเห็นว่าข้างในบ้านมีเรื่องยายก็วิ่งถลาเข้ามา ยายร้องไห้รีบวิ่งจนหกล้มเนื้อตัวเลอะไปหมด แต่ตอนนั้นยายไม่สนใจอะไรอีกแล้วครับ ยายรีบวิ่งมากอดแม่ที่นอนอยู่แน่น แม่ตัวเย็นเฉียบเพราะนอนแช่น้ำ น้ำตาไหลอาบหน้าผม น้อง และยายเต็มไปหมด ส่วนพ่อผมไม่ได้รองไห้ครับ แต่แววตาของพ่อมันบ่งบอกทุกอย่าง

    แม่เริ่มรู้สึกตัว คำแรกที่แม่เปิดปากพูด “ มาช่วยแม่ทำไม ทำไมไม่ปล่อยให้แม่ตาย”

    ผมรับรู้ได้ถึงอาการใจสลายของคนเป็นแม่ครับ สำหรับแม่มันเหมือนทุกอย่างจบลง ลูกที่แม่เลี้ยงมาเองกับมือทำให้แม่ผิดหวังถึงขนาดไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

    หลังจากเหตุการณ์นั้น จนถึงปัจจุบันแม่เข้มแข็งขึ้นมากครับ แต่เรื่องของน้องยังคงเป็นเรื่องที่ทำให้แม่เสียน้ำตาได้เสมอ ครั้งหนึ่งแม่เอารูปน้องสาวผมตอนเด็กมาดู แม่ก็น้ำตาไหล แม่บอกผมกับน้องว่า ตอนเด็กๆน้องน่ารักมาก แม่เคยนึกภาพน้องผมยามโตเป็นผู้ใหญ่ว่าจะน่ารักแค่ไหน แม่ขอได้ไหมอย่าให้แม่ต้องลำบากใจอีก

    น้องผมรับปาก

    กลับมาที่ปัจจุบัน น้องยังไม่ประพฤติตัวดีขึ้นเท่าไรนัก ผมเองได้แต่เฝ้าหวังว่าวันหนึ่งเธอคงเข้าใจและรับรู้ความรักของพ่อและแม่ได้มากว่าที่เป็นอยู่

    น้องผมเลี้ยงลูกหมาเอาไว้สองตัว มันน่ารักมากและน้องผมก็รักมันมากด้วย แต่ก็ตามประสาลูกหมา พวกมันก็ดื้อมากเช่นกัน แม่เคยย้อนถามน้องว่า ขนาดลูกหมาน้องผมยังรักมากขนาดนั้น แล้วนี่ลูกแม่ทั้งคนแม่จะไม่รักได้อย่างไร แม้จะดื้อขนาดไหน ลูกก็คือลูกอยู่วันยังค่ำ

    จากคุณ : ออนไลน์ยันสว่าง - [ 25 ต.ค. 47 02:43:13 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป