ความคิดเห็นที่ 1 ฟันเหลืองจาก ยาเตตรา ซํยคลิน จริงๆแล้วเรียกว่าดำจะถูกต้องกว่า ทำเมื่อ7 ปีก่อนะ ซีกละ2 พันบาท ทำไป 12 ซีก บนและล่างเพราะปากกว้าง 2.4หมื่น ตอนนั้นรัฐบาลยังไม่ลอยตัวค่าเงินบาท หลังจากที่รัฐบาลลอยตัวคาดว่าจะแพงขึ้นไปอีก แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ ทำที่คลินิค ทันตกรรมพญาไท อยู่ริมถนนพญาไททางจะไป มหิดล ก่อนถึงรพ.พญาไทค่ะ ดีมากค่ะ ถึงแม้ว่าจะสึกบ้างบิ่นจะเป็นเฉพาะฟันล่างบางซีก เพราะทานอาหารแข็ง แต่โดยรวมแล้วฟันที่ทำเคลือบยังดีอยู่ค่ะ ถ้าแนะนำก็คลินิกทั่วไปที่มีชื่อเสียงน่าจะทำได้เกือบทุกที่ค่ะ จากคุณ : kekodes - [ 11 พ.ย. 47 18:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ฟันฉันเป็ฯสีเหลืองจากสายตาตัวเองและคนรอบข้างโดยเฉพาะตรงโคนฟันจะเหลืองมากกว่าตรงปลายฟัน เคยครั้งนึงบอกหมอที่ทำฟันกันประจำให้ฟอกสีฟันให้ด้วย หมอยืนยันว่าสีฟันของคุณไม่น่าเกลียดหรอก หมอทำให้ก็ได้แต่จะไม่ขาวไปกว่านี้เท่าไรหรอกอาจจะไม่เห็นความแตกต่างด้วยซ้ำ ฟันคุณสะอาดดีแล้วทำความสะอาดเป็นประจำก็พอแล้ว เซ็งหมอมาก...... จากคุณ : ต - [ 11 พ.ย. 47 19:46:17 A:202.176.120.220 X: TicketID:077277 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไปฟอกสีฟันได้ครับ ตามร้านหมอฟันที่เค้ารับทำน่ะ ต้องทำครอบฟันก่อน เป็นยาง แล้วหมอจะให้เจลฟอกสี เป็นหลอดๆมาให้ ก้อบีบยาใส่ครอบฟันใส่นอนเลย น่าจะราวๆ 5-8 พันนะครับ รวมหมด จากคุณ : สาด - [ 11 พ.ย. 47 21:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คห.ที่2 ถ้าหมอทำให้เขาได้ตังค์นะครับ แต่ที่ไม่แนะนำให้ทำ คงเพราะพิจารณาแล้วว่าไม่จำเป็น สิ้นเปลืองเงินเปล่าๆ แต่ถ้าอยากทำจริงๆ ก็ลองไปคลินิกอื่นดู เดี๋ยวก็มีซักแห่งที่รับทำ ได้จ่ายตังค์สมใจครับ ตอบจขกท. ถ้าขัดฟัน หมายถึงใช้ผงขัดกับเครื่องไฟฟ้าถูๆขัดๆเอาคราบสีกรณีฟันเหลืองจากคราบอาหาร คราบบุหรี่ ชา กาแฟครับ ค่าใช้จ่ายไม่กี่ร้อย ทั้งขูดหินปูนทั้งขัดประมาณ400บาท แต่ถ้าฟอกสีฟัน ใช้กรณีฟันเหลืองแต่กำเนิด เหลืองเราะยาเตตรา เหลืองมากขึ้นตามอายุ โดยใช้น้ำยาเคมีเข้าปรับสีฟันให้อ่อนลง คือขาวจากเนื้อฟันข้างในออกมา มีทั้งแบบค่อยๆฟอกให้ขาวใช้เวลาเป็นอาทิตย์แบบคุณสาดบอก และวิธีหมอใช้เลเซอร์ช่วย ทำปุ๊บขาวทันที ซึ่งหมื่นกว่าบาท และวิธีทำเคลือบที่ผิวหน้าฟัน ใช้กรณีฟันเหลืองมาก จนฟอกไม่ได้ผลแบบที่kekodes บอก ค่าใช้จ่ายปัจจุบันมากกว่าซี่ละ2000แน่ครับ(เอกชนน่าจะตกซี่ละ3000-4000ครับ) จากคุณ : Dr.ภพ - [ 11 พ.ย. 47 22:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราก็อยากฟอกสีฟันเหมือนกันนะ แต่ยังกลัวๆกล้าๆอยู่ เห็นเพื่อนทำออกมา เราว่ามันขาวมากเกินไปเกินความพอดีน่ะ เราเคยถามคุณหมอของเราด้วยนะ คุณหมอของเราบอกว่าไม่ต้องทำหรอก ไม่เห็นเหลืองเลย เรากลับคิดว่าคุณหมอเราน่ารักนะ เพราะว่าถ้าเค้าทำเค้าจะได้เงิน แต่เพราะเรายังกลัวๆกล้าๆอยู่เลยเชื่อคุณหมอน่ะ ไว้กล้าเมื่อไหร่ว่าจะตื้อคุณหมออีกซักที จากคุณ : ไม่มีอมยิ้มค่ะ - [ 12 พ.ย. 47 00:10:29 A:203.113.39.7 X:203.150.217.115 TicketID:073181 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แบบเคลือบ ที่เรียกว่า FACING นั้นน่ะ มันจะเสื่อม คือมีอายุ 5 ปี หมอบอกว่าต้องเอาออกค่ะ แล้วก็กระเทาะง่ายด้วย ทำแค่หกเดือนก็กระเทาะ ปีครึ่งก็ต้องไปทำซ้ำทั้งซีก แต่ก็เป็นที่บางคนที่จะดูแลรักษาด้วย ต้องระวังไม่ให้กัดของแข็งๆ ค่ะ จำได้ว่าฟันหน้านี่เราซ่อมไปประมาณสี่ห้าครั้งแล้ว ยังไม่ถึงสองปีเลย จากคุณ : โดนหมอฟันประจำ (กองกำลัง12วานร) - [ 12 พ.ย. 47 22:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โดยทั่วไปถ้าขัดฟันให้ขาว หมายถึงการทำความสะอาดฟันธรรมดา โดยการขัดด้วยผงขัดเพื่อทำความสะอาด ส่วนใหญ่ไปขูดหินปูนก็จะขัดให้ด้วยแต่จะขัดแล้ว จะขาวขึ้นมากน้อยคงขึ้นกับสภาพและ สาเหตุของความคล้ำของฟัน การทำฟันให้ขาว มีได้หลายวิธีครับ 1 ขัดทำความสะอาด 2 ฟอกฟันให้ขาว 3 ทำฟันปลอมทับฟันซี่เดิม จะอธิบายที่ละข้อนะครับ 1 การขัดทำความสะอาดฟัน ใช้ผงขัดในการกำจัดคราบสีที่ติดที่ผิวของฟัน สามารถกำจัดออกได้เฉพาะที่ติดบริเวณผิวหน้าครับ โดยมากบริเวณคอฟันของเราจะมีสีเข้มกว่าอยู่แล้ว ถ้าคนที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ ดื่มชากาแฟ ไวน์แดง หรือของสีเข้มๆ จะยิ่งมีสีเข้มกว่าคนที่ไม่มีพฤติกรรมเหล่านี้ ถึงขัดแล้วสีพวกนี้จะยังคงเหลืออยู่ เนื่องจากมีบางส่วนซึมเข้าไปในฟันของเรา วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ฟันขาวอยู่แล้ว ต้องการทำความสะอาดคราบบนฟันและ ไม่ได้ตั้งความหวังไว้มาก (ขอแบ่งกรอบนะครับคงจะยาวมากๆ) จากคุณ : abegel (abegel) - [ 13 พ.ย. 47 02:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 2 การฟอกสีฟัน อธิบายง่ายๆคือการใช้ ไฮโดรเจนเปอออกไซด์ ความเข้มข้นตั้งแต่ 10-35% ในการทำละลายสีที่ติดอยู่ในฟัน โดยอาศัยเวลา หรือ ตัวกระตุ้นอื่นๆ แบ่งได้เป็น 2ระบบดังนี้ 2.1แบบแรกทำได้เองที่บ้าน จะใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้น10-15% จะมีทั้ง แบบสำเร็จรูปซื้อได้เองตามซุปเปอร์มาเกต ได้แก่ 1 แบบที่เป็นถาดฟัน จะเป็นฟรีไซด์ ดังนั้นจะไม่พอดีกะปากของเรา บริเวณขอบเหงือกจะไม่ขาวเท่าที่ควร น้ำยาอาจเลอะไปโดนเหงือก มีผลให้เหงือกยุ่ยๆ มีการระคาบเคืองเล็กน้อย วิธีใช้ กัดต่อเนื่องในระยะเวลา3-8ชม แนะนำให้กัดแล้วนอนไปเลย ระยะเวลากว่าจะเห็นผล ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ขึ้น (คือมันจะค่อยๆขาวขึ้น) ข้อเสีย รำคาญ ใช้ระยะเวลานาน เสียวฟันต่อเนื่อง 2 แบบเป็น เพส(ครีมแบบยาสีฟัน) 10-15%เหมือนกัน แต่จะต้องนั่งยิงฟัน ประมาณ ครึ่งชม ถ้าโดนเหงือกก็ระคายเคือง 3 แบบเป็นน้ำใช้ทา คล้ายกับข้อ2 แต่ใช้ยากกว่า 4 เป็นพลาสเตอร์ ปิดที่ฟัน พวกนี้จะหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเกตชั้นนำ แบบที่ให้หมอฟันทำถาดฟันให้ หมอจะพิมพ์ปากแล้วทำถาดฟันเฉพาะของแต่ละคน จะมีความพอดีมากกว่า แต่นอกนั้นก็ไม่ต่างอะไรกัน ยังคงมีข้อเสีย ที่ตรงบริเวณคอฟันไม่ขาวเท่าที่ควร แต่ช่วงที่ไม่ขาวจะแคบกว่า ปัญหาน้ำยาเละล้นออกมาโดนเหงือจะลดลง จากคุณ : abegel (abegel) - [ 13 พ.ย. 47 03:13:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 2.2 แบบทำในคลินิก แบบนี้น้ำยาที่ใช้ จะใช้ความเข้มข้นสูงกว่า และจะมีตัวกระตุ้น ไปเร่งปฎิกริยาให้ไฮโดรเจนเปอออกไซด์แตกตัวได้มากกว่าปกติ ได้แก่ 2.2.1 UV light คือเครื่องฉายแสงที่ใช้ในการอุดฟัน เวลาทีทำ จะมีวัสดุสีขาวมาป้ายบนเหงือก เพื่อป้องกันไม่ให้เหงือกสัมผัสกับน้ำยา ระยะเวลาในการทำประมาณ 1-2ชม ตามแต่สีของฟัน ข้อเสีย เนื่องจากใช้แสงยูวี จึงมีความร้อนค่อนข้างมาก ทำให้กระตุ้นให้มีอาการเสียวฟัน ราคา 4000-8000 บาท ตามแต่คลินิก 2.2.2 plasma arc เป็นแสงความเข้มสูงมาก ใกล้เคียงกับเลเซอร์ แต่ยังคงมีความร้อน ราคา 8000-12000บาท 2.2.3 laser ส่วนใหญ่ที่ใช้เป็น ไดโอดเลเซอร์ จากข้อมูลที่ทราบ การแตกตัวของไฮโดรเจนเปอออกไซด มีได้ 4 สมการ แต่จะมี 1สมการเท่านั้นที่ไม่ให้ความร้อนออกมา โดยสมการนี้จะเป็นการใช้แสงที่มีความยาวคลื่นจำเพาะ ในการกระตุ้นให้ ไฮโดรเจนเปอออกไซด์แตกตัว จึงมีการอ้างว่าจะทำให้ร้อนและเสียวฟันน้อยที่สุด ราคา 10000-15000 บาท ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้คงจะสงสัยกันว่า แล้วแต่ละวิธีจะให้ผลที่แตกต่างกันหรือไม่ สำหรับวิธีแรกผลที่ได้จะขาวน้อยกว่า 2วิธีหลัง ที่ใช้ระยะเวลาเท่ากัน แต่สำหรับ 2วิธีหลัง บอกได้ยาก เนื่องจากมีพลังงานที่ทำให้น้ำยาแตกตัวมากและ สามารถทำให้น้ำยาซึมเข้าไปในฟันได้ลึกกว่าปกติ ผลของการฟอกสีฟัน ขึ้นกับปัจจัยหลายๆอย่างได้แก่ 1 สีดั้งเดิม 2 ความเข้มข้นของน้ำยา 3 ระยะเวลาที่ใช้ในการทำ 4 จำนวนรอบของน้ำยา 5 เทคนิคของหมอแต่ละคน ข้อดีของการฟอกสีฟันในคลินิก 1 ประหยัดเวลา ใช้เวลาแค่ 1ถึง1ชั่วโมงครึ่งจะเห็นผล เท่ากับหรือมากกว่า การฟอกที่บ้านในระยะเวลา 3อาทิตย์ 2 ระยะเวลาในการเสียวฟันสั้นกว่า ประมาณ 2-7 วัน แต่ถ้าฟอกที่บ้านจะเสียวทุกวันที่ใส่ 3 ไม่มีปัญหาบริเวณคอฟันไม่ขาว(ถ้าหมอที่ทำสนใจ) 4 สามารถควบคุมสีของฟันเขี้ยวให้ใกล้เคียงกับฟันซี่อื่น (โดยปกติฟันเขี้ยวจะมีสีเข้มกว่าฟันซี่อื่นๆในช่องปาก ถ้าทำที่บ้านเสร็จแล้วฟันเขี้ยวอาจจะยังเหลืองอยู่) ข้อเสียของการฟอกสีฟัน 1 ราคาแพง 2 เนื่องจากน้ำยาที่ใช้เข้มข้นมาก ถ้าฟันเราผุหรือ ไม่แข็งแรง(พวกฟันกร่อนหรือเป็นโรคผิดปกติ เกี่ยวกับโครงสร้างกระดูกและฟัน) ทำแล้วเนื้อฟันส่วนนั้นจะหายไป 3 ทำให้เหงือกร่นในกรณี ที่เป็นโรคปริทันต์อยู่ก่อนแล้ว 4 ท้องเสียถ้ากลืนยาลงไปในปริมาณมาก 5 อาจมีอาการเสียวฟันมากสำหรับคนที่เหงือกร่น ฟันแตก หรือ เนื้อฟันโผล่ (แต่สามารถป้องกันได้ ถ้าหมอที่ทำสังเกตเห็น หรืออาจใช้น้ำยาลดอาการเสียวฟันล่วงหน้ามาก่อน สัก3วัน แต่ผลที่ได้จะไม่ขาวเท่ากับการไม่ใช้ เนื่องจากในน้ำยาลดอาการเสียวฟันจะมีสารที่ไป สกัดกั้นไม่ให้ น้ำยาเข้าไปในฟันได้เต็มที่) การปฎิบัติตัว 1 หลังจากทำเสร็จ งดบุหรี ชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำผลไม้ หรือน้ำใดๆที่มีสี รวมทั้งงด อาหารมีสีที่เหนียวติดฟัน เช่น ชอกโกเลต 2วัน แนะนำให้ดื่มน้ำ ที่ไม่มีสีหรือสีขาวในช่วงนั้น 2 หลังจาก2วันนั้น หลังจากทานอาหารหรือดื่มน้ำ แนะนำให้บ้วนปากหรือแปรงฟันทุกครั้ง เพื่อการรักษาความขาวเอาไว้ จาสถิติโดยทั่วไปจะสามรถดุแลได้ประมาณ 2ปี 3 อาการเสียวฟันสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด แนะนำ ไอบรูโพรเฟน ข้อห้ามในการทำ 1 ฟันตายหรือฟันที่รักษารากมาแล้ว การฟอกฟันขาวด้วยวิธีนี้ไม่เห็นผลมากพอ ต้องทำด้วยเทคนิคอื่น 2 วัสดุอุดฟัน ครอบฟัน จะไม่ขาวขึ้นมากไปกว่าสีดั้งเดิม ดังนั้นหลังทำเสร็จอาจต้องเปลี่ยนวัสดุอุดฟัน หรือครอบฟันด้วย 3 ไม่แนะนำทำในเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือ คนที่มีฟันซี่เล็กมาก เพราะอาจจะเสียวมากกกกกกก 4 ในช่วงเวลาหลังการจัดฟัน 6เดือน ไม่แนะนำให้ทำ 5 มีการอักเสปในกระดูกขากรรไกร หรือปลายราก ก็ไม่แนะนำ ปล. สำหรับคนที่เป็น เตตร้าไซคลิน สเตน แนะนำให้ทำ 2 ครั้ง ความขาวคงต้องบอกเป็นกรณีไป คุณหมอที่มีประสพการณ์จะสามารถบอกได้ ว่าจะเปลี่ยนไปได้มากน้อยแค่ไหน จากคุณ : abegel (abegel) - [ 13 พ.ย. 47 03:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 3 การทำฟันปลอมทับฟันซี่นั้นคือ การทำชิ้นงานด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน มาปิดทับบริเวณหน้าฟัน แบ่งได้ 3.1 composit facing คือการใช้วัสดุ สีเหมือนฟันในการอุดฟัน ก่อทับลงไปบนฟันซี่นั้นแล้วตกแต่งให้ใกล้เคียงของจริง โดยอาจจะกรอฟันซี่นั้นหรือไม่ก็ได้ ขึ้นกับลักษณะของฟันซี่นั้น ข้อดี ราคาถูก เสร็จเร็ว เสียเนื้อฟันน้อย ข้อเสีย วัสดุอุดฟันทั่วๆไปมีอายุ ประมาณ 2-3ปี แล้วตามขอบจะมีรอบรั่ว เห็นเป็นสีดำๆ ราคา 1000-3000บาท/ซี่ 3.2 ครอบฟัน เป็นการทำชึ้นงานมาสวมทับฟันซี่นั้นๆ ในอดีตนิยมฟันทอง แต่ปัจจุบันมีวัสดุอย่างอื่นที่เหมือนฟันธรรมชาติ ได้แก่ พอรสเลน การทำแบบนี้จะกรอฟันโดยรอบซี่ ข้อดี ทนทาน ราคาไม่แพงมาก สามารถแก้ไขรูปร่างฟันได้ ข้อเสีย เสียเนื้อฟันเยอะ วัสดุที่ใช้มักแข็งกว่าฟัน ฟันคู่สบจึงมักจะสึก ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3วัน ราคา 3000-12000 บาท ขึ้นกับวัสดุที่ใช้ ถ้าเป็นทองก็ตามราคาทอง 3.3 veneer facing คือการกรอเฉพาะบริเวณหน้าฟัน แล้วทำชึ้นงานมาแทนเฉพาะบริเวณนั้น วัสดุที่ใช้มีหลากหลาย ความสวยงามและทนทานดีที่สุด แต่ราคาก็แพงที่สุดด้วย มีหลายระบบ คงต้องลองสอบถามทางร้านทำฟันที่สนใจจะไปทำ ราคา10000-12000 บาท/ซี่ ถ้ายังสงสัยตรงไหนจะกลับมาอธิบายเพิ่มนะครับ จากคุณ : abegel (abegel) - [ 13 พ.ย. 47 04:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 การฟอกสีฟัน สามารถทำได้ในคนอายุเท่าไรขึ้นไปคะ จากคุณ : sweet_enough - [ 14 พ.ย. 47 23:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอโทษค่ะ อ่านเจอแล้ว..แฮ่ๆ จากคุณ : sweet_enough - [ 14 พ.ย. 47 23:34:41 ]