ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนนึงที่คุณเครียด โรคจิต คิดมาก เป็นผลมาจากยานะค่ะ เราก้อเหมือนคุณค่ะ ลดด้วยการทานยามาตลอด รู้ว่าไม่ดี แต่เลิกไม่ได้ กินยาลดเหมือนกินยาบ้านะค่ะ เพราะมันมีส่วนผสมของแอมเฟตามีนด้วยค่ะ กินยาแล้วจะเครียดมาก ๆ ค่ะ อะไรขวางหูขวางตาไปหมด หงุดหงิดง่ายมากๆ จนคนรอบข้างเบื่อเราไปเลย เรื่องนิสัยการกิน เราก้อคุมไม่ได้เหมือนกันค่ะ เราเคยหนักสุด 65 กิโล กินยาจนลดมาเหลือ 49 กิโล ตอนนั้นโทรมมาก ๆ พอหยุดยา เราก้อกิน กิน กิน จนน้ำหนักขึ้นเป็น 55 กิโล ก้อต้องไปกินยา พอลด ก้อหยุดยา แล้วก้อกิน ๆ จนอ้วนขึ้น แล้วกลับไปกินยา มันเป็นอย่างเงี้ยะอะค่ะ ไม่รู้จะแก้ยังงัย รู้นะว่าที่เราทำไม่ถูก เราเองกินก้อรู้ว่าไม่ดี แต่ก้อนะ มันคุมเรื่องการกินของตัวเองไม่ได้เลยจริง ๆค่ะ เรื่องออกกำลังกายเนี่ย อย่าไปคิดเลยค่ะ ถ้าเรายังควบคุมตัวเองไม่ได้เรื่องนิสัยการกิน เอ่อ แล้วขอแนะนำว่า กินยา แล้ว อย่าออกกำลังกายเลยนะค่ะ หน้ามืดเอาง่าย ๆ อย่าไปเชื่อหมอที่ขายยามากนะค่ะ กินยาแล้วไม่หิว ก้อไม่ใช่ว่าไม่กินข้าวเลย พวกที่กินยาแล้วหน้ามืด ก้อเพราะว่า พอไม่หิว ก้อไม่กิน พวกยาคลายเครียด ยาระบายที่หมอให้มา ไม่ต้องไปกินทุกวันก่อนนอน ตามที่เค้าบอกนะค่ะ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า ถ้าไม่มียา จะนอนหลับเองไม่ได้ หรือถ่ายเองไม่ได้ นี่เราก้อไม่รู้จะต้องกินยาลดนี่ไปอีกนานแค่ไหน เรามันนิสัย อยากกินไปหมด อะค่ะ เห็นไรก้อจะกินไปเรื่อย ก้อโทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเองแหละค่ะ ที่บังคับ ควบคุมตัวเองไม่ได้ จากคุณ : โมโม่&โจโจ้ - [ 10 พ.ย. 47 11:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยาลดความอ้วนมันจะทำให้เกิด yoyo effect เหมือนที่เคยเกิดกะคุณมาแล้วนะคะ  เราเคยเห็นเพื่อนกินแล้วทรมานสุดๆ ไปเรียนแทบไม่ไหว ลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ก็เป็นลมแล้วอ่ะ  เคยมีคนตายเพราะกินยาลดความอ้วนนี่เยอะมากเลยนะคะ  เราว่าอย่ากินดีกว่านะ  ถ้าอยากลดได้เร็วๆ ลองไปหาสูตรลดความอ้วนด้วยอาหารแบบต่างๆมาทำดีกว่า  ลองวิธีล้างพิษเป็นไง :  ทานแต่แอปเปิ้ลทั้งวัน ห้ามทานอย่างอื่นเลย 3 วันเต็ม  แล้วหลังจากนั้นก็ให้ทานแต่ผักหรือผลไม้สด อีก 7 วันเต็ม (ผลไม้นี่ ห้ามพวกคาโบฯเยอะนะ  เช่น ทุเรียน ละมุด เงาะ องุ่น กล้วย หรืออะไรหวานๆนี่ห้ามเลย  แนะนำให้ทาน มะละกอ แตงโม แคนตาลูป อะไรพวกนี้ดีกว่าค่ะ) หลังจากครบสิบวันแล้ว  น้ำหนักน่าจะลดไปได้อย่างน้อย 5 กิโลนะคะ และผิวพรรณจะเปล่งปลั่งขึ้นด้วยนะ  เราเคยลองแล้ว ลดได้ตั้ง 6 กิโลแหน่ะ  สิวก็หายหมดด้วยแหล่ะ  แต่ขอบอกว่า โหย สุดๆ แต่เราก็ทนได้อ่ะนะ เพราะ อยากผิวสวยอ่ะ แหะๆ  อ้อ อย่าลืมดื่มน้ำเปล่ามากๆด้วยนะคะ  ห้ามพวกน้ำอัดลมหรือพวกมีแอลกอฮอล์เด็ดขาดนะคะ  อาจจะดื่มชาก็ได้ แต่ต้องเป็นชาสมุนไพร ไม่ใส่น้ำตาล และคาเฟอีนต้องต่ำๆนะคะ  (กาแฟก็ห้ามนะ)  ลองดูนะคะ   ปล. ทำครบสิบวันแล้ว ก็กลับไปทานอาหารปกติ แต่ทานน้อยๆนะคะ อย่าสวาปาม  เวลาทานก็เน้นอาหารที่เป็นผัก ผลไม้ และโปรตีนจากปลา ให้มาก แป้งน้อยๆ ไม่งั้นกะเพาะครากไม่รู้ด้วยนา  ถ้าให้ดี ก็ทานแอปเปิ้ล 1 ลูก ก่อนทานอาหารซักครึ่ง- 1 ชม.  จะช่วยให้เราทานข้าวได้น้อยลง และสารแพคตินในแอปเปิ้ลจะช่วยไม่ให้ไขมันดูดซึมเขาไปในร่างกายได้บ้าง  (คำเตือน: ล้างแอปเปิ้ลให้สะอาดมากๆๆๆๆๆๆๆนะคะ  แล้วกินทั้งเปลือกน่ะแหล่ะ กัดกร้วมๆไปเลย จะช่วยในการทำความสะอาดฟันได้อีก  ข้อดีเพียบเลยแอปเปิ้ลเนี่ย)   สำคัญที่สุด:  ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 45 นาที  โดยพยายามให้หัวใจได้เต้นหนักๆติดต่อกันซัก สิบนาที   หรือ อาจจะลองเดินเร็ว (มากหน่อย) ซัก 3 นาที สลับกับวิ่ง (เร็ว) 1 นาที ไปเรื่อยๆ จนครบ 45 นาที  จะทำให้เผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้นค่ะ  ขอให้โชคดี หุ่นสวย แบบสุขภาพดีนะคะ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 47 12:04:09 จากคุณ : 1 is the loneliest number - [ 10 พ.ย. 47 11:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นใจนะคะ แต่ไม่อยากให้ใช้ยาลดความอ้วนเลยง่ะ มันไม่ดีนะคะ ลองฟังมาจากหลายๆ คน ลองไปปรึกษาหมอสิคะ เผื่อได้รับคำแนะนำดีดีกว่าการใช้ยาอ่ะค่ะ สู้ๆ นะคะ อย่าคิดมาก อย่าเครียดค่ะ คนอื่นเค้าอ้วนกว่าเราตั้งเยอะค่ะ ห่วงสุขภาพตัวเองมากๆ นะจ๊า+++ จากคุณ : Elunium - [ 10 พ.ย. 47 11:57:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยังไงกินยาแล้วก็ต้องควบคุมการกินด้วยนะค่ะ เพราะถ้าหยุดยาแล้ว คุณสามารถควบคุมการกิน ก็จะไม่อ้วนขึ้นมาอีก เพราะเราเคยกินยาลดความอ้วนนะค่ะ และเราควบคุมการกิน กินข้าวครบทุกมื้อแค่พออิ่มนะค่ะ ดื่มแต่น้ำเปล่า ผลไม้ก็กินบ้างค่ะแต่ไม่ได้กินพวกทุเรียนนะค่ะ กินพวกที่แคลลอรี่ต่ำนะค่ะ ตอนนั้นเราหนัก 65กิโล และพอกินยา+ควบคุมอาหาร เดือนแรกเราลดมาเหลือ 55 กิโล และเราหยุดกินยาค่ะ และควบคุมอาหาร+ออกกำลังกาย ตอนนี้เหลือแค่ 47-48ค่ะ เราใช้เวลา 3-6 เดือนค่ะ ตอนนี้น้ำหนักเราไม่ขึ้นมา 3ปีแล้วค่ะ พยายามทำน้ำหนักตัวเองให้เป็นน้ำหนักมาตราฐานไว้ให้ได้นะค่ะ เพราะน้ำหนักมันจะได้ไม่ขึ้นมามากกว่านี้ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : แก้มป่อง - [ 10 พ.ย. 47 12:05:37 A:61.90.90.16 X: TicketID:038679 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ค่ะ นั่นแหละค่ะ คือปัญหา เพราะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยซะที พยายามทำมาหลายครั้งแล้วอะค่ะ เพื่อนเราหลายคนก้อกินยา แล้วคุมเองได้ หลังหยุดยา น้ำหนักเค้าก้อไม่ขึ้นค่ะ ผอมแบบนั้นเลย ไม่รู้จะทำไงกะตัวเองแล้วเนี่ย จากคุณ : โมโม่&โจโจ้ - [ 10 พ.ย. 47 12:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพื่อนเรากินยาลดความอ้วน เดินๆอยู่มันเป็นลมล้มลงไปเลยค่ะ เมื่อก่อนเราก็อ้วนนะคะ หนัก 52 แล้วเราก็เริ่มออกกำลังกาย เต้นแอโรบิค ยกเวท วิ่ง วันละ 1 ช.ม. เราทำทุกวัน ปีนึง น.น. เหลือ 47 แต่คนอื่นเห็นนึกว่าเราหนักไม่ถึง 45 ด้วยซ้ำ พวกเพื่อนเราเห็นเรามันตกใจกันใหญ่ เพราะมันคงคิดว่าเราต้องไม่มีวันผอมแน่ๆ เราว่าคุณค่อยลดแบบค่อยเป็นค่อยไปดีกว่านะคะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : Do-Wah-Diddy - [ 10 พ.ย. 47 12:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เฮ้อ เคยกินยาลดความอ้วนเหมือนกัน ของยันฮีอ่ะ ตอนกินก็ลงมาซัก 2 โลเห็นจะได้ แต่แค่ 2 โลเนี่ย ทำให้ป้าซีดเซียวมาก ๆ เพื่อน ๆ ทักกันใหญ่เลยอ่ะ ว่าแบบเดิมดีกว่า ... ตอนนี้เลิกกินมาหลายปีแล้วเหมือนกัน กินก็ไม่ได้ลดลงเลย ดีที่น้ำหนักไม่ขึ้นมา (มากเท่าไหร่) ... ก็กลับมาเหมือนเดิมอ่ะ มีเนื้อมีหนังขึ้น (เยอะหน่อย) จากคุณ : jipnaja - [ 10 พ.ย. 47 13:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แนะนำ Reductil แล้วกัน ปลอดภัยกว่าน่ะ คิดว่า แต่แพงหน่อยน่ะ ลองศึกษาดูล่ะกัน น่าจะดีกว่ายาลดความอ้วนทั่วไป จากคุณ : poonsab - [ 10 พ.ย. 47 15:10:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 reductil อาทิตย์ละ 1000 บาทค่ะ เคยอยากกิน แต่ยังสู้ราคาไม่ไหวอะจ้า เพราะต้องกินต่อกันนาน กลัวจะไม่มีเงินให้กินต่อเนื่องอะจิ อิอิ จากคุณ : โมโม่&โจโจ้ - [ 10 พ.ย. 47 15:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณแก้มใสค่ะ ทานยาที่ไหนค่ะ ส่วนเราจะไปกินที่หมอใจดีค่ะ แต่กลัวจะลดไม่ลงอ่ะจิ มันเครียดมาก ตอนนี้ต้องพยายามแล้วล่ะ เพราะโดนบังคับให้ไปเข้าสังคมอ่ะ หลังจากที่หนี มาหลายเดือน เราไม่อยากเจอคนทักว่า ทำไมอ้วนขึ้น มันรับไม่ได้อ่ะ เลยหนีหน้าผู้คนไม่อยากเจอ หมกตัวอยู่แต่บ้าน แต่ยังไง จะมารายงานความคืบหน้า และจะพยายามให้มันอยู่ตัวให้ได้ อายุ ก้อ 25 ล่ะ แย่จัง จากคุณ : จขกท (popor_sit) - [ 10 พ.ย. 47 16:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เราก็ติดยา ลดความอ้วนนะ กินตั้งกะปี 39 แล้วก็กินๆหยุดๆมาเรื่อยเลย จนถึงประมาณ พฤษภาปีนี้ถึงหยุดยาวหน่อย หลังจากนั้นก็ขยันออกกำลังกาย รู้สึกดีมากเลย แต่ตอนนี้ก็หยุดออกกำลังกายจะ 3 เดือนได้มั๊ง กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ร่ำๆจะกลับไปกินเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ก็จะพยายามอดทน ออกกำลังกายดูอีกที แต่ตอนนี้อืดน่าดู เราลองมาฮึดด้วยกันซักตั้งไหม จากคุณ : แม่หนูจินจิน - [ 10 พ.ย. 47 17:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้าใจความรู้สึกของคุณจขกท.เลยค่ะ ถ้าไงช่วยเช็คหลังไมค์หน่อยนะคะ จากคุณ : คาราเมลจัง - [ 10 พ.ย. 47 21:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราจากตอนก่อนเข้ามหาวิทยาลัยหนัก 47 พอปี 2 หนัก 53 จนต้องนี้เพิ่งจบ ปาเข้าไป 59 เรารู้ตัวว่ามีความสุขกับการกินอ่ะค่ะ ยิ่งของอร่อย เค้ก ชีส นี่อู๊ยของมักเลยค่ะ คิดว่าคนเราเกิดมา ชีวิตนี้ช่างสั้น ทำไมต้องทรมานร่างกาย ด้วยการกินยาเพื่อไม่ให้ตัวเองอ้วนด้วย ลองพิจารณาดูนะคะ แต่ไม่ใช่ว่าปล่อยจนโรคร้ายถามหานะ อันนั้นเกินไป จากคุณ : มะเหมี่ยวจ้า - [ 11 พ.ย. 47 03:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ควบคุมอาหารและออกกำลังกายดีกว่านะคะ เราใช้วิธีนี้แล้วช่วยลดน้ำหนักได้หลายกิโล แล้วก็รักษาน้ำหนักให้คงที่มาได้เรื่อยๆ โดยไม่เคยต้องพึ่งยาลดความอ้วนเลย เราเคยดูโฆษณาของกระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ไม่ให้กินยาลดความอ้วน เค้าให้คนที่เคยกินยาลดความอ้วนแล้วตอนนี้สภาพโทรมมากๆๆๆๆๆ เบ้าตาลึก หน้าตอบ ผิวหมองคล้ำ หนังติดกระดูก ดูแล้วเหมือนคนเป็นโรคร้ายแรง แล้วก็เหมือนสมองจะเลอะเลือน พูดไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย เค้ามาเล่าให้ฟังว่าเค้าเกือบตายเพราะอยากผอมเลยกินยาลดความอ้วน แล้วก็มีรูปเปรียบเทียบก่อนกินยา (เป็นสาวน้อยหน้าตาสดใส อนาคตไกล) กับหลังกินยาลดความอ้วน (สุขภาพทรุดโทรม ป่วยสุดๆ หมดอนาคตไปเลย) ให้ดูด้วยค่ะ เห็นแล้วน่ากลัวมากๆๆ เลย กินยาลดความอ้วนแล้วอาจจะผอมเร็ว ออกไปทำกิจกรรมได้ทันเดือนหน้าพอดีก็จริง แต่ถ้าอีกหน่อยเกิดเป็นอะไรร้ายแรง แทบจะเอาชีวิตไม่รอดแบบนั้นเนี่ยไม่คุ้มกันเลยค่ะ เราเข้าใจความรู้สึกของเจ้าของกระทู้นะคะว่าพอรู้สึกว่าอ้วน ก็ทำให้รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง แต่เราว่าน้ำหนัก 59 เนี่ย ไม่ถึงกับเยอะมาก อาจจะไม่ได้ดูผอมอย่างนางแบบ แต่ก็ไม่ได้อ้วนอะไรมากมายเลย จริงๆ นะคะ ถ้าจะลดความอ้วนเกือบ 10 กิโลภายในเวลา 1 เดือนเนี่ยอันตรายมากๆ ไม่ดีต่อสุขภาพเลยค่ะ เราคิดว่าทางแก้ปัญหาที่ดีก็คือน่าจะพยายามสร้างความมั่นใจในตัวเองก่อน ไม่ต้องผอมมากๆ ก็ดูสวย ดูดีได้ค่ะ เลือกเสื้อผ้าที่ช่วยพรางรูปร่างก็ช่วยได้มากๆ เลย จะทำกิจกรรมหรือออกสังคม ก็ไม่จำเป็นว่าต้องผอมหรือน้ำหนักตัวน้อยๆ เราเชื่อว่าเสน่ห์ของผู้หญิงไม่ได้อยู่ที่รูปร่างเท่านั้น แต่อยู่ที่บุคลิก ความสดชื่นรื่นเริง สดใส ซึ่งจะทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆ มีความสุขไปด้วย ที่แนะนำให้ปรับความคิดก่อน ก็เพราะว่าพอเรามีความสุข รู้สึกดีกับตัวเองแล้ว ก็จะทำให้เป็นคนที่ดูสดใสน่ารัก พร้อมที่จะออกไปพบปะใครๆ ได้แล้ว และจากนั้นถ้าอยากให้รูปร่างดูผอมลง ก็ออกกำลังกายและควบคุมอาหารอย่างที่เพื่อนๆ ข้างบนแนะนำ ซึ่งจะทำให้น้ำหนักลดลงมาได้ และสามารถทำให้น้ำหนักคงที่ไปเรื่อยๆ ได้ด้วย เพราะเป็นการลดน้ำหนักที่ไม่ทำให้ร่างกายเสียความสมดุล จึงทำให้รูปร่างดี ผิวพรรณก็เปล่งปลั่ง สุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพจิตก็ดีด้วย เราอยากจะบอกว่าการกินยาลดความอ้วนเป็นการแก้ปัญหาที่ได้ผลแค่ระยะสั้นๆ พอเกิด yoyo effect กลับมาอ้วนกว่าเดิม ก็จะทำให้ต้องกลับมากินยาอีก แล้วมันก็จะเป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อยๆ (เหมือนโฆษณาที่เราเล่าให้ฟังเมื่อกี้) และก็เป็นการทำร้ายสุขภาพของตัวเราเองด้วยค่ะ แต่ถ้าแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตัวเองและต่อความอ้วนจะให้ผลในระยะยาว เพราะจะทำให้คุณมีความสุขในชีวิตได้โดยไม่ต้องให้ค่านิยมเรื่องความอ้วนความผอมมามีอิทธิพลต่อชีวิตนะคะ เป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ จากคุณ : Aoyama - [ 11 พ.ย. 47 03:56:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เคยทานของหมอใจดีเหมือนกันค่ะ ตอนที่กินเมื้อ3ปีที่แล้ว สูง 169 หนัก 65 ทานประมาณเกือบ2 เดือน ลดลงเหลือ 49 แต่ผอมแบบโทรมนะค่ะ ปัจจุบันควบคุมเอง แต่ก้ไม่น้อยนะค่ะ 54 ค่ะ เอาใจช่วยนะค่ะ มีอะไรสอบถามได้ค่ะ จากคุณ : joyjoyjoy - [ 11 พ.ย. 47 12:22:56 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คืออยากจะบอกว่า..เคยคิดจะไปกินยาลดความอ้วนเหมือนกันค่ะ..เพราะจะรับปริญญาอาทิตย์หน้านี้แล้ว...(น้ำหนักตอนก่อนจบ50..พอจบแล้ว+ทำงานเพิ่มมาเป็น55-56..เซ็งมาก)แต่คิดไปคิดมาว่าพอเราไปกินแล้วอีกซักพักพอหยุดยาน้ำหนักมันก็จะเพิ่มขึ้นมาเหมือนเดิมอีก...มันก็เลยทำให้เราไม่กินยาอ่ะ...คิดถึงผลเสียของมันเยอะๆค่ะจะทำให้ยับยั้นใจเราได้...ตอนนี้ก็เน้นกินข้าวเช้า ส่วนตอนเที่ยงก็กินพวกเมี่ยงปลาทู ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ผลไม้ ตอนเย็นก็กินผลไม้แทนค่ะ...ตอนนี้ก็รู้สึกไม่อึดอัดเหมือนก่อน (ไม่กล้าชั่งน้ำหนักง่ะกลัวไม่ลง)เราว่ามันดีก่าไปกินยาอีกเพราะทำให้เราได้กินอะไรอร่อยๆอีกด้วยนะ... สูตรของคุณ1 is the loneliest number น่าสนค่ะ จากคุณ : mifeng - [ 11 พ.ย. 47 13:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คงต้องบอกเจ้าของกระทู้ว่า พูดไปยังไงคุณก็คงไม่ฟังค่ะ เราเข้าใจ เพราะว่าก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน เค้าเรียกว่า ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา เพราะว่าคุณเคยทานยามาแล้วได้ผล และไม่เป็นอะไร ดังนั้น ถึงใครจะบอกว่าอันตราย คุณก็จะไม่ฟัง สมัยเรียนหนังสือ เราก็เคยกินๆเลิกๆยามาพักนึง เพราะช่วงอ่านหนังสือสอบเอ็นเครียดมาก น้ำหนักขึ้นตูม ตกใจมาก เห็นเพื่อนผอม อยากใส่ชุดนิสิตสวยๆ ก็เลยเริ่มกินตามเพื่อน แล้วพอเลิก มันก็อืดๆไงไม่รู้ แล้วมีช่วงปิดเทอมได้ไปอยู่เมืองนอก 2 เดือน กินอาหารฝรั่งจนเอียน กลับมา อืดอูมยิ่งกว่าเก่า ก็หันไปหายาอีกเหมือนกัน เราเรียกว่าเป็นวงจรอุบาทว์เลยน่ะ เพราะพอเลิกก็กลับมาอ้วน แล้วตอนที่กิน ก็บอกตัวเองอย่างผิดๆตลอด ว่าเดี๋ยวพอหยุดยา ก็จะฟิตไม่ให้อ้วนขึ้น แต่ก็ไม่เคยทำได้ ขอบอกเลย ว่าถ้าคิดแบบนี้ และยังมีนิสัยการทานผิดๆแบบเจ้าของกระทู้ ไม่มีทางที่ว่า พอเลิกยาแล้วจะยังผอมได้อยู่ ยังไงๆก็ต้องซื้อยาทานอยู่เรื่อยๆ แล้วสุดท้ายก็คือดื้อยา ทานยาไปเท่าไหร่ก็ไม่ผอมลงได้อีกเลย นี่เราเห็นมาจากเพื่อนที่เป็นแอร์ แล้วเค้าต้องทานยา เพราะน้ำหนักขึ้นไม่ได้ ไม่งั้นจะถูกส่งนายจ้างส่งจดหมายตักเตือน แล้วตอนนี้เค้าดื้อยาแล้ว ทำยังไงก็ไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว ก็เขียนให้อ่านก่อนที่จะทานยาลงไปอ่ะนะ เราคงไม่บอกหรอกว่ามันจะเป็นอันตรายกับร่างกายยังไง แต่ขอบอกว่าถ้าจะทานยาก็ทานให้ได้ตลอด อย่าให้ดื้อยา แล้วก็อย่าหวังว่าตัวเองจะรักษาน้ำหนักได้หลังเลิกยา ไม่มีทางแน่นอน จากคุณ : kednoi - [ 11 พ.ย. 47 14:11:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เราทราบค่ะ คุณ Kednoi ว่าเป็นวงจรที่ไม่ดี เรากำลังจะทดลองวิธีใหม่อยู่นะค่ะ จะลองทำโปรแกรม เกี่ยวกับดีท๊อก และควบคุมอาหาร 14 วัน ก่อน สูตรนี้คุณตุ๊กแกอ้วน บอกค่ะ ถ้าทำได้ครบ 14 วัน จะมาแจ้งผลให้ทราบน้ะค่ะ ทุกๆ คน จากคุณ : จขกท (popor_sit) - [ 11 พ.ย. 47 16:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 reductil เรากินแล้วดีกว่ากินยาหมอเมื่อก่อนที่เป็นชุดๆเยอะเลย ใจไม่สั่น-ไม่yayo ด้วย กินมา3อาทิตย์ ลงมา8โลได้(ออกกำลังด้วยนะ) ตอนนี้ก็ok แล้ว อ้อ ใครสนใจที่เลือแผงนึงมะ จากคุณ : mookeye@gmail.com - [ 11 พ.ย. 47 22:02:50 A:61.90.120.175 X: TicketID:078409 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อย่าทานยาอีกเลยค่ะ ลองคิดดูสิคะ ในอนาคต ถ้าเกิดยานั้นดีมาก ทำให้ผอม สมใจ แต่ต้องทานตลอด พออายุเยอะ ๆ กลับมีโรคหัวใจ หรือกลายเป็นคนซึมเศร้า หรือเป็นโรคเกี่ยวกับตับ(เนื่องจากตับต้องคอยกรองยาที่คุณกินเข้าไป) คิดดูว่าตอนนั้นคุณก็ไม่สามารถมีสังคมกะใครได้เหมือนกัน เพราะอาจจะต้องนอนอยู่บ้าน ที่เขียนมาเนี่ย ก็เข้าใจนะคะ ว่ามันยาก และมันทรมานในการลด แต่ลองหา วิธีที่มันไม่อันตรายดีกว่ามั้ยค่ะ *** เคยดูรายการที่สัมภาษณ์ คุณ มาริสา ฮอร์น จำได้ว่าเธอเคยผอม แล้วก็มาอ้วนมากกกก และไปลดน้ำหนักแบบผิด ๆ (ทานยา ล้วงคอ) จนเธอเกือบจะเป็นโรคจิต Anorexsia nervosa (สะกดอาจจะผิด) โรคเดียวกับ นักร้องวง pink panter แต่เธอไปปรึกษาหมอทัน แต่ใครจำได้บ้างมั้ยคะ ว่าเธอใช้วิธียังไง แต่รู้สึกต้องอยู่โรงพยาบาลด้วยนะคะ (ระยะนึง) จนปัจจุบัน เธอผอมสวย แข็งแรงด้วยการควบคุมอาหาร (คือทานอย่างถูกต้อง) ใครจำสูตรเธอได้ช่วยมาบอก จขกท ด้วยค่ะ เราเป็นกำลังใจให้ จขกท นะคะ จากคุณ : โคแนนจัง - [ 12 พ.ย. 47 14:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่ะ คุณโคแนนจัง เราก้อยังไม่ได้กลับไปกินยาแล้วล่ะ พอดีได้สูตร ดีท๊อก มาค่ะ ใช้เวลา 14 วัน ลดได้ประมาณ 10 โล ก้อเลยลองทดลองทำก่อนค่ะ (สูตรนี้คุณตุ๊กแกอ้วนบอกเรามาค่ะ) เราเพิ่งลองทำวันนี้แหละ ไม่รู้จะทำสำเร็จป่าวค่ะ ให้ครบ 14 วัน แต่เอาเป็นว่าจะตั้งใจค่ะ ขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นกำลังใจนะค่ะ แล้วจะรายงานผลความคืนหน้าให้ฟังค่ะ จากคุณ : จขกท (popor_sit) - [ 12 พ.ย. 47 14:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Reductil หาซื้อที่ไหนค่ะ จากคุณ : แมว - [ 16 พ.ย. 47 18:33:39 A:203.144.241.41 X: TicketID:069528 ]