ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับการผ่าตัดศัลยกรรมแปลงเพศตอนแรกตั้งใจว่าจะพูดให้ฟังศัลยกรรมแปลงเพศปัจจุบัน สามารถทำได้ใกล้เคียงเหมือนผู้หญิงมากขึ้น จึงมาบอกให้หนุ่มๆ สวนลุมที่ชอบเที่ยวกลางคืนแล้วเมาๆระวังตัวกันให้ดี สุดท้ายกลายเป็นกระทู้โหวต และมีคนสนใจเยอะมากค่ะ ดีใจมากค่ะ อย่างน้อยก็รู้ว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านนี้เป็นคนใจกว้างและยอมรับสาวประเภทสองมากกว่าที่เราคิดไว้เยอะค่ะ ขอบคุณทุกคนค่ะ
ตอบคุณ สมาคมช่างกิโลขาย
-ผมว่านอกจากจะกระทำได้ยากแล้ว ปัญหาอยู่ตรงที่ ทำอย่างไรที่จะมีเลือด เข้าไปหล่อเลี้ยง หรือพูดง่ายๆ คือ ไม่ให้ "ลำใส้" เน่า!
การผ่าตัดทำช่องคลอดโดยวิธีการต่อลำไส้นั้น หรือภาษาทางการแพทย์เรียกกันสั้นๆ ว่า collon นั้นเป็นการผ่าตัดใหญ่ค่ะ และวิธีค่อนข้างซับซ้อน หมอที่ผ่าตัดให้เราจะมีด้วยกันสองคน คือ 1.หมอทางระบบทางเดินอาหาร 2.หมอศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศ(คนแรกที่ทำให้เมื่อแปลงแบบปกติ ครั้ง 6เดือนก่อนที่ผ่านมา) หมอคนที่ทำเีกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ต้องประณีตและเก่งมากเพราะการผ่าตัดเกี่ยวกับทางช่องท้อง ต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะมันเสี่ยงอันตรายหลายอย่าง เช่นการติดเชื้อ โดยหน้าที่ของหมอท่านนี้ก็คือผ่าตัดเลือกลำไส้ส่วนที่สะอาดที่สุดและกะความยาวของลำไส้ ที่จะทำการตัดมาไว้ส่วนของช่องคลอด และก็นำมาเชื่อมต่อกับช่องคลอด (ขั้นตอนนี้ทำในท้องเรา) และหมอที่ผ่าตัดแปลงเพศให้เราก็จะมีหน้าที่เดียวคือรับช่วงต่อเย็บลำไส้ส่วนนั้นต่อเข้ากับบริเวณช่องคลอด และหมอระบบทางเดินอาหารก็จะ เป็นคนเย็บปิดแผลภายนอกเอง ส่วนที่ถามว่าเชื่อมต่อลำไส้เข้ากับระบบเส้นประสาทและเส้นเลือดอย่างไร ตรงนี้เราก็ไม่ทราบเหมือนค่ะ เพียงแต่อยากจะบอกให้คุณสมาคมช่างกิโลขายว่า ขั้นตอนการช่องคลอดด้วยลำไส้นั้นค่อนข้างจะยุ่งยากและต้องใช้หมอที่เชี่ยวชาญระบบทางเดินอาหาร เป็นคนทำเสียส่วนใหญ่ หมอศัลยกรรมแปลงเพศมีหน้าที่แค่เย็บเชื่อมติดแค่นั้นค่ะ ขั้นตอนการผ่าที่ว่ายุ่งยาก ก่อนผ่าหลังผ่าก็ค่อนข้างจะลำบากไม่แพ้กันเลยค่ะ ก่อนผ่าซึ่งเคยบอกไปในกระทู้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าหมอจะให้เราืทำแอทมิทโดยการกินน้ำขวดใหญ่ๆ (ประมาณขวดโค้กลิตร) 3 ขวด ซึ่งมีกลิ่นรุนแรงมากคล้ายน้ำมันมะกอก ทำการสวนทวารและให้เราถ่ายจนกว่าจะมีน้ำใสๆ ออกมาค่ะ ประมาณพลาสเจอร์ไรส์ลำไส้ทีเดียว ค่ะ เคยมีเคสท์ที่คุณหมอเล่าให้ฟังว่า คนไข้ทรยศตัวเอง หมอทิ้งน้ำไว้ให้ดื่มเพื่อทำความสะอาดลำไส้ คนไข้กลับไม่ยอมดื่มนำไปเททิ้งปรากฎว่าช่วงระหว่างผ่าตัดคนไข้เกิด ดันถ่ายอุจจาระมาขณะที่นอนสลบ ทำให้ต้องหยุดการผ่าตัดไว้ตรงนั้นเลยค่ะ อันตรายมากเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพราะว่ามันสกปรกน่ะค่ะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบช่องท้อง ซึ่งทำให้เสียชีวิตได้ค่ะ ก็เป็นอันต้องเลื่อนเคสท์ผ่าตัดออกไปอีก ซึ่งไม่ใช่ความผิดของแพทย์เลย เป็นความผิดของคนไข้เต็มๆค่ะที่ไม่รับผิดชอบตัวเอง ส่วนเรื่องเน่านั้นเราก็คิดว่าไม่น่าจะมีนะคะ เพราะถ้าเกิดการเน่ามาตัวเราึคงอยู่ไม่สุขแล้วละค่ะ ต้องมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายเราแล้ว อีกทั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ต้องส่งกลิ่นมาทักทายกับเจ้าของมันแล้วค่ะ อิอิ อีกทั้งมันนับจากวันที่ผ่าตัดจนถึงวันนี้ก็3 -4ปีได้แล้วนะคะ งานนี้คงต้องยกความดีความชอบให้หมอที่ผ่าตัดลำไส้ให้เราค่ะ เพราะแกทำมาหลายรายและเชี่ยวชาญมากแล้วไม่ใช่การผ่าตัดรูปแบบใหม่ แล้วตัวเราเป็นหนูลองยาค่ะ ถ้าแบบนั้นก็น่ากลัวเหมือนกันนะคะ
ปัญหาของการผ่าตัดลำไส้จริงๆโดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาลำไส้เน่าอย่างที่คุณสันนิษฐาน แต่เป็นปัญหาเรื่องการทำความสะอาดต่างหากที่ต้องยุ่งยากกว่าผู้หญิงสองเท่า เพราะว่าช่องคลอดที่ผ่าตัดขึ้นมาค่อนข้างมีความแน่นเกินพอดี(ตอนไปตรวจภายในหมอถามว่าเวลามีเพศสัมพันธ์คุณใช้ยาชาไหม เพราะเนื่องจากตรงบริเวณช่องของคนแปลงเพศคลอดเล็กและแคบมากค่ะ ในใจอยากตอบหมอไปว่า เล็กแต่ลึกนะคะหมอ55) เวลามีเพศสัมพันธ์แล้วไม่สามารถ ใช้เพียงแค่น้ำเปล่าล้างให้สะอาดได้ โดยการล้างแบบธรรมดา ต้องใช้สลิงค์เข็ม หรือลูกบอลล้างช่องคลอด ฉีดน้ำเกลือ แล้วบวกกับแรงดันดันเข้าไป ล้างแล้วให้มันไหลย้อนออกมา ซึ่งระหว่างวันต้องใช้ผ้าอนามัยเปลืองมาก ป้องกันน้ำที่พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อฟังดูแย่เลยใช่ไหมคะ ไม่รู้ว่ามันจะไหลออกมาเมื่อไหร่ อาจจะหลังทำความสะอาดทันที แต่บางทีก็ไม่ใช่ มีการแถมช่วงบ่าย สายเย็น ด้วยเหตุนี้ก็ทำให้เข้าใจในหัวอกผู้หญิงว่าการมีรอบเดือน ทำไมเค้าถึงหงุดหงิด เป็นเพราะภาระที่ต้องเพิ่มมาจากวันปกตินี่เอง ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ต้องห่วงหน้าผะวงหลังว่ามันจะไหลออกมาเลอะเสื้อผ้าไหม และที่สำคัญน้ำที่ออกมาไม่สะอาดแน่นอน ต้องกังวลเรื่องกลิ่นที่จะตามมาอีกตะหาก แต่ก็อดปลอบใจตัวเองเสียไม่ได้ว่าเรื่องที่จะเป็นเรื่องที่จะทำแล้วก็ต้องรับผิดชอบ กับมันหากเราไม่ทำแล้วใครจะมาทำให้เรา ของๆเราเอง ผลดีผลเสียมันก็เกิดกับเราเอง เราทำให้สะอาด มันก็เป็นเรื่องที่ดี ใช่ไหมคะ อีกอย่างผลการตรวจภายในเพิ่งออกมาเมื่อวานหลังจากที่เราได้ไปตรวจร่างกายที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติมาปรากฎว่า มะเร็งปากมดลูก ผ่าน มะเร็งรังไข่ผ่าน เอากับเค้าสิคะ555 ในเมื่อไม่มีมดลูก รังไข่ หมอจะตรวจเราก็ให้ตรวจค่ะ วันนั้น เพราะหมอบอกว่าร่างกายทุกส่วนมีโอกาศเกิดมะเร็งได้ทั้งนั้น ยกเว้นฟันกับเล็บ ก็ไปตรวจมาได้ความรู้สึกแปลกดีค่ะ ส่วนเรื่องมะเร็งที่จะเกิดขึ้นกับลำไส้ส่วนนั้นที่นำมาเป็นช่องคลอด จากที่ได้ไปอบรมเกี่ยวกับศัลยกรรมมา ยังไม่มีรายงานปรากฎ ค่ะ แต่เราก็ไม่ประมาทดีกว่าค่ะ นี่ก็จะไปตรวจร่างกายทุกๆปี รวมทั้งการตรวจภายในค่ะ แปลกดี ชักติดใจซะแล้วค่ะอิอิ
-มีอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ "ความรู้สึก และความคิดที่เปลี่ยนไป" อะไรทำให้คุณเปลี่ยนครับ เช่น ที่บ้านมีแต่ผู้หญิง หรือ มีเพื่อนเป็นผู้หญิง และมีความรู้สึกตรงนี้ตอนกี่ขวบครับ
หากจะโทษว่าที่บ้านทำให้เราเป็นแบบนี้คงไม่ดีนักนะคะ จริงถ้าบอกว่าเป็นตั้งแต่จำความได้ ก็ไม่มีใครเชื่ออีก แต่มันจริงๆค่ะลองถามดูคนที่เป็นแบบนี้ก็จะตอบแบบนี้เช่นกัน ค่ะ เพียงแค่จำความได้ รู้สึกได้ว่าชั้นเป็นเด็กผู้ชายนะ ชื่อปักอกชุดนักเรียนเป็นด.ช. ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้วค่ะ ยิ่งเข้าโรงเรียนชั้นอนุบาล เห็นเด็กผู้หญิงนุ่งกะโปรง แล้วทำไมชั้นต้องนุ่งกางเกง มันขัดแย้งมากเลยค่ะ ย้อนไปก่อนจะเข้าโรงเรียนเสียอีก มีกระดาษแผ่นนึงให้เราวาดรูป หากคนที่จะเป็นอย่างนี้นะคะ ร้อยทั้งร้อย จะไม่วาดหรอกค่ะหุ่นยนต์ จะชอบวาดมากๆคือรูป การ์ตูนตัวผู้หญิง (วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีดูอาการของเด็กที่น่าจะเบี่ยงเบนได้นะคะ)
ส่วนที่บ้านมีผู้ชายค่ะพ่อและพี่ชาย ผู้หญิงก็มีแม่ และพี่สาวคนโตค่ะ มีปริมาณเท่ากันๆ ค่ะ จะเห็นได้ว่าปริืมาณผู้หญิงมากกว่าผู้ชายย่อมมีผลไม่มากหรอกค่ะ จะตอบว่าสาเหตุอะไรนั้นคงตอบไมไ่ด้จริงๆมันจุกอยู่ที่ความคิด พูดออกมาไม่ถูกเหมือนกันค่ะ
แต่"เพื่อน" ตรงนี้มีโอกาสชักจูงเราค่ะ การคบเพื่อนผู้หญิงมาก ก็ย่อมทำให้เกิดจินตนาการอยากเป็นแบบเพื่อนๆ เริ่มรู้สึกเกลียดความรุนแรงของผู้ชาย เกลียดอะไรที่ต้องใช้กำลังเช่นเล่นฟุตบอล ตอนเรียนหนังสือจะเกลียดชั่วโมงพละศึกษามากเลยค่ะ
แต่สำหรับเรา เพื่อนคงไม่ได้มีส่วนมากมายนักว่าทำให้เราเป็นกระเทย แต่เราขอยอมรับตรงนี้เลยว่าเพื่อนมีสิทธิ์ให้เราแต่งหญิง แต่ว่าจะเป็นเกย์(ถ้าเจอเพื่อนกลุ่มเกย์ไม่แสดงออก) คือพอเรียนจบม.3 มีแต่เพื่อนที่ลักษณะคล้ายเกย์ตอนนั้นใจเราตอนนั้นก็ไม่ใช่เป็นผู้ชายนะ แต่ก็ไม่ได้มีความคิดอยากที่อยากจะแปลงเพศหรือทำนมแต่อย่างใดค่ะ คืออยู่แบบนี้ก็ได้ ไม่เป็นไรแค่ได้ทาแป้งหน้าขาวๆ ใส่น้ำหอมอ่ิอนๆแค่นี้ก็โอเค แล้ว
แต่พอจบม.3 มาเปลี่ยนที่เรียน มาเจอเพื่อนอีกกลุ่มนึง คือมีการใช้ฮอร์โมน กันคิ้ว แต่งหน้าทาปากfull option ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแตกต่างจากเพื่อนแล้วค่ะ จะให้ไปคบผู้หญิงเลยก็ได้แต่ก็ไม่เต็มที่ จะให้คบผู้ชายก็ตัดไปเลย เหลือแต่กลุ่มนี้ พอเข้าไปรู้จัก เค้าก็แนะนำให้เรา ใช้ฮอร์โมน จับกันคิ้ว ซะโก่งเหมือนคันศร พอพ่อแม่เห็นเราเป็นแบบนั้น แสดงออกมาขึ้น พ่อแม่ถึงกลับตกใจ เลย แม่บอกว่าเป็นแบบนี้แม่ไม่ว่าแต่อย่าแต่งได้ไหม แน่นอนค่ะ เคยแน่นอนที่จะกลับมาไว้คิ้วให้เต็ม เลิกใช้ฮอร์โมนไม่แต่งหน้า แต่ก็ไม่เลิกนิสัยตุ้งติ้งนะคะ ปรากฎว่าทำได้แค่สองเดือน หัวใจมันเรียกร้องค่ะ คือเราได้ค้นพบตัวเองแล้ว ว่าเราชอบแบบนั้นชอบสวย ชอบแต่งหน้า ชอบมีหน้าอก วันนึงออกจากโรงเรียนมาเจอเพื่อนกลุ่มกระเทยแซวค่ะ ว่า นับวันชักจะเหมือนผู้ชายเข้าทุกวัน ปรากฎว่าคำนี้มันบาดเข้าหัวใจเลยค่ะ เชื่อไหมคะ ฟังคำนี้เสร็จ ลุกขึ้นจากโต๊ะเลยค่ะ วิ่งไปกันคิ้วที่ร้านเสริมสวย (หลังจากที่ไว้มาแบบอย่างเข้ม คมเลยค่ะ)แล้วกลับมาที่โต๊ะที่เพื่อนนั่งอยู่แล้วชวนเหล่าเพื่อนสาวไปฉีดฮอร์โมนทันทีค่ะ
จากที่เล่ามาจึงพอสรุปได้ว่าเพื่อนก็มีส่วนตรงที่ทำให้เราเป็นแบบกระเทยแต่งหญิง หรือว่าเกย์ ต่างหาก แต่ถามว่ามีส่วนโดยตรงเลยไหม ที่ทำให้เราเบี่ยงเบน ขอตอบว่าไม่ใช่ค่ะ ในเมื่อเพื่อนไม่ใช่ ครอบครัวไม่ใช่ แล้วใครล่ะ ขอยืนยันคำตอบเดิมค่ะ "มันมาพร้อมกับเราตั้งแต่เกิดค่ะ"
หากว่าใครมีลูกหลานหรือเด็กในการปกครองที่เริ่มจะมีพฤติกรรม เบี่ยงเบนทางเพศ เคยดูนายแพทย์ให้สัมภาษณ์ว่าถ้าเป็นก่อน อายุ 6 ขวบสามารถแก้ไขได้ แต่ถ้าเกินกว่านั้นแล้วก็คงยากค่ะ สอนให้เค้าใช้ชีวิตร่วมกับสังคมอย่างมีความสุขก็พอ อย่าไปทำตัวกรี๊ดกร๊าด วี๊ดว๊าย สังคมเค้าจะยิ่งดูถูกเราเข้าไปใหญ่ค่ะ สอนให้รู้อย่าไปทำให้สังคมเดือดร้อน และ อย่าไปยุ่งกับยาเสพย์ติด ก็น่าจะดีกว่าไปกีดกันเค้าบังคับเค้า ดุด่า เค้า เค้าจะยิ่งเตลิดไปกันใหญ่ค่ะ หากเข้าใจเค้าอย่างน้อยอนาคตเข้าโตขึ้นเข้าไปในสังคม ไปเจอปัญหาอะไร ผู้ปกครอง พ่อแม่ จะเป็นคนแรกที่เค้าจะไว้วางใจปรึกษาปัญหาของเค้าให้ฟังค่ะ
ส่วนความคิดเห็นของคุณ 3564... และคุณ ` FLuFFybY~ KeLLy ^
เราขอขอบคุณมากสำหรับการติชมรูปของเราค่ะเราดีใจมากค่ะที่คุณชมว่าเหมือนผู้หญิงแถมไปเหมือนดารา คุณชมพู่ อีกตะหาก แต่เราว่าหากชมพู่เปิดมาเจอกระทู้นี้คงต้องสะดุ้งสุดตัวแน่ๆเลย เพราะดันมาหน้าเหมือนสาวประเภทสอง อิอิ
ปล.อย่าชมเยอะค่ะเดี๋ยวเหลิง นี่ปลื้มจนพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกไปหมดแล้ว เข้ามาแก้รอบที่ 3 แล้วค่ะ อิอิ
แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 47 16:18:51
แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 47 16:11:21
แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 47 14:58:46